พ่อครัววังหลวง คือผู้ทำอาหารให้กับเหล่าผู้คนชั้นสูงในวัง เป็นตำแหน่งของพ่อครัวที่ใครๆก็อยากไต่ไปถึง และหนึ่งในนั้นต้องเป็น 'เพรา' คลื่นลูกใหม่แห่งวงการพ่อครัวจอมเวทย์ที่พร้อมกระตุ้นความอร่อยด้วยมือเขา

บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท - เมนูที่ 12 ขนมพระพาย โดย คอคิจ @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ผจญภัย,แฟนตาซี,ครอบครัว,ไทย,ตะวันตก,ดราม่า,แฟนตาซี,ทะลุมิติ,ต่างโลก,อาหาร,ผจญภัย,เวทมนต์,มอนสเตอร์,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ผจญภัย,แฟนตาซี,ครอบครัว,ไทย,ตะวันตก

แท็คที่เกี่ยวข้อง

ดราม่า,แฟนตาซี,ทะลุมิติ,ต่างโลก,อาหาร,ผจญภัย,เวทมนต์,มอนสเตอร์

รายละเอียด

พ่อครัววังหลวง คือผู้ทำอาหารให้กับเหล่าผู้คนชั้นสูงในวัง เป็นตำแหน่งของพ่อครัวที่ใครๆก็อยากไต่ไปถึง และหนึ่งในนั้นต้องเป็น 'เพรา' คลื่นลูกใหม่แห่งวงการพ่อครัวจอมเวทย์ที่พร้อมกระตุ้นความอร่อยด้วยมือเขา

ผู้แต่ง

คอคิจ

เรื่องย่อ

บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวทย์

Record the recipe of the Royal chef

หมวดหมู่ : แฟนตาซี ทำอาหาร การแข่งขัน ต่อสู้(นิดหน่อย)

__________________________

 

การเป็นพ่อครัววังหลวงนั้นเป็นความฝันและเป้าหมายชีวิตของเหล่าพ่อครัว เหล่านักสร้างความอร่อยให้กับโลกใบนี้ การเป็นพ่อครัววังหลวงที่หลายปีจะเปิดรับพ่อครัวรุ่นใหม่เพียงแค่ 4 คนเท่านั้นเป็นหัวหน้าพ่อครัวประจำฤดูทั้งสี่ และหนึ่งผู้จะเข้าชิงตำแหน่งนั้นคือ ‘เพรา’ พ่อครัวจากเมืองเล็กๆแห่งนั้น แรงปรารถนาของเขาอาจจะไม่เหมือนใคร เพราะเขาไม่ต้องการ ชื่อเสียง เงินทอง เกียรติยศ หรือความสุขสบาย สิ่งที่เขาต้องการแค่ ความจริง 

“แค่เป็นเหมือนนายให้ได้ใช่ไหม แล้วชั้นจะรู้ความจริง…” - เขียวใบไม้

“การที่ผมมาอยู่ตรงนี้ได้ มาจะช่วยเติมเต็มได้จริงเหรอ?” - แดงเนื้อสัตว์

“การเป็นพ่อครัววังหลวง มันจะแสดงให้ตระกูลเห็นว่าเราเองก็มีค่า” - ม่วงเปลือกมังคุด

“อยากให้คุณอยู่เห็นความสำเร็จของคุณจังเลย …ที่รัก” - ครามทะเล

“ฉันยืนอยู่ตรงนี้นะ กำลังใจของพวกนาย” - กลิ่นน้ำมันเครื่อง

 

_____________________________

 

 

