เมื่อสองสิ่งที่ดูไม่เข้ากันมากที่สุดมาคบกัน อะไรเป็นตัวเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างไอ้เนิร์ดประจำห้องและไอ้อันธพาลกันนะ

เมื่อผมดัน 'พลาดท่า' มาเป็นแฟนไอ้เนิร์ด - ตอนที่ 4 อันธพาลนะไม่ใช่เมดูซ่าที่จะมองแล้ว 'แข็ง' ได้ โดย คุณถั่วแดง @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-ชาย,ตลก,รัก,รั้วโรงเรียน,วัยว้าวุ่น,เนิร์ด,ต้นสน,ความฝัน,วัยรุ่น,คลั่งรัก,คลั่งเซ็กส์,เมะสวย,เมะรุกแรง,เคะอกโต,ไม่ดราม่า,นักเลง,ฟีลกู๊ด,บูลลี่,อันธพาล,NC25++,18+,เคะกล้าม,ฮอตเนิร์ด,รักวัยรุ่น,นิยายวาย,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

เมื่อผมดัน 'พลาดท่า' มาเป็นแฟนไอ้เนิร์ด

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-ชาย,ตลก,รัก,รั้วโรงเรียน,วัยว้าวุ่น

แท็คที่เกี่ยวข้อง

เนิร์ด,ต้นสน,ความฝัน,วัยรุ่น,คลั่งรัก,คลั่งเซ็กส์,เมะสวย,เมะรุกแรง,เคะอกโต,ไม่ดราม่า,นักเลง,ฟีลกู๊ด,บูลลี่,อันธพาล,NC25++,18+,เคะกล้าม,ฮอตเนิร์ด,รักวัยรุ่น,นิยายวาย

รายละเอียด

เมื่อสองสิ่งที่ดูไม่เข้ากันมากที่สุดมาคบกัน อะไรเป็นตัวเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างไอ้เนิร์ดประจำห้องและไอ้อันธพาลกันนะ

ผู้แต่ง

คุณถั่วแดง

เรื่องย่อ


ต้นสนหรือก็คืออันธพาลหนุ่มประจำห้องที่ 'พลาดท่า' มาติวหนังสือกับกัสหรือไอ้เนิร์ดที่เขาเคยรังแก เพียงเพราะต้องการเรียนตามเพื่อนในห้องให้ทัน เขาจึงทำข้อแลกเปลี่ยนอะไรก็ได้ หากว่ากัสช่วยติวหนังสือให้เขาจนผลการเรียนออกมาพอให้เขารู้สึกว่าพอใจ

และเมื่อเขาได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ...

ข้อแลกเปลี่ยนที่ว่าดันคือ..

คำขอเป็นแฟนจากไอ้เนิร์ด

เรื่องราวที่ เมื่อผมดัน 'พลาดท่า' มาเป็นแฟนไอ้เนิร์ด จึงเริ่มต้นขึ้น

 


นามปากกา : คุณถั่วแดง

เค้าโครงจากเรื่องสั้น : เมื่อผมดัน 'พลาดท่า' มาติวรักกับไอ้เนิร์ด

คำเตือน : นิยายเรื่องนี้เขียนขึ้นเพื่อความบันเทิง ไม่เกี่ยวข้องกับบุคคล สถานที่ หรือเหตุการณ์จริงใดๆ ทั้งสิ้น อาจมีคำหยาบเพื่ออรรถรสของตัวละคร โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านกันด้วยนะคะ




สารบัญ

เมื่อผมดัน 'พลาดท่า' มาเป็นแฟนไอ้เนิร์ด-บทนำ แฟน,เมื่อผมดัน 'พลาดท่า' มาเป็นแฟนไอ้เนิร์ด-ตอนที่ 1 จุดเริ่มต้นของความเกลียดชัง,เมื่อผมดัน 'พลาดท่า' มาเป็นแฟนไอ้เนิร์ด-ตอนที่ 2 แด่ซิมผู้ชายที่ตายเพราะลูกอมรสมะนาว,เมื่อผมดัน 'พลาดท่า' มาเป็นแฟนไอ้เนิร์ด-ตอนที่ 3 ผู้ชายไม่ท้องสักหน่อย,เมื่อผมดัน 'พลาดท่า' มาเป็นแฟนไอ้เนิร์ด-ตอนที่ 4 อันธพาลนะไม่ใช่เมดูซ่าที่จะมองแล้ว 'แข็ง' ได้,เมื่อผมดัน 'พลาดท่า' มาเป็นแฟนไอ้เนิร์ด-ตอนที่ 5 ใครเป็นแฟนไอ้โรคจิตคนนี้,เมื่อผมดัน 'พลาดท่า' มาเป็นแฟนไอ้เนิร์ด-ตอนที่ 6 จุดเริ่มต้นที่ดี,เมื่อผมดัน 'พลาดท่า' มาเป็นแฟนไอ้เนิร์ด-ตอนที่ 7 เบาๆ ก่อนนอน,เมื่อผมดัน 'พลาดท่า' มาเป็นแฟนไอ้เนิร์ด-ตอนที่ 8 คือความอบอุ่น

