ยุคามิ จินกะ เป็นองเมียวจิ แต่ใครจะคิดว่าจะมาเจอยมทูตตัวเป็นๆแบบนี้กันล่ะ

[Fic Bleach] ร่างสถิตย์สามโลก - องก์ที่ 4 อัญเชิญชิกิงามิ โดย MEIIJIN13 @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-หญิง,ชาย-ชาย,แอคชั่น,fanfic,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

[Fic Bleach] ร่างสถิตย์สามโลก

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-หญิง,ชาย-ชาย,แอคชั่น

แท็คที่เกี่ยวข้อง

fanfic

รายละเอียด

[Fic Bleach] ร่างสถิตย์สามโลก โดย MEIIJIN13 @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ยุคามิ จินกะ เป็นองเมียวจิ แต่ใครจะคิดว่าจะมาเจอยมทูตตัวเป็นๆแบบนี้กันล่ะ

ผู้แต่ง

MEIIJIN13

เรื่องย่อ

อดีตนั้นช่างมืดมิดสิ้นไร้แสง สิ้นซึ่งแรงมีชีวิตน่าอดสู


มิอาจรู้เมื่อใดจักจรจาก วิญญากาฬโอดครวญไห้กระหายหิว


จวบจนสิ้นสุดวัฏสงสาร กรีดร้องขานบ้าคลั่งทรมาน  


...เมื่อใดกันที่ตัวข้าจักตกตาย...


.


.


.


.


สวัสดีค่ะ เรา MEIIJIN13 นะคะ เป็นนักหัดเขียนหน้าใหม่ ไฟ (ไม่) แรง แหะๆ ยังไงก็ต้องขอฝากตัวกับทุกคนด้วยนะคะ


ในนิยายเรื่องนี้อาจมีตรรกะบางอย่างที่ไม่สมเหตุสมผล ซึ่งเป็นจินตนาการของตัวผู้แต่งเอง และการกระทำบางอย่างของตัวละครในเรื่องไม่เหมาะที่จะนำมาทำในชีวิตจริง โปรดอ่านเพียงเพื่อความบันเทิงและใช้วิจารณญาณในการอ่าน หากตอนใดของเรื่องมีฉากน่ากลัว การกระทำไม่เหมาะสมเป็นพิเศษจะทำการติด Trigger Warning (TW:) ให้ช่วงต้นของตอนนั้นๆ ค่ะ ขอบคุณทุกท่านที่สนใจเข้ามาอ่านนิยายของเมจินนะคะ UwU//

สารบัญ

[Fic Bleach] ร่างสถิตย์สามโลก-เปิดองก์ สามโลกา,[Fic Bleach] ร่างสถิตย์สามโลก-องก์ที่ 1 ตระกูลยุคามิ,[Fic Bleach] ร่างสถิตย์สามโลก-องก์ที่ 2 วิญญาณร้ายหลบหนี,[Fic Bleach] ร่างสถิตย์สามโลก-องก์ที่ 3 ชะตาลิขิต ,[Fic Bleach] ร่างสถิตย์สามโลก-องก์ที่ 4 อัญเชิญชิกิงามิ ,[Fic Bleach] ร่างสถิตย์สามโลก-องก์ที่ 5 ชีวิตวัยเรียน ,[Fic Bleach] ร่างสถิตย์สามโลก-องก์ที่ 6 เพื่อนใหม่คนนั้นดูแปลกชะมัด ,[Fic Bleach] ร่างสถิตย์สามโลก-องก์ที่ 7 คืนฟ้าหม่น

เนื้อหา

องก์ที่ 4 อัญเชิญชิกิงามิ

ยูกิโกะพยายามสงบสติอารมณ์แล้วยิ้มตอบกลับไปให้จินกะอย่างอ่อนโยน


" จินกะรู้มั้ย ราชา กับ อาชา ต่างกันยังไง " 


" อันนึงเป็นคน อีกอันเป็นสัตว์? "


หึหึ ลูกเธอช่างไร้เดียงสา คำตอบน่ารักจริงเชียว


" ราชาคือผู้นำ แต่อาชาคือผู้พาทะยานสู่เส้นทางแห่งชัยชนะ ทั้งคู่ต่างมีพลังและอำนาจสู่ความปราชัย แต่สิ่งที่ต่างน่ะ... "