สารบัญ

บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 1 สลัดสไลม์ทอด,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 2 สตูว์เนื้อ,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 3 แซนด์วิชทงคัตสึหมูโคลน,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 4 ฟาฮิตาไก่,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 5 ปูถ่านหิน,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 6 เค้กปูแบบพอดีคำ,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 7 แพนเค้กนุ่มฟู,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 8 ไข่ผำบนหลังแมงป่อง,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 9 ปลากะพงย่างพาสต้าไข่ผำซอสเพสโต้,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 10 คุณกระต่ายว่ายน้ำนม เบอร์ 2,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 11 นมถั่วพิตาชิโอ้,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 12 ขนมพระพาย,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 13 สไลม์ผลไม้,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 14 ระบำจิ้งจอกม่านหมอกเพลิง,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 15 คาเนลโลนีทุเรียนซ่อนแอบ,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 16 หมึกต้นไม้,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 17 โอโคโนมิยากิหมึกต้นไม้,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 18 ยำเห็ด ซุปเห็ด สเต๊กเห็ด และพุดดิ้ง,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 19 เจ้าปลามีขา,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 20 ดอกบัวเงือกหวาน,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 21 ช่อม่วงไส้กุ้ง,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 22 เคลพีสามทาง,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 23 สตรอเบอร์รี่ ครีมชีส พาร์เฟต์,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 24 เข็มกลัดว่าที่พ่อครัววังหลวง (ชั่วคราว),บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 25 ไก่ผัดเมล็ดวินลัท,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 26 บุหลันดั้นเมฆ,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 27 แกะขนทราย,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 28 ปอเปี๊ยะสด,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 29 ป๊อปคอร์นวาซาบิ

เนื้อหา

เมนูที่ 12 ขนมพระพาย

 

 

นับเป็นเช้าที่แสนวุ่นวายของการรวมตัวว่าที่พ่อครัววังหลวงทั้งสี่ท่าน หลังจากสงครามพ่อครัวในครัวได้จบลงไป ชูโรสเดินออกมานั่งคิดเรื่อยเปื่อยอยู่หน้ารถ เธอมองเวลาตรงหน้าปัดรถยนต์เห็นว่าจะใกล้เที่ยงแล้วเลยจะลองสังเกตดูว่าคนที่ชื่อว่า วิกค์ นั้นได้มาถึงหรือยังแต่เธอพึ่งคิดได้ว่าไม่เคยเห็นหน้าเขามาก่อน เป็นผู้ชายหรือผู้หญิงไม่อาจรู้ได้

ก๊อกๆ

เสียงเคาะประตูดังขึ้น ทำให้ชูโรสสะดุ้งเล็กน้อยเพราะไม่นึกว่าจะมีใครมาหาอีก แล้วเธอก็นึกขึ้นได้ว่าน่าจะเป็นเจ้าหน้าที่โมลา เพื่อนของเธอ ชูโรสเดินมาเปิดประตูด้วยความสงสัย แต่ภาพที่เห็นไม่ใช่ผู้ชายตัวสูงที่เธอรู้จัก แต่เป็นเด็กผู้หญิงตัวน้อย ส่วนสูงไม่เกินหนึ่งร้อยเซนติเมตร

“หนูมาหาใครคะ ให้พี่สาวคนนี้ช่วยอะไรไหมคะ” ชูร์เดินลงมาจากรถ ย่อเข่าเพื่อคุยกับเด็กผู้หญิงผมสีขาว ดวงตาสีน้ำตาลเปลือกไม้ สวมเสื้อคอเต่าแขนยาวสีเหลือง ทับด้วยผ้าลูกไม้ลายดอกโบตั๋นสีส้ม ชุดกระโปรงยาวสีดำแบบสุภาพเรียบร้อย

“แหม เด็กคนนี้มองคุณป้าแก่ๆ คนนี้เป็นเด็กผู้หญิง ฉันละประทับจริงแต่ฉันไม่มีขนมให้หรอกนะ” เด็กคนนั้นจับแก้วตัวเองทำท่าทีเขินอาย ยิ่งทำให้ชูร์มองเด็กคนนี้ว่าเป็นเด็กแปลก “ตายจริง คือฉันจะมาถามว่า เธอเป็นเด็กที่จะมาสอบเป็นพ่อครัววังหลวงใช่ไหม ฉันเป็นเจ้าหน้าที่คัดกรองชื่อวิกค์”

