ยุคามิ จินกะ เป็นองเมียวจิ แต่ใครจะคิดว่าจะมาเจอยมทูตตัวเป็นๆแบบนี้กันล่ะ

[Fic Bleach] ร่างสถิตย์สามโลก - องก์ที่ 5 ชีวิตวัยเรียน โดย MEIIJIN13 @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-หญิง,ชาย-ชาย,แอคชั่น,fanfic,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

[Fic Bleach] ร่างสถิตย์สามโลก

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-หญิง,ชาย-ชาย,แอคชั่น

แท็คที่เกี่ยวข้อง

fanfic

รายละเอียด

ยุคามิ จินกะ เป็นองเมียวจิ แต่ใครจะคิดว่าจะมาเจอยมทูตตัวเป็นๆแบบนี้กันล่ะ

ผู้แต่ง

MEIIJIN13

เรื่องย่อ

อดีตนั้นช่างมืดมิดสิ้นไร้แสง สิ้นซึ่งแรงมีชีวิตน่าอดสู


มิอาจรู้เมื่อใดจักจรจาก วิญญากาฬโอดครวญไห้กระหายหิว


จวบจนสิ้นสุดวัฏสงสาร กรีดร้องขานบ้าคลั่งทรมาน  


...เมื่อใดกันที่ตัวข้าจักตกตาย...


.


.


.


.


สวัสดีค่ะ เรา MEIIJIN13 นะคะ เป็นนักหัดเขียนหน้าใหม่ ไฟ (ไม่) แรง แหะๆ ยังไงก็ต้องขอฝากตัวกับทุกคนด้วยนะคะ


ในนิยายเรื่องนี้อาจมีตรรกะบางอย่างที่ไม่สมเหตุสมผล ซึ่งเป็นจินตนาการของตัวผู้แต่งเอง และการกระทำบางอย่างของตัวละครในเรื่องไม่เหมาะที่จะนำมาทำในชีวิตจริง โปรดอ่านเพียงเพื่อความบันเทิงและใช้วิจารณญาณในการอ่าน หากตอนใดของเรื่องมีฉากน่ากลัว การกระทำไม่เหมาะสมเป็นพิเศษจะทำการติด Trigger Warning (TW:) ให้ช่วงต้นของตอนนั้นๆ ค่ะ ขอบคุณทุกท่านที่สนใจเข้ามาอ่านนิยายของเมจินนะคะ UwU//

สารบัญ

[Fic Bleach] ร่างสถิตย์สามโลก-เปิดองก์ สามโลกา,[Fic Bleach] ร่างสถิตย์สามโลก-องก์ที่ 1 ตระกูลยุคามิ,[Fic Bleach] ร่างสถิตย์สามโลก-องก์ที่ 2 วิญญาณร้ายหลบหนี,[Fic Bleach] ร่างสถิตย์สามโลก-องก์ที่ 3 ชะตาลิขิต ,[Fic Bleach] ร่างสถิตย์สามโลก-องก์ที่ 4 อัญเชิญชิกิงามิ ,[Fic Bleach] ร่างสถิตย์สามโลก-องก์ที่ 5 ชีวิตวัยเรียน ,[Fic Bleach] ร่างสถิตย์สามโลก-องก์ที่ 6 เพื่อนใหม่คนนั้นดูแปลกชะมัด

เนื้อหา

องก์ที่ 5 ชีวิตวัยเรียน

หลังข้ารับใช้รายงานเรื่องจินกะต่อเซ็นยู สึโยมิ น่าแปลกที่เธอกลับยังนิ่งสงบอยู่ได้ 


" ท่านสึโยมิ..เรื่องนี้---- "


" จะกังวลใจไปทำไมกัน " สึโยมิเอ่ยขัดขึ้นมา


" พลังและอำนาจไม่อาจมีได้ในคนเดียวกัน มิเช่นนั้นจากผู้ปกครองจะกลายเป็นทรราชย์...เรารู้อยู่แล้วว่าผู้อาวุโสสูงสุดย่อมไม่เอนเอียงต่อการตัดสินใจนี้ มีเพียงแต่ผู้อาวุโสชั้นรองๆลงมาเท่านั้นที่กำลังตีกัน "


" จินกะมีพลังแล้วไม่ดีหรือ อย่างไรก็ช่วยปกป้องอาซาฮิได้เป็นอย่างดี หรือเธอคิดอยากให้องครักษ์ของลูกเราอ่อนหัดอย่างนั้นหรือ " 


" ขออภัยท่านสึโยมิ กระผมแค่คิดตื้นเขินเกินไป " 


" อืม เอาเป็นว่าไม่ต้องเป็นห่วง ออกไปได้แล้วเราจะพักผ่อน "


ทันทีที่ข้ารับใช้ออกไปจากห้อง สึโยมิเองที่นั่งสงบนิ่งก็เริ่มคิดขึ้นมา 


ต้องตีสนิทกับจินกะมากกว่านี้ หากไม่มีอะไรผิดพลาด จินกะย่อมต้องถวายหัวแก่อาซาฮิ


.


