พ่อครัววังหลวง คือผู้ทำอาหารให้กับเหล่าผู้คนชั้นสูงในวัง เป็นตำแหน่งของพ่อครัวที่ใครๆก็อยากไต่ไปถึง และหนึ่งในนั้นต้องเป็น 'เพรา' คลื่นลูกใหม่แห่งวงการพ่อครัวจอมเวทย์ที่พร้อมกระตุ้นความอร่อยด้วยมือเขา

บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท - เมนูที่ 13 สไลม์ผลไม้ โดย คอคิจ @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ผจญภัย,แฟนตาซี,ครอบครัว,ไทย,ตะวันตก,ดราม่า,แฟนตาซี,ทะลุมิติ,ต่างโลก,อาหาร,ผจญภัย,เวทมนต์,มอนสเตอร์,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ผจญภัย,แฟนตาซี,ครอบครัว,ไทย,ตะวันตก

แท็คที่เกี่ยวข้อง

ดราม่า,แฟนตาซี,ทะลุมิติ,ต่างโลก,อาหาร,ผจญภัย,เวทมนต์,มอนสเตอร์

รายละเอียด

พ่อครัววังหลวง คือผู้ทำอาหารให้กับเหล่าผู้คนชั้นสูงในวัง เป็นตำแหน่งของพ่อครัวที่ใครๆก็อยากไต่ไปถึง และหนึ่งในนั้นต้องเป็น 'เพรา' คลื่นลูกใหม่แห่งวงการพ่อครัวจอมเวทย์ที่พร้อมกระตุ้นความอร่อยด้วยมือเขา

ผู้แต่ง

คอคิจ

เรื่องย่อ

บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวทย์

Record the recipe of the Royal chef

หมวดหมู่ : แฟนตาซี ทำอาหาร การแข่งขัน ต่อสู้(นิดหน่อย)

__________________________

 

การเป็นพ่อครัววังหลวงนั้นเป็นความฝันและเป้าหมายชีวิตของเหล่าพ่อครัว เหล่านักสร้างความอร่อยให้กับโลกใบนี้ การเป็นพ่อครัววังหลวงที่หลายปีจะเปิดรับพ่อครัวรุ่นใหม่เพียงแค่ 4 คนเท่านั้นเป็นหัวหน้าพ่อครัวประจำฤดูทั้งสี่ และหนึ่งผู้จะเข้าชิงตำแหน่งนั้นคือ ‘เพรา’ พ่อครัวจากเมืองเล็กๆแห่งนั้น แรงปรารถนาของเขาอาจจะไม่เหมือนใคร เพราะเขาไม่ต้องการ ชื่อเสียง เงินทอง เกียรติยศ หรือความสุขสบาย สิ่งที่เขาต้องการแค่ ความจริง 

“แค่เป็นเหมือนนายให้ได้ใช่ไหม แล้วชั้นจะรู้ความจริง…” - เขียวใบไม้

“การที่ผมมาอยู่ตรงนี้ได้ มาจะช่วยเติมเต็มได้จริงเหรอ?” - แดงเนื้อสัตว์

“การเป็นพ่อครัววังหลวง มันจะแสดงให้ตระกูลเห็นว่าเราเองก็มีค่า” - ม่วงเปลือกมังคุด

“อยากให้คุณอยู่เห็นความสำเร็จของคุณจังเลย …ที่รัก” - ครามทะเล

“ฉันยืนอยู่ตรงนี้นะ กำลังใจของพวกนาย” - กลิ่นน้ำมันเครื่อง

 

_____________________________

 

 

สารบัญ

บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 1 สลัดสไลม์ทอด,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 2 สตูว์เนื้อ,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 3 แซนด์วิชทงคัตสึหมูโคลน,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 4 ฟาฮิตาไก่,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 5 ปูถ่านหิน,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 6 เค้กปูแบบพอดีคำ,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 7 แพนเค้กนุ่มฟู,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 8 ไข่ผำบนหลังแมงป่อง,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 9 ปลากะพงย่างพาสต้าไข่ผำซอสเพสโต้,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 10 คุณกระต่ายว่ายน้ำนม เบอร์ 2,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 11 นมถั่วพิตาชิโอ้,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 12 ขนมพระพาย,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 13 สไลม์ผลไม้,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 14 ระบำจิ้งจอกม่านหมอกเพลิง,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 15 คาเนลโลนีทุเรียนซ่อนแอบ,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 16 หมึกต้นไม้,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 17 โอโคโนมิยากิหมึกต้นไม้,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 18 ยำเห็ด ซุปเห็ด สเต๊กเห็ด และพุดดิ้ง,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 19 เจ้าปลามีขา,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 20 ดอกบัวเงือกหวาน,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 21 ช่อม่วงไส้กุ้ง,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 22 เคลพีสามทาง,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 23 สตรอเบอร์รี่ ครีมชีส พาร์เฟต์,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 24 เข็มกลัดว่าที่พ่อครัววังหลวง (ชั่วคราว),บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 25 ไก่ผัดเมล็ดวินลัท,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 26 บุหลันดั้นเมฆ,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 27 แกะขนทราย,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 28 ปอเปี๊ยะสด,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 29 ป๊อปคอร์นวาซาบิ

