ใครจะคิดว่าการไปเที่ยวงานวัดธีมฮาโลวีนในค่ำคืนนั้น ภพจะโดนวิญญาณปริศนาตามกลับมาถึงบ้าน! ที่น่าแปลกคือวิญญาณตนนั้นกลับช่วยชีวิตเขาไว้อีกหลายครั้งหลายคราจนน่าแปลกใจ
รัก,ดราม่า,ตลก,ลึกลับ,ชาย-ชาย,BL,วาย,ฟิลกู้ด,วิญญาณ,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
คั่นเพียง"ภพ"ใครจะคิดว่าการไปเที่ยวงานวัดธีมฮาโลวีนในค่ำคืนนั้น ภพจะโดนวิญญาณปริศนาตามกลับมาถึงบ้าน! ที่น่าแปลกคือวิญญาณตนนั้นกลับช่วยชีวิตเขาไว้อีกหลายครั้งหลายคราจนน่าแปลกใจ
“ภพ” คือชื่อเรียกที่เขาเพียรตามหา
“ภพ” คือสิ่งที่ขวางกั้นระหว่างเขากับเด็กคนนั้น
“ภพ” คือคนที่เขาต้องการอยู่เคียงข้าง แม้นว่าวันหนึ่งเขาจะกลายเป็นปีศาจร้ายก็ตาม
“ราห์” คือชื่อที่เขาพึ่งรู้จัก
“ราห์” คือชื่อบุคคลที่คอยช่วยเขาเอาไว้หลายต่อหลายครั้ง
“ราห์"คือคนที่เขาไม่อยากให้หายไปสักนิดแม้ตัวเขาจะจำอะไรไม่ได้เลยก็ตาม
Trigger Warning
blood มีเลือด/murder มีฉากฆ่าที่โหดร้าย/ghost มีผี
ขอฝากน้องภพไว้ในอ้อมอกอ้อมใจเหล่าแม่ ๆ ทุกท่านด้วยนะคะ มาเจอน้องภพพร้อมกันได้ทุกวันเวลา 18.00น.น๊า
#ผมเก็บผีได้ในวันฮาโลวีนแหละครับ
ผู้แต่ง:LinLiLing
ภาพปก:ณหญิง
ภาพปกจิบิ:Senh Mee
เมื่อเดินเข้าไปในตัวบ้านก็พบแต่ความมืดมิด และความว่างเปล่าไม่มีแม้แต่ร่างขาวซีดของวิญญาณหนุ่มปรากฏให้เห็น ชายหนุ่มสูดอากาศเข้าปอดลึก ๆ ทีหนึ่งเพื่อทำใจก่อนค่อย ๆ เดินเรียบ ๆ เคียง ๆ ไปตามกำแพงไปทางห้องอาหารที่อยู่ฟากตรงกันข้ามกับห้องนั่งเล่น แล้วเปิดสวิตช์โคมไฟที่คิดว่ายังไม่แตก ที่ตั้งอยู่บนโต๊ะลิ้นชักอันเล็ก
ติ๊ก แสงสีเหลืองนวลสบายตาสว่างวาบขึ้น ช่วยให้ภพรู้สึกหายใจหายคอดีขึ้นบ้างจากนั้นเขาก็เลื่อนลิ้นชักเพื่อหาไฟฉายที่เคยเก็บเอาไว้
น่าจะอยู่แถว ๆ นี้นะ
“อะ หาเจอแล้ว จะเปิดออกมั้ยว่ะไม่ได้ใช้ตั้งนาน” ภพบ่นอุบอิบ ตบ ๆ ไฟฉายอยู่สักพักก่อนจะใช้การมันได้ ชายหนุ่มในชุดเสื้อยืดเตรียมนอนลองเดินไปเปิดคัตเอาท์เพื่อที่จะเปิดไฟทั้งบ้าน
ถ้ามันติดอ่ะนะ
ตึก พรึ่บ เมื่อโยกคันโยกขึ้น ไฟทั่วทั้งบ้านก็กลับมาให้แสงสว่างอีกครั้ง ยกเว้นเพียงในห้องนั่งเล่นเท่านั้นที่เปิดไม่ได้เพราะหลอดไฟแตกกระจายหมดตั้งแต่ตอนหัวค่ำ
