เมื่อสองสิ่งที่ดูไม่เข้ากันมากที่สุดมาคบกัน อะไรเป็นตัวเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างไอ้เนิร์ดประจำห้องและไอ้อันธพาลกันนะ

เมื่อผมดัน 'พลาดท่า' มาเป็นแฟนไอ้เนิร์ด - ตอนที่ 2 แด่ซิมผู้ชายที่ตายเพราะลูกอมรสมะนาว โดย คุณถั่วแดง @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-ชาย,ตลก,รัก,รั้วโรงเรียน,วัยว้าวุ่น,เนิร์ด,ต้นสน,ความฝัน,วัยรุ่น,คลั่งรัก,คลั่งเซ็กส์,เมะสวย,เมะรุกแรง,เคะอกโต,ไม่ดราม่า,นักเลง,ฟีลกู๊ด,บูลลี่,อันธพาล,NC25++,18+,เคะกล้าม,ฮอตเนิร์ด,รักวัยรุ่น,นิยายวาย,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

เมื่อผมดัน 'พลาดท่า' มาเป็นแฟนไอ้เนิร์ด

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-ชาย,ตลก,รัก,รั้วโรงเรียน,วัยว้าวุ่น

แท็คที่เกี่ยวข้อง

เนิร์ด,ต้นสน,ความฝัน,วัยรุ่น,คลั่งรัก,คลั่งเซ็กส์,เมะสวย,เมะรุกแรง,เคะอกโต,ไม่ดราม่า,นักเลง,ฟีลกู๊ด,บูลลี่,อันธพาล,NC25++,18+,เคะกล้าม,ฮอตเนิร์ด,รักวัยรุ่น,นิยายวาย

รายละเอียด

เมื่อสองสิ่งที่ดูไม่เข้ากันมากที่สุดมาคบกัน อะไรเป็นตัวเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างไอ้เนิร์ดประจำห้องและไอ้อันธพาลกันนะ

ผู้แต่ง

คุณถั่วแดง

เรื่องย่อ


ต้นสนหรือก็คืออันธพาลหนุ่มประจำห้องที่ 'พลาดท่า' มาติวหนังสือกับกัสหรือไอ้เนิร์ดที่เขาเคยรังแก เพียงเพราะต้องการเรียนตามเพื่อนในห้องให้ทัน เขาจึงทำข้อแลกเปลี่ยนอะไรก็ได้ หากว่ากัสช่วยติวหนังสือให้เขาจนผลการเรียนออกมาพอให้เขารู้สึกว่าพอใจ

และเมื่อเขาได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ...

ข้อแลกเปลี่ยนที่ว่าดันคือ..

คำขอเป็นแฟนจากไอ้เนิร์ด

เรื่องราวที่ เมื่อผมดัน 'พลาดท่า' มาเป็นแฟนไอ้เนิร์ด จึงเริ่มต้นขึ้น

 


นามปากกา : คุณถั่วแดง

เค้าโครงจากเรื่องสั้น : เมื่อผมดัน 'พลาดท่า' มาติวรักกับไอ้เนิร์ด

คำเตือน : นิยายเรื่องนี้เขียนขึ้นเพื่อความบันเทิง ไม่เกี่ยวข้องกับบุคคล สถานที่ หรือเหตุการณ์จริงใดๆ ทั้งสิ้น อาจมีคำหยาบเพื่ออรรถรสของตัวละคร โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านกันด้วยนะคะ




