พ่อครัววังหลวง คือผู้ทำอาหารให้กับเหล่าผู้คนชั้นสูงในวัง เป็นตำแหน่งของพ่อครัวที่ใครๆก็อยากไต่ไปถึง และหนึ่งในนั้นต้องเป็น 'เพรา' คลื่นลูกใหม่แห่งวงการพ่อครัวจอมเวทย์ที่พร้อมกระตุ้นความอร่อยด้วยมือเขา

บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท - เมนูที่ 9 ปลากะพงย่างพาสต้าไข่ผำซอสเพสโต้ โดย คอคิจ @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ผจญภัย,แฟนตาซี,ครอบครัว,ไทย,ตะวันตก,ดราม่า,แฟนตาซี,ทะลุมิติ,ต่างโลก,อาหาร,ผจญภัย,เวทมนต์,มอนสเตอร์,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ผจญภัย,แฟนตาซี,ครอบครัว,ไทย,ตะวันตก

แท็คที่เกี่ยวข้อง

ดราม่า,แฟนตาซี,ทะลุมิติ,ต่างโลก,อาหาร,ผจญภัย,เวทมนต์,มอนสเตอร์

รายละเอียด

บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท โดย คอคิจ @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

พ่อครัววังหลวง คือผู้ทำอาหารให้กับเหล่าผู้คนชั้นสูงในวัง เป็นตำแหน่งของพ่อครัวที่ใครๆก็อยากไต่ไปถึง และหนึ่งในนั้นต้องเป็น 'เพรา' คลื่นลูกใหม่แห่งวงการพ่อครัวจอมเวทย์ที่พร้อมกระตุ้นความอร่อยด้วยมือเขา

ผู้แต่ง

คอคิจ

เรื่องย่อ

บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวทย์

Record the recipe of the Royal chef

หมวดหมู่ : แฟนตาซี ทำอาหาร การแข่งขัน ต่อสู้(นิดหน่อย)

__________________________

 

การเป็นพ่อครัววังหลวงนั้นเป็นความฝันและเป้าหมายชีวิตของเหล่าพ่อครัว เหล่านักสร้างความอร่อยให้กับโลกใบนี้ การเป็นพ่อครัววังหลวงที่หลายปีจะเปิดรับพ่อครัวรุ่นใหม่เพียงแค่ 4 คนเท่านั้นเป็นหัวหน้าพ่อครัวประจำฤดูทั้งสี่ และหนึ่งผู้จะเข้าชิงตำแหน่งนั้นคือ ‘เพรา’ พ่อครัวจากเมืองเล็กๆแห่งนั้น แรงปรารถนาของเขาอาจจะไม่เหมือนใคร เพราะเขาไม่ต้องการ ชื่อเสียง เงินทอง เกียรติยศ หรือความสุขสบาย สิ่งที่เขาต้องการแค่ ความจริง 

“แค่เป็นเหมือนนายให้ได้ใช่ไหม แล้วชั้นจะรู้ความจริง…” - เขียวใบไม้

“การที่ผมมาอยู่ตรงนี้ได้ มาจะช่วยเติมเต็มได้จริงเหรอ?” - แดงเนื้อสัตว์

“การเป็นพ่อครัววังหลวง มันจะแสดงให้ตระกูลเห็นว่าเราเองก็มีค่า” - ม่วงเปลือกมังคุด

“อยากให้คุณอยู่เห็นความสำเร็จของคุณจังเลย …ที่รัก” - ครามทะเล

“ฉันยืนอยู่ตรงนี้นะ กำลังใจของพวกนาย” - กลิ่นน้ำมันเครื่อง

 

_____________________________

 

 

สารบัญ

บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 1 สลัดสไลม์ทอด,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 2 สตูว์เนื้อ,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 3 แซนด์วิชทงคัตสึหมูโคลน,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 4 ฟาฮิตาไก่,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 5 ปูถ่านหิน,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 6 เค้กปูแบบพอดีคำ,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 7 แพนเค้กนุ่มฟู,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 8 ไข่ผำบนหลังแมงป่อง,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 9 ปลากะพงย่างพาสต้าไข่ผำซอสเพสโต้,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 10 คุณกระต่ายว่ายน้ำนม เบอร์ 2,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 11 นมถั่วพิตาชิโอ้,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 12 ขนมพระพาย,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 13 สไลม์ผลไม้,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 14 ระบำจิ้งจอกม่านหมอกเพลิง,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 15 คาเนลโลนีทุเรียนซ่อนแอบ,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 16 หมึกต้นไม้,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 17 โอโคโนมิยากิหมึกต้นไม้,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 18 ยำเห็ด ซุปเห็ด สเต๊กเห็ด และพุดดิ้ง,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 19 เจ้าปลามีขา,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 20 ดอกบัวเงือกหวาน,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 21 ช่อม่วงไส้กุ้ง,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 22 เคลพีสามทาง,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 23 สตรอเบอร์รี่ ครีมชีส พาร์เฟต์,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 24 เข็มกลัดว่าที่พ่อครัววังหลวง (ชั่วคราว),บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 25 ไก่ผัดเมล็ดวินลัท,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 26 บุหลันดั้นเมฆ,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 27 แกะขนทราย,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 28 ปอเปี๊ยะสด,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 29 ป๊อปคอร์นวาซาบิ

