พ่อครัววังหลวง คือผู้ทำอาหารให้กับเหล่าผู้คนชั้นสูงในวัง เป็นตำแหน่งของพ่อครัวที่ใครๆก็อยากไต่ไปถึง และหนึ่งในนั้นต้องเป็น 'เพรา' คลื่นลูกใหม่แห่งวงการพ่อครัวจอมเวทย์ที่พร้อมกระตุ้นความอร่อยด้วยมือเขา

บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท - เมนูที่ 25 ไก่ผัดเมล็ดวินลัท โดย คอคิจ @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ผจญภัย,แฟนตาซี,ครอบครัว,ไทย,ตะวันตก,ดราม่า,แฟนตาซี,ทะลุมิติ,ต่างโลก,อาหาร,ผจญภัย,เวทมนต์,มอนสเตอร์,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ผจญภัย,แฟนตาซี,ครอบครัว,ไทย,ตะวันตก

แท็คที่เกี่ยวข้อง

ดราม่า,แฟนตาซี,ทะลุมิติ,ต่างโลก,อาหาร,ผจญภัย,เวทมนต์,มอนสเตอร์

รายละเอียด

บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท โดย คอคิจ @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

พ่อครัววังหลวง คือผู้ทำอาหารให้กับเหล่าผู้คนชั้นสูงในวัง เป็นตำแหน่งของพ่อครัวที่ใครๆก็อยากไต่ไปถึง และหนึ่งในนั้นต้องเป็น 'เพรา' คลื่นลูกใหม่แห่งวงการพ่อครัวจอมเวทย์ที่พร้อมกระตุ้นความอร่อยด้วยมือเขา

ผู้แต่ง

คอคิจ

เรื่องย่อ

บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวทย์

Record the recipe of the Royal chef

หมวดหมู่ : แฟนตาซี ทำอาหาร การแข่งขัน ต่อสู้(นิดหน่อย)

__________________________

 

การเป็นพ่อครัววังหลวงนั้นเป็นความฝันและเป้าหมายชีวิตของเหล่าพ่อครัว เหล่านักสร้างความอร่อยให้กับโลกใบนี้ การเป็นพ่อครัววังหลวงที่หลายปีจะเปิดรับพ่อครัวรุ่นใหม่เพียงแค่ 4 คนเท่านั้นเป็นหัวหน้าพ่อครัวประจำฤดูทั้งสี่ และหนึ่งผู้จะเข้าชิงตำแหน่งนั้นคือ ‘เพรา’ พ่อครัวจากเมืองเล็กๆแห่งนั้น แรงปรารถนาของเขาอาจจะไม่เหมือนใคร เพราะเขาไม่ต้องการ ชื่อเสียง เงินทอง เกียรติยศ หรือความสุขสบาย สิ่งที่เขาต้องการแค่ ความจริง 

“แค่เป็นเหมือนนายให้ได้ใช่ไหม แล้วชั้นจะรู้ความจริง…” - เขียวใบไม้

“การที่ผมมาอยู่ตรงนี้ได้ มาจะช่วยเติมเต็มได้จริงเหรอ?” - แดงเนื้อสัตว์

“การเป็นพ่อครัววังหลวง มันจะแสดงให้ตระกูลเห็นว่าเราเองก็มีค่า” - ม่วงเปลือกมังคุด

“อยากให้คุณอยู่เห็นความสำเร็จของคุณจังเลย …ที่รัก” - ครามทะเล

“ฉันยืนอยู่ตรงนี้นะ กำลังใจของพวกนาย” - กลิ่นน้ำมันเครื่อง

 

_____________________________

 

 

