ใครจะคิดว่าการไปเที่ยวงานวัดธีมฮาโลวีนในค่ำคืนนั้น ภพจะโดนวิญญาณปริศนาตามกลับมาถึงบ้าน! ที่น่าแปลกคือวิญญาณตนนั้นกลับช่วยชีวิตเขาไว้อีกหลายครั้งหลายคราจนน่าแปลกใจ

คั่นเพียง"ภพ" - 10 เพียงเห็นตุงแดง โดย LinLiLing @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,ดราม่า,ตลก,ลึกลับ,ชาย-ชาย,BL,วาย,ฟิลกู้ด,วิญญาณ,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

คั่นเพียง"ภพ"

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,ดราม่า,ตลก,ลึกลับ,ชาย-ชาย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

BL,วาย,ฟิลกู้ด,วิญญาณ

รายละเอียด

ใครจะคิดว่าการไปเที่ยวงานวัดธีมฮาโลวีนในค่ำคืนนั้น ภพจะโดนวิญญาณปริศนาตามกลับมาถึงบ้าน! ที่น่าแปลกคือวิญญาณตนนั้นกลับช่วยชีวิตเขาไว้อีกหลายครั้งหลายคราจนน่าแปลกใจ

ผู้แต่ง

LinLiLing

เรื่องย่อ

“ภพ” คือชื่อเรียกที่เขาเพียรตามหา

“ภพ” คือสิ่งที่ขวางกั้นระหว่างเขากับเด็กคนนั้น

“ภพ” คือคนที่เขาต้องการอยู่เคียงข้าง แม้นว่าวันหนึ่งเขาจะกลายเป็นปีศาจร้ายก็ตาม

“ราห์” คือชื่อที่เขาพึ่งรู้จัก

“ราห์” คือชื่อบุคคลที่คอยช่วยเขาเอาไว้หลายต่อหลายครั้ง

“ราห์"คือคนที่เขาไม่อยากให้หายไปสักนิดแม้ตัวเขาจะจำอะไรไม่ได้เลยก็ตาม

Trigger Warning

blood มีเลือด/murder มีฉากฆ่าที่โหดร้าย/ghost มีผี

ขอฝากน้องภพไว้ในอ้อมอกอ้อมใจเหล่าแม่ ๆ ทุกท่านด้วยนะคะ มาเจอน้องภพพร้อมกันได้ทุกวันเวลา 18.00น.น๊า 

