พ่อครัววังหลวง คือผู้ทำอาหารให้กับเหล่าผู้คนชั้นสูงในวัง เป็นตำแหน่งของพ่อครัวที่ใครๆก็อยากไต่ไปถึง และหนึ่งในนั้นต้องเป็น 'เพรา' คลื่นลูกใหม่แห่งวงการพ่อครัวจอมเวทย์ที่พร้อมกระตุ้นความอร่อยด้วยมือเขา
ผจญภัย,แฟนตาซี,ครอบครัว,ไทย,ตะวันตก,ดราม่า,แฟนตาซี,ทะลุมิติ,ต่างโลก,อาหาร,ผจญภัย,เวทมนต์,มอนสเตอร์,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวทพ่อครัววังหลวง คือผู้ทำอาหารให้กับเหล่าผู้คนชั้นสูงในวัง เป็นตำแหน่งของพ่อครัวที่ใครๆก็อยากไต่ไปถึง และหนึ่งในนั้นต้องเป็น 'เพรา' คลื่นลูกใหม่แห่งวงการพ่อครัวจอมเวทย์ที่พร้อมกระตุ้นความอร่อยด้วยมือเขา
บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวทย์
Record the recipe of the Royal chef
หมวดหมู่ : แฟนตาซี ทำอาหาร การแข่งขัน ต่อสู้(นิดหน่อย)
__________________________
การเป็นพ่อครัววังหลวงนั้นเป็นความฝันและเป้าหมายชีวิตของเหล่าพ่อครัว เหล่านักสร้างความอร่อยให้กับโลกใบนี้ การเป็นพ่อครัววังหลวงที่หลายปีจะเปิดรับพ่อครัวรุ่นใหม่เพียงแค่ 4 คนเท่านั้นเป็นหัวหน้าพ่อครัวประจำฤดูทั้งสี่ และหนึ่งผู้จะเข้าชิงตำแหน่งนั้นคือ ‘เพรา’ พ่อครัวจากเมืองเล็กๆแห่งนั้น แรงปรารถนาของเขาอาจจะไม่เหมือนใคร เพราะเขาไม่ต้องการ ชื่อเสียง เงินทอง เกียรติยศ หรือความสุขสบาย สิ่งที่เขาต้องการแค่ ความจริง
“แค่เป็นเหมือนนายให้ได้ใช่ไหม แล้วชั้นจะรู้ความจริง…” - เขียวใบไม้
“การที่ผมมาอยู่ตรงนี้ได้ มาจะช่วยเติมเต็มได้จริงเหรอ?” - แดงเนื้อสัตว์
“การเป็นพ่อครัววังหลวง มันจะแสดงให้ตระกูลเห็นว่าเราเองก็มีค่า” - ม่วงเปลือกมังคุด
“อยากให้คุณอยู่เห็นความสำเร็จของคุณจังเลย …ที่รัก” - ครามทะเล
“ฉันยืนอยู่ตรงนี้นะ กำลังใจของพวกนาย” - กลิ่นน้ำมันเครื่อง
_____________________________
"ปูถ่านหิน"
สิ้นคำของเอมโป ลิคซ์ที่กำลังพยายามใช้ไฟแช็กจุดบุหรี่แทบกลั้นขำไม่อยู่ ทางวุยทารันเองก็หน้าถอดสี เหงื่อตกกับวัตถุดิบหลัก แถมยังมีเสียงซุบซิบตกใจของชาวบ้านที่มารอดูการแข่งขันครั้งนี้ด้วย นอททัมรู้สึกเป็นห่วงเพรา แต่ภาพที่ชายร่างใหญ่เห็นคือ พ่อครัวหนุ่มยืนง่วงหาว จนพี่สาวของเขาต้องตบกะโหลกไปหนึ่งที
"เออคือว่า จะไม่ตกใจหน่อยเหรอ น้องเพรา คุณชูร์?"
ชูร์ยืนกอดอกแสดงท่าทีมั่นใจ "เอาอะไรมาตกใจ เพราะฉันอะนะ..."