" คือผู้ชนะจะเป็นราชา ได้ยืมพลังจากผู้พ่ายแพ้ ได้ขึ้นควบขี่อาชาไปสู่เส้นทางแห่งความรุ่งโรจน์ ราชาเหมือนแสงตะวัน ในขณะที่อาชาเป็นเงาที่ถูกบดบังเท่านั้น " 


" ราชา หรือ อาชา ลูกนั่นแหละที่เป็นคนกำหนด ชะตากรรมหรือจะสู้กำหนดเอง พ่อของลูกก็แค่คนโชคดี ไม่มีแม้เสี้ยวพลังวิญญาณเหมือนอาซาฮิ แต่ลูกไม่ใช่จินกะ แม้แม่ไม่เห็นแต่ก็รับรู้ได้ ลูกต่างหากที่มีพลังมากพอที่จะเป็นเจ้าตระกูลที่แท้จริง " 


" แล้วถ้าจินกะไม่อยากเป็นทั้ง ราชา และ อาชาล่ะคับ? "


" ...สักวัน เมื่อลูกโตขึ้นก็จะรู้คำตอบเองล่ะจ้ะ " ว่ามันไม่มีทางให้เลือกหนีหรอก....


" ง่า...ท่านแม่อ่า " 


" หึๆ เอาเถอะ ไปกินของว่างกัน แม่เตรียมฮานามิดังโงะไว้ให้ลูกด้วย อยากกินมั้ยครับ? "


" กินคับ! " จินกะแย้มยิ้ม วิ่งมาออดอ้อนเกาะขาเธอ ลูกใครกันช่างน่ารักจริง


ขอเพียงความสุขเล็กๆในช่วงเวลาสั้นๆก่อนจินกะจะเติบโตก็พอ ให้เธอได้มองรอยยิ้มน้อยๆนี้ก่อนจะต้องเข้าวังวนการแก่งแย่งอำนาจ ตอนนี้เหล่าผู้อาวุโสในตระกูลเริ่มแบ่งฝ่ายกันแล้ว ระหว่างอาซาฮิ ผู้เชื่อมตระกูลนักพรตเซ็นยู และจินกะผู้มีพลังวิญญาณแท้จริง ว่าใครกันจะได้เป็นผู้นำศาลเจ้ายุคามิต่อไป....




____________________




ตอนนี้จินกะอายุได้สี่ขวบปีแล้ว นอกจากการฝึกศาสตร์แห่งพลังวิญญาณ การฝึกร่างกายเผื่อในสถานการณ์ที่ต่างออกไปก็สำคัญไม่แพ้กัน 


ตระกูลอินาริของยูกิโกะเอง ก็เป็นหนึ่งในตระกูลที่โดดเด่นในเรื่องของการสู้ตัวต่อตัว ยูกิโกะจึงใช้ประโยชน์จากประเด็นนี้ ส่งคำขอร้องให้กับผู้อาวุโสในตระกูลให้จินกะได้มาฝึกในโดโจของเธอ 


...แน่นอน พวกเขาตกลงอย่างง่ายดาย ยังไงซะโดโจของสะใภ้ในตระกูลย่อมประหยัดทรัพยากรมากกว่าอยู่แล้ว


ยูกิโกะและจินกะนั่งรถจากตระกูลยุคามิไปยังโดโจ ตระกูลของเราตั้งอยู่บริเวณชายป่าอาณาเขตกว้างใหญ่ที่สุดตระกูลหนึ่ง ฉะนั้นมันจึงใช้เวลาอยู่บ้างเวลาต้องเข้ามาในใจกลางเมืองคาราคุระ


เมื่อถึงที่หมาย ยูกิโกะเปิดประตูรถลง จับจูงมือของจินกะลูกชายสุดที่รักเพื่อพาเดินไปส่งแล้วหาร้านกาแฟใกล้ๆนั่งรอลูกชายของเธอเรียนเสร็จแทนเพื่อไม่ให้กวนสมาธิจินกะตัวน้อย 