เนื้อหา

เมนูที่ 13 สไลม์ผลไม้

วันเวลาผ่านไปอีกไม่กี่วัน ตอนนี้หน้าตัวอาคารสำนักงานเก่าๆ แห่งนี้ได้กลายเป็นที่รวมตัวของผู้มีความฝัน ว่าที่พ่อครัววังหลวงคนต่อไป ตอนนี้ว่าที่พ่อครัวทั้งหมดกำลังยืนรอกรรมการคุมสอบรอบนี้ขึ้นชี้แจงอยู่หน้าลานกว้างของสำนักงาน บางคนใช้เวลานี้ทำความรู้จักกับคู่แข่ง บางคนกำลังรวบรวมสมาธิของตัวเอง ส่วนเพรากับเมลเลกกำลังยืนนิ่งสงบอยู่มุมลานกว้าง คนหนึ่งนิ่งเพราะไม่อยากคุยกับใคร ส่วนอีกคนไม่อยากให้ใครรู้จักตัวเอง

“คนเยอะเหมือนกันนะครับ คุณฮาว น่าจะห้าสิบคนได้นะครับ” นอททัมยืนอยู่กลางผู้คนเพราะโดนเจ้าปลานั้นลากมาดูหน้าคู่แข่ง

“ข้าสงสัยว่าพ่อครัววังหลวงเนี่ย เป็นศูนย์รวมหลากเผ่าพันธุ์เหรอ เจ้าดูสิ” ฮาวาร์ติชี้ไปที่ผู้เข้าสอบคนอื่นที่ไม่ใช่เผ่ามนุษย์ ทั้งเผ่ามนุษย์หาง (ชื่อเรียกรวมของสิ่งมีชีวิตครึ่งคนครึ่งสัตว์บก) เผ่ามนุษย์เงือกที่มีเพียงคนเดียวคือฮาว เผ่าฮาร์ฟุต เผ่าเอลฟ์และฮาร์ฟเอลฟ์ รวมไปถึงนกอินทรี (?)

“นั้นนกจริงๆ ใช่ไหม ไม่ใช่พวกแปลงกายใช่ไหมครับ” นอททัมกระซิบกับฮาวเพราะกลัวว่านกตัวนั้นจะได้ยิน

“ข้าว่าพวกแปลงกาย ถ้าเป็นนกจริงๆ โดนคนที่นี่ปิ้งไปแล้ว” แต่ฮาวตอบกลับเสียงดังจนเจ้านกรู้ตัว มองทั้งสองคนด้วยสายตาข่มขู่ “ใครจะไปกินนก เท่แบบนั้นเนอะ นอททัม” ฮาวเสียขวัญทันทีที่เห็นสายตาของนกตัวนั้น

เพรากับเมลเลกมองดูสองคนนั้นกำลังตื่นเต้นกับสอบครั้งต่อไปก็อดขำไม่ได้ “นอททัมเหมือนจะได้คนดูแลเพิ่มเนอะ”

“คงงั้น”

“อ้าวนั้นคุณหนูเมลเลกไม่ใช่เหรอครับ” เสียงของผู้ร่วมสนทนาที่สามกำลังเดินเข้ามาร่วมกับทั้งสองคน เมลเลกไม่ได้หันไปตามต้นเสียง เธอคิดในใจว่าต้องมาเจอคนที่รู้จักว่าเธอเป็นใครอีกแล้วเหรอ “ได้ยินข่าวลือว่า มีลูกสาวของคุณหญิงเอมโปมาร่วมสนามในครั้งนี้ด้วย คิดอยู่แล้วว่าเป็นคุณ”