เมื่อเปิดไฟได้แล้วภพก็ถอนหายใจ รู้สึกสบายใจขึ้นมาก เขาเหลียวซ้ายแลขวาไม่เห็นแม้แต่เงาของผีตัวต้นเรื่อง แต่ภพยังคงรู้สึกถึงตัวตนของราห์อยู่รางๆ ซึ่งทำให้มั่นใจได้ว่าเขายังไม่ได้หนีหายไปไหนไกล
แค่ไม่ยอมออกมาให้เห็นเพราะเหตุผลอะไรบางอย่างเท่านั้นเอง
โกรธ? รู้สึกผิด? น้อยใจ? ภพก็ไม่อาจรู้ได้
เจ้าของบ้านเดินวกกลับมาทางห้องนั่งเล่นเดิมเพื่อเตรียมคุยกับวิญญาณตัวหนึ่งซึ่งเป็นต้นเหตุที่ทำเขาต้องมาเก็บกวาดเศษซากหลอดไฟ
“นี่คุณ ออกมาคุยกันดี ๆ ให้รู้เรื่อง” ชายหนุ่มกล่าวขึ้นในบ้านที่ไม่มีใครอยู่นอกจากตน หลังยืนรออยู่นานก็ไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น
เขาเริ่มหมดความอดทน
“ผมจะนับหนึ่งถึงสาม ถ้าคุณไม่ยอมออกมาคุยดี ๆ ก็ไม่ต้องมาให้ผมเห็นหน้าอีก” ภพยื่นคำขาดเสียงแข็ง
“หนึ่ง”
“สอง”
“สา-” นับครั้งที่สามไม่ทันจบคำผีหนุ่มก็ปรากฏร่างข้างหน้าภพ แต่ยืนห่างจากตัวเขาประมาณห้าเมตรหลบอยู่ในมุมมืดของห้องนั่งเล่น ในสภาพไม่ยอมสบตาภพ
“ในที่สุดก็ยอมออกมาสักที ทำไมคุณถึงทำแบบนั้นล่ะ?” ภพยืนกอดอกจ้องมองวิญญาณหนุ่มด้วยแววตาสงสัยในการกระทำก่อนหน้าระคนกรุ่นโกรธ
“-”
“คุณรู้มั้ยว่าคุณทำอะไรลงไป”
“-”
“คุณรู้มั้ยว่าทำไอ้ซันเจ็บตัว ทำผมเจ็บแบบนี้เหมือนไม่ใช่คุณเลยนะราห์”
“-” วิญญาณหนุ่มผิวขาวซีดยังคงไม่ตอบคำถามเขาหรือขยับเขยื้อนใด ๆ
“ราห์!” ภพหมดเริ่มหมดความอดทนจึงตะโกนเรียกชื่อผีตรงหน้าตนด้วยน้ำเสียงคุกรุ่นแล้วก้มหน้าพ่นลมหายใจระบายความหงุดหงิดก่อนค่อยๆ เงยหน้ามองตรงไปยังฝ่ายตรงข้ามอีกครั้ง
“ขอ โทษ ฉัน ไม่ ได้ ตั้ง ใจ” ดวงตาสีดำปนน้ำตาลเฉยชาราวคนตายคู่นั้นเลื่อนสายตามามองภพ สิ่งที่เขาเห็นคือแววตาของราห์สะท้อนความเจ็บปวดใจอย่างชัดเจนท่ามกลางความมืด ซึ่งมากพอ ๆ กับเนื้อเสียงของเขาที่เจือความรู้สึกผิดอย่างมากล้นอยู่
“ทำไมล่ะ? คุณเกลียดไอ้ซันมันเหรอหรือไอ้ซันเคยไปทำอะไรไม่ดีกับคุณ” ถึงจะเห็นสายตาคู่นั้นภพก็ไม่อาจสะบัดความหงุดหงิดสงสัยนี้ได้ลง มีแต่จะเพิ่มมากขึ้นอย่างไร้เหตุผล
“ไม่ ใช่ จำ ไม่ ได้”
“คุณจำไม่ได้ว่าทำไมถึงทำ คุณไม่รู้ตัวเลยเหรอ!”
