ใครจะคิดว่าการไปเที่ยวงานวัดธีมฮาโลวีนในค่ำคืนนั้น ภพจะโดนวิญญาณปริศนาตามกลับมาถึงบ้าน! ที่น่าแปลกคือวิญญาณตนนั้นกลับช่วยชีวิตเขาไว้อีกหลายครั้งหลายคราจนน่าแปลกใจ

คั่นเพียง"ภพ" - 13 เพียงแหวนเงิน โดย LinLiLing @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,ดราม่า,ตลก,ลึกลับ,ชาย-ชาย,BL,วาย,ฟิลกู้ด,วิญญาณ,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

คั่นเพียง"ภพ"

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,ดราม่า,ตลก,ลึกลับ,ชาย-ชาย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

BL,วาย,ฟิลกู้ด,วิญญาณ

รายละเอียด

ใครจะคิดว่าการไปเที่ยวงานวัดธีมฮาโลวีนในค่ำคืนนั้น ภพจะโดนวิญญาณปริศนาตามกลับมาถึงบ้าน! ที่น่าแปลกคือวิญญาณตนนั้นกลับช่วยชีวิตเขาไว้อีกหลายครั้งหลายคราจนน่าแปลกใจ

ผู้แต่ง

LinLiLing

เรื่องย่อ

“ภพ” คือชื่อเรียกที่เขาเพียรตามหา

“ภพ” คือสิ่งที่ขวางกั้นระหว่างเขากับเด็กคนนั้น

“ภพ” คือคนที่เขาต้องการอยู่เคียงข้าง แม้นว่าวันหนึ่งเขาจะกลายเป็นปีศาจร้ายก็ตาม

“ราห์” คือชื่อที่เขาพึ่งรู้จัก

“ราห์” คือชื่อบุคคลที่คอยช่วยเขาเอาไว้หลายต่อหลายครั้ง

“ราห์"คือคนที่เขาไม่อยากให้หายไปสักนิดแม้ตัวเขาจะจำอะไรไม่ได้เลยก็ตาม

Trigger Warning

blood มีเลือด/murder มีฉากฆ่าที่โหดร้าย/ghost มีผี

ขอฝากน้องภพไว้ในอ้อมอกอ้อมใจเหล่าแม่ ๆ ทุกท่านด้วยนะคะ มาเจอน้องภพพร้อมกันได้ทุกวันเวลา 18.00น.น๊า 

 #ผมเก็บผีได้ในวันฮาโลวีนแหละครับ
 


ผู้แต่ง:LinLiLing
ภาพปก:ณหญิง
ภาพปกจิบิ:Senh Mee
 

สารบัญ

คั่นเพียง"ภพ"-1 เพียงเฝ้าฝัน,คั่นเพียง"ภพ"-2 เพียงเริ่มต้น,คั่นเพียง"ภพ"-3 เพียงวันธรรมดา,คั่นเพียง"ภพ"-4 เพียงพบเจอ,คั่นเพียง"ภพ"-5 เพียงเที่ยววันฮาโลวีน,คั่นเพียง"ภพ"-6 เพียงจูบแรก,คั่นเพียง"ภพ"-7 เพียงเริ่มต้นอยู่ด้วยกัน,คั่นเพียง"ภพ"-8 เพียงวิ่งสับตีนแตก,คั่นเพียง"ภพ"-9 เพียงหนีตาย,คั่นเพียง"ภพ"-10 เพียงเห็นตุงแดง,คั่นเพียง"ภพ"-11 เพียงเจอครอบครัว,คั่นเพียง"ภพ"-12 เพียงพาผีเข้าบ้าน,คั่นเพียง"ภพ"-13 เพียงแหวนเงิน,คั่นเพียง"ภพ"-14 เพียงฝันตื่นหนึ่งในอดีต,คั่นเพียง"ภพ"-15 เพียงลางร้ายคืบคลาน,คั่นเพียง"ภพ"-16 เพียงไม่ยอมใกล้แต่กลับไม่ยอมห่าง,คั่นเพียง"ภพ"-17 เพียงชั่ววูบ,คั่นเพียง"ภพ"-18 เพียงการกระทำอันไม่คาดคิด,คั่นเพียง"ภพ"-19 เพียงปรับความเข้าใจ,คั่นเพียง"ภพ"-20 เพียงมอบความอบอุ่น(แซ่บ),คั่นเพียง"ภพ"-21 เพียงเจอคู่อริเดิมหมายเอาชีวิต,คั่นเพียง"ภพ"-22 เพียงตัวตายตัวแทน,คั่นเพียง"ภพ"-23 เพียงหายจาก,คั่นเพียง"ภพ"-24 เพียงไม่อาจพบเจอกันได้อีก,คั่นเพียง"ภพ"-25 เพียงใช้ชีวิตหลังบางสิ่งหายไป,คั่นเพียง"ภพ"-26 เพียงพบเจอหลวงตา,คั่นเพียง"ภพ"-27 เพียงพบเจอเบาะแส,คั่นเพียง"ภพ"-28 เพียงรูปถ่ายใบหนึ่ง,คั่นเพียง"ภพ"-29 เพียงหวนคืนอดีต,คั่นเพียง"ภพ"-30 เพียงหวนคืนสู่ความจริง,คั่นเพียง"ภพ"-31 เพียงไม่อาจให้อภัย,คั่นเพียง"ภพ"-32 เพียงก่อนจากลา,คั่นเพียง"ภพ"-33 เพียงเพียรพากลับ,คั่นเพียง"ภพ"-34 เพียงอีกด้านของเหรียญ,คั่นเพียง"ภพ"-35 เพียงกลับบ้าน จบ,คั่นเพียง"ภพ"-36 ตอนพิเศษ มอบแหวนสัญญา,คั่นเพียง"ภพ"-37 ตอนพิเศษย้ายกลับเข้าบ้าน,คั่นเพียง"ภพ"-38 ตอนพิเศษ ช่วงฝนโปรยปราย

