พ่อครัววังหลวง คือผู้ทำอาหารให้กับเหล่าผู้คนชั้นสูงในวัง เป็นตำแหน่งของพ่อครัวที่ใครๆก็อยากไต่ไปถึง และหนึ่งในนั้นต้องเป็น 'เพรา' คลื่นลูกใหม่แห่งวงการพ่อครัวจอมเวทย์ที่พร้อมกระตุ้นความอร่อยด้วยมือเขา

บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท - เมนูที่ 21 ช่อม่วงไส้กุ้ง โดย คอคิจ @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ผจญภัย,แฟนตาซี,ครอบครัว,ไทย,ตะวันตก,ดราม่า,แฟนตาซี,ทะลุมิติ,ต่างโลก,อาหาร,ผจญภัย,เวทมนต์,มอนสเตอร์,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ผจญภัย,แฟนตาซี,ครอบครัว,ไทย,ตะวันตก

แท็คที่เกี่ยวข้อง

ดราม่า,แฟนตาซี,ทะลุมิติ,ต่างโลก,อาหาร,ผจญภัย,เวทมนต์,มอนสเตอร์

รายละเอียด

บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท โดย คอคิจ @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

พ่อครัววังหลวง คือผู้ทำอาหารให้กับเหล่าผู้คนชั้นสูงในวัง เป็นตำแหน่งของพ่อครัวที่ใครๆก็อยากไต่ไปถึง และหนึ่งในนั้นต้องเป็น 'เพรา' คลื่นลูกใหม่แห่งวงการพ่อครัวจอมเวทย์ที่พร้อมกระตุ้นความอร่อยด้วยมือเขา

ผู้แต่ง

คอคิจ

เรื่องย่อ

บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวทย์

Record the recipe of the Royal chef

หมวดหมู่ : แฟนตาซี ทำอาหาร การแข่งขัน ต่อสู้(นิดหน่อย)

__________________________

 

การเป็นพ่อครัววังหลวงนั้นเป็นความฝันและเป้าหมายชีวิตของเหล่าพ่อครัว เหล่านักสร้างความอร่อยให้กับโลกใบนี้ การเป็นพ่อครัววังหลวงที่หลายปีจะเปิดรับพ่อครัวรุ่นใหม่เพียงแค่ 4 คนเท่านั้นเป็นหัวหน้าพ่อครัวประจำฤดูทั้งสี่ และหนึ่งผู้จะเข้าชิงตำแหน่งนั้นคือ ‘เพรา’ พ่อครัวจากเมืองเล็กๆแห่งนั้น แรงปรารถนาของเขาอาจจะไม่เหมือนใคร เพราะเขาไม่ต้องการ ชื่อเสียง เงินทอง เกียรติยศ หรือความสุขสบาย สิ่งที่เขาต้องการแค่ ความจริง 

“แค่เป็นเหมือนนายให้ได้ใช่ไหม แล้วชั้นจะรู้ความจริง…” - เขียวใบไม้

“การที่ผมมาอยู่ตรงนี้ได้ มาจะช่วยเติมเต็มได้จริงเหรอ?” - แดงเนื้อสัตว์

“การเป็นพ่อครัววังหลวง มันจะแสดงให้ตระกูลเห็นว่าเราเองก็มีค่า” - ม่วงเปลือกมังคุด

“อยากให้คุณอยู่เห็นความสำเร็จของคุณจังเลย …ที่รัก” - ครามทะเล

“ฉันยืนอยู่ตรงนี้นะ กำลังใจของพวกนาย” - กลิ่นน้ำมันเครื่อง

 

_____________________________

 

 