" ท่านแม่คับ เข้าไปกับจินกะไม่ได้หรอ "


" ลูกแม่โตแล้ว ต้องฝึกอยู่คนเดียวได้แล้วนะ แม่ไม่ไปไหนไกลหรอก ก็เหมือนกับตอนที่จินกะเรียนกับพี่อาซาฮิไงครับ หืม " 


" ง่า...ก็ได้คับ เรียนเสร็จแล้วท่านแม่มารับผมไวๆนะ " 


"ได้จ้ะ เอ้าเข้าไปเรียนได้แล้วเจ้าเด็กดื้อ " 


" จินกะไม่ดื้อ! งั้นไว้เจอกันนะคับท่านแม่ "


ยูกิโกะแย้มยิ้มให้กับจินกะจากนั้นจึงหันหลังเดินไปยังร้านกาแฟใกล้ๆเพื่อรอเวลาที่จินกะจะเรียนเสร็จ 


.


.


" สวัสดีเจ้าหนู เด็กใหม่หรอเราน่ะ " ผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่แถมยังดูบึกบึนย่อตัวลงถามกับจินกะ 


" ใช่คับ ทางตระกูลให้ผมมาฝึกร่างกายวันนี้เป็นวันแรกคับ "


ถึงคำพูดจะยังดูเด็กอยู่บ้าง แต่ก็ดูท่าทางเย็นชากับคนแปลกหน้าสินะเนี่ย ทีกับคุณแม่เมื่อกี้ยังออดอ้อนอย่างกับลูกแมว สมเป็นเด็กจากตระกูลใหญ่จริงๆนั่นแหละน้า


" เอาล่ะ ตอนนี้ยังมีเวลานิดหน่อยก่อนถึงเวลาเรียน ไปทักทายเพื่อนๆซะสิ "


จินกะเพียงพยักหน้า ก่อนหันหลังเดินไปนั่งจุ้มปุ๊กตรงมุมห้อง 


" เฮ้ นายน่ะ นักเรียนใหม่หรอ " เด็กผู้หญิงคนหนึ่งผมสีเข้มท่าทางห้าวหน่อยๆเดินเข้ามาเพื่อทักทาย ก่อนเด็กชายผมสีส้มประกายจะเดินตามมา...สีผมแปลกชะมัด ลูกครึ่งหรอ? 


" ไง ชั้น คุโรซากิ อิจิโกะนะ ส่วนคนห้าวๆนั่นคือ อาริซาว่า ทัตสึกิ น่ะ นายล่ะเด็กใหม่ ชื่ออะไรหรอ? " 


" ...ยุคามิ จินกะ "


" ยุคามิหรอ ศาลเจ้าดังๆนั้นใช่ม้า? แต่นายนี่ดูเย็นชาจัง ไม่เห็นเหมือนตอนอยู่กับคุณน้าคนเมื่อกี้เลย เป็นเด็กติดแม่เหมือนเจ้าหัวส้มนี่หรอ "


" ถ้าผมติดแม่มันผิดตรงไหน อีกอย่างกับพวกเธอเพิ่งจะเจอกัน ผมจะเย็นชาแล้วมันแปลกรึไง " 


" จริง เห็นด้วย ติดแม่แล้วผิดตรงไหน...ชั้นชักชอบนายละสิ จินกะ " 


อิจิโกะดูท่าเข้าขากับจินกะในทันที คนติดแม่เหมือนกันมันเข้าขากันได้เสมอนั่นแหละ !


" ...เจ้าเด็กปากแจ๋วนี่หนิ " ทัตสึกิบึนปากใส่


" ยังไงก็ตาม ฝากตัวด้วยนะ หวังว่าในอนาคตเราสามคนจะสนิทกันมากขึ้น...มั้ง "




____________________




ถึงเวลาเลิกเรียนแล้ว จินกะเรียนยาวสามชั่วโมง สำหรับเด็กปกติแล้วมันค่อนข้างหนักหนา แต่สำหรับจินกะที่เริ่มฝึกตอนสามขวบ ความอดทนก็มีมากกว่าเจ้าพวกนี้นิดหน่อย 


