"ในห้วงอวกาศที่เต็มไปด้วยความลึกลับ มนุษยชาติจะรอดพ้นจากการสูญสิ้นเผ่าพันธุ์ได้หรือไม่? เชิญร่วมติดตามการเดินทางอันแสนท้าทาย สู่ความจริงที่ยากจะคาดเดาใน 'Lost in the void วังวนอวกาศ'"
แฟนตาซี,ไซไฟ,ผจญภัย,ดราม่า,ดราม่า,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
Lost in the void “วังวนอวกาศ”"ในห้วงอวกาศที่เต็มไปด้วยความลึกลับ มนุษยชาติจะรอดพ้นจากการสูญสิ้นเผ่าพันธุ์ได้หรือไม่? เชิญร่วมติดตามการเดินทางอันแสนท้าทาย สู่ความจริงที่ยากจะคาดเดาใน 'Lost in the void วังวนอวกาศ'"
เรื่องย่อ: วังวนอวกาศ (Lost in the Void)
โลกพังทลายจากหายนะ “DEAD RED EARTH” มนุษยชาติกลุ่มสุดท้ายหนีขึ้นสู่สถานีอวกาศ T-TERRIA แต่ “นาโช่” เลือกที่จะอยู่บนโลกอันโหดร้ายพร้อมกับแมวคู่ใจ “แคท“ เขาต้องเผชิญกับการเอาชีวิตรอดในดินแดนรกร้าง ในขณะเดียวกันบนอวกาศ ทีมวิจัยค้นพบบางสิ่ง ที่อาจเป็นทั้งความหวังและภัยพิบัติ การต่อสู้เพื่อเอาตัวรอดจากซากแห่งธุรีดินของโลก และการเผชิญหน้ากับความลับแสนอันตรายในห้วงอวกาศ จะนำไปสู่ชะตากรรมที่ไม่มีใครคาดคิด!
บทที่ 4: การตื่นจากความมืด
"Awakening from Darkness"
แสงจากเพดานค่อยๆ ส่องทะลุผ่านความมืดมนเข้าสู่สติของนาโช่ ความรู้สึกแรกที่เขารับรู้คือความหนาวเย็นที่แทรกซึมเข้ามาในกระดูก และความหนักอึ้งที่กดทับร่างกาย
โดยเฉพาะที่ขาขวา เขาพยายามยกขาขึ้น แต่กลับไม่มีการตอบสนอง ความรู้สึกชาที่แพร่กระจายทำให้เขาเริ่มตื่นตระหนก สายตาของเขายังพร่ามัว มองเห็นเพียงเงาเลือนลางรอบๆ ตัว
“เขาตื่นแล้ว!” เสียงหนึ่งดังขึ้นข้างเตียง เสียงนั้นเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและความหวัง นาโช่พยายามหันไปหาแหล่งที่มาของเสียง แต่ทุกการขยับตัวเต็มไปด้วยความเจ็บปวด ราวกับมีหนามแหลมแทงเข้ามาในกล้ามเนื้อ ความรู้สึกชาที่ขาขวาทำให้ภาพความทรงจำก่อนหมดสติไหลย้อนกลับมาอย่างรวดเร็ว
เขาจำได้ถึงการขี่ Jetbike ผ่านทะเลทรายร้าง การถูกล้อมโดยกลุ่มคนไม่รู้จัก เสียงระเบิดที่ก้องกังวาน และสุดท้ายคืออาคารที่ถล่มลงมาทับเขา ความเจ็บปวดที่รุนแรงทำให้สติของเขาดับวูบไป
หลังจากนั้น
“ขะ...ขาของผม...” นาโช่พึมพำ น้ำเสียงสั่นเครือด้วยความกลัวและความไม่แน่ใจ หัวใจของเขาเต้นรัว รู้สึกเหมือนกำลังจะหลุดออกมาจากอก
พยาบาลที่ยืนอยู่ใกล้ๆ ยิ้มเล็กน้อย ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความเห็นใจ “ขาของคุณได้รับบาดเจ็บสาหัสค่ะ เราต้องตัดขาเพื่อรักษาชีวิตคุณไว้ แต่ไม่ต้องห่วงนะคะ เราได้เก็บรักษาเส้นเอ็นและเส้นประสาทไว้ คุณจะได้รับขาใหม่จากเทคโนโลยีไซเบอร์เนติกส์ในโซน T2”
