ใครจะคิดว่าการไปเที่ยวงานวัดธีมฮาโลวีนในค่ำคืนนั้น ภพจะโดนวิญญาณปริศนาตามกลับมาถึงบ้าน! ที่น่าแปลกคือวิญญาณตนนั้นกลับช่วยชีวิตเขาไว้อีกหลายครั้งหลายคราจนน่าแปลกใจ
รัก,ดราม่า,ตลก,ลึกลับ,ชาย-ชาย,BL,วาย,ฟิลกู้ด,วิญญาณ,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
คั่นเพียง"ภพ"ใครจะคิดว่าการไปเที่ยวงานวัดธีมฮาโลวีนในค่ำคืนนั้น ภพจะโดนวิญญาณปริศนาตามกลับมาถึงบ้าน! ที่น่าแปลกคือวิญญาณตนนั้นกลับช่วยชีวิตเขาไว้อีกหลายครั้งหลายคราจนน่าแปลกใจ
“ภพ” คือชื่อเรียกที่เขาเพียรตามหา
“ภพ” คือสิ่งที่ขวางกั้นระหว่างเขากับเด็กคนนั้น
“ภพ” คือคนที่เขาต้องการอยู่เคียงข้าง แม้นว่าวันหนึ่งเขาจะกลายเป็นปีศาจร้ายก็ตาม
“ราห์” คือชื่อที่เขาพึ่งรู้จัก
“ราห์” คือชื่อบุคคลที่คอยช่วยเขาเอาไว้หลายต่อหลายครั้ง
“ราห์"คือคนที่เขาไม่อยากให้หายไปสักนิดแม้ตัวเขาจะจำอะไรไม่ได้เลยก็ตาม
Trigger Warning
blood มีเลือด/murder มีฉากฆ่าที่โหดร้าย/ghost มีผี
ขอฝากน้องภพไว้ในอ้อมอกอ้อมใจเหล่าแม่ ๆ ทุกท่านด้วยนะคะ มาเจอน้องภพพร้อมกันได้ทุกวันเวลา 18.00น.น๊า
#ผมเก็บผีได้ในวันฮาโลวีนแหละครับ
ผู้แต่ง:LinLiLing
ภาพปก:ณหญิง
ภาพปกจิบิ:Senh Mee
คนในฝันนี่หว่า!! ทำไมมาอยู่ตรงนี้!
ผมใช้มือขยี้ตามองอีกครั้งก็ยังเห็นชายหนุ่มยืนอยู่ที่เดิมมองตัวเขาไม่เลื่อนสายตาไปไหน ผมจำได้ทันทีที่ได้เห็นสายตาอีกฝ่าย คนในฝัน ๆ ใช่แน่ ๆ ชัวร์ป๊าปจากนั้นผมก็ขนลุกตลอดทั้งร่าง
ผีเหรอ? หรือคน? ผมสับสนมึนงงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนจนรู้สึกถึงความเย็นยะเยือกจากท่อนแขนตัวเอง เย็นจากตรงที่เขาคว้าจับไว้นั้นเอง
ควรขอบคุณมั้ยนะ..?
