ยุคามิ จินกะ เป็นองเมียวจิ แต่ใครจะคิดว่าจะมาเจอยมทูตตัวเป็นๆแบบนี้กันล่ะ

[Fic Bleach] ร่างสถิตย์สามโลก - องก์ที่ 6 เพื่อนใหม่คนนั้นดูแปลกชะมัด โดย MEIIJIN13 @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-หญิง,ชาย-ชาย,แอคชั่น,fanfic,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

[Fic Bleach] ร่างสถิตย์สามโลก

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-หญิง,ชาย-ชาย,แอคชั่น

แท็คที่เกี่ยวข้อง

fanfic

รายละเอียด

ยุคามิ จินกะ เป็นองเมียวจิ แต่ใครจะคิดว่าจะมาเจอยมทูตตัวเป็นๆแบบนี้กันล่ะ

ผู้แต่ง

MEIIJIN13

เรื่องย่อ

อดีตนั้นช่างมืดมิดสิ้นไร้แสง สิ้นซึ่งแรงมีชีวิตน่าอดสู


มิอาจรู้เมื่อใดจักจรจาก วิญญากาฬโอดครวญไห้กระหายหิว


จวบจนสิ้นสุดวัฏสงสาร กรีดร้องขานบ้าคลั่งทรมาน  


...เมื่อใดกันที่ตัวข้าจักตกตาย...


.


.


.


.


สวัสดีค่ะ เรา MEIIJIN13 นะคะ เป็นนักหัดเขียนหน้าใหม่ ไฟ (ไม่) แรง แหะๆ ยังไงก็ต้องขอฝากตัวกับทุกคนด้วยนะคะ


ในนิยายเรื่องนี้อาจมีตรรกะบางอย่างที่ไม่สมเหตุสมผล ซึ่งเป็นจินตนาการของตัวผู้แต่งเอง และการกระทำบางอย่างของตัวละครในเรื่องไม่เหมาะที่จะนำมาทำในชีวิตจริง โปรดอ่านเพียงเพื่อความบันเทิงและใช้วิจารณญาณในการอ่าน หากตอนใดของเรื่องมีฉากน่ากลัว การกระทำไม่เหมาะสมเป็นพิเศษจะทำการติด Trigger Warning (TW:) ให้ช่วงต้นของตอนนั้นๆ ค่ะ ขอบคุณทุกท่านที่สนใจเข้ามาอ่านนิยายของเมจินนะคะ UwU//

สารบัญ

[Fic Bleach] ร่างสถิตย์สามโลก-เปิดองก์ สามโลกา,[Fic Bleach] ร่างสถิตย์สามโลก-องก์ที่ 1 ตระกูลยุคามิ,[Fic Bleach] ร่างสถิตย์สามโลก-องก์ที่ 2 วิญญาณร้ายหลบหนี,[Fic Bleach] ร่างสถิตย์สามโลก-องก์ที่ 3 ชะตาลิขิต ,[Fic Bleach] ร่างสถิตย์สามโลก-องก์ที่ 4 อัญเชิญชิกิงามิ ,[Fic Bleach] ร่างสถิตย์สามโลก-องก์ที่ 5 ชีวิตวัยเรียน ,[Fic Bleach] ร่างสถิตย์สามโลก-องก์ที่ 6 เพื่อนใหม่คนนั้นดูแปลกชะมัด

เนื้อหา

องก์ที่ 6 เพื่อนใหม่คนนั้นดูแปลกชะมัด

ยิ่งเติบโตขึ้นจินกะยิ่งมีพลังวิญญาณสูงมากขึ้นตามระดับ จนตอนนี้แทบจะแซงหน้าผู้อาวุโสสูงสุดไปแล้ว แต่นั่นยิ่งทำให้แม่เฒ่าอาวุโสดีใจ จินกะมากไปด้วยพลังแบบนี้ตระกูลยิ่งมั่นคงมากขึ้นไปอีก 