สารบัญ

บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 1 สลัดสไลม์ทอด,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 2 สตูว์เนื้อ,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 3 แซนด์วิชทงคัตสึหมูโคลน,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 4 ฟาฮิตาไก่,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 5 ปูถ่านหิน,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 6 เค้กปูแบบพอดีคำ,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 7 แพนเค้กนุ่มฟู,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 8 ไข่ผำบนหลังแมงป่อง,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 9 ปลากะพงย่างพาสต้าไข่ผำซอสเพสโต้,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 10 คุณกระต่ายว่ายน้ำนม เบอร์ 2,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 11 นมถั่วพิตาชิโอ้,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 12 ขนมพระพาย,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 13 สไลม์ผลไม้,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 14 ระบำจิ้งจอกม่านหมอกเพลิง,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 15 คาเนลโลนีทุเรียนซ่อนแอบ,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 16 หมึกต้นไม้,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 17 โอโคโนมิยากิหมึกต้นไม้,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 18 ยำเห็ด ซุปเห็ด สเต๊กเห็ด และพุดดิ้ง,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 19 เจ้าปลามีขา,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 20 ดอกบัวเงือกหวาน,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 21 ช่อม่วงไส้กุ้ง,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 22 เคลพีสามทาง,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 23 สตรอเบอร์รี่ ครีมชีส พาร์เฟต์,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 24 เข็มกลัดว่าที่พ่อครัววังหลวง (ชั่วคราว),บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 25 ไก่ผัดเมล็ดวินลัท,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 26 บุหลันดั้นเมฆ,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 27 แกะขนทราย,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 28 ปอเปี๊ยะสด,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 29 ป๊อปคอร์นวาซาบิ

เนื้อหา

เมนูที่ 21 ช่อม่วงไส้กุ้ง

ในเช้านี้ใบหน้าอันอิดโรยจากความเครียดสะสมของทั้งสี่คนแสดงออกมาอย่างชัดเจน ถึงแม้ว่าเมื่อคืนพวกเขาจะเดินทางอย่างปลอดภัย แต่ไม่มีใครที่สามารถนอนได้เต็มอิ่ม ความกังวลกับการทดสอบที่กำลังจะมาถึงทำให้พวกเขานอนไม่หลับ รถบ้านกำลังจะเลี้ยวเข้าไปจอดที่ประจำของพวกเขาหน้าสำนักงาน

“ไปไหนกันมา!” เสียงเคาะประตูรถดังรัว ๆ ขณะที่ตัวรถเลี้ยวเข้ามาจอด “รู้ไหมฉันเกือบนอนข้างถนน!” เป็นเสียงของผู้หญิงที่เต็มไปด้วยความแค้น

ชูโรส คือผู้หญิงแสนน่ากลัวคนนั้น เอามือถูลูบไปตามตัวรถ เอาแก้มถูไปกับกระจกหน้า การที่หญิงสาวต้องห่างหายจากสิ่งที่รักโดยไม่รู้ว่ามันหายไปไหน เป็นเรื่องที่น่าเศร้าเหลือเกิน ทั้งสี่คนครัวลงมาจากรถมองหญิงประหลาดที่กำลังมอบจุมพิตไปทั่วตัวรถบ้าน

“คนบ้า...” ฮาวาร์ติมองชูร์ด้วยสายตารังเกียจ

“คนบ้าเหรอ! พวกแกเอาวีวี่ของฉันไปปู้ยี่ปู้ยำอะไรมาก็ไม่บอกฉัน หายไปทั้งวันพวกแกคิดไหมว่าฉันต้องนอนข้างถนนหรือเปล่า วีวี่ ลูกแม่ไม่เป็นอะไรใช่ไหมลูก พวกแกจะไปไหนฉันยังด่าไม่เสร็จเลยนะ!”

ทั้งสี่คนใช้มือข้างหนึ่งบังหน้าตัวเองไม่ให้คนบริเวณนี้รู้ว่าพวกเขากับชูโรสเป็นคนรู้จักกัน เพราเดินขึ้นไปสำนักงานและเห็นผู้เข้าทดสอบกลุ่มที่สองกำลังเร่งฝีเท้าหยิบวัตถุดิบเสริมจากชั้นที่หนึ่งขึ้นไปทำอาหาร มานึล รองหัวหน้าพ่อครัววังหลวง กำลังจดอะไรบางอย่างลงกระดานในมือ

“ทีมสาม กลับมาครบสามสิบสองทั้งสี่ท่านสินะครับ” มานึลเดินมาหาทั้งสี่ ยิ้มดีใจที่ทุกคนกลับมาอย่างปลอดภัย

“สวัสดีครับคุณมานึล ว่าแต่คุณมานึลไม่เป็นกรรมการของรอบนี้เหรอครับ” นอททัมถามด้วยรอยยิ้มเป็นมิตร

