พ่อครัววังหลวง คือผู้ทำอาหารให้กับเหล่าผู้คนชั้นสูงในวัง เป็นตำแหน่งของพ่อครัวที่ใครๆก็อยากไต่ไปถึง และหนึ่งในนั้นต้องเป็น 'เพรา' คลื่นลูกใหม่แห่งวงการพ่อครัวจอมเวทย์ที่พร้อมกระตุ้นความอร่อยด้วยมือเขา

บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท - เมนูที่ 7 แพนเค้กนุ่มฟู โดย คอคิจ @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ผจญภัย,แฟนตาซี,ครอบครัว,ไทย,ตะวันตก,ดราม่า,แฟนตาซี,ทะลุมิติ,ต่างโลก,อาหาร,ผจญภัย,เวทมนต์,มอนสเตอร์,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ผจญภัย,แฟนตาซี,ครอบครัว,ไทย,ตะวันตก

แท็คที่เกี่ยวข้อง

ดราม่า,แฟนตาซี,ทะลุมิติ,ต่างโลก,อาหาร,ผจญภัย,เวทมนต์,มอนสเตอร์

รายละเอียด

พ่อครัววังหลวง คือผู้ทำอาหารให้กับเหล่าผู้คนชั้นสูงในวัง เป็นตำแหน่งของพ่อครัวที่ใครๆก็อยากไต่ไปถึง และหนึ่งในนั้นต้องเป็น 'เพรา' คลื่นลูกใหม่แห่งวงการพ่อครัวจอมเวทย์ที่พร้อมกระตุ้นความอร่อยด้วยมือเขา

ผู้แต่ง

คอคิจ

เรื่องย่อ

บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวทย์

Record the recipe of the Royal chef

หมวดหมู่ : แฟนตาซี ทำอาหาร การแข่งขัน ต่อสู้(นิดหน่อย)

__________________________

 

การเป็นพ่อครัววังหลวงนั้นเป็นความฝันและเป้าหมายชีวิตของเหล่าพ่อครัว เหล่านักสร้างความอร่อยให้กับโลกใบนี้ การเป็นพ่อครัววังหลวงที่หลายปีจะเปิดรับพ่อครัวรุ่นใหม่เพียงแค่ 4 คนเท่านั้นเป็นหัวหน้าพ่อครัวประจำฤดูทั้งสี่ และหนึ่งผู้จะเข้าชิงตำแหน่งนั้นคือ ‘เพรา’ พ่อครัวจากเมืองเล็กๆแห่งนั้น แรงปรารถนาของเขาอาจจะไม่เหมือนใคร เพราะเขาไม่ต้องการ ชื่อเสียง เงินทอง เกียรติยศ หรือความสุขสบาย สิ่งที่เขาต้องการแค่ ความจริง 

“แค่เป็นเหมือนนายให้ได้ใช่ไหม แล้วชั้นจะรู้ความจริง…” - เขียวใบไม้

“การที่ผมมาอยู่ตรงนี้ได้ มาจะช่วยเติมเต็มได้จริงเหรอ?” - แดงเนื้อสัตว์

“การเป็นพ่อครัววังหลวง มันจะแสดงให้ตระกูลเห็นว่าเราเองก็มีค่า” - ม่วงเปลือกมังคุด

“อยากให้คุณอยู่เห็นความสำเร็จของคุณจังเลย …ที่รัก” - ครามทะเล

“ฉันยืนอยู่ตรงนี้นะ กำลังใจของพวกนาย” - กลิ่นน้ำมันเครื่อง

 

_____________________________

 

 

สารบัญ

บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 1 สลัดสไลม์ทอด,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 2 สตูว์เนื้อ,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 3 แซนด์วิชทงคัตสึหมูโคลน,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 4 ฟาฮิตาไก่,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 5 ปูถ่านหิน,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 6 เค้กปูแบบพอดีคำ,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 7 แพนเค้กนุ่มฟู,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 8 ไข่ผำบนหลังแมงป่อง,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 9 ปลากะพงย่างพาสต้าไข่ผำซอสเพสโต้,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 10 คุณกระต่ายว่ายน้ำนม เบอร์ 2,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 11 นมถั่วพิตาชิโอ้,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 12 ขนมพระพาย,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 13 สไลม์ผลไม้,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 14 ระบำจิ้งจอกม่านหมอกเพลิง,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 15 คาเนลโลนีทุเรียนซ่อนแอบ,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 16 หมึกต้นไม้,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 17 โอโคโนมิยากิหมึกต้นไม้,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 18 ยำเห็ด ซุปเห็ด สเต๊กเห็ด และพุดดิ้ง,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 19 เจ้าปลามีขา,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 20 ดอกบัวเงือกหวาน,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 21 ช่อม่วงไส้กุ้ง,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 22 เคลพีสามทาง,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 23 สตรอเบอร์รี่ ครีมชีส พาร์เฟต์,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 24 เข็มกลัดว่าที่พ่อครัววังหลวง (ชั่วคราว),บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 25 ไก่ผัดเมล็ดวินลัท,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 26 บุหลันดั้นเมฆ,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 27 แกะขนทราย,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 28 ปอเปี๊ยะสด,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 29 ป๊อปคอร์นวาซาบิ