เมลเลกรู้สึกรำคาญที่ต้องคุยกับคนอื่นเธอจึงจะหันไปตหวาดไล่ “ขอโทษนะคะพอดี...คุณลู่เสียน”

ชายหนุ่มรูปงามที่เดินเข้ามาทักทายเมลเลกนั้น เป็นชายหนุ่มผิวพรรณขาวผ่อง ผมยาวดำมีส่วนหนึ่งถูกรวบไว้เป็นบันด้วยปิ่นปักผม เขาแต่งตัวด้วยเสื้อคลุมยาวสีขาวที่มีแขนกว้าง เข็มขัดเป็นผ้าสีฟ้าคราม เมลเลกมองคนที่ชื่อลู่เสียนด้วยความแปลกใจ

“ประทับใจจริง ไม่นึกว่าคุณเมลเลกจะจำกระผมได้ เป็นเกียรติของกระผมจริง” ลู่เสียนก้มหัวทักทายเมลเลกอย่างเป็นมารยาท “ขออภัยด้วย กระผมไม่เห็นว่ากำลังอยู่กับเพื่อนชาย กระผมขอตัวก่อนนะครับ” ลู่เสียนมองไปที่เพรา สายตาของพ่อครัวหนุ่มตอนนี้รู้สึกไม่ชอบใจลู่เสียนสักเท่าไรทำให้เขาขอตัวลาไปทั้งๆ ที่เมลเลกยังไม่ได้พูดกับเขาสักคำ

ทั้งสองคนมองหน้ากัน เหมือนเพราจะอยากถามอะไรสักอย่างหนึ่งแต่เขารู้สึกว่าถ้าคำตอบแล้วก็ไม่ได้ช่วยอะไรให้มันดีขึ้นเลยเงียบต่อไป ส่วนเมลเลกรู้สึกใจคอไม่ดีที่ได้พบกับลู่เสียน เหมือนเธอกับเขามีความหลังอะไรบางอย่าง

ความรู้สึกตื่นเต้นของเมลเลกยังไม่สงบดี ความตื่นเต้นครั้งใหม่กำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว มีชายคนหนึ่งสวมเสื้อแขนกุดสีดำ กางเกงยีนสีน้ำเงิน ทั้งสองมือพันด้วยผ้าขาวเหมือนกับนักมวย เขาอุ้มลังไม้มาตั้งเป็นแท่นยืน ด้านหลังของเขาที่เดินตามมานั้นเป็นคนที่เพรารู้จักดีอย่าง มานึลและคุณวิกค์

ชายคาดเชือกทำมือเป็นรูปตัว C พร้อมสูดหายใจเข้าไปลึกๆ “ไง เจ้าพวกไก่อ่อนทั้งหลาย!!!” เสียงของเขานั้นดังตะโกนจนคนในลานหน้าสำนักงานต้องนำมือปิดหู

“คุณชิม่อนดังไปครับ ใช้แค่เสียงปกติของคุณ ผมว่าคุณน่าจะคุยรู้เรื่องแล้วนะครับ” มานึลยืนอยู่ข้างๆ รู้สึกมึนเล็กน้อยเพราะเขานั้นปิดหูไม่ทัน “ทุกท่านครับ พวกเราจะเริ่มคัดเลือกรอบที่สองแล้วนะครับ”

“เราชิม่อน รองหัวหน้าพ่อครัววังหลวงฤดูใบไม้ร่วง ส่วนเจ้านี้ มานึล รองหัวหน้าพ่อครัววังหลวงฤดูร้อน เราสองคนจะเป็นกรรมการของพวกแก ในรอบนี้” การวางตัวของชิม่อนเหมือนกับนักเลงที่กำลังจะไปหาเรื่องคนอื่น นอททัมเห็นหน้าเขาแล้วทำให้รู้สึกไม่สบายใจบอกไม่ถูก เพราที่ได้ยินว่าเขาเป็นรองหัวหน้าของพัมพีรู้สึกเอะใจเล็กน้อย

‘อ้าว เจ้ามัฟฟินไม่ได้เป็นรองหัวหน้าเหรอ แล้วคนชื่อชิม่อนมันเป็นใคร เจ้าพัมพีไม่เคยเห็นเล่าให้ฟังเลย’ เพรายืนคิดอยู่นานสองนานก็ได้เลิกแล้วมาฟังชิม่อนดีกว่า

