พ่อครัววังหลวง คือผู้ทำอาหารให้กับเหล่าผู้คนชั้นสูงในวัง เป็นตำแหน่งของพ่อครัวที่ใครๆก็อยากไต่ไปถึง และหนึ่งในนั้นต้องเป็น 'เพรา' คลื่นลูกใหม่แห่งวงการพ่อครัวจอมเวทย์ที่พร้อมกระตุ้นความอร่อยด้วยมือเขา

บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท - เมนูที่ 17 โอโคโนมิยากิหมึกต้นไม้ โดย คอคิจ @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ผจญภัย,แฟนตาซี,ครอบครัว,ไทย,ตะวันตก,ดราม่า,แฟนตาซี,ทะลุมิติ,ต่างโลก,อาหาร,ผจญภัย,เวทมนต์,มอนสเตอร์,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ผจญภัย,แฟนตาซี,ครอบครัว,ไทย,ตะวันตก

แท็คที่เกี่ยวข้อง

ดราม่า,แฟนตาซี,ทะลุมิติ,ต่างโลก,อาหาร,ผจญภัย,เวทมนต์,มอนสเตอร์

รายละเอียด

บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท โดย คอคิจ @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

พ่อครัววังหลวง คือผู้ทำอาหารให้กับเหล่าผู้คนชั้นสูงในวัง เป็นตำแหน่งของพ่อครัวที่ใครๆก็อยากไต่ไปถึง และหนึ่งในนั้นต้องเป็น 'เพรา' คลื่นลูกใหม่แห่งวงการพ่อครัวจอมเวทย์ที่พร้อมกระตุ้นความอร่อยด้วยมือเขา

ผู้แต่ง

คอคิจ

เรื่องย่อ

บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวทย์

Record the recipe of the Royal chef

หมวดหมู่ : แฟนตาซี ทำอาหาร การแข่งขัน ต่อสู้(นิดหน่อย)

__________________________

 

การเป็นพ่อครัววังหลวงนั้นเป็นความฝันและเป้าหมายชีวิตของเหล่าพ่อครัว เหล่านักสร้างความอร่อยให้กับโลกใบนี้ การเป็นพ่อครัววังหลวงที่หลายปีจะเปิดรับพ่อครัวรุ่นใหม่เพียงแค่ 4 คนเท่านั้นเป็นหัวหน้าพ่อครัวประจำฤดูทั้งสี่ และหนึ่งผู้จะเข้าชิงตำแหน่งนั้นคือ ‘เพรา’ พ่อครัวจากเมืองเล็กๆแห่งนั้น แรงปรารถนาของเขาอาจจะไม่เหมือนใคร เพราะเขาไม่ต้องการ ชื่อเสียง เงินทอง เกียรติยศ หรือความสุขสบาย สิ่งที่เขาต้องการแค่ ความจริง 

“แค่เป็นเหมือนนายให้ได้ใช่ไหม แล้วชั้นจะรู้ความจริง…” - เขียวใบไม้

“การที่ผมมาอยู่ตรงนี้ได้ มาจะช่วยเติมเต็มได้จริงเหรอ?” - แดงเนื้อสัตว์

“การเป็นพ่อครัววังหลวง มันจะแสดงให้ตระกูลเห็นว่าเราเองก็มีค่า” - ม่วงเปลือกมังคุด

“อยากให้คุณอยู่เห็นความสำเร็จของคุณจังเลย …ที่รัก” - ครามทะเล

“ฉันยืนอยู่ตรงนี้นะ กำลังใจของพวกนาย” - กลิ่นน้ำมันเครื่อง

 

_____________________________

 

 