ทาคาฮิโตะ-พ่อของจินกะเองก็ดูเหมือนจะยิ่งเริ่มให้ความสำคัญกับจินกะหลังจากที่สนใจแต่อาซาฮิในฐานะว่าที่ผู้นำตระกูล เหมือนบิดาผู้นี้เพิ่งรู้ว่าแม่เฒ่าอาวุโสเอาจริงหลังจากประกาศจะให้ตำแหน่งอาวุโสของตนเองให้จินกะสืบทอดต่อ


แต่เขาสนชายผู้นี้ซะเมื่อไหร่ ไม่สนนานมากแล้ว ในใจมีเพียงท่านแม่ยูกิโกะเท่านั้น ข่าวดีแบบนี้ท่านแม่คงยิ้มแก้มปริไปหลายวัน


เวลาผ่านไปหลายเดือนจนจะเข้าช่วงกลางภาคของม.ปลายอยู่แล้ว อยู่ๆจินกะก็เริ่มรู้สึกแปลกๆกับร่างกายของตัวเอง เขาพยามคิดอยู่ว่ามันอาจจะเป็นแค่ไข้หวัดฤดูร้อน แต่มันแปลก เหมือนพลังที่เคยใช้ได้อย่างใจมันกำลังทรยศเขาอยู่อย่างไรอย่างนั้น


จนวันหนึ่งขณะเดินกลับบ้าน จินกะได้มองเห็นสิ่งหนึ่ง ที่ทั้งชีวิตไม่เคยเจอด้วยตาเนื้อมาก่อน


คนผู้หนึ่งสวมชุดฮากามะสีดำล้วน ผูกโอบิสีขาวพร้อมแนบดาบคาตานะไว้ข้างเอว ถึงแม้ไม่เคยเห็นด้วยตา แต่ในบันทึกเก่าแก่ของตระกูลที่เขาอ่านมันซ้ำแล้วซ้ำเล่า เขารู้จักสิ่งนี้ดี


" ...ยมทูต? "


.


.


ในตระกูลต่อให้พลังวิญญาณสูงแค่ไหนก็ตามก็ไม่อาจเห็นยมทูตได้ สิ่งที่มองเห็นมีเพียงภูตพรายและเทพตกชั้นเท่านั้น เพราะในบันทึกเก่าแก่ สมดุลของโลกนั้นถูกแบ่งแยกเป็นสามจักรวาล คือ ภพที่หนึ่ง คนเป็น ภพที่สอง คนตาย และภพที่สาม ภพวิญญาณว่างเปล่า


สิ่งที่คนทรงอย่างพวกเขามองเห็นได้คือสิ่งที่อยู่ในภพมนุษย์เท่านั้น ซึ่งวิญญาณหลงทาง ภูตพราย และเทพตกชั้นต่างก็ถือว่าอยู่ในภพมนุษย์ทั้งนั้น


...แต่ยมทูตนั้นต่างออกไป นั่นมันภพที่สอง ภพคนตาย


แล้วทำไมเขาถึง...


จินกะรีบเดินทางกลับตระกูล เขาวิ่งจนเหนื่อยหอบ ยามนี้ที่ร่างกายแสนอ่อนแอเขาไม่สามารถใช้ชิกิงามิได้เลย 


จินกะตรงไปที่ห้องตำราเก่าแก่ อ่านมันวนอยู่อย่างนั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า อย่างไรสิ่งที่เขาเห็นก็คือยมทูตจริงๆ เพราะคงไม่มีคนบ้าที่ไหนกระโดดเหาะข้ามหลังคาไปมาตอนอาทิตย์โพล้เพล้แบบนั้นหรอก 


จินกะตัดสินใจจะไปหาแม่เฒ่าอาวุโส แต่ก่อนจะไปเขากลับล้มลงเสียงดังจนเวรยามข้างนอกได้ยินเข้า


" ...ท่านจินกะ! " 