 #ผมเก็บผีได้ในวันฮาโลวีนแหละครับ
 


ผู้แต่ง:LinLiLing
ภาพปก:ณหญิง
ภาพปกจิบิ:Senh Mee
 

สารบัญ

คั่นเพียง"ภพ"-1 เพียงเฝ้าฝัน,คั่นเพียง"ภพ"-2 เพียงเริ่มต้น,คั่นเพียง"ภพ"-3 เพียงวันธรรมดา,คั่นเพียง"ภพ"-4 เพียงพบเจอ,คั่นเพียง"ภพ"-5 เพียงเที่ยววันฮาโลวีน,คั่นเพียง"ภพ"-6 เพียงจูบแรก,คั่นเพียง"ภพ"-7 เพียงเริ่มต้นอยู่ด้วยกัน,คั่นเพียง"ภพ"-8 เพียงวิ่งสับตีนแตก,คั่นเพียง"ภพ"-9 เพียงหนีตาย,คั่นเพียง"ภพ"-10 เพียงเห็นตุงแดง,คั่นเพียง"ภพ"-11 เพียงเจอครอบครัว,คั่นเพียง"ภพ"-12 เพียงพาผีเข้าบ้าน,คั่นเพียง"ภพ"-13 เพียงแหวนเงิน,คั่นเพียง"ภพ"-14 เพียงฝันตื่นหนึ่งในอดีต,คั่นเพียง"ภพ"-15 เพียงลางร้ายคืบคลาน,คั่นเพียง"ภพ"-16 เพียงไม่ยอมใกล้แต่กลับไม่ยอมห่าง,คั่นเพียง"ภพ"-17 เพียงชั่ววูบ,คั่นเพียง"ภพ"-18 เพียงการกระทำอันไม่คาดคิด,คั่นเพียง"ภพ"-19 เพียงปรับความเข้าใจ,คั่นเพียง"ภพ"-20 เพียงมอบความอบอุ่น(แซ่บ),คั่นเพียง"ภพ"-21 เพียงเจอคู่อริเดิมหมายเอาชีวิต,คั่นเพียง"ภพ"-22 เพียงตัวตายตัวแทน,คั่นเพียง"ภพ"-23 เพียงหายจาก,คั่นเพียง"ภพ"-24 เพียงไม่อาจพบเจอกันได้อีก,คั่นเพียง"ภพ"-25 เพียงใช้ชีวิตหลังบางสิ่งหายไป,คั่นเพียง"ภพ"-26 เพียงพบเจอหลวงตา,คั่นเพียง"ภพ"-27 เพียงพบเจอเบาะแส,คั่นเพียง"ภพ"-28 เพียงรูปถ่ายใบหนึ่ง,คั่นเพียง"ภพ"-29 เพียงหวนคืนอดีต,คั่นเพียง"ภพ"-30 เพียงหวนคืนสู่ความจริง,คั่นเพียง"ภพ"-31 เพียงไม่อาจให้อภัย,คั่นเพียง"ภพ"-32 เพียงก่อนจากลา,คั่นเพียง"ภพ"-33 เพียงเพียรพากลับ,คั่นเพียง"ภพ"-34 เพียงอีกด้านของเหรียญ,คั่นเพียง"ภพ"-35 เพียงกลับบ้าน จบ,คั่นเพียง"ภพ"-36 ตอนพิเศษ มอบแหวนสัญญา,คั่นเพียง"ภพ"-37 ตอนพิเศษย้ายกลับเข้าบ้าน,คั่นเพียง"ภพ"-38 ตอนพิเศษ ช่วงฝนโปรยปราย

เนื้อหา

10 เพียงเห็นตุงแดง

พ่อกับแม่ของผมเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ทั้งคู่ตั้งแต่ผมยังเป็นเด็ก เอาเข้าจริงผมจำใบหน้าค่าตาพวกท่านไม่ได้เสียด้วยซ้ำ เท่าที่จำได้ผมอาศัยอยู่กับยายและพี่สาวที่แก่กว่าผมเก้าปีกันเพียงสามคนพวกเขาให้ความรัก ความเอาใจใส่ผมอย่างล้นเหลือจนผมไม่เคยรู้สึกขาดความอบอุ่นของพ่อแม่เลยแม้สักนิด ดังนั้นทั้งยายและพี่สาวก็เปรียบเสมือนพ่อแม่ของผม

ยายเป็นเพียงญาติผู้ใหญ่เพียงคนเดียวที่หลงเหลืออยู่ ทั้งภพและพี่สาวต่างย้ายบ้านลงมาทำงานต่างที่ เขาเคยขอให้ยายย้ายลงมาอยู่ด้วยกันเพราะท่านอาศัยอยู่เพียงคนเดียวแต่ท่านกลับปฏิเสธเสียงแข็งต่างจากยามปกติและสาบานไว้ว่าหัวเด็ดตีนขาดยังไงก็จะตายและเผาร่างที่บ้านเกิดตนพร้อมบอกว่าตนแข็งแรงดีไม่ต้องให้หลาน ๆ มาดูแลให้เป็นภาระ พวกผมทั้งสองคนพากันกุมขมับคิดเรื่องนี้ถกเถียงกันพักใหญ่จนได้ข้อสรุปว่าป้าแก้วที่พวกผมนับถือเป็นญาติผู้ใหญ่อีกคน เป็นเพื่อนบ้านติดรั้วที่รู้จักกับคุณยายมาหลายสิบปีจะคอยสอดส่องดูแลให้ และผมกับพี่สาวจะสลับกันโอนเงินให้จำนวนหนึ่งเป็นการตอบแทนในแต่ล่ะเดือนพร้อมค่ากินอยู่ของยาย