สารบัญ

บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 1 สลัดสไลม์ทอด,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 2 สตูว์เนื้อ,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 3 แซนด์วิชทงคัตสึหมูโคลน,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 4 ฟาฮิตาไก่,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 5 ปูถ่านหิน,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 6 เค้กปูแบบพอดีคำ,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 7 แพนเค้กนุ่มฟู,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 8 ไข่ผำบนหลังแมงป่อง,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 9 ปลากะพงย่างพาสต้าไข่ผำซอสเพสโต้,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 10 คุณกระต่ายว่ายน้ำนม เบอร์ 2,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 11 นมถั่วพิตาชิโอ้,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 12 ขนมพระพาย,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 13 สไลม์ผลไม้,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 14 ระบำจิ้งจอกม่านหมอกเพลิง,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 15 คาเนลโลนีทุเรียนซ่อนแอบ,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 16 หมึกต้นไม้,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 17 โอโคโนมิยากิหมึกต้นไม้,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 18 ยำเห็ด ซุปเห็ด สเต๊กเห็ด และพุดดิ้ง,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 19 เจ้าปลามีขา,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 20 ดอกบัวเงือกหวาน,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 21 ช่อม่วงไส้กุ้ง,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 22 เคลพีสามทาง,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 23 สตรอเบอร์รี่ ครีมชีส พาร์เฟต์,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 24 เข็มกลัดว่าที่พ่อครัววังหลวง (ชั่วคราว),บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 25 ไก่ผัดเมล็ดวินลัท,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 26 บุหลันดั้นเมฆ,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 27 แกะขนทราย,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 28 ปอเปี๊ยะสด,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 29 ป๊อปคอร์นวาซาบิ

เนื้อหา

เมนูที่ 17 โอโคโนมิยากิหมึกต้นไม้

สำหรับว่าที่ผู้เข้าชิงตำแหน่งพ่อครัววังหลวงคนต่อไป ช่วงเวลาว่างหนึ่งวันถือว่าเป็นเวลาทองคำของหลายคน ไม่ว่าจะ ฝึกวิชาเพิ่มเติม ศึกษาหาความรู้วัตถุดิบ ดื่มด่ำไปกับอาหารจากถิ่นอื่นเพื่อเสริมประสบการณ์ และรวมไปถึงการได้พักผ่อน ไม่เว้นแต่พ่อครัววังหลวงคนปัจจุบันอย่าง พัมพี เขาแอบหนีการประชุมมานอนนวดผ่อนคลายในร้านลับของเมือง ร้านที่ตอนรับแต่ผู้มีอิทธิผลของดินแดนแห่งนี้ 

ตัวของพ่อครัวหนุ่มนั้นนอนคว่ำลงบนเตียงนวด เสียงของน้ำตกไหล ความรู้สึกอบอุ่นจากหินร้อนที่กลางหลัง กลิ่นเทียนหอมจากไม้หายาก ทุกอย่างกำลังผสมลงตัวของความผ่อนคลายทำให้พ่อครัวคนนี้รู้สึกดี พัมพีดีใจที่ตัวเขาคิดถูกที่ไม่ต้องไปนั่งประชุมในห้องอากาศหนาวแบบนั้น นอกจากความเย็นเข้ากระดูกยังมีแต่เรื่องน่าเบื่อของพวกพ่อครัวแต่ละฤดู ทั้งพวกจริงจังกับงานจนเกินไปอย่างทีมฤดูร้อน พวกทำตัวนั่งคิดแต่ที่จริงไม่ได้คิดอะไรเลยอย่างทีมฤดูใบไม้ผลิ พวกถามคำตอบคำแบบทีมฤดูหนาว ที่จริงคนที่ทำให้ตัวเขาไม่อยากเข้าประชุมที่สุดน่าจะเป็น รองหัวหน้าของเขาอย่าง ชิม่อน ผู้ที่ไม่เคยเห็นดีเห็นงามอะไรกับตัวเขาจนหลายครั้งพัมพีนึกคิดว่าเขาทำถูกใช่ไหมที่ให้ชิม่อนมาเป็นรองหัวหน้า

การนวดผ่อนคลายกำลังจะหายไป ความสามารถดมกลิ่นดีเลิศประหนึ่งพวกเผ่าโคโบลด์ของพัมพี รับรู้ได้ว่ากลิ่นของพนักงานได้หายไป กลายเป็นกลิ่นของคนที่คุ้นเคยหนึ่ง สอง สาม... สามคนกำลังยืนรอบตัวเขา จะเป็นพนักงานคนอื่นก็ไม่ใช่เพราะกลิ่นพนักงานร้านสปาจะมีกลิ่นคล้ายๆกัน จะเป็นลูกค้าท่านอื่นก็ไม่ใช่เพราะเขาจองเป็นห้องส่วนตัว แสดงว่ากลิ่นนี้คือคนคุ้นเคยแน่นนอน