สารบัญ

เมื่อผมดัน 'พลาดท่า' มาเป็นแฟนไอ้เนิร์ด-บทนำ แฟน,เมื่อผมดัน 'พลาดท่า' มาเป็นแฟนไอ้เนิร์ด-ตอนที่ 1 จุดเริ่มต้นของความเกลียดชัง,เมื่อผมดัน 'พลาดท่า' มาเป็นแฟนไอ้เนิร์ด-ตอนที่ 2 แด่ซิมผู้ชายที่ตายเพราะลูกอมรสมะนาว,เมื่อผมดัน 'พลาดท่า' มาเป็นแฟนไอ้เนิร์ด-ตอนที่ 3 ผู้ชายไม่ท้องสักหน่อย,เมื่อผมดัน 'พลาดท่า' มาเป็นแฟนไอ้เนิร์ด-ตอนที่ 4 อันธพาลนะไม่ใช่เมดูซ่าที่จะมองแล้ว 'แข็ง' ได้,เมื่อผมดัน 'พลาดท่า' มาเป็นแฟนไอ้เนิร์ด-ตอนที่ 5 ใครเป็นแฟนไอ้โรคจิตคนนี้,เมื่อผมดัน 'พลาดท่า' มาเป็นแฟนไอ้เนิร์ด-ตอนที่ 6 จุดเริ่มต้นที่ดี,เมื่อผมดัน 'พลาดท่า' มาเป็นแฟนไอ้เนิร์ด-ตอนที่ 7 เบาๆ ก่อนนอน,เมื่อผมดัน 'พลาดท่า' มาเป็นแฟนไอ้เนิร์ด-ตอนที่ 8 คือความอบอุ่น

เนื้อหา

ตอนที่ 2 แด่ซิมผู้ชายที่ตายเพราะลูกอมรสมะนาว


คำเตือนเนื้อหาในนิยายเรื่องนี้เป็นเพียงเรื่องที่ถูกแต่งขึ้นจากจินตนาการของผู้เขียน อาจมีคำหยาบหรือการกระทำของตัวละครที่ไม่ควรลอกเลียนแบบ โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน



ตอนนั้นกว่าจะรู้สึกตัว เขาก็โดนต้นสนเกลียดเป็นจริงเป็นจังเข้าซะแล้ว ต้นสนเป็นคนที่จริงจังและจริงใจกับทุกๆ ความสัมพันธ์อย่างไม่น่าเชื่อ แม้จะมีคนอื่นอีกมากมายที่เข้าใจนิสัยของอันธพาลหนุ่มแบบผิดๆ แต่กัสก็คิดว่านั่นไม่ใช่กงการอะไรของตัวเองที่จะเอาตัวเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับปัญหาที่เจ้าตัวเองยังไม่คิดจะแก้ไข


อันธพาลเหรอ?


ความจริงแล้วต้นสนไม่เหมาะกับคำนี้เลยสักนิด


จากที่เขาคอยแอบสังเกต ต้นสนไม่มีเพื่อนในรุ่นเดียวกันเลยสักคนเดียว อีกฝ่ายมักจะเป็นรุ่นน้องที่น่าเอ็นดูของรุ่นพี่ในกลุ่มแก๊งอันธพาลในโรงเรียน พอได้ยินข่าวเรื่องชกต่อยกัน ต้นสนก็ไม่เคยมีแผลฝากไว้บนหน้าเลยสักหนเดียว ทำให้เขาสรุปมาได้ว่าคนในกลุ่มรุ่นพี่พวกนั้นดูแลน้องเล็กดีแค่ไหน และต้นสนไม่เคยดูเดียวดายหรือเศร้าหมอง ชีวิตสดใสเสียยิ่งกว่าบางคนที่เอาแต่อัพสตอรี่ว่าวันนี้มันดีแค่ไหน 


จากเหตุการณ์ในห้องน้ำส่วนกลางทำให้รู้ว่าไอ้อันธพาลหนุ่มคนนี้อารมณ์อ่อนไหวง่ายขนาดไหน เชื่อขนมกินได้เลยว่าถ้าด่าหรือดูถูกด้วยถ้อยคำแรงๆ ก็คงจะร้องไห้ 


เขาอยากจะเห็นมันร้องไห้ เป็นความรู้สึกที่ดูน่ารังเกียจแต่นี่แหละตัวจริงของเขา ไอ้เนิร์ดประจำห้องที่ใครต่อใครก็ยกย่องว่าควรเอาเป็นแบบอย่าง หลังจากนั้นคงมีเพียงต้นสนที่มักทำสีหน้าสะอิดสะเอียนใส่เขาตอนสบตากัน ระหว่างที่เขากำลังแสร้งทำดีต่อหน้าทุกคนก็จะมีหนึ่งสายตาที่คล้ายจะมองเข้ามาอย่างทะลุปรุโปรงทั้งหมดเสมอ มันเป็นความรู้สึกที่สุดจะบรรยายเลยจริงๆ นะ