“มีผู้ผ่านคัดเลือกรอบแรกที่มารายงานตัวทันเวลาทั้งหมด 44 คน จาก 58 คน ซึ่งทางเราไม่ได้แคร์อยู่แล้วยิ่งน้อยก็ยิ่งดี แต่จะบอกว่า 44 คนมันก็ยังดูเยอะไปแถมถ้าให้กินอาหาร 44 จานเราสองคนคงอ้วกแน่ ฉะนั้น! รอบนี้จะพวกแกทำอาหารเป็นคู่ เข้าก็เข้าคู่ ตกรอบก็ตกรอบคู่ คนชิมสบายท้อง คนคัดสบายใจ”

“หา!” สิ้นคำพูดของชิม่อนเสียงที่ดังกว่าตอนนี้คือเหล่าผู้เข้าสอบที่อุทานตกใจ เชื่อเลยว่าหลายๆ คนไม่เคยทำอาหารเป็นคู่มาก่อน

ชิม่อนได้ยินเสียงของความตกใจยิ่งทำให้เขารู้สึกสะใจ “อะไรพวกแกไม่เคยทำอาหารร่วมกับคนอื่นหรือไง ชักสนุกแล้วสิ”

แล้วชิม่อนได้เริ่มแจ้งรายละเอียดของการสอบคัดเลือกรอบนี้

“1. กรรมการมีอย่างน้อยสองคนนั้นคือ เราและมานึล แต่อาจจะมีเพิ่มถ้าพวกพ่อครัววังหลวงคนอื่นสนใจมาร่วมชิมด้วย

2. กรรมการแต่ละคนมี 20 คะแนน

3. คะแนนคู่ไหนน้อยที่สุดเป็น 6 อันดับสุดท้ายจะถูกคัดออก หรืออาจจะมากกว่านั้นถ้าอาหารมันรสชาติแย่ อย่าลืมว่าพวกเราอยู่ระดับรองหัวหน้าพ่อครัววังหลวงนะ

4. จับคู่ได้อย่างอิสระด้วยตัวท่านเอง ยังไงสะพวกแกก็เป็นคนเลือกทีมเอง ตอนเป็นพ่อครัววังหลวง ถ้าไปถึงนะ

5. ใครที่ได้คู่แล้วให้มาจับสลากสุ่มวัตถุดิบ กับเจ้ามานึล ทุกคู่จะได้วัตถุดิบไม่เหมือนกัน แล้วแต่ดวงนะไอ้หนูแต่ถ้าคิดว่าจะเป็นพ่อครัววังหลวง จะเป็นอะไรก็ล่าได้ จะเป็นอะไรก็ทำได้

6.ทุกวัตถุดิบอยู่ที่ ป่ามานาซูโล เป็นป่าใกล้ๆ เมือง คนปกติเดินไปสักหนึ่งชั่วโมงก็ถึง

7.มีเวลาทั้งหมดสามชั่วโมง

8.อาหารทุกอย่างจะต้องทำที่ครัวของเราอยู่ชั้นสองของสำนักงาน และเรามีวัตถุดิบทั่วไปอยู่ที่ชั้นหนึ่งสามารถเลือกใช้ได้ตามใจชอบ

9.จะเดินทางไปยังไงก็เรื่องของพวกแก ทางเราไม่มีอะไรช่วยด้วยนะ

10.ที่จริงน่าจะไม่มีอะไรแล้ว มีใครจะถามอะไร สาม สอง หนึ่ง ไม่มีเนอะ ให้เวลาหาคู่สิบนาที” สิ้นคำพูดความวุ่นวายจึงบังเกิด ผู้คนต่างหาคู่ที่ต้องการ ฮาวกับนอททัมที่อยู่กลวงฝูงชนต้องหลบหนี นอททัมใช้ร่างกายของตัวเองให้ฮาวขี่คอเพื่อมองหาเพื่อนอีกสองคน

“นั้นไง นอททัม เจ้าเด็กสองคนอยู่ทางนั้น” ฮาวชี้ไปทางเพราที่กำลังโบกมือเรียกทั้งสองคนอยู่

“พูดมันก็ง่ายนิครับ ลองมาเป็นคนเดินดูไหมครับ” นอททัมถึงปากจะบ่นแต่ก็สามารถฝ่าฝูงคนมาเจอกับทั้งสองคนได้ “ที่จริงไม่ได้ยากนี่นา”

เพรากำลังยืนคุยกับเมลเลกเห็นว่าพวกนอททัมมาแล้ว “ทุกคนคิดเหมือนกันใช่ไหมว่า จะจับคู่กันเอง”