“ใช่” วิญญาณตรงหน้าตอบกลับเสียงนิ่ง
“คุณคิดว่าเหตุผลแบบนี้จะฟังขึ้นรึไง ทั้งๆ ที่คุณทำเพื่อนผมเกือบตาย!!” ภพกัดฟันกรอดเดินสาวเท้าเข้าประชิดไปกระชากคอเสื้อวิญญาณผิวขาวซีดอย่างแรงและลากฝ่ายตรงข้ามออกมาจากมุมมืด
ซ่า เสียงคล้ายเนื้อเมื่อถูกไฟรนดังขึ้นพร้อม ๆ กับมีแสงสีขาวนวลเปล่งรัศมีจากข้อมือของภพ ที่กำลังเผาไหม้เนื้อบริเวณลำคอของผีหนุ่ม
เขาตกใจรีบผละมือออกทันทีที่เห็น
ความหงุดหงิดและความตึงเครียดที่สะสมมาตั้งแต่หัวค่ำ ล้วนถูกเสียงเมื่อครู่กลบทับไปสิ้น หลงเหลือแต่ความตะลีตะลานของภพที่กำลังเข้าไปดูอาการฝ่ายตรงข้าม
ทั้ง ๆ ที่เป็นคนทำเองแท้ ๆ ....
“เฮ้ย ๆ นี่คุณเป็นไงบ้าง” ชายหนุ่มในชุดนอนคุกเข่าลงข้างหนึ่ง พยายามดึงอีกฝ่ายให้หันตัวมาประจันหน้ากับเขาเพื่อดูอาการ
เมื่อวิญญาณผิวขาวซีดหันมาก็ทำให้ภพชะงักกับสิ่งที่เห็นตรงหน้า
ภาพเนื้อบริเวณลำคอลากยาวลงมาด้านล่างเริ่มมีสีแดงก่ำกระจายเป็นบริเวณกว้างโดยมีตุ่มพุพองอันเล็กเกิดขึ้นสองถึงสามเม็ดและมีควันสีเทาคล้ายควันรถสายหนึ่งลอยออกจากบาดแผล
ซึ่งแผลที่ภพเห็นอยู่ตอนนี้ช่างคล้ายคลึงกับแผลบนมือของราห์เมื่อตอนไปตัดต้นไผ่ท้ายสวนบ้านไม่มีผิด
หรือที่ราห์แปลกไปก็เพราะไหมมัดมือที่ยายมัดให้จริง ๆ!?
“นะ นี่ เจ็บมั้ย” ชายหนุ่มถามด้วยน้ำเสียงไม่แน่ใจ ค่อย ๆ เคลื่อนมือข้างที่ไม่มีสายสิญจน์แตะบริเวณแผลอย่างแผ่วเบาเพราะกลัวทำอีกฝ่ายเจ็บ
อึก! เมื่อวิญญาณผิวขาวซีดส่งเสียงภพก็ตกใจรีบชักมือกลับอย่างรวดเร็ว แต่กลับถูกมือร้อนระอุข้างหนึ่งคว้าเอาไว้มั่น
ร้อน? ปกติตัวราห์เย็นนี่?