“เจ้าหน้าที่คัดกรองเด็กอย่างเธอเหรอ!” ชูโรสยิ่งตกใจไปอีกว่าเด็กอายุแค่นี้จะเป็นเจ้าหน้าที่ได้อย่างไร

เมลเลกเดินออกมาจากครัวสังเกตว่าชูร์กำลังคุยกับวิกค์ เธอจึงเดินเข้าร่วมด้วย “เด็กที่ไหน คุณวิกค์อายุ 40 กว่าแล้วนะ ขอโทษแทนเพื่อนหนูด้วยนะคะ คุณวิกค์ ทำไมวันนี้มาเร็วจัง” เมลเลกก้มตัวทักทายอย่างสุภาพ

“หนูเมลเลก ป้าก็นึกว่ารถใครที่ไหน ที่แท้รถของเพื่อนเมลเลกเองเหรอเนี่ย วันนี้ป้านำชาดอกชัมพัคสามสีมาด้วย แต่ป้าไม่มีขนมด้วยนะ” คุณวิกค์ยื่นถุงใส่ชาให้กับเมลเลก “ว่าแต่แม่สาวชุดช่าง เธอเป็นผู้สมัครเหมือนกันไหม ฉันจะรายงานกับกระทรวงว่ามีคนมารายงานตัวเพิ่มแล้ว ขอดูบัตรหนูหน่อยนะ”

“ไม่ใช่หนูค่ะ เป็นน้องชายหนู...พวกแกจะแอบมองกันทำไมออกมาได้แล้ว” ชูโรสมองไปทางหน้าต่างรถ เห็นพ่อครัวสามหนุ่มกำลังแอบมองเธอพูดคุยกับวิกค์

วิกค์มองสามหนุ่มที่กำลังเดินลงมาจากรถ เธอตะลึงกับความสูงของนอททัมกับฮาวาร์ติที่ส่วนมาก จนมาถึงเพรา “ทุกคนตัวสูงๆ กันหมดเลย ส่วนหนูคนนั้นยังเด็กใช่ไหม เดี๋ยวก็สูงเท่าพวกพี่ๆ นะ” คุณวิกค์แตะไปที่เข่าของเพราเพื่อให้กำลังใจ

“ไอ้เด็ก...” เพราพูดอย่างไม่พอใจ

“อย่านะน้องเพรา” นอททัมได้ทำการรูปแบบการห้ามน้องชายรูปแบบที่หนึ่งอุ้มอย่างใจเย็น เพราโดนอุ้มลอยตัว แต่ปากของเขายังขยับได้ฮาวเห็นท่าไม่ดีเลยใช้มือของเขาปิดปากเพราไปด้วย

“เป็นกลุ่มเพื่อนที่ดูสนิทกันดีนะ พวกเธอตามฉันมานะ เดี๋ยวฉันจะแจ้งรายละเอียดให้ฟัง”

นอททัมเดินตามโดยที่ยังอุ้มเพราอยู่ ส่วนฮาวเดินข้าง ๆ เพื่อให้ปากของเพราไม่เปิดไปด่าคุณวิกค์ สองสาวยืนมองทั้งสามคนก็ได้แต่ขำภาพที่พวกเขาเห็น เมลเลกนึกขึ้นได้ว่าคุณวิกค์ชวนเธอดื่มชาด้วยแต่ไม่มีขนมกินเล่น เธอเลยตั้งใจจะขอใช้ครัวจากชูโรส เพื่อทำขนมให้กับวิกค์

“ครัวมันเป็นของเพรานะ ถ้าไปยุ่งสุ่มสี่สุ่มห้า ไอ้หมอนั้นจะบ่นเอาสิ” ชูโรสมองเมลเลกด้วยความกังวลเล็กน้อย

“น่านา คุณชูร์อยากกินอะไรฉันทำให้เลย” เมลเลกยิ้มหวาน พยายามยื่นข้อเสนอโน้มน้าวใจ

“ของหวานเหรอ เจ้าเพรา เจ้านอททัมไม่เคยทำให้กินด้วยสิ เธออยากทำอะไรก็ทำเลยละกัน”

“แปลว่า เธอต้องตกลงให้ใช้ครัวนะ”