สารบัญ

บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 1 สลัดสไลม์ทอด,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 2 สตูว์เนื้อ,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 3 แซนด์วิชทงคัตสึหมูโคลน,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 4 ฟาฮิตาไก่,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 5 ปูถ่านหิน,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 6 เค้กปูแบบพอดีคำ,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 7 แพนเค้กนุ่มฟู,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 8 ไข่ผำบนหลังแมงป่อง,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 9 ปลากะพงย่างพาสต้าไข่ผำซอสเพสโต้,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 10 คุณกระต่ายว่ายน้ำนม เบอร์ 2,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 11 นมถั่วพิตาชิโอ้,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 12 ขนมพระพาย,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 13 สไลม์ผลไม้,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 14 ระบำจิ้งจอกม่านหมอกเพลิง,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 15 คาเนลโลนีทุเรียนซ่อนแอบ,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 16 หมึกต้นไม้,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 17 โอโคโนมิยากิหมึกต้นไม้,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 18 ยำเห็ด ซุปเห็ด สเต๊กเห็ด และพุดดิ้ง,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 19 เจ้าปลามีขา,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 20 ดอกบัวเงือกหวาน,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 21 ช่อม่วงไส้กุ้ง,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 22 เคลพีสามทาง,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 23 สตรอเบอร์รี่ ครีมชีส พาร์เฟต์,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 24 เข็มกลัดว่าที่พ่อครัววังหลวง (ชั่วคราว),บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 25 ไก่ผัดเมล็ดวินลัท,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 26 บุหลันดั้นเมฆ,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 27 แกะขนทราย,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 28 ปอเปี๊ยะสด,บันทึกสูตรว่าที่พ่อครัวจอมเวท-เมนูที่ 29 ป๊อปคอร์นวาซาบิ

เนื้อหา

เมนูที่ 25 ไก่ผัดเมล็ดวินลัท

 

ภายในห้องสำนักงานที่เคยเป็นห้องสำหรับเก็บวัตถุดิบตอนนี้กลายเป็นห้องทำงานของคุณวิกค์ชั่วคราว บรรยากาศในห้องนั้นเต็มไปด้วยกลิ่นหอมของขนมหวานและชาสมุนไพรต่างๆ บริเวณหน้าห้องมีว่าที่พ่อครัววังหลวงทั้งสิบหกคนยืนดูภารกิจที่ติดประกาศอยู่บนกระดานไม้ใหญ่ ภารกิจนั้นค่อนข้างหลากหลายประเภท ตั้งแต่สอนทำอาหาร คิดสูตรอาหาร จัดงานเลี้ยง จัดหาวัตถุดิบ และอื่นๆ มากมาย

นอททัมอาศัยความสูงมองดูภารกิจ เขาไปสะดุดกับภารกิจหนึ่งที่เขียนไว้ว่า

[ภารกิจคู่ : ครูอาสาสอนทำอาหาร สถานที่รับเลี้ยงเด็กกําพร้าเลนทัม ระยะเวลา 3 วัน]

“น้องเพรา เราไปเป็นครู…”

เพราที่ได้ยินคำว่าครูแทบไม่ต้องคิดเลยว่า ภารกิจต้องเป็นแนวทางไหน “ไม่ เด็กวุ่นวายจะตาย”

เมลเลกหัวเราะ “ชวนใครไม่ชวนนอททัม เอาคนแบบนี้ไปสอนเด็ก เด็กร้องแน่” เธอพูดพลางเดินมาหยอกล้อกับทั้งสองคน “เพรา นายไม่รีบเลือก มันจะไม่มีตัวเลือกให้นะ นอททัม ไปกับฉันไหม ฉันหยิบใบคำขอครูอาสามาแล้ว” เมลเลกยื่นใบคำขอให้กับนอททัม

“เออ แต่ว่าน้องเพรา…”

“ถ้าพี่ชอบ พี่ก็ไปเหอะ พวกเราไม่ต้องตัวติดกันก็ได้ อีกอย่างยังมีเจ้าปลาอีกคน” เพราตอบด้วยน้ำเสียงที่เจือความห่วงใย

“ถ้าเจ้าปลา ฉันเห็นอยู่ในห้องคุณวิกค์ลงทะเบียนภารกิจแล้ว เห็นมีคนชวนฮาวทำภารกิจ ‘ล่ากุ้งกระสุน’ หมอนั้นเลยตอบตกลง นั้นไงออกมาแล้ว” เมลเลกพูดพลางชี้ไปที่ฮาวที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องคุณวิกค์

ใบหน้าระรื่นสบายใจของฮาว เขาเดินมาทักทายพร้อมกับเพื่อนร่วมทีมใหม่ของเขาอีกสี่คน “พวกเจ้าเลือกภารกิจได้ยัง”