"...ไม่รู้เรื่อง ขอร้องเหอะช่วยแบ่งสมองวิศวะของพี่มาแบ่งในการคิดมุกตลกบ้าง ไม่งั้นก็เลิกเลยจะดีกว่า โอ๊ย อีกแล้วนะ" เพราโดนพี่สาวตบหัวไปอีกหนึ่งที
ชูร์หันมาตบไหล่นอททัมเบาๆ พร้อมดึงคอมากระซิบข้างหู "บ้านเกิดของพวกเรา ก็มีไอ้ปูเหมือนกัน"
"ให้ดิฉันยืนรออีกนานมั้ย? เลิกทำตัวเสียมารยาท ยิ่งลีลาเรื่องมากเวลาก็จะลดลงเรื่อยๆ ส่วนดิฉันจะได้มีเวลาจิบชามากขึ้นด้วย ลิคซ์ เธออย่าลืมเอาชุดน้ำชามาตั้งด้วยนะ พวกเราจะได้ไม่เบื่อตายกันก่อน" เอมโปสะบัดพัด
"ก็อธิบายให้จบสิ คุณนาย จะพูดคำวางมาดคำ ใครกันแน่ที่ช้ากัน" เพราหาวยืนกอดอกแสดงอาการไม่พอใจ
"ต่อปากต่อคำเหลือเกินจริงๆ ก็ได้จะบอกกฎแล้วนะเจ้าหนูน้อย หนึ่งชั่วโมงครึ่งเท่านั้น ไม่สนว่าจะใช้กี่คน ไม่สนว่าจะเป็นคาวหรือหวาน หรือให้มันจบๆ ไป เริ่ม!"
สิ้นเสียงคำสั่ง วุยทารันก็สั่งหุ่นยนต์ของเขาออกล่าปูทั้งหมดที่อยู่ตามรอบเมืองมาให้ได้ ส่วนทางด้านเพราเองก็ไม่ได้รีบร้อนอะไร ยื่นเขียนอะไรสักอย่างใส่สมุดเล่มเล็กๆ ทำเอานอททัมลนลานเมื่อเห็นความเฉื่อยชาของเพรา ต่างจากชูร์ที่ได้แต่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่
เพราฉีกกระดาษยืนให้ชูร์ "ยังไง ก็ฝากหยิบของพวกนี้เตรียมไว้ด้วยนะ วอร์มเตาด้วยก็ดี การหมุนตัวเลขคงไม่ยากไปใช่ไหม"
"ให้มันน้อยๆ หน่อย ใช้เก่งเหมือนพ่อเลยนะ คุณหนูเพรา ได้ค่าพี่สาวคนสวยจะช่วยเหลือเอง"
“ส่วนพี่นอททัม ไปกับผม ไปเดินรอบเมืองกัน แต่ช่วยสะพายกระเป๋าใบนี้ด้วยนะ” เพรายื่นกระเป๋าสีน้ำตาลให้ แล้วทั้งคู่ก็เริ่มเดินเรื่อยๆ ไม่ได้รีบร้อนอะไร “สะพายข้างเดียวไม่ลำบากใช่ไหม?”
"ไม่หรอก ว่าแต่ทำไมน้องเพรา ไม่รีบอะไรเลยเหรอ เราแข่งกับเวลาไม่ใช่เหรอ?"
"ก็ใช่อยู่หรอก แต่จะช้าหรือเร็วชัยชนะก็เป็นของผมอยู่ดี" เพรายิ้มแบบตัวร้ายจนนอททัมคิดในใจว่าคิดถูกใช่ไหมที่มากับเจ้าเด็กคนนี้
...
