การแต่งงานกับคนที่ไม่เคยรู้จัก แต่งงานกับคนที่ไม่ได้รักกัน มันเจ็บแบบนี้นี่เอง เพราะไม่มีสถานะอะไร นอกจากเป็นเมียตัวแทน

เมียตัวแทน (Mpreg) - ตอนที่ 10 ชักจะหงุดหงิดแล้วนะ โดย กุหลาบดิน @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-ชาย,ดราม่า,ไทย,ครอบครัว,ผู้ใหญ่,เมียเด็ก,กุหลาบดิน,ดราม่า,นิยายวาย,#BL,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

เมียตัวแทน (Mpreg)

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-ชาย,ดราม่า,ไทย,ครอบครัว,ผู้ใหญ่

แท็คที่เกี่ยวข้อง

เมียเด็ก,กุหลาบดิน,ดราม่า,นิยายวาย,#BL

รายละเอียด

การแต่งงานกับคนที่ไม่เคยรู้จัก แต่งงานกับคนที่ไม่ได้รักกัน มันเจ็บแบบนี้นี่เอง เพราะไม่มีสถานะอะไร นอกจากเป็นเมียตัวแทน

ผู้แต่ง

กุหลาบดิน

เรื่องย่อ

นิลกาฬ ธีรวัฒนาวัฒน์ อายุ 32 ปี 

ศัลยแพทย์หนุ่มหล่อมือหนึ่งพ่วงตำแหน่งเจ้าของโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังโดนผู้เป็นพ่อจับแต่งงาน กับลูกสาวเพื่อนสนิท เพราะมัวแต่ทำงานทำให้พ่อกลัวว่าลูกชายแก่ตัวมาจะไม่มีคนดูแล อยากให้แต่งงาน เขาก็แต่งให้แล้ว แต่ถ้าหลังแต่งงานแล้วอย่ามาก้าวก่ายเรื่องของเขาก็แล้วกัน 

พีรฉัตร ศิริวงศ์ไพโรจน์ อายุ 24 ปี 

หนุ่มนักเรียนนอกด้านการบริหารอาหารและเครื่องดื่มจากฝรั่งเศส ที่กลับบ้านมาโดนเซอร์ไพรส์ จากพี่สาวที่หนีการแต่งงาน ทำให้เขาต้องทำหน้าที่เป็นเมียตัวแทนทั้งที่ไม่รู้จักเจ้าบ่าวเลยแต่ต้องมาอยู่ ด้วยกันใช้ชีวิตสามีภรรยาเพื่อรอวันหย่า