พัมพีกำลังจะลุกขึ้นเตรียมหนีทั้งสามคน แต่ร่างกายของเขาขยับไม่ได้ แขน ขา ลำตัว และต้นคอกำลังถูกผ้าพันไว้ไม่ให้ร่างกายขยับไปไหนได้

“เอาละ วันนี้เรามาประชุมนอกสถานที่กันดีกว่า เป็นการประชุมระหว่างทีมฤดูร้อนและใบไม้ร่วง” เจ้าของเสียงนั้นพูดด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์ เสียงของการลากเก้าอี้มานั่งข้างตัวพัมพี ทำให้เดาได้เลยว่าเป็น ชิม่อน “ขอวางเท้าหน่อยนะ!” ชิม่อนลงน้ำหนักเท้าไปยังกลางหลัง หัวหน้าพัมพี และยังเป็นจุดที่หินร้อนวางอยู่พอดี 

“เฮือก!”

“เรื่องที่พวกจะประชุม ไม่ใช่เรื่องการสอบแข่งขัน แต่เรื่องของเด็กของนาย พัมพี” น้ำเสียงของเมล่อนยูไม่ต่างจากชิม่อน นายมนุษย์หางกระต่ายป่าใช้เล็บขูดแผ่นหลังผิวสีแทนมาเรื่อยๆ จนมาหยุดที่ท้ายทอย “เด็กคนนั้นไม่ใช่แค่เด็กที่นายปั้นเพื่อมาต่อบัลลังก์พ่อครัวฤดูใบไม้ร่วงเท่านั้นใช่ไหม”

“พูดเรื่องอะไรเหรอก๊าบ น้องเพราแค่เด็กที่ป๋มไปเจอตอนแอบเที่ยวเล่นเองก๊าบ” พัมพีทำน้ำเสียงเย้ายวนกวนประสาท ยิ่งทำให้ชิม่อนโมโหมากขึ้นแถมยิ่งมีเรื่องการไปเที่ยวเล่นอีก ยิ่งทำให้เขาลงน้ำหนักกระแทกเท้าใส่หินให้แรงขึ้น “เฮือก!”

“ถ้ามานั่งเล่นลิ้นกับแบบนี้ผมว่าเสียเวลา ผมจะไม่อ้อมค้อมนะครับ คุณรู้จักคนที่ชื่อชูโรสไหมครับ” มานึลเข้าประเด็นเรื่องทั้งหมด คำถามนี้เป็นคำถามที่พัมพีเองไม่รู้ต้องใช้ลูกเล่นในการตอบเลย เพราะตอนนี้เจ้ากระต่ายป่าได้ทำการลงคำสาป ‘สัจจะต่อวาจา’ คำสาประดับเบาผู้ที่ได้รับคำสาปจะไม่สามารถโกหกได้ ในช่วงที่เมล่อนใช้เล็บขูดกลางหลังพัมพีนั้นไม่แค่ขูดเล่นแต่เป็นทำพิธีคำสาปนั้นเอง “ไม่ตอบผมถือว่ารู้จักนะครับ แล้วรู้จักเจ้าหน้าที่โมลา จากหน่วยบัญชาการตรวจสอบไหมครับ”

“มะ ไม่รู้จัก”

“ความสัมพันธ์แบบเส้นตรงเป็นไปตามที่คิด เรื่องมีอยู่ว่าทั้งสองคนนั้นกำลังตามสืบเรื่องของคนคนหนึ่งอยู่ คุณพัมพีคงทราบใช่ไหมว่าคนนั้นคือใคร”

“น่าจะทราบ”

“เพรา รุนเฮิร์บ  เป็นอะไรกับคนนั้น”

“แม่ลูกกัน”

คำตอบของพัมพีเป็นสิ่งที่ไม่สามารถโกหกได้นั้นทำให้ทั้งสามคนคาดไม่ถึงกับสิ่งที่ได้ยิน เลม่อนยูได้หันกลับมาดูอาคมของเขาว่าเสื่อมหรือเปล่า มานึลเขากำลังจดการให้ปากคำของพัมพีจนต้องหยุดจดเพราะทำหัวปากกาแตก ชิม่อนนั่งวางเท้าบนหลังพัมพีถึงกลับหน้าคว่ำ ทำให้พันธนาการมัดตัวพ่อครัวได้คายออก

“ไอ้พัมพี แกรู้ไหมตัวเองกำลังเล่นกับอะไร...”