“ผมเป็นกรรมการมาสามรอบแล้วนะครับ คงต้องเปลี่ยนมือกันบ้าง พวกคุณรีบขึ้นไปหารูเบอร์ต้าดีกว่าจะได้มีเวลาเตรียมตัวเยอะ”

เพรา เมลเลก นอททัม และฮาวาร์ติ รีบเดินขึ้นไปบริเวณชั้นสอง ห้องสำหรับทำอาหาร ภายในห้องกำลังเริ่มที่จะตัดสินอาหารของกลุ่มที่หนึ่ง กรรมการในรอบนี้เป็นคนใหม่ทั้งหมด คนแรกคือ รูเบอร์ต้า รองหัวหน้าพ่อครัววังหลวงฤดูหนาว และกรรมการอีกสามท่านที่ทั้งสี่คนไม่รู้จัก มีทั้งสาวสวยแต่งตัววาบหวิว หญิงใส่แว่น และกระต่ายยักษ์

“...กลุ่มที่หนึ่ง สถานที่อ่าวสกาลาม จากที่พวกเราทั้งสามได้ชิมอาหารของพวกคุณ มันชวนน่าหลงใหล มีความสนุก มีความสวยงาม แต่..” ช่วงแรกใบหน้าของพ่อครัวกลุ่มหนึ่งมีแต่รอยยิ้มจนกระทั่งรูเบอร์ต้าเอ่ยคำว่า แต่ ออกมา “ของหวานแย่มาก คิดได้แค่การทำพานาคอตต้าเหรอ”

“แต่ว่าที่อ่าวมันไม่มีอะไรที่สามารถทำของหวานได้เลยนะคะ อีกอย่างตัวหนูเองก็ไม่ถนัดของหวานด้วย” หนึ่งในแม่ครัวกลุ่มนั้นพยายามอธิบายด้วยน้ำเสียงกะตุกกะตัก

รูเบอร์ต้ากลอกตา “แล้ว? พวกฉันต้องรู้เรื่องนี่ไหม”

“ค่ะ ขอโทษค่ะ แต่ว่า”

“พรุ่งนี้พวกเธอสี่คน รอฟังผลพรุ่งนี้นะ แล้วก็พวกกลุ่มสามเชิญ มายืนแทนพวกกลุ่มหนึ่งได้แล้ว” รูเบอร์ต้าพูดตัดจบไล่กลุ่มหนึ่งออกไป

พวกเมลเลกรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที ที่ต้องไปยืนอยู่คณะกรรมการทั้งสี่ท่าน รูเบอร์ต้าได้เริ่มอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับกรรมการ รอบนี้จะไม่ได้เจอกับกลุ่มพ่อครัววังหลวงที่คุ้นเคยอย่าง ชิม่อน มานึลและพัมพี เหมือนรอบก่อน แต่จะเป็นรูเบอร์ต้า รองหัวหน้าพ่อครัววังฤดูหนาว เมล่อนยู มนุษย์หางสายพันธุ์กระต่ายขนสีครีมชมพูแถมยังเป็นหัวหน้าพ่อครัววังฤดูร้อน ยังรวมถึงกรรมการแขกรับเชิญ คุณคานะ เจ้าของย่านการค้ายามราตรีที่โด่งดังของเมือง และ คุณเอลคิท์รา นักเขียนวรรณกรรม ครั้งนี่คณะกรรมการยังคงมีคะแนนให้เหมือนเดิมแต่จะไม่มีการเปิดเผยคะแนน คะแนนจะแจ้งในวันถัดไป อาหารไม่ได้กำหนดวิธีการแต่จะต้องเสิร์ฟพร้อมกันทั้งสี่จานโดยจะต้องเสิร์ฟตามระดับคอร์สอาหาร พอกรรมการได้อธิบายเสร็จว่าที่พ่อครัวได้รีบไปเตรียมวัตถุดิบเพิ่มเติม นอททัมเปิดกระเป๋าหยิบวัตถุดิบทั้งหมดที่ได้มาวางเรียงให้เพื่อนๆ แต่ละคนได้วางแผนเอาไว้