เนื้อหา

เมนูที่ 9 ปลากะพงย่างพาสต้าไข่ผำซอสเพสโต้

 

“ปลากะพงย่างพาสต้าไข่ผำซอสเพสโต้”

เพราถือจานอาหารมาวางไว้ที่โต๊ะของกรรมการ เป็นจานแบนสีขาวที่มีพาสต้าเส้นแบนสีเหลืองมีลายจุดสีเขียวเข้มโดนคลุกและเคลือบไปด้วยซอสเพสโต้สีเขียวนวล หอมกรุ่นจากใบโหระพา กระเทียม ถั่ว และน้ำมันมะกอก ผสมผสานกันอย่างลงตัวตัดด้วยไข่มุกสีแดงสดที่คลุกไปกับซอสและเส้น ทั้งหมดนั้นถูกวางทับด้วยชิ้นปลากะพงย่างหนังสีทองกรอบบ่งบอกถึงความสุกกำลังดี เนื้อของปลาขาวนวลก็ดูชุ่มฉ่ำ

“ถือว่าเป็นคนแรกนะครับที่ได้ เสิร์ฟของที่ดูเป็นอาหารจริงๆ” มาอึลพูดพร้อมกับมองดูจานของเพราอย่างชื่นชม กลิ่นหอมของเนื้อปลาย่างและซอสเพสโต้กระตุ้นความอยากอาหารของเขา “ตัวเส้นทำขึ้นเอง ตัวเนื้อผสมไปไข่ผำ ซอสเพสโต้มีกลิ่นหอม แต่ถึงหน้าตาจะออกมาดี เราก็ต้องชิมอยู่ดีเชื่อกรรมการทั้งสองท่านชิมอาหารจานนี้ครับ”

เพรายืนมองดูกรรมการทั้งสามคนชิมพาสต้าของเขาด้วยความมั่นใจในรสชาติ แต่สีหน้าและท่าทางของกรรมการไม่ได้แสดงอาการอะไรออกมา ทำให้เพราและผู้ชมไม่สามารถเดาไม่ออกเลยว่าอาหารจานนี้จะเป็นจานแรกหรือเปล่าที่ได้ผ่านการสอบครั้งนี้ หนึ่งในกรรมการอย่างฟรองซัวกินได้แค่สองสามคำก็หยุด คุณหญิงเอมโปกินไปได้คำเดียวก็หยุด บรรยากาศเริ่มไม่สู้ดี สีหน้าของพ่อครัวเริ่มแสดงอาการสับสนและไม่พอใจ

นอททัมเห็นสีหน้าของเพราแล้ว รู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไร กลัวเพราจะอาละวาดในสนามแข่ง ทำให้ชายร่างโตคิดได้แค่ว่าต้องเดินไปให้เขา แต่โดนเมลเลกพูดห้ามเอาไว้ก่อน “หมอนั้นผ่านแล้ว นายไม่ต้องคิดมาก”

“กรรมการเงียบ แปลว่าผ่านเหรอ? คุณเมลเลก” นอททัมงงงวยกับสิ่งที่เมลเลกพึ่งพูดไป

เมลเลกพยักหน้า “เชื่อฉันสิ”

ทางด้านกรรมการอย่างมาอึลเอง ก็เห็นสีหน้าของพ่อครัวตัวน้อยแล้ว คงต้องรีบอธิบายไม่งั้น หมอนั้นได้วิ่งเข้ามากระชากคอเสื้อใครสักคนแน่นอน “015 เพรา รุกเฮอร์ ยินดีด้วยคุณผ่าน” สิ้นเสียงของมาอึล ทั้งผู้เข้าแข่งขันและผู้ชมต่างพากันอุทานตกใจเป็นเสียงเดียวกัน

“ยังไงนะ ไม่ต้องถามอีกสองคนเหรอ” เพราเองก็ตกใจไม่แพ้กัน เพราะเขาเตรียมหงัดมัดเข้าหน้าของมาอึล ทันทีที่กรรมการบอกว่าอาหารของเขาไม่อร่อย