“ฉันกับนอททัม ได้แล้ว มีแต่เพราที่ยังไม่ได้” เมลเลกตอบ

เพรามองหน้าฮาวด้วยความไม่พอใจ “แล้วทำไมไปทำภารกิจกับคนอื่น?” เขาถามด้วยน้ำเสียงที่นิ่ง โดยไม่ได้สนใจเพื่อนร่วมทีมใหม่ของฮาว

“งานที่ต้องลงน้ำมันมีงานเดียว แถมข้าก็อยากกินกุ้ง โชคดีที่ทีมเจ้าเซกะขาดหนึ่งคนพอดี เนอะ” ฮาวหันไปพูดกับผู้หญิงวัยพอๆ กับเพรา ผมสีลูกพีช

ผู้หญิงที่สดใสเหมือนผลไม้รสเปรี้ยวอมหวาน “ขอยืมฮาวไปทำภารกิจหน่อยนะ มนุษย์เงือกมีตัวเดียวแบ่งๆ กันใช้เนอะ พวกเราขอตัวก่อนนะ บะบาย” เธอกล่าวพลางโบกมือลาไปกับทีมของเธอทั้งห้าคน

ส่วนเมลเลกกับนอททัมขอตัวไปยืนยันภารกิจกับคุณวิกค์ ทำให้เหลือแค่เพราคนเดียว “มีภารกิจเดี่ยวให้ทำไหมนะ” เขาพูดกับตัวเองพลางมองบอร์ด

หลายคนเริ่มไปรายงานตัวกับคุณวิกค์ทำให้ภารกิจบนบอร์ดนั้นเหลือไม่มากแล้ว ส่วนมากที่เหลือจะเป็นภารกิจเดี่ยวกับคู่ ได้แก่

[ภารกิจเดี่ยว จัดชุดผลไม้แจกต้อนรับนักท่องเที่ยวในงานผลไม้ประจำปี (ไม่มีผู้ช่วย) ]

[ภารกิจคู่ กำจัดมอนสเตอร์พืชและทำอาหารที่ สวนพืชเลี้ยงอิสระฟลอเรนเซีย]

[ภารกิจเดี่ยว ล่าและคิดสูตรอาหารกุหลาบเดือนเต็ม]

เพรากำลังจะตัดสินใจทำภารกิจจัดชุดผลไม้เพราะรู้สึกว่าน่าจะง่ายที่สุดในตัวเลือกทั้งหมด แต่ถูกนกอินทรีบินโฉบตัดหน้าเข้าห้องคุณวิกค์ไปทันที เพราและว่าที่พ่อครัวอีกสองคนต่างมองหน้ากันเพราะตอนนี้เหลือแค่พวกเขาสามคนกับสองภารกิจ

“นายคือคนที่เคยได้ที่หนึ่งในการทดสอบงานคู่ใช่ไหม แล้วคู่นายไปไหน?” ผู้สมัครหนึ่งในนั้นทักถามเพรา

“อ๋อ ไปทำภารกิจอื่นแล้ว พวกนายทำงานคู่ได้ไหม เราไม่ค่อยอยากทำงานกับคนที่ไม่ค่อยรู้จัก” เพราดึงภารกิจคู่ ใบสุดท้ายออกจากกระดาน

“ก็ได้...” พวกเขารับมาอย่างไม่เต็มใจเท่าไรนัก

เพราดึงใบภารกิจ [ภารกิจเดี่ยว ล่าและคิดสูตรอาหารกุหลาบบลูน่าเบลล์ ระยะเวลา 4 วัน] ออกจากกระดานติดประกาศ เขามองใบภารกิจด้วยความรู้สึกน้อยใจเล็กน้อยเพราะเหมือนตัวเขาโดนเพื่อนทิ้งให้อยู่คนเดียว แต่ในอีกมุมหนึ่งเขาก็เริ่มด้วยการเป็นพ่อครัวคนเดียว สำหรับภารกิจสำหรับคนเดียวคงไม่ได้แตกต่างกับเมื่อก่อนเท่าไร