เมลเลกดีใจที่ชูโรสให้เธอใช้ครัวของเพรา แม่ครัวกอดแขนวิศวะสาวมาที่ห้องครัว เธอมองไปรอบๆ ห้องครัว ยืนคิดอยู่สักพักว่าจะทำขนมแบบไหนดี เพราะครัวของเพราค่อนข้างมีวัตถุดิบอยู่เยอะ แถมมีอุปกรณ์ทำอาหารที่หลากหลาย ทำให้ในความคิดของเมลเลกค่อนข้างดีกันไปหมด เธอเลยเริ่มจากดูของในตู้เย็นและสิ่งที่เธอหยิบออกมาได้แก่พวกผลไม้กับผัก อย่าง แตงน้ำหวาน แก้วมังกรเนื้อม่วง และมันหวานเนื้อนิ่ม

ชูร์หยิบมันหวานขึ้นมาดู “มันหวานเนื้อนิ่ม อันนี้เอาไปทำเหอะ เจ้านี้ฉันซื้อมาเองเห็นเขาบอกว่าเนื้อมันหวานและนิ่มแบบไม่ต้องผ่านความร้อนอะไรเลย” ชูร์หักครึ่งของมันหวานแล้วใช้ช้อนตักเนื้อออกมาชิม “หวานละมุนจริง ๆ”

“แตงน้ำหวาน แก้วมังกรเนื้อม่วง ของดีสำหรับสีผสมอาหารได้ มันหวานเนื้อนิ่มก็ทำเป็นไส้ได้ ถึงกะทิจะไม่มีแต่ทดแทนด้วยนมแมมแมมที่มีความมันได้” เมลเลกเลือกดูนมแต่ขวดในตู้เย็น “ขนมพระพาย”

“ขนมพระพาย ชื่อดูเป็นจอมขมังเวทมากเลย” ชูร์หัวเราะเบา

พอได้เมนูที่ต้องการ เมลเลกก็เริ่มต้นด้วยการนำผลไม้ทั้งสองอย่าง คือแตงน้ำหวานกับแก้วมังกรไปปั่นเป็นน้ำผลไม้ จากนั้นกรองเนื้อผลไม้ออกจากน้ำ สีที่ได้จะเป็นสีเขียวละมุนกับสีม่วงอมแดง เมลเลกหยิบแป้งจากชั้นวาง เธอสังเกตว่าทุกชั้นวางวัตถุดิบนั้นจัดเรียบร้อยมาก แต่ละชนิดบรรจุใส่กล่องหรือโหลอย่างเป็นระเบียบ

“นอททัมเป็นคนทำความสะอาดตลอดเหรอ” เมลเลกหยิบโหลแป้งข้าวเหนียวและแป้งข้าวเจ้ามาผสมกันในชามผสมอาหาร เมื่อผสมกันเป็นเนื้อแป้งที่เข้ากัน เธอตักแบ่งเป็นสองชามเท่า ๆ กัน

“ก็น่าจะใช่ แต่ที่จริงที่เห็นสะอาดๆ เป็นฝีมือของเพรานะ” เมลเลกได้ยินคำตอบของชูร์ถึงกับหันขวับทันที “น้องฉันรักสะอาดนะ น่าจะเป็นพื้นฐานคนทำครัวใช่ไหม เพราะว่านอททัมก็เป็น”

“ใช่ ครัวต้องสะอาดเสมอ ชูร์ เธอช่วยฉันนวดแป้งหน่อยได้ไหม” เมลเลกยื่นชามผสมอาหารที่ใส่นมกับน้ำแก้วมังกร ส่วนของเธอเป็นชามที่ผสมแตงน้ำหวานกับนม “นวดจนไม่รู้สึกติดมือนะ”

ชูโรสรับชามมาแล้วเริ่มทำตามเมลเลก “เธอดูผ่อนคลายจัง ไม่เหมือนวันนั้นเลย แป้งมันเหนียวติดมือ” ชูโรสโชว์มือที่เต็มไปด้วยแป้งเหนียวๆ เหลวๆ ให้เมลเลกดู