เนื้อหา

13 เพียงแหวนเงิน

เนื้อสันคอหมูสไลด์นุ่มชุบไข่ปรุงรสสูตรพิเศษของภพพ่นฟองปุด ๆ เดือดอยู่ในหม้อชาบูขนาดกลางแบ่งเป็นสองช่องโดยช่องใกล้เขาจะเป็นน้ำซุปหม่าล่าและอีกช่องใกล้ยายของภพจะเป็นน้ำซุปกระดูกหมูสีใสขุ่น ๆ กลิ่นหอมของน้ำซุปกระดูกหมูที่พี่สาวของเขาเคี่ยวเอาไว้ตั้งแต่บ่ายส่งกลิ่นหอมฟุ้งลอยมาจากตรงหน้าของพวกเขาออกไปไกลได้ถึงสามบ้านแปดบ้านเลยทีเดียว

สมกับเป็นเจ้าแม่แห่งวงการออแกไนเซอร์เก่งตั้งแต่การตกแต่งจนถึงอาหาร น้ำซุปนี่โคตรอร่อยเลย!

ภพนึกไม่ถึงว่ากลับบ้านมาทั้งทีข้าวเย็นกลับกลายเป็นชาบูซะได้ ยายของเขาที่ฟันยังแข็งแรงดีกว่าคนวัยเดียวกันก็ชอบอกชอบใจเนื้อสันคอหมูสไลด์น่าดูเพราะนาน ๆ ทีแกจะได้ทานพร้อมหลาน ๆ

ภพคีบเนื้อสันคอหมูสไลด์ชุบไข่ที่สุกจนเปื่อยยุ่ยมาเต็มตะเกียบไม้ประจำตัว น้ำมันของน้ำซุปหม่าล่ายังเกาะบนเนื้อหมู เขาเอาเนื้อเข้าปากโดยไม่สนใจคิดจะเป่าเอาความร้อนของมันออก ภพอ้าปากพ่นไอร้อนออกมาจากปาก หยดน้ำตาเอ่อรื้นบนแพขนตาเพราะความร้อนของเนื้อพลางยิ้มแก้มตุ่ย ยกนิ้วโป้งทั้งสองข้างให้พี่สาวและยายของตน

“โห้ บอกเลยว่าทำเองอร่อยกว่าไปกินที่ร้านดัง ๆ แพง ๆ อีกแน่ะ” เขาพูดชมขณะมีเนื้อสันคอหมูสไลด์คาอยู่เต็มปาก

“เคี้ยวดี ๆ กลืนก่อนค่อยพูด ๆ ” หญิงชราเอ่ยเตือนเบา ๆ ด้วยความกลัวหลานชายจะสำลักอาหารตายซะก่อน