“เลือกกุหลาบบลูน่าเบลล์ใช่ไหม” คุณวิกค์เดินออกมาจากห้องสำนักงาน เพราะตอนนี้เหลือแค่เพราเท่านั้นที่ยังไม่ได้รายงานตัวสำหรับภารกิจ

“อ๋อ ครับ มันเหลือแค่ภารกิจเดี่ยวแล้ว” เพราส่งใบคำร้องขอภารกิจให้กับคุณวิกค์

“ภารกิจนี่ถึงจะเขียนว่าสี่วัน แต่เธอเก็บให้ได้ในอีกสองวันนะ”

“กุหลาบจะบานสวยตอนพระจันทร์เต็มดวงใช่ไหมครับผมเคยอ่านเจอมา”

“ให้เรียกกริฟฟินรับจ้างสาธารณะให้ไหมจ๊ะ เพราะที่นั่นไม่เหมาะขับรถไป”

“รบกวนด้วยนะครับ”

บริเวณรอบนอกหมู่บ้านกุหลาบสีจาง

เพรากำลังอยู่บนนกกริฟฟิน สัตว์ที่ร่างกายเป็นครึ่งนกอินทรี ครึ่งสิงโต พร้อมกับคนขับ ตอนนี้พวกเขากำลังบินอยู่รอบหมู่บ้านกุหลาบสีจาง เป็นพื้นที่ที่ถูกทิ้งร้างมาอย่างยาวนาน ไม่มีใครทราบว่าเผ่าพันธุ์ไหนเคยได้อาศัยอยู่ในพื้นที่ เมื่อก่อนเป็นพื้นที่นิยมในการท่องเที่ยวของบุคคลทั่วไปเนื่องจากหมู่บ้านร้างแห่งนี้เคยมีต้นไม้หิ่งห้อยอยู่จำนวนมาก กาลเวลาผ่านไปความอุดมสมบูรณ์ก็หายไป เพราะมีคนได้นำเมล็ดพืชกลายพันธุ์ ‘มูนเบลล์’ พืชที่ดูดกลืนพลังงานแสงจันทร์ทำให้ต้นไม้หิ่งห้อยเริ่มแห้งตาย

นกกริฟฟินจอดลงใจกลางหมู่บ้าน พนักงานคนขับยื่นตั๋วหนึ่งใบให้เพรา “ตั๋วขากลับนะไอ้หนุ่ม ฉีกแล้ว กริฟฟินไรเดอร์จะมารับทันที ขอให้โชคดีนะ” นกกริฟฟินบินลาจากเพราไป

พ่อครัวตัวน้อยยืนมองนกกริฟฟินค่อยๆ บินหายไปในกลีบเมฆ ความรู้สึกเหงาและโดดเดี่ยวค่อยๆ กัดกร่อนจิตใจ เขามองไปรอบๆ หมู่บ้านที่เคยมีชีวิตชีวาและเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะของนักท่องเที่ยว ตอนนี้กลับกลายเป็นที่เงียบสงัด รกร้าง และน่าหดหู่ เสียงใบไม้แห้งกระทบกันตามลมสร้างเสียงหวีดหวิวที่ยิ่งทำให้บรรยากาศดูเศร้าหมอง

เพราตัวสั่นเพราะความหนาวเย็น “ถ้ามากับพี่นอททัม เขาคงขอเกาะหลังเพราะหนาวแน่เลย”

เพราสะพายกระเป๋าสัมภาระ เดินดูรอบหมู่บ้านที่ถูกปล่อยทิ้งร้างมานาน ยิ่งสำรวจยิ่งรู้สึกถึงความแปลกประหลาดของหมู่บ้านแห่งนี้ โดยปกติแล้วถ้าหมู่บ้านหรือสถานที่ไหนถูกปล่อยทิ้งร้างไป พวกมอนสเตอร์จะอพยพมาอาศัยในพื้นที่แทน แต่ที่นี่กลับไม่มีมอนสเตอร์ใดๆ เหมือนมีพลังงานบางอย่างที่ไม่ยอมให้มอนสเตอร์เข้าใกล้