ชานเมือง
ด้วยความที่เป็นเมืองที่เน้นอุตสาหกรรมหุ่นยนต์ มีการพัฒนาที่รวดเร็วมากทำให้เหมืองแร่รอบเมืองถูกขุดจนแร่พลังงานหายหมดไป ทำให้เหมืองแร่หลายแห่งถูกปล่อยทิ้งร้าง จนเกิดการย้ายถิ่นฐานของสัตว์ ที่หากินกับเศษแร่มาตั้งฐานะอาศัยอยู่กันเป็นจำนวนมาก รวมไปถึงปูถ่านหิน ปูขนาดเล็กเท่าครึ่งฝ่ามือ หากินตามเศษหินแร่ในเหมือง
เพราเดินมองปูถ่านหินขนเศษแร่เดินไปมา ทำให้นอททัมเป็นห่วงกับความใจเย็นของเพรา "ทำไมเราไม่รีบ เก็บให้เยอะๆ เหมือนพวกหุ่นยนต์ละน้องเพรา" นอททัมมองไปยังแก๊งหุ่นของวุยที่กวาดปูไปหลายร้อยตัว
"พี่รู้เปล่าทำไม คนเขาไม่นิยมกินกัน"
"ตัวเล็ก เนื้อน้อยไม่ใช่เหรอครับ?" นอททัมขมวดคิ้ว
"ได้ห้าเต็มสิบ แต่ที่จริงเพราะว่ามันแข็งเหมือนหิน แถมกลิ่นเหมือนพวกแร่ พี่เป็นคนเหมือง ต้องกินกลิ่นที่เหมือนที่ทำงาน พี่ชอบเหรอ" เพราย่อตัวนั่งคุกเข่า เคาะตามพื้นไปเรื่อยๆ
นอททัมยังคงสงสัย "แล้วทำไง จะผ่านมาเกือบครึ่งชั่วโมงแล้วนะ ว่าแต่น้องเพราทำอะไรอยู่"
เพราวางมือไว้กับพื้น พูดด้วยน้ำเสียงมั่นใจ "เดี๋ยวผมจะแสดงให้ดูพลังที่ได้ฝึกมาเกือบปี ‘เตาอบลมร้อน’ "
สภาพอากาศบริเวณนั้นเริ่มร้อนขึ้นเรื่อยๆ ความร้อนจากพื้นผิวแพร่กระจายไปทั่วอากาศ ตอนนี้พื้นที่เพราเอามือวางอยู่ก็ไม่ต่างจากทะเลทรายตอนบ่ายสอง นอททัมที่ยืนมองอยู่เหงื่อเริ่มไหลมากขึ้น ความร้อนรุนแรงจนพื้นผิวบริเวณนั้นที่มีหญ้างอกอยู่เล็กน้อยกลายเป็นหญ้าที่แห้งกรอบ
"พี่รู้หรือเปล่าว่า ทำไมปูพวกนี้ทั้งๆ ที่ตัวเล็กมากแต่มันแข็งราวกับก้อนหิน"
"เพราะมันกินแร่หินเป็นอาหารใช่ไหมครับ"
"ถูกต้อง มันกินแร่ แล้วเอาแร่ธาตุมาใช้เสริมร่างกาย แต่มันก็ต้องเสียเวลาบางส่วนลอกคราบ..." เพรายังอธิบายไม่เสร็จ ก็เริ่มมีรอยร้าวเล็กๆ หลายรูถูกกระแทกออกมา "...ใต้พื้นนี่ไง"
เหล่าปูตัวน้อยก็เริ่มกระแทกพื้นที่ทั้งสองคนอยู่กันออกมาหลายสิบตัว แต่หน้าตาของมันไม่เหมือนกันปูถ่านหินแบบพวกหุ่นวิ่งเก็บที่สีดำราวกับหิน แต่เจ้าพวกนี้สีขาวและปลายขาแต่ละข้างที่มีสีออกดำ ดูอ่อนแอไม่เหมือนปูถ่านหินทั่วไป
"น้องเพรา ทำไมปูมันตัวใสๆ ไม่เหมือน..." นอททัมยังถามไม่เสร็จเพรา ก็วิ่งจับปูด้วยมือเปล่าคว้าใส่กล่องอย่างรวดเร็ว
"ตอนนี้รีบเก็บก่อน ก่อนที่พวกมันหายร้อน"
"อะๆ ได้ครับ น้องเพรา"
เนื่องจากนิสัยของปูชนิดนี้เวลาจะลอกคราบนั้นจะขุดดินลงรู เพื่อป้องกันนักล่าเข้ามากินตอนพวกมันกำลังอ่อนแอ และการที่เพราเร่งความร้อนให้กับพื้นทำให้เหล่าปูทนความร้อนไม่ไหวจนต้องออกมาระบายความร้อนก่อนกระดองจะครบ ระหว่างทั้งสองคนกำลังมุ่งมั่นในการเก็บปูถ่านหิน เพราก็เริ่มรู้สึกได้ว่าไม่ใช่แค่พวกเขาเท่านั้นที่กำลังเก็บปูถ่านหินที่เพราเป็นคนเรียกมา เสียงของเครื่องจักรที่กำลังเข้าใกล้ตัวพวกเขามากขึ้น เพราได้ยินเสียงกำลังจะคว้ามีดที่ซ่อนไว้ออกมาแต่...