พัมพันิ่งเงียบไม่ได้พูดอะไร เขารบกวนให้เมล่อนยูหยิบหินร้อนที่หลังกับอาคมคำสาปออกไปจากหลังเขา พัมพีลุกขึ้นนั่งบนเตียงมองดูสีหน้าของพ่อครัวทั้งสามเมื่อได้รู้ความจริง “รู้สิเพราะเราเป็นคนวางเกมกระดานนี้เอง มานึลขอผ้าขนหนูหน่อยสิ มันอยู่ข้างหลังนาย ถึงจะมั่นใจแต่ไม่อยากให้มันชี้หน้าชิม่อนนาน” พัมพีหวักมือขอผ้าขนหนูสีขาวจากมานึล มานึลพึ่งรู้ตัวว่าพัมพีนั้นตัวเปล่า เขาถึงกับเสียอาการหลบสายตาพัมพีแต่ยังดีที่ถึงผ้าขนหนูให้

เมล่อนยูมองแผ่นหลังสีแทนด้วยอารมณ์วิตกกังวล “เรื่องนี้มีคนรู้แค่ ฉัน ชิม่อน มานึล นาย เพราและแม่ของเพราใช่ไหม” พัมพีบิดขี้เกียจหันมายิ้มให้กับคุณกระต่ายด้วยรอยยิ้มของหมาป่า

“ผิด เกมกระดานนี้มีแต่พวกเราคนวางกระดานเท่านั้นที่รู้ ถ้าเด็กคนนั้นรู้มันคงไม่สนุก ส่วนพวกนายควรอยู่ในฐานะผู้ชมพอแล้ว อุ๊บพูดมากไปไหมเนี่ย งั้นผมขอจบอารัมภบทไว้แค่นี้ ฝากจ่ายค่านวดด้วยนะ”

พัมพีก้มโค้งบอกลาเหมือนกับนักแสดงบนวิธี เขาร่ายเวทที่ชื่อว่า ‘นักแสดงไร้ตัวตน’ จากนั้นทั้งห้องสปากลายเป็นหมอกสีขาวบดบังวิสัยทัศน์ของทั้งสามคน หมอกนั้นไม่ได้กระจายตัวแค่ในห้องนี้แต่หมอกนั้นฟุ้งกระจายไปทั่วร้านสปาทำให้ลูกค้าและเหล่าพนักงานเข้าใจผิดว่าเกิดเหตุเพลิงไหม้ ชิม่อนที่จะไล่ตามพัมพีก็ต้องหยุดความคิดนั้นเพราะทางเดินเต็มไปด้วยผู้คนกำลังหนีหมอกสีขาว

พัมพียืนมองความวุ่นวายจากฝีมือของเขาอยู่บนหลังคาร้านสปา เหมือนว่าตัวเขานั้นจะปล่อยหมอกเยอะเกินไปจนทำให้คนอื่นนั้นเดือดร้อน เขาภาวนาให้เจ้าของร้านไม่สั่งห้ามไม่ให้ใช้บริการอีก เพราะเขาติดใจวางหินร้อนของร้านสปานี้มาก พ่อครัวหนุ่มกระโดดลงจากหนังคา มาสู่พื้นราวกับเขามีปีกร่อนลงมา

“ไปเยี่ยมหมากตัวสำคัญหน่อยดีกว่า”

            ...

ณ รถบ้านแสนสุข เหล่าพ่อครัวทั้งสี่นั้นกำลังมีความสุขกับการได้ไปท่องเที่ยวป่าในครั้งนี้ นอกจากได้หมึกตัวใหญ่กลับมาทำเป็นมื้อเย็น พวกเพรายังได้ล้างตากับพวกสไลม์ผลไม้ทำให้ พวกเขาเป็นปลื้มที่ครั้งนี้ได้ผลไม้มาทานเล่นอีกด้วย ภายในห้องครัวของรถบ้านกำลังมีเหล่าผู้มีใจในการทำอาหารทั้งสี่คนยืนมองหนวดของหมึกต้นไม้สองเส้น ด้วยขนาดที่ใหญ่ของหมึกต้นไม้ทำให้ทั้งสี่คิดว่าถ้าเอามาทั้งตัวจะใส่รถไม่ได้ เขาพกวจึงติดสินใจให้ธรรมชาติกลืนกินเจ้าหมึกแทน