เนื้อหา

เมนูที่ 7 แพนเค้กนุ่มฟู

สามวันผ่านไป

หลังจากได้พักแรมและซื้อของที่จำเป็นในการดำรงชีวิต รวมถึงของเล่นต่างๆ ให้เจ้าแม่วิศวะเครื่องกลประจำกลุ่ม ทั้งสามคนได้เริ่มวางแผนการเดินทางต่อไป แต่เพรามีแผนตั้งแต่แรกว่าภายในสามวัน พวกเขาจะต้องเดินทางไปถึงเมืองหลวงของเขตนี้ เพื่อจะได้ไปลงทะเบียนเป็นผู้สมัครพ่อครัววังหลวง เพราะอีกไม่กี่วันจะเริ่มมีการคัดตัวรอบแรกแล้ว แต่ติดตรงที่คุณช่างซ่อมของเรา ชอบแวะเมืองต่างๆ ทำให้ช้ากว่าที่คิดไว้

"ผมว่าพี่ทำอาหารได้เชื่อผมสิ นอททัม พี่ลองมาสามวันแล้วนะ ขนาดพี่มีแขนเดียวยังคล่องขนาดนี้ ลองไปสมัครกับผมดีกว่า" เพราพูดขณะกำลังทอดเบคอนอยู่ในครัว เขามองไปทางนอททัมที่กำลังใช้มือข้างเดียวแยกไข่แดงกับไข่ขาว

นอททัมยิ้มแห้งๆ เขาคิดในใจว่าคนแขนเดียวแบบนี้จะทำอาหารได้ที่ไหนกัน นอททัมถอนหายใจ แต่ผลงานของเขาในการแยกไข่นั้นสวยงามมาก ไข่ขาวและไข่แดงแยกออกจากกันโดยไม่มีเนื้อไข่ขาวปน

"ขนาดผมไม่ได้สอนอะไรให้ ยังแยกไข่ได้สวยขนาดนี้ เชื่อสิว่าทำได้" เพราเดินมาดูชามไข่ขาว จากนั้นหยิบกระปุกเล็กๆ ตักผงใส่เข้าไป นอททัมก็มาดูด้วยความสนใจ "แหม อยากรู้เหรอว่าคืออะไร ไอ้เจ้านี่คือครีมออฟทาร์ทาร์ ช่วยให้เวลาตีไข่ขาวอยู่ฟูนาน ปกติเขาจะใช้ทำพวกชิฟฟ่อนหรือเค้ก"

เพราใช้ตัวของช้อนชาตักครีมออฟทาร์ทาร์ หลังจากนั้นยื่นตะกร้อไฟฟ้าให้กับนอททัม เป็นการส่งสัญญาณว่าให้ลองทำดู และด้วยความที่นอททัมไม่เคยจับเครื่องมือทำครัวที่เป็นไฟฟ้า ก็ทำเกิดความวุ่นวายนิดหน่อย ไข่ขาวที่อยู่ในชามก็เกือบกระเด็นกระดอนไปทั่วครัว ยังดีที่นอททัมรู้ตัวทันและเริ่มเข้าใจการทำงานของมันทำให้ทุกอย่างกลับมาราบรื่น

เมนูประจำวันนี้คือแพนเค้ก ที่เป็นแพนเค้กแบบซูเฟล่แพนเค้ก หรือเพราเรียกว่าแพนเค้กก้อนเมฆ หนึ่งในเมนูลับของพัมพีที่เพราได้ฝึก เพราะเป็นเมนูที่ต้องใจเย็นมากๆ ในการทำเมนูนี้ต้องมีมือที่นิ่งและทักษะการควบคุมไฟในขั้นสูง และในวันนี้เพราเลือกกินแพนเค้กมาคู่กับเบคอนกรอบๆ เพราะว่าตัวอ่อนแมลงที่เคยทำไป ชูร์มารู้ทีหลังเธอโมโหมากจนอยากจับเพราและพัมพีไปชุบแป้งทอด