“แน่นอนสิ น้ำซุปนี่มือใครกันล่ะแถมผักก็อยู่ในสวนที่ยายปลูกเองด้วยไม่เหม็นเขียวสักนิด” ภากล่าวชมตัวเองพร้อมยิ้มตาหยี ทางผู้สูงวัยคีบผักกว้างตุ้งขึ้นมาใส่ถ้วยตนจนเต็ม

“ยายรู้มั้ยอ่ะว่าต้นดอกปีปข้างบ้านเรานี่ปลูกมานานแค่ไหนแล้ว” ชายหนุ่มเอ่ยเรียกยายตนก่อนเอ่ยถามเลียบ ๆ เคียง ๆ

“โห้ ยายไม่แน่ใจว่าปลูกเมื่อไหร่แต่อายุเกินสองร้อยปีแน่ ๆ ล่ะ สมัยยายย้ายมาอยู่กับตาแกใหม่ ๆ ต้นก็สูงใหญ่แบบนี้แล้ว ช่วงนั้นตาแกเอาดอกปีปที่หล่นตามพื้นมามัดเป็นกำไลข้อมือให้ยายด้วยนะ คิดถึงตอนนั้นแล้วเล่นกันเป็นเด็ก ๆ เชียว” ภพถามแค่คำถามเดียวหญิงชรากลับยิ้มแย้มตอบยาวจนเล่าถึงวีรกรรมเมื่อสมัยอดีตของตนอย่างสนุกสนาน

เขาและพี่สาวก็ไม่ได้ขัดอะไร กลับกันเป็นชอบดีซะอีกที่ได้ยินเรื่องราวชีวิตของคุณยายตน

“แล้วเคยมีผู้ชายตัวสูง ๆ ประมาณร้อยแปดสิบกว่า ร้อยเก้าสิบผิวขาวซีดหน่อย ๆ หน้าตาดูดีมาบ้านเราที่นี่บ้างมั้ย แบบยายเคยเห็นบ้างมั้ย” เมื่อภพสบโอกาสก็ยิงคำถามที่ค้างคาจากตอนขับรถเข้าบ้านกลางวงสนทนา

สายเลือดเดียวกันทั้งสองที่กำลังทานอยู่บนโต๊ะ จู่ ๆ ก็ชะงักกึกโดยเฉพาะพี่สาวตัวดีของภพที่มีอาการสำลักน้ำตอบสนองอย่างเห็นได้ชัด

มันชักเริ่มแหม่ง ๆ นะ

“น่าจะเคยมีนะเพราะเพื่อนเราน่ะ หน้าตาดี ๆ สูง ๆ ทั้งนั้นเลยนิ” หญิงสูงวัยตอบพร้อมลูบหลังหลานสาวตนที่กำลังไอเพราะสำลักน้ำอยู่

“เพื่อนผมที่เคยมาบ้านนี้มีแค่ไอ้ซันคนเดียวนะยาย แต่มันเป็นคนผิวสองสีไม่ได้ขาวมากนะ”

“มีเพื่อนสนิทแกที่คณะอีกนี่ ที่เคยมาเที่ยวแล้วแวะมาไหว้ยายอ่ะ ใครจะไปจำหน้าได้หมด” ภาแย้งเสียงแหบ

จะว่าไปมันก็จริง แต่คนที่สูงโคตร ๆ เหมือนราห์ไม่มีอยู่ในกลุ่มเพื่อนเราเลยนะ?

“แล้วแกนึกไงถึงถามเนี่ย” ภพกะว่าจะถามต่อก็โดนพี่สาวชิงตัดบทถามซะก่อน

“ก็แค่นึกขึ้นได้เฉย ๆ ” ชายหนุ่มหัวเราะแหะ ๆ ก่อนคีบเนื้อในหม้อส่งให้ภาแล้วคีบผักใส่ในถ้วยของยายเพื่อเลี่ยงบทสนทนา

ภาจ้องมองภพด้วยแววตาสงสัย

สงสัยเราโพล่งถามตรงเกินไปมั้ง พี่จ้องผมใหญ่เลย

ภพกินไปคุยไปได้สักพักใหญ่ ๆ นัยน์ตาดำก็เริ่มปรือไม่ขึ้นแถมสัปหงกขณะนำตะเกียบคีบชิ้นเนื้อคำใหญ่อยู่ ยังดีได้สติก่อนที่หัวของเขาจะจุ่มหม้อชาบู