ดูเหมือนทั้งสี่ความคิดนั้นจะแตกต่างกัน ทางด้านฮาวนั้นอยากทำเป็นบุยยาเบส [1] ซุปจากทะเล ความหอมของกระดูกปลา มะเขือเทศจากสไลม์ผลไม้ ต้องเข้ากันได้ด้วยดีกับหมึกต้นไม้ เพราเห็นว่าฮาวน่าจะเผอคิดไปไกลเขาจึงหยุดความคิดนั้นไว้ด้วยประโยคว่า

[1] บุยยาเบส ซุปปลาสไตล์ฝรั่งเศส เกิดจากการที่ชาวประมงรวมพวกกุ้งหอยต่างๆ ที่ขายไม่ได้มาทำอาหาร

“หมึกต้นไม้เป็นสัตว์บก จะทำเป็นอาหารทะเลทำไม”

“หมึกต้องเป็นอาหารทะเลสิ ข้าล่ามันตั้งแต่เด็ก พวกเจ้าไม่เคยเห็นหมึกว่ายน้ำเหรอ?”

เพรากอดอกเริ่มแสดงอาหารไม่พอใจกับความดื้อรั้นของเจ้าปลา เขายืนยันคำเดิมว่าหมึกต้นไม้เป็นสัตว์บกเพราะว่ามันเป็นสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่ในป่า ป่าเป็นพื้นดิน ฉะนั้นหมึกต้นไม้เป็นสัตว์บก แต่ตัวของฮาวนั้นไม่ยอมแพ้เพราะเขาเชื่อมาตั้งแต่เด็กสิ่งมีชีวิตมีหนวดแบบนั้นต้องเป็นหมึก และหมึกว่ายน้ำได้ ส่วนหมึกต้นไม้คงต้องเป็นหมึกในทะเลที่เดินทางมาอาศัยในป่าแน่นอน การโต้เถียงกันของทั้งสองสร้างความสับสนให้กับนอททัมมาก ชายร่างใหญ่ขอร้องเมลเลกให้ช่วยพูดอะไรหยุดทั้งสองคน

“หมึกต้นไม้ จะเป็นสัตว์บกหรือสัตว์น้ำ ฉันไม่รู้หรอกนะ ฉันไม่ใช่นักสัตวศาสตร์” เมลเลกเริ่มรู้สึกเบื่อ ที่ทุกวันต้องมานั่งดูเจ้าแมวดำกับปลาสองขายืนเถียงกันในเรื่องไม่เป็นเรื่อง “นายไม่ต้องไปยกเจ้าเพราเหรอ เผื่อสองคนนั้นตีกัน”

“ผมว่ารอบนี้น้องเพราน่าจะไม่มีเรื่องชกต่อยหรอกครับ ถ้าพวกเรารอสองคนเพื่อสรุปว่าหมึกเป็นสัตว์บกหรือสัตว์น้ำ ผมว่าคืนนี้ก็ไม่จบ”

“งั้นพวกเรามาทำกันดีกว่า ฉันอยากกินโอโคโนมิยากิ”

“คุณเมลเลกนำเลยครับ ผมช่วยเอง”

ทั้งสองคนไม่รอให้ความวุ่นวายของสองหนุ่มจบไป พวกเขาเริ่มทำอาหารในส่วนของพวกเองก่อน นั้นคือโอโคโนมิยากิ เมนูอาหารจากเมืองตะวันออก เป็นอาหารทานง่ายในรูปแบบของแพนเค้กส่วนประกอบหลักประกอบด้วยแป้ง ไข่ น้ำ และส่วนผสมหลายอย่างตามความต้องการของผู้ทำ เมลเลกเริ่มจากใช้หม้อขนาดใหญ่เติมน้ำให้เต็มเพื่อต้มหมึกเป็นอันดับแรก เธอตัดหนวดหมึกเป็นชิ้นเท่ากำปั้นด้วยด้ายของเธอ จากนั้นใส่หนวดทั้งหมดที่ตัดเสร็จลงไปต้ม