“ดูจากการชิมของทั้งสองแล้ว ผมว่าพวกเราทั้งสามคนเห็นพ้องต้องกันว่า อาหารจานนี่ของคุณผ่านการสอบครั้งนี้” มาอึลพูดไปหน้าของเพราก็ยังไม่เข้าใจว่า พวกกรรมการทั้งสามถึงไม่แสดงอาการอะไรออกมาให้ ตัวเขาได้ลุ้นบ้างอะไรบ้างเลยเหรอ 

เอมโปที่เห็นสีหน้าของเพรา “มีอยู่สามเหตุผลสำหรับดิฉัน หนึ่งการทำเส้นพาสต้า เส้นทำออกมาได้ดี อัตราส่วนของแป้ง ไข่ผำและไข่ทำออกมาได้ดี รวมไปถึงความสุกของแป้ง”

ส่วนสองนะไอ้หนู ฉันชอบมากสำหรับซอสเพสโต้ เครื่องสมุนไพรต่างๆที่เธอทำนั้น รสชาติเข้ากันได้ดีกับคนอย่างฉัน และคุณนายเอมโป ผู้ชื่นชอบดื่มไวน์ชั้นเลิศระหว่างมื้ออาหาร ตอนแรกคิดว่าไวน์ฉันจะเป็นหม้ายเพราะไม่มีอาหารที่คู่กับมันสะแล้ว” ฟรองซัวอธิบายพร้อมกับถือขวดไวน์ของเขามาจุ๊บ

“ส่วนข้อสามครับ คาเวียร์ [1] ซอสมะเขือเทศที่คุณทำ มันช่วยให้ตัวอาหารมีลูกเล่นมากขึ้นไปอีก อันขอชื่นชม แถมยังเป็นมะเขือเทศจันทร์สีเลือด หรือที่หลายคนเรียกว่า มะเขือเลือด ซึ่งเป็นหนึ่งในพืชที่สามารถโตในเขตพิเศษได้เท่านั้น” มาอึลตักองค์ประกอบในจานอาหารของเพรา เป็นของที่หน้าตาคล้ายกับหยดน้ำสีแดงขนาดไม่ใหญ่มากประมาณเม็ดถั่ว ด้วยคำชมของกรรมการทั้งสามท่านนั้น มันสร้างขวัญแรงกำลังใจให้กับเพราเป็นอย่างมาก

[1] คาเวียร์ เป็นจากเรียกไข่มุกจากการทำสเฟียร์ (Spherification) หรือ การทำคาเวียร์เทียม ทำได้โดยการเติมผงโซเดียมอัลจิเนต แล้วนำของเหลวเหล่านั้นมาหยดลงในน้ำที่ผสมเกลือแคลเซียม

“ใช่แบบที่กรรมการพูด เราใช้ไข่ผำไปกับหลายองค์ประกอบทั้งตัวเส้นและซอส เราเลือกซอสเพสโต้ส่วนหนึ่งเพราะส่วนประกอบที่เป็นสมุนไพรของที่เราถนัดและเห็นว่าคงเข้าได้ดีกับไวน์ที่เตรียมด้วย ส่วนคาเวียร์ซอสมะเขือเทศที่ใส่เพราะได้การให้คนกินสนุกไปกับกิน ไม่อยากให้อาหารมันมีมิติเดียว ใครที่ต้องการความสดชื่นก็กินคู่คาเวียร์ได้เลย” เพราอธิบายพร้อมกับยิ้มอย่างมั่นใจในผลงานของตัวเอง ขณะที่ผู้ชมและผู้เข้าแข่งขันคนอื่นๆ มองดูด้วยความทึ่งในความสามารถและความคิดสร้างสรรค์ของเขา

“แต่...” สีหน้าของเพราจากคนที่กำลังจะเก็บความดีใจไว้ไม่ไหว กลับต้องหุบยิ้มอีกครั้ง “ไม่คิดว่าสิ่งนี้ธรรมดาเกินไปใช่ไหม”

“หา” อาการลากเสียงของพ่อครัวหนุ่มผู้คลั่งสมุนไพร แสดงถึงความไม่พอใจเล็กน้อย 

เอมโปสังกตเห็นว่าเพราน่าจะทำอะไรที่ดูวู่วามแน่นอน “015 เพรา รุกเฮอร์ ถ้ายังแสดงกิริยาแบบนี้อีก ดิฉันจะตัดสิทธิ์คุณ เจ้าหน้าที่พาผู้ผ่านสอบออกไปด้วยค่ะ” ทีมงานสองคนประกบตัวเพราอย่างรวดเร็ว ตัวเพราเองก็ยอมให้พนักงานหิ้วตัวเขาแต่โดยดี เพราะคิดว่าคำที่เอมโปพูดนั้นค่อนข้างจะจริง