เนื้อหา

ตอนที่ 4 อันธพาลนะไม่ใช่เมดูซ่าที่จะมองแล้ว 'แข็ง' ได้


ร่างสูงใหญ่นั่งหอบแฮ่กอยู่บนเก้าอี้ตัวยาว นั่งนิ่งๆ เป็นหุ่นขี้ผึ้งให้ไอ้เนิร์ดติดกระดุมเสื้อให้ นัยน์ตากลมสีนิลเหลือบมองรอยคิสมาร์กที่ตัวเองฝากฝั่งไว้บนลำคอขาว มันโผล่พ้นคอเสื้อออกมาเห็นชัดเต็มสองตาจนเขาอายแทน มันแม่งไม่คิดจะปิดหน่อยเหรอไงวะ? เดี๋ยวใครต่อใครก็ได้เอาไปประกาศว่าเนิร์ดประจำห้องได้ใจแตกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วหรอก ทั้งที่ความจริงกัสมีคู่นอนอยู่เป็นสิบ ก็ไม่ได้รู้ลึกอะไรขนาดนั้นหรอก แต่ตลอดหนึ่งปีที่เรียนห้องเดียวกัน ก็มีแค่กับเขาที่อีกฝ่ายไม่คิดจะปกปิดความชั่วของตัวเอง ถ้าเป็นคนอื่นก็คงฉีกยิ้มแฉ่งพร้อมกับถือหนังสือมารยาทตอนอยู่เบื้องหน้า 


"ทำไมทำหน้าหงิกแบบนั้นล่ะ" กัสอมยิ้มถามคนที่เดินนำหน้าไปทางประตู ต้นสนถอนหายใจเมื่อกางเกงในบนแท่นกระโดดยังไม่แห้งสนิท แดดยามเที่ยงสะท้อนบนลงผิวน้ำดูระยิบระยับจนแสบตาแต่ก็อดทนนั่งตรงเก้าอี้ตัวยาวตัวเดิมแล้วรอให้มันแห้งก่อน ว่าแต่ไอ้พี่ต้ามันทนได้ไงเปียกชุ่มอย่างนั้น ร่างสูงโปร่งนั่งลงข้างกันพลางยิ้มกว้างด้วยสีหน้าสดชื่น ก็แหงล่ะ.. เล่นทำเขาเสร็จจนน้ำเกือบหมดตัวแต่มันกลับไม่มีท่าทีเหนื่อยล้าเหมือนเขาบ้างเลย


คิดแล้วเขาก็หงุดหงิดบวกกับเจ็บตูด


"เที่ยงแล้วอยากกินอะไรเป็นพิเศษไหม" 


"อะไรก็ได้ทั้งนั้น"


"แหม่.. เลี้ยงง่ายซะด้วย" ไม่ว่าเปล่าแต่กลับดึงอันธพาลหนุ่มให้เอนตัวลงเพื่อให้หัวได้หนุนตัก ต้นสนแทบร้องลั่นแต่ก็เก็บอาการตกใจไว้ ริมฝีปากสีหวานขบเม้มเข้าหากันอย่างลืมตัว หัวใจเต้นรัวอีกครั้ง ความรู้สึกนุ่มฟูเวลาถูกอีกคนเอาใจหรือยิ้มให้อย่างไรก็ตามเขาก็ยังไม่ชินสักเท่าไหร่ 


เขาสองคนตกลงคบกันเพราะเป็นความต้องการของกัสหลังจากติวหนังสือให้ก็จริง แต่ถ้าเขาไม่ได้รู้สึกแบบนั้นด้วย ต่อให้ฝืนใจทำ ต้นสนก็ไม่มีวันปล่อยตัวปล่อยใจให้เป็นอย่างในตอนนี้ 


ไอ้เนิร์ดนี่ก็แปลก...