“พวกเราประชุมรอบสุดท้ายเกินจะลงทำก่อน” เพราดึงตัวของฮาวที่กำลังลงชั้นหนึ่งหยิบวัตถุดิบสำหรับทำของหวาน “กรรมการรอบนี้ ต่างจากรอบก่อนมาก เธอคิดว่าไง เมลเลก”

“ฉันไม่รู้จักสองคนนั้นหรอกนะ แต่รู้ว่ารูเบอร์ต้า เธอให้ความสำคัญกับหน้าตาอาหารมาก เพราะแบบนั้นฉันเลยเลือกทำ ช่อม่วง เป็นของทานเล่นที่หน้าตาคล้ายดอกไม้ ฮาวนายต้องทำขนมหวานให้ออกมาสวยด้วยนะ”

“เข้าใจแล้ว ขนมที่เลือกไว้ถ้าทำออกมา มันก็จะสวยแน่นอน แต่ยังไงเรื่องจัดจานต้องให้ พวกเจ้าช่วยด้วยนะ” ฮาวตบบ่าเพรา

“เออๆ ทำให้มันรอดก่อนเหอะ แล้วก็อย่าลืมดูเรื่องเวลาด้วย เราจะยึดจานหลักของพี่นอททัมนะ ถ้าจานหลักเสร็จ พวกเราสามคนต้องเสร็จนะ ว่าแต่พี่นอททัมไหวใช่ไหม มีอะไรให้ช่วยบอกพวกเราเลยนะ”

“ได้ครับ”

“งั้นมีอะไรเรียกนะ แยกย้ายค่ะ ทุกคน”

รูเบอร์ต้ากับเมล่อนยูมองดูเหล่าว่าที่พ่อครัววังหลวงวางแผน พูดคุย ทำงานกันเป็นทีม ทำให้พวกเขานึกถึงวันวานสมัยที่พวกเขาเป็น ว่าที่พ่อครัววังหลวง “นึกถึงตอนที่เราสามคนจับทีมทำครัวเลยนะ นาย ฉัน พัมพี เราสามคนเกือบจะฆ่ากันเพราะแย่งกันเป็นอาหารจานหลัก” รูเบอร์ต้าเท้าคาง อมยิ้มนึกภาพวันวาน

“พูดเหมือนผ่านไปสิบกว่าปี เรื่องนั้นไม่อยากจำหรอกนะแต่อยากบอกอย่างหนึ่ง ตอนนั้นผมเลือกของหวานแต่ เธอกับพัมพีแย่งทำจานหลักหรอก” เมล่อนยูที่ถึงนึกเรื่องพัมพีได้แล้วหันไปมองเพรา ยิ่งทำให้กระต่ายป่ารู้สึกไม่สบอารมณ์ “เลิกพูดเรื่องของพัมพีได้ไหม แค่นึกก็กินข้าวไม่ลงแล้ว”

“แหม ฉันรู้นะพวกแกแอบไปนวดกันมา ไปไม่ชวน”

“มันใช่เวลาคุยเรื่องนี้ไหม มาดูพวกเด็กๆ ทำอาหารดีกว่าไหม” เมล่อนยูพยายามเปลี่ยนเรื่อง

ในรอบนี้นอกจากกรรมการจะให้คะแนนจากรสชาติและความคิดสร้างสรรค์แล้ว ยังมีคะแนนลับที่ไม่ได้บอกผู้เข้าแข่งขันอีกนั้นคือการให้ความรู้กับผู้อยู่นอกวงการอาหาร ทำให้ในรอบนี้จึงมีกรรมการคนนอกมาร่วมเป็นผู้ตัดสิน เมล่อนยูที่เบื่อรําคาญรูเบอร์ต้า เลยใช้วิธีเดินตรวจสอบความเรียบร้อยของผู้เข้าทดสอบแทน เจ้ากระต่ายมากับคุณคานะ เดินมาที่สเตชั่นทำอาหารกลุ่มสาม

คุณคานะมองดูทั้งสี่กำลังทำอาหารในส่วนของตัวเองแล้วเธอสนใจกับวิธีการทำอาหารของนอททัม “สวัสดีค่ะ ไม่ทราบกำลังทำอะไรอยู่เหรอคะ”