เพราถูกเชิญไปยังห้องรับรอง ภายในห้องไม่ได้มีการตกแต่งอะไรมาก เป็นแค่ห้องที่มีโซฟาหนังสีดำอยู่สามตัว พร้อมกับโซฟาตัวเล็กสีเดียวกันอีกสี่ตัว วางเรียงเป็นรูปตัว U ตรงกลางมีขวดน้ำวางไว้บนโต๊ะ เพราทิ้งตัวลงบนโซฟา และนั่งคิดถึงคำที่มาอึลพูด อาหารของเขาพอคิดๆ ดูแล้วก็รู้สึกว่ามันธรรมดาไปจริงๆ อย่างที่เขาพูด

“ดูเหมือนจะไม่ง่ายแล้วสิ งานนี้”

เพราถอนหายใจ ได้แต่นั่งรอให้การคัดตัวของผู้เข้าแข่งขันนั้นหมดไปให้เร็วที่สุด ระหว่างรอดูเหมือนว่ากลุ่มต่อไปและ กลุ่มที่สามไม่มีใครผ่านคัดเลือกมาเลย จนมาถึงกลุ่มที่มีลูกสาวของเอมโป อย่างเมลเลกอยู่นั้น ได้มีผ่านคัดเลือกมาถึงสองคน หนึ่งในนั้นก็เป็นเมลเลก หญิงสาวมองหน้าเพราแล้วรู้สึกไม่สบอารมณ์เท่าไรนัก ทางเพราเองก็เช่นกัน เพราะเขารู้สึกว่าการทดสอบครั้งนี้ เขาทำได้ไม่เต็มที่เพราะการเข้ามาแทรกของเมลเลก ทำให้ตอนนี้ห้องกว้างๆห้องหนึ่งกลายเป็นห้องที่แคบทันที หญิงสาวอีกคนที่ผ่านรอบมาด้วยได้แต่ภาวนาให้มีคนในห้องนี้เพิ่มอาจจะทำให้คลายความตึงไปได้

ภายในห้องรับรองเริ่มมีผู้คนเข้ามาอยู่บ้าง แต่ก็ไม่มีใครทักทายหรือพูดคุยสร้างความเป็นกันเอง จนกระทั่ง… 

“น้องเพรา... ทำได้แล้ว ทำได้แล้ว ถึงจะโดนดุมาบ้างแต่พี่ทำได้แล้ว” คนที่เปิดประตูคนต่อไปนั้นคือนอททัมนั้นเอง พอชายร่างใหญ่เปิดประตู เขาก็พยายามมองหาคนรู้จักอย่างเพรา แล้ววิ่งเข้าไปกอดทันที

“พี่นอททัม ผมหายใจไม่ออก ปล่อยได้ไหม” เพราพยายามดิ้นออกจากอ้อมกอดที่แน่นจนเกินไป

“อ่า ขอโทษที พอดีเมื่อกี้มันตึงมากเลย” นอททัมปล่อยตัวเพรา ชายร่างใหญ่มองไปที่เมลเลก “ยินดีด้วยนะ เธอเองก็อย่าไปคิดมากเลย”

คำพูดของนอททัมทำให้เมลเลกตกใจเล็กน้อย แต่เธอก็แอบรู้สึกดี เมลเลกอยากจะพูดขอบคุณออกไปแต่ความรู้สึกต่างๆที่มีในใจของเธอนั้น ทำให้เธอทำได้แค่พยักหน้าออกมา ดูเหมือนคนอื่นที่ได้ยินคำพูดของนอททัมก็แสดงอาการของความเป็นห่วงเล็กน้อยให้กับเมลเลก มีแต่เพราคนเดียวที่ไม่รู้เรื่องอะไร ถึงแบบนั้นเขาเองก็จับบรรยากาศที่เกิดขึ้นได้ว่าทุกๆอย่างค่อนข้างตึงเครียดน้อยลง

“ตอนนี้ถ้านับรวมนายร่างโตแล้ว คนที่สอบผ่านตอนนี้ก็แปดคนแล้วเนอะ” หนึ่งในผู้ผ่านการทดสอบเริ่มพูดคุยกับคนอื่นเพื่อสร้างบรรยากาศดีๆ ให้กับห้อง

“นั้นสิ ผมว่าต่อจากนายตัวใหญ่น่าจะมากสุดแค่หนึ่งคนหรือไม่ก็ไม่มีเลย นายตัวใหญ่อยู่กลุ่มท้ายๆแล้วนิ” 

“ฉันกลัวแทบตาย ถือว่าโชคดีที่ได้ของง่าย ถ้าได้กระต่าย ไม่ก็ไอ้ไข่ผำหลังแมงป่องนะ ตายอยู่ในนั้นแน่นอน”

“ไม่หรอกครับ น้องกระต่ายไม่ได้อึดมากขนาดนั้นนะครับ” นอททัมพูดไปยิ้มไปแต่ด้วยคำตอบของเขานั้นยิ่งทำให้คนในห้องคิดได้แค่คำว่า ‘เลิกเป็นพ่อครัวแล้วไปสมัครนักสู้มืออาชีพเหอะ’