บัดนี้ตัวของจินกะร้อนดั่งไฟแผดเผา ทางตระกูลเร่งพาตัวไปยังโรงพยาบาลในตัวเมืองคาราคุระโดยเร็วที่สุด อย่างไรก็ตาม แม้แต่อิชิดะ ริวเค็น ผอ.โรงพยาบาลยังบอกว่าอาการของจินกะไม่สามารถรักษาด้วยวิธีปกติได้ 


ดังนั้นเมื่อแม่เฒ่าอาวุโสรู้ข่าวที่หลานรักอย่างจินกะเกิดพลังสับสนจึงรีบพาจินกะมุ่งไปร้านชำร้านหนึ่งที่บรรดานักพรตคนทรงจะรู้จักกันดี 


ร้านอุราฮาระ


" สวัสดีครับ ยุคามิฮะ ไม่ทราบว่าวันนี้ต้องการให้ผมช่วยอะไรหรือครับ " 


" จินกะของเราน่ะสิ ช่วงนี้ดูพลังจะเยอะเกินเหตุจนป่วยไข้บ่อยๆ อัญเชิญภูตพรายอย่างเดิมก็ไม่ได้ พอจะมีอะไรช่วยหลานของเราได้มั้ย " 


อุราฮาระ คิตสึเกะนิ่งเงียบไม่พูดอะไร เพียงแค่พยักหน้าให้เท็ตไซไปเอาของจากหลังร้านเท่านั้น


จินกะมองหน้าชายหนุ่มเจ้าของร้าน รู้สึกใจกระตุกอย่างน่าประหลาดพาลให้เงาในตัวหงุดหงิดไปด้วย 


ใจเต้นเพราะร่างจริงเจ้าจะหลุดจากกายหยาบอยู่รอมร่อหรือเพราะเหตุผลอื่นกัน...


.


.


เท็ตไซเดินออกมาจากหลังร้าน มือหยิบกล่องไม้สีดำสนิทแล้วเปิดออกมอบให้กับอุราฮาระ


มันเป็นประคำสีทมิฬใหญ่พอดีคอเพียงชิ้นหนึ่ง


" สิ่งนี้จะช่วยผสานกายหยาบและพลังวิญญาณให้ปรับตัวเสมอกัน ห้ามถอดออกเด็ดขาดครับ " 


.


.


" ...นี่คิตสึเกะ เด็กคนนั้นน่ะ ตอนนั้นพวกเรา... "


" ครับ ดูเหมือนว่าพลังของทารก'คนนั้น' จะเหลือล้นเกินกว่าจะใช้กายหยาบกักขังได้ครับ "


" เพราะงั้น เจ้าของร้านเลยให้สิ่งนั้นกับตระกูลยุคามิไปงั้นสินะครับ " 


" ขอเพียงใช้เวลาซักหน่อย เมื่อร่างวิญญาณถูกกายหยาบกลืนกินจนหมดสิ้น เขาจะกลายเป็นมนุษย์ธรรมดาอย่างแน่นอนครับ "


" แต่ว่าก็ว่าเถอะนะคิตสึเกะ ขนาดขังเข้ากายหยาบตั้งแต่ยังทารกพลังยังยิ่งล้นทะลักจนกายหยาบดึงพลังวิญญาณมาใช้ได้แบบนี้ ไหนจะเริ่มมองเห็นภพยมทูตกับฮอลโลว์ได้อีก มันไม่ใช่สิ่งที่กายหยาบมนุษย์ปกติจะเห็นได้นะ "


" ...จะบอกว่าผมกำจัดเขาไม่ทันแล้วงั้นสิครับ "


" ก็ทำนองนั้นนั่นแหละ...ช่างเถอะ เค้ายังเป็นเด็กไม่ใช่รึไง มันจะไปมีเรื่องอะไรกัน " 


" อิจิโกะคุงก็อายุเท่าเขานะครับ เรื่องใหญ่โตตั้งแต่ได้รับพลังมาเลยเชียว "


" อย่าเพิ่งไปกังวลเรื่องที่ยังมาไม่ถึงน่า ตอนนี้แค่จับตาดูต่อไปก็พอแล้วนี่ " 