ผมพยายามสะบัดแขนออกจากการกอบกุมของมือข้างนั้นแต่ชายหนุ่มผิวซีดกลับกำแน่นขึ้นยิ่งกว่าเดิม ผมเจ็บจนหน้าเหยเก อีกฝ่ายเห็นแล้วสะดุ้งเล็กน้อยก่อนปล่อยมือจากการกอบกุมลง
“เฮ้ย ๆ ไอ้หนุ่มถอยออกมา ๆ ยืนอะไรคนเดียว เดี๋ยวก็โดนลูกหลงอีกหรอกสักพักรถพยาบาลคงมาแหละ เฮ้อเด็กสมัยนี้ขับรถกันเร็วจริง ๆ เล๊ย จิ๊ จิ๊ จิ๊” ภพไม่ทันได้พูดอะไรกับชายหนุ่มผิวขาว ก็มีคุณตาสูงวัยท่านหนึ่งเดินมาพูดเตือนพร้อมบ่นส่งเสียงจิ๊ปากก่อนเดินไปเฉย ๆ
อะไรคือคนเดียว? ตาเขาไม่เห็นอีกคนเหรอ!!? ไม่ทันไรก็มีหญิงสาวพลเมืองดีคนหนึ่งวิ่งฉิวผ่านทะลุร่างชายหนุ่มผิวขาวซีดไปซะเฉย ๆ ก่อนไปช่วยดูอาการคนเจ็บ
เงาร่างผู้มีพระคุณวูบไหวเล็กน้อย
หะ หะเหี้ยอะไรวะเนี่ยย ผะ ผี! ใช่ไหม ใช่ไหมม!?? ใบหน้าที่ปกติจะมีสีเลือดฝาดตรงบริเวณแก้มตลอดเวลากลับสีเผือดลงจนเกือบขาว
เห็นแบบนี้ใครจะไปยืนอยู่ให้โง่ล่ะ! ถึงยืนอยู่ตรงนี้ก็ช่วยอะไรใครไม่ได้อยู่ดี เมื่อก้าวขาออกผมก็วิ่งสุดฝีเท้านี่คงเป็นการวิ่งที่ทุบสถิติความเร็วในการวิ่งของผมมาทั้งชีวิตแล้ว พอถึงรถผมไม่มีการพักเหนื่อยใด ๆ ทั้งสิ้นก็รีบขับตรงกลับบ้านทันทีด้วยความเร็วสูงสุดตามที่กฎหมายกำหนดเชียวล่ะ
เมื่อกลับถึงบ้านของตัวเองภพก็คลายความกังวลลงส่วนหนึ่ง สะบัดหัวไล่ความคิดบ้า ๆ ออกไปกล่อมตัวเองว่าแค่ตาฝาด ๆ เท่านั้น ก่อนทำธุระส่วนตัวแล้วนอนหลับตาลง
ภพนอนกระสับกระส่ายพลิกตัวไปมา ยามเขาหลับตาภาพอุบัติเหตเมื่อตอนหัวค่ำก็วาบผ่านฉายซ้ำเข้ามาในหัวเป็นภาพติดตาที่ทำให้เขาขนลุกซู่
ผมพยายามข่มตานอนหลับแต่ก็ไม่หลับสักทีจึงดีดตัวขึ้นมาจากหมอน ก่อนนั่งขัดสมาดเตรียมสวดนะโมสามจบ ตามแบบฉบับพื้นฐาน หลังสวดจบผมอธิษฐานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายว่า
“คืนนี้ขอให้ผมหลับฝันดี ไม่เจออะไรร้าย ๆ ใครที่มาไม่ดีก็ให้หายไปให้หมด ด้วยเทอญ สาธุ” สาธุเสร็จก็ก้มกราบบนหมอนก่อนนอนลง ปิดไฟห้องนอนเปิดโคมไฟข้างหัวเตียงไว้
ในราตรีอันมืดมิดไร้แต่เสียงแมลงมีเพียงแสงสุกสกาวของดวงจันทร์สีดุจเลือดเท่านั้นที่ให้แสงสว่างพาดผ่านร่างเหลืองนวลที่กำลังนอนหลับอุตุพร้อมขมวดคิ้วยุ่งอยู่ ช่างเป็นแสงที่ไม่เข้ากับเรือนร่างนั้นเอาเสียเลย
ไม่รู้ว่าเขาอธิษฐานผิดไปรึเปล่า ทำไมผมถึงฝันอีกแล้วฟ่ะแต่ก็คงดีกว่าเห็นภาพนั่นอีก
ตามเดิมผมต้องเดินเข้าไปในประตูเก่า ๆ พัง ๆ นั่นอีกแล้วสินะ เอาว่ะเข้าก็เข้าผมทำตามความฝันรอบก่อน ๆ เดินไปเรื่อย ๆ และเข้าไปในประตูนั่นอีกครั้ง
ใช่ ผมเจอใบหน้าที่คุ้นเคยที่พึ่งเจอไปเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนแต่ครั้งนี้ผมไม่มีความกลัวหรือความอึดอัดเลย ผมเดินลงบันไดเดินตรงไปหาชายร่างสูงอย่างอาจหาญ
เอ๋? มาสภาพดีกว่าในฝันที่แล้ว ๆ แหะ ไม่มีเลือดด้วยแค่มอมแมมไปหน่อย ถ้าเจอสภาพโชกเลือดมาหรือแบบแขน ขาขาดเหมือนในหนังนี่ผมรับไม่ไหวแน่ ๆ
เมื่อใกล้ถึงตัวร่างสูง ภพก็เปลื่ยนเป็นค่อย ๆ ขยับเข้าไปแทนพร้อมขยับแขนเก้ ๆ กัง ๆ นำนิ้วมือเรียวยาวจิ้ม ๆ แขนขาวซีดของอีกฝ่ายเพื่อเช็คปฏิกิริยาตอบสนอง แต่อีกฝ่ายทำแค่หันมามองเขานิ่ง ๆ ไม่ทำอะไร ภพวางใจก่อนเริ่มสนทนา
“ภพ” บุคคลในฝันเอ่ยปากเรียก
“ห๊ะ! คะ คุณ รู้จักชื่อผมได้ไง” ชายหนุ่มสะดุ้งตกใจเมื่อโดนเรียกชื่อ ทั้ง ๆ ที่เขาไม่เคยเจอกันเลยแท้ ๆ แต่กลับรู้ชื่อเขาได้
“จำ ไม่ ได้ เหรอ” เสียงทุ้มต่ำติดแหบกล่าวถามทีล่ะคำ ดวงตาฉายประกายวาววับคล้ายคาดหวังคำตอบบางอย่างจากเขา
“จำอะไรไม่ได้?”