ครั้งแรกป้าแก้วปฏิเสธพัลวันบอกว่าที่รับปากดูแลให้เพราะแกนับถือยายเป็นเสมือนแม่อีกคน ท่านเป็นผู้มีพระคุณของครอบครัวป้าแก้ว จึงไม่อยากรับเงินไว้ จนจบที่ยายของผมบอกป้าแก้วให้รับไว้เผื่อเก็บไว้ทำบุญก็ได้แทน

ซึ่งถามว่ายายของผมแข็งแรงในวัยเจ็ดสิบกว่าขนาดไหนล่ะก็ขอให้นึกภาพท่านเดินดุ่ม ๆ ถือมีดพร้าเล่มหนึ่งไปตัดต้นไผ่ที่สวนหลังบ้านแล้วหามต้นไผ่ที่ตัดเองเดินกลับทำกระบอกข้าวหลามอ่ะ ตอนผมกลับไปเยี่ยมโดยไม่ได้บอกล่วงหน้า ผมเห็นแทบจะเป็นลมต้องรีบวิ่งปรี่เข้าไปช่วยกลัวท่านกระดูกกระเดี้ยวหัก

ฝ่ามือใหญ่ของวิญญาณหนุ่มวางทาบบนแผ่นหลังของภพแผ่วเบาเป็นเชิงปลอบประโลมภพหันมองอีกฝ่าย

“เห็นว่าเป็นลมตอนรดน้ำสวนช่วงบ่ายแก่ ๆ ป้าแก้วแกเจอเข้าพอดีเลยเรียกรถไปส่งที่โรงบาล”

“แล้วอาการเป็นไงบ้าง” ภพเอ่ยถามอย่างกังวลใจ

“เห็นว่าเป็นลมแดดแต่พี่กลัวเรื่องความดันสูงของแกด้วย เลยให้นอนแอดมินที่โรงบาลสักคืน ฉันโทรคุยกับยายเมื่อกี้ดูโอเคขึ้นเยอะ”

“ยอมอยู่โรงบาลอย่างว่าง่ายขนาดนั้นเชียว? แล้วทำไมพึ่งมาบอกผมอ่ะ อีกอย่างนะพี่ส่งข้อความมาแค่นั้นผมใจหายหมด”

“ฉันก็งงเหมือนกันปกติไม่ชอบโรงบาลอย่างกับอะไรดี แล้วฉันก็พึ่งรู้เมื่อสองชั่วโมงที่แล้วนี้เอง แกสอนเด็กอยูไม่ใช่เหรอเลยไม่โทรบอก”

“อืมก็จริง เดี๋ยวผมขับรถกลับบ้านไปดูยายเองจะไปอยู่เป็นเพื่อนแกสักสองสามวัน”

ออกจากนี่ไปถึงเชียงใหม่คงประมาณเก้าชั่วโมงถึงนู่นคงใกล้เช้าพอดียังไงซะผมก็นอนมาเยอะแล้วคงไม่มีปัญหาอะไรในการขับรถตอนกลางดึก

“เออ มาก็ดีฉันพึ่งขับออกมากได้เกือบชั่วโมงแล้วถ้าได้เจอหน้าหลานทั้งสองคนพร้อมกันคงดีใจตาย ลุกขึ้นไปฟันต้นกล้วยเอาหยวกกล้วยมาทำแกงให้เลยมั้ง”

“อ้าวพี่ภา พี่ไปด้วยเหรองานร้านล่ะปกติพี่ไม่ค่อยปล่อยนิ เห็นว่ามีงานแต่งเจ้าใหญ่ที่จ้างคอร์สอาหารให้พี่ไปจัดอยู่นี่”

“ฝากพี่อรดูแลสักสามสี่วันน่ะ ส่วนงานแต่งมันอาทิตย์หน้านู้นพี่สั่งให้น้องในบริษัทเตรียม ๆ ของไว้แล้วถ้าไม่ทันฉันจะให้แกมาช่วย นาน ๆ พักทีไม่เป็นไรหรอก แกน่ะขับรถออกบ้านตอนนี้ระวัง ๆ แล้วกันมันเริ่มมืดแล้วถ้าอยากหลับแวะปั๊มเลยนะ ห้ามฝืนขับต่อเข้าใจมั้ยภพ” น้ำเสียงอ่อนโยนเจือแววเป็นห่วงเต็มเปี่ยมสั่งกำชับ