มันสนุกที่ได้ถูกสายตานั้นจับจ้อง


แม้จะเป็นสายตาที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังก็ตาม


เขาก็แค่ชอบเป็นตัวเองตอนอยู่กับต้นสน ถึงบางครั้งจะทำให้โดนอีกฝ่ายต่อยเข้าเบ้าหน้าก็เถอะ เขารู้สึกว่ารสชาติความเจ็บปวดพวกนั้นช่วยเตือนสติไม่ให้เขาทำตัวเลยเถิดเพราะความคิดสกปรกของตัวเอง 


เขาเนี่ยมันโรคจิตโคตรๆ เลยว่ะ


.


.


.


.


"อย่างที่ทุกคนเห็นว่าแม่น้ำทั้งสามสา- " เสียงพูดบรรยายในคาบวิชาประวัติศาสตร์ ทำให้เปลือกตาของคนที่นั่งติดริมหน้าต่างค่อยๆ หย่อนลงราวกับเด็กที่ถูกปลุกให้มาทานอาหารเช้าทั้งๆ ที่ยังไม่อยากตื่น กัสจ้องมองภาพนั้นอยู่นาน รอยยิ้มบางพลันปรากฏขึ้นบนใบหน้าที่ฉายชัดถึงความอ่อนโยนระคนเอ็นดู ทว่าไม่นานก็ต้องหายไปเพราะมือหนึ่งที่สะกิดเบาๆ ให้ต้นสนตื่น ผู้ชายที่นั่งข้างโต๊ะยื่นลูกอมรสมะนาวมาให้ด้วยความหวังดี ต้นสนฉีกยิ้มเปิดเผยความดีใจออกมาจนคนเป็นแฟนเริ่มนั่งไม่ติดที่ เป็นเพราะโต๊ะเรียนที่อยู่ห่างกับหน้าต่างทำให้เขาไม่สามารถพูดคุยกับต้นสนเวลาเรียนได้ 


"ขอบใจนะ" 


คนถูกขอบคุณแทบจะเผลอกัดลิ้นตาย เพียงแค่ลูกอมมะนาวอันเดียวก็สามารถทำให้อันธพาลประจำห้องยิ้มได้งั้นเหรอ!?


"ไม่เป็นไร แหะๆ"


กว่านายคนข้างโต๊ะจะได้เข้าใจอะไรไปมากกว่านั้น ยางลบก็กระแทกลงบนหัวเข้าอย่างจัง หันขวับไปหาที่มาของมันก็ดันหาไม่เจอ แต่ถ้าวัดองศาและความเป็นไปได้มันก็น่าจะมาจาก... กัส!?


ไม่มีทาง.. กัสเป็นคนดีจะตาย..


"เอ่อ.. ซิมยืมยางลบหน่อยสิ" 


หนุ่มข้างโต๊ะผู้มีนานว่าซิมแทบจะกระอักคำว่าตกใจออกมาทางปาก อันธพาลที่ดูจะไม่สนไม่แคร์โลกคนนี้รู้แม้กระทั้งชื่อเขา นั่งข้างๆ มาด้วยกันร่วมเดือนร่วมปีไม่คิดเลยว่าต้นสนจะสนใจเขาด้วย ซิมยื่นยางลบที่เพิ่งกระแทกโดนหัวตัวเองเมื่อกี๊ไปให้อันธพาลหนุ่ม 


"ขอบใจนะ" 


ข..ขอบใจเขาอีกแล้วแม่เจ้าเว้ย!! 


"อั๊ก!?"


คราวนี้กัสเปลี่ยนจากยางลบเป็นปากกาหัวแหลม ไม่มีใครทันสังเกตเห็นเขา แต่อาการของซิมนั้นกลับชัดเจน..เพราะอีกฝ่ายทรุดลงไปนอนจูบพื้นโดยมีปากกาปักคาอยู่กลางหัวแล้ว คนทั้งห้องแตกตื่นกันใหญ่จนมีผู้หญิงที่นั่งถัดจากต้นสนกรี๊ดเสียงดัง


"กรี๊ดดด!? อาจารย์คะ!! ต้นสนฆ่าคนค่ะ!" 