สารบัญ

เมียตัวแทน (Mpreg)-ตอนที่ 1 บังคับแต่ง,เมียตัวแทน (Mpreg)-ตอนที่ 2 เมียตัวแทน,เมียตัวแทน (Mpreg)-ตอนที่ 3 ส่งตัวเข้าหอ,เมียตัวแทน (Mpreg)-ตอนที่ 4 แต่งเข้าบ้าน,เมียตัวแทน (Mpreg)-ตอนที่ 5 ทำงานวันแรก,เมียตัวแทน (Mpreg)-ตอนที่ 6 อาหารของเชฟพรีน,เมียตัวแทน (Mpreg)-ตอนที่ 7 รถใหม่เป็นเหตุุ NC เล็กน้อย ,เมียตัวแทน (Mpreg)-ตอนที่ 8 ฟังไม่ได้ศัพท์ ก็สับซะแล้ว,เมียตัวแทน (Mpreg)-ตอนที่ 9 เริ่มเข้าหา,เมียตัวแทน (Mpreg)-ตอนที่ 10 ชักจะหงุดหงิดแล้วนะ,เมียตัวแทน (Mpreg)-ตอนที่ 11 บทลงโทษของนิลกาฬ NC,เมียตัวแทน (Mpreg)-ตอนที่ 12 ไอ้ยักษ์นิลกาฬ NC,เมียตัวแทน (Mpreg)-ตอนที่ 13 หมอนิลกาฬฉีดยาคนป่วย NC,เมียตัวแทน (Mpreg)-ตอนที่ 14 ใจเดียวกัน,เมียตัวแทน (Mpreg)-ตอนที่ 15 บทเรียนรักนักเรียนกับคุณครู NC หนักๆ,เมียตัวแทน (Mpreg)-ตอนที่ 16 เรื่องในอดีตมีผลต่อปัจจุบัน,เมียตัวแทน (Mpreg)-ตอนที่ 17 เหตุผลของคนเปลี่ยนไป,เมียตัวแทน (Mpreg)-ตอนที่ 18 สิ้นสุดทางรัก,เมียตัวแทน (Mpreg)-ตอนที่ 19 รักตัวเองให้พอ,เมียตัวแทน (Mpreg)-ตอนที่ 20 ความคิดถึงฆ่าคนได้,เมียตัวแทน (Mpreg)-ตอนที่ 21 แจ้งอีบุ๊กลดราคา,เมียตัวแทน (Mpreg)-ตอนที่ 22 หากันจนเจอ,เมียตัวแทน (Mpreg)-ตอนที่ 23 ลูกของพ่อ,เมียตัวแทน (Mpreg)-ตอนที่ 23 กลับบ้านเรา,เมียตัวแทน (Mpreg)-ตอนที่ 24 เมียพี่น่ากินเสมอ NC

เนื้อหา

ตอนที่ 10 ชักจะหงุดหงิดแล้วนะ

  “คุณพ่อทำไมวันนี้เริ่มทานเร็วล่ะครับ” 

  เสียงของพีรฉัตรดังขึ้นพร้อมการปรากฏตัวขึ้นของร่างเพรียวบางและมีพนักงานทยอยถือกับข้าวเข้ามาเสิร์ฟบรรดาพ่อๆ ที่โต๊ะเพื่อที่จะรับประทานอาหาร พอมาถึงเห็นบุคคลแปลกปลอมนั่งร่วมโต๊ะกับพ่อๆ ทั้งสองก็ตกใจ มาได้ยังไงเนี่ย

  “วางเลยลูก น้องพรีนมานั่งเลยจะได้เริ่มทาน วันนี้คุณหมอหิวมาก เห็นว่ายังไม่ได้ทานข้าวตั้งแต่เที่ยงเลย” 

  พ่อตาออกโรงแทนลูกเขย พีรฉัตรมองหน้าหล่อของคุณหมอที่พ่อบอก แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร ได้แต่นั่งลงเก้าอี้ข้างๆ คนตัวสูงแทน 

  “เริ่มแทนเลยตานิล นี่พรีนเค้าทำเองหมดเลยนะ ถ้าต้องปรับปรุงตรงไหนอร่อยไม่อร่อยบอกเชฟพรีนได้เลยนะลูก เชฟเค้าจะได้ปรับปรุง” ถึงเวลาอวยลูกตัวเองบ้าง 

  พอตักอาหารมาเริ่มทานนิลกาฬก็พบว่าอาหารอร่อยถูกปากเขาทุกอย่างสมกับเป็นห้องอาหารระดับมิชลินสตาร์ 3 ดาว ที่ทุกคนต้องมาทานจริงๆ เขาเพิ่งรู้ว่าพ่อๆ และภรรยาจะทานมื้อเย็นกันที่นี่ทุกวันเพื่อเป็นเพื่อนพ่อตาเค้า พ่อตาอยู่บ้านคนเดียวจะได้ไม่เหงา นี่เป็นการแสดงความเอาใจใส่อีกรูปแบบหนึ่งของร่างบางที่มีต่อพ่อ 

  “เอ่อ น้องพรีนเมื่อกี้พ่อคุยกับพี่นิลแล้ว ว่าจะให้พี่นิลนั่งรถมาทำงานเป็นเพื่อนพรีนทุกวันนะลูก พ่อจะได้หายห่วงเวลาหนูขับรถอย่างน้อยก็มีพี่เค้านั่งมาด้วย”