นอททัมปรึกษากับเมลเลกว่าถ้าเรารอให้น้ำเดือดต้องใช้เวลานานแน่ เพราะหม้อขนาดใหญ่และเนื้อของหมึกชิ้นใหญ่ เมลเลกจึงคิดไอเดียหนึ่งออก เธอจูงมือเพราให้สัมผัสกับหม้อเพื่อเป็นตัวเร่งให้น้ำเดือดเร็วขึ้นแถมยังได้คนเฝ้าหม้อด้วย แม่ครัวสาวเริ่มขั้นตอนต่อไป คือการเตรียมส่วนผสมหลักของโอโคโนมิยากิ ได้แก่ แป้งเค้ก ไข่ กะหล่ำปลีซอย และขิงสับ เมลเลกปล่อยให้นอททัมในเตรียมแป้งไปคนเดียว ส่วนเธอจะไปดูว่าหมึกของเธอนั้นเป็นอย่างบ้าง 

“ข้าว่ายังไงหมึกทุกชนิดก็ต้องเป็นปลาในทะเล”

“เริ่มไปไกลแล้วนะ อีกอย่างหมึกไม่ใช่ปลา” 

ทั้งสองพ่อครัวหนุ่มยังไม่เลิกเถียงเรื่องของหมึกต้นไม้ พยายามจะแทรกตัว เพื่อมาเปิดหม้อดูหมึกที่ต้มไว้สักพักแต่โดนเพราตีมือกลับ บอกว่าอย่าพึ่งเปิดอีกสามนาทีหมึกถึงจะสุกกำลังพอดี ส่วนถึงปากของฮาวนั้นจะเถียงกับเพราไม่เลิก แต่มือของเขานั้นได้หยิบมีดกับเขียงสีน้ำตาลออกมา พร้อมกับลับมีดเตรียมหั่นหมึก

“เห็นพวกเจ้าทำเจ้าอะโคมิมิขากิ ข้าอยากกินอาหารที่คล้ายๆกันที่มันเป็นทรงกลมเจ้าพอจะรู้จักไหม” 

“ช่วยเรียกอาหารให้มันถูกได้ไหม นายหมายถึงทาโกะยากิ ใช่ไหม แต่เราไม่มีเตาทรงนั้นสิ”

“ใครว่าไม่มี” เพราเดินยังตู้เก็บอุปกรณ์ทำอาหาร เพรานั้นสะสมอุปกรณ์สำหรับทำอาหารมากมายบางอย่างซื้อมาใช้ได้ครั้งเดียว บางอย่างเป็นคนที่แม่ของเพราหามาตั้งนานแล้วนั้นคือ ‘เตาขนมครก’ แผ่นเหล็กแบนกลมมีหลุมสำหรับทำอาหารอยู่หลายหลุม “แต่เป็นเตาทำขนมนะ น่าจะพอใช้แทนได้”

เมลเลกแปลกใจและคาดไม่ถึงว่าเพรานั้นจะมีเตาขนมครก เพราเล่าให้ฟังว่าเมื่อก่อนแม่ของเขาชอบทำขนมครกให้กิน เป็นขนมที่แปลกเพราะจะมีเครื่องมือเฉพาะทางให้กับขนมชนิดนี้ ตั้งแต่ที่แม่ของเพรานั้นไม่อยู่เขาก็ไม่เคยจับ เตาขนมครก อีกเลยจนคิดว่าน่าจะไม่ได้ใช้อีก ยังดีที่ฮาวนั้นนึกถึงทาโกะยากิทำให้เพรานึกออกว่าตัวเองได้เอาเตาขนมครกมาด้วย แม่ครัวสาวยิ่งฟังเรื่องราว เธอเริ่มติดใจกับที่มาที่ไปแม่ของเพรา

“ข้าหั่นเต๋าหมึกให้เรียบร้อยแล้วนะ เราแบ่งครึ่งพวกเจ้าทำ แพนเค้ก ส่วนพวกข้าทำแป้งกลม” ระหว่างที่เพรากับเมลเลกคุยเรื่องที่ไปที่มาของเตาขนมครก ฮาววาร์ติได้ทำการหันหมึกต้นไม้เป็นชิ้นสวยงามเสร็จแล้ว