"ถามจริงทำไมคนเราต้องกินแพนเค้กเป็นข้าวเที่ยงเหรอ อุ๊ยต๊ายคุณน้องชาย ไอ้แพนเค้กดึงๆ แกก็ยังมีความอดทนทำนะ รู้ไหมนอททัมกว่าไอ้หนูนี่จะทำแพนเค้กได้ เกือบเผาบ้านสามรอบ ฉะนั้นถ้าแกทำให้รถฉันมีแม้แต่รอยดำ ฉันจะเอามีดทั้งหมดของแกมาตีให้บิ่น หมดแน่"

"แหกตาดูก่อนไหมว่ามันเสร็จแล้ว"

"ค่า ที่จริงฉันจะมาบอกแค่อีกสามชั่วโมงจะถึง เมืองแมโกทินน่า เตรียมตัวให้เรียบร้อยด้วย ส่วนแพนเค้ก ฉันจะยกไปกินหน้ารถนะจ๊ะ" ชูร์หยี่หัวเพราเบาๆ คว้าแพนเค้กที่พึ่งทำเสร็จไปกินคนเดียว

เพรามองชูร์ด้วยสายตาเหนื่อยใจ แล้วเดินไปที่ตู้กับเก็บอุปกรณ์เครื่องครัวแล้วหยิบหนังสือเล่มหนาปกเขียวเข้มยืนให้กับนอททัม "ลองอ่านดูก็ได้นะ มันเป็นหนังสือรวมสูตรอาหารที่ผมเคยทำช่วงแปดปีที่ผ่านมา เห็นแบบนี้ลายมือผมสวย อ่านรู้เรื่องแน่นอน"

นอททัมรับมาอย่างไม่เต็มใจเท่าไรนัก ส่วนเพราก็ปล่อยให้นอททัมอยู่ห้องครัวคนเดียว แล้วปรับประตูห้องครัวให้หมุนเปลี่ยนเป็น 'ห้องเพรา' เพราวางแผนว่าจะนอนสักหน่อยก่อนที่จะถึงเมืองใหม่ และยังบอกกับนอททัมอีกว่าให้ลองทำเมนูอะไรก็ได้ในหนังสือ ทุกอย่างในครัวมีครบแล้ว นอททัมก็ได้แต่มองหนังสือกับข้าวของในครัว

'เป็นคู่พี่น้องที่เอาแต่ใจเหมือนกันนะ'

 

...

 

ณ แมโกทินนา

แมโกทินนา หัวเมืองหลักของเขตปกครองอุสหกรรมของประเทศนี่ ถือว่าเป็นเมืองอันดับห้าในเรื่องความเจริญที่สุดในประเทศ แต่ถึงอย่างนั้นก็มีแต่ความเจริญจากอุตสาหกรรมยานยนต์และสิ่งประดิษฐ์ ในทางกลับกันอะไรก็ตามที่ไม่ได้ช่วยทำให้วงการสิ่งประดิษฐ์ก้าวหน้า ผู้ดูแลของที่นี่ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรเลย แต่อย่างน้อยพวกเขาก็ยังให้ความร่วมมือกับสำนักพระราชวัง ในการตามหาพ่อครัววังหลวง ทำให้เหล่าผู้คนมากหน้าหลายตากำลังทยอยเตรียมตัว กันมาเพื่อสมัครเป็นพ่อครัวในวังกันเต็มไปหมด

“เราหาที่จอดรถถูกๆนะพี่ การทดสอบใช้เวลาหลายชั่วโมง” เพราเดินมาหาซองใส่เอกสารบริเวณช่องเก็บหน้ารถ พรางบ่นเรื่องการใช้เงินของชูร์ไปด้วย “ถ้าพี่ไม่เอาเงินไปใช้ซื้ออะไหล่รถมาเยอะขนาดนั้น อย่างน้อยเราคงได้หาห้องพัก ไม่ก็ที่จอดรถดีๆ ได้แหละ”

ชูร์ยักไหล่และกลอกตาไม่ได้สำนึกผิด “ค่า คุณพ่อ ถามจริง ฉันอุสาพ้นจากคำบ่นของพ่อทุกๆวัน แล้วทำไมฉันต้องมาเจอคำบ่นของแกอีกรอบด้วย”

เพราหันมามองด้วยสายตาไม่พอใจ “เออๆ บ่นแล้วก็หัดจำบ้างนะ พี่จอดตรงนี้ได้เลย ผมกับนอททัมจะเดินไปส่งใบสมัคร ส่วนนี้คือเงินของวันนี้ของพี่ ใช้ให้มันเบาๆ บ้างนะ” ชูร์มองด้วยสายตาที่ค่อยพอใจ แต่ก็ต้องเอาเงินไว้ก่อน