“ครับ ๆ พี่ก็เหมือนกันแหละน่าอย่าขับเร็วนักล่ะเดี๋ยวก็โดนใบสั่งอีกห้าร้อยหรอก” หลังพูดคุยกันอีกเล็กน้อยภพก็เตรียมกระเป๋าเพื่อเดินทางกลับบ้านเดิม

ราห์ก้าวย่างเข้ามาหาภพแล้วขวางทางหน้าเขากับประตูรถไว้ “อัน ตะ ราย”

รู้แหละว่าอันตรายขับรถกลางคืน แต่อย่างน้อยก็ดีกว่าขับแดดร้อนเปรี้ยงตอนกลางวันที่กลัวจะมีรถมาเฉี่ยวชนมากกว่าตอนกลางคืนอีก

“ผมจะระวังน่า ยังไงคุณก็ไปด้วยกันกับผมอยู่แล้วนิถ้ามีอะไรคุณก็ปกป้องผมซิ” ภพเลิกคิ้วฉีกยิ้มกว้างออกมานุ่มนวลก่อนเดินอ้อมเปิดประตูรถอีกฝั่งพลางพายมือเชิญวิญญาณหนุ่มนั่ง

ร่างสันทัดถอดทอนหายใจอย่างอ่อนอกอ่อนใจก่อนหายตัววับเข้าไปนั่งในรถ ซึ่งการกระทำนี้ทำเอาภพอ้าปากค้างหัวใจดวงน้อย ๆ ของเขาแทบกระเด็นหลุดออกมา

ปกติก็เดินไปนั่งดี ๆ ทีนี้ขี้เกียจหรือไงห๊า ตกอกตกใจหมด

“คราวหน้าเดินเอานะคุณ ผมตกใจหมด” ราห์พยักหน้ารับ ริมฝีปากบางเฉียบหยักยิ้มน้อย ๆ

ผมแวะร้านซุปเปอร์ของผมเพื่อซื้อตุนกาแฟและของฝากไว้ดื่มระหว่างทางขับรถ จะได้สดชื่นตื่นตัวและขับรถมุ่งสู้จุดหมาย ระหว่างเดินทางมาได้สักพักใหญ่ผมเริ่มพยายามชวนคุยกับผู้ร่วมทริปอีกตนเพื่อไม่ให้เงียบจนเกินไปเพราะภพไม่อยากเปิดเพลงในรถเท่าไหร่นัก แต่คำตอบที่ได้คือ ไม่รู้ จำไม่ได้และส่ายหน้า

ผมว่าได้ผลนะ ผมไม่อยากนอนเลยแค่อยากทึ้งหัวตัวเองแทน เหมือนมีไฟลุกอยู่บนหัวผมเชียวล่ะ

"แล้วมีเหตุผลอะไรต้องตามติดผมมาล่ะ ตามคนอื่นบ้างไม่ได้เหรอ"

“ห่วง”

“ห่วงผม?” เขาหันขวับมองอีกฝ่ายอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง

“ใช่” ราห์เอ่ยยืนยันอีกครั้ง

“เพราะอะไร ผมเป็นคนรู้จักคุณชาติก่อนรึไง” ภพแสดงสีหน้างงงวยอีกครั้งเขาเคยเจอหนังเรื่องประมาณวิญญาณยึดติดห่วงหาอาทรเพราะชีวิตชาติก่อนเคยป็นคนรัก เป็นครอบครัวของคนกลับชาติมาเกิดใหม่มาค่อนข้างเยอะอีกทั้งเป็นพล็อตดังสำหรับแต่งนิยายเสียด้วยและดูจากที่อีกฝ่ายเคยพูดมาก็เข้าข่ายไม่น้อยนะ

“ไม่ รู้ ไม่ ใช่” วิญญาณหนุ่มส่ายศีรษะ

“ชาติก่อนก็ไม่รู้จัก งั้นมาช่วยมาห่วงมาตามติดเพื่อ? อยากได้บุญเหมือนอสุรกายที่เคยเล่ามาเหรอ” ราห์ได้ยินดังนั้นดวงตาดำขลับหรี่ลงเล็กน้อยแฝงอารมณ์กรุ่นโกรธใบหน้าเฉยชาไร้อารมณ์ในยามปกติกลับเคร่งขรึมขึ้น