  “พรีนว่า พรีนขับมาเองคนเดียวก็ได้ครับพ่อ พรีนจะขับระมัดระวัง คุณนิลเค้าจะได้ไม่ลำบากต้องนั่งมากับพรีนแล้วไหนจะต้องรีบไปทำงานอีก”

  “ไม่ได้ลำบากเลยลูก โรงพยาบาลอยู่ใกล้กันนี่เองประหยัดด้วยไปมารถคันเดียวกัน หรือแกว่าไงเจ้านิล” คุณอาทิตย์เสริมขึ้น ก่อนจะหันมาถามลูกชาย

  “ผมยังไงก็ได้ครับ มันไม่ได้ลำบากอะไร เพื่อความสบายใจของทุกคน เดี๋ยวนี้ผมนั่งมาด้วยแล้วก็เอารถพรีนไปทำงานขากลับก็มารับเหมือนวันนี้ตอนเย็นจะได้ทานข้าวกันกับพ่อๆ ด้วยครับ”

  ดูเหมือนทุกคนจะเห็นพ้องต้องกันโดยไม่ถามความคิดเห็นหรือความสมัครใจความยินยอมของพีรฉัตรสักคน งั้นคงต้องปล่อยเลยตามเลยให้คนเป็นสามีที่แทบจะเป็นคนแปลกหน้ากันโดยสารมาด้วยกันทุกวันอย่างที่ทุกคนต้องการละกัน เขามีสิทธิ์อะไรบ้างเนี่ยแม้แต่แต่งงานก็ต้องจำใจยอมแต่งแทนพี่สาว




       วันนี้เป็นวันที่สองสามีภรรยาในนามต้องไปออกงานการกุศลด้วยกันในนามเจ้าของโรงพยาบาลและเจ้าของโรงแรม พีรฉัตรสวมชุดสูทสีเทาอ่อนยิ่งส่งให้ใบหน้าสวยหวานนั่นดูสวยละมุนน่ามองเพิ่มอีกเท่าตัว ส่วนนิลกาฬก็สวมชุดสูทสีดำใบหน้าที่หล่อเข้มน่ามองดึงดูดทั้งเพศตรงข้ามและเพศเดียวกัน ทั้งสองจึงเป็นจุดเด่นมากเมื่อก้าวเข้าไปในงาน เมื่อฝ่ายเจ้าหน้าที่ต้อนรับของงานได้พาทั้งคู่มายังที่นั่ง VIP ที่ได้จัดไว้ให้ มันช่างเป็นเรื่องบังเอิญมากที่ที่นั่งของพวกเขาสองคนต้องนั่งโต๊ะเดียวกับศรัณย์ภัทร พอชายหนุ่มที่นั่งอยู่ก่อนเห็นร่างบางที่ตัวเองถูกใจเดินมานั่งก็ยิ้มกว้างให้คนหน้าสวยทันที

  “สวัสดีครับคุณพรีน ไม่นึกว่าจะเจอคุณพรีนที่นี่ แสดงว่าวันนี้ผมโชคดีมากเลยนะครับเนี่ย”

  “สวัสดีครับคุณพอร์ช ตอนแรกพรีนเป็นกังวลว่ามาแล้วไม่รู้จะคุยกับใครเพราะไม่รู้จักใครเลย ดีจังอย่างน้อยก็ยังมีรู้จักคนรู้จักอย่างคุณพอร์ช ว่าแต่คุณพอร์ชมานานหรือยังครับ” ร่างบางถามต่อ

  “เพิ่งมาถึงเมื่อสักครู่นี่เองครับ แล้วคุณพรีนมากับใครครับ”

  “พรีนมากับคุณนิลกาฬครับ” 