.


ปกติแล้วบุตรของตระกูลใหญ่ต้องเรียนอยู่แต่ในตระกูล เพื่อป้องกันการลักพาตัวตั้งแต่เด็ก อีกทั้งยังวิชาเสริมตามแต่ที่ตระกูลนั้นๆเชี่ยวชาญ


ทั้งอาซาฮิและจินกะเองก็เช่นกัน ทั้งสองเรียนอยู่แต่ในตระกูลจนจบชั้นประถม ในช่วงนั้นจินกะได้พบเจอผู้อื่นเพียงแค่ในโดโจของตระกูลฝั่งมารดาเท่านั้น และเพื่อนที่พูดคุยบ่อยที่สุดคือ อาริซาว่า ทัตซึกิ และ คุโรซากิ อิจิโกะนั่นเอง 


เพราะการออกมาด้านนอกมีองครักษ์ประจำตระกูลคอยออกมาดูแลด้วยเช่นกัน ยูกิโกะมารดาของจินกะเองก็ดูมีความสุขที่ได้เจอ คุโรซากิ มาซากิ และคุยอวดเรื่องลูกด้วยกันบ่อยๆ 


...จนกระทั่งวันนั้น 


.


.


ซ่าาา


" วันนี้ฝนตกหนักน่าดูเลยนะจินกะ พักไปโรงฝึกซักวันดีมั้ยจ๊ะ "


ยูกิโกะเอ่ยถามระหว่างนั่งอยู่ในเรือนใหม่ ที่ตรงนี้ดีกว่าเรือนเก่าตรงที่ระเบียงมีบานพับกระจกเก็บได้ เธอสามารถนั่งชมวิวสวนหินใกล้ๆพร้อมจิบชาในวันฝนตกอย่างนี้ได้ บรรยากาศดีมากทีเดียว 


" ผมก็คิดว่าจะขอฝึกอัญเชิญชิกิงามิในเรือนแทนเหมือนกันครับท่านแม่ " จินกะที่ตอนนี้อยู่ในวัยเก้าขวบปีแล้วตอบกลับแม่ของเขา วัยนี้จินกะใบหน้าเริ่มเรียวได้รูป ผิวขาวสว่าง ผมดำสนิท ดวงตาดำขลับสวยกลมโต นิสัยติดจะเย็นชามากระเบียบมากขึ้น แต่กับยูกิโกะก็ยังขี้อ้อนเหมือนเดิม แม้จะไม่มากเท่าช่วงตอนสามสี่ขวบก็ตาม 


" ลูกแม่ขยันจริงเชียว อย่าหักโหมมากนักล่ะ "


" ผมเก่งอยู่แล้ว ท่านแม่ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ " 


จินกะตอบกลับมารดาพลางแย้มยิ้มให้ ก่อนจะเดินออกนอกเรือนผ่านสะพานที่มีหลังคากันฝนเพื่อเดินตรงไปยังเรือนฝึกวิชาอัญเชิญและอาคม


ห้าปีที่ผ่านมานี้จินกะยังคงฝึกหนักอย่างต่อเนื่อง ภูตพรายต่างๆก็ได้เริ่มทำสัญญาและฝึกใช้มากขึ้นแล้ว ส่วนชิกิงามิประจำตัว ถึงเมื่อก่อนจะกลัวแต่พอได้ทำความรู้จักมากขึ้นก็พบว่าอีกฝ่ายนอกจากฝีมือที่น่าเกรงขาม ก็ยังมีฝีปากที่น่าหมั่นไส้มากทีเดียว 


จินกะตั้งชื่อให้ชิกิงามิประจำตัวว่า คาเงะ อาจเพราะตอนเด็กคำศัพท์ในหัวมันน้อยไปหน่อย เจ้าตัวเองก็บ่นกระปอดกระแปดกับเรื่องนี้แต่ก็ยอมรับชื่ออยู่ดี


' เห็นแก่สมองอันน้อยๆของเจ้า ข้าจะยอมรับชื่อนี้แล้วกันไอ้หนู '


เหมือนพี่เลี้ยงปากร้ายแต่ชอบเอาใจ?