นอททัมใช้สมาธิกับการทำอาหารถึงกับตกใจ ไม่คิดว่ารอบนี้จะมีกรรมการมาเดินดูด้วย “อ๋อ สวัสดีครับ คือว่า...ผมกำลังซูวี (Sous Vide) ครับ” นอททัมใส่เนื้อเคลพี โรสแมรี่ ไทม์ กระเทียม และพริกไทย ลงไปในถุงพลาสติกจากนั้นปิดปากถุง อากาศภายในถุงเริ่มหายไปวัตถุดิบภายในถูกบีบอัดราวกับอยู่ในสุญญากาศ

“ซูวี (Sous Vide) ? เป็นชื่ออาหารเหรอคะ”

“อ๋อ ไม่ใช่ครับ เป็นการทำอาหารในถุงสุญญากาศและนำลงไปแช่ในน้ำที่ควบคุมอุณหภูมิไว้ แบบนั้นครับ” นอททัมชี้ไปทางเพราที่กำลังนำมือจุมในน้ำร้อนเดือด “น้องเพราได้ 65°C แล้วบอกด้วยนะ” เพราพยักหน้า

คุณคานะนอกจากได้พูดคุยกับนอททัมได้แล้ว ยังได้สอบถามเพิ่มเติมทั้งเมลเลก ฮาว และเพรา ถึงพ่อครัวตัวน้อยจะตอบแบบขอไปทีไม่ได้ตั้งใจตอบก็ตาม แต่ทำให้คุณคานะและเมล่อนยูรู้ได้เลยว่าเป็นทีมที่มีระบบการทำงานดีเยี่ยม หญิงท่านนี้สนใจในตัวของทั้งสี่จนไม่อยากกลับไปนั่งเฉยๆ เธออยากเห็นการทำอาหารที่สนใจนี่ตั้งแต่ต้นจนจบ

“ถ้าแบบนั้นความตื่นเต้นในฐานะกรรมการจะหายไปนะครับ”

“จริงอย่างที่คุณว่า มันคงเหมือนกับยามที่ลูกค้ามาเห็นบุปผางามเวลาที่ไม่ได้ถูกแต่งเติม การปิดซ่อนบางอย่างไว้อาจจะเป็นการสร้างเสน่ห์อันน่าหลงใหลกว่า ดิฉันจะรอชมอาหารที่ทำให้บุปผชาติอย่างดิฉันจะต้องลุ่มหลงนะคะ” คานะโค้งตัวกล่าวลาทั้งสี่ เป็นสตรีที่ทำให้รู้สึกหลงใหล นอททัมมองด้านหลังของเธอที่กำลังเดินจากไป อาภรณ์สีแดงตัดกับสีเหลือง ผิวกายที่เปิดให้เห็นแค่บริเวณต้นคอแต่ทำให้หนุ่มตัวโตหน้าแดงเขินอาย

เพราดีดนิ้วใส่หน้านอททัม “อย่าหลงไปกับความงามนั้นเชียวนะ ความงามที่เหมือนกับกับดักแบบนั้น”

“ขอโทษครับ น้องเพรา”

เวลาสองชั่วโมงของการทำอาหารนั้นเร็วราวกับผ่านไปเพียงไม่กี่นาที ตอนนี้กลุ่มที่สามนั้นพวกเขาพร้อมที่จะเสิร์ฟอาหารแสนภาคภูมิใจของพวกเขา โดยเริ่มจากจานของเมลเลก เธอถือจานสีขาวยาวทรงวงรีสองจานวางต่อหน้าคณะกรรมการ

“เมลเลกค่ะ วันนี้พวกเราจะพาคณะกรรมการดื่มด่ำไปกับความสวยงามของอาหารนะคะ เริ่มจากอาหารเรียกน้ำย่อย ‘ช่อม่วงไส้กุ้ง’ อาหารจานนี้ใช้แป้งสามชนิดผสมกัน นำมาห่อกับไส้จากเมล็ดวินลัทคั่ว เม็ดบัวเงือกหวาน กุ้งขาวลายเสือ สามเกลอ [1] ค่ะ” จานของเมลเลกที่ชื่อว่า ช่อม่วงไส้กุ้ง สิ่งนี้อาจจะเรียกได้ว่าเป็นศิลปะ ลักษณะของช่อม่วงเหมือนกับก้อนวุ้นขุ่นสีม่วงอ่อนถูกจับจีบเป็นรูปดอกไม้ วางเรียงแถวสามชิ้นบนใบตองแต่งจานสีเขียวเข้ม ทำให้ความงามของอาหารยิ่งเห็นได้ชัด

