“มะ ไม่ไหวแล้ว ฉันแตกใส่เธอแล้ว” จนมันกลั้นเอาไว้ไม่ไหว แทงเข้าไปในโพรงนุ่มแบบลึกสุดๆ แล้วพ่นน้ำรักอัดฉีดพร้อมกับการกระตุกเกร็งของช่องทางรัก เธอเองก็คงเสร็จพร้อมเขาด้วย

ความรักของสองเรา - ตอนที 2 ความรักของสองเรา (3p ) โดย แสงฉาย จอมเกล้า @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-หญิง,ผู้ใหญ่,รัก,ไทย,อื่นๆ,,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ความรักของสองเรา

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-หญิง,ผู้ใหญ่,รัก,ไทย,อื่นๆ

แท็คที่เกี่ยวข้อง

รายละเอียด

ความรักของสองเรา  โดย แสงฉาย จอมเกล้า @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

  “มะ ไม่ไหวแล้ว ฉันแตกใส่เธอแล้ว” จนมันกลั้นเอาไว้ไม่ไหว แทงเข้าไปในโพรงนุ่มแบบลึกสุดๆ แล้วพ่นน้ำรักอัดฉีดพร้อมกับการกระตุกเกร็งของช่องทางรัก เธอเองก็คงเสร็จพร้อมเขาด้วย

ผู้แต่ง

แสงฉาย จอมเกล้า

เรื่องย่อ

  “มะ ไม่ไหวแล้ว ฉันแตกใส่เธอแล้ว” จนมันกลั้นเอาไว้ไม่ไหว แทงเข้าไปในโพรงนุ่มแบบลึกสุดๆ แล้วพ่นน้ำรักอัดฉีดพร้อมกับการกระตุกเกร็งของช่องทางรัก เธอเองก็คงเสร็จพร้อมเขาด้วย

สารบัญ

ความรักของสองเรา -ตอนที 1 ความรักของสองเรา ( 3p ) ,ความรักของสองเรา -ตอนที 2 ความรักของสองเรา (3p ),ความรักของสองเรา -ตอนที 3 ความรักของสองเรา ( 3p ) ,ความรักของสองเรา -ตอนที 4 ความรักของสองเรา ( 3p )

เนื้อหา

ตอนที 2 ความรักของสองเรา (3p )

ตอนที่2

“นี่นุ มาช่วยกันจัดร้านหน่อยสิ แล้วขิงไปไหนเนี่ย?”

 

หมูหวานตะโกนเรียกน้องชายที่นอนอยู่บนโซฟา ให้ลุกขึ้นมาช่วยจัดร้าน เป็นร้านที่ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ริมหาด เป็นตึกที่แม่ไปกู้เงินธนาคารมาเปิดเป็นร้านเหล้าขนาดย่อมเพื่อรองรับนักท่องเที่ยว

 

 ช่วงที่มีโควิดทางร้านขายไม่ได้แม่ไม่มีเงินส่งแบงค์ จึงต้องกู้เงินนอกระบบเลยการเป็นหนี้มหาศาลดอกเบี้ยหัวแตก ที่ไม่ว่าจะจ่ายยังไงก็ไม่จบสิ้นเสียที

 

จนกระทั่งแม่นีล้มป่วยเข้าโรงพยาบาล หมูหวานจึงต้องรับช่วงต่อบริหารจัดการแทน ช่วงเย็นมาเปิดร้านกว่าจะเสร็จก็ตีสองตีสามแทบทุกวัน หกโมงเช้าต้องตื่นไปเฝ้าแม่ที่โรงพยาบาลเธอทำแบบนี้มาเกือบปีแล้ว 

 

ในขณะที่นุน้องชายไม่เป็นโล้เป็นพายงานการก็ไม่ค่อยจะทำ วันๆ เอาแต่เตร็ดเตร่ไปมาและก็ยังมีขิงที่เป็นน้องสะใภ้ แต่รายนั้นเอาการเอางานมีหัวบริหารก็ยังดีหน่อยที่ยังช่วยกันทำมาหากิน

 

“นุ!” เห็นน้องชายยังคงนอนนิ่งไม่รู้สึกรู้สา เลยหยิบกระป๋องเบียร์ที่หมดแล้ว โยนใส่คนไม่ได้เรื่องไม่ได้ราว ที่เอาแต่นอนไม่คิดจะมาช่วยกันเลย พูดจนปากเปียกปากแฉะ แต่นุก็ยังทำตัวไม่ได้เรื่องเหมือนเดิม

 

“โอ้ย อะไรนักหนาวะเนี่ย!”