"อย่ามาทำตัวหมาลอบกัดแบบนี้สิครับพวกคุณหุ่นยนต์" นอททัมจับมือหุ่นยนต์ตัวหนึ่งที่กำลังจะขโมยกล่องใส่ปูถ่านหินของเพรา
"ทำตามคำสั่ง... ขัดขวาง ต้องหยุดพวกคุณสองคน"
ตอนนี้ไม่ใช่แค่หนึ่ง แต่มีพวกหุ่นยนต์ที่กำลังวุ่นวายกับการเก็บปูอยู่นั้นก็หันมามองทั้งสองคนด้วยความน่ากลัว พวกหุ่นทั้งหมดได้ล้อมเพราไว้หมดแล้ว แล้วมีหุ่นตัวหนึ่งเดินเข้ามาหาสองคน
“เห็นไหมบอกแล้ว ว่าพวกนี้ต้องมีระบบอื่นที่ไม่ใช่ทำอาหารแน่นอน เดี๋ยวเอากล่องใส่ปูเก็บในกระเป๋าก่อน” เพราเดินมาด้านของนอททัมเปิดกระเป๋าเป๋เก็บกล่องปูให้เรียบร้อยพร้อมหยิบกระทะคู่ใจของเขา
"ถ้าพวกเราไม่หยุดคุณ พวกเราจะกลายเป็นเหล็กอัด ฉะนั้นส่ง ปูถ่านหิน ทั้งหมดที่พวกคุณ..." มีหุ่นอีกตัวหนึ่งพูดขึ้นมาพร้อมกับยืดแขนพยายามจะขโมยของในกระเป๋าเป๋
โผ๊ะ (เสียงของแข็งกระแทกวัตถุ)
"ว้าว น้องเพรา โคตรเท่เลย"
ภาพที่นอททัมเห็นเป็นชายหนุ่มดวงตาสีมรกตกำลังหวดกระทะประจำตัวของเขากระแทกไปที่หัวของหุ่นจนหลุดออกจากตัว แววตาของเพราเปลี่ยนไปมาก เป็นแววตาที่ดุดันพร้อมจะจบชีวิตหุ่นทั้งหมด
"ถ้าพวกแกคิดจะนำเศษเหล็กมาจับวัตถุดิบของฉันอีกที พวกแกได้รวมตัวไปร้านขายเศษเหล็กแน่ ไอ้หุ่นกระป๋อง พี่นอททัม ช่วยหลบ…อ้าว" เพราที่กำลังควงอาวุธกระทะของเขาพร้อมจะลุย เขาได้สั่งให้เพื่อนร่วมทีมถอยห่าง แต่สิ่งที่เพราเห็นเป็นภาพของนอททัมกำลังเด็ดหัวหุ่นยนต์ทีละตัวสองตัวด้วยความสบายใจ
“ว่ายังไงนะน้องเพรา…”
“ช่างเหอะ อย่างน้อยก็ไม่ได้เสียแรงให้กับหุ่นพวกนี้นาน พี่นอททัมกลับดีกว่าเราเหลือเวลาไม่ถึงชั่วโมงแล้ว”
...
เหลือเวลาอีก 50 นาที
ตอนนี้เหล่าหุ่นยนต์ทำอาหารของวุยทารันเริ่มทยอยกลับมาพร้อมกับปูถ่านหินสีดำมันวาว พวกมันเริ่มพยายามแกะเนื้อปูออกมาจากเปลือกสุดแข็ง บางตัวทำการเตรียมวัตถุดิบอื่นเพื่อนำมาผสมกับเนื้อปู ด้วยลักษณะที่เป็นมืออาชีพของหุ่นยนต์ทำให้ เหล่าชาวเมืองสนใจ วุนทารันเห็นโอกาสในการทำการค้าเพิ่มยอดขาย เขาเริ่มโฆษณาสินค้าของเขา
“วงการทำอาหารต้องเปลี่ยนไป พวกเราไม่ต้องง้อร้านอาหารชื่อดัง ไม่ต้องเสียเวลายืนรอต่อแถวเพื่อของอร่อย เพราะเราสามารถมีอาหารอร่อยทานได้ที่บ้าน ด้วย CF5K สินค้าใหม่ของเรา แถมถ้าใครสนใจสั่งจองตอนนี้ เราแถมโปรแกรมสำหรับคนที่ต้องการเปิดร้านอาหารด้วยนะครับ” ทักษะการเจรจาพูดคุยของพ่อค้าวุยทารันนั้น ทำให้ดึงดูดเหล่าชาวเมืองให้สนใจมากขึ้น หลายคนเริ่มทยอยลงชื่อสั่งจองกัน