มาขออันธพาลอย่างเขาคบเนี่ยนะ?


กัสเกลี่ยเส้นผมนิ่มของแฟนหนุ่มที่เพิ่งคล้อยหลับไป ลมเย็นพัดเข้ามาทำให้ปรกผมของคนหลับตียุ่งพันกัน เขาหลุดขำเพราะแม้แต่สายลมยังคิดจะแกล้งคนที่ฝันหวานไม่รู้เรื่องรู้ราว นัยน์ตาคมฉายแววอบอุ่น ฝ่ามือเย็นลูบไล้ดวงหน้าหล่อ แม้ต้นสนมักทำตัวห่ามและเข้มแข็งอยู่ตลอด แต่ก็ไม่เคยไม่หันมามองคนที่ต้องการความช่วยเหลือ แม้แต่ก่อนจะเกลียดเขาแค่ไหนก็ไม่เคยปริปากพูดเรื่องไม่ดีของเขากับใคร 


กว่าจะรู้ตัวก็ถูกความอ่อนโยนนั่นเล่นงาน..


ต้นสนลืมตาตื่นเมื่อพบว่าตัวเองเผลอหลับคาตักของอีกคนไปประมาณสิบห้านาที ก่อนจะพบว่ากำลังถูกแววตาเจ้าเล่ห์เหมือนจิ้งจอกทะเลทรายนั้นจ้องอยู่ก่อนแล้ว.. 


"ตื่นแล้วเหรอ ลุกขึ้นมากินข้าวก่อนเร็วเข้า" 


เขาได้ยินดังนั้นก็เด้งตัวลุกขึ้นนั่งพลางหันมองถุงอาหารที่ตั้งอยู่อีกด้านของไอ้เนิร์ด เดี๋ยวนะ? ก็เมื่อกี๊เขายังนอนหนุนตักอยู่เลยไม่มีทางที่อีกฝ่ายจะลุกขึ้นไปซื้อได้แน่ หรือมันจะมีเพื่อนที่สามารถใช้งานนั่นนี่ได้ แถมยังเป็นคนที่ได้เห็นเขานอนหนุนตักไอ้เนิร์ดด้วยท่าทางเชื่องๆ ซวย.. แล้วแบบนี้อิมเมจอันธพาลที่สั่งสมมาร่วมแรมปีของเขาจะไม่พังทลายลงเหรอ 


"อ้าม~ อ้าปากเร็วเข้า"


ข้าวหน้าปลาไหลญี่ปุ่นถูกยัดเข้ามาในปาก ทำให้ต้องจำยอมกินอย่างช่วยไม่ได้ นี่มันคืออาหารที่สามารถเพิ่มสมรรถภาพทางเพศได้ไม่ใช่เหรอ? เห็นแววตายิ้มกรุ้มกริ่มพร้อมกับช้อนที่ตักคำโตๆ นั่นแล้วเขาก็อ่านใจอีกฝ่ายได้ แค่นี้เขาก็อึดมากพอแล้วนะ ไม่เห็นต้องพึ่งของพรรค์นั้นเลย แต่ถึงอย่างนั้นอันธพาลหนุ่นก็เลือกจะพับเก็บความสงสัยไว้แล้วกินข้าวต่อ 


"ไอ้เนิร์ดติดกระดุมดีๆ สิ เห็นรอยดูดหมดแล้วนะ" 


"ก็อยากให้เห็นไง.. จะได้รู้ว่าไอ้เนิร์ดคนนี้มีแฟนเป็นตัวเป็นตนแล้ว" คนโดนหยอกหน้าแดงแต่ก็แสร้งทำเป็นไม่สนใจ 


"เดี๋ยวพวกสาวๆ ก็อกหักกันหรอก" เดี๋ยวนะ ไม่สิ...ก่อนคบกับเขามันก็นอนกับทุกคนที่มาชวนเลยไม่ใช่เหรอ รอยคิสมาร์กโง่ๆ แค่รอยเดียวไม่ทำให้ใครคิดว่ามาจากคนพิเศษหรอก กัสจ้องมองแก้มที่กำลังเคี้ยวข้าวตุ้ยๆ ของต้นสนพลางสังเกตเห็นอารมณ์ที่ขุ่นเคือง ตีความไปว่าอันธพาลหนุ่มคงไม่อยากเปิดเผยให้ใครรู้ เขาจึงเลื่อนมือขึ้นติดกระดุมให้เรียบร้อยเหมือนเดิม 


นัยน์ตาสีนิลเลื่อนมองกระดุมเสื้อสลับกับใบหน้าหล่อที่กำลังเหม่อมองแมลงปอที่บินลงแตะผิวน้ำ กว่าจะรู้สึกตัวก็ตอนที่อันธพาลหนุ่มขยับตัวออกห่างกว่าเดิม 


"อะไร?"