ทั้งสองหนุ่มนอททัมและเพราลงจากรถแล้วเดินไปตามทางที่เพราจดเอาไว้ ด้วยการวางผังเมืองที่สวยงามทำให้เพราไม่ต้องเป็นกังวลกับถนนหนทาง แต่ต้องเป็นกังวลกับนอททัมแทนที่กลัวและประหม่ามาก หันซ้ายทีขวาที 

“น้องเพรา ให้พี่แค่เดินมาเป็นเพื่อนดีกว่าไหม พี่ไม่กล้าสมัครหรอกนะ” นอททัมกระตุกแขนเสื้อของเพราเบาๆ พร้อมด้วยใบหน้าที่แสดงถึงความกังวล

เพราหยุดเดินและมองหน้านอททัม “พี่กลัวไม่ผ่านการคัดตัวเหรอ” 

“กะ..ก็คงงั้น”

“แล้วถ้าไม่ผ่าน จะเกิดอะไรขึ้นกับพี่เหรอ” เพรายังคงมองนอททัมด้วยความสงสัย

“น่าจะ ไม่มีนะ แต่…” น้ำเสียงนอททัมให้มีความรู้สึกลังเล

“นั้นนะสิ ลองดูก็ไม่เสียหายนิ” เพราพูดจบก็ลากตัวนอททัมเดินต่อไป

ในใจของเพราอยากบอกว่า จากการที่รู้จักกันมาสองสามวันทำให้เพรารู้เลยว่านอททัมสนใจในการทำอาหารมาก หลายๆ ครั้งที่เพรากับชูร์ไม่ได้สังเกต นอททัมจะชอบแอบไปในครัวกลางดึกเพื่อลองทำอาหารตามที่เพราทำในวันนั้น ทำไมเพราถึงรู้เหรอ? เพราะเพราชอบเช็กของในครัวทำให้เขารู้ว่ามีของอย่างละนิดอย่างละหน่อยหายไป แถมรสมือของนอททัมคงไม่ได้แย่มากด้วย ถ้าเขาเดาไม่ผิดจากเครื่องปรุงที่ลดหายไป

 

สนามกีฬากลางแจ้งประจำเมือง

“มาคัดตัวเป็นพ่อครัววังหลวงสองคน นี่เอกสารกรอกเรียบร้อยแล้วทั้งสองใบ” เพรายื่นใบสมัครให้กับเจ้าหน้าที่หญิงแก่ใส่แว่นหนาๆ ที่มาพร้อมกับสร้อยคล้องแว่น

เจ้าหน้าที่หญิงมองใบสมัครอย่างพินิจพิเคราะห์ “เพรา รุกเฮิร์บ ประสบการณ์ 13 ปี แต่อายุ 18 ปี ไอ้หนุ่มจริงอยู่ที่เราก็ไม่ได้จะโฟกัสกับประสบการณ์หรอกนะ แต่เขียนอะไรให้มันจริงหน่อย เธอจะบอกว่า แต่แม่เธอคลอดมาพร้อมกับตะหลิว” คุณป้าพนักงานอ่านใบสมัครแล้วก็ได้ขำและดูถูกออกมา

“เห้ยป้า!” เพราที่กำลังจะเถียงเจ้าหน้าที่อยู่ก็โดนนอททัมกระตุกแขนห้ามเอาไว้ นอททัมมองไปทางเจ้าหน้าที่อย่างกังวลใจ

“ไหนดูอีกคน นอททัม พวกไม่มีสกุน สามวัน แถม…” ป้าเจ้าหน้าที่มองไปยังแขนข้างที่ขาดของนอททัม “มีมือเดียว ไปต่อมือก่อนนะค่อยมาสมัครใหม่ ต่อไป” เจ้าหน้าที่กำลังทำท่าฉีกใบสมัครของนอททัม

“มากไปเปล่า” เพรากระชากคอเสื้อเจ้าหน้าที่ตรงหน้าเอกสารทุกอย่างปลิวรอยพุ่งเต็มท้องฟ้า ผู้คนที่ยืนอยู่แถวนั้นทั้งผู้สมัครและคนทั่วไปก็ได้จับตามองเป็นในทิศทางเดียวกัน “เขาจะเป็นไง มันหนักหัวใคร แขนเขาจะขาด ใบสมัครมันห้ามหรือไง ปล่อยผม นอททัม คนแบบนี้ไม่น่าจะอายุยืนแบบนี้ได้หรอก”