.


.


วันต่อมาก็เหมือนวันปกติทั่วไป จินกะเข้าไปฝึกที่โดโจเหมือนเดิม อันที่จริงฝีมือของเขาเกินหน้าเด็กวัยเดียวกันไปไกล เขาชนะทัตสิกิตั้งแต่เจ็ดขวบ จากนั้นก็แยกไปฝึกรวมกับเด็กโตมาจนถึงตอนนี้ แต่ยังไงเวลาเลิกเรียนก็ได้เจอกับทั้งทัตสึกิทั้งอิจิโกะอยู่ดีนั่นแหละ


...แต่วันนี้แปลกแฮะ เห็นแค่ทัตสึกิคนเดียว เจ้าอิจิโกะไปไหน? 


" นี่ทัตสึกิจัง วันนี้อิจิโกะคุงไม่มาหรอ " 


" ...คือว่า " ทัตสึเล่าเรื่องที่ตัวเองรู้หลังจากเพิ่งได้ยินเรื่องจากครูฝึกที่โดโจเหมือนกัน ดังนั้นจินกะจึงได้รู้ว่าเมื่อวานนี้ วันที่ตัวเองหยุดเรียนไป


อิจิโกะได้เสียคุณแม่ไปแล้วตลอดกาล...


ดููท่าข่าวนี้ทางบ้านคุโรซากิก็คงเพิ่งมาบอกทางโรงฝึก และท่านแม่ยูกิโกะก็คงได้รู้เรื่องวันนี้เช่นเดียวกัน 


ดูเหมือนอิจิโกะเองก็ไม่ได้ไปโรงเรียนและไม่ได้กลับบ้าน ทางบ้านคุโรซากิเองก็กำลังตามหาอิจิโกะเช่นกัน


ในฐานะคนที่รักแม่มากเหมือนกัน จินกะพอจะเข้าใจอิจิโกะคุงอยู่ แต่หายไปแบบนี้อาจจะเกิดอะไรไม่ดีขึ้นก็ได้


" ...ท่านพี่คาเงะ " 


" ว่าไงเจ้าหนูจินกะ " 


" ช่วยตามหาอิจิโกะคุงให้ทีนะครับ " 


คาเงะไม่พูดพร่ำอะไร เพียงจมร่างตนเองหายไปในเงา ผ่านไปเพียงครู่ก็กลับมาหาจินกะอีกครั้ง จินกะเองก็พาทัตสึกิและครูฝึกไปยังสถานที่ที่พบอิจิโกะด้วย


.


.


ริมถนนทางลาดมีลานทุ่งหญ้าลาดชันก่อนจะมีแม่น้ำ พวกเขาเห็นอิจิโกะเดินวนเวียนอยู่อย่างนั้น ก่อนจะนั่งพัก จินกะจึงเดินลงไปหาอิจิโกะ


" อิจิโกะคุง เป็นอะไรมากมั้ย " 


" ชั้น...แม่...หาแม่ไม่เจอเลย...จินกะ นายช่วยทีได้มั้ย หาแม่ชั้นที...ได้โปรด " 


เราเป็นเพื่อนกันมานาน แน่นอนทั้งจินกะและอิจิโกะรู้ ว่าพวกเขาทั้งสองต่างมองเห็นวิญญาณ


" อิจิโกะคุง ผมเข้าใจว่ามันยากจะยอมรับนะ แต่-- "


" ชั้นไม่อยากยอมรับ! เพราะชั้น...แม่ถึงได้! ชั้น--- "


" ไม่ อิจิโกะคุง ผมอาจจะไม่เข้าใจความเจ็บปวดของนาย แต่นายยังมีครอบครัวที่เหลืออยู่ ถ้านายเป็นอะไรไปพวกเขาคงรับไม่ได้...อิจิโกะกลับบ้านเถอะ "


" ชั้น...เข้าใจ แต่...ขออยู่ตรงนี้คนเดียวซักพัก...ขอร้องล่ะนะ "


" ...ผมเข้าใจแล้ว "


จินกะเดินขึ้นมาเหนือบริเวณที่อิจิโกะนั่งอยู่เล็กน้อย ก่อนจะนั่งลงไปบนพื้นหญ้า เฝ้ามองเพื่อนของตัวเองไม่ให้สติหลุดโทษตัวเองจนเผลอทำอะไรลงไป 