“วันสอบคัดเลือกเหรอคะ วันนั้นมันทั้งประหม่า หวาดกลัว เครียด มันมีอารมณ์หลายร้อยอารมณ์เข้ามาในหัวของฉัน” ดวงตาของเมลเลกกำลังแสดงออกถึงความเศร้า

“เธอเก่งแล้ว ลืมเรื่องวันนั้นไปเหอะ แป้งมันไม่ติดมือแล้วต้องทำไงต่อ เมลเลก” ชูโรสโชว์แป้งในชามที่เกาะตัวกันเป็นก้อนแป้งสีม่วงสวยงาม ส่วนของเมลเลกเป็นก้อนม่วงสีเขียวอ่อนละมุน “ทำไมของเธอสีเขียวสวยจัง ของฉันอย่างกับไข่มังกร”

“ตามสีผลไม้แหละ จากนั้นเอามันหวานทำแบบก้อนกลมๆ แบบนี้นะ แล้วห่อด้วยแป้งที่นวดให้เป็นทรงกลม”

ชูชูร์กับเมลเลกเริ่มนำไส้มันหวานมาห่อแป้งให้เรียบร้อย ทั้งคู่ทำไปก็คุยเรื่องชีวิตไปเหมือนทั้งสองคนไม่เคยเจอคนที่เข้าใจเรื่องราวของชีวิตตัวเองได้เท่านี้มาก่อน ทั้ง ๆ ที่สองคนแตกต่างกันมาก เมื่อขนมพระพายปั้นเสร็จแล้ว เมลเลกเตรียมกระดาษรองอบมาตัดเป็นชิ้น ๆ ขนาดพอดีกับขนมที่ปั้นไว้ ส่วนชูร์ถูกเมลเลกให้เดินไปหยิบซึ้งนึ่งมาเตรียมเอาไว้

“เจ้านี่ นับครั้งได้เลยว่า เจ้าเพราเอามาใช้ทำอาหารกี่ครั้ง ให้ฉันช่วยอะไรอีกไหม”

“เหลือแค่นึ่งกับซอสราดข้างบน ยังไงฝากเธอล้างชามหน่อยนะ”

ระหว่างที่เมลเลกกำลังรอขนมพระพายสุก เธอมาเตรียมซอสราดข้างบนขนมโดยเริ่มจากตั้งกระทะ ใส่นม แป้ง และเกลือ ตั้งไฟอ่อน คนจนกระทั่งนมเหนียวขึ้นเล็กน้อย แล้วยกลงจากเตาพักไว้ ถือว่าเสร็จสวยงามกับขนมพระพาย

...

50 นาทีต่อมา

ทางด้านการเตรียมตัวของสามหนุ่มพ่อครัว คุณวิกค์ได้แจ้งรายละเอียดของการสอบคัดเลือกว่าทุกคนจะได้รับมอบหมายให้ทำภารกิจต่างๆ ในฐานะสมาชิกชั่วคราวของครัววังหลวง มีทั้งภารกิจแบบทีมและเดี่ยว ขึ้นอยู่กับประเภทของภารกิจ สำหรับรายละเอียดปลีกย่อยนั้น สามารถสอบถามกับกรรมการคุมสอบได้ เพราะตัวคุณวิกค์เองเป็นแค่เจ้าหน้าที่ธุรการของครัววังหลวง

“ฉันน่ะ แก่ขนาดนี้ยังโดนเรียกว่าเด็กน้อยอีก รู้สึกดีใจจัง เป็นฮาฟฟุตก็มีดีแค่นี้ล่ะ พวกเธอจะเอาชาพร้อมไหม?” คุณวิกค์พูดด้วยรอยยิ้มแย้ม ขณะที่สามหนุ่มยังนั่งเงียบไม่พูดคุยอะไรกันเลย ได้แต่คิดว่าเมื่อไรฮาฟฟุตคนนี้จะพูดเรื่องตัวเองเสร็จเพราะที่จริงแล้ว พวกเขารู้เรื่องตั้งแต่ห้านาทีแรกแล้ว

“ไม่ดีกว่าครับ พอดีผมดื่มชาไม่เป็น”

“ยายไม่เห็นพวกผมเหรอ ว่ายังไม่มีใครแตะชายายเลย”

“มีแบบเย็นไหม?”