“ฉัน”
“จำได้ดิ ก็ผมฝันเห็นคุณเกือบทุกคืน” สิ้นเสียงภพ ใบหน้าของฝ่ายตรงข้ามที่คล้ายคาดหวังอะไรบางอย่างพลันหายลับไป กลับกลายเป็นสีหน้าหม่นหมองขึ้นมาแทน
“จริงสิคุณ! ทำไมคุณถึงต้องทำให้ผมฝันแบบนี้ตลอดเลยรู้มั้ยว่ามันทำให้ผมนอนหลับไม่สนิทน่ะห๊ะ ถ้ามีอะไรก็บอกมาตรง ๆ ดิจะไปทำบุญให้ไม่ใช่มากวนกันทุกคืน” ภพเชิดหน้าขึ้นถามน้ำเสียงของเขาใส่อารมณ์อยู่ในที
“ไม่ รู้” แต่อีกฝ่ายกลับทำหน้างงงวยส่ายหน้าเอ่ยเสียงเศร้าแทนซะยังงั้น
“ไม่รู้เรื่องฝันหรือว่าไม่รู้เรื่องอยากได้อะไร” ภพขยี้ผมแกมหงุดถามคำตอบคำชาติไหนจะเข้าใจเนี่ย
“ฝัน ขอ โทษ” ถ้อยคำของเขาดึงความสนใจผมชะงัด
นี่มันสถานการณ์อะไรวะ ผมลอบพึมพำในใจอย่างจนปัญญา
“ขอโทษ? แล้วอยากได้อะไรมั้ยจะได้ทำบุญไปให้”
“มี” ดวงตาคมเหลือบขึ้นมองคณะเอ่ยเบา ๆ แล้วเดินขยับเข้าไปใกล้ภพจนตัวแทบติดกันเขาตัวแข็งทื่อ
จุ๊บ...ชายหนุ่มผิวขาวซีดหอมเบา ๆ ข้างหูแล้วลากปลายลิ้นผ่านจากลำคอถึงไหล่ ลมหายใจผมสะดุดกึก ทันใดปากเรียวบางไร้สีของอีกฝ่ายก็ประกบเข้ามาฉับพลัน ก่อนอีกฝ่ายจะเคลื่อนขยับปลายลิ้นอยู่ในปากไม่หยุดหย่อนแล้วจึงกัดลงที่ริมฝีปากเขาเบา ๆ อีกหนึ่งทีและถอนริมฝีปากออกมาอย่างแผ่วเบาราวไม่อยากแยกจากริมฝีปากสีแดงระเรื่ออันหอมหวานนี้
เสียงหอบหายใจสอดประสานของพวกเขาสองคนเมื่อกี้วนเวียนอยู่ข้างใบหูของภพไม่หยุด จนรูปหน้านุ่มนวลอ่อนโยนชวนมองของฝ่ายที่โดนรุกล้ำร้อนผ่าวตั้งแต่ลำคอจนถึงใบหน้า
ชายหนุ่มผู้ไม่รู้ว่าเป็นผีรึเปล่าในสายตาภพ แย้มยิ้มเอ็นดูออกมา ทั้งในแววตาปรากฏร่องรอยความขบขันวาบผ่านเป็นครั้งแรก
ฟึ่บ!!!