“ปีนี้มีแต่คนเก่งๆทั้งนั้นเลย ฉันได้ยินมาว่า ร้านอาหารในเครือ ‘เมล็ดอุดมสมบูรณ์’ ส่งคนมาเข้าร่วมด้วยนะ งานนี่หินแน่นอน” หนึ่งในคนที่ผ่านสอบได้พูดชื่อของ ‘เมล็ดอุดมสมบูรณ์’ ก็ทำให้ผู้เข้าสอบคนอื่นถึงกับตกใจกับชื่อๆนั้น ไม่เว้นแต่พวกเพราเช่นกัน

“เมล็ดอุดมสมบูรณ์...คืออะไรเหรอครับ น้องเพรา” นอททัมกระซิบถามเพรา

“อืม อธิบายค่อนข้างยากนะ เดี๋ยวเสร็จธุระตรงนี้แล้วจะอธิบายให้ฟังนะ” เพราตอบพร้อมกับมองไปรอบๆ ห้อง รับรู้ถึงความกังวลและความหวังที่ยังคงอยู่ในใจของทุกคน

เวลาผ่านอีกเล็กน้อยทั้งหมดเริ่มพูดคุย ความเป็นมาของตัวเองกันอย่างสนุกสนาน นอททัมเองก็ชอบที่จะมีส่วนร่วมในการคุยครั้งนี้ ต่างจากเพรา รายนี้ไม่ชอบพูดคุยกับชาวบ้านเลยแกล้งหลับเพื่อไม่ให้ใครหันเขามาชวนคุยแต่ลืมไปว่าเขานั่งข้างชายผู้เป็นมิตรกับทุกสิ่งอย่างนอททัม ทำให้ตัวเองต้องนั่งฟังบทสนทนาทั้งหมดไปด้วย เพราได้แค่ติดว่าบรรยากาศแบบเมื่อกี้ก็ดีแล้วตึงใส่กันห้องเงียบๆ สบายกว่ากันตั้งเยอะ ส่วน ‘เมล็ดอุดมสมบูรณ์’ ตามแบบที่พัมพีคาดไว้เลยว่าพวกเขามันจะมาสมัครด้วย อืมแต่คิดไปตอนนี้ก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี 

 

ก๊อกๆ

เสียงเคาะประตูดังขึ้น สร้างความสนใจให้กับทั้งผู้ผ่านการคัดทั้งหมดลุ้นว่าจะยังมีใครเข้ามาเป็นหนึ่งพวกเขาอีกไหม แต่แล้วคนเปิดประตูเข้ามานั้นเป็น มาอึล พร้อมกับพนักงานอีกสองท่าน “สนามสอบเมืองแมโกทินน่า สนามสอบที่ 3 ขอแสดงความยินดีครับ พวกคุณทั้งแปดคนเป็นผู้เข้าสอบคัดเลือกพ่อครัววังหลวงรุ่นที่ 72 อย่างเป็นทางการครับ ทางเราจะมอบบัตรประจำตัวสอบ และผมขอชี้แจงรายละเอียดของการสอบแข่งขันรอบถัดไปเลยนะครับ” 

พนักงานของมาอึลเดินแจก บัตรประจำตัวเข้าสอบให้กับทุกคน บนบัตรเป็นบัตรสีขาวเปล่าๆ มีรหัสประจำตัวเข้าสอบ ชื่อผู้เข้าสอบ เท่านั้นเป็นบัตรเรียบง่ายและธรรมดาที่สุดเท่าที่เคยเห็นมา และอีกอย่างที่ได้มามันเหมือนเป็นแผ่นพับไกด์บุ๊คสำหรับการเดินทางไปการสอบครั้งต่อไป ส่วนทางมาอึลได้เริ่มชี้แจงรายละเอียดสำหรับการเตรียมตัวสอบในรอบถัดไป 

“การสอบทั้งหมดจะขึ้นตรงกับห้องเครื่องวังหลวง ทางเราไม่สามารถบอกได้ว่าการสอบนั้นจะมีกี่ครั้ง หรือมาในรูปแบบไหน เพราะแต่ละรุ่นก็ไม่เหมือนกัน สิ่งแรกที่พวกคุณควรทำหลังจากนี้คือไปรายงานตัวกับ คุณวิกค์ หัวหน้ากรรมการคุมสอบครั้งที่ 72 เธอจะรอพวกคุณอยู่ที่เมืองหลวงเอสทาริค สำนักงานเขตทั่วไป (เขตตะวันตกนอก) ภายใน 25 วัน นับจากนี้ด้วยครับ ไม่ต้องเตรียมอะไรไปนะครับแค่รักษาบัตรประตัวสอบและชีวิตของคุณให้ไปถึงที่นั่นก็เพียงพอครับ...” มาอึลหันไปดูนาฬิกาที่ข้อมือของพนักงานข้างๆเขา “รายละเอียดส่วนมากทางเราได้แนะนำเพิ่มเติมไว้ในไกด์บุ๊คแล้ว ทุกท่านมีอะไรจะถามเพิ่มเติมไหมครับ” ในห้องไม่มีใครที่จะตั้งคำถามอะไร มาอึลเห็นว่าไม่มีใครต้องการข้อมูลอะไรเพิ่ม ตัวเขาและพนักงานทั้งหมดขอตัวกลับทันที