" ตั้งใจฝึกดีมากเลยนะเนี่ย " ครูฝึกเดินมาชมพร้อมลูบหัวจินกะ 


" ขอบคุณคับ แต่หัวผมให้ท่านแม่ลูบได้คนเดียวนะ " 


" ฮะๆ โทษทีๆ เอ้านั่น คุณแม่มารับแล้วนะ "


ได้ยินดังนั้นจินกะก็รีบวิ่งไปหายูกิโกะพร้อมอ้าแขนรับอ้อมกอดของแม่ตนเอง


" ท่านแม่ค้าบ คิดถึงจังเลยฮะ "


" เอ้า อิจิโกะ คุณแม่เธอก็มาแล้วนา " ครูฝึกเรียก อิจิโกะเองก็เหมือนกินกะรีบวิ่งปร๋อไปหาแม่ของตนทันที พร้อมบอกแม่ตนเองเกี่ยวกับจินกะเพื่อนใหม่ด้วย


" โอ้ สวัสดีค่ะ ชั้น คุโรซากิ มาซากิ แม่ของอิจิโกะเค้าน่ะค่ะ "


" สวัสดีค่ะ ดิฉัน ยุคามิ ยูกิโกะ ส่วนลูกของดิฉัน จินกะค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันนะคะ "


" จินกะคุงดูน่ารักมากเลยนะคะ ท่าทางเป็นเด็กดีเลี้ยงง่ายมากเลย " 


" อิจิโกะคุงก็เหมือนกันนะคะ พวกเรานี่โชคดีจริงที่มีลูกน่ารักแบบนี้ เนอะจินกะ " ยูกิโกะว่าพลางบีบแก้มจินกะเบาๆ


" งื้ออ ท่านแม่ค้าบ จินกะหิวแล้วอ่า " 


" งั้นคงต้องขอตัวแยกกันตรงนี้นะคะ คุโรซากิซัง ดิฉันคงต้องพาลูกชายไปหาอะไรกินก่อน " 


" เช่นกันค่ะ ยุคามิซัง ไว้เจอกันใหม่ มาคุยเรื่องเด็กๆด้วยกันนะคะ "


ทั้งคู่ลาจากกันอิจิโกะโบกมือเล็กๆให้จินกะแล้วจินกะก็ยกมือโบกเบาๆตอบไป




____________________




ตอนบ่ายของวันเดียวกัน แม่เฒ่าสูงสุดได้เรียกจินกะเข้าพบเป็นการส่วนตัว เพื่อแนะนำผู้ฝึกการอัญเชิญที่นางเลี้ยงเอาไว้ ซึ่งเป็นคนนอกตระกูล อย่างว่านางอายุปูนนี้แล้ว คงไม่หลงเหลือเรี่ยวแรงไว้สอนอัญเชิญเจ้าหนูจินกะแล้วล่ะ


" ยินดีที่ได้พบขอรับคุณชายจินกะ กระผม เร็น จะมาช่วยสอนคุณชาย อัญเชิญชิกิงามิเบื้องต้นนะขอรับ " 


" อืม เริ่มเลยเถอะฮะ " นอกเหนือจากต่อหน้าท่านแม่ จินกะมันจะเย็นชาแบบนี้เสมอ แต่แม่เฒ่าสูงสุดก็ไม่ว่าอะไร ว่าที่ผู้นำก็ต้องแบบนี้ จะอ่อนโยนพร่ำเพรื่อไม่ได้ เธอพอใจเป็นอย่างยิ่งที่เลือดใหม่ทั้งอาซาฮิ และ จินกะ เช่นมีบุคลิกที่เธอต้องการ


สำหรับเธอแล้ว ใจค่อนข้างเอ็นดูทางจินกะมากกว่า ทว่าสำหรับตำแหน่งผู้นำ ถ้ามีทั้งพลังและอำนาจอาจกลายเป็นทรราชได้ 


แต่นั่นมันก็เรื่องของอนาคต บางทีเธออาจจะไม่อยู่ดูแล้วก็ได้


.


.