คำพูดของเธอเหมือนเสียงสะท้อนในหู นาโช่หายใจหนัก ความสูญเสียถาโถมเข้ามาในจิตใจ ความคิดเกี่ยวกับการไม่มีขาและอนาคตที่ไม่แน่นอนทำให้เขารู้สึกหมดหวัง แต่คำว่า "เทคโนโลยีไซเบอร์เนติกส์" ทำให้ความหวังเริ่มแทรกซึมเข้ามา
“เจ้าแคท...” เขาพึมพำออกมาโดยไม่รู้ตัว ความคิดแรกที่ผุดขึ้นมาในหัวคือแมวตัวน้อยของเขา เพื่อนที่อยู่เคียงข้างมาตลอด
“แมวของผม...เจ้าแคทเป็นยังไงบ้าง?” เขาถามด้วยเสียงแหบแห้ง ดวงตาเต็มไปด้วยความกังวล
พยาบาลยิ้มอ่อนโยน “มันปลอดภัยดีค่ะ ตอนนี้อยู่ที่โซนสันทนาการ T7 ได้รับการดูแลอย่างดี คุณจะได้เจอมันเมื่อคุณฟื้นตัว”
นาโช่ปิดตาลงเล็กน้อย รู้สึกถึงน้ำตาที่เอ่อขึ้นมา ความรู้สึกโล่งใจและขอบคุณท่วมท้นในใจ แม้จะต้องเผชิญกับความท้าทายใหม่ แต่การรู้ว่าเจ้าแคทยังอยู่เคียงข้างทำให้เขารู้สึกมีแรงผลักดันที่จะสู้ต่อไป
เวลาผ่านไปไม่รู้ว่านานแค่ไหน นาโช่ตื่นขึ้นมาอีกครั้งในโซน T2 แสงสีขาวจากเพดานส่องลงมาอย่างนุ่มนวล ไม่ได้ทำให้เขาตกใจเหมือนครั้งแรก ความเจ็บปวดที่ขาแทบหายไปแล้ว แต่เขารู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่เปลี่ยนไป โดยเฉพาะขาขวา ความหนักที่เคยมีถูกแทนที่ด้วยความรู้สึกแปลกใหม่ เขายกมือขึ้นสัมผัสต้นขา ผิวสัมผัสเย็นของโลหะทำให้เขารู้ว่ามันไม่ใช่ขาเดิมของเขาอีกต่อไป
“ยินดีต้อนรับกลับมานะ นาโช่” เสียงจากมุมห้องดังขึ้น แพทย์ที่ดูแลเขาเดินเข้ามา ใบหน้าของเขามีรอยยิ้มเล็กๆ นาโช่รู้สึกถึงความสงบและความเป็นมิตร
“คุณคงรู้สึกแปลกๆ กับขาใหม่” แพทย์พูด “มันคือขาเทียมไซเบอร์เนติกส์รุ่นล่าสุด มันจะเชื่อมต่อกับระบบประสาทของคุณ ทำให้คุณสามารถขยับได้เหมือนขาปกติ”
นาโช่มองลงไปที่ขาของเขา ขาเทียมสีเงินสะท้อนแสง มีสายเชื่อมต่อเล็กๆ ที่วิ่งเข้าสู่ผิวหนังของเขา เขาลองขยับนิ้วเท้า และรู้สึกประหลาดใจที่มันตอบสนองตามคำสั่ง
“ไม่น่าเชื่อ...” เขาพึมพำ สายตายังคงจ้องมองขาใหม่ของเขา
แพทย์หัวเราะเบาๆ “มันต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ผมมั่นใจว่าคุณจะทำได้ดี เรามีโปรแกรมกายภาพบำบัดที่จะช่วยคุณในขั้นตอนนี้”
หน้าจอข้างเตียงแสดงภาพสถานี T-TERRIA สถานีอวกาศขนาดใหญ่ที่ลอยอยู่เหนือพื้นโลก นาโช่มองไปด้วยความตื่นเต้นและความสงสัย
“ยินดีต้อนรับสู่ T-TERRIA” แพทย์พูด “ที่นี่เป็นที่พักพิงของมนุษยชาติ หลังจากเหตุการณ์ DEAD RED EARTH เราได้รวบรวมผู้รอดชีวิตและสร้างสังคมใหม่บนสถานีนี้ คุณเป็นส่วนหนึ่งของอนาคตนั้น”