  ร่างบางบอกชื่อคนที่มาออกงานด้วยกันตนโดยไม่มีสถานะต่อท้าย ทำให้คนที่มาด้วยขุ่นเคืองมาก เขาไม่พอใจตั้งแต่เห็นไอ้หน้าตี๋นี่นั่งอยู่ที่โต๊ะก่อนเค้าแล้ว แล้วยังจะมาคุย กระหนุงกระหนิงกับเมียเค้าอีก ไอ้คนของเรายังไม่ยอมบอกอีก ว่าตัวเองเป็นอะไรกัน หงุดหงิดโว้ย ทำไมต้องได้นั่งโต๊ะเดียวกับมันด้วยนะ

  “สวัสดีครับ ผมนิลกาฬสามีของพรีนครับ” 

  ไม่อยากแนะนำตัวเขาดีนัก แนะนำตัวเองก็ได้ไม่เห็นจะง้อ คำแนะนำสถานะตัวเองทำให้ร่างบางแก้มแดงระเรื่อขึ้นมาทันที ที่พีรฉัตรไม่แนะนำร่างสูงที่มาด้วยกันว่าเป็นสามีเพราะกลัวเจ้าตัวจะไม่พอใจ พีรฉัตรเลยจำต้องแนะนำแค่ชื่อแต่นึกไม่ถึงว่าอีกคนจะกล้าแนะนำตัวเองบอกกับคนอื่นว่าเป็นสามีของร่างบาง 

  ส่วนศรันย์ภัทรได้แค่อึ้งที่คุณหมอรูปหล่อออกตัวเหมือนหึงภรรยา ทำไมเขาจะไม่รู้จักนายแพทย์ นิลกาฬ ธีรวัฒนาวัฒน์ ศัลยแพทย์ด้านสมองที่เก่งฝีมือดีที่สุดและเจ้าของโรงพยาบาลชื่อดัง ที่เพิ่งสละโสดแต่งงานกับหนุ่มร่างเพรียวบางหน้าสวยที่เขาสนใจนี่เอง เขารู้เพียงแต่เขาไม่ถือไม่สนลูกใครเมียใครแค่ถูกใจทั้งสองฝ่ายดิวกันได้ก็จบ

  “สวัสดีครับ คุณหมอนิลกาฬ ผมเคยได้ยินแต่ชื่อเสียงเพิ่งได้เจอตัวเป็นๆ วันนี้ ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ ไม่เห็นคุณพรีนบอกเลยว่าแต่งงานแล้ว ผมอกหักเลยนะครับเนี่ย” 

  ศรัณย์ภัทรแสร้งบอกหยอกๆ กับพีรฉัตร เพื่อสุมไฟในบ้านของอีกฝ่าย และมันก็ได้ผลเมื่อคนตัวโตคิดว่า ภรรยาคงไม่ได้บอกไอ้หน้าตี๋นี่เพราะคงจะชอบและถูกใจไอ้ตี๋ ถ้ารู้ว่าแต่งงานมีผัวแล้วกลัวไอ้ตี๋จะรับไม่ได้ นี่คงกะว่าเลิกกับเขาแล้วคงหันไปคบกับไอ้ตี๋รวยนี่แทน เคยเห็นมันไปอุดหนุนที่ห้องอาหารที่โรงแรมด้วยนี่ ไม่รู้แอบไปหากันบ่อยๆ หรือเปล่า  

  แต่ร่างบางกลับไม่ได้คิดอย่างนั้นที่ไม่ได้บอกว่าแต่งงานแล้ว เพราะคิดว่าไม่จำเป็นต้องบอกคนอื่นหรือประกาศให้ใครรู้ว่าแต่งงานแล้ว มันน่าจะเป็นเรื่องส่วนตัว และศรัณย์ภัทรก็ต่างฝ่ายต่างเป็นเพียงแค่ลูกค้ากันแค่นั้น คุณพอร์ชเป็นลูกค้าของทางโรงแรม ส่วนร่างบางก็แค่ไปออกรถที่โชว์รูมของอีกฝ่ายแต่นั้นจริงๆ