ก๊อกๆ

เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น ดึงความสนใจของทั้งสามหนุ่มได้ดี พวกเขาหวังว่าจะเป็นเสียงที่ทำให้คุณวิกค์เลิกพูดเรื่องตัวเองสักที

“สวัสดีอีกครั้งนะคะ คุณวิกค์ หนูทำขนมดื่มคู่กับน้ำชา” เมลเลกเปิดประตูเข้ามาพร้อมกับปิ่นโตสีเหลือง เธอเดินมาตรงกลางโต๊ะ เปิดปิ่นโตเผยให้เห็นขนมพระพายแป้งสีม่วงและสีเขียว ราดด้วยซอสนมสีขาว “คุยกันสนุกไหมคะ กิน ‘ขนมพระพาย’ กันก่อนดีกว่า สีเขียวเป็นแตงน้ำหวาน สีม่วงเป็นแก้วมังกร ไส้ไม่ใช่ถั่วเหลือง พอดีหนูใช้มันหวานแทน”

“ข้ากำลังหิวเลยขอสีเขียวนะ”

ฮาวาร์ติที่เบื่อและหิว หยิบขนมพระพายสีเขียวเข้าไป กลิ่นหอมของแตงน้ำหวานและมันหวานเนื้อนิ่มแน่นผสมผสานกันอย่างลงตัว มนุษย์เงือกหลับตาลง เขากำลังเข้าสู่ภวังค์ของรสชาติที่เมลเลกสร้างขึ้น

เมื่อฮาวลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง รอบตัวเขาจากเพื่อนพ่อครัวกลายเป็นสวนผลไม้ที่มีกลิ่นหอมหวาน มนุษย์เงือกมองเห็นคนสวยคนหนึ่งที่กำลังถือแตงน้ำหวาน คนๆ นั้นถือมาวางบนโต๊ะหน้าฮาว จากนั้นใช้มีดหั่นครึ่ง กลิ่นความละมุนสร้างรอยยิ้มให้กับฮาว ทั้งคู่จับมือและส่งยิ้มให้กัน

น้ำตาของฮาวาร์ติค่อยๆ ไหลออกมา “ข้าคิดถึงเจ้า”

นอททัมกำลังจะหยิบขนมพระพายเข้าปาก แต่หยุดชะงักเมื่อเห็นเพื่อนของเขากำลังเคี้ยวขนมพร้อมกับร้องไห้ อึ้งยิ่งกว่าที่น้องชายแสนรักอย่างน้องเพรากำลังเอามือรองน้ำตาฮาวาร์ติ “น้องเพรากำลังทำอะไรครับ”

“เคยมีตำนานบอกว่าน้ำตามนุษย์เงือกสามารถรักษาแผลได้ทุกชนิด... หนูก็คิดถึงเช่นกัน” เพรากำลังเป่าหูทำเสียงเป็นผู้หญิงพูดให้ฮาวร้องหนักกว่าเดิม

“เมลเลกจัง เพื่อนของเธอมีสีสันดีเนอะ ฉันไม่แปลกใจที่เห็นเธอมีความสุขตลอด แก้วมังกรพันธุ์นี้สีสวยดีจริงๆ” คุณวิกค์หยิบขนมพระพายสีม่วงขึ้นมากิน “หนูเมลเลก ฉันขอเอากลับบ้านไปให้สามีทานสักสองสามชิ้นได้ไหม”

“ได้ค่ะ ดีใจที่คุณวิกค์ชอบ”

“บ่ายโมงแล้วเหรอเนี่ย ขอตัวก่อนนะ พอดีมีนัดเล่นไพ่นกกระจอกกับพวกคุณเอมเบอร์”