"...ว่าแต่ว่า เด็กนั่นมองเจ้าตาไม่กะพริบเลยนะนั่น ไม่รู้สึกสนใจบ้างรึไง "


" คุณโยรุอิจิก็ว่าไป รู้อยู่ว่าคนที่ผมสนใจน่ะ---" ชอบหนีกันอยู่นั่นแหละ


" เอ้าๆ ช่างเถอะๆ ข้าจะไปนอนอาบแดดแล้ว วันนี้อากาศดีซะจริง " ว่าจบโยรุอิจิก็แปลงร่างกลับเป็นแมวดำ โดดหนีข้ามกำแพงร้านไปงีบที่ไหนซักที่ 


" เฮ้ออออ เอางั้นก็ได้ครับ...เท็ตไซรบกวนปิดร้านให้ทีนะคร้าบ ผมจะไปพักซักหน่อย "




____________________




หลังจากจินกะได้ใส่ประคำแล้ว ตัวเขาก็ค่อยๆเริ่มกลับมาเป็นปกติ ที่แปลกไปเพียงอย่างเดียวคือการมองเห็นยมทูตและวิญญาณทมิฬแปลกๆ


น่าจะเป็นพวกภพที่สาม วิญญาณว่างเปล่า


ทำไมถึงเกิดมองเห็นขึ้นมาได้กันนะ?หรือเพราะใส่ประคำนี่? 


ถึงจะอยากลองถอดออก แต่ในใจลึกๆก็รู้ว่าไม่ใช่เพราะประคำหรอก เขารู้ตัวเองดี ว่ามองเห็นยมทูตและวิญญาณว่างเปล่าตั้งแต่ช่วงที่ป่วยกระเสาะกระแสะ 


เอาเป็นว่าช่างมันเถอะ...กับยมทูตคงไม่มีอะไร วิญญาณว่างเปล่าทั้งหลายก็ดูเหมือนพวกยมทูตจะกำจัดกันเองหมด คงไม่มีเรื่องอะไรให้เขาต้องใส่ใจมากนัก แค่ทำหน้าที่องเมียวจิแบบเดิมก็พอ


...ทั้งที่คิดแบบนั้น


" เอ้าๆ วันนี้มีนักเรียนใหม่ย้ายเข้ามาน้า เอาล่ะแนะนำตัวเลยจ้ะ " 


" สวัสดีค่ะ คุจิกิ ลูเคีย ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนนะคะ " 


เด็กใหม่ย้ายมากลางเทอม? แปลกคนแฮะ


เขาเห็นเธอจ้องมองไปที่อิจิโกะก่อนจะขอไปนั่งที่ที่ว่างข้างๆเจ้าหัวส้มนั่น คุยอะไรกันสักอย่างแล้วจู่ๆอิจิโกะก็ร้องโอ้ยเสียงดังลั่นก่อนจะล้มลงตัวงอ


" ตายจริง! คุโรซากิคุง! ขออนุญาตพาเค้าไปห้องพยาบาลนะค้าา "


...แม่นั่นต่อยอิจิโกะคุง?


เล่นละครปาหี่อะไรกัน


" อาจารย์ครับ ผมขออนุญาตไปเข้าห้องน้ำนะครับ " 


จินกะรีบลุกขึ้นตามไป พวกนั้นเล่นอะไรกัน หรือจะไปทำเรื่องแบบ...ไม่ๆ คิดมากไปแล้วจินกะ ไม่น่าใช่มั้ง 


จังหวะที่แอบตามไป คุณคุจิกิก็ผลักอิจิโกะจนล้มลง แต่ที่น่าตกใจกว่านั้นน่ะ...


...ทำไมมีอิจิโกะคุงอีกคนโผล่ออกมา


จะว่าวิญญาณหลุดก็ไม่เชิง อิจิโกะคุงใส่ชุดยมทูตแบบที่เขาเคยอ่านมา 


นี่มันบ้าอะไรกัน?