[1] สามเกลอ คือ รากผักชี กระเทียม และพริกไทย

“ช่างเป็นอาหารที่งดงามมากค่ะ ไม่ทราบสีม่วงได้มาจากไหนเหรอคะ?” คานะหันไปถามเมลเลก ดูเหมือนจะชอบใจกับความงามของช่อม่วงชิ้นนี้

“น้ำต้มกลีบดอกบัวเงือกหวานค่ะ กลีบดอกไม้มีสีครามเข้มทำให้น้ำที่ต้มได้สีครามสวย แล้วไปผสมกับน้ำมะนาวทำให้สีออกมาเป็นม่วงแบบนี้ค่ะ” เมลเลกตอบเต็มเสียงพูดจาฉะฉาน

“วิเศษจริง ขออนุญาตรับประทาน” คานะใช้ส้อมสีเหลืองทองจิ้มไปที่ช่อม่วง แม้แต่กิริยาท่าทางการทาน ก็ทำให้หนุ่มๆ แถวนั้นหน้าแดง

สัมผัสตัวแป้งสีม่วงอ่อน มีความเหนียวกำลังพอดีได้รับกลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกบัวเงือกหวาน รสชาติไส้มีความเค็มหวานกำลังพอดีไม่มีรสไหนโดดออกจากกัน เนื้อกุ้งนุ่มเด้งตัดกับความกรุบกรอบของเมล็ดวินลัทคั่วและเม็ดบัวเงือกหวาน ความมันถั่วเป็นชาติที่เข้ากันไปได้ด้วยดีกับทุกอย่าง คานะหลับตาเข้าสู่ภวังค์อาหาร

ตานะลืมตาขึ้นรอบตัวนั้นกลายเป็นห้องแต่งตัวสมัยที่เธอเป็นลูกจ้างในร้าน คางของเธอถูกจับให้เชิดขึ้นด้วยช่างแต่งหน้าสาว ช่างแต่งหน้าจุ่มพู่กันแล้วนำมาแต้มลงบนริมฝีปากของคานะ กลิ่นหอมเย้ายวนจากบัวเงือกหวาน ปลายนิ้วนุ่มเด้งของช่างแต่งหน้าให้ความรู้สึกเหมือนกุ้งสดหวานกรอบ เธอมองไปที่ริมฝีปากช่างแต่งหน้า มันวาวชวนหลงใหล ความรู้ที่ชาลิ้นนี่มันคืออะไรกันอย่างกับโดนพิษเมล็ดวินลัท...

“คุณคานะ อย่าหลงไปกับภวังค์อาหารนะคะ” รูเบอร์ต้าเขย่าตัวของคานะให้ออกจากภวังค์

“ขออภัยค่ะ เป็นอาหารที่ชวนคิดถึงจริงๆ” คานะสัมผัสริมฝีปากของตัวเอง

“อะแฮ่ม คำวิจารณ์ขอให้เก็บไว้ตอนที่จบคอร์สนะครับ เชิญจานซุปต่อได้ครับ” เมล่อนยูตัดบทของคานะก่อนที่เธอจะเข้าสู่ภวังค์อาหารอีกครั้ง

เพรายกจานสีขาวก้นลึกนำมาวาง “ซุปใสปลาเว็บฟุต ผมใช้เนื้อปลาและกระดูกส่วนขาเว็บฟุตต้มกับเครื่องเทศอย่าง ลูกกระวานเขียว กานพลู อบเชย ดีปลี พริกไทยดำ สายบัว ป๋วยกั๊กและอื่นๆ อีกนิดหน่อย” จานซุปของเพรานั้นเหมือนเป็นการต่อยอดรสชาติน่าหลงใหลของเมลเลก ด้วยเครื่องเทศ แต่หน้าตาของมันค่อนข้างจะดูธรรมดาเป็นแค่ซุปใสที่มีเนื้อปลาและสายบัวลอยอยู่