นาโช่รู้สึกถึงความหวังที่ค่อยๆ เติมเต็มหัวใจ เขาไม่รู้ว่าชีวิตจะพาเขาไปที่ใดต่อไป แต่รู้ว่าการเดินทางของเขาเพิ่งเริ่มขึ้น
นาโช่นั่งอยู่บนเตียง เมื่อพยาบาลหุ่นแอนดรอยด์เดินเข้ามา มันมีผิวโลหะมันวาว ดวงตาเรืองแสงสีฟ้าให้ความรู้สึกสงบและเป็นมิตร
“คุณนาโช่” หุ่นแอนดรอยด์พูดด้วยเสียงเรียบนิ่ง แต่ไม่เย็นชา “เราจะเริ่มการสัมภาษณ์ประวัติของคุณ หากคุณพร้อม”
นาโช่พยักหน้า แม้จะยังรู้สึกเหนื่อยล้า แต่เขาก็อยากจะช่วยเหลือเท่าที่ทำได้
“กรุณาเล่าเกี่ยวกับอดีตของคุณให้ฟังค่ะ ก่อนที่คุณจะมาถึงที่นี่”
นาโช่หายใจลึก รวบรวมความคิด “ผมเคยเป็นทหารช่าง ทำงานซ่อมเครื่องจักรและระบบพลังงานสำรอง เราเคยรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินต่างๆ แต่เมื่อเหตุการณ์ DEAD RED EARTH เกิดขึ้น ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป โลกกลายเป็นสถานที่ที่โหดร้าย เราต้องดิ้นรนเพื่อเอาชีวิตรอด อาหาร น้ำ ที่พัก ทุกอย่างกลายเป็นสิ่งที่ต้องแย่งชิง”
เขาหยุดเล็กน้อย นึกถึงความทรงจำที่เจ็บปวด “เจ้าแคท แมวของผม เป็นเพื่อนเพียงคนเดียวที่ผมเหลืออยู่ มันช่วยให้ผมมีความหวังในวันที่แย่สุดๆ”
หุ่นแอนดรอยด์พยักหน้า “แล้วอะไรทำให้คุณตัดสินใจออกเดินทางจากที่นั่น?”
“ผมรู้ว่าถ้าอยู่ต่อไป ผมคงไม่มีอาหารกินน่ะสิ” นาโช่ตอบด้วยน้ำเสียงเศร้า “ผมตัดสินใจขี่ Jetbike ไปหาอาหารและเสบียง เสี่ยงนะ แต่ผมไม่มีทางเลือก”
เขาเล่าถึงการถูกล้อม การต่อสู้ที่ดุเดือด และการถล่มของอาคารที่เกือบจะคร่าชีวิตเขา “ผมคิดว่าผมจะตาย แต่ผมก็รอดมาได้ แปลกดีจริง ๆ”
หุ่นแอนดรอยด์จดบันทึกอย่างเงียบๆ “ขอบคุณสำหรับการเล่าเรื่องค่ะ ข้อมูลนี้จะช่วยให้เราดูแลคุณได้ดียิ่งขึ้น”
นาโช่รู้สึกโล่งใจที่ได้แบ่งปันเรื่องราวของเขา แม้จะเป็นกับหุ่นยนต์ แต่ก็รู้สึกเหมือนได้ปลดปล่อยภาระในใจ
“ตอนนี้คุณพร้อมที่จะเริ่มต้นใหม่แล้ว” หุ่นแอนดรอยด์กล่าว “ผู้พันเรนต้องการพบคุณ เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับหน้าที่ของคุณในสถานี T-TERRIA”
นาโช่สูดหายใจลึก พยายามรวบรวมสติและความมั่นใจ “ผมพร้อมครับ”
เขาเดินตามหุ่นแอนดรอยด์ออกจากห้อง ขณะที่พวกเขาเดินผ่านโถงทางเดิน นาโช่ได้เห็นความยิ่งใหญ่ของสถานี T-TERRIA ผนังสีขาวเงินสะท้อนแสง จอแสดงผลต่างๆ ส่องสว่างด้วยข้อมูลที่วิ่งผ่านอย่างรวดเร็ว ผู้คนในชุดเครื่องแบบเดินผ่านไปมา ทุกคนดูมีจุดหมายและหน้าที่ของตนเอง