ถึงในหัวจะคิดสับสน แต่ตัวเขาก็ทำเพียงหลบซ่อน เมื่อทั้งสองวิ่งจากไป จินกะก็เพียงตรงเข้าไปแบกร่างไร้วิญญาณของอิจิโกะให้นั่งท่าทางดีๆอยู่ริมเสาก็เท่านั้น


อยากพาไปห้องพยาบาลอยู่หรอกนะ แต่กลัววิญญาณเพื่อนรักหาร่างไม่เจอเขาจะซวยเอา


.


.


" นี่ลูเคีย " 


" หื้ม...มีอะไร ข้าก็บอกไปแล้วนี่ว่าไม่ใช่ทุกคนที่เห็นวิญญาณจะมองเห็นยมทูตหรือฮอลโลว์ได้หรอกน่า " 


ลูเคียบอกกับอิจิโกะว่ากลุ่มคนมีพลังวิญญาณเช่นคนทรงไม่ใช่จะสามารถมองเห็นวิญญาณได้ทุกภพภูมิ คนทรงนั้นจะมองเห็นวิญญาณแค่ในภูมิมนุษย์ ส่วนยมทูตและฮอลโลว์นั้นคนที่จะเห็นได้ต้องเคย ถึงฆาต มาก่อนเท่านั้น


แต่มันก็เสี่ยงครึ่ง-ครึ่งที่เพื่อนคนนี้จะรู้ตัวตนของเขา 


" อย่าเพิ่งกังวลอะไรน่าอิจิโกะ ถ้าเพื่อนเจ้าที่เป็นองเมียวจิคนนั้นมองเห็นยมทูตกับฮอลโลว์จริงก็คงเข้ามาคุยกับเจ้าแล้ว "


" แต่มันอันตราย--- "


" อย่ามางี่เง่าอิจิโกะ คิดว่าตัวเองต้องแบกรับไว้คนเดียวรึ? เจ้าฆ่าฟันฮอลโลว์ ก็ไม่ใช่ว่าเพื่อนเจ้าต้องคอยกำจัดภูตพรายรึ มันก็เสี่ยงพอกันนั่นแหละ อย่าเป็นพระเอกให้มากนัก "


" ...อึ่ก...ยัยนี่ "




____________________




สุดท้ายแล้วจินกะก็ตัดสินใจยังไม่เข้าไปคุยกับสองคนนั้น ถ้าเจ้าหัวส้มอยากให้เขารู้คงเข้ามาคุยแล้วเพราะก็รู้ๆกันอยู่ว่ามองเห็นวิญญาณเหมือนๆกัน


ส่วนคุณคุจิกิ...อาจจะมาจากตระกูลนักพรตที่เก็บซ่อนตัวก็ได้ เล่นกระชากร่างยมทูตคนอื่นออกมาได้ขนาดนี้ ตระกูลยุคามิเองชื่อเสียงก็ไม่ใช่เล่น ถ้าคิดอยากคุยคงเข้ามาหาเองนั่นแหละ


ลงท้ายแล้วจินกะก็เลือกที่จะปล่อยผ่านไป ยังไงทุกคนก็มีความลับที่พูดไม่ได้กันทั้งนั้น


.


.


หลายวันผ่านไป ช่วงหลังเลิกเรียน จินกะเลือกจะเดินกลับบ้านแทนการย้ายเงาอย่างปกติ ยามที่สถานการณ์ช่วงนี้ดูแปลกๆ การเก็บพลังเอาไว้ดูจะเป็นเรื่องฉลาดกว่า เขาไม่คิดว่าการเริ่มมิงเห็นยมทูตหรือวิญญาณว่างเปล่าจะทำให้โชคดีหรอกนะ


ยามที่มีอะไรให้คิด แสงอาทิตย์ยามตะวันตกดินเป็นอะไรที่ดึงดูดสายตาเขาเสมอจนกระทั่งเดินมาเจอโอริฮิเมะที่เหมือนเพิ่งจะกลับจากซุปเปอร์มา


" ฮิเมะจัง ซื้ออะไรมากินน่ะ "


" อ้าว! จินกะคุง ก็ซื้อพวกต้นหอม เนื้อวัว เนยเค็ม ผงแกงกะหรี่ แล้วก็ ถั่วแดงหวานน่ะจ้ะ "


แกงกะหรี่อะไรของเขาล่ะนั่น...