ฮาวกระโดดลงจากคอนอททัม “แต่ว่า ใครจะคู่ใคร พวกเจ้าคิดไว้หรือยังแต่ข้าเลือกแล้วนะ” ฮาวเงยหน้ามองพ่อหนุ่มร่างโต

“เดี๋ยวสิ เจ้าปลา ทำไมไม่ไปคู่กับเมลเลกล่ะ นอททัม เขาเรียนรู้ทำอาหารมาจากผม ต้องคู่กับผมสิ” พอเพรารู้ว่าฮาวจะจองตัวนอททัม เขาก็รีบโยนให้ฮาวคู่กับเมลเลกทันที

เมลเลกก้าวเข้ามาพร้อมส่งสายตาไม่พอใจ “ช้าก่อน นอททัม คู่กับเราดีกว่านะ ถ้าพวกเราจับได้ของที่เหมาะกับขนมหวาน เราจะเป็นคนช่วยเอง” เธอเดินผ่านเพราและฮาวไปกอดแขนนอททัม ราวกับแม่นกห่วงไข่

“เห้ยๆ ข้าเป็นคนเลือกก่อนนะ ข้าอุสาให้นอททัมมาหาพวกเจ้าเพราะอย่างน้อยก็ยังให้เกียรติมาแจ้งก่อน ไม่งั้นข้าเดินไปลงชื่อแล้ว” ฮาวยืนเท้าเอว ยืนยันสิทธิ์ของเขา

ตอนนี้เกิดความวุ่นวายขึ้นแล้ว เพราะทั้งสามคน เมลเลก เพรา และฮาวไม่อยากคู่กันเอง ทั้งหมดสนใจแต่จะคู่กับนอททัม ตัวนอททัมเองยังไม่ได้คิดเลยว่าอยากจะจับคู่กับใครดี แถมตัวเขาก็ไม่เข้าใจว่าทำไมทั้งสามถึงอยากได้เขาเป็นคู่ขนาดนั้น ถึงจะรู้สึกดีใจที่มีคนต้องการตัวเขาขนาดนั้นก็เถอะ

“ข้าว่าต้องใช้วิธีนั้นแล้วละ” เพราเสนอวิธีแก้ปัญหา

“วิธีการแบบชาวบ้าน เอาก็เอาดีกว่ามายืนเถียงพวกนาย”

“มาสิ”

“โอน้อยออก” เสียงของทั้งสามพูดพร้อมกัน นอททัมตะลึงกับวิธีการของเพื่อนของเขาแถมยังไม่มีใครถามเขาด้วยนะว่าอยากคู่กับใคร

...

ยินดีต้อนรับสู่ป่ามานาซูโล เป็นพื้นที่ป่าที่ได้รับการควบคุมและดูแลจากเมืองเอสทาริค คำว่ามานาซูโลเป็นภาษาโบราณแปลว่าดินแดนฝึกตน แน่นอนเหล่าผู้คนจากเมืองเอสทาริคก็ใช้ป่าเพื่อทำสิ่งนั้น การฝึก ปกติแล้วพื้นที่ป่ามานาซูโลเป็นพื้นที่ฝึกพื้นฐานของหน่วยรบและเหล่าจอมเวทฝึกหัดทั้งหลาย ถึงจะบอกว่าเป็นพื้นที่เริ่มต้นฝึกแต่ก็มีคนที่ทิ้งชีวิตกับป่านี้ไม่น้อยอยู่เหมือนกัน

“ให้ตายสิ ทำไมข้าต้องมาคู่กับเจ้าด้วย” ฮาวาร์ติเดินใช้มือหักพวกใบไม้ขวางทางไป ปากก็บ่นให้กับคนที่เดินตามข้างหลังมาด้วย

“บอกแล้วไงว่าถ้าไม่อยากคู่ด้วย ให้ไปคู่กับเจ้านกนั้น” เพราตอบกลับเสียงเรียบๆ แล้วคนที่จับคู่กับฮาวนั้นคือเพรา ส่วนเมลเลกนั้นได้นอททัมไปคู่หูทำอาหาร