หมู่บ้านนี้มีบ้านไม้หลังเล็กๆ สร้างจากไม้โอ๊คที่แข็งแรง แม้จะผ่านกาลเวลามานาน บ้านหลายหลังยังคงตั้งอยู่แต่ก็เริ่มผุพัง บางหลังมีเถาวัลย์ไต่ขึ้นตามกำแพง หน้าต่างหลายบานแตกหักเสียหาย โคมไฟเหล็กที่เคยแขวนอยู่ตามทางเดินถูกปล่อยให้ขึ้นสนิม ลานกิจกรรมของหมู่บ้านที่เคยมีการจัดงานเทศกาลกลับถูกปกคลุมด้วยหญ้าสูงและเศษซากของกิจกรรมที่ผ่านมา

“พระอาทิตย์จะตกแล้วเหรอ หาที่ตั้งแคมป์ดีกว่า”

พระอาทิตย์กำลังจะตกดิน เพราเดินตามหาพื้นที่ที่เหมาะสมสำหรับการตั้งแคมป์ ตอนแรกเขาตั้งใจว่าจะใช้บ้านที่ถูกทิ้งร้างอาศัยหลบหนาว แต่กลัวว่าสิ่งปลูกสร้างที่ถูกร้างมานานจะพังขึ้นมา พ่อครัวตัวน้อยจึงตั้งใจตั้งแคมป์บริเวณลานกิจกรรมของหมู่บ้าน

เพราเริ่มจากการจุดแคมป์ไฟโดยใช้เศษฟางแห้งถูด้วยมือเปล่าๆ สักพักควันก็ลอยออกมา นำเชื้อไฟไปกองกับกิ่งไม้ที่เก็บมา แล้วก็จะได้แคมป์ไฟแบบง่าย

“ต่อไปก็เตรียมข้าวเย็น”

ในกระเป๋าของเพราเต็มไปด้วยเครื่องปรุงขวดเล็กสามสี่อย่าง เพราตั้งใจว่าจะอยู่ที่นี่แค่สองวัน เลยค่อนข้างจัดเต็มกับวัตถุดิบ เรื่องไฟก็ไม่ต้องเป็นห่วงเพราะตัวเขานั่นแหละคือเตาเคลื่อนที่ เริ่มจากซอยกระเทียมกับต้นหอมที่เตรียมมาด้วย เขาลุกไปหยิบต้นหญ้าสีแดงชนิดหนึ่งชื่อว่า ‘ต้นพาโคะเพ’ เป็นหญ้าที่เมื่อนำไปผ่านความร้อนจะมีรสเผ็ดขึ้นมา

เพราตั้งกระทะให้ร้อน ใส่น้ำมันเล็กน้อย นำเมล็ดวินลัทที่เหลือจากการทดสอบ กระเทียม เมื่อเมล็ดวินลัทใกล้สุกให้นำไก่ทอดจากเมื่อวานเช้าที่นอททัมเป็นคนทำใส่เข้าไป ปรุงรสด้วยเครื่องปรุงรสต่างๆ ผัดให้เข้ากันจนกลิ่นหอม จากนั้นใส่ต้นหอม ผัดอีกเล็กน้อยก็เป็นอันเสร็จ

“ไก่ผัดเมล็ดวินลัท!”

เพราวางกระทะที่ผัดเสร็จไว้ที่พื้นเตรียมเครื่องดื่มเป็นชาสีส้ม เพรามองรอบตัวเองรู้สึกไม่ชินกับการที่ต้องทานข้าวคนเดียว ปกติจะต้องมีความวุ่นวายจากฮาว มีการจัดจานสวยงามจากเมลเลก มีคำถามด้วยน้ำเสียงที่ตื่นเต้นจากนอททัม และคนที่ชอบแอบกินก่อนคนอื่นอย่างชูร์ ความคิดถึงเพื่อนเริ่มถาโถมเข้ามา เพราเริ่มรู้สึกถึงความเงียบเหงาที่กำลังเกาะกุมหัวใจ ความเงียบที่แวดล้อมทำให้เขารู้สึกโดดเดี่ยวมากขึ้นทุกขณะ