“ตานั้นมาไวไปไวจัง”

“เมืองหลวงเอสทาริคไกลจากเมืองนี้ไหม” หนึ่งในผู้สมัครหันไปถามผู้สมัครสอบคนอื่น

“แล้วทำไมไม่ถามเมื่อกี้ละแม่คุณ”

“ก็ฉันพึ่งคิดได้นิน่า”

“ใจเย็นนะครับทุกคน”

 

หลังจากมาอึลกลับออกไป เพรารีบลุกออกจากห้องทันที ส่วนนอททัมที่กำลังจะเริ่มทำความรู้จักกับคนอื่นได้บ้าง แต่ก็โดนขัดเพราะเจ้าพ่อครัวตัวน้อยรีบเดินออกจากห้อง ทำให้เขาต้องรีบตามเพราไปเพราะกลัวหลงในที่แบบนี้เหมือนกัน

“เป็นไงบ้างพี่ ทำอาหารให้คนอื่นกินครั้งแรก” เพราเห็นคนตัวใหญ่อยู่ด้านหลังก็เดาได้ทันทีว่าเป็นนอททัม จึงเริ่มชวนเขาคุยหลังจากนั่งเงียบในห้องอยู่นาน

“ตื่นเต้นมาก พอเป็นกลุ่มท้ายๆ เห็นคนโดนติ พี่ก็เริ่มใจไม่ดี แต่เหมือนโชคดีที่ยังมีคำชมอยู่บางสำหรับอาหารของพี่ ไม่รู้ที่ผ่านมาได้เพราะพวกเขาเห็นใจที่พี่มีแขนข้างเดียวแบบนี้หรือเปล่า” ตอนแรกนอททัมพูดถึงการสอบด้วยความร่าเริง แต่เมื่อเขาเริ่มคิดถึงความพิการของเขา รอยยิ้มบนใบหน้าเริ่มหายไปทีละน้อยๆ

เพราที่ได้ยินเสียงของความเศร้า พ่อครัวตัวน้อยมองไปยังใบหน้าของเพื่อนของเขาที่กำลังยิ้มให้เพรา “พี่เก่ง พี่เป็นคนเก่ง พี่ไม่ต้องสนว่าใครจะคิดว่าพี่เป็นยังไง พี่ลองหันหลังกลับไปดูสิพี่ผ่านอะไรมา ไม่ใช่ว่าทุกคนจะมาจุดนี้ได้นะ” เพรามองไปยังดวงตาสีทับทิมของชายร่างโต คำพูดแสนประทับใจทำให้นอททัมรู้สึกดีขึ้นอีกครั้ง เขาใช้มือข้างซ้ายลูบหัวเพราเบาๆ แสดงแทนอาการขอบคุณ

ในส่วนของชูร์ยืนมองนานสองนานว่าเมื่อไรเจ้าพ่อครัวสองหน่อนั้นจะเดินมาถึงรถสักที มัวพูดคุยซึ่งกินใจกันหน้าสนามกีฬาอยู่หลายนาทีมากแล้ว ‘สอบคัดเลือกทำอาหาร มันต้องอินกับมิตรภาพลูกผู้ชายขนาดนั้นเลยเหรอ’

“เด็กชายเพรา และคุณพ่อช่วยติดต่อที่รถของดิฉันด้วยค่ะ ดิฉันอยากกินข้าวเย็นแล้วค่ะ”

 

 

ห้องครัวของเพรา

แม้จะดูเหมือนเวลาไม่นาน แต่จริงๆ แล้วเวลาผ่านไปหลายชั่วโมงตั้งแต่ยื่นใบสมัครตอนเช้า จนได้รับบัตรประตัวสอบนั้นเป็นช่วงเวลาเย็น เพราะด้วยการมีผู้เข้าสมัครจำนวนมากรวมถึงการชิมอาหารของคณะกรรมการที่กินเวลานาน ตอนนี้สองว่าที่พ่อครัววังหลวงนั้นหิวมากแถมเอียนกับการทำอาหารวันนี้แล้วด้วย พวกเขาได้แต่ค้นอาหารแช่เย็นมาอุ่นกินกันสามคน

“ของแช่เย็นที่เหลือเรามี ข้าวผัดกระเทียมที่เหลือเมื่อวาน เนื้อปูถ่านหินกล่องสุดท้าย ไข่นกฮูกลำธารยักษ์ และสารพัดของกุ๊กกิ๊ก” เพราทยอยหยิบของต่างๆ ที่น่าจะทำเป็นอาหารเย็นได้มาวางไว้บนโต๊ะ ทั้งกล่องเนื้อปูถ่านหิน กล่องที่เก็บข้าวผัดเหลือ ไข่นกสีขาวนวลที่มีจุดสีฟ้าหลายๆจุดอยู่ปลายไข่ และของอื่นๆจำพวกผัก ผลไม้ “ถ้าแบบนี้น่าจะทำ...”