  “พอดีผมกับพรีนภรรยาของผมเชิญแต่แขกที่สนิทเท่านั้นน่ะครับ เลยมีแต่คนที่สนิทจริงๆ ที่รู้ ต้องขอโทษแทนที่รักของผมด้วยนะครับที่ทำให้คุณเข้าใจผิด” 

  เอาดิ ตอแหลได้อีกนะกู เดี๋ยวจะทำให้ไอ้ชู้หน้าตี๋นี่อกแตกตายลองดู 

  ส่วนพีรฉัตรได้แต่ยิ้มฝืนๆ ขอโทษอีกฝ่ายเป็นนัยๆ 

  “ที่รัก คุณดื่มแค่ไวน์แดงแก้วนี้ก็พอนะ เดี๋ยวเมาแล้วชอบอ้อนผัว” 

  นิลกาฬทำเป็นเลื่อนแก้วไวน์แดงที่บริกรเอามาเสิร์ฟขยับให้ร่างบางที่นั่งฟังอย่างงงๆ พอเห็นหน้างงๆ ของ ภรรยามันดูน่ารักมากจนมือหนาอดไม่ได้ที่จะจับมือเรียวมาจุมพิตที่หลังมือ ทำเอาคนเจ้าของมือหน้าแดงด้วยความเขินอาย ส่วนศรัณย์ภัทรมองด้วยความหงุดหงิดในใจทำไมจะไม่รู้ว่าไอ้คุณหมอมันเยาะเย้ยเขา ฝากไว้ก่อนเถอะมึงกูจะแย่งเมียมึงมาเป็นเมียกูคอยดู 

  พอถึงช่วงการประมูลเครื่องเพชร เครื่องเพชรที่เอามาโชว์ตอนนี้เป็นกำไรข้อมือรูปหัวใจที่เหมาะสำหรับทั้งผู้หญิงและผู้ชายที่สามารถใส่ได้ ศรัณย์ภัทรเห็นแล้วก็เลยคิดว่าเหมาะกับร่างบางและเป็นโอกาสทำคะแนนให้ตนเอง

  “คุณพรีนครับ กำไรเส้นนี้เหมาะกับแขนสวยๆ ของคุณพรีนมากเลยครับ ถ้าผมประมูลได้ผมขออนุญาตมอบมันให้คุณพรีนนะครับ” 

  คำพูดของศรัณย์ภัทรทำเอาร่างสูงของคุณหมอหงุดหงิด ไอ้ตี๋นี่มึงจะเอาให้ได้ใช่ไหมเมียกู มึงนึกว่ามึงรวยคนเดียวหรือไง 

  “เอ่อ มันเป็นของมีราคา พรีนขออนุญาตไม่รับนะครับคุณพอร์ช” ดีนะที่เมียรู้จักปฏิเสธ นึกว่าอยากจะได้ของมัน

  “ผมไม่รับคำขอได้ไหมครับ ถือว่าช่วยให้ผมได้ทำบุญจากการประมูล แล้วได้ของกำนัลมามอบให้เพื่อนแล้วกันครับ หวังว่าคุณหมอนิลคงไม่ว่านะครับ เป็นแค่ของขวัญจากเพื่อนให้เพื่อนน่ะครับ” คนหน้าตี๋ทำเป็นขออนุญาตจากสามีของร่างบาง

  “อ๋อ ไม่ถือครับเชิญตามสบายครับ ดีเสียอีกที่มีคนซื้อของแพงๆ ให้เมียผม”

  เสียงพิธีกรเริ่มเปิดการประมูลกำไร หลังจากที่นางแบบเดินโชว์ให้ทุกคนได้ดูแล้ว

  “กำไรข้อมืออันนี้ชื่อ ใจเดียวกัน เชื่อกันว่ากำไรนี้ของคู่รัก ผู้ที่มอบให้คนรักและคนรักที่รับไปจะร้อยดวงใจสองดวงให้เป็นใจดวงเดียวกัน รักกันตราบนานเท่านาน และเราจะเริ่มประมูลที่ราคา 3 ล้านบาท มีใครจะรับไปให้คนรักไหมครับสามล้านครั้งที่หนึ่ง อ่าคุณผู้ชายท่านนี้รับไปนะครับมีใครให้มากว่านี้ไหมครับ” 