เมื่อมาถึงโซน T1 ศูนย์บัญชาการหลักของสถานี นาโช่รู้สึกถึงความกดดันและความตื่นเต้น ประตูโลหะขนาดใหญ่ค่อยๆ เปิดออก เผยให้เห็นห้องบัญชาการที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย กลางห้องมีโต๊ะควบคุมขนาดใหญ่ และหน้าจอแสดงสถานะของสถานี รวมถึงแผนที่วงโคจรและข้อมูลทีมสำรวจ
ผู้พันเรนยืนอยู่ที่โต๊ะควบคุม เขาเป็นชายวัยกลางคนในชุดเครื่องแบบทหาร ดวงตาคมเข้มของเขามองตรงไปที่นาโช่ แต่แฝงด้วยความเมตตาและความเข้าใจ
“นาโช่” ผู้พันเรนเริ่มพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ผมได้รับรายงานเรื่องของคุณแล้ว ผมทราบว่าคุณเคยเป็นช่างเทคนิคฝีมือดี ก่อนที่โลกจะเปลี่ยนไป เราต้องการคนที่มีความสามารถและประสบการณ์อย่างคุณ”
นาโช่ยืนนิ่ง พยายามคุมสติ “ผมยินดีที่จะช่วยเหลือครับ”
“สถานี T-TERRIA ต้องการการดูแลและซ่อมบำรุงตลอดเวลา” ผู้พันเรนกล่าวต่อ “อีกไม่กี่วันเราจะเริ่มโครงการซ่อมบำรุงใหญ่ ผมอยากให้คุณร่วมทีม คิดว่าคุณพร้อมไหม?”
นาโช่พยักหน้าอย่างมั่นใจ “ครับ ผมพร้อมจะทำหน้าที่ ผมจะทำทุกอย่างเพื่อให้สถานีนี้ดำเนินต่อไป”
ผู้พันเรนยิ้มเล็กน้อย “ดี เราต้องการคนที่มีความมุ่งมั่นอย่างคุณ ยินดีต้อนรับสู่ทีม”
นาโช่รู้สึกถึงความอบอุ่นและความหวังที่เติมเต็มหัวใจ เขารู้ว่าการเดินทางของเขาในสถานี T-TERRIA เพิ่งเริ่มต้น และเขาพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับความท้าทายใหม่ๆ ที่รออยู่
วันถัดมา นาโช่เริ่มคุ้นเคยกับขาใหม่ นาโช่ตัดสินใจเดินทางไปยังโซน T4 เพื่อขอบคุณทุกคนที่มีส่วนช่วยเหลือเขา การเดินทางครั้งนี้เป็นการเผชิญหน้ากับความไม่แน่นอนและการเปลี่ยนแปลงที่เขาเคยหวาดกลัว
ทางเดินยาวของสถานีเต็มไปด้วยแสงไฟสีขาวที่ส่องสว่าง แต่ในความเงียบนั้น นาโช่รู้สึกถึงเสียงหัวใจของตัวเองที่เต้นแรง เขามาถึงห้องวิจัยที่โซน T4 ประตูเลื่อนเปิดออก เผยให้เห็นทีมงานที่กำลังทำงานอย่างตั้งใจ
มาร์ค เงยหน้าขึ้นจากหน้าจอเมื่อเห็นนาโช่เข้ามา "นาโช่! ดีใจที่ได้เห็นนายเดินได้แล้ว" เขาพูดด้วยรอยยิ้ม
นาโช่ยิ้มกลับ แต่ในสายตามีความรู้สึกที่ลึกซึ้งกว่า "ขอบคุณนะมาร์ค ขอบคุณทุกคนที่ช่วยผมไว้ ถ้าไม่มีพวกคุณ ผมคงไม่รอดมาถึงวันนี้"
มาร์ควางมือบนไหล่ของนาโช่ "เราแค่ทำหน้าที่ของเราเอง นายไม่ต้องขอบคุณหรอก"
นาโช่ส่ายหัว "ไม่ มันมากกว่านั้น ผมเคยกลัวการเปลี่ยนแปลง ผมไม่อยากทิ้งโลก ไม่อยากยอมรับว่าสิ่งต่างๆ ได้เปลี่ยนไป แต่เมื่อผมมาที่นี่ ผมได้เห็นว่ามนุษยชาติยังมีความหวัง ยังมีคนที่พร้อมจะช่วยเหลือกัน"