"ยังเป็นคนหาโอกาสทำเงินได้ตลอดเลยนะเจ้าวุย แล้วเจ้าเด็กนั้น…ชื่ออะไรนะลืมไปแล้ว" ลิคซ์นั่งโต๊ะฝั่งกรรมการ เธอจิบชายามบ่ายที่พ่อบ้านของเอมโปเตรียมมาให้ หันมาพูดกับชูร์ที่นั่งจิบน้ำชาอยู่ข้างๆ
"ดิฉันไม่เข้าใจว่า คุณจะเชิญ เพื่อนของเด็กปากเสียมานั่งด้วยทำไม เสียอรรถรสของชายามบ่ายหมด มูเตของ ชา" เอมโปสั่งพ่อบ้านของรินน้ำชาแก้วด้านหน้าของเธอ
พ่อบ้านเอมโปรินน้ำชา “ผมจัดสำหรับเปอติฟูร์ [1] รับประทานไหมครับคุณนายครับ” พ่อบ้านมูเตยกจานสำหรับเสิร์ฟขนมยื่นมาวางไว้ตรงหน้าของเอมโป ภายในจานมีขนมชิ้นเล็กๆ สีสันสวยงามน่าทาน จนทำให้ชูร์กับลิคซ์ตาเป็นประกาย
[1] เปอติฟูร์ / เปอติโฟร์ (Petit Four) เป็นคำภาษาฝรั่งเศสที่ใช้เรียกขนมอบขนาดเล็กซึ่งสามารถรับประทานในคำเดียว
“พอก่อน ทานเยอะจะอิ่ม นายเก็บไปได้เลย” ชูร์กับลิคซ์กำลังจะหยิบขนมแสนสวย แต่ถูกพ่อบ้านยกเก็บไปก่อน
“ถามหนูยังว่าอยากกินไหม ไม่ใช่ตัวเองไม่กินแล้วเก็บไปเลย น้ำชาก็จืด” ชูร์มองบนแสดงให้กรรมการทั้งสองตัวว่าเขาไม่พอใจแค่ไหน
"ทำไมกลุ่มเจ้าเด็กนั้น มันมีแต่คนหยาบคายแบบนี้นะ"
"ก็ปกติของเด็กๆน่าเอมโป ดูสิเจ้าเด็กสองคนนั้นมาแล้ว" ลิคซ์ชี้ไปทางทั้งสองคน
เพรากับนอททัมเดินมาอย่างสบายใจ โบกมือทักทายกรรมการทั้งสองและกวักมือเรียกชูร์ พวกเขาเดินเข้าไปในตัวรถเพื่อเตรียมทำอาหารแห่งชัยชนะของพวกเขา นอททัมหยิบหม้อต้มขนาดใหญ่หนึ่งใบกับขนาดกลางหนึ่งใบเตรียมใส่น้ำ
"พี่นอททัมตามที่คุยเลยนะ ตั้งหม้อไว้สองหม้อ หม้อหนึ่งลวกปู อีกหม้อต้มน้ำเปล่าไว้นะ"
"โอเคครับ น้องเพรา"
ตอนนี้ในครัวกำลังมีคนสองคนที่เดินวนไปมาด้วยความเร็วเกินกว่าชูร์จะเข้าใจได้ เพราเปิดตู้เย็นหยิบ ไข่ไก่ เกล็ดขนมปัง เนย เลม่อน และยังกระปุกแปลกๆที่มีของเหลวข้นสีขาว ส่วนทางนอททัมเหมือนคนที่ทำอาหารยังไม่คล่อง เปิดกล่องเก็บปูถ่านหิน แล้วพูดขอโทษกับพวกปูทีละตัวอย่างตั้งใจ เพราที่เดินมาหาเห็นเลยเทปูทั้งหมดลงหม้อทันที
"น้องปู!!! อย่าใจร้ายกับร้องปูแบบนี้สิครับ น้องเพรา"
"เรามันจะสุกพร้อมกันไหมถ้าพี่ ใส่ที่ละตัวแบบนี้ อีกหนึ่งนาทีวิเอาขึ้นได้นะ เพราะพี่ใส่ตอนน้ำยังไม่เดือด"
"พวกแกสองคน สนิทกันเร็วเหมือนกันนะ" ชูร์ยิ้มให้กับทั้งสอง พร้อมจิบน้ำชาที่หยิบติดมือมา "จืดโคตรเลย"
“ห้าสิบห้า ห้าสิบหก ห้าสิบเจ็ด ห้าสิบแปด ห้าสิบเก้า หกสิ…สิ๊บบบบบ” นอททัมที่ยืนมองปูถ่านหินที่จากสีขาวกลายเป็นสีแดงอยู่พร้อมกับนับเวลาในใจให้ครบสิบหนึ่งนาที ก็โดนทำให้ตกใจอีกครั้งเพราะเพราใช้มือเปล่าคว้าปูในน้ำร้อนทันที “น้องเพรา!!!”