ผู้ถูกกล่าวหาทำตัวไม่ถูก ได้แต่เบิกตากว้างมองศพที่ตีนจนสายตาสะดุดเข้ากับปากกาหน้าตาคุ้นๆ ที่ปักอยู่กลางหลังหัว ด้วยความหวังดีอันธพาลหนุ่มจึงก้มตัวลงขณะที่ห้องตกอยู่ในความเงียบ


"เดี๋ยวจะเอาออกให้นะ.."


จึ๊ก! 


เสียงดึงปากกาออกดังไปทั่วห้องพร้อมกับเอฟเฟคเลือดไหลจู๊ดๆ อย่างกับน้ำพุออกจากหัว


"กรี๊ดดดดดด!? ระ..เรียกตำรวจ" 


ต้นสนเม้มริมฝีปากพลางมองปากกาในมือ นี่มันเรื่องเหี้ยอะไรไม่ทราบวะเนี่ย แล้วปากกาอันนี้มันก็ของไอ้เนิร์ดไม่ใช่รึไง คนเดียวในห้องที่นิ่งเงียบที่สุดยกยิ้มร้ายอยู่ในใจ 




ขอโทษทีนะต้นสน แต่เป็นอันธพาลในสายตาของคนทุกน่ะ.. 


ดีแล้ว...








หลังจากส่งซิมไปห้องพยาบาลเรียบร้อยแล้วต้นสนก็ยังไม่หายคาใจ กระนั้นก็ไม่ได้คิดจะหาคำตอบจากสิ่งที่เกิดขึ้น เอาง่ายๆ เลยคือเขาขี้เกียจนั้นเอง ในหัวคิดเพียงแค่ว่าเที่ยงนี้จะกินอะไรดี


"ต้นสนอยู่นี่เองพี่หามึงซะทั่วโรงเรียน" เสียงบ่นที่มาพร้อมกับกอดจากด้านหลัง ต้าหรือก็คือรุ่นพี่อีกคนของต้นสนที่รู้จักกันมานาน เพราะเป็นคนชอบถึงเนื้อถึงตัวคนเวลาคุยด้วย ต้นสนจึงชินกับมันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ต้าตัวโหญ่พอๆ กันกับเขาจึงไม่แปลกที่ร่างกายและเคมีจะเข้ากันได้ดีกว่าปกติ 


"มีอะไรครับถึงหาทั่วโรงเรียน หรือจะลืมไปแล้วว่าเราอยู่ในยุคที่สามารถใช้โทรศัพท์ติดต่อกันได้" 


ต้าได้ยินดังนั้นก็หัวเราะเสียงดัง


"ลืมไปแล้ว.. แต่เอาเถอะพี่อยากเห็นหน้ามึงด้วยว่ะ ก็แบบตั้งแต่วิ่งเอาคะแนนสอบคราวก่อนมาอวดมึงก็ไม่โผล่มาหาพวกพี่เลยนะต้นสน หรือมีผู้หญิงคนไหนทำให้ต้นสนลืมพี่ต้าคนหล่อคนนี้" 


ผู้ชายต่างหากเล่า.. อยากพูดออกไปนะแต่เขาคงต้องถามถึงบรรยากาศที่ควรจะพูดบอกก่อนดีไหม เพราะต้าเป็นคนจำพวกช็อกและตกใจกับอะไรง่ายๆ เหมือนกระต่ายที่ตกใจว่าฟ้าจะถล่ม ต้นสนตัดสินใจไม่พูดความจริงออกไปเพื่อตัดรำคาญ


"ไม่มีหรอกฟงแฟน ผมมีพี่ต้าคนเดียวทั้งใจ"


"จริงนะ?" ต้าไม่ถามเปล่าแต่ทำท่าสะดีดสะดิ้งพร้อมกับกระพริบตาให้ปิ๊งๆ ต้นสนหลุดหัวเราะแล้วพยักหน้าให้เป็นคำตอบพลางเดินกอดแขนต้าเหมือนที่ชอบทำด้วยกัน 


