ใครจะคิดว่าการไปเที่ยวงานวัดธีมฮาโลวีนในค่ำคืนนั้น ภพจะโดนวิญญาณปริศนาตามกลับมาถึงบ้าน! ที่น่าแปลกคือวิญญาณตนนั้นกลับช่วยชีวิตเขาไว้อีกหลายครั้งหลายคราจนน่าแปลกใจ

คั่นเพียง"ภพ" - 21 เพียงเจอคู่อริเดิมหมายเอาชีวิต โดย LinLiLing @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,ดราม่า,ตลก,ลึกลับ,ชาย-ชาย,BL,วาย,ฟิลกู้ด,วิญญาณ,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

คั่นเพียง"ภพ"

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,ดราม่า,ตลก,ลึกลับ,ชาย-ชาย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

BL,วาย,ฟิลกู้ด,วิญญาณ

รายละเอียด

ใครจะคิดว่าการไปเที่ยวงานวัดธีมฮาโลวีนในค่ำคืนนั้น ภพจะโดนวิญญาณปริศนาตามกลับมาถึงบ้าน! ที่น่าแปลกคือวิญญาณตนนั้นกลับช่วยชีวิตเขาไว้อีกหลายครั้งหลายคราจนน่าแปลกใจ

ผู้แต่ง

LinLiLing

เรื่องย่อ

“ภพ” คือชื่อเรียกที่เขาเพียรตามหา

“ภพ” คือสิ่งที่ขวางกั้นระหว่างเขากับเด็กคนนั้น

“ภพ” คือคนที่เขาต้องการอยู่เคียงข้าง แม้นว่าวันหนึ่งเขาจะกลายเป็นปีศาจร้ายก็ตาม

“ราห์” คือชื่อที่เขาพึ่งรู้จัก

“ราห์” คือชื่อบุคคลที่คอยช่วยเขาเอาไว้หลายต่อหลายครั้ง

“ราห์"คือคนที่เขาไม่อยากให้หายไปสักนิดแม้ตัวเขาจะจำอะไรไม่ได้เลยก็ตาม

Trigger Warning

blood มีเลือด/murder มีฉากฆ่าที่โหดร้าย/ghost มีผี

ขอฝากน้องภพไว้ในอ้อมอกอ้อมใจเหล่าแม่ ๆ ทุกท่านด้วยนะคะ มาเจอน้องภพพร้อมกันได้ทุกวันเวลา 18.00น.น๊า 