“เปลี่ยนตำแหน่งกันพี่ ผมเอาเกล็ดขนมปังคลุกกับเนยแล้วช่วยเอา เกล็ดขนมปังไปอัดกับในหลุมถาดหลุมอบขนมให้หน่อย” เพราสั่งนอททัมให้เปลี่ยนตำแหน่งการทำงาน ส่วนตัวเขาหยิบปูถ่านหินทั้งหมดที่ต้มแล้วออกจากหม้อต้มเดือดหน้าตาเฉย ทำให้นอททัมยืนมองดูอาการเป็นห่วงกลัวว่าเพื่อนคนใหม่ของเขาจะบาดเจ็บ “ยืนมองอะไรอยู่ได้ รีบทำผมใช้ว่าแกะเนื้อปูไม่นานหรอก”
ชูร์ยืนมองทั้งสองแล้วขำออกมา “นอททัมเขาเป็นห่วงแขนของแกจะโดนน้ำร้อนลวกจ้า นอททัมไปทำตามที่พ่อครัวตัวน้อยสั่งเหอะ หมอนั้นทนความร้อนได้สูงมากร่างกายไม่เป็นอะไรแน่นอน” นอททัมที่ได้ยินแบบนั้นก็ยังอดห่วงเพราไม่ได้ แต่ต้องทำตามคำสั่งของสองพี่น้องไม่งั้นอาหารจะเสร็จไม่ทัน
นอททัมมองดูชามเกล็ดขนมปังที่คลุกกับเนยเหลวเรียบร้อย ชายร่างโตได้แต่คิดว่าพ่อครัวคนนี้น่าจะไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน พลังในการควบคุมความร้อนเป็นความสามารถทางเวทมนตร์ที่ไม่ค่อยมีคนสนใจมากเท่าไร อุณหภูมิของเกล็ดขนมปังกำลังอุ่นพอดีมือของนอททัมไม่ร้อนจนเกินไป ไม่เหมือนกับเนยที่พึ่งละลายเลย นอททัมเริ่มอัดเกล็ดขนมปังเข้ากับหลุมของถาดอบขนม ส่วนตอนนี้เพราใช้เวลาไม่นานมากในการแกะปูก็เสร็จแล้วเขาเริ่มหยิบชามผสมอาหารเพื่อเตรียมขั้นตอนต่อไป
เพราหันไปดูนอททัมที่กำลังตั้งใจทำฐานอาหารจากเกล็ดขนมปัง “ทำสวยเหมือนกันนะพี่ เคยทำอะไรแบบนี้มาก่อนไหมดูมีทักษะมากเลย”
“ไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่รู้สึกว่าชินมือมากเลย อะเสร็จแล้วเราทำอะไรต่อ นั้นอะไรเหรอน้องเพรา” นอททัมมองไปยังชามผสมอาหารหน้าเพราที่มีส่วนผสมของเนื้อปู ไข่ ครีมชีส น้ำเลม่อน สมุนไพรซอย และสิ่งสุดท้ายเป็นของที่ไม่นอททัมไม่เคยเห็น มันบรรจุอยู่กล่องเก็บอาหารสีเหลืองทึบ
เพราเปิดฝาวัตถุดิบปริศนาแล้วตักมันออกมาใส่ลงในชามผสมอาหารเนื้อสีขาวเหลวคล้ายกับโยเกิร์ต “ครีมเปรี้ยว”
[เกร็ดความรู้หลังครัว]
ปูถ่านหินที่เพราจะไปประกอบอาหารนั้นได้ไอเดียมาจาก ปูนิ่ม ตอนเด็ก เราคิดว่าปูนิ่มคือชื่อพันธุ์อารมณ์ ปูม้า ปูก้ามดาบ แต่พึ่งเข้าใจว่า ปูนิ่ม นั้นคือปูที่อยู่ในช่วงลอกคราบตัวปูจะมีความอ่อนมาก กินได้ทั้งตัว ไม่ต้องแกะกระดอง จึงถูกเรียกว่า ปูนิ่ม