เขาหยุดสักพัก มองไปรอบๆ ห้อง "ผมรู้สึกขอบคุณจริงๆ ที่พวกคุณไม่ทิ้งผมไว้ข้างหลัง"
มาร์คมองดูนาโช่ด้วยความเข้าใจ "การเปลี่ยนแปลงมันยากเสมอ แต่บางครั้งมันก็เป็นสิ่งที่เราต้องเผชิญหน้า นายไม่ต้องเผชิญกับมันคนเดียว เราทุกคนอยู่ที่นี่เพื่อสนับสนุนนาย"
นาโช่พยักหน้า ความรู้สึกอบอุ่นแผ่ซ่านในใจ "ขอบคุณมาก"
ขณะที่เขากำลังจะออกจากห้องวิจัย สายตาของเขาสะดุดกับผู้หญิงคนหนึ่งที่ยืนอยู่ที่มุมห้อง เธอมีผมสีน้ำตาลเข้ม ดวงตาสีเขียวที่มองมาที่เขาด้วยความสนใจ
"สวัสดี คุณคือนาโช่ใช่ไหม?" เธอถามด้วยน้ำเสียงที่สดใส
"ครับ ผมเอง" นาโช่ตอบ กลับรู้สึกถึงหัวใจที่เต้นเร็วขึ้น
"ฉันชื่อไอรีน ยินดีที่ได้รู้จัก" เธอยื่นมือมาให้นาโช่จับ
นาโช่จับมือเธอ รู้สึกถึงความนุ่มนวลและอบอุ่น "ยินดีที่ได้รู้จักครับ ไอรีน"
"ฉันได้ยินเรื่องของคุณมาเยอะเลย คุณเป็นคนที่กล้าหาญมาก" ไอรีนพูด ดวงตาของเธอส่องประกาย
นาโช่หัวเราะเบาๆ "ผมไม่คิดว่าตัวเองกล้าหาญขนาดนั้น แค่พยายามเอาตัวรอดเท่านั้นเอง"
"บางครั้ง การเอาตัวรอดก็ต้องการความกล้าหาญมากกว่าที่เราคิด" ไอรีนตอบ พร้อมกับยิ้มที่ทำให้นาโช่รู้สึกถึงความพิเศษบางอย่าง
ทั้งสองคนยืนคุยกันสักพัก แลกเปลี่ยนเรื่องราวและความคิด นาโช่รู้สึกถึงความสบายใจที่ไม่เคยมีมาก่อน ความกลัวและความกังวลที่เคยมีเริ่มจางหายไป
เมื่อถึงเวลาที่ต้องจากกัน ไอรีนหันมาพูดว่า "หวังว่าเราจะได้คุยกันอีกนะ ฉันอยากรู้จักคุณมากขึ้น"
นาโช่พยักหน้า "ผมก็หวังอย่างนั้น"
ขณะที่เขาเดินกลับไปยังห้องพัก ความคิดของนาโช่เต็มไปด้วยภาพของไอรีน และความรู้สึกที่ไม่อาจอธิบายได้ เขารู้ว่าการเดินทางของเขาไม่เพียงแค่เริ่มต้นใหม่ แต่ยังมีสิ่งที่รอคอยเขาอยู่ข้างหน้า ความหวัง ความรัก และอนาคตที่ไม่แน่นอน แต่เต็มไปด้วยความเป็นไปได้
ในคืนที่เงียบสงบ นาโช่นั่งอยู่ที่ระเบียง มองดูดวงดาวที่ส่องสว่างอยู่ในความมืดมิด เขาเคยกลัวความมืด กลัวสิ่งที่ไม่รู้จัก แต่ตอนนี้ เขารู้สึกว่าความมืดนั้นเต็มไปด้วยโอกาส
"การเปลี่ยนแปลงมันไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด" เขาพูดกับตัวเอง "บางครั้งมันนำพาเราไปสู่สิ่งที่ดีกว่า"
เจ้าแคทเดินมาคลอเคลียที่ขาของเขา นาโช่ยิ้ม ลูบหัวมันเบาๆ "เราจะเริ่มต้นใหม่ด้วยกันนะเจ้าแคท"
และในขณะนั้น เขารู้ว่าชีวิตของเขาได้เปลี่ยนไปตลอดกาล ไม่ใช่เพียงเพราะขาใหม่หรือสถานที่ใหม่ แต่เพราะเขาได้เปิดใจรับสิ่งใหม่ๆ ที่เข้ามาในชีวิต