“ไม่ ใช่!” ชายหนุ่มผิวขาวซีดเอ่ยปฏิเสธเสียงแข็ง

“เอ่อ รู้แล้ว ๆ คุณไม่เคยคิดอยากทำร้ายผมเพราะบุญใช่มั้ยล่ะ ทำไมต้องเสียงแข็งโกรธกันด้วยเล่า” ภพบ่นกระปอดกระแปดพลางคิดว่าทำไมอีกฝ่ายถึงโมโหกับเรื่องแค่นี้

บรรยากาศรอบข้างถูกอาบด้วยความมืดมิด มีเพียงแสงจันทร์รำไรที่คอยสอดส่องให้เห็นพื้นที่โดยรอบอยู่บ้าง ข้างทางเต็มไปด้วยป่าทึบและชั้นดินอันเงียบสงัดมีเพียงเสียงหรีดหริ่งเรไรดังขึ้นเป็นระยะสลับกับเสียงรถเคลื่อนผ่านของภพ เขาเริ่มขับรถเข้าสู่เส้นทางที่มีหลายโค้งและมีพื้นชันมากขึ้น ภพชะงักเมื่อเขาเริ่มสังเกตเห็นแถบผ้ายาวสีแดงสดถูกแขวนด้วยไม้ ปักอยู่ข้างทางด้านหน้าราง ๆ โบกสะบัดพลิ้วไหวตามสายลมแต่ไกลเป็นแนวยาว

ถ้าเป็นคนต่างพื้นที่หรือนักท่องเที่ยวเมื่อเห็นแถบผ้ายาวสีแดงสดคาดทองแบบนี้คงคิดว่าเป็นเพียงการตกแต่งเท่านั้น แต่นั่นใช้ไม่ได้กับภพที่เกิดและเติบโตมาในภาคเหนือตอนบนของประเทศสิ่งที่เขาเห็นคนภาคเหนือเรียกกันว่า ‘ตุง’ หรือ ‘ตุงแดง’ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ไว้แสดงว่าพื้นที่แห่งนี้เกิดอุบัติเหตุและการตายโหงขึ้น

ภพเริ่มหวั่นใจ ไม่รู้ว่าทำไมเขาชักรู้สึกง่วงนอนขึ้นมาแปลก ๆ ทั้ง ๆ ที่ดื่มกาแฟไปแล้วสองกระป๋อง ปกติภพไม่ใช่ผู้ดื่มกาแฟบ่อยนาน ๆ ทีปีหนถึงดื่มสักแก้วอีกทั้งเขาเป็นคนค่อนข้างนอนหลับยากทำให้ยิ่งไม่มีเหตุผลอะไรที่ภพง่วงมากแบบนี้

ถนนเส้นนี้ไม่มีปั๊มน้ำมันด้วยสิ จอดรถนอนข้างทางแล้วให้ราห์เฝ้าให้ดีมั้ยนะ

“ระ วัง” ผีหนุ่มที่นั่งนิ่งเป็นตุ๊กตาหน้ารถมาเกือบครึ่งทางเอ่ยเตือนขึ้น

“นั่นสิผมก็เริ่มง่วงแล้ว เราจอดรถข้างทางนอนสักพักดีมั้ย” ภพเสนอพลางหยิบขวดน้ำเปล่าแล้วราดลงบนใบหน้าตัวเองเล็กน้อย พร้อมเอามือตบ ๆ ให้สดชื่น

“ยัง แถว นี้ อัน ตะ ราย” อีกฝ่ายตอบกลับพร้อมจ้องมองออกมาผ่านนอกหน้าต่างรถซึ่งข้างทางมีแต่ป่าเหวรกชันด้วยใบหน้าอ่านยาก