วัตถุดิบหลักของทั้งสองที่หาในครั้งนี้คือ ‘สไลม์ผลไม้ : ทุเรียน’ สไลม์สิ่งมีชีวิตขนาดเล็กประมาณลูกบอล โดยปกติสไลม์จะอาศัยอยู่ตามพื้นที่ที่มีเสียงน้อย มีความชื้น แตกต่างจากพวกสไลม์ผลไม้ สิ่งมีชีวิตจำพวกนี้สามารถทนทานต่อแสงแดดได้ พวกมันใช้น้ำในผลไม้ในการหล่อเลี้ยงชีวิต สไลม์ผลไม้มีหลายชนิดขึ้นอยู่กับอาหารการกินของมัน ไม่ว่าจะเป็น สไลม์ส้ม สไลม์มะนาว แต่ที่พวกเพราหานั้นคือสไลม์ทุเรียน สไลม์เมือกสีเขียวสามารถเปลี่ยนเมือกของตัวเองเป็นหนามแหลมได้ อวัยวะภายในปกติจะเป็นใสแต่สำหรับสไลม์ทุเรียนจะเป็นสีเหลืองนวลเหมือนเนื้อทุเรียน ว่ากันว่าเครื่องในมันรสชาติหวานมันมีกลิ่นหอมอ่อนๆ ความอร่อยเทียบเท่าทุเรียนสวนราคาแพงๆ ได้เลย

“ได้กลิ่นบ้างไหม” เพราถามฮาวที่เดินหักใบไม้ระหว่างทางไปเรื่อย มนุษย์เงือกส่ายหน้าไม่ได้กินของสไลม์ทุเรียนเลย “แน่สิเล่นหักใบไม้แบบนั้นนอกจากกินเหม็นเขียวจะได้กลิ่นอะไร” เพราหมั่นไส้ฮาวเลยใช้ปลายด้ามกระทะของเขาจี้เอว

“โอ๊ย บ่นอีกแล้ว ทำร้ายร่างกายอีกแล้ว” ฮาวร้องโอดโอยพร้อมกับถอยหนี

“เอาจริงนะ คนคิดโจทย์มันได้ลองหรือยัง ป่ากว้างขนาดนี้ให้หาสไลม์ แถมตอนนี้จะหมดเวลาชั่วโมงแรกแล้วนะ เจ้าปลาเอาไงดี”

ฮาวกำลังจะตอบแต่เขาสังเกตเห็นถึงความผิดปกติของพื้นดิน เขาจึงก้มลงไปสัมผัส “ทางเดินนี่มีเมือกด้วย อาจจะเป็นพวกสไลม์ แต่ป่านี้ก็มีหอยทากยักษ์ด้วย เจ้าว่าไงเพรา”

เพราเดินก้มมาดูรอยทางเมือก “ของสไลม์ ถ้าเป็นของทากยักษ์ต้องใหญ่กว่านี้แน่ แถมระหว่างทางไม่มีรอยหักของกิ่งไม้แสดงว่าไม่ใช่สัตว์ตัวใหญ่ น่าจะเป็นสไลม์แล้วละ” เขาพูดพลางใช้นิ้วแตะเมือกเหนียว

ทั้งสองเดินตามทางของเมือกไปเรื่อยๆ จนไปพบกับหนองน้ำสีขุ่น เส้นทางเมือกนั้นชี้ว่าพวกสไลม์เดินลงหนองน้ำแห่งนี้ เพราลองดมกลิ่นของแหล่งน้ำเขาได้กลิ่นผลไม้อ่อนๆ แสดงว่าพวกเขานั้นมาถูกทางแล้วแต่ตอนนี้ไม่รู้ว่าพวกสไลม์ซ่อนตัวอยู่ไหน

“แปลกๆ รอบหนองเนี่ยมีคราบเมือกเต็มไปหมด แต่ทำไม…” เพราสงสัยขณะกำลังจะตักน้ำในหนองขึ้นมาดู

ทันใดนั้น น้ำเปลี่ยนสีเป็นสีแดง เจ้าน้ำสีแดงกระโจนพุ่งเข้าใบหน้าของเพรา พ่อครัวตัวน้อยดิ้นทุรนทุรายเหมือนคนกำลังขาดอากาศหายใจ ฮาวประคองร่างของเพราเอาไว้มองหาวิธีที่จะช่วยเพื่อนของเขา แต่เหมือนไม่ต้องช่วยเพราะร่างกายของเพรากำลังร้อนขึ้นเรื่อยๆ สไลม์ผลไม้สีแดงที่พยายามจะเข้าไปในร่างกายของเพรา มันกำลังดิ้นออกจากตัวของเขาจนหลุดออกมา สภาพของสไลม์นั้นเหมือนของเหลวที่ไม่มีแรงเคลื่อนไหว ส่วนเพรานั่งเข่าอ่อนหายใจถี่เพื่อรีบนำออกซิเจนเข้าร่างกาย