"คาบต่อไปมึงเรียนวิชาอะไร"


"โฮมรูม" เขาตอบทันควัน


"งั้นก็พอดีเลยวันนี้สระว่ายน้ำว่างแอบเข้าไปเล่นกันสักชั่วโมงไหม ไปกันแค่สองคนจะได้ไม่โดนจับได้ไง"


ต้าเอ่ยชักชวนน้องเล็กในแก๊งและไม่ลืมที่จะถามถึงวิชาเรียนที่ไม่น่าจะกระทบกับผลการเรียนของต้นสนมากนัก ต้นสนตอบตกลงที่จะโดดคาบโฮมรูมเพื่อไปเล่นน้ำ กัสเองก็คงจะไม่สนใจหรอกชั่วโมงเดียวเอง อีกอย่างตอนยังไม่คบกันเขาก็มักจะหายไปบ้างบางคาบแบบนี้แหละ จนถึงสระว่ายน้ำกลางแจ้งของโรงเรียนที่ไม่ค่อยมีใครเข้าใช้งาน ส่วนเหตุผลก็มาจากทางโรงเรียนเพิ่งไล่อาจารย์สอนว่ายน้ำเฉพาะทางออกไป แล้วให้เหตุผลว่าเปลืองงบโรงเรียน


แล้วไม่ทราบว่าจะสร้างสระน้ำมาทำซากอะไรตั้งแต่แรกครับ 


หรือผู้อำนวยการจะอยากได้อาจารย์สาวมากกว่า? แหม..ถ้าหากว่าเป็นแบบนั้นจริง เขาจะไม่มีวันโดดคาบนี้เลยคอยดู


"พี่ต้า ห้องเปลี่ยนเสื้อเหมือนจะล็อกอยู่นะ ผมไม่ได้เอาเกงเกงว่ายน้ำมาซะด้วยสิ" 


ต้าที่กำลังจ้องมองน้ำสีใสพร้อมกับถอดเสื้อผ้าอยู่บนขอบสระ หันมามองไปทางห้องขนาดกลางสำหรับเปลี่ยนเสื้อ เขาไม่ได้ตั้งใจจะเข้าไปเอากางเกงว่ายน้ำในห้องนั้นตั้งแต่แรกจึงไม่มัวรอช้า ถอดเสื้อผ้าออกจนเหลือเพียงบ็อกเซอร์แล้วกระโดดลงสระเป็นคนแรก ต้นสนมองคนไม่รอตาละห้อยเรียกเสียงหัวเราะให้กับต้าที่ว่ายวนเป็นเด็กฝึกว่ายน้ำ เพราะเป็นสระกลางแจ้งแสงอาทิตย์จึงส่องลงมาโดยตรง รู้สึกเหมือนเขาเป็นชิ้นเนื้อที่ยืนอยู่บนเตาย่าง ต้นสนไม่คิดอะไรให้วุ่นวายสมอง ถอดเสื้อผ้าออกแล้วกระโดดหนีแดดทันที


"อ๊าาาเย็นสบายโคตรๆ เลย"


"ใช่ม่ะๆ อากาศแบบนี้ก็ต้องสระว่ายน้ำเท่านั้นแหละ ว่าแต่นะต้นสน ถ้าพี่เป็นสาเหตุที่ทำให้ผิวมึงไหม้ก็อย่าไปฟ้องต้นรักล่ะเดี๋ยวพี่จะโดนจับเชือดโทษฐานไม่ดูแลน้องสุดที่รักของมัน" 


ต้นสนได้ยินดังนั้นก็มุ่ยหน้าไม่เห็นด้วยกับคำว่าน้องสุดที่รัก


"สุดที่รักอะไรกันเล่า.. เมื่อวันก่อนยังล้อเรื่องที่ผมฝันเปียกคากางเกงแล้วต้องตื่นมาซักในอ้างล้างมือตอนเช้าๆ อยู่เลย" น้ำเสียงติดงึมงำเป็นเอกลักษณ์ของเจ้าของร่างกระตุ้นต่อมขำของคนฟัง