เมื่อภาเห็นน้องชายของตนง่วงจนศีรษะจะทิ่มลงหม้อชาบูแล้วจึงลุกขึ้นจากพื้นเดินไปไล่ภพให้กลับไปนอนในห้องนอน “หยุด ๆ แกไปนอนในห้องเลยไปมีอย่างที่ไหนกินไปจะหลับไปผมนี่เปื้อนหมดแล้วมั้ง”

“ม่ายเอา ผมยังไม่อิ่มเลย” เขาเอ่ยเสียงยานคางพร้อมสะบัดศีรษะไปมา

“ฉันซื้อเนื้อหมูมาครึ่งโล แกกินปาไปจะหมดอยู่แล้วยังไม่อิ่มอีกเหรอดื่มน้ำแล้วไปอาบน้ำนอน”

“ไหนพี่เคยบอกผมว่ากินเสร็จห้ามนอนไง กลับคำตัวเองชัด ๆ ”

“งั้นไปล้างถ้วยรอ ฉันกับยายกินอิ่มกันตั้งแต่เมื่อกี้แล้วรอแกนั่นแหละ” ภาส่งสายตาไปทางซิงค์ล้างจาน

“ก็ได้ ๆ ถือว่าเป็นค่าตอบแทนน้ำซุปอร่อย ๆ ล่ะกัน” เขาว่าพลางยันพื้นลุกขึ้นยืนเดินไปทางห้องครัวพร้อมขนย้ายถ้วยชามเตรียมล้างอย่างว่าง่าย

ถึงแม้พี่สาวเขาจะพูดแบบนั้นแต่ก็ไม่วายมาช่วยเช็ดถ้วยชามหลังจากล้างน้ำรอบที่สองเสร็จข้าง ๆ ภพ

“ทำไมแกดูเหนื่อย ๆ ขนาดนี้กัน ไปรับจ๊อบสอนเด็กรอบดึกเพิ่มรึไง”

“ไม่ได้รับเพิ่ม แต่แค่ช่วงนี้อ่อน ๆ เหมือนไม่มีแรงมากกว่าอ่ะไม่รู้ทำไมเหมือนกัน” ภพตอบกลับพลางครุ่นคิดไปด้วย

ไปหาหมอตรวจสักทีจะดีมั้ยนะ บางทีมันก็ง่วงเกินไปจริง ๆ

“แน่นะ ได้นอนเป็นเวลาป่าวเนี่ย”

“เป็นเวลาดิพี่ ดีไม่ดีผมได้นอนเยอะกว่าพี่อีก” ช่วงนี้ลากยาวไปจนถึงปีใหม่ปีหน้าเป็นช่วงเวลาที่พี่สาวของผมยุ่งมากที่สุดทั้งอีเว้นท์ งานแต่งงาน เทศกาล จัดงานเลี้ยงต่าง ๆ ไหนจะบริหารซุปเปอร์อีกเป็นช่วงที่เธอยุ่งตัวเป็นเกลียวเชียวล่ะแต่ก็รับทรัพย์อื้อซ่าเหมือนกัน

เทียบกับผมแล้ว ผมเน้นสบายเป็นหลักขอแค่มีเงินใช้ มีเงินลงทุนบ้างบางส่วนแล้วใช้ชีวิตอย่างสงบสุขเป็นพอ

“อ๋อเหรอ แต่เรื่องหลวงตาฉันเอาจริงนะภพ แกควรหาเวลาไปหาท่านสักวันไปไหว้ไปให้ท่านพรมน้ำมนต์ให้สักหน่อย ถ้าจำทางไม่ได้ฉันจะบอกทางให้หรือไม่ก็ให้ฉันไปด้วยก็ได้” จากน้ำเสียงสบาย ๆ เมื่อครู่ลับผันแปรเป็นน้ำเสียงจริงจังปนเครียด

“เข้าใจแล้วแต่ว่าคนอย่างพี่น่ะมีเวลาว่างด้วยรึไงเห็นหน้าพี่ก็เหมือนมีกระดาษแปะบอกว่างานสุ่มหัวอยู่ตัวเบล่อ ทีพี่ยังไม่ไปหาหลวงตาเลย” เขาไม่เข้าใจว่าทำไมพี่สาวของตนถึงจริงจังกับเรื่องไปหาหลวงตาขนาดนี้ ถึงช่วงนี้เขาจะวิ่งหนีผีอยู่สองสามครั้งแต่นอกจากราห์ตามติดต้อย ๆ เขาก็ไม่ได้ดวงซวยอะไรมาก

รึป่าวนะ?