เมลเลกยิ้มแย้มเดินไปส่งคุณวิกค์ที่หน้าสำนักงาน เธอมองรถบ้านก็คิดถึงชูร์ที่บอกว่าจะไปทำธุระที่เขตอื่น สาวลูกคุณหนูกำลังจะเดินกลับไปเก็บปิ่นโต แต่ดูเหมือนไม่ต้องทำแล้วเพราะนอททัมถือปิ่นโตพร้อมเดินจูงมือฮาวที่ยังร้องไห้ไม่หยุดมาจากสำนักงาน ส่วนเพรายังคงประคองมือรับน้ำตาฮาวไม่หยุด

“ที่รัก ข้าคิดถึงเจ้า...” ฮาวพึมพำขณะร้องไห้

นอททัมเดินจูงมือมนุษย์เงือกจนมาหยุดคุยกับเมลเลก “ท่าทางแตงน้ำหวานจะชวนให้เพื่อนปลาน้อยของเรา คะนึงนึกถึงวันหวานไม่เลิกเลยครับ”

“นั้นสิ คาดไม่ถึงเลย”

“เรื่องแตงน้ำหวานนั้นเหรอครับ”

“นิดนึง คาดไม่ถึงกว่านั้นคือน้องชายนายโตขนาดนี้แล้วยังเชื่อเรื่องน้ำตามนุษย์เงือกรักษาทุกโรคอีกเหรอ” เมลเลกเดินไปสะบัดมือของเพราทำให้น้ำตาที่กักตุนไว้หกลงพื้นหมด

“เดี๋ยว! น้ำตารักษาทุกโรค ถ้าเราไปขายตลาดมืดจะได้เงินมากแค่ไหน แล้วทำไมต้องมาคาดไม่ถึงกับเรื่องของเรา ทำไมไม่คาดไม่ถึงกับเรื่องของไอ้ปลา” นอททัมกับเมลเลกมองหน้ากันอย่างสงสัย ทำไมต้องคาดไม่ถึงกับฮาว “เรื่องที่มันมีคนรัก”

สิ้นคำพูดของเพราทำให้นอททัมกับเมลเลกถึงกับตกใจช็อกไม่ได้สติไปอีกสองคน ทำให้น้องเพรา น้องเล็กในกลุ่มต้องเดินจูงมือลูกคุณหนูและชายร่างโตกลับเข้าบ้าน ส่วนมนุษย์ปลาก็ยังถูกนอททัมจูงมาอีกที

 

...

ณ เขตปกครองไอโชราหรือเกาะลอยฟ้า ห้องประชุมครัววังหลวง

ขณะนี้เหล่าพ่อครัววังหลวง รองหัวหน้าพ่อครัววังหลวง และคุณวิกค์กำลังนั่งประชุมวางแผนต้อนรับเหล่าว่าที่พ่อครัววังหลวงรุ่นใหม่ ถึงแม้จะเรียกว่าการประชุม แต่คนที่จริงจังกับการประชุมก็มีเพียงทีมครัวฤดูร้อนเท่านั้น แม้แต่คุณวิกค์เองก็ยังไม่เลิกดื่มน้ำชาสักที

“พวกคุณช่วยสนใจกฎการแข่งครั้งนี้หน่อยได้ไหมครับ ผมไม่มีเวลาทั้งวันนั่งดูพวกคุณนะ” มนุษย์กระต่ายหนุ่มขนสีครีมชมพูทุบโต๊ะชี้หน้าพัมพีและพ่อครัวอีกสองคน พ่อครัวกระต่ายคนนี้ชื่อว่า ‘เมล่อนยู’ หัวหน้าพ่อครัววังหลวงฤดูร้อน และเป็นหัวหน้าทีมของมานึล

“เรื่องกฎ พวกเราตกลงกันเสร็จแล้วไม่ใช่เหรอ เมล่อน นายตามพวกเราไม่ทันเองใช่ไหม มานึลคุง” ผู้หญิงฮาฟเอลฟ์ที่กำลังแต่งหน้าไปด้วยพูดขึ้น เธอคือ ‘ฮันนี่บี’ หัวหน้าพ่อครัววังหลวงฤดูใบไม้ผลิ