ฮอลโลว์เงางูยักษ์เมื่อครานั้น หลังจากผ่านมาสี่ปี มันกินพลังวิญญาณจินกะจนอิ่มหน่ำ มันรู้ดี เจ้าเด็กคนนี้ก็ถูกยัดใส่ร่างเปล่าเช่นเดียวกัน 


...กลิ่นพลังวิญญาณก็น่าอร่อย ก็เลยเผลอกินเยอะไปหน่อย 


ตอนนี้สติสัมปชัญญะของมันห่างไกลจากคำว่าฮอลโลว์มากโข แต่ร่างของมันก็หายไปด้วย เหลือเพียงแค่เงา อาจเพราะไม่ใช่ผู้คุมร่างถึงไม่อาจกลายเป็นอาร์รันคาร์ได้ แต่มันเชื่อว่าถ้าได้ร่างมาพลังของมันต้องไม่แพ้ใครแน่นอน


...ก็เป็นอดีตเทพตกชั้นนี่นา ว่าแล้วก็เศร้าชะมัด


ช่างเถอะแค่ได้สติคืนมาก็พอ มีคนคอยใช้ชีวิตให้ แถมมันยังได้กินพลังวิญญาณอยู่บ่อยๆแบบนี้ดีจะตาย ถึงแบบนั้นก็ไม่ได้กินจนเจ้าหนูนี่อ่อนแอลงเสียหน่อย พลังเยอะแบบนี้ ปล่อยไหลทิ้งขว้างไปก็เสียเปล่า ถ้าขังในร่างเยอะเกินไปก็อาจเป็นอันตรายเพราะไม่เคยทะลวงพลังวิญญาณสำหรับผู้มีพลังวิญญาณสูง 'เกินไป' 


นี่มันช่วยอยู่นะ ไม่ได้ตะกละซักนิด...


.


.


" คาถาสำหรับอัญเชิญขององเมียวจิคือ


ริน • เบียว • โต • ฉะ • ไค • จิน • เร็ทสึ • ไซ • เซ็น คิคิว ริทสึเรียว ตามบทร่ายและชื่อชิกิงามิที่ต้องการอัญเชิญขอรับ แต่สำหรับคุณชายจินกะที่ยังไม่มีชิกิงามิของตนเอง เพียงแค่ท่องบทอัญเชิญแล้วเมื่อนั้นภูตพรายจะปรากฎ ขอให้ท่านจินกะกรีดเลือดสัญญากับภูตตนนั้นได้เลยขอรับ " 


" ของคู่กาย? ต่างกับโยวไคตรงที่ไม่มีใครใช้ได้นอกจากผมใช่มั้ย " 


" ขอรับ จนกว่าจะตายจากพันธะจึงเสื่อมสลายไปขอรับ " 


" อืม เอาล่ะจินกะเอ๋ย จงอัญเชิญชิกิงามิตนแรกของเจ้า ต่อหน้าเก้าผู้อาวุโสหลักเสีย เมื่อสำเร็จแล้ว เจ้าจะถือเป็นผู้สืบทอดสายองเมียวจิอย่างเป็นทางการ " 


สืบทอดสายองเมียวจินั้นต่างจากผู้นำตระกูลตรงที่ว่าผู้มีพลังวิญญาณในปัจจุบันของตระกูลยุคามิมีน้อยนักดังนั้นผู้สืบทอดสายองเมียวจิจึงจะมีอำนาจในฝั่งของคนในตระกูลซึ่งมีพลังวิญญาณนับได้ว่ามีอำนาจเป็นรองจากผู้นำตระกูลทีเดียว อีกทั้งหากเป็นผู้อาวุโสจะถือเป็นผู้อาวุโสสูงสุด แม้แต่เจ้าตระกูลยังต้องไว้หน้า


" พร้อมแล้วฮะ ท่านแม่เฒ่าสูงสุด "


จินกะกล่าวพร้อมหลับตา ขยับมือประสานอินพร้อมกล่าวคำอัญเชิญชิกิงามิ


" ริน • เบียว • โต • ฉะ • ไค • จิน • เร็ทสึ • ไซ • เซ็น คิคิว ริทสึเรียว ขอวิญญาณสถิตย์จงปรากฏ " 


.


.


ถึงเวลาแล้ว..


.


.