ในชีวิตประจำวันมันก็ต้องเกิดอุบัติเหตุเล็ก ๆ น้อย ๆ กันทุกคนบ้างแหละ ที่หนักสุดคงเป็นเกือบโดนรถชนตอนเจอกับราห์ครั้งแรก หลังจากนั้นก็มีแค่ตกบันไดบ้าง เดินสะดุดท่อบ้าง เกือบโดนรถเฉี่ยวชนบ้าง นกขี้ใส่หัวบ้าง โดนแม่ค้าสาดน้ำใส่เพราะทำความสะอาดหน้าร้านบ้างแค่นั้นแหละทุกครั้งราห์จะช่วยเขาไว้ทันทุกรอบยกเว้นรอบที่โดนสาดน้ำใส่อ่ะนะ

“ฉันไปมาเมื่อต้นปีแล้วย่ะ ตอนแรกว่าจะชวนแกไปด้วยแต่แกติดติวนักเรียนที่เตรียมสอบนี่”

“อ้าว ไปไม่ชวนผมเฉยเลย แล้วไงไม่ขอพรเผื่อผมเลยเหรอถึงคะยั้นคะยอให้ผมไปทำบุญกับหลวงตาเองน่ะ”

“ขอแล้ว แต่เอาเถอะ งั้นเสร็จนี่ไปอาบน้ำนอนซะพรุ่งนี้ถ้าตื่นไหวก็ตื่นมาตักบาตรด้วยกันยายบอกว่าพระท่านเดินบิณฑบาตผ่านหน้าบ้านทุกเช้า” เธอหยุดพูดแล้วถอนหายใจก่อนเปลื่ยนหัวข้อสนทนาดื้อ ๆ เหมือนมีบางสิ่งอยากพูดแต่ก็ไม่ยอมปริปากหรือเรียกว่าไม่รู้จะพูดอย่างไรซะมากกว่า

“คร้าบ” ภพรับคำไม่คิดจะถามอะไรต่อ

ตุ้บ

เขาทิ้งตัวลงบนเตียงแล้วนั่งขัดสมาธิพลางเช็ดผมไปด้วยอย่างลวก ๆ ตอนนี้เขาเปลื่ยนมาสวมชุดนอนตัวเก่งที่ใส่เป็นประจำจนด้ายเริ่มหลุดรุ่ยเรียบร้อย

ภพเป็นคนผิวขาวโทนสีอุ่น อาจเพราะเพิ่งสระผมอาบน้ำมาเสร็จใหม่ ๆ เส้นผมสีดำสนิทที่เปียกชื้นไปด้วยหยดน้ำเลยดูเงางามมากขึ้นกว่าเดิมจึงขับผิวให้ยิ่งดูขาวขึ้นไปอีก

เนื่องด้วยความขี้เกียจผสมความง่วงงุนภพจึงปาผ้าเช็ดผมผืนเล็กลงบนโต๊ะตัวเล็กข้างเตียงอย่างแม่นยำเตรียมเอนตัวลงนอนทั้ง ๆ ที่ผมยังแห้งไม่สนิท ตอนนั้นเองเขาก็สังเกตได้ถึงแววตาคู่หนึ่งจ้องมองมือเขาอยู่

จะเป็นใครที่ไหนได้ล่ะ ก็มีอยู่ตัวเดียวนั่นแหละที่มายืนอยู่ข้างเตียงผมเวลาผมนอน

“มีอะไรรึไงคุณ มาจ้องมือผมเนี่ย”

“แหวน”

“แหวน?” เขาเบนสายตามองไปที่นิ้วนางข้างขวาของตนที่สวมแหวนสีเงินเกลี้ยงเกลาวงหนึ่ง “อ๋อ แหวนนี้เหรอสวยใช่มั้ยล่า พี่สาวผมซื้อให้แหละ”

“ไม่ ใช่”

หือ?