นอททัมใช้แขนข้างเดียวของเขาล็อกตัวของเพราเอาไว้ ก่อนที่ชายหนุ่มเลือดร้อนจะไปต่อยหน้าคุณป้าเจ้าหน้าที่ ผู้คนเริ่มมุงดูสิ่งที่เพราทำมากขึ้น สายตาของพวกเขาจ้องมองเพราแล้วสังเกตแขนของนอททัม ทำให้เริ่มมีเสียงซุบซิบกันมากมายเกี่ยวกับแขนของชายร่างใหญ่และพ่อครัวตัวน้อย บ้างบอกว่าแขนข้างเดียวจะทำอะไรได้ บ้างก็บอกว่าเด็กคนนั้นจะต่อยป้าแก่ๆ แบบนั้นนะเหรอ แค่อารมณ์ยังควบคุมไม่ได้จะเป็นพ่อครัววังหลวงได้อย่างไร นอททัมที่ได้ยินเสียงดูถูกต่างๆ ก็ได้แต่ยิ้มสู้พร้อมกับความกลัวที่มีอยู่ในใจ ส่วนเพราที่รู้สึกถึงความสั่นกลัวของนอททัมก็ยิ่งทำให้อารมณ์ขึ้นไปมากขึ้นอีก

“ขออภัยพวกคุณด้วยนะครับ ขอทางพวกเราสองคนด้วยครับ” เสียงของชายหนุ่มตะโกนออกมาจากด้านหลังของฝูงชน 

เสียงของชายหนุ่มคนนั้นอาจจะสู้เสียงซุบซิบของชาวบ้านไม่ได้แต่สิ่งที่เขาทำคือการปล่อยจิตสังหารออกไป ไม่ใช่แค่ชาวบ้านแถวนั้นจะหันมาแล้วหลีกทางให้ เพราเองก็ถึงกลับหยุดสติขาด นอททัมปล่อยตัวเพราแบบไม่รู้ตัว เพราะจิตสังหารของผู้ชายที่อยู่ปลายทางนั้น ชายคนนั้นคลุมผ้าคลุมสีดำเข้มทั้งตัว เสื้อผ้าข้างในเป็นเสื้อเชิ้ตสีขาวกับกางเกงสีกรม มาพร้อมกับใบหน้าอันหล่อเหลา ผมสีเหลืองนวลเหมือเนื้อของกระเทียมได้ดีกับดวงตาสีฟ้าคราม กำลังส่งรอยยิ้มให้กับทุกคน

“เลิกยิ้มได้แล้ว ไม่เห็นเหรอว่าคนแถวนี้ เขากลัวนายกันหมดแล้ว มานึล” หญิงสาวชุดเดรสสีกรมเปิดหลัง ผมลอนงุ้มปลายเข้าสีม่วงอมแดง เดินมาคู่พร้อมกับชายหนุ่มชื่อว่า ‘มานึล’

“ครับ คุณหนูเมลเลก” ทั้งสองคนเดินเข้ามาหาเพราและนอททัม ชายหนุ่มทั้งสองมองหน้ากัน ได้แต่คิดว่าเขาจะมาหาเรื่องพวกเราอีกกลุ่มหรือเปล่า

“คุณมานึล ช่วยดิฉันด้วยค่ะ พวกเด็กบ้าพวกนี้จะทำร้ายฉัน ดูสิคะ เสื้อของฉันขาดขนาดนี้” คุณป้าพนักงานผลักเพราจนเกือบล้ม จากนั้นวิ่งไปหาชายสุดหล่อที่ชื่อว่า มานึล คาดว่าเขาน่าจะเป็นหัวหน้าของเธอ
            มานึลกับเมลเลกมองรอยยับของเสื้อที่เหมือนมีรอยไหม้เล็กน้อยตรงปกเสื้อ เมลเลกที่เห็นรอยแบบนั้นก็ได้แต่อมยิ้มพอเป็นพิธี ส่วนมานึลก็มองหน้าพนักงานด้วยสีหน้าไม่พอใจ แต่ก็มอบรอยยิ้มให้พนักงาน จับปกเสื้อของเธอจัดให้เรียบร้อย ก่อนยื่นหน้ามากระซิบเบาๆ ที่ข้างหู

“ทำตัวแย่ขนาดนี้ ยังต้องมาขอความช่วยเหลืออีก คุณแน่ใจแล้วใช่ไหม” คุณป้าพนักงานหน้าตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ออร่าแสงประกายอันโดดเด่นตอนแรกได้กลายเป็นเงามืดอันน่ากลัว “พรุ่งนี้หางานใหม่ได้แล้วนะครับ อันนี้เป็นคำสั่งไม่ใช่คำเตือนนะ”