  ศรัณย์ภัทรยกป้ายขึ้น เพื่อสู้กับราคา 3 ล้านบาท

   “คุณผู้ชายท่านนี้ให้สามล้านห้าแสน มีใครเสนอมากกว่านี้ไหมครับ สามล้านห้าแสนครั้งที่หนึ่ง สามลูานห้าแสนครั้งที่สอง” ศรัณย์ภัทรกระหยิ่มใจเพราะจะได้เป็นเจ้าของกำไรนั้น 

  “ผมให้สี่ล้านครับ” จู่ๆ ก็มีเสียงผู้ชายรูปหล่อคนหนึ่งพูดแทรกและยกป้ายขึ้นเสนอราคาตัดหน้าศรัณย์ภัทรไปทำให้เขาโมโหมาก หนำซ้ำยังได้ยินเสียงหัวเราะในลำคอไอ้คุณหมอที่นั่งอยู่โต๊ะเดียวกันเหมือนเย้ยหยันซึ่งเขายอมไม่ได้ ศรัณย์ภัทรคิดพร้อมกับยกป้ายเสนอราคาขึ้นอีกครั้ง

  “โอ้ว ไม่น่าเชื่อครับ ว่าท่านผู้ชายใจบุญคนนี้จะให้ในราคาห้าล้านบาท มีใครให้ราคาสูงกว่านี้ไหมครับ ห้าล้านครั้งที่1 ห้าล้านครั้งที่ 2 ห้าล้านครั้ง” ไม่น่าจะมีใครกล้าสู้ราคาของเจ้าพ่อรถนำเข้า

  “ผมให้สิบล้านครับ” ผู้ชายรูปหล่อคนเดิมยกป้ายประมูลในราคาสูงริบลิ่วห่างจากราคาที่เจ้าพ่อโชว์รูมรถนำเข้าอย่างศรัณย์ภัทรเสนอมาเท่าตัวทำเอาฮีอฮากันทั้งงาน 

  “คุณผู้ชายรูปหล่อใจบุญท่านนี้ให้สิบล้าน มีใครเสนอราคาที่สูงกว่านี้ไหมครับ สิบล้านครั้งที่ 1 สิบล้านครั้งที่ 2 สิบล้านครั้งที่ 3 ขอเสียงปรบมือให้ครับคุณผู้ชายรูปหล่อแล้วยังใจบุญท่านนี้ด้วยครับ ที่ได้เป็นเจ้าของกำไลเพชร ใจเดียวกันวงนี้ ชักจะอิจฉาคนที่คุณผู้ชายจะเอาไปมอบให้แล้วซิครับ” 

  การประมูลยังดำเนินต่อไปแต่ศรัณย์ภัทรยังรู้สึกเสียหน้าอยู่ แต่อย่างน้อยเขาก็ยังแสดงความพยายามที่จะประมูลมันมาเป็นของกำนัลให้ร่างบางที่เขาชอบ แต่ไอ้คุณหมอสามีของเจ้าตัวนี่ซิที่ทำหน้ากวนแถมยังหัวเราะเหมือนเย้ยใส่เขาทำให้เขาแค้นอยู่ในใจ มันเย้ยเขาแต่ไม่ยักจะเห็นมันประมูลให้ภรรยาคนสวยเลยของมันเลย มัวแต่กดโทรศัพท์ไอ้งกเอ้ย


  พองานใกล้จะจบ ร่างสูงของนิลกาฬก็ชวนภรรยาลุกเพื่อที่จะกลับบ้าน ก่อนจะออกจากงานร่างบางขอเขาไปเข้าห้องน้ำก่อน ซึ่งเขาก็ไม่ได้ตามไปเพราะต้องเดินไปเอาของกับเพื่อนรัก พอศรัณย์ภัทรเห็นเป็นโอกาสดีที่สองสามีภรรยาแยกกันเขาเลยเดินตามร่างบางเข้าไปห้องน้ำทันที 