“ฉัน ให้ ต่าง หาก”

“คุณจะให้ผมได้ไง แหวนวงนี้พี่สาวผมให้เองกับมือเลยนะแถมสลักชื่อผมไว้ด้วย”

“ไม่!” สุ้มเสียงเข้มเอ่ยจบก็อันตรธานหายลับไป นี่ถือเป็นครั้งแรกตั้งแต่พบกันที่ราห์หายไปจากสายตาเขา

ภพงงเป็นไก่ตาแตก

อะไรของเขา? บทจะงอนก็หายไปดื้อ ๆ เนี่ยนะ ทำไมถึงต้องบอกเสียงแข็งว่าตัวเองเป็นคนให้แหวนเรากันหว่า

ช่างเหอะ หายไปได้ก็ดีจะได้ไม่มีใครคอยกวน

ภพเอนหัวลงหมอน หลับตาเตรียมนอนได้สักพักผ้าผืนหนึ่งคลุมลงมาบนศีรษะ มันคลุมลงมาปิดเต็มหน้าเต็มหัวของเขาพอดิบพอดี

เขาสะดุ้งตกใจ

“เช็ด ผม ให้ แห้ง” น้ำเสียงทุ้มอันคุ้นเคยดังขึ้นข้าง ๆ เตียงนอน

“งอนเอง หายเองรึไงคุณ” ภพเอ่ยเหย้าแต่ไม่มีทีท่าจะลุกขึ้นมาเช็ดผมอีกรอบตามคำพูดของอีกฝ่ายแต่อย่างใด

วิญญาณหนุ่มเห็นสภาพหมอนเปียกชุ่มแล้วขัดตาจึงตัดสินใจดึงแขนภพให้ลุกขึ้นมาแล้วเริ่มเช็ดผมที่ยังไม่แห้งสนิทให้ เช็ดไปได้ไม่นานราห์ตัดสินใจฝังจมูกตนลงบนเส้นผมนุ่มอันเปียกชื้นแล้วสูดกลิ่นที่ทำให้ใจตนสงบได้อย่างประหลาด

“หัวผมเหม็นรึไงคุณถึงมาดมหัวกันเนี่ย” ภพสะดุ้งโหยงตวาดถามเบา ๆ จากสัมผัสใกล้ชิดที่ไม่เคยชิน ใบหูเขาเริ่มเห่อร้อนขึ้นเองตามธรรมชาติ

“อืม”

“จะบอกว่าหัวผมเหม็นว่างั้น! ผมอาบน้ำสระผมทุกวันไม่เคยขาดนะขอบอก คุณมากกว่ามั้งที่เหม็นน่ะห๊ะ เป็นผีสกปรกที่ไม่ยอมอาบน้ำชัด ๆ ” ภพยื่นฝ่ามือไปดันใบหน้าคมให้ออกห่างจากศีรษะตน ก่อนได้ยินเสียงกระซิบแผ่วเบาจากบุคคลข้างหลังว่า

“หอม”

“ห๊ะ?”

ภพส่งเสียงงึมงำทว่าไม่ได้ต่อต้านต่อการกระทำ ปล่อยให้ศีรษะของตนถูกใช้ผ้าขนหนูเช็ดถูอย่างเบาแรงอยู่ภายใต้มือคู่นั้น

“คุณหยิบจับสิ่งของได้แล้วเหรอ ถึงโยนผ้าขนหนูมาปะลงบนหัวผมเนี่ย”

“.....”

“งอนผมเหรอ เรื่องที่ผมบอกว่าคุณไม่ใช่คนให้แหวนผมนี่ผมพูดจริงนี่นา”

“.....” อีกฝ่ายได้แต่นิ่งเงียบเช็ดผมให้เขาต่อไปโดยไม่พูดอะไรออกมามีเพียงเสียงจิ้งหรีดและเสียงสวบสาบของเนื้อผ้ากับเส้นผมเท่านั้น

งอนจริงจังแน่ทรงนี้

“ขอ โทษ” หลังวิญญาณผิวขาวซีดปิดปากไม่ยอมคุยด้วยสักพักก็ยอมเอ่ยออกมา

“หืม ผมว่าผมต้องเป็นคนพูดคำนี้นะ ทำไมคุณพูดแทนเฉย”

“.....” ไม่ว่าภพจะพูดจะถามอะไรอีกเขาก็ไม่ยอมเอ่ยอะไรเพิ่มจนความเงียบสงัดทำให้ภพเผลอหลับไปทั้งนั่งแบบนั้น

ช่วงTalk
ราห์:((ลืมไปแล้วงั้นเหรอ))//เศร้า
ภพ:((โมโหอะไรของเขากัน ตัวโตซะเปล่า))//เกาหัวแกรก ๆ

น้องภพมีebookแล้วนะคะแม่ ๆ (ใครอยากสนับสนุนไรท์กดซื้อผ่านทางลิงค์นี้ได้เลยนะคะ)
https://www.mebmarket.com/web/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTY2OTE5OSI7czo3OiJib29rX2lkIjtzOjY6IjI5OTMwNCI7fQ