เมลเลกรับถ้วยหมึกมา เธอผสมเนื้อหมึกเข้ากับแป้งที่นอททัมเตรียมเอาไว้แล้ว ระหว่างผสมนอททัมเดินไปเตรียมกระทะให้ร้อน เมลเลกถือชามผสมอาหารแล้วตักแป้งผสมลงกระทะ กลิ่นหอมของแป้งผสมกับกลิ่นขิงอ่อนๆ กำลังทำให้นอททัมเคลิ้ม เมื่อแป้งเริ่มสุดได้ที่นอททัมค่อยๆใช้ตะหริวพลิกกลับอีกด้านหนึ่งให้ความร้อนทำให้แป้งสุกทั่วชิ้น เมลเลกชมนอททัมเพราะน้อยคนจะพลิกโอโคโนมิยากิแล้วไม่ขาด

ส่วนสองชายหนุ่มพวกเขาได้เริ่มทำทาโกะยากิไปได้ครึ่งทางแล้ว เพราเทแป้งใส่ถาดขนมครกจนเต็ม ตอนแรกเพราจะเป็นคนขึ้นทรงลูกทาโกะยากิให้ก่อน แต่ฮาวบอกว่าเขาเคยเห็นตามร้านอาหาร เขาจะทำเอง พอแป้งด้านล่างเริ่มสุกกำลังดี เพราเริ่มหยดเนื้อหมึกให้เป็นไส้ของทาโกะยากิ จากนั้นฮาวใช้ตะเกียบเริ่มม้วนทาโกะยากิให้เป็นรูปเป็นร่างแต่เหมือนจะรูปทรงตามมีตามเกิด บางลูกแตกเป็นชิ้น บางลูกเป็นรูปพระจันทร์แหว่ง แต่ยังดีที่มีลูกสวยๆกับเขา

“เสร็จแล้ว แพนเค้กกะหล่ำไว้หมึกและแป้งกลมไส้หมึก ข้าทำออกมาได้ดีมากเลยใช่ไหม” เมลเลกมองดูลูกทาโกะยากิวางเรียงกันลูกด้านบนนั่งสวยงามแต่ลูกด้านล่างนั้น “ลูกด้านล่างพวกนายทำทรงเป็นสไลม์เหรอ ไม่มีความกลมสักนิด”   

“เอาน่าๆ พวกเราไม่ได้เอาเจ้าพวกนี้ไปแข่งสักหน่อย กินๆกันเหอะ” ฮาวรีบตัดบท ตักโอโคโนมิยากิกำลังจะกิน...

“พวกนายลืมฉันใช่ไหม!” ชูโรสเปิดประตูเดินเข้ามาแบบคนโมโหหิว คว้าแขนของฮาวแล้วกินโอโคโนมิยากิไปต่อหน้าต่อตาฮาว “โอ้ย ร้อนๆ ฉันอุสาไปรับแขกมานะ”

ชายที่เดินตามหลังของชูโรสมานั้นเป็นคนที่ทั้งสี่คนรู้จักดีชายผู้กดคะแนนรอบที่แล้ว ‘พัมพี’ พ่อครัววังหลวงทักทายทั้งสี่คนอย่างเป็นกันเอง ปฏิกิริยาของทั้งสี่นั้นเหมือนไม่ได้เจอคนเดียวกันเพราะ นอททัมพอเห็นหน้าของพัมพีเขาถึงกับหวาดกลัวทำตัวไม่ถูกไม่อยากให้เขามาชิมอาหารของนอททัม ผิดต่างไปจากฮาวที่ดีใจจนเนื้อเต้นชายที่กดคะแนนคนอื่นได้กลับให้คะแนนพวกเขาเยอะที่สุดกำลังจะมาชิมอาหารของฮาวรู้สึกปลื้มใจ เมลเลกถอนหายใจทันทีที่ได้เห็นหน้าอันยียวนเพราะเหมือนตัวเองจะต้องเห็นเพราสองคนตอนเวลากินข้าว ส่วนลูกศิษย์แสนรักอย่างเพรามองแล้วได้ถามในใจว่ามาทำไม

“ทำไมพวกแกสี่คนทำหน้าไม่เหมือนกันเลย ช่วยรู้สึกไปทิศทางเดียวกันได้ไหม พี่ชายคนนี้ทำตัวไม่ถูกเลยว่าจะเริ่มพูดอะไรต่อ ทำอาหารกินกันเหรอกินด้วยสิ” พัมพีไม่รอให้ใครเชิญเขาหยิบส้อมที่วางอยู่จิ้มไปยังทาโกะยากิทันที “ร้อนๆ ทำไมทำหน้าแบบนั้น พวกแกเอาขี้มูกป้ายอาหารกันเหรอ กินสิ”