“หน้าตาค่อนข้างธรรมดานะคะ ต่างจากช่อม่วงเมื่อสักครู่ ว่าแต่สายบัวสามารถรับประทานได้เหรอคะ เปิดประสบการณ์มากค่ะ”

“กิน เอ๊ย ทานได้ครับเลือกส่วนที่ยังอ่อนนำไปทำความสะอาดก็สามารถทานได้ครับ” เป็นครั้งแรกที่เพรารู้สึกเกร็งกับการทดสอบ ไม่ใช่เพราะความกดดันแต่เป็นเสน่ห์บางอย่างจากคานะ

คณะกรรมการได้รับรสชาติซุปปลาที่มีความหวานจากกระดูกปลา สายบัวพอดีคำ มีความกรอบที่เมื่อกัดเข้าไปรสเข้มข้นของซุปก็กระจายอยู่ทั่วปาก เนื้อปลานุ่มเด้งสู้ลิ้น แถมรสแฝงเผ็ดร้อนจากเครื่องเทศยิ่งรวมกับความร้อนของร้อนยิ่งทำให้อาหารจานนี้รุ่มร้อนยิ่งขึ้น

เมื่อคานะได้รับรสสัมผัสไอร้อนของซุปเข้าไปก็ทำให้เธอต้องเข้าสู่ภวังค์อาหารอีกครั้ง ทุกอย่างรอบตัวของเธอได้เปลี่ยนไปตอนนี้เธอได้อยู่ในอ่างน้ำร้อนของร้านสปา กลิ่นเครื่องเทศสมุนไพรชวนหลงใหล ความอุ่นของน้ำร้อนจากการสร้างความผ่อนคลาย มันยังสร้างความเร่าร้อนในร่างกายของเธอ พนักงานสปากำลังนวดไปที่ศีรษะของตัวเธอ ปลายนิ้วสัมผัสเบาๆ ความเต็งตึงของผิวทำให้เธอคะนึงคิดถึงอีกครั้ง

“คุณคานะ เราต้องสู้นะคะ อย่าให้พวกเด็กเอาชนะเราได้ค่ะ” รูเบอร์ต้าเขย่าตัวของคานะให้ออกจากภวังค์อีกครั้ง

“ช่วยไม่ได้จริงๆ ค่ะ อาหารมันเร่าร้อน” คานะหายใจอย่างแผ่วเบา สายตาของเธอช่างเย้ายวนชายหนุ่มตรงหน้า “ดิฉันขอพูดอะไรหน่อยได้ไหมคะ ในฐานะกรรมการ” คานะมองไปยังเพรา

“ครับ เชิญครับ”

“พวกคุณคงเห็นแล้วว่าทั้งช่อม่วง ทั้งซุป ทำให้หญิงสาวคนหนึ่งเร่าร้อนได้ขนาดนี้ ถ้าจานหลักและของหวานทำไม่ถึงระดับของสองจานแรก พวกเธอจะไม่ได้คะแนนจากดิฉันแม้แต่เสี้ยวหนึ่ง”

[คุยหลังครัว]

นับว่าตอนนี้เป็นอีกตอนที่อยากแทรกสาระเยอะมาก ทั้งตัวของช่อม่วงที่มีการใช้แป้งท้าวยายม่อม เครื่องเทศต่างๆ ของซุปปลา การทำ ซูวี (Sous Vide) แต่ก็กลัวทุกอย่างมันจะเป็นเนื้อหาสาระมากเกินไป เลยเลือก ซูวี (Sous Vide) มาเป็นสาระในตอน ซึ่งถ้าคนที่ไม่เคยรู้จักหรือแค่รู้จักผ่าน คิดว่าการที่นอททัมทำ ซูวี (Sous Vide) เป็นเรื่องยากแน่นอน แต่ที่จริงการ ซูวี ไม่ได้ยากจนเกินความสามารถของทุกคนแน่นอน หลักคือการใช้เครื่องสุญญากาศกับการรักษษอุณหภูมิของน้ำเท่านั้นเอง ซึ่งปัจจุบันมันมีเครื่องที่แค่นิ้วจิ้มๆ ก็ทำได้แล้วนะ