“น้องเพรา พี่ขอทำให้ทั้งสองคนกินได้ไหม” นอททัมเปิดกล่องปูเหมือนกำลังคิดอะไรมาอย่างอยู่

“ก็ได้นะ” เพรามองหน้านอททัมด้วยความประหลาดใจ “ให้ผมช่วยไหม”

“เดี๋ยวนะ ฉันหิวนะถ้า... โอ๊ยยยย เจ็บนะ ไอ้น้องบ้า” ชูร์ที่พยายามจะขัดจังหวะของทั้งสองคนแต่โดนเพราที่ยืนข้างๆหยิกไปช่วงเอวพร้อมส่งสายตาอาฆาต “เชิญนอททัมทำอาหารได้เลยจ้า”

“พี่อยากให้เพราช่วยทำแครอทหั่นเต๋า ซอยต้นหอม แค่นั้นพอแล้ว”

นอททัมเริ่มโชว์ทักษะทำอาหาร อย่างแรกเขาเตรียมเครื่องบดสีเทาหินอ่อนจากฉันวางของด้านล่าง ลักษณะเป็นถ้วยขนาดใหญ่ที่มีฐานสำหรับวางกับพื้นเรียบได้ สิ่งนี้เรียกว่า ‘ครก’ เพราได้มาจากพัมพี อาจารย์ของเพราอธิบายว่าเขาได้มาจากหมู่บ้านที่ใช้สมุนไพรในการประกอบอาหารและทำยา นับว่าเป็นอุปกรณ์ทำอาหารที่เหมาะกับเพรามาก ทางด้านนอททัมปอกเปลือกกระเทียมแล้วนำกระเทียม รากผักชี พริกไทยขาว จากนั้นใช้เครื่องมือที่มาเป็นคู่กับครก อย่าง ‘สาก’ วัตถุลักษณะทรงกระบอกสั้นป้อม กำลังบดสมุนไพรทั้งสามให้เป็นเนื้อเดียวกัน เพราเตือนนอททัมว่าให้ลงน้ำหนักเบาๆนะ เพราะถ้ามันแตกจะหาของแทนไม่ได้

“เออว่าแต่ แกไม่ชวนผู้หญิงผมม่วงไปกลับเราเหรอ ฉันเห็นพวกแกคุยกันสนิทนิ แถมผ่านด้วย” ชูร์ที่กำลังท้องหิวเดินไปเปิดตู้เย็น หยิบนมขวดมาดื่มแก้หิวพร้อมถามเรื่องเมลเลกกับเพรา

“อ๋อ ยัยลูกคุณนายเอมโปนั้นเหรอ ไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น แค่มีปากเสียงกันนิดหน่อย” เพรายืนปอกเปลือกแครอทพร้อมกันมาตอบชูร์

"น้องหัวม่วงนั้นเป็นลูกเพื่อนป้าลิคซ์เหรอ เพราไปด่าไปว่าอะไรนางใช่ไหม นอททัม”

“พอกันทั้งคู่เลยครับ คนหนึ่งก็ไปเขาว่าเป็นเด็กเส้น คนหนึ่งก็ใจร้อน...” นอททัมที่หันหลังให้ทั้งสองพูดตอบชูร์ ตอนนี้ชายร่างใหญ่กำลังตั้งหม้อใส่น้ำรอจนเดือดแล้วใส่สมุนไพรที่บดลงไป

“เลวมาก”

“หรือไม่จริง พี่ไม่คิดเหรอ ตระกูลขุนนางแบบนั้นจะให้ชื่อตระกูลเสียหน้า ตกรอบตั้งแต่รอบคัดเลือก แถมยัยนั้นเป็นเพื่อนกับกรรมการที่เป็นรองพ่อครัววังหลวง”