ช่วงเวลาทานข้าวเย็นสุดแปลก เพรามองรอบตัวอื่นบรรยากาศที่แปลกไปไม่เหมือนเมื่อก่อนสมัยเขาอยู่บ้านเกิด ที่นั่งกินข้าวกันสามคน เกียรัน ชูร์ และเพรา ถึงจะเป็นครอบครัวแอบอุ่นที่ทุกครั้งทั้งสามทานข้าวพวกเขาจะรู้สึกขาดอะไรไปบางอย่าง แต่ตอนนี้เหมือนเพราได้เติมเต็มความรู้สึกที่ขาดหายไป ความวุ่นวาย ความแตกต่างของ นอททัม เมลเลก ฮาวาร์ติ พัมพี และชูโรสทำให้ความรู้สึกที่เคยขาดหายไปเริ่มเติมเต็ม

มื้ออาหารแสนวุ่นวายได้จบลง เหล่าพ่อครัวแม่ครัวเริ่มทำความสะอาดห้องครัวยกเว้น เพรา พ่อครัวตัวน้อยนั้นโดนอาจารย์ของตัวเองลากไปเดินเล่นหลังอาหารกันสองคน เสียงของพระอาทิตย์กำลังตกดิน ผู้คนที่กำลังจะกลับบ้านทำให้นึกถึงบ้านเกิดของเพรา 

“เลือกคบเพื่อนใช้ได้นิ ไอ้เด็กน้อย” พัมพีขยี้ผมของเพราด้วยหมั่นไส้ “ดูแกจะมีความสุขกว่าเมื่อก่อนนะ”

“ปกติมีความสุขตลอด จนกระทั่งมีแขกไม่ได้รับเชิญแย่งกินข้าว”

“ให้มันน้อยๆหน่อย คนดังอย่างนายพัมพีผู้นี้มานั่งทานข้าวด้วยถือว่าเป็นบุญของพวกแกรู้ไหม”

“เหรอ ไม่เห็นจะรู้สึก เข้าเรื่องได้แล้ว”

“มาหาเพราะคิดถึงไม่ได้เหรอ ไม่คิดดีใจเลยเจอหน้าอาจารย์ตัวเองเนี่ย”

เพรามองหน้าแล้วถอนหายใจ “ไม่มีธุระ งั้นขอตัวไปทำความสะอาดครัวก่อน ไม่รู้สามคนนั้นทำสะอาดหรือเปล่า” พ่อครัวตัวน้อยเดินหลังกลับ

“อ้าว ว่าชวนไปกินเค้กสตอเบอรี่ของโปรดของแมวบางตัวแถวนี่สะหน่อย” พัมพีพูดถึงคำว่าสตอเบอรี่ เพราก็หันกลับมาทันที “แปลว่าไปใช่ไหม”

“เออนี่ถามไรหน่อยสิ หมึกต้นไม้ นับว่าเป็นอาหารทะเลไหม”

“ห้ะ?!”

[คุยหลังครัว]

มีสาระน่ากินเกี่ยวกับ โอโคโนมิยากิ มาแชร์ให้ฟังตอนที่หาข้อมูลอาหารญี่ปุ่น โอโคโนมิยากิ หรือที่เราชอบเรียกกันว่า พิซซ่าญี่ปุ่น มีความหมายด้วยนะชื่ออาหาร คำว่า โอโคโนมิยากิ มาจากคำว่า โอโคโนมิ ที่แปลว่าตามใจชอบ และ ยากิ  ที่แปลว่าย่างหรือปิ้ง โอโคโนมิยากิจึงหมายถึงอาหารที่ใส่ส่วนผสมตามใจชอบและนำมาย่าง 

ตอนที่กำลังนั่งดูเทียบสูตรโอโคโนมิยากิได้ละเจ้าแต่ละแหล่งจะมีสูตรแตกต่างกันจึงเข้าใจเลย ตอนรู้จักความหมายของชื่อ และที่ไปเจอมาแล้วชอบมาก คือการกินแป้งในแป้ง แบบฮิโรชิมะยากิ เขาใส่เส้นยากิโซบะไปด้วยอันนี้อยากกินมาก แป้งในแป้ง