“เอ๊ะ นี่มัน” ฮาวที่ประคองเพราอยู่สังเกตเมือกสไลม์ที่ตกค้างอยู่บนหน้าผากเพรา เขาจึงเลียไปที่รอยเมือกนั้น “รสมะเขือเทศกำลังอุ่นด้วย เจ้านี่เหมือนเตาอบเลยนะ อุ๊บ!” เพราต่อยเสยคางมนุษย์เงือกจนกระเด็นเข้าพุ่มไม้

“สกปรก! เพราะงี้ถึงอยากคู่กับนอททัมมากกว่าปลาอย่างแกไง ถุ้ย เมือกสไลม์เต็มปากเลย” เพราลุกขึ้นยืนสั่งน้ำมูกกับขากเสลดไล่เมือกออกจากร่างกาย

ฮาวเห็นแบบนั้น เขาจึงคว้าหาผ้าเช็ดหน้าในเป้ของเพราที่ฝากให้ฮาวเป็นคนสะพายไว้ “อะนี่ เช็ดหน้าเช็ดตาสะ” เพรารับผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดคราบเมือกของสไลม์ ส่วนฮาวใช้ไม้เขี่ยๆ ซากสไลม์ผลไม้ที่คาดว่าจะตายแล้ว “พลังความร้อนสุดยอดเลยนะ ตอนประคองตัวเจ้าก็รู้สึกร้อนอยู่หรอกแต่ไม่คิดว่าภายในจะร้อนจนทำให้สไลม์แห้งได้แบบนี้”

“ที่จริงมันเหมือนระบบป้องกันตัวเอง เป็นแบบนี้ตั้งแต่เด็กแล้ว”

“อะหะ แล้วเอาไงกับเป้าหมายเราละ เจ้านี่มันรสมะเขือเทศ ไม่ใช่รสทุเรียน”

“ไม่ต้องทำอะไรหรอก ถ้ามันมีสไลม์หนึ่งตัวแสดงว่า...” เพราตอบแต่ยังพูดไม่จบ

แพละ

เสียงของเหลวตกลงจากที่สูงดังขึ้นเป็นช่วงๆ ทั้งข้างหลังและบริเวณรอบๆ บริเวณหนองน้ำบางจุดเริ่มเปลี่ยนสี กลิ่นหอมของผลไม้ลอยคลุ้งแตะจมูกทั้งสองคน ฮาวรับรู้ถึงการมาของสิ่งมีชีวิตจำนวนมากจากบนต้นไม้ เขาเงยหน้าขึ้น พบกับสไลม์ผลไม้หลากหลายสีกำลังเคลื่อนตัวลงมาจากต้นไม้

“แสดงว่าต้องมีอีกหลายตัวที่อยู่ที่นี่ไง เหมือนเราจะพูดช้าไป” เพราพูดพลางสะบัดกระทะเตรียมต่อสู้

ตอนนี้ทั้งสองกำลังโดนเหล่าสไลม์ผลไม้ล้อมรอบ เมื่อสถานการณ์เป็นแบบนี้ เพราคิดว่าจะต้องมีสักตัวเป็นเป้าหมายของพวกเขาแน่นอน เพรากำลังตั้งใจแพ่งสมาธิดมกลิ่นของสไลม์ทุเรียนแต่ค่อนข้างเป็นเรื่องยากเพราะนอกจากพวกสไลม์ผลไม้กลิ่นหอมหวาน ยังมีกลิ่นของพวกสไลม์ผลไม้กลิ่นแรงผสมอยู่ด้วย ทั้งกลิ่นของสละและละมุด

“ข้าชักจะเวียนหัวสะแล้ว กลิ่นผลไม้พวกนี้มันทำให้ไม่รู้สึกกลิ่นของอากาศหายใจเลย” ฮาวหันไปคุยและสังเกตเห็นว่าเพรานั้นกำลังดมกลิ่นหาสไลม์ทุเรียนมาสักพักแล้ว “ยังไม่เจออีกเหรอถ้าเราเริ่มสู้กลิ่นมันจะฟุ้งขึ้นอีกนะ” ฮาวมองไปที่สไลม์หลายตัว พวกมันกำลังคลานมาหาทั้งสองอย่างระวังตัว