“ปล่อยก่อนคุณ ผมจะไปเอาน้ำมาราดล้างให้อยู่เฉย ๆ” ภพพยายามชักมือกลับ
“ไม่ ประ โยชน์ เดี๋ยว หาย” เสียงทุ้มต่ำติดแหบนิด ๆ เอ่ยอย่างช้า ๆ ทีละคำแต่ยังคงก้มหน้าหันไปอีกทางไม่ยอมสบตาเขา
“ห๊า คุณบ้าไง๊” ภพแหวใส่วิญญาณหนุ่มไปหนึ่งที
“นั่ง” อีกฝ่ายกระตุกแขนภพเป็นเชิงบอกให้นั่งลง ชายหนุ่มทำคิ้วขมวดนั่งลงตามคำอย่างฮึดฮัด
ภพเม้มปากคล้ายครุ่นคิดอะไรบางอย่าง เขาพ่นลมหายใจออกทางจมูกแรง ๆ ทีหนึ่งแล้วดึงสายสิญจน์ให้ขาดออกจากกันก่อนโยนไปทางห้องครัวอย่างเด็ดเดี่ยว
ถ้ามันเป็นเพราะสิ่งนี้ที่ทำให้ราห์เปลี่ยนไป ถ้าทำให้คุยกันไม่รู้เรื่อง ถ้ามันทำให้คนอื่นเจ็บตัวผมก็พร้อมที่จะถอดมันทิ้งเหมือนกัน
ราห์เบิกตาโตเมื่อเห็นการกระทำของเขาก่อนหันขวับมามองภพที่กำลังจ้องมองอีกฝ่ายรออยู่ก่อนแล้ว
“ทำ ไม” วิญญาณหนุ่มเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่เข้าใจ
“ก็ไหมมัดมือทำคุณเจ็บนี่ งั้นผมก็แค่ถอดออกซะจริงมั้ย” ภพยักคิ้วให้เชิงถามว่าหรือที่เขาพูดไปมันไม่จริง
“ยาย มัด” ราห์พูดไปก็เหม่อมองไปทางด้ายสีขาวที่ถูกโยนทิ้งไว้
“อ๋อ ไม่เป็นไรไว้ให้ยายมัดใหม่ก็ได้ปกติก็ควรถอดภายในหนึ่งอาทิตย์อยู่แล้ว ผมก็แค่ลืม” ชายหนุ่มกล่าวอย่างไม่ใส่ใจนัก “ผมขอโทษเรื่องที่ใส่อารมณ์กับคุณเมื่อกี้ แต่ต่อจากนี้ถ้าผมถามอะไร คุณก็ต้องตอบผมตามจริง ตอบทุกคำถามโอเคนะ”
“ได้ แต่” วิญญาณผิวขาวซีดผงกหัวรับ
“แต่อะไร”
“ทำ ตาม คำ ขอ ฉัน หนึ่ง อย่าง” เขาช้อนตาขึ้นมองด้วยสายตาฉายแววบางอย่าง
“ได้ ถ้าคำขอของคุณไม่ทำร้ายใคร ไม่ฆ่าใคร ไม่เอาชีวิตใครด้วย โอเครนะ?” ว่าจบภพก็ยื่นนิ้วก้อยข้างขวาให้อย่างเคยชินเป็นนิสัย เพื่อเป็นการทำสัญลักษณ์ทางสัญญาใจตามที่เคยทำมาตั้งแต่เด็ก
“ได้” ราห์ปรายตามองนิ้วก้อยของภพก่อนจะคลี่ยิ้มออกมาแล้วยื่นนิ้วก้อยข้างเดียวกันมาเกี่ยวก้อยสัญญา
“ว่ามา”
“-”
“หมายถึงบอกคำขอของคุณมาก่อนไง”
“นาย ก่อน”
“เออ ๆ ก็ได้ คำถามแรก เป็นเพราะไหมมัดมือที่ผมถอดทิ้งเมื่อกี้ใช่มั้ยที่ทำให้คุณเปลี่ยนไป” ภพกล่าวเข้าประเด็นทันที
“น่า จะ”
“เพราะอะไรล่ะ ทำให้คุณเจ็บคุณเลยโมโหเหรอ” ภพกล่าวคําสันนิษฐานของตน
“ไม่ เร็ว ขึ้น”
“อะไรเร็วขึ้นนะคุณ?”
“ฉัน หาย สะ ติ”
โทษทีนะ อะไรหาย...
“อ๋อ! สติคุณจะหายไปเร็วขึ้น? ทำไมล่ะ”
“ไม่ รู้” ราห์เอ่ยคำประจำตัวของตัวเองพลางส่ายหน้าเบา ๆ ภพก็คิดเอาไว้แล้วล่ะนะว่าจะได้คำตอบแบบนี้กลับมา
ภพนั่งครุ่นคิดอยู่นานสองนานก็ยังไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่นัก
“งั้นมาคำถามที่สองก่อนดีกว่า ทำไมคุณถึงบีบคอไอ้ซันมันล่ะ ถ้าคุณทำแบบไม่รู้ตัว จำไม่ได้แสดงว่าต้องมีตัวกระตุ้นน่ะสิ”
“โม โห มาก”
“เรื่อง?”