ภพสะดุ้งตื่นขึ้นมาด้วยความตกใจ เหงื่อผุดพราวเต็มหน้าผาก ใบหน้าของเขายังร้อนผะผ่าวอยู่ราวกับเรื่องในฝันเกิดขึ้นจริง เขาแตะริมฝีปากตัวเองเบา ๆ ก่อนเลื่อนสายตาสังเกตเห็นอะไรบางอย่าง
ขาคน?? ภพเงยหน้ามองทันใดก็พบกับใบหน้าเดิมที่พึ่งขโมยจูบเขาไปในฝันหมาด ๆ !!
ภพตัวสั่นเทิ้มกำหมัดพุ่งเข้าไปต่อยชายหนุ่มในทันที
ผั๊วะ เขาต่อยเข้าไปที่ใบหน้าอันเย็นเฉียบของฝ่ายตรงข้ามเต็มแรงข้อหามาถึงเนื้อถึงตัวเขาโดยไม่ได้รับอนุญาต!
แต่....ต่อยโดนด้วยว่ะ ผมกะพริบตาปริบ ๆ มองกำปั้นตัวเองสลับมองใบหน้าด้านข้างอีกฝ่ายอย่างตื่นตะลึงเพราะไม่คาดคิดจะต่อยโดนหมายความว่ามีแค่ผมที่สามารถจับตัวเขาได้ใช่มั้ย?? ไม่งั้นผมจะต่อยโดนได้ไงทีผู้หญิงที่ทางม้าลายยังทะลุร่างหมอนี่ไปเลย
พอต่อยเสร็จชายหนุ่มผิวขาวซีดไม่ได้แสดงท่าที ด้านลบต่อภพออกมาแค่หันหน้ามามองเขาด้วยสายตาไร้ชีวิตตามเดิม
ฮู่ว ผมถอนหายใจปรับความคิดรอบที่เท่าไหร่ของวันแล้วก็จำไม่ได้เหมือนกัน ดูไม่น่ามีพิษมีภัยนะ แถมยังเคยช่วยเราที่ทางม้าลายด้วย เสียงแค่อย่างเดียวเท่านั้นแหละ
“เอาใหม่ ๆ ทำไมคุณถึงจูบผมด้วย ทำไมถึงช่วยผมไว้ คุณไม่ต้องการชีวิตของผมใช่มั้ย ละ แล้วคุณเป็นผีหรือคน” ผมยิงคำถามรวดเดียวแล้วกลับมานั่งบนเตียงเพื่อรอคำตอบอย่างใจเย็นทั้ง ๆ ที่ไม่ควรใจเย็นอ่ะนะ อย่างน้อยผีตนนี้ก็มาในสภาพดีล่ะว่ะ ผมคิดในทางบวก
“นาย อะ นุ ญาต”
“ต้อง ช่วย”
“ไม่”
“ไม่ รู้” ชายหนุ่มผิวขาวซีดตอบอย่างช้า ๆ ทีละคำจนถึงคำตอบสุดท้ายน้ำเสียงที่เคนเรียบไม่มีอารมณ์มาตลอด แปรเปลื่ยนเป็นน้ำเสียงโศกเศร้า
อืม ดีมากตอบครบทุกคำถามแต่...
“ใครอนุญาตให้คุณจูบผมตอนไหนฟ่ะ ห๊า” ผมม้วนแขนเสื้อเตรียมชกอีกครั้ง
“นาย เมื่อ ก่อน” อีกฝ่ายตอบอย่างหนักแน่นไม่ไหวติง
ผม? เมื่อก่อน? ตอนไหน?
“เออ! ผมอนุญาตก็อนุญาต” ขึ้เกียจเถียงแล้วไม่งั้นคืนนี้ไม่ได้นอนแน่ ผมยกมือมานวดขมับพลางเหลือบมองประเมินเขา
ถึงฝ่ายนั้นจะตอบว่าไม่รู้ว่าเป็นผีหรือคนก็ตาม แต่ภพก็ฟันธงเอาเองไปแล้วว่าเป็นผี ไม่ก็วิญญาณแน่นอน จากสภาพก็ไม่ได้น่ากลัวเท่าในฝันครั้งแรก ๆ ตอนนี้ถ้าสวมเสื้อผ้าดี ๆ เซ็ทผม เติมลิปหน่อยก็พอดูได้แล้ว เหมือนคนทุกอย่างจริง ๆ
“คุณชื่ออะไร วันพรุ่งนี้ตอนไปทำบุญจะได้บอกชื่อหลวงพ่อถูก” ชายหนุ่มผิวขาวซีดเงียบไปสักพักก่อนตอบออกมาอย่างแช่มช้าว่า
“ราห์ ฉัน ชื่อ ราห์”
ชื่อคุ้นหูจัง.....