“ขอให้โชคดีกับงานใหม่นะคะ” เมลเลกเดินผ่านไปแล้วกระซิบเบาๆ ข้างหูของคุณป้าอดีตตกงาน

สองหนุ่มสาวเดินอย่างสง่างามตรงมาที่เพราและนอททัม จากนั้นมานึลก็ได้ก้มหัวลงเพื่อแสดงความเสียใจและขอโทษต่อพนักงานของเขาเอง ทุกอย่างที่เกิด ส่วนเพราได้แต่ยืนงงว่าเรื่องทั้งหมดมันยังไงกัน สายตามองไปหาสาวผมสีม่วงอมแดง มองหน้าของเธอแล้วได้แต่คิดว่าเหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน

มานึลแนะนำตัวให้ทั้งสองรู้จัก “ลืมแนะนำตัวไปครับ ผม มานึล รองหัวหน้าพ่อครัววังหลวง ครัวฤดูร้อน และหนึ่งในกรรมการผู้ตัดสินการสอบคัดเลือกครั้งนี้ครับ ต้องขออภัยกับเรื่องที่เกิดขึ้นด้วยนะครับ เป็นความผิดของทางเราเอง” มานึลก้มลงพร้อมเก็บใบสมัครของสองคน ที่ตกลงพื้นขึ้นมา

“ไม่ได้ต้องก้มแล้ว น้องเพราทำไงดี แต่ก็ขอบคุณ นะครับ” 

“พี่ก็ไม่ต้องไปก้มตามเขาสิ วันหลังหัดคัดพนักงานบ้างแล้วกัน แต่ที่จริงน่าจะปล่อยให้อัดหน้าป้าสักทีสองทีก่อนค่อยห้ามจะดีมาก”

“โหดร้ายจังนะคะ พ่อตัวโตต้องหัดอบรมให้เพื่อนอารมณ์เย็นเหมือนเธอบ้างนะ” เมลเลกยืนกอดอก ยิ้มแล้วมองมาเพราด้วยสายตาที่แฝงไปด้วยความเย็นชา “เรื่องมันจะไม่วุ่นวายขนาดนี้ ถ้าหากใครบางคนรู้จักการระงับอารมณ์ ก็จะดีกว่านี้ ฝึกไว้หน่อยนะพื้นฐานของพ่อครัวที่ดีคือการควบคุมอารมณ์นะ พ่อมือเพลิง”

“ไร้สาระ การเป็นพ่อครัวคือการทำอาหารให้อร่อย ทำอาหารตามความต้องการได้ ก็จบปะ” ตอนนี้ทั้งเพราเมลเลกได้ต่อปากต่อคำกันไม่มีใครจะยอมแพ้ สายตาของทั้งคู่จ้องมองกันเหมือนที่จะให้อีกฝ่ายพ่ายแพ้ นอททัมกับมานึลต้องพยายามเกลี้ยกล่อม ให้ทั้งสองคนแต่ก็ไม่หยุดเถียงกันสักที

“พอแล้ว มันเสียเวลาชีวิตแค่ไหนรู้ไหม มานึล นายเอาใบสมัครเก่าของนายตัวโตกับนายอนาคตเด็กล้างจาน ไปกรอกให้จบๆ นะ ฉันจะไปข้างใน แล้วจะสอนให้รู้ว่าพ่อครัวที่แท้จริงเป็นไง” เมลเลกไม่ได้สนคำโวยวายของเพรา เธอเดินเข้าในตัวสนามกีฬาทันที 

“งั้นตัวผมก็ต้องขอตัวเหมือนกันนะครับ ส่วนสิ่งนี้เป็นกำไลข้อมือสำหรับการสมัครเข้าแข่งขันในรอบนี้ครับ อีกสองชั่วโมง ขอให้เป็นการทำอาหารที่วิเศษ”

นอททัมรับกำไลข้อมือมาจากมานึล ทั้งของตัวเองและของเพราเอาไว้ ชายร่างโตได้แต่ปรับจูนอารมณ์ของเพื่อนตัวเล็กของเขา ที่ยังบ่นเรื่องเมื่อครึ่งชั่วโมงที่เกิดขึ้นไม่หยุด ทั้งเรื่องพนักงานรับใบสมัคร เพราเชื่อว่าไม่ใช่เราสองคนหรอก ที่โดนครั้งแรก ต้องมีอีกหลายคนที่สมัครต้องเจอแบบนี้ เพราโกรธไม่ได้แค่โดนดูถูกหรือการว่าร้ายใส่นอททัม แต่เขายังเห็นเศษกระดาษที่โดนฉีกอีกสองถึงสามใบ ทำไมคนเราต้องให้คุณค่าและฝีมือของคนเราด้วยประวัติไม่กี่บรรทัดกัน