ต้ากลั้นขำไว้ไม่อยู่จึงมุดหัวดำน้ำไปแอบหัวเราะ ทว่าฟองอากาศที่ถี่กว่าปกติก็ทำให้ต้นสนรู้ว่าอีกฝ่ายรู้สึกขำกับเรื่องราวอันน่าเจ็บปวดที่เขาเล่า 


"ฮรึก.. โอ๊ย หัวเราะตอนว่ายน้ำอยู่นี่ทำเอาปวดท้องเป็นพิเศษเลยนะเนี่ย" 


ต้นสนมองคนที่ยังหัวเราะไม่ยอมหยุดตาขวาง ต้าเป็นหนึ่งในรุ่นพี่ที่สนิทกับต้นรักพี่ชายของเขามากที่สุด ปีนี้พี่แกก็อยู่ ม.ปลายปีสามแต่ก็ยังสนุกกับการแหกกฏและทำเรื่องวายป่วง รุ่นพี่หยุดแซวแล้วนอนแช่ในสระเป็นท่าปลาดาว ขณะที่ต้นสนเกาะขอบสระนิ่งๆ แล้วชมบรรยากาศอันร้างผู้คนโดยรอบ ต้นไม้ใหญ่แผ่กิ่งก้านเข้ามาในรั่วสระทำให้สระน้ำกลางแจ้งมีจุดพักร้อนเล็กๆ มุมหนึ่ง


ระหว่างที่ร่างสูงเหม่อลอยก็มีมือหนึ่งยื่นมาสัมผัสหลังคอ สร้างความตกใจให้กับเจ้าของร่าง เมื่อหันไปก็พบเข้ากับต้าที่กำลังหรี่ตาเพ่งไปมายังหลังคอของเขา 


"พี่มองอะไร" 


"นั่นรอยอะไร" ทำไมถึงตอบคำถามด้วยคำถามล่ะเฮ้ย ต้าไม่ว่าเปล่าขยับเข้าใกล้เพื่อมองรอยสีแดงอมม่วงให้ชัดๆ ดูเหมือนรอยคิสมาร์กที่ไม่น่าเป็นไปได้ ถ้าต้นสนไม่มีแฟนจริงๆ แล้วใครเป็นคนทำ ถึงรอยอื่นๆ จะจางไปจนมองแทบไม่เห็นแล้วก็เถอะ อีกอย่างคือผู้หญิงที่ไหนจะทิ้งคิสมาร์กไว้หลังคอวะถ้าไม่ใช่เพราะว่า ไอ้เหี้ยนั่นเป็นผู้ชาย!?


ต้าสมองโล่งไปชั่วขณะเพราะน้องเล็กของแก๊งที่เขาอุตส่าห์ทะนุถนอมทั้งกายทั้งใจอย่างดี ได้ถูกทำให้แปดเปื้อนแล้ว.. 


"ตะ..ต้นสนมีแฟนแล้วใช่ไหม" 


คนถูกถามเข้าใจถึงอาการแปลกๆ ของรุ่นพี่ได้ทันที เมื่อวานเขาไปค้างห้องไอ้เนิร์ดหื่นนั่นและจำได้ว่าเพราะนอนหันหลังให้ เขาจึงโดนอีกฝ่ายฟัดหลังคอไปโดยปริยาย คิดแล้วก็อยากจะกระโดดถีบขาคู่ให้หายหมั่นไส้ ทว่าคนที่ลืมเรื่องรอยบนคอแบบเขาก็คงไม่มีสิทธิพูดมาก ต้ามองรุ่นน้องที่หน้าแดงเป็นคำตอบ ต้นสนมองสายตาเบิกกว้างของต้าแล้วก็อยากจะปฏิเสธ แต่หลักฐานก็เสือกชัดเจนซะเต็มสองตา 


ยามนี้อีกฝ่ายคล้ายจะสวมวิญญาณแม่มาคุยกับเขาแล้ว


"เอ้านี่.. ต้นสนมากอดกันแล้วฟังคำมาม๊านะ" 