"เปล่านี่..." 


"ทำไมต้องนั่งห่างๆ ด้วย?"


"มันร้อน" น้ำเสียงติดงึมงำทำกัสหลุดยิ้ม คล้ายกับว่าจะเขาโดนต้นสนงอนซะแล้ว อดไม่ได้ที่จะต้องยกมือขึ้นกุมอกเพื่อบอกให้หัวใจที่เต้นจนใจเจ็บสงบลง น่ารัก... แม่งน่ารักชิบหาย 


"ยิ้มอะไรของมึงคนเดียวไอ้เนิร์ด อากาศมันร้อนจนเพี้ยนไปแล้วเหรอ" ต้นสนว่าอย่างเคืองๆ พลางหรี่ตามองรอยยิ้มที่ไม่หายไปจากไอ้เนิร์ดสักที ว่าแต่มันเพี้ยน เขาว่าตัวเองก็เริ่มเพี้ยนที่คิดว่ามันน่ารัก ถึงจะไม่อยากยอมรับก็เถอะแต่กัสมันยิ้มน่ารักจริงๆ


นั่นไงเอาอีกแล้ว...เขาชมมันในใจอีกแล้ว


"ขอจูบหน่อยสิ" 


"ไม่" 


"ไหงงั้น!?" กัสแสร้งตกใจถามอย่างโอเวอร์ ต้นสนที่อุตส่าห์เก๊กหน้าโหดตั้งนานหลุดหัวเราะ คนที่ร่างใหญ่กว่าอย่างต้นสนเขยิบตัวเข้าไปใกล้อีกครั้งแล้วค่อยๆ เอนศีรษะพิงไหล่อีกคนที่ยามนี้ร่างกายแข็งทื่อราวกับตกใจกับการกระทำเล็กๆ น้อยๆ นี้ 


"ต้นสน..."


"อะไร" อันธพาลหนุ่มเอ่ยถามพลางยกยิ้มกรุ่มกริ่ม


"อย่ายั่ว" 


รอยยิ้มของคนน่ารักหายวับไปกับตาแล้วเปลี่ยนเป็นเม้มแน่น นัยน์ตาสีนิลช้อนขึ้นสบตาประมาณว่า มึงเป็นเหี้ยอะไรไอ้เนิร์ด กัสไม่อยากจะเถียงนะ แต่เขาเกือบจะตบะแตกอีกรอบแล้วจริงๆ ทำไมต้นสนถึงไม่เข้าใจเลยวะ ยิ่งเป็นตอนที่อยู่ด้วยกันสองต่อสองแบบนี้ด้วยแล้วมันก็ยิ่งกระตุ้นเขาเข้าไปใหญ่


พอเป็นเรื่องของต้นสนแล้ว..


กัสก็แทบสะกดคำว่าพอไม่เป็น










"ต.. ต้นสน" เสียงเรียกกระซิบชื่อของอันธพาลหนุ่มคนเดียวของห้องในช่วงบ่ายที่อากาศดีดังขึ้น ต้นสนที่กำลังวาดรูปกระต่ายสู้กับกวางในสมุดวิชาสังคมหลุดสะดุ้ง ก่อนพบว่าคนที่เรียกเป็นเพื่อนข้างๆ โต๊ะที่เขาพาไปส่งห้องพยาบาลเมื่อไม่กี่วันก่อน 


"...?" 


ซิมเหงื่อแตกพลั่กเพราะกำลังรวบรวมความกล้าในการกล่าวขอบคุณที่ช่วยตัวเขาไว้เมื่อคราวก่อน จริงๆ เขาก็ไม่เข้าใจว่าจู่ๆ ตัวเองเลือดออกได้ไง พอถามคนในห้องก็มีแต่คนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าอันธพาลหนุ่มเป็นคนทำ ซึ่งเขาไม่เชื่อเพราะตอนนั้นเขากำลังคุยกับอีกฝ่ายอยู่ จะแก้ต่างให้ก็โดนหาว่าถูกบังคับให้ทำแบบนี้อีก


