"เพียงออ" ตัดสินใจที่จะอยู่ที่หอพักของมหาวิทยาลัยแต่ไม่มีใครรู้เลยว่า ……การตัดสินใจในครั้งนี้จะนำพาเธอไปสู่เรื่องราวอันแสนน่าจดจำ ที่เธอเองจะไม่มีวันลืม
เรื่องสั้น,ระทึกขวัญ,รั้วโรงเรียน,ไทย,ลึกลับ,ผีในห้อง,ผี,เพียงออ,ทะลุมิติ,ต่างโลก,เอาขีวิตรอด,ผจญภัย,สยองขวัญ,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
สุสานหอใน"เพียงออ" ตัดสินใจที่จะอยู่ที่หอพักของมหาวิทยาลัยแต่ไม่มีใครรู้เลยว่า ……การตัดสินใจในครั้งนี้จะนำพาเธอไปสู่เรื่องราวอันแสนน่าจดจำ ที่เธอเองจะไม่มีวันลืม
ในช่วงปิดเทอมฤดูร้อน "เพียงออ" ตัดสินใจที่จะอยู่ที่หอพักของมหาวิทยาลัยที่ตั้งอยู่กลางหุบเขาเพื่อทำวิจัย เธอเป็นนักศึกษาปีสามของคณะโบราณคดีที่มีความสนใจในประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมท้องถิ่น เธอเลือกที่จะอยู่ที่หอพักเพื่อความสะดวกในการศึกษา แต่ไม่มีใครรู้ว่าการตัดสินใจครั้งนี้จะนำพาเธอไปสู่เรื่องราวอันแสนน่าจดจำ ที่เธอเองจะไม่มีวันลืม ‘ขอบคุณนะ‘
ณ หอพักของมหาวิทยาลัย ตั้งอยู่บนเนินเขา ติดกับสุสานเก่าแก่ที่มีอายุนับร้อยปี เชื่อกันว่าที่นี่เคยเป็นลานประหารสมัยโบราณ อีกทั้งยังกลายเป็นลานที่สังหารเหล่านักรบและผู้คนมากมายที่ใช้ชีวิตที่นี่ ดวงวิญญาณของผู้เสียชีวิต จึงยังคงวนเวียนอยู่ในแห่งนี้ บ้างก็เคยมีเรื่องเล่าต่อกันมา ว่าเคยมีนักศึกษาที่อยู่หอในช่วงปิดเทอมหน้าร้อน เพราะไม่อยากเสียเงินค่ารถกลับบ้าน จึงนำเงินตรงนั้นมาซื้อของกินระหว่างที่อยู่หอ แต่กลับแทบพบว่าเป็นศพเสียชีวิตในลักษณะนอนตรงที่ระเบียงห้อง โดยที่ดวงตาเบิกโพลง ราวกับว่าเห็นอะไรบางอย่างและการทำงานของร่างกายก็หยุดไป ผลการชันสูตรของแพศย์ในตอนนั้นระบุว่า เกิดจากภาวะร่างกายหัวใจหยุดเต้นฉับพลัน แต่คนมากมายก็ต่างลงความเห็นกันเป็นสองฝ่าย จนเรื่องนี้ยังคงไม่มีจุดจบของข้อถกเถียงดังกล่าว เวลาผ่านไปจึงกลายเป็นตำนานมาจนถึงตอนนี้ อีกเรื่องราวที่ยังคงหาข้อสรุปไม่ได้คือ ณ สถานที่แห่งนี้มักจะมีนักศึกษาหรือบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัย จะมาจบชีวิต ที่บริเวณลานแห่งนี้ในทุก ๆ ปี
จึงถูกเรียกต่อกันมาว่า ‘สุสานหอใน’
