เมื่อตัวตนถูกสังหาร การปิดบังในจิตใจจากความจริงจึงเริ่มขึ้น "สวัสดีครับผู้อ่านทุกท่าน นิยายเรื่องนี้เกิดจากการต่อยอดจากเรื่องสั้นที่ผมเคยเขียนเล่นๆ ไว้ครับ ด้วยความที่เป็นงานเขียนชิ้นแรกๆ ผมจึงขออภัยหากในช่วงแรกเนื้อเรื่องอาจจะยังไม่สมบูรณ์แบบนัก หรือตัวละครอาจจะยังไม่ชัดเจนพอ แต่ผมสัญญาว่าจะพัฒนาฝีมือในการเขียนอย่างต่อเนื่อง และหวังว่าผู้อ่านทุกท่านจะติดตามและให้กำลังใจผมนะครับ ขอบคุณครับ"
แอคชั่น,ผจญภัย,แฟนตาซี,ระทึกขวัญ,ลึกลับ,ต่างโลก,ทะลุมิติ,แฟนตาซี,พระเอกหล่อ,เวทมนตร์,เวทมนต์,ปีศาจ,แอคชั่น,แอ็คชั่น ,แอ็คชั่น,แอ็กชัน,ต่อสู้,ย้อนเวลา,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ใครผิด..ที่ลิขิตชะตาเมื่อตัวตนถูกสังหาร การปิดบังในจิตใจจากความจริงจึงเริ่มขึ้น "สวัสดีครับผู้อ่านทุกท่าน นิยายเรื่องนี้เกิดจากการต่อยอดจากเรื่องสั้นที่ผมเคยเขียนเล่นๆ ไว้ครับ ด้วยความที่เป็นงานเขียนชิ้นแรกๆ ผมจึงขออภัยหากในช่วงแรกเนื้อเรื่องอาจจะยังไม่สมบูรณ์แบบนัก หรือตัวละครอาจจะยังไม่ชัดเจนพอ แต่ผมสัญญาว่าจะพัฒนาฝีมือในการเขียนอย่างต่อเนื่อง และหวังว่าผู้อ่านทุกท่านจะติดตามและให้กำลังใจผมนะครับ ขอบคุณครับ"
เมื่อตัวตนถูกสังหาร การปิดบังในจิตใจจากความจริงจึงเริ่มขึ้น
ความหวังริบหรี่
ผมตัดสินใจเดินไปสำรวจประตูทางเข้าที่ใช้ตอนเข้ามา หวังว่าจะเป็นทางออกจากสถานที่บ้าคลั่งแห่งนี้ เสียงการโจมตีของสัตว์ประหลาดนั้นเงียบหายไป เหลือเพียงความเงียบกริบที่กดดัน
แม้จะกลัว แต่ผมรู้ดีว่าการขังตัวเองอยู่ในห้องนี้ต่อไปไม่ใช่ทางออก ผมต้องหาทางหนีออกไปให้ได้
…
ข้อความลึกลับ
ขณะที่เอื้อมมือไปจับลูกบิดประตู มีกระดาษแผ่นหนึ่งเลื่อนออกมาจากข้างใต้ประตู มีข้อความลึกลับเขียนลวกๆ ผมหยิบขึ้นมาอ่านด้วยความสงสัย
บนกระดาษเขียนว่า: "ว่ากันว่าผู้ที่เข้ามาในสถานที่แห่งนี้ไม่เคยมีใครกลับมาได้ พวกเขาสูญเสียตัวตนและหลงทางในใจอันมืดมิดและบิดเบี้ยว"
ผมถอนหายใจด้วยความขุ่นเคือง ข้อความนี้อาจจะเป็นแค่กลยุทธ์เพื่อสร้างความหวาดกลัวต่อผมเท่านั้น ด้วยความตั้งใจที่จะไม่ยอมจำนนต่อความกลัว ผมจึงเดินไปที่ทางเข้า โดยหวังว่าจะมีทางที่จะหนีจากความเป็นจริงที่บิดเบี้ยวนี้ได้
ด้วยไฟฉายคู่ใจ ผมเปิดประตูและก้าวออกไป ในแต่ละก้าว ความเงียบรอบตัวกดดันทำเอาผมก็หายใจได้ลำบากมากขึ้น การไม่มีเสียงนั้นแทบจะทำให้เหมือนเราหูหนวก ตรงกันข้ามกับความวุ่นวายที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ก่อนโดยสิ้นเชิง สัตว์ประหลาดที่ไล่ตามผมมาได้หายไปแล้ว เหลือเพียงความรู้สึกหวาดกลัวที่ยังคงอยู่คอยติดตาม
ในดินแดนที่ความเป็นจริงดูเหมือนจะบิดเบี้ยวและบิดเบี้ยว ผมพบว่าตัวเองติดอยู่ในสิ่งที่สามารถอธิบายได้ว่าเป็นฝันร้ายเท่านั้น ตามที่เรียกกันว่าห้องสีดำเป็นลางร้าย กักขังฉันไว้ภายในกำแพงอันมืดมนและเป็นลางสังหรณ์ของมัน
ผมหยุดนิ่ง มองไปรอบๆ สังเกตทุกสิ่งอย่างอย่างละเอียด
ผนังห้องเป็นสีเหลืองเหมือนกันทั้งหมด ไม่มีร่องรอยของอะไร แต่มีปลักไฟที่ถูกติดตั้งกระจัดกระจายอยู่เต็มไปหมด พื้นปูด้วยพรมสีเหลืองชื้นๆ สัมผัสเหนียวเหนอะหนืดจนไม่แน่ใจว่ามันคืออะไร
เพดานสูงท่วมท้น แสงไฟจากหลอดฟลูออเรสเซนต์ส่องสว่างจ้า เสียงหึ่งๆ ของหลอดไฟที่ฟังแล้วน่ารำคาญเหมือนแมงลงต่อมหูดังก้องไปทั่ว
….
ผมเริ่มสำรวจทางเดิน รูปแบบของผนังและทางเดินดูบิดเบี้ยว ไร้ระเบียบ เหมือนกับเขาวงกตที่ไร้ทางออก
ผมลองใช้ GPS และเข็มทิศ แต่มันกลับทำงานผิดพลาด ลองเปิดวิทยุคลื่นวสั้นสัญญาณวิทยุก็โดนส่งเสียงรบกวนจนฟังไม่ชัด
ยิ่งสำรวจ ผมยิ่งพบว่าสถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยอันตรายแม้จะยังไม่พบสัตว์ร้าย
อันตรายที่ใหญ่หลวงที่สุดคือ "การขาดแคลนเสบียง" สารแปลกๆ บนพื้นแม้ว่ามันจะเหมือนน้ำ แต่เราไม่สามารถดื่มมันแทนน้ำได้
…
ผมรู้ดีว่าหนทางข้างหน้ายังอีกยาวไกล เต็มไปด้วยอุปสรรคและอันตราย ผมต้องอดทน ต่อสู้ และหาทางหนีออกจาก "ห้องสีดำ" แห่งนี้ให้จงได้
อนาคตที่ไม่แน่นอน
บันทึกนี้จบลงเพียงเท่านี้ อนาคตของโกหกจะเป็นอย่างไร? เขาจะเอาชีวิตรอดจากห้องสีดำนี้ได้หรือไม่?
ติดตามอ่านต่อได้ในบันทึกถัดไป...