" ว่าแต่แขนนั่นน่ะ โดนเฉี่ยวมาหรอ ช่วงนี้ซุ่มซ่ามเกินไปหน่อยรึเปล่าเนี่ยฮิเมะจัง เดี๋ยวผมเดินไปส่งที่บ้านด้วยดีกว่า "


จินกะเอ่ยออกมาอย่างเป็นห่วง ช่วงนี้พลังชีวิตของโอริฮิเมะดูมีสีดำทะมึนๆปะปนอยู่ เผื่อว่าถูกภูติพรายครอบงำจะได้กำจัดมันซะทีเดียวเลย


" อ้ะ ได้เลยจ้ะ ทัตสึกิจังก็จะแวะมาบ้านชั้นเหมือนกัน " 


" โอ้ ดีเลยครับ ไม่ค่อยได้คุยกันยาวๆนานแล้วเหมือนกันแฮะ "


ระหว่างทางเดินไปบ้านโอริฮิเมะ พวกเราก็เจอกับอิจิโกะกับคุณคุจิกิอีกแล้ว หมอนี่ถึงวัยจิ๊จ๊ะกับสาวแล้วรึเปล่าหว่า ไม่ได้หวงเพื่อนหรอกนะแต่พอคิดว่าเจ้าหนุ่มหัวส้มเก๊กหน้าขรึมมีความรักมันพาลจะหลุดขำไม่ได้


ไม่ได้แกงเพื่อนจริงๆนะ


" อุ้ยตาย คุณอิโนะอุเอะ สุขสบายดีหรอค้า "


" อ่ะ..เอ่อ สุขสบายดีค่า "


...โดยเฉพาะถ้าชอบคนแบบนี้ อ่านนิยายเยอะจนเพี้ยนเรอะ 


แต่ความรักนี่เนอะ แม่เขายังเคยรักผู้ชายอย่างคุณทาคาฮิโตะได้เลย จินกะคิดว่าเขาไม่ค่อยเข้าใจความรักแบบหนุ่มสาวเท่าไหร่ แต่อายุเท่านี้เอง ช่างมันเถอะ เฝ้าดูเพื่อนๆสนุกกว่าเยอะเลย


ระหว่างบอกลาสองคนนั้น จินกะเห็นคุณคุจิกิจ้องมองโอริฮิเมะตาเขม็ง 


...พูดให้ถูกคือจ้องมองแผลช้ำที่ข้อเท้าของโอริฮิเมะมากกว่า...


.


.


" ว่าไงจ๊ะทัตสึกิ ขอโทษที่ช้านะ พอดีระหว่างทางเจอคุโรซากิคุงกับคุณคุจิกิเข้าน่ะจ้ะ "


โอริฮิเมะรีบขอโทษทัตสึกิก่อนจะเปิดประตูอพาร์ทเม้นท์ชวนทั้งสองคนเดินขึ้นห้องไปด้วยกัน


" ไม่เป็นไรๆ ว่าแต่นายก็มาด้วยหรอจินกะ นึกว่าที่บ้านต้องมารับกลับตามกำหนดการซะอีก "


"ปากร้ายนะครับ ผมโตแล้วนะ ตระกูลให้กลับบ้านเองตั้งแต่ม.ต้นปีสามแล้ว ยังจะล้อกันอยู่อีก " 


จินกะมุ่ยหน้า กะอีแค่เคยมีรถลีมูซีนมารับมาส่งให้ลือกันแซ่ดช่วงม.ต้นแค่นั้นเอง 


" ฮ่าๆ ว่าแต่ว่าเจอเจ้าอิจิโกะกับคุณคุจิกิงั้นหรอ เค้ากิ๊กกั๊กกันรึเปล่าสองคนนั่น " 