ช่วงกลางวัน สุสานแห่งนี้ดูเงียบสงบและร่มรื่น แต่เพียงออนักศึกษาปีสามของคณะโบราณคดีที่มีความสนใจในประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมท้องถิ่นที่พักอยู่ที่หอในขณะนี้ เธอกลับ สังเกตเห็นว่ามีบางสิ่งบางอย่างแปลก ๆ อยู่ในอากาศ บางครั้งเธอรู้สึกเหมือนมีสายตาจ้องมองมา แต่เมื่อหันไปมองกลับไม่พบอะไร นอกจากหลุมศพที่เงียบสงบ และเหล่าเจ้าสัตว์เลื้อยคลานที่อาศัยอยูตามพื้นดินและพุ้มไม้ต่าง ๆ ก็เท่านั้น
กลางคืนเพียงออต้องเผชิญกับบรรยากาศที่แตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง ความมืดมิดปกคลุมหอพัก และเสียงแปลก ๆ เริ่มดังขึ้นมา บางครั้งเป็นเสียงกระซิบ บางครั้งเป็นเสียงกรีดร้องเบา ๆ ที่แว่วมาแต่ไกล
คืนหนึ่ง ในขณะที่เพียงออกำลังอ่านหนังสืออยู่ในห้องพัก เธอได้ยินเสียงเคาะประตูเบา ๆ เธอเปิดประตูออกไปมอง แต่ไม่พบใครเลย นอกจากลมเย็น ๆ ที่พัดผ่านเข้ามาในห้อง
เพียงออกลับเข้ามาในห้องและพยายามจะไม่คิดมาก แต่แล้วเธอก็ได้ยินเสียงฝีเท้าดังขึ้นในห้องพักของเธอเอง เสียงนั้นมาจากห้องนอน เธอเดินตามเสียงไป และพบว่าไฟในห้องนอนเปิดปิดเอง เธอรู้สึกหวาดกลัวและพยายามโทรหาเพื่อน แต่ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์
ในคืนนั้น เพียงออนอนไม่หลับ ตื่นตัวฟังเสียงต่าง ๆ ที่ดังขึ้นมา เธอได้ยินเสียงคนเดินไปมาในห้อง เสียงลมหายใจใกล้ ๆ และเสียงกระซิบที่บอกให้เธอออกไปจากที่นี่ มิ้นเริ่มเห็นเงาดำ ๆ ผ่านหน้าต่างและประตู เธอรู้สึกเหมือนมีคนหรือบางสิ่งบางอย่างเฝ้ามองเธออยู่ตลอดเวลา
หลายคืนต่อมา สถานการณ์ก็เริ่มเลวร้ายมากขึ้น เพียงออเริ่มเห็นวิญญาณในชุดโบาราณ ซึ่งตามตัวเปรอะเปื้อนไปและกลิ่นคาวเลือดที่คละคุล้งไปทั่วยามค่ำคืน เดินผ่านห้องของเธอ บางครั้งกลับเห็นเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ในชุดเสื้อคอกระเช้า ยังไม่โกนผมจุก มีกระพรวนข้อเท้าเสียงสั่นไปตามการขยับของเด็กหญิง เธอมักจะมานั่งร้องไห้อยู่ที่มุมห้องด้วยควมโหยหวน “ฮึก ๆ ! แม่จ๋า… แม่จ๋า…แม่อยู่ไหน?” แต่เมื่อเกิดความเคยชิน เพียงออจึงพยายามเข้าไปปลอบ น้องวิญญาณคนนั้น แต่เธอกลับถูกตะคอกกลับมาพร้อมทั้ง แปลสภาพจากใบหน้าไร้เดียงสา กลายเป็นรอยแตกระแหง ราวกับปูนที่ถูกทุกทำลายอย่างหน้ากลัว เผยให้เห็นร่างกายที่เต็มไปด้วยรอยช้ำเลือดช้ำหนอง จากร่างเล็กที่กำลังนั่งกอดเข่าที่มุมห้อง ลุกยืนขึ้น พร้อมกับวิ่งปรี่เข้ามาที่หน้าของเธอ มือเล็กสองข้างง้างไปที่ปากของตนเองพร้อมกับแหวะออกอย่างแรง “พี่เห็นแม่หนูไหม. .!” ทำเอาเพียงออแทบจะหยุดหายใจเมื่อเห็นภาพตรงหน้า ก่อนจะเผลอเป็นลมแล้วหลับไปเกือบทั้งคืน