 

“มาช่วยกันจัดร้าน เห็นไหมวันนี้มีนักท่องเที่ยวเยอะแค่ไหน” ช่วงไฮซีซั่นแบบนี้นักท่องเที่ยวค่อนข้าง จึงอยากจัดร้านให้เสร็จเร็วๆ เพื่อต้อนรับแขกเพราะยิ่งขายได้มากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งมีเงินส่งดอกมากขึ้น ไม่ได้หวังว่าจะต้องปลดหนี้ได้ในเร็วๆ นี้ขอเพียงแค่มีเงินไปจ่ายดอก ไม่ให้พวกมันมาขูดรีดหรือขู่ทำร้ายก็พอแล้ว

 

“เออๆ รู้แล้วน่า แม่งน่าเบื่อฉิบหาย”

 

“แล้วนี่ขิงไปไหน?” มองซ้ายมองขวาไม่เห็นน้องสะใภ้มาพักใหญ่แล้ว นึกอยู่ในใจทำไมไม่มาช่วยกันจัดร้านเลย ก็เห็นอยู่ว่านักท่องเที่ยวเดินผ่านไปผ่านมา ถ้าจัดร้านเร็วก็จะได้ขายเร็ว

 

 พอแม่ไม่อยู่ต่างคนก็ต่างเละเทะทำตามใจตัวเอง เธอมีหน้าที่ดูแลในฐานะพี่คนโต เลยต้องเข้มงวดกับทุกคนเพื่อให้ช่วยกันทำงาน

 

“อยู่แถวนี้แหละมั้ง”

 

“เวลคัมๆ ร้านเรามีเครื่องดื่มเด็ดๆ ที่ร้านอื่นไม่มี รับรองว่าดี ราคามิตรภาพ มาๆ เข้ามานั่งกันก่อนเลยค่ะ”

 

หมูหวานหันไปมองตามเสียงเห็น เห็นขิงพากลุ่มนักท่องเที่ยวเข้ามาสามถึงสี่คน ที่แท้ก็ออกไปเรียกแขก แต่ควรจัดร้านให้เสร็จก่อนไหม เรียกมาแบบนี้ร้านก็ยังไม่เสร็จ แล้วจะให้ลูกค้านั่งตรงไหนก่อน

 

“....”

 

“อ่าว นี่พี่หมูหวานยังจัดร้านไม่เสร็จอีกเหรอ? มัวแต่ทำอะไรอยู่เนี่ย เดี๋ยวลูกค้าก็หายหมดหรอก!” ขิงหันมาอารมณ์เสียใส่ เธออุตส่าห์ออกไปเรียกแขกมาให้

 

 แล้วนี่อะไรแทนที่จะรีบจัดร้านจัดโต๊ะ ให้แขกเข้านั่งมีแต่โต๊ะเปล่าๆ เก้าอี้ยังว่างเต็มไปหมดแล้วแขกจะนั่งตรงไหนล่ะ แต่ละคนไม่ได้ดั่งใจเลย!

 

“ก็ไม่มาช่วยกันทำแล้วเมื่อไหร่มันจะเสร็จล่ะ” หมูหวานคิดว่าถ้าช่วยกันจัดร้านให้เสร็จก่อนค่อยไปเรียกแขกมาก็ได้ ไม่ใช่อยู่ๆ ก็เรียกมาโดยที่ไม่เตี๊ยมกันก่อนแบบนี้ ปล่อยให้ลูกค้ามายืนงงเป็นไก่ตาแตก

 

“โอ้ยพี่ หนูก็ไปช่วยเรียกลูกค้า เชียร์แขก พี่มีหน้าที่จัดร้านก็ทำไปสิ ไปๆ รีบๆ ทำแขกเข้าแล้ว” ด้วยความที่ไม่ชอบหน้าพี่สาวของนุอยู่แล้วเลยแว้ดๆ ใส่ 

 

หมูหวานชอบจุ้นจ้าน โดยเฉพาะเรื่องร้านทั้งที่ตัวเองก็บริหารไม่เป็น ตัดสินใจอะไรก็ไม่ได้ เรียกแขกก็ไม่เก่งสิ่งที่เก่งคือชงเครื่องดื่มเท่านั้น

 

“ไอ้นุ! มาช่วยกันเลย” รีบเรียกน้องชายให้เอาเก้าอี้ลงจากโต๊ะ เพื่อต้อนรับแขกร้านของเธอเป็นร้านเล็กๆ มีประมาณสี่ห้าโต๊ะ การตกแต่งก็เป็นแนวบาร์ทั่วไป 

 

กลางคืนเปิดไฟสลัวๆ เหมาะแก่การนั่งดื่ม ร้านของเธอมีดีตรงที่เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มีการผสมสูตรเฉพาะของค็อกเทล จึงทำให้เป็นที่นิยมและเธอก็รับช่วงต่อจากมารดา เป็นคนทำสูตรนี้ด้วยตัวเอง

 

“เออๆ แม่งปวดหัวฉิบหาย”

 

สองคนพี่น้องช่วยกันจัดร้านจนเสร็จสิ้น กระทั่งหัวค่ำลูกค้าเริ่มเยอะ หมูหวานชงเครื่องดื่มจนหัวหมุนไม่มีเวลาไปทำอย่างอื่นเลย ส่วนขิงคอยเรียกแขกและคิดเงิน 

 