“ทำไมเรา เป็นเด็กขี้แงนะ” เพราพูดเบาๆ กับตัวเอง น้ำตาที่คลออยู่ในดวงตาของเขาไม่อาจซ่อนความรู้สึกที่อยู่ลึกในใจได้

ชายหนุ่มขยี้ตาก่อนที่จะตักไก่ผัดเมล็ดวินลัทขึ้นมารับรสชาติ กลิ่นหอมจากกระเทียม ต้นหอม และน้ำมันงาส่งเสริมให้ความอร่อยทวีคูณมากขึ้น เนื้อไก่กับเมล็ดวินลัทแห้งกรอบอร่อยเข้ากันได้อย่างลงตัว มีรสเผ็ดปลายลิ้นจากต้นพาโคะเพ ยิ่งกระตุ้นความอยากอาหารมากขึ้นไปอีก

“หอมจัง แปลกจังที่มีคนทำอาหารในที่แบบนี้” เสียงของผู้หญิงดังขึ้นด้านหลังของเพรา

เพราตกใจเล็กน้อย แต่พอหันไปเห็นเป็นหญิงสาวที่ดูเหมือนจะไม่มีพิษไม่มีภัย “มีคนอยู่ด้วยเหรอ!”

“คนอยู่? ถ้าหมายถึงผู้อาศัยไม่ใช่จ้า เป็นนักสำรวจเฉยๆ” หญิงสาวตอบกลับ ทั้งคู่สบตาแสงพระจันทร์ฉายส่องลงบนใบหน้าของสาวปริศนาทำให้เพราเห็นหน้าตาของเธอ ดวงตาสีโอลด์โรสเปล่งประกายเหมือนกับอัญมณี ผมยาวสีขาวไล่ชมพู สวมชุดจอมเวทตัวใหญ่สีน้ำเงิน “นายมาทำอะไรที่นี่” หญิงสาวมองหน้าด้วยความสงสัย

“สำรวจที่เฉยๆ” เพราหลบสายตา

“โกหก นายเหมือนคนมาตั้งแคมป์เที่ยวมากกว่านะ แต่ที่แบบนี้ไม่เหมาะนายรีบออกไปดีกว่า” หญิงสาวเดินเข้ามาใกล้ ทำให้เพราเริ่มรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย

“เรามีธุระที่นี่เฉยๆ” เพราพยายามหลบสายตาของหญิงสาวอีกครั้ง

“นายมาเพราะกุหลาบบลูน่าเบลล์ หรือเปล่า” คำถามของเธอทำให้เพราชะงักไปเล็กน้อย “เพราะพรุ่งนี้ก็พระจันทร์เต็มดวง คนปกติถ้าไม่มาเพราะมูนเบลล์ ก็ไม่รู้สาเหตุอื่นแล้ว”

“แล้วเธอ ก็มาเพราะมูลเบลล์เหมือนกันเหรอ?”

“ไม่บอกหรอกจ้า ตาทึ่ม” เธอยิ้มและนำนิ้วไปสัมผัสปลายจมูกของเพราหนึ่งที ด้วยรอยยิ้มและหน้าตาแสนทะเล้นของสาวปริศนาทำให้ใบหน้าของเด็กหนุ่มแดงขึ้นมา “เอ๊ะ ทำไมรู้สึกว่าตัวร้อนขึ้น” หญิงสาวใช้มือจับบริเวณแก้มเพรา

ชายหนุ่มยิ่งรู้สึกตัวร้อนผ่าวแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เขาปัดมือของเธอทิ้ง “แค่พฤติกรรมตามธรรมชาติคนธาตุไฟ สำหรับป้องกันตัว”

“นายเป็นแขนงธาตุไฟเหรอ งั้นคืนนี้ฉันขอนอนด้วยสิ เขาว่านอนข้างคนแขนงธาตุไฟจะอุ่น”

“ห้า!!!” เพราอุทานเสียงดังพร้อมกับใบหน้าที่แดงเข้มกว่าเดิม

หญิงสาวหัวเราะคิกคัก “ตายจริง นายหน้าแดงไปหมดแล้ว แบบนี้ฉันจะไปนอนไหนดีล่ะ เอาเป็นว่าฉันนอนข้างๆ นายก็แล้วกันนะ” เธอพูดพร้อมกับกวาดสายตามองหาที่นอนข้างๆ เพรา