ซิมแทบไม่อยากเชื่อว่าที่ผ่านมาทุกคนจะมองต้นสนในแง่ร้ายเช่นนี้มาตลอด โดยที่ไม่เคยมีใครพยายามจะลองทำความเข้าใจอีกคนดูเลยสักครั้งเดียว!? แม้แต่กัสที่ดูเป็นผู้ใหญ่และมีเหตุผลยังบอกให้เขาอยู่ให้ห่างๆ ต้นสน ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าทั้งห้องจะมีแต่พวกสมองนิ่มกันทั้งนั้นเลย 


"ถ้าไม่พูดสักทีกูจะวาดรูปต่อแล้วนะ" น้ำเสียงติดงึมงำทำใจคนฟังเหลวเป็นน้ำ ซิมยกมือขึ้นกุมหน้าอกแล้วปฏิญาณในใจว่าต่อจากนี้ไปไม่ว่าใครก็ตามที่กล่าวถึงอีกคนในทางเสียหาย เขาผู้นี้จะเป็นคนจัดการกับมันเอง ซิมทำสีหน้ามุ่งมั่นแล้วกระซิบตอบกลับ


"ไม่เป็นไรนะ กูจะปกป้องมึงเอง อย่างสุดความสามารถเลย"


ต้นสนได้ยินดังนั้นก็ทำสีหน้างงสุดขีด แต่ก็ตัดรำคาญโดยการพยักหน้ารับหงึกหงักแล้ววาดรูปต่อ สงสัยวันนี้อากาศจะร้อนไปหน่อยล่ะมั้ง อย่างไรก็ตามเย็นนี้คงต้องให้ไอ้เนิร์ดช่วยติววิชาสังคมให้ เพราะตอนนี้หน้ากระดาษมันเต็มไปด้วยกระต่ายหมดแล้ว จะว่าไปเขาก็วาดสวยเหมือนกันนะเนี่ย 


 และเมื่อจบคาบซิมก็ยื่นสมุดโน้ตวิชาสังคมของตัวเองมาให้ 


"จะยืมก็ได้นะคือลายมือกูสวยมากอ่านง่ายด้วย" 


"อ่า... ขอบใจ" งั้นเย็นนี้ไอ้เนิร์ดคงไม่จำเป็นแล้ว นัยน์ตาสีนิลเลื่อนไปด้านหลังซิมเพื่อมองแฟนตัวเองที่นั่งห่างออกไป ก่อนจะต้องทำหน้าหงิกเมื่อมีผู้หญิงหลายคนกำลังรุมล้อมรอบโต๊ะ จริงๆ ก็เป็นภาพที่คุ้นตามาหนึ่งปีเต็มจนตอนนี้ก็ ม.ปลายปีสองแล้ว แต่ทำไมถึงรู้สึกหงุดหงิดตงิดๆ จังนะ 


ถึงจะรุมล้อมในฐานะเด็กเรียนผู้มีดีทั้งสมองกับหน้าตาก็ตาม 


และกัสเป็นอาหารตาที่แม้แต่เขายังต้องยอมรับว่าดีเลิศ 


ซิมที่สังเกตว่าอันธพาลหนุ่มจ้องมองเนิร์ดของห้องอยู่นานจึงคิดไปว่าต้นสนคงอยากได้โน้ตย่อของกัสมากกว่าของตัวเอง สงสัยจะไม่กล้าขอละมั้ง ต้องใช่แน่ๆ งั้นรอแป๊บนะต้นสนกูจะไปเอามาให้!


กัสมองซิมที่เดินแหวกวงล้อมที่เคยเป็นฮาเร็มลับๆ ของตัวเองเข้ามาด้วยใบหน้ามุ่งมั่นราวกับอยากท้าดวล แต่กัสก็แสร้งยิ้มส่งไปอย่างเป็นมิตร


"สมุดโน้ตของมึงกูขอยืมด้วยได้ไหม" 


ผู้หญิงที่ยืนอยู่ได้ยินดังนั้นก็โวยวายเพราะพวกเธอขึ้นชื่อว่ามาเข้าคิวขอมันก่อน จะให้ไอ้หน้าจืดซิมเอามันไปง่ายๆ ได้ยังไง ซิมที่เห็นว่าไม่น่าจะได้มาง่ายๆ จึงอธิบายเสียงอ่อน 


"คือต้นสนอยากได้น่ะ..."