“น้องเพรา พี่ว่า คุณเมลเลกไม่ได้ใช้เส้นหรอก เธอโดนคุณเอมโปบั่นทอนจิตใจไปเยอะเลย” นอททัมหันมาพูดกับเพราพร้อมหยิบกล่องข้าว แครอทและต้นหอมที่เพราเตรียมให้ “ระหว่างที่พี่กับคุณเมลเลกรอฟังผล เธอแบ่งขนมที่เธอทำให้พี่เห็นบอกว่าทำมาเกินด้วย ดูเป็นคนใจดีแถมเค้กอร่อยมากด้วย” นอททัมใส่แครอท กับข้าวผัดกระเทียมลงไปในหม้อต้ม พร้อมปรุงรสอีกนิดหน่อย

“ยัยนั้นทำขนมอะไรเหรอ”

“คุณเมลเลกตั้งชื่อว่า มูนเบอร์รี่ ป๊อป มันเป็นเค้กทรงกลมขนาดเท่าผลส้ม หน้าตาเค้กเหมือนมูนเบอร์รี่ เปลือกนอกสีเหลืองมวลเป็นเจลาตินรสพิษแมงป่อง ความรู้สึกหวานแป๊บๆในปาก พอกัดเนื้อเค้กมีกลิ่นหอมโยเกิร์ต ไส้ข้างในเป็นแยมมูนเบอร์รี่ อร่อยมาก จัดจานก็สวยที่จริง คุณเมลเลกทำไอติมมะเฟืองด้วยนะ แต่อันนั้นพี่ไม่ได้กิน” นอกจากนั้นนอททัมตอกไข่เพิ่มเติม ใช้ช้อนตีไข่แดงให้แตก ปิดไฟ ใส่เนื้อปูกับต้นหอมซอยเพิ่มเติมแล้วยกหม้อมาวางกลางโต๊ะ “เสร็จแล้ว ข้าวไข่ตุ๋นของเหลือ”

“ถ้ามันอร่อยแบบที่พี่ว่า ทำไมยัยนั้นต้องทำหน้าแบบนั้นด้วย พี่นอททัมหยิบพริกไทยให้หน่อย” ทั้งสามนอกจากสนใจเรื่องของเมลเลก ตอนนี้หันมาสนใจอาหารที่อยู่ตรงหน้ามากกว่า นอททัมกำลังตักแบ่งใส่ถ้วยเล็กให้ทั้งสองคน

“ฉันขอปูเยอะๆนะ อ๋อเรื่องนั้นต้องบอกว่า ยัยคุณนายเอมโปบอกว่า มันธรรมดาเกินไป นางคาดหวังว่าน้องผมม่วงต้องทำได้สมบูรณ์แบบ ถ้าทำได้แค่ระดับนี้อย่าหวังไปว่าจะผ่านรอบนี้เลย ฉันก็งงเลยจ้า ตอนแรกตาลุง กับพ่อครัวคนนั้น ชมว่าเป็นเค้กที่ดีมาก ใช้เวลาคุ้มค่า ทำได้หลากหลายองค์ประกอบ ฉันงงคุณนายแกมากเลย โอ้วขอบใจนะนอททัม กำลังร้อนๆเลย” ชูร์รับถ้วยเล็กจากนอททัม

“ยังดีที่ผ่านสองเสียง เป็นผมก็คงรู้สึกไม่ดี โดนคนอื่นชมเป็นร้อยแต่โดนในครอบครัวว่าคนเดียว ความรู้สึกมันสู้ไม่ได้เลยนะครับ ถ้าใครจะเอาเพิ่มก็บอกนะครับ ยังเหลืออยู่”

ทั้งสามคนกำลังพูดถึงความสัมพันธ์ของเอมโปและเมลเลก ทำให้เพราคิดอะไรบางอย่างได้ “นั้นสินะ ยัยนั้นคงแค่ต้องการคำชมจากคนที่ยัยนั้นรักมากที่สุดละมั้ง มันมีความสุขมากเลยนะตอนที่คนที่เรารักชม มันมีความสุขมากเลยนะ”

ชูร์รับรู้ได้ถึงอารมณ์ของน้องชายที่กำลังเศร้าเพราะคิดถึงแม่ของเขา เธอเดินเข้าไปกอดจากข้างหลังน้องชาย นอททัมที่อยู่ฝั่งตรงข้ามโต๊ะกับเพราเขายื่นมือมาลูบหัวเบาๆ ด้วยความอบอุ่น ทั้งสองคนไม่ได้พูดอะไรกับเพรา แต่ทั้งคู่กำลังมอบกำลังใจและความสุขดีๆ ให้กับน้องชายสุดที่รักของพวกเขา

‘น้องเพรา เก่งมาก’

[เกร็ดความรู้หลังครัว]

เมนูของเมลเลกได้แรงบันดานใจมาจาก cake pop มันคือก้อนเค้กทรงกลมขนาดใหญ่ อารมณ์หน้าตาจะเหมือนขนมโป๊งเหน่งบ้านเรา ถ้าใครชอบไปซื้อพวกร้านขายโดนัท น่าจะเคยเห็นกันบ้าง