หลังจากนั้นสักพัก ครูฝึกก็พาคุโรซากิคนพ่อก็มารับอิจิโกะ เขามาพร้อมกับน้องสาวอิจิโกะสองคนที่ยังดูเด็กกว่าพวกเขาสักหกปีได้ คงทิ้งไว้ให้อยู่ที่บ้านลำพังไม่ได้นั่นแหละ 


ในจุดนั้นจินกะเพิ่งจะได้เข้าใจ


ความตายอยู่ใกล้ขนาดนี้เลยสินะ...




____________________




เวลาผ่านไปจนจินกะอายุได้สิบสามปี ถึงเวลาแล้วที่เขาจะต้องออกไปเรียนที่โรงเรียนเหมือนเด็กๆทั่วไป ช่วงม.ต้นจินกะได้ไปเรียนที่โรงเรียนมาชิบะ เขาได้เจอ ทัตสึกิ และอิจิโกะเหมือนครั้งยังเด็ก พวกเขายังคงพูดคุยสนิทสนมกันเหมือนเดิมได้อย่างง่ายดาย มีเพียงอิจิโกะเท่านั้นที่จินกะสังเกตุเห็นว่า เด็กหนุ่มผมส้มดูเคร่งขรึมขึ้นมากกว่าเดิม คงอยากเข้มแข็งขึ้นเพื่อปกป้องน้องๆนั่นแหละ 


อ้อ มีเด็กอีกคนที่สะดุดตา อาจจะเพราะว่าสีผมแปลกๆคล้ายกับอิจิโกะคุงละมั้ง 


...อิโนะอุเอะ โอริฮิเมะ


ท่าทางของเธอ ดูน่ารักสดใส ผมน้ำตาลประกายสีส้มอ่อนยาวพริ้วไหว สมชื่อเจ้าหญิงจริงๆนั่นแหละ 


ม.ต้นของจินกะมันก็เรื่องปรกติ ช่วงปีแรกเขาก็มาโรงเรียนร่วมกับอาซาฮิบ้าง อาซาฮิเองก็ทำตัวเหมือนพี่ชายปกติไม่ได้ปฏิบัติกับเค้าเหมือนเป็นแค่องครักษ์ จินกะคิดว่าเขารู้สึกดีกับพี่ชายอยู่นิดหน่อย ส่วนคนพ่อจินกะปฏิบัติราวกับคนแปลกหน้าเท่านั้นแหละ แม้คนคนนั้นจะพยามเข้าหาเท่าไหร่ก็ตาม 


พ้นช่วงปีแรกไป อาซาฮิขึ้นม.ปลายแล้วจึงไม่ได้เจอกันอีก จินกะได้เรียนห้องเดียวกับทั้ง อิจิโกะ ทัตสึกิ และ อิโนะอุเอะซัง ช่วงนี้อยู่ๆเธอก็ตัดผมสั้นย้อมผมดำขึ้นมา อิจิโกะเองก็มีเรื่องชกต่อยบ่อยขึ้นมาก ดูท่าจะเป็นเพราะสีผมที่ดูแปลกในสายตาคนทั่วไปล่ะมั้ง


ส่วนจินกะ ก็มีคนเข้าหาอยู่บ้าง คงเพราะเขาเป็นลูกหลานตระกูลใหญ่ ทุกหน้าร้อนผิวเขาจะออกสีแดงระเรื่อจนท่านพี่คาเงะชอบบ่นว่าไปแอบได้ยินคนชื่นชมจินกะจนปวดหู จินกะคิดว่าเขาไม่ค่อยชอบฤดูร้อนสักเท่าไหร่ 


.


.


ม.ต้นปีสุดท้าย เขาเห็นโอริฮิเมะกลับมาไว้ผมสีเดิมและไว้ผมยาวประบ่า แถมจากที่เก็บตัวก็เริ่มสนิทสนมกับทัตสึกิ จินกะเลยเข้าไปทักทายนิดหน่อย


" สวัสดี อิโนะอุเอะซัง กลับมาไว้ผมสีเดิมปล้วหรอ "


" อ่ะ! ยุคามิซัง สวัสดีค่ะ...ผมสีเดิมของชั้นมัน..แปลกหรอคะ " สิ้นเสียงโอริฮิเมะ ทัตสึกิจ้องมองเขาอย่างกับจะเชือดคอกัน...ถึงแม้ว่าจะทำไม่ได้ก็เถอะนะ