โดยมีนุทำหน้าที่เสิร์ฟกับคอยเช็ดโต๊ะ แถบนี้มีร้านเหล้าติดกันหลายร้านก็จริง แต่เมื่อผ่านการพูดแบบปากต่อปาก และการรีวิวลงในเว็บต่างประเทศ ก็มีนักท่องเที่ยวจากต่างชาติ สนใจเข้ามาสั่งเครื่องดื่มกันตลอดทั้งคืน

 

เกือบใกล้เวลาปิดร้าน หมูหวานมัวแต่ทำความสะอาดเคาน์เตอร์ ล้างถ้วยล้างแก้ว พลางชำเลืองมองไปที่หน้าร้านเห็นขิงกำลังคุยกับชายต่างชาติสองคน

 

 ดูแล้วน่าจะเป็นลูกครึ่ง ก็เลยสงสัยว่าจะเรียกลูกค้าเข้ามาอีกรึไง นี่มันจะปิดร้านแล้วนะเดี๋ยวก็โดนตำรวจลงอีก แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะว่าเธอต้องรีบจัดการเก็บล้าง พอถึงเวลาปิดเมื่อไหร่จะได้กลับไปนอนเพราะพรุ่งนี้เช้าต้องไปเฝ้าแม่

 

“นี่พี่ฝรั่งสองคนนั้นน่ะเขา อยากคุยกับพี่”

 

“แล้วเขาจะอยากคุยกับฉันทำไม?” เงยหน้าขึ้นถามน้องสะใภ้ จะมาคุยอะไรกันตอนนี้ ยุ่งกับการเก็บร้านอยู่

 

“เออน่า รับเงินมาแล้วพี่ก็ไปคุยกับเขาหน่อย” 

 

“รับเงินอะไรมาขิง ไปตกลงอะไรกับเขา” คำพูดของขิงทำให้เธออยู่ชะงักวางมือจากแก้ว แล้วหันมามองอย่างสงสัยนี่ ไปรับเงินอะไรกันมา รู้สึกไม่ชอบมาพากลเสียแล้ว

 

“เออน่า พี่ออกไปคุยกับเขาเดี๋ยวก็รู้เองแหละ”

 

“พี่ไม่ไป” ก้าวถอยหลังอย่างระแวดระวัง รู้สึกว่าไม่ปลอดภัยจริงๆ ด้วยสายตาที่น้องสะใภ้มองมามันทำให้รู้สึกแปลกๆ ไปตกลงอะไรกับผู้ชายสองคนนั้นไว้นะ

 

“ขอโทษนะครับ ผมสองคนไม่ทำร้ายคุณหรอก ผมมาที่ร้านของคุณหลายวันแล้ว แต่คุณคงไม่สังเกต” 

 

หมูหวานจ้องมองไปที่ชายชาวต่างชาติร่างโต หน้าตาเขามีความละม้ายคล้ายคนไทย อาจจะเป็นลูกครึ่งก็ได้ แต่ก็ยังไม่ไว้ใจอยู่ดี

 

“คุณมีอะไรอยากจะคุยกับฉันคะ?”

 

“ไปนั่งคุยกันตรงนั้นได้ไหม?”

 

หมูหวานเดินออกไปด้านนอกอย่างระวังตัว แล้วนั่งลงบนโต๊ะที่ยังไม่เก็บ โดยผู้ชายสองคนนั้นนั่งลงฝั่งตรงข้ามเธอ พวกเขาดูไม่เหมือนคนร้ายแต่ก็ไม่น่าไว้ใจ

 

“คุณมีเรื่องอะไรจะคุยคะ?”

 

“น้องคุณบอกว่าร้านของคุณมีปัญหาเรื่องเงิน แล้วแม่รักษาตัวที่โรงพยาบาลใช่ไหม น้องสาวของคุณให้ข้อเสนอกับผมสองคน”

 

“ข้อเสนออะไรคะ?” ยิ่งฟังก็ยิ่งไม่เข้าใจ นี่ขิงไปตกลงอะไรกับเขาไว้ แล้วทำไมชายหนุ่มสองคนนี้ถึงรู้เรื่องส่วนตัวของครอบครัวด้วยล่ะ อันที่จริงก็รู้สึกคุ้นๆ หน้าอยู่แต่ช่วงเวลาที่เธอทำงานไม่ค่อยได้มองหน้าใครเลย มัวแต่ง่วนอยู่กับการปรุงเครื่องดื่ม

 

“เธอขายคุณให้กับผมสองคน แลกกับเงินที่นำไปใช้หนี้”

 

“ได้ไง! ฉันไม่รู้เรื่องอะไรด้วยนะ คุณจะทำข้อตกลงโดยที่ฉันไม่รู้เรื่องไม่ได้!” หมูหวานเบิกตากว้างตกตะลึงกับคำพูดของผู้ชายตรงหน้า เขาบอกว่าขิงขายเธอให้กับพวกเขางั้นเหรอ? มันจะเป็นไปได้ยังไง! เธอไม่ได้เต็มใจเลยสักนิด รู้สึกช็อคจนทำอะไรไม่ถูก