“นาย”
“ผม?? ยังไงนะคุณ”
“-”
“เพราะมันกอดผม? เพราะผมทับมัน? เหรอ”
“ใช่” เมื่อจบคำภพก็เปลี่ยนจากทำสีหน้างงงวยเป็นระเบิดหัวเราะลั่นจนน้ำหูน้ำตาไหล
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า คุณบ้าป่ะ มาโมโหไรกับเรื่องแค่นี้ขนาดเตียงเดียวกับมันผมก็นอนมาแล้วคุณโมโหเรื่องบ้าไรเนี่ยหรือคิดว่ามันจำปล้ำผมหรือไง โอ๊ย555มันชอบผู้หญิงนะคุณ คุณทำผมหัวเราะจนปวดท้องไปหมดแล้ว”
“-” ผีหนุ่มมองภพหัวเราะด้วยสีหน้าบึ้งตึงเต็มไปด้วยขีดสีดำ
“ก็ได้ ๆ ผมหยุดหัวเราะแล้ว ๆ” ภพว่าพลางเช็ดน้ำตาที่หางตาทีหนึ่งก่อนฮึบไม่ให้หัวเราะอีกครั้ง
“สรุปแล้วเรื่องทั้งหมดก็เป็นเพราะสายสิญจน์สินะ งั้นต่อไปข้อสามผมต้องทำยังไงคุณถึงจะไปสู่สุคติได้ ทำบุญใหญ่ให้เหรอ”
“พอ ถึง เว ลา จะ ไป เอง” วิญญาณผิวซีดส่ายหน้าปฏิเสธ
“อืมงั้นเองสินะเมื่อไหร่ล่ะ แล้วคุณอยากให้ผมทำอะไรให้มั้ย หรือคุณอยากได้อะไรก็บอกผมมาได้เลยผมพร้อมทำให้”
“มี สิ” ราห์เอ่ยโดยเลี่ยงไม่ตอบคำถามในประโยคแรกแบบเนียนๆ ซึ่งดึงความสนใจภพได้ดีนัก
“หือ? อะไรๆ บอกมาได้เลย”
“แบบ นี้ ไง” สิ้นเสียงราห์ยื่นมือออกไปจับใบหน้าของเขาค้างไว้โดยไม่ได้ใช้แรงมากนัก ก่อนโน้มใบหน้าคมเข้ามาใกล้อย่างเชื่องช้า ทั้งคู่อยู่ใกล้กันมากจนภพรู้สึกได้ถึงลมหายใจอุ่นร้อนชวนจั๊กจี้นิด ๆ บริเวณติ่งหู
ผีมีลมหายใจด้วยเหรอ?
ไม่ทันได้คิดอะไร ภพก็รู้สึกว่าปากของตนกำลังโดนกัด เขาสบสายตากับราห์อยู่พักหนึ่งสายตาที่เป็นการขออนุญาตจากตัวเขา ภพที่แข็งเกร็งอยู่จึงปล่อยร่างกายผ่อนคลายลงและให้อีกฝ่ายทำตามอำเภอใจได้ สิ่งแรกที่รู้สึกคือกลิ่นหอมคล้ายกลิ่นกาแฟคั่วคละคลุ้งทั่วโพรงปากที่เหมือนเขาคุ้นเคยเป็นอย่างดี เขาตอบสนองกลับอย่างเผลอไผล เมื่อโดนรุกรานมากเข้าทำให้แพขนตาดำยาวของภพกะพริบถี่รัว เขาเอื้อมมือไปประคองเอวราห์ตอบทำเอาอีกฝ่ายหยุดชะงักไปครู่หนึ่งแล้วเริ่มเข้าสู่การสัมผัสกันอีกครั้ง
จูบของราห์เสมือนเป็นการแสดงตัวตนที่ซ่อนอยู่ลึกของเจ้าตัว ทั้งโหยหา มีความต้องการแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ อีกทั้งแอบเผด็จการอยู่หน่อย ๆ แต่ก็ยังคงยับยั้งตัวเองไว้เพราะอะไรบางอย่าง