“กลิ่นนี่แหละ ทางนั้นตัวสีเขียวหลัง ตัวสีขาว ถ้าควักไส้มันที่หน้าตาเหมือนเนื้อทุเรียนมันก็ตายแล้ว”

“เห็นแล้วๆ จมูกดีจริงๆ เจ้ามนุษย์” ฮาวโยนกระเป๋าสะพายหลังทิ้ง “แค่ล้วงเนื้อได้ก็จบแล้วใช่ไหม”

ฮาวกระโดดถีบตัวเองพุ่งเข้าหาสไลม์ทุเรียนตัวสีเขียวด้วยความเร็วสูง เขากำลังจะถึงตัวสไลม์ทุเรียนภายในไม่กี่เซนติเมตร เจ้าสไลม์สัมผัสถึงภัยอันตราย มันเปลี่ยนเมือกตัวเองให้แข็งและมีหนามเหมือนทุเรียน ปลายนิ้วของฮาวที่ได้สัมผัสหนามแหลมของทุเรียนถึงกับร้องออกมา

“หนามตำ!” ฮาวกระโดดถอยหลังไปตั้งหลักดูมือของตัวเองที่เลือดไหลเล็กน้อย “เจ้าเพรา ข้าขอความช่วยเหลือ”

ทางเพราเองตอนนี้กำลังรับมือกับสไลม์หลายตัวที่กำลังกระโจนใส่เขา การโจมตีหลายตัวพร้อมกันทำให้เพราได้แต่หลบการโจมตี ไม่มีเวลาโจมตีอวัยวะภายในของมันที่เป็นจุดอ่อนของพวกสไลม์ เขาพยายามจะตั้งสมาธิรวบรวมความร้อนในตัวส่งให้กับกระทะเพื่อเปลี่ยนเป็นกระทะความร้อนสูง แต่ก็ต้องใช้เวลาแถมต้องแบ่งสติมาหลบพวกสไลม์อีก

“ฮาวรีบเก็บเจ้าทุเรียนแล้วรีบออกจากที่นี่เหอะ”

ฮาวาร์ติและเพรากำลังตกในสถานการณ์กดดันและบีบคั้น เพราที่ตอนนี้เริ่มเหนื่อยกับการรับมือพวกฝูงสไลม์ และฮาวที่ต้องหาวิธีจัดการสไลม์ผลไม้ทุเรียนให้ทันเวลา ยิ่งปล่อยให้สไลม์มันรวมกันมากขึ้นมีแต่เสียเปรียบแถมยังเสียเวลาทำอาหารของพวกเขาอีกด้วย

“เอาว่ะ เป็นไงเป็นกัน”

สิ้นคำพูดของฮาว เขากระโจนตัวเข้าหาสไลม์ทุเรียนอีกครั้ง และเหมือนเดิม สไลม์ทุเรียนเปลี่ยนตัวเองเป็นหนาม แต่ครั้งนี้ฮาวไม่ยอมถอย เขาใช้ทั้งสองมือประกบจับสไลม์ หนามแหลมบางส่วนทะลุผ่านฝ่ามือ

“ข้าไม่มีวันจะมาจบตรงนี้แน่ รับนะเจ้าหนูเพรา” ฮาวเขวี้ยงสไลม์ทุเรียนพุ่งตรงไปหาเพรา

“ห๊า! แกจะทำอะไรรรรรรร”

[เกร็ดความรู้หลังครัว]

ครั้งนี้มีึความรู้เรื่องทำอาหารมาแชร์ แค่จะมาถามว่าในมุมมองคนอ่านคิดว่าการจับคู่ ฮาวเพรา เป็นยังไงบ้าง สำหรับเรา มองว่าเป็นคู่ที่กำลังดี ในความไม่กันของทั้งสองคนนะซึ่งมันจะต่างจาก นอททัมเพรา มากเพราะคิดว่าเป็นคู่นี้ เพราจะเป็นลีดจนนอททัมอาจจะไม่ได้โชว์อะไรให้คนอื่นเห็นเลย ถ้าเป็น เมลเลกเพรา มันค่อนข้างจะเป็นความรู้สึกทางใครทางมันไปสะหน่อย ฮาวเพรา จึงคิดว่าเป็นตรงกลางของเรื่องราวทั้งหมดที่ดี ที่จริงเพราะนึกภาพ นอททัมฮาว ไม่ออกด้วยแหละ