ร่างเงาจากทั้งห้องโถงค่อยๆเขยื้อนหลอมรวมกัน ยกร่างปรากฏเหนือพื้นห้อง รัดพันตัวจินกะจากปลายเท้าถึงลำคอ


" เรียกข้าหรือ...เจ้าหนู " 


ลำคอจินกะพลันเย็นเยียบ 


น่ากลัว


ผู้อาวุโสทั้งเก้า พริบตาก็รู้ได้ทันที 


เงานี่อันตราย...


ปกติแล้วชิกิงามิเองก็มีธาตุเช่นกัน ดิน น้ำ ลม ไฟ อัศนี น้ำแข็ง แสง และความมืด ซึ่งธาตุมืดนั้นเจ้าเล่ห์ที่สุด สับปลัับที่สุด และ อันตรายที่สุด


" คุณเป็นเงาใช่มั้ยฮะ " 


" อาฮะ จะว่างั้นก็ได้ เรียกข้ามาทำไมล่ะ หืม " จะว่าเรียกก็ไม่ถูก มันเองนี่แหละที่เตะถีบภูตพรายที่หวังเชื่อมพันธะกับจินกะออกไป


...เด็กนี่เป็นของข้าผู้เดียว


" คุณเงาช่วยทำพันธสัญญากับจินกะได้มั้ย " 


" แล้วข้าจะได้อะไรตอบแทนล่ะ จินกะ? " ว่าไปนั่น มันอยากผูกพันธะกับจินกะจนตัวสั่น มีพลังวิญญาณให้กินอิ่มแถมได้ออกมาข้างนอกอีก แต่อย่างไรก็ยังอยากเย้าเจ้าเด็กนี่ที่ดูหน้าซีดเซียวต่างจากปกติ เห็นแล้วเจริญตาไม่เบา


" ได้มีจินกะเป็นเพื่อนตลอดไปได้มั้ยคับ? " 


" หึ ฮ่าๆๆ! คำตอบก็น่าเอ็นดูดีอยู่ จะยอมจับคู่ด้วยแล้วกันนะ " 


" กรีดเลือดเจ้ามาให้ข้ากินสิ "


จินกะกรีดเลือดของตนให้กับร่างเงายักษ์นั้นกิน ร่างเงาเองก็รัดพันคอจินกะแรงขึ้น ปรากฎรอยงูรัดที่คอซึ่งเป็นตราพันธสัญญา หากไม่ได้เรียกใช้งานชิกิงามิประจำตัว ตรวนี้ก็จะไม่ปรากฏขึ้น 


" เจ้าเป็นของข้าแล้วนะ จินกะน้อย"


ว่าจบร่างเงาก็จมลงสู่เงาของจินกะ แสงแวววับสีม่วงกะพริบครั้งหนึ่งก่อนที่บรรยากาศในห้องจะเข้าสู่สภาวะปกติ


การอัญเชิญชิกิงามินั้นยาก แต่การอัญเชิญธาตุมืดนั้นยากยิ่งกว่า ผู้อาวุโสทั้งเก้านิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง ก่อนที่แม่เฒ่าอาวุโสสูงสุดจะกล่าวขึ้นมาว่า


" เอาล่ะ ยินดีต้อนรับผู้สืบทอดตัวน้อยแห่งข้า ต่อไปนี้ สถานที่ลับในตระกูลซึ่งเก็บคาถาอัญเชิญและยันต์ชิกิงามิต่างๆ ข้าให้อำนาจเจ้า จงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง และเป็นองครักษ์เสาหลักให้แก่ตระกูลของเรา " 


" รับคำแม่เฒ่า จินกะทราบแล้ว " 


ในตอนนั้นหนึ่งในข้ารับใช้ของเซ็นยู ได้แอบอยู่นอกห้องอัญเชิญ นี่เท่ากับว่าคุณชายจินกะจะยิ่งมีอำนาจอาจพลอยทำให้ตระกูลเซ็นยูสั่นคลอนได้


ต้องรีบรายงานท่านสึโยมิ....





TBC.


แม้จะออกทะเลไปบ้าง แต่ใกล้เข้าเนื้อเรื่องหลักบลีชแล้วค่ะ อดใจอีกนิด ไรต์ก็เขียนเพลิน 55555