“รา? ราในพวกขนมปังหมดอายุอ่ะนะ” ภพถามเสียงทะเล้นติดแซวนิด ๆ แบบไม่ใช่เวล่ำเวลาก่อนถามอีกประโยค
“แล้วชื่อจริง นามสกุลล่ะจำได้บ้างมั้ย”
คราวนี้อีกฝ่ายยืนนิ่งเงียบครุ่นคิดอยู่นานสองนาน สุดท้ายได้คำตอบเพียงการส่ายหัวช้า ๆ เท่านั้น
ช่างเถอะพรุ่งนี้ค่อยเค้นถามใหม่ละกัน ง่วงเป็นบ้าเลย
เห็นดังนั้นผมก็ไม่ได้ถามอะไรเพิ่มอีกผมเหลือบมองนาฬิกาแขวนพนังบ่งบอกว่าเป็นเวลาเกือบตีสี่แล้ว ผมหาวออกมาพร้อมกับนอนลงหยิบมาห่มมาห่มจนเห็นแค่ดวงตาเท่านั้นก่อนจะกำชับผีในห้องป้ายเตียงว่า
“ถ้าคุณกล้าหลอก กล้าอำผม ผมจะให้คุณลงไปอยู่ในหม้อของหลวงตาแน่!” พอเสียงนุ่มขู่เสร็จก็ใช้สองมือหยิบผ้าห่มขึ้นมาปิดหน้าก่อนค่อย ๆ ลดระดับลงจะถึงแค่ใต้จมูกพร้อมเอ่ยกระอ้อมกระแอ้มเสียงเบาว่า
“ขะ ขอบคุณนะที่ช่วยผมไว้....” แล้วดึงผ้าห่มนอนคลุมโปงหลับตาเข้าสู่ห้วงนิทราสบายใจ
ราห์จ้องมองเรือนร่างที่หลับใหลสักพักจนเห็นอีกฝ่ายนอนหายใจเข้าออกอย่างสม่ำเสมอแล้วแบนสายตาคมกริบไปทางหน้าต่างที่ภพเปิดรับลมเอาไว้เนื่องจากห้องนอนภพอยู่ชั้นสองจึงไม่กลัวขโมยขึ้นทางหน้าต่างเท่าไหร่ แต่สิ่งที่ไม่ใช่คนละก็ไม่แน่...
ก้อนกลุ่มเงาดำขมุกขมัวสายหนึ่งค่อย ๆ ลอยเข้ามาใกล้ทางหน้าต่างเพียงชั่วพริบตาที่เงาดำลอยเข้ามาเลยบานหน้าต่างเพียงนิดเดียวก็ถูกราห์ขยับวูบไหว จับกลุ่มก้อนนั้นแน่นอย่างรวดเร็วก่อนใช้มืออีกข้างฉีกกระชากก้อนกลุ่มเงาดำสายนั้นจนกลายเป็นละอองผงพร้อมเสียงกรีดร้องราวสัตว์ถูกเชือดแต่เสียงร้องนั้นไม่สามารถแยกออกได้ว่าเป็นเสียงของคนหรือสัตว์ชนิดไหนกันแน่ด้วยน้ำเสียงหลายเสียงผสมกันจนแยกไม่ได้ ด้วยสายตาเหี้ยมเกรียม
ของของฉัน คนของฉัน ใครก็ห้ามแตะต้อง!!!
ช่วงTalk
ราห์: ((ควันดำเหล่านี้ช่างน่ารังเกียจ) )
น้องภพมีebookแล้วนะคะแม่ ๆ (ใครอยากสนับสนุนไรท์กดซื้อผ่านทางลิงค์นี้ได้เลยนะคะ)
https://www.mebmarket.com/web/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTY2OTE5OSI7czo3OiJib29rX2lkIjtzOjY6IjI5OTMwNCI7fQ