“ถึงทุกคนจะเห็นด้วยกับกติกาที่ผมกับรองหัวหน้าพ่อครัววังหลวงฤดูใบไม้ร่วง คุณ ‘ชิม่อน’ กำหนดไว้ก็ถือว่าเรียบร้อยแล้วครับ ว่าแต่คุณชิม่อนไม่มาประชุมด้วยเหรอครับ คุณพัมพี” มานึลหันถามพัมพี พ่อครัววังหลวงฤดูใบไม้ร่วง ที่นั่งเท้าคางกำลังจะหลับในอีกไม่ช้า

“เจ้าชิม่อน เตรียมสำหรับอาหารต้อนรับคณะทูตจากเมืองตะวันออก ว่าแต่เราประชุมเสร็จแล้วใช่ไหม งั้นขอตัวก่อนจะไปนอนที่ห้อง” พัมพีกำลังจะลุกออกจากห้อง คุณวิกค์ที่เห็นแบบนั้นเลยทักขึ้น

“เพรา รุนเฮิร์บ เขามาถึงแล้วนะ เด็กคนนั้นมีเพื่อนที่ดีมากเลย เอาชาเพิ่มไหมจ๊ะ ไอซ์ซี” คุณวิกค์รินน้ำชาให้ชายผมขาวที่ชื่อ ‘ไอซ์ซี’ หัวหน้าพ่อครัววังหลวงฤดูหนาว

“งั้นเหรอ งั้นคุณวิกค์ก็ทำบัตรประจำตัวหัวหน้าพ่อครัววังหลวงฤดูใบไม้ร่วงใหม่ได้เลย”

“นายมั่นใจมากไปไหม นายรู้หรือเปล่า 52 คนที่เข้ารอบมาจากทุกสนามสอบ ปีนี้มีพวกหัวกะทิเกินครึ่งนะ เทียบกับรอบของพวกเรา พวกเราเป็นการสอบที่ง่ายทันทีเลย มานึลนายไปสำรวจมาแล้วใช่ไหม” เลม่อนหันไปถามมานึล รองหัวหน้าของเขายื่นเป็นเอกสารสรุปรายชื่อให้กับเมล่อนยู

“ครับ เพรา รุนเฮิร์บ น้องเมลเลก นอททัมคนนี้ไม่มีประวัติเลยแต่ความสามารถล่าอาหารสูงมาก พ่อครัวจากร้านอาหารในเครือเมล็ดอุดมสมบูรณ์ 5 คน …” มานึลไล่ประวัติผู้เข้าสอบคัดเลือกที่น่าสนใจให้พ่อครัววังหลวงทั้งสี่คนฟัง

“ตายจริง เมล็ดอุดมสมบูรณ์ เราต้องทำอะไรกับคนพวกนี้ไหม ไอซ์ซี” ฮันนี่บีดูเหมือนเธอจะกังวลกับคนที่อยู่ในเครือเมล็ดอุดมสมบูรณ์

“ทำไม่ได้” ไอซ์ซีตอบห้วนๆ

“ตายจริงหวังว่าจะทุกคนจะรอดจนถึงการสอบครั้งสุดท้ายนะ” คุณวิกค์ยิ้มรอบยิ้มอสนหวานก่อนที่เธอจะหยิบน้ำชาอีกรอบ “หวังว่านะ...”

[เกร็ดความรู้หลังครัว]

เป็นตอนแรกที่ทำขนมและเป็นตอนแรกที่ทำอาหารไทยเลือกยากมากว่าจะทำขนมอะไร เพราะส่วนตัวรู้สึกว่าขนมไทยมันต้องเครื่องมือที่เป็นประจำตัวของขนมไทย ทำให้ในครัวของเพราน่าจะไม่มีอยู่แล้วด้วย คิดไปคิดมาจึงตกมาที่ ขนมพระพายนั้นเอง เป็นสวยและดูสง่าเหมาะมากที่เป็นการโชว์เคสจริงๆ เมลเลก