เพรายังไม่ทันตอบอะไร หญิงสาวก็เดินมานั่งข้างๆ และหยิบผ้าห่มออกจากกระเป๋าของเพรา “ที่นี่หนาวนะ นายเองก็ควรหาผ้าห่มนะ ไม่ใช่ว่าเป็นคนแขนงไฟแล้วทนหนาวได้” เธอยิ้มหวานให้เพรา

เพรารู้สึกถึงหัวใจที่เต้นแรง เขาพยายามสงบสติอารมณ์ “ก็...ก็ได้ แต่เธอต้องอยู่ห่างๆ นะ”

“ได้เลยค่ะ ท่านนักสำรวจตัวน้อย” เธอหัวเราะเบาๆ ทำท่าท่าวันทยหัตถ์แล้วนั่งลงข้างๆ เพราในระยะที่ไม่ใกล้ไม่ไกลเกินไป

เพรายังรู้สึกเขินอาย แต่ก็เริ่มรู้สึกอบอุ่นและไม่โดดเดี่ยวเหมือนเดิม

‘สามคนนั้นป่านนี้จะเป็นยังไงบ้างนะ’

ขณะเดียวกันที่สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าเลนทัม นอททัมและเมลเลกกำลังสอนเด็กๆ ทำอาหารในครัวขนาดเล็ก เสียงหัวเราะและเสียงตะโกนของเด็กๆ ดังทั่วบริเวณ

“อย่าวิ่งเร็วเกินไป เดี๋ยวจะล้ม!” นอททัมตะโกนบอกเด็กชายตัวเล็กที่วิ่งวนไปรอบๆ แต่เด็กชายก็ยังคงซนอยู่ดี กระโดดชนข้าวของในครัว “คุณเมลเลกดูแลเด็กๆ คนอื่นไปก่อนนะครับ เดี๋ยวผมไปจับตัวน้องมายาก่อน” นอททัมวิ่งไล่ตามเด็กแสนซนภายในครัว

เมลเลกกำลังพยายามกำลังพยายามห้ามเด็กที่กำลังใช้สีน้ำสำหรับวาดรูประบายบนขนมปัง “นี่ ใช้สีน้ำไม่ได้นะ เราต้องใช้สีผสมอาหาร” เธอพูดด้วยเสียงนุ่มนวล แต่เด็กหญิงตัวน้อยที่กำลังระบายสีอยู่กลับหัวเราะเสียงดังและใช้แปรงสีพ่นสีฟ้าใส่หน้าเมลเลก

“ฮ่าๆ พี่เมลเลกเป็นมนุษย์สีฟ้าแล้ว!” เด็กๆ หัวเราะและปรบมือด้วยความสนุกสนาน

“พี่นอททัมต้องเจอวิชาลับของผม ถุงแป้งกระจายฟุ้ง” เด็กชายถุงแป้งใส่นอททัม ทำให้ถุงแตกกระจายไปทั่วห้องครัว

“เด็กๆ เป็นยังไงบ้างพี่ๆ จากครัวหลวงสอนสนุกไหม...ว้ายตาย คุณเมลเลก คุณนอททัม!” คุณครูของพวกเด็กเดินเข้ามาพบกับ เมลเลกที่หน้าเป็นสีฟ้าและนอททัมที่ตัวขาวโผล่จากถุงแป้งสาลี

[คุยหลังครัว]

ขอสารภาพอย่างหนึ่งว่าตอนนี้ ไม่ได้คิดไว้ก่อนว่าจะให้ น้องเพรา ทำอาหารอะไร ตอนแรกว่าจะง่ายๆ แบบเนื้อปิ้ง ขนมปัง อะไรง่ายๆ แต่ลูกชายเราคงแบบไม่อยากทำอะไรง่ายๆ แน่เลย ก็เลยนั่งคิดนอนคิดอยู่นานจนไปหาไรกินในตู้เย็นแล้วเจอ เม็ดมะม่วง ก็เลยนี่แหละ ผัดเม็ดมะม่วง