"มาม๊าของผมไม่มีซิคแพคแข็งโป๊กแบบนี้" 


"ฮื่ออออย่าเย็นชานักสิ นี่ช็อกอยู่นะรู้ไหม ใครกันวะที่พรากพรหมจรรย์ของมึงไป ระ..หรือจะเป็นไอ้พนักงานร้านซ่อมรถที่ให้เบอร์เอาไว้!?" ต้นสนรีบดันตัวขึ้นจากสระ ก่อนจะได้ยินจินตนาการอันน่าขนลุกของอีกฝ่ายไปมากกว่านี้ เขาก็อยากบอกให้รู้แล้วรู้รอดไป แต่เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของเขาคนเดียว เขาควรถามความสมัครใจของกัสด้วย บางทีไอ้เนิร์ดอาจจะอยากรอให้พร้อมมากกว่านี้


รอให้พร้อมมากกว่านี้เหรอ?


ทั้งที่เยเขาจนน้ำหมดตัวแล้วเนี่ยนะ..


บางครั้งความจริงมันก็ย้อนแย้งกับสิ่งที่ควรเป็น


"เฮ้ยพี่ต้าโทรศัพท์พี่ดังมาตั้งแต่เมื่อกี๊แล้วนะ.. ไม่ใช่ว่ามันมีธุระด่วนเหรอ" ต้นสนว่าพลางชี้นิ้วไปทางโทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนเก้าอี้ไม้ตัวยาว ต้าทำสีหน้าอิดโรยแล้วบอกให้รับโทรศัพท์ให้


"พี่ต้า.. พี่แทนโทรมาบอกวันนี้มีสอบเก็บคะแนนวิชาสังคม"


"ห๊ะ!? ไหนบอกว่าพรุ่งนี้ไง"


"ดูเหมือนว่าเขาจะเลื่อนมาเป็นวันนี้น่ะ" ต้นสนว่าพลางบอกลารุ่นพี่อีกคนในสายแล้วยื่นเสื้อผ้าของอีกฝ่ายไปให้ ด้วยความรีบร้อนจึงทำให้ต้าลืมเรื่องแฟนของน้องเล็กไปสนิท เขาโบกมือลารุ่นน้องที่ยามนี้กำลังทำหน้าเครียดเพราะกางเกงในตัวเองยังเปียกโชก ส่วนเขาเองก็สวมทับมาด้วยแล้ว 


"มึงถอดแล้วตากก่อนใส่ก็ได้ แดดแรงน่าจะแห้งเร็-"


"ห่วงสุขภาพก้นผมอยู่ได้ ไม่มีสอบแล้วเหรอไง" 


"เอ้อจริง! งั้นพี่ไปก่อนนะไอ้น้องรัก" ต้นสนยิ้มขำมองดูรุ่นพี่วิ่งแจ้นออกไป ส่วนเขาก็สวมชุดนักเรียนไว้เอากันหนาวยามที่ลมพัดมา ก่อนจะค่อยๆ ถอดกางเกงชั้นใน บิดน้ำแล้วตากไว้บนแท่นกระโดด ดูเป็นภาพที่ฮาดีนะ ว่าแต่ว่าเขาลืมโทรศัพท์ไว้ที่ห้องเหรอเนี่ยก็ว่าทำไมถึงรู้สึกเหมือนชีวิตขาดอะไรไปสักอย่าง ต้นสนนั่งลงบนม้านั่งไม้ตัวยาวที่หันหน้าเข้าหาสระ แผ่นหลังผิงผนังห้องเปลี่ยนเสื้อ


จู่ๆ ลมเย็นก็พัดมา ทำเอาร่างสูงสั่นหงักรีบหยิบเกงเกงมาปิดท่อนล่างทันที เพียงแต่ไม่ใช่แค่ลมที่มาด้วย ทว่าปรากฏเป็นชายร่างสูงโปร่งที่ยืนบดบังแสงจนเงาตกกระทบลงบนตัวเขา


"ใส่เกงกางเดี๋ยวนี้เลยต้นสน"


เสียงนั้นทำเอาหนาวยิ่งกว่าเดิม..