  พอทำธุระเสร็จพีรฉัตรกำลังจะเดินออกไปหาสามีที่รออยู่ก็เจอกับศรัณย์ภัทรยืนอยู่ที่ประตู 

  “คุณพอร์ชยังไม่กลับหรือครับ”

  “กำลังจะกลับครับ แต่พอดีเหมือนมีแมลงหรืออะไรเข้าตาไม่รู้ผมเลยว่าจะมาส่องกระจกเขี่ยออกน่ะครับ”

  “อ้าว เหรอครับ”

  “เจอคุณพรีนพอดี งั้นผมรบกวนคุณพรีนช่วยดูให้ผมได้ไหมครับ เอาทิชชูเขี่ยก็ได้ครับผมเคืองตามาก”

  “เอ่อ ก็ได้ครับ งั้นรบกวนคุณพอร์ชก้มลงหรือย่อตัวลงได้ไหมครับ พรีนจะได้มองเห็นชัดๆ”

  “ได้ครับ เห็นไหมครับ”

  “ขอโทษนะครับพรีนหาไม่เจอคุณพอร์ชยังเคืองตาอยู่ไหมครับ”

  “ไม่เคืองแล้วครับ ขอโทษนะครับคุณพรีนผมอดใจไม่ไหวแล้ว”

  “อ๊ะ คุณพอร์ชปล่อยพรีนนะ ปล่อย” พีรฉัตรพยายามเอามือดันตัวของศรัณย์ภัทรที่พยายามลวนลามเขาออก แต่มีหรือร่างบางจะสู้แรงของคนที่แข็งแรงกว่าได้ ศรัณย์ภัทรพยายามที่จะโอบกอดและซุกหน้าหอมซอกคอของร่างบาง

  “ทำเหี้ยอะไรกันน่ะ”

  เสียงเข้มระคนโมโหของนิลกาฬดังขึ้นที่หน้าประตู เขาไปรับของจากเพื่อนรักเสร็จก็เดินมาตามภรรยาเพื่อที่จะกลับบ้าน แต่กับเห็นไอ้ตี๋นี่กำลังกอดกันกับเมียเขาอยู่ เสียงดังทำให้ร่างบางนิ่งงันลืมที่จะผลักใสคนที่ลวนลามตัวเองอย่างที่เคยทำ ส่วนคนที่่บังอาจทำรุ่มร่ามกับร่างบางเงยหน้าจากซอกคอหอมกรุ่นหันมามองหน้าคนที่มาขัดจังหวะเขา 

  “คอเมียมึงหอมดีว่ะหมอ” คนพูดทำหน้ายียวนคนมาใหม่ ทำให้ร่างสูงของนิลกาฬทนไม่ไหว หยามกูมากนะมึง วอนซะแล้ว

  ผลั๊วะ ตุบ ตุบ

   หมัดหนักๆ ของคุณหมอที่ถนัดแต่การจับมีดผ่าตัดซัดไปที่มุมปากของไอ้คนที่มีมันกวนบาทาเค้า จนคนที่ตัวผอมกว่าเซล้มลงไปนอนบนพื้นและร่างสูงตามไปกระทืบซ้ำอีกสองทีจนคนโดนกระทำสะบักสะบอม ก่อนที่่จะหันมาจัดการคนของตนที่ยังยืนนิ่งอยู่ 

  “ร่านนักใช่ไหม ปล่อยให้ไอ้ชู้มันจูบมันหอมอยู่ได้ อยากนักใช่ไหม เดียวผัวคนนี้จะจัดให้ถึงใจไม่กล้ามีชู้เลย มานี่เลย” ร่างสูงกระชากร่างบางที่ยืนนิ่งอยู่ให้เดินตามตัวเองไปด้วยความโมโห