นอททัมที่ได้ยินเพราบ่นแบบนี้ก็อดอมยิ้มไม่ได้ กับความใส่ใจและความบ้าดีเดือดที่มาพร้อมๆกันของ เพื่อนคนนี้ “แต่อย่างน้อย โชคดีที่พวกเราได้สองคนนั้นมาช่วยนะ”

“ช่วยเหรอ แล้วทำไมคนก่อนหน้านั้นถึงไม่ช่วยละ มันแสดงถึงความไม่ใส่ใจในหน้าที่หรือเปล่า พี่นอททัมลองคิดดู” เพราตอบกลับทันที จนทำให้นอททัมเองเศร้าไปเลย

พอมาถึงข้างในสนามกีฬา ก็ได้เจอกับผู้คนมากมาย ทั้งหลายเผ่าพันธุ์ หลากหลายพื้นที่ และยังรวมไปถึงสเตเดียมทำอาหารกลางแจ้งอีกหลายร้อยชุดที่ตั้งวางเรียงกันอยู่ หลายคนก็กำลังพูดคุยกันเรื่องต่างๆ บางคนกำลังแลกเปลี่ยนเครื่องครัว อุปกรณ์ติดตัวกัน ส่วนทั้งสองหนุ่มเดินไปหาจุดลงทะเบียนสอง เพื่อยืนยันตัวตนด้วยกำไลดิจิทัลที่มานึลให้มา เจ้าที่พิมพ์เลขประจำตัวลงไปในกำไลข้อมือของทั้งสอง ของเพราได้ ‘015’ กับ นอททัม ‘809’ เพราก็เริ่มสงสัยอันดับแรกเลยนั้นก็คือหมายเลขของทั้งสองทั้งๆที่มาด้วยกัน แต่ทำไมไม่ใกล้เคียงกันเลย

“เอ๊ะ ทำไมผมกับน้องเพราลำดับห่างกันเป็นร้อยเลย”

“ทางเจ้าหน้าที่ไม่สามารถแจ้งเรื่องนี้ได้นะคะ เนื่องจากจะเป็นการช่วยผู้เข้าแข่งขันเกินไป ยังไงรบกวนท่านทั้งสองรอเวลาสนามสอบ เมื่อถึงเวลากรรมการคุมสอบจะแจ้งให้ทราบค่ะ” พนักงานหญิงผายมือไปทางสนามกีฬา

นอททัมได้รับการอธิบายของคุณพนักงาน แล้วก็ได้คิดว่าพนักงานพูดจาน่ารักๆ ก็มีนะเนี่ยดีจัง ส่วนเพราไม่ได้พูดอะไรมาก มองหาที่หลบแดดเพราะว่าการแข่งขันครั้งนี้ใช้พื้นที่สนามกีฬากลางแจ้ง ทำให้นอกจากจะมีผู้เข้าแข่งขันจำนวนมากแล้ว ยังมีเหล่าผู้ชมเล็กน้อยนั่งดูและคอยเชียร์เพื่อนๆของพวกเขา บนอัฒจันทร์สนามกีฬา หนึ่งในนั้นคือชูร์ พี่สาวคนสวยของเพรา 

“คุณชูร์ หาที่จอดรถเร็วเหมือนกันนะครับ” นอททัมชี้ไปที่นั่งคนดู “แต่ไม่เหมือนไม่ได้มาชมการคัดตัวของน้องเพราเลย เหมือนแค่เปลี่ยนบรรยากาศประดิษฐ์ของจากที่รถมาสนามกีฬาเอง”

“ปล่อยแกไปเหอะ” เพราดึงเสื้อนอททัมให้เดินต่อ

“อ้าว พ่อตัวโตกับนายอารมณ์ร้อน สวัสดี” เสียงของผู้หญิงที่ค่อนข้างคุ้นเคย ทักทายทั้งสองคนด้วยน้ำเสียงสดใส ทำให้ทั้งคู่หันหาไปที่ต้นเสียง “ไง เด็กล้างจาน” คำทักทายของเมลเลก ผู้หญิงที่มาพร้อมมาอึลเมื่อสักครู่ เธอยิ้มด้วยรอยยิ้มที่เป็นมิตรก็ไม่ใช่ ศัตรูก็ไม่ใช่ เป็นรอยยิ้มที่เดาทางไม่ถูก

“อ้าว คุณผู้หญิงเมื่อสักครู่ ขอบคุณอีกครั้งนะครับ ที่ช่วยพวกเราไว้”