" ไม่แน่ใจเหมือนกัน ผมคิดสภาพเจ้าหัวส้มตกหลุมรักใครไม่ออกแฮะ "


" ถ้างั้นโอริฮิเมะก็น่าจะชวนเจ้าอิจิโกะมาส่งซะหน่อยนา แหลทำเป็นกลัวซักหน่อย แล้วก็ปิดประตูตีแมวซะเลย! " 


" ...ผมก็มาส่งฮิเมะจัง จะอันตรายได้ไงครับ "


" ชิ...นายนี่เองตัวขัดลาภ " 


" อ้าว ไหงงั้นล่ะครับนั่น "


พวกเขาสามคนคุยกันเรื่อยเปื่อย มันก็สนุกดีแต่จินกะกลับรู้สึกหน่วงๆแปลกๆตลอดเวลา 


แต่เพราะไม่อยากให้เพื่อนสาวทั้งสองคนกังวลเลยตีหน้ายิ้มไปแบบนั้น


.


ตุบ!


.


" เอ๋? "


" อะไรหล่นน่ะโอริฮิเมะ "


" ให้ผมไปดูให้มั้ยฮิเมะจัง "


" ไม่เป็นไรจ้ะจินกะคุง เดี๋ยวชั้นไปดูเอง "


โอริฮิเมะลุกขึ้นไปที่หิ้งวางกระดูกในห้องนั้น


" อ๋าาา ตุ๊กตาหมีขาดหมดเลยอ่าา "


"ด้ายเปื่อยรึเปล่า พรุ่งนี้ค่อยเอาไปให้อิชิดะคุงซ่อมให้ก็ได้ม้างง "


" งืออ คงต้องแบบนั้นแหละ... "


แปลก...


ทันใดนั้นมืออสูรทมิฬยักษ์ก็พุงเข้าใส่กลางอกโอริฮิเมะทันที! 


" ฮิเมะจัง! / โอริฮิเมะ! " 


" แกคือวิญญาณว่างเปล่าสินะ! ทำอะไรฮิเมะจังน่ะ! " 


" อะไรน่ะจินกะ มีวิญญาณทำร้ายฮิเมะหรอ! "


วิญญาณว่างเปล่าไม่ตอบอะไร เพียงหรี่ตานิ่งเงียบ ก่อนสบัดหางใส่ทัตสึกิและจินกะจนกระอักเลือดในทันที


จินกะแม้จะมีพลังวิญญาณสูง แต่เพราะปกติเคยเจอแต่วิญญาณธรรมดา ภูตพรายก็ไม่ได้แข็งแกร่งอะไรนัก ยิ่งเทพตกชั้นยิ่งราวกับต่างคนต่างอยู่ มีไม่กี่ตนที่พอจะขอทำสัญญาชิกิงามิด้วยได้เท่านั้นเอง


ไม่เคยเจอวิญญาณที่ตัวใหญ่ขนาดนี้ อันตรายและรวดเร็วขนาดนี้ แถมยัง...


...มืดมนขนาดนี้


จินกะราวเป็นแค่ภาชนะ พลังสูงส่งแต่สิ่งที่เคยใช้ออกมาราวเป็นแค่เศษเสี้ยว เศษเสี้ยวที่คนในตระกูลคิดว่ามันทรงพลังมากพอแล้ว


แต่ความจริงกลับไม่ใช่...


.


.


ตัวเขามัน อ่อนแอชะมัด...






TBC.


ยุคามิฮะ ที่อุราฮาระใช้เรียกแม่เฒ่าอาวุโสสูงสุด มาจาก ฮะ ที่แปลว่ามารดา ประมาณว่าแม่ใหญ่แห่งตระกูลยุคามิประมาณนี้ค่ะ 




ช่วงนี้ไรท์มีสอบไฟนอล อาจจะจมกองหนังสือจนคิดนิยายไม่ออกนิดนึง แต่จริงๆก็มีสอบบ่อยอยู่ แหะๆ