ทั้ง ๆ ที่เป็นฝ่ายเริ่มรุกก่อนแท้ ๆ ทว่าเมื่อภพยอมให้ล่วงล้ำเข้ามากันจริง ๆ เจ้าตัวกลับยอมทิ้งการรุกรานทั้งหมดที่ตนเป็นฝ่ายเริ่ม และถอยกลับมาเพียงแค่คลอเคลียริมฝีปากของเขาไม่ห่างเท่านั้น ไม่กล้ารุกล้ำกลับเข้ามาอีกก้าวหนึ่งซะแบบนั้น
ภพเลิกคิ้วก่อนเปิดปากเลียอีกฝ่ายไปทีหนึ่งอย่างหยอกเย้า
วิญญาณหนุ่มตัวแข็งทื่อ ลืมตาขึ้นทันที
พอสบตากัน ราห์ก็ผละออกมาแล้วกัดภพแทนเหมือนเป็นการแก้แค้นที่ทำให้เขาตกใจเมื่อสักครู่ เขาขบริมฝีปากล่างของภพอย่างแผ่วเบาเชิงแกล้งก่อนถอยแยกออกจากกันอย่างอ้อยอิ่ง
ทั้งสองต่างหอบหายใจแรงกันทั้งคู่
“คุณ..อยากทำเหรอ?” ภพตัดสินใจเอ่ยปากถาม
“ใช่” ราห์มองเขาด้วยสายตาฉายแววความต้องการ ซึ่งสายตานี้เขาก็รู้อยู่แก่ใจว่าอีกฝ่ายต้องการอะไร
“ผีทำได้ด้วยหรือไง” ชายหนุ่มหัวเราะเหอะออกมาด้วยความตลกของตัวเอง
นี่ผม อยากทำกับวิญญาณงั้นเหรอเนี่ย!? แต่ความรู้สึกเมื่อกี้กลับดีเป็นบ้า
“น่า จะ ได้”
“แล้วทำไมเมื่อกี้คุณไม่ทำต่อ ถ้าคุณอยากทำ” ภพเอียงคอถามอย่างนึกสงสัย
“นาย..” ราห์เคลื่อนมือหนามาลูบแก้มภพอย่างช้า ๆ เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงแหบพร่าทีละคำ ทีละคำ “นาย ยัง ไม่ ได้ เตรียม ตัว นาย จะ เจ็บ”
“คุณเป็นผี คงไม่จำเป็นหรอกมั้งถ้าคุณอยาก อีกอย่างผมมีเจลเก่าเก็บอยู่บนห้องนอน” ภพลองถามหยั่งเชิง
วิญญาณหนุ่มอดยกมุมปากขึ้นไม่ได้ เขาหัวเราะออกมาทีหนึ่งแต่เขายังคงส่ายหัวปฏิเสธอยู่ดี
แต่ภพที่ความต้องการพลุ่งพล่านพุ่งสูงในรอบหลายเดือนถูกทำให้ค้างเติงอยู่ ก็อดไม่ได้ที่จะคว้าข้อมืออีกฝ่ายเดินขึ้นไปบนชั้นสอง ที่หมายคือห้องนอนของตน “ถ้าผมไม่ได้เตรียม คุณก็เตรียมให้ผมซะสิ” ภพยักยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
เมื่อประตูห้องถูกปิดลง วิญญาณหนุ่มได้ตวัดขาภพขึ้นเขาถูกอุ้มไปวางที่เตียงอย่างอ่อนโยนก่อนที่ราห์เอ่ยเสียงกระเซ้าว่า “นาย ยั่ว เอง นะ”
ช่วงTalk
ภพ:ไปยั่วตอนไหนไม่ทราบครับ??//หน้าแดง
ราห์:ยิ้มกริ่ม
น้องภพมีebookแล้วนะคะแม่ ๆ (ใครอยากสนับสนุนไรท์กดซื้อผ่านทางลิงค์นี้ได้เลยนะคะ)
https://www.mebmarket.com/web/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTY2OTE5OSI7czo3OiJib29rX2lkIjtzOjY6IjI5OTMwNCI7fQ