"เอาไปสิ" 


คนที่มาก่อนถึงกับร้องครวญครางออกมาด้วยความรู้สึกที่มันไม่แฟร์ ซิมทำสีหน้าสดใสแล้วรีบเอามาให้ทันที ตอนนี้คนทั้งห้องคิดว่าซิมได้ถูกต้นสนใช้เป็นเบ๊เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และดูเหมือนกัสจะเกรงกลัวอันธพาลหนุ่มไม่น้อยเลยถึงได้ยกสมุดโน้ตของตัวเองให้ทันทีที่เอ่ยชื่อต้นสนออกมา กัสยกยิ้มพอใจให้กับผลลัพธ์ที่ได้ถึงแม้จะให้ไปด้วยเหตุผลที่ตรงข้ามกันเลยก็ตาม


"ต้นสนเอานี่สมุดโน้ตของกัส" คนที่ถูกยื่นสมุดให้ทำสีหน้าไม่ค่อยเข้าใจ ก่อนซิมจะพูดอธิบายว่ากัสให้มา ต้นสนรับมาถือไว้พลางเหลือบมองไอ้เนิร์ดที่ยกยิ้มกรุ้มกริ่มอะไรของมันก็ไม่รู้ รู้แต่ว่าทำไมผู้หญิงในห้องถึงมองเขาราวกับจะงับหัวแบบนั้น? 


"อย่าไปจ้องตากับหมอนั่นนะเดี๋ยวก็กลายเป็นหินหรอก"


เป็นอันธพาลนะไม่ใช่เมดูซ่าที่จะมองตาแล้วแข็งได้ กัสมองดูแฟนหนุ่มที่กำลังไม่สบอารมณ์กับสายตาของคนอื่นๆ ก็พลันรู้สึกผิดแต่เพียงแค่แวบเดียวก็เปลี่ยนเป็นพอใจ ต้นสนน่ะมีเขาแล้วทั้งคนไม่เห็นจะต้องพึ่งพาไอ้พวกตาบอดพวกนี้เลย 


รักกู... หลงกูซะเดี๋ยวนี้เลยต้นสน 


ฉับพลันอันธพาลหนุ่มก็รู้สึกเสียวสันหลังวาบขณะที่เก็บสมุดของกัสไว้ใต้โต๊ะเรียน ร่างสูงกำยำนั่งห่อไหล่ด้วยความเคยชินเวลารู้สึกหวาดระแวง ก่อนได้สติแล้วกลับมานั่งนิ่งรอเรียนคาบถัดไป ในใจภาวนาให้สิ่งชั่วร้ายทั้งหลายหายไปด้วยคาถาในการ์ตูนสาวน้อยเวทมนตร์ที่ชอบดูสมัยเด็กๆ แม้ต้นรักพี่ชายของเขาจะชอบล้อเลียนแต่ก็เปิดแผ่นดูเป็นเพื่อนเขาทุกครั้ง รอยยิ้มเล็กๆ ผุดขึ้นตรงมุมปาก


อยากจะกลับไปเป็นเด็กอีกสักครั้งจังอ่ะ..


"ยิ้มอะไรเหรอต้นสน"


ซิมที่ตอนนี้เริ่มกล้าพูดกับอันธพาลหนุ่มมากขึ้นเอ่ยถามอย่างสนอกสนใจ โดยไม่ทันได้สังเกตเลยว่ามีสายตาคมกริบจ้องมองมาทางด้านหลัง 


"กำลังคิดถึงการ์ตูนสาวน้อยเวทมนตร์ที่เคยดูตอนเด็กๆ น่ะ"


ผู้หญิงที่นั่งข้างหน้าถัดจากโต๊ะของอันธพาลหนุ่มหูผึ่ง เธอคงหูฝาดไปเองหรือได้ยินเช่นนั้นจริงๆ หัวใจพลันเต้นผิดจังหวะในตอนที่หันไปสบนัยน์ตาสีนิลที่แตกต่างไปจากแต่ก่อนที่มักจะดูแข็งกร้าวในมุมมองของเธอ


ทว่ายามนี้กลับดูน่ามอง.. 






ทุกคนจะโดนน้องตกไหมหนอฮ่าๆๆ แต่ถ้าใครโดนต้นสนตกแล้วล่ะก็อย่าลืมคอมเม้นกันนะคะ


สามารถติสามารถชมนิยายเรื่องนี้ได้นะ เพราะคอมเม้นของทุกคนช่วยให้ไรท์มีกำลังใจและจะได้แก้ปรับในส่วนที่ยังขาดตกบกพร่องของตัวเอง