ในอีกคืนหนึ่ง เพียงออตัดสินใจว่าจะไม่ทนอีกต่อไป เธอเก็บของและพยายามจะหนีออกจากหอพัก แต่เมื่อเธอเปิดประตูออกไป กลับพบว่าทางเดินเต็มไปด้วยกลุ่มเงาวูบวาบ ที่ปรากฏเป็นชายร่างสูง ร่างกายท่อนบน ตั้งแต่ช่วงเอวไปจนถึงหน้าอกและไห้ปลาร้าเต็มไปด้วยรอยสักเป็นอักขระสมัยโบราณ ที่ค่อนข้างแตกต่างกันไป แต่มีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกัน ณ เวลานั้นคือ เจ้าของร่างเหล่านั้นก้าวเดินมาทั้งที่ไร้ซึ่งหัว ตามด้วยเสียงกระซิบเบา ๆ มากมายที่ค่อย ๆ หนักขึ้น ว่า “หัน ฮา ก่อ. . . (เห็น กู ไหม!) ” เพียงออหวาดกลัวจนต้องกลับเข้าห้องและล็อคประตู
ในที่สุด เพียงออก็ทนไม่ไหว เธอเขียนบันทึกเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดลงในสมุด แล้วหนีออกจากหอพักในตอนเช้า เธอทิ้งทุกอย่างไว้เบื้องหลังและไม่คิดจะกลับมาอีก
หลายปีต่อมา เพียงออได้กลับมายังมหาวิทยาลัย
ในฐานะอาจารย์ประวัติศาสตร์ เธอได้เล่าเรื่องราวทั้งหมดที่ผ่านมาพร้อมทั้งยื่นสมุดบันทึกเล่มนั้นให้กับนักศึกษาคนสนิท ที่ได้รับฟังเรื่องราวของเธอ ก่อนจะกระซิบที่ข้างหูของนักศึกษาคนดังกล่าวว่า “หลังจากนนี้ฝากด้วยนะ / /หัวเราะแบบเย้อหยิ่ง / /” ก่อนจะเดินออกมาจากห้องแห่งนั้น พร้อมกับรอยยิ้มที่แสนจะจริงใจ (เสแสร้ง) ยินดีด้วยหละสำหรับผู้ดูแลสุสานคนต่อไป…..‘ขอบคุณนะ‘
#ตอนหน้า ⚠️⚠️⚠️
“ยินดีต้อนรับสู่ ความปรารถนาที่เป็นจริง นับจากนี้ความปรารถนาของเจ้าจะสมดังใจได้ทุกประการ“
.
.
.
“ขอร้องหละ ….พระพาย อย่าทำอะไรฉันเลยนะ ฉันขอโทษ ที่ผ่านมา ฉันไม่ได้ตั้งใจ!!!”
“ตอนนี้ ฉันยังไม่มีโอกาสได้พูดเลย เธอคิดจะมาเอาเปรียบกันเหรอ…เพื่อนรักหืมมมม
ขอขอบคุณสำหรับการเข้าชม การอ่าน และคอมเม้นต์เพื่อเป็นกำลังใจให้กันนะคะ สำหรับสุสานหอใน นี้จะเป็นเรื่องสั้นจบเป็นตอน ๆ อย่าลืมกดติดตาม แล้วมาดำดิ่งสู่ความหดหู่ ระทึกขวัญ ไปด้วยกัน ไปกันต่อ❗️❗️❗️