“ถ้าแถวนี้อันตรายผมที่ง่วงนอนแบบนี้ไม่อันตรายกว่ารึไงคุณ เกิดผมหลับในไปแล้วช-” ภพไม่ทันพูดจบประโยคดีนัยน์ตาดำดุจหมึกพลันเห็นหญิงสาวสวมผ้าซิ่นสีแดงก่ำเลือดหมูผมยาวแซมขาวบดบังใบหน้าผมยาวจรดน่องยืนอยู่กลางถนน สะท้อนแสงไฟหน้ารถของเขาห่างไปไม่ถึงหกเมตร

เชี่ย! เลี้ยวหลบไม่ทันแน่

“ตรงไป!!” ราห์ตะโกนสั่งเสียงดุทันทีไม่รู้ว่าเป็นเพราะเสียงของผีหนุ่มช่วยดึงสติภพกลับคืนมารึเปล่า มือทั้งสองข้างของเขาที่กำลังเตรียมหมุนหักหลบตามสัญชาตญาณกลับตัดสินใจขับตรงผ่านร่างหญิงสาวไปแทนโดยไม่ได้ชะลอหรือลดความเร็วลง

ไม่มีเสียงคนโดนชน ไม่มีเสียงใดกระทบรถ ไม่มีแรงกระแทกที่กระทำต่อรถราวกับว่าร่างของหญิงสาวเมื่อกี้เป็นเพียงภาพลวงตา

ภพเหงื่อผุดพรายด้วยความตื่นตระหนกก่อนเหลือบมองกระจกข้างรถเพื่อเช็คให้แน่ใจว่าเมื่อกี้เขาได้ชนใครไปหรือไม่ กลับมองเห็นเพียงเงาร่างหญิงสาวที่ยืนอยู่ที่เดิมหันมองตามรถของภพมาเท่านั้น แต่เธอกลับไม่มีเท้า...

เมื่อกี้ผมจำได้ว่าชนไปจัง ๆ เลยนะ ทำไม ทำไมถึงยังยืนอยู่ที่เดิมแถมยังไม่มีเท้า!!

ความง่วงเหงาหาวนอนที่มีก่อนหน้านี้หายเป็นปลิดทิ้ง ภพจับพวงมาลัยรถแน่นถ้าเมื่อกี้ราห์ไม่บอกให้เขาตรงไปแทนที่จะหักหลบ ผมคงไม่ได้มีชีวิตอยู่จนถึงตอนนี้เป็นแน่

“ม่ะ เมื่อกี้ผีเหรอ” แววตาอ่อนโยนมีแววหวาดผวาเคลือบอยู่

“ใช่” ได้ยินดังนั้นภพยอมเอื้อมมือไปเปิดวิทยุฟังเพลงของรถขึ้น เพื่อไล่ความเงียบสงัดออกไป

แม่ง ทำไมผมต้องมาเจอมาเห็นเรื่องบ้า ๆ พวกนี้ด้วยนะ เจอบ่อยเกิ๊น

เมื่อได้รับฟังว่าตัวตนที่ตัวเองเห็นไม่ใช่คนแล้วความกลัวที่ว่าตนเองจะชนคนจนบาดเจ็บเข้าก็หายไปแต่ความกลัวสิ่งอื่นกลับแทรกมาแทนที่

“ไม่ ต้อง กลัว” ราห์กล่าวเสียงเบาราวปลอบโยน ประโยคนี้สามารถทำให้เขาอุ่นใจได้จริง ๆ ฝ่ามือที่กำลังสั่นสะท้านก็เริ่มนิ่งขึ้น ดวงใจที่เต้นระรัวเมื่อกี้กลับสงบลงอย่างน่าประหลาด

“เออ อุ่นใจขึ้นเยอะเลย...”


ช่วงTalk
ภพ:เห็นตุงแดงทีไรหวั่นใจทุกที//เหงื่อตก
ราห์:ก็บอกแล้วว่าอันตราย//ถอนหายใจ
 

น้องภพมีebookแล้วนะคะแม่ ๆ (ใครอยากสนับสนุนไรท์กดซื้อผ่านทางลิงค์นี้ได้เลยนะคะ)
https://www.mebmarket.com/web/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTY2OTE5OSI7czo3OiJib29rX2lkIjtzOjY6IjI5OTMwNCI7fQ