“ไม่หรอกค่ะ ฉันไม่ได้ทำอะไรเลยด้วยซ้ำไป แต่ว่า... นายช่วยเลิกมองฉันด้วยสายตาแบบนั้นสักทีได้ไหม” เมลเลกพูดจายิ้มแย้มกับนอททัม แล้วหันไปมองเพรา เพราะเขามองด้วยสายตาที่ไม่พอใจ ทำให้เธอต้องกางพัดจีนสีม่วงที่พกมาด้วยปิดสายตาของเพรา

เพรามองไปที่ลายบนพัดเขารู้คุ้นมากกับลวดลายสไตล์นี่ “เธอ ก็เป็นผู้เข้าแข่งขันด้วยเหรอ เด็กเส้นหรือ…” เพรายังไม่ทันพูดจบ เมลเลกพุ่งเข้ามาด้วยความเร็วสูงใช้พัดจ่อไปที่ลูกกระเดือกเพรา ความเร็วของเธอเร็วมากจนทั้งสองยังมอบที่แทบไม่ทันว่าเข้ามาถึงตัวเพราตั้งแต่เมื่อไร ทั้งๆ ที่จะเข้าหาถึงตัวเพราต้องผ่านตัวนอททัมมาก่อนและระยะห่างของสองคนไม่ต่ำกว่าห้าเมตรแน่ๆ

“ช่วยมีมารยาทกับสตรีกันด้วยนะคะ เมลเลก เฟรุนเธ ผู้นี่ไม่จำเป็นต้องใช้คำว่าเส้นสายหรอกค่ะ ครั้งหน้ายังดูถูกหรือพูดไม่เข้าหูอีกรอบ มันจะไม่ใช่พัด และที่ดิฉันพูดมันไม่ใช่คำเตือน” พอเมลเลกพูดนามสกุลของตัวเองทำให้เพรานั้นเหมือนจะนึกอะไรออก

“สวัสดีครับ การสอบแข่งขันเพื่อเป็นผู้สมัครพ่อครัววังหลวงครั้งที่ 72 ของเขตนี้จะเริ่มแล้วนะครับ!” เสียงมาอึลพูดใส่ไมค์พิธีกร พร้อมจอมอนิเตอร์ทั่วสนาม แสดงเป็นหน้าของมาอึลขึ้นมา “ผม มาอึล อดีตผู้สมัครพ่อครัววังหลวงครั้งที่ 71 และ รองหัวหน้าพ่อครัววังหลวงแผนกฤดูร้อน จะเป็นพิธีกรและหนึ่งในกรรมการของการคัดเลือกรอบนี้ครับ” การพูดของมาอึลทำให้ทั้งสามคนที่กำลังจะมีเรื่องกันต้องหันไป มองความฝันของตัวเองที่กำลังเข้าใกล้ขึ้นมา

“ซึ่งตัวผมเองอาจจะไม่ได้เป็นกรรมการที่ดีพอ ทางเราจึงได้รับเกียรติจาก นายกสมาคมพ่อค้าไวน์ ท่านฟรองซัว และอีกท่าน” จอภาพทั่วสเตเดียมได้โชว์ภาพของกรรมการทั้งได้แก่ มาอึล ชายแก่ชุดสูท และ“คุณหญิงเอมโป เฟรุนเธ หัวหน้าตระกูลเฟรุนเธ รุ่นที่ 11”

ยังไม่ได้ทันแนะนำตัวของกรรมการอีกท่านใบหน้าของเมลเลกก็เปลี่ยนไป ใบหน้าที่สงสัยพร้อมกับใบหน้าของความโกรธเคืองในใจ “ท่านแม่…ไหนบอกว่าจะเป็นกรรมการให้เขตอื่น”

 

[เกร็ดความรู้หลังครัว]

ครีมออฟทาร์ทาร์ (Cream Of Tartar) เป็นเกลือโพแทสเซียม ใช้กับเค้ก เช่น ชิฟฟ่อนเค้ก หรือเบเกอรี่ที่ต้องตีไข่ขาว จะช่วยเพิ่มความฟูของแป้งและไข่ขาวให้มากขึ้น และไม่ยุบตัวเวลาอบเสร็จ อารมณ์มันจะเป็นเพื่อนๆของผงฟู แต่เน้นไปที่การเสริมโปรตีนมากกว่า ถ้าใครอยากทำพวกแพนเค้กซูเฟล่ เมอแรง หรือพวกขนมที่ตีไข่ขาวลองซื้อมาใช้ได้นะ ราคาไม่แรง แต่ดูถุงดีๆนะ มันก็จะมีผงฟู เบลกกิ้งโซดาอยู่ข้างกัน ดูดีๆนะ (ไม่ได้เตือนใครนะ เตือนตัวเอง