" เปล่าหรอก ผมว่ามันสวยธรรมชาติดี เข้ากับเธอดีนะ อ้อ ในเมื่อคุณเป็นเพื่อนกับทัตสึกิก็เรียกผมว่าจินกะก็ได้ ถึงจะแปลกไปหน่อยที่เพิ่งมาเรียกกันตอนปีสามก็เถอะ "


" อ่ะ..อื้ม จินกะคุงก็เรียกชั้นว่าโอริฮิเมะเถอะ ยินดีที่ได้รู้จักอีกครั้งนะคะ "




____________________




ม.ต้นจบไปแล้ว ชีวิตจินกะก็สงบสุขดี อายุก็ย่างเข้าสิบหกปีแล้ว ทางตระกูลเริ่มให้เขาเข้าขบวนทัพเพื่อออกสนามจริงในการต่อสู้เพื่อกำจัด กักขัง และช่วยเหลือบรรดาวิญญาณและภูตพรายทั้งหลาย เขาเริ่มฝึกฝนตั้งแต่ปิดเทอมก่อนขึ้นม.ปลาย 


ม.ปลายจินกะก็ได้สิทธิพิเศษ จะว่าเด็กเส้นก็ได้แต่การเรียนจินกะเองก็ไม่ได้แย่อะไร ออกจะค่อนไปทางบนๆเพราะงั้นเขาจึงได้เข้าเรียนม.ปลายโดยไม่ต้องสอบเข้า 


พวกเราเรียนที่ คาราคุระไดอิจิ ทั้งจินกะ อิจิโกะ ทัตสึกิ และโอริฮิเมะ จินกะไปถามพวกที่เหลือมาแล้ว ซึ่งมันก็ดีที่มีเพื่อน แต่คงต้องไปลุ้นเอาหน้างานว่าจะได้อยู่ห้องเดียวกันรึเปล่า


.


.


วันเปิดเรียนมาถึง หลังจากตรวจดูกระดานรายชื่อก็พบว่าพวกเราทั้งหมดได้อยู่ห้องเดียวกัน ซึ่งมันก็ดีอยู่หรอกเพราะเขาเองก็ขี้เกียจเสวนาหาเพื่อนใหม่เหมือนกัน 


ยิ่งขึ้นม.ปลาย อิจิโกะก็ยิ่งชกต่อยหนักข้อขึ้น ส่วนทัตสึกิก็จริงจังกับคาราเต้มากขึ้นจนแว่วว่าได้เข้ารอบอินเตอร์ไฮไปแล้ว


วันนึงจินกะเห็นอิจิโกะโดนพวกนักเลงรุมอีกแล้ว แถมดูจะมีตัวประกันซะด้วย


" ...ไปช่วยสักหน่อยแล้วกัน"


พอโตขึ้นจินกะสามารถใช้วิชาองเมียวจิได้เหนือชั้นจนกระทั่งสามารถผสานร่างเข้ากับชิกิงามิได้แล้ว


แล้วลืมไปแล้วรึยังว่าชิกิงามิคู่กายของเขาคือใคร?


" คาเงะ ผสานร่าง " การใช้งานชิกิงามประจำตัวเป็นข้อยกเว้นพิเศษ เขาไม่จำเป็นต้องกล่าวคำร่ายเพื่ออัญเชิญ เพราะ ชิกิงามิคู่กายจะถูกพันธนาการไว้ใต้รอยพันธสัญญานั่นเอง อย่างของคาเงะก็เป็นรอยงูรัดคอที่เจ้าตัวเคยทำกับเขาเมื่อตอนเด็กนั่นล่ะ


พลันร่างจินกะร่วงหล่นลงไปในเงา คืบคลานเข้าหาตำแหน่งซอยเปลี่ยวที่อิจิโกะอยู่ในทันที


" ...พวกคุณ...กำลัง...ทำอะไร " จินกะแกล้งผลุบออกมาจากเงาใต้เท้าของพวกนักเลง ผิวปากกระซิบข้างหูจนแต่ละคนกรี๊ดร้องสาวแตกกระเจิง


" กรี๊สสสสสส!! ผะ..ผีหลอกกลางวันแสกๆจ้าาา!!! " 


" ไม่เอาแล้ว!! ไม่อยู่แล้วคร้าบบบบบ!!! "


พวกนักเลงพวกนั้นวิ่งหนีไปจนหมดเหลือทิ้งไว้แค่สี่คน คงจะเป็นเพื่อนใหม่อิจิโกะ? 


​​​​​​จินกะโผล่ออกมาจากเงาแล้วกล่าวทักทาย


" สวัสดีครับ เดี๋ยวนี้ริอาจจะเป็นแยงกี้แล้วหรอ อิจิโกะคุง " 


" ทำพูดเล่นเข้านะจินกะ ไอ้ตะกี้ฝีมือนายใช่มะ " 


" หืม อะไรหรอครับ ไม่เห็นจะรู้เรื่อง ผมเพิ่งเดินผ่านมาเองนา " 


จินกะตอบแกมทะเล้นกลับไป รู้ดีว่าเพื่อนหัวส้มคนนี้รู้อยู่แล้วว่าเขานี่แหละตัวการที่ทำให้นักเลงพวกนั้นหนีไป


" ชกต่อยบ่อยๆมันไม่ดีนะครับ พวกคุณเองก็ด้วย ว่าแต่ชื่ออะไรกันหรอ ผม ยุคามิ จินกะ จะเรียกจินกะเฉยๆก็ได้นะครับ " 


"...แช้ด " ชายหนุ่มลูกครึ่งเลือดเต็มหัวเอ่ยขึ้น ท่าทางจะบาดเจ็บไม่ใช่น้อยแต่สีหน้านิ่งยังกะแผลมดกัด แปลกคน


" ผม โคจิม่า มิทสึอิโระ ส่วนคนผมน้ำตาลนั่น อาซาโน่ เคย์โงะ ล่ะครับ " 


" จินกะซังคงไม่ใช่พวกแปลกๆแบบเจ้าอิจิโกะใช่มั้ยครับ ไม่งั้นนักเลงตามหากระทืบรายชั่วโมงแหงแซะ " เคย์โงะพูดออกมาทำหน้าแหยงๆ


" ระวังปากหน่อยสิเคย์โงะ เพราะคุณยุคามิโผล่เจ้าพวกนักเลงนั่นถึงได้หนีไปเลยนะ " 


" ช่างเถอะๆ ผมไม่ถือสาหรอก จะว่าไปเป็นเพื่อนอิจิโกะคุงได้ ผมว่าผมเองก็คงแปลกพอตัวแหละ ฮะๆ " 


" อ้าวเห้ย ไอ้จินกะ ซักหมัดมั้ยฮะ! "


" ผมไม่นิยมความรุนแรงครับ "


" ...พูดมาได้ ตัวเองใช้ภูตทำแทนล่ะสิไม่ว่า..." อิจิโกะกระซิบบ่นเบาๆ


" เมื่อกี้อิจิโกะคุงว่าไงนะครับ " 


" เปล๊า! " 


" แล้วคุณแช้ด ไปโรงพยาบาลมั้ยครับเดี๋ยวผมช่วยเรียกรถพาไปให้ "


" ...ไม่ต้องหรอก ไม่จำเป็น แปปเดียวก็หาย "


" ไม่จำเป็นได้ไงเล่า! อย่างน้อยไปคลินิกบ้านชั้นก็ยังดี " อิจิโกะว่าขัดขึ้นมา แช้ดไม่ตอบอะไรเพียงพยักหน้าให้เท่านั้น คงจะเห็นด้วยกับอิจิโกะเค้าแหละ 


" เอาล่ะ ตอนนี้ฟ้าก็เริ่มมืดแล้ว อิจิโกะคุงพาแชทคุณไปที่คลินิก ส่วนผมจะพามิทสึอิโระซังกับอาซาโน่ซังไปส่งหน้าโรงเรียนเอง คงต้องแยกกันตรงนี้นะครับ " 


" เออ เจอกัน เดินทางปลอดภัยล่ะ " 


" ห่วงฝั่งตัวเองก่อนเถอะครับ "


จินกะพามิตสึอิโระและอาซาโน่มาส่งที่หน้าโรงเรียนจากนั้นจึงประสานร่างเงากับคาเงะเร่งกลับตระกูลยูคามิทันที มีชิกิงามิดีมันก็สบายแบบนี้แหละเนอะ


ชีวิตม.ปลายแบบนี้ก็สงบสุขดี หวังว่ามันจะสงบแบบนี้ตลอดไป 


จินกะคิดเช่นนั้น ไม่ทันได้สังเกตผีเสื้อสีดำแปลกตาเลยสักนิด...






TBC.