 #ผมเก็บผีได้ในวันฮาโลวีนแหละครับ
 


ผู้แต่ง:LinLiLing
ภาพปก:ณหญิง
ภาพปกจิบิ:Senh Mee
 

สารบัญ

คั่นเพียง"ภพ"-1 เพียงเฝ้าฝัน,คั่นเพียง"ภพ"-2 เพียงเริ่มต้น,คั่นเพียง"ภพ"-3 เพียงวันธรรมดา,คั่นเพียง"ภพ"-4 เพียงพบเจอ,คั่นเพียง"ภพ"-5 เพียงเที่ยววันฮาโลวีน,คั่นเพียง"ภพ"-6 เพียงจูบแรก,คั่นเพียง"ภพ"-7 เพียงเริ่มต้นอยู่ด้วยกัน,คั่นเพียง"ภพ"-8 เพียงวิ่งสับตีนแตก,คั่นเพียง"ภพ"-9 เพียงหนีตาย,คั่นเพียง"ภพ"-10 เพียงเห็นตุงแดง,คั่นเพียง"ภพ"-11 เพียงเจอครอบครัว,คั่นเพียง"ภพ"-12 เพียงพาผีเข้าบ้าน,คั่นเพียง"ภพ"-13 เพียงแหวนเงิน,คั่นเพียง"ภพ"-14 เพียงฝันตื่นหนึ่งในอดีต,คั่นเพียง"ภพ"-15 เพียงลางร้ายคืบคลาน,คั่นเพียง"ภพ"-16 เพียงไม่ยอมใกล้แต่กลับไม่ยอมห่าง,คั่นเพียง"ภพ"-17 เพียงชั่ววูบ,คั่นเพียง"ภพ"-18 เพียงการกระทำอันไม่คาดคิด,คั่นเพียง"ภพ"-19 เพียงปรับความเข้าใจ,คั่นเพียง"ภพ"-20 เพียงมอบความอบอุ่น(แซ่บ),คั่นเพียง"ภพ"-21 เพียงเจอคู่อริเดิมหมายเอาชีวิต,คั่นเพียง"ภพ"-22 เพียงตัวตายตัวแทน,คั่นเพียง"ภพ"-23 เพียงหายจาก,คั่นเพียง"ภพ"-24 เพียงไม่อาจพบเจอกันได้อีก,คั่นเพียง"ภพ"-25 เพียงใช้ชีวิตหลังบางสิ่งหายไป,คั่นเพียง"ภพ"-26 เพียงพบเจอหลวงตา,คั่นเพียง"ภพ"-27 เพียงพบเจอเบาะแส,คั่นเพียง"ภพ"-28 เพียงรูปถ่ายใบหนึ่ง,คั่นเพียง"ภพ"-29 เพียงหวนคืนอดีต,คั่นเพียง"ภพ"-30 เพียงหวนคืนสู่ความจริง,คั่นเพียง"ภพ"-31 เพียงไม่อาจให้อภัย,คั่นเพียง"ภพ"-32 เพียงก่อนจากลา,คั่นเพียง"ภพ"-33 เพียงเพียรพากลับ,คั่นเพียง"ภพ"-34 เพียงอีกด้านของเหรียญ,คั่นเพียง"ภพ"-35 เพียงกลับบ้าน จบ,คั่นเพียง"ภพ"-36 ตอนพิเศษ มอบแหวนสัญญา,คั่นเพียง"ภพ"-37 ตอนพิเศษย้ายกลับเข้าบ้าน,คั่นเพียง"ภพ"-38 ตอนพิเศษ ช่วงฝนโปรยปราย

เนื้อหา

21 เพียงเจอคู่อริเดิมหมายเอาชีวิต

ผ้าม่านโปร่งแสงถูกเปิดเอาไว้ครึ่งหนึ่งส่งผลให้แดดยามเช้าสาดส่องมาที่เตียง แสงสีทองอบอุ่นอาบไล้ร่างกายของคนที่ยังนอนหลับสนิทอยู่บนนั้น

ราห์นั่งมองจ้องภพมานานแล้วก่อนยื่นมือไปสัมผัสเส้นผมสีปีกอีกาของอีกฝ่ายอย่างแผ่วเบา

ตริ๊ง ตริ๊ง เสียงโทรศัพท์เข้าดังขึ้นรบกวนบรรยากาศอันเงียบสงบ

ภพควานหาโทรศัพท์อยู่สักพักแต่ก็หาไม่เจอสักทีก่อนจะมีมือขาวซีดข้างหนึ่งยื่นโทรศัพท์มาให้เขา

“ฮัลโหล ว่าไง” เขากล่าวในขณะที่กำลังพยายามลุกขึ้นด้วยท่าทางเกียจคร้าน น้ำเสียงไม่เป็นมิตรนักเพราะโดนโทรปลุกในยามเช้าตรู่

“เสียงมึงอย่างโหดเลย กูแค่อยากถามว่าเมื่อคืนเป็นไงบ้างเฉย ๆ”

“เมื่อคืน?”

“เออเมื่อคืน มึงเคลียร์กับผีในบ้านมึงยัง” เมื่อนึกถึงเรื่องเมื่อคืนวาน ภาพที่เขาโดนวิญญาณหนุ่มรังแกจนถึงเกือบเช้าก็ฉายชัดกลับเขาสมองอีกครั้ง

ใบหน้าที่พึ่งตื่นเริ่มเห่อแดงจนถึงใบหู เมื่อเงยหน้าพลันเห็นผีที่อยู่ตรงข้ามก็ทำเอาเขาอายแทบแทรกแผ่นดินหนี

ภพที่อยู่ในชุดเสื้อยืดตัวโคร่งก็ปาหมอนใส่วิญญาณตรงหน้าอย่างแรงทีหนึ่งแล้ว ลุกขึ้นเพื่อจะเดินหนีไปคุยกับเพื่อนสนิทที่ชั้นล่าง แต่ทว่าลุกขึ้นไม่ทันไรก็เห็นรอยขบกัดประปรายตามต้นขา

เขาเห็นดังนั้นก็พูดตัดสายเพื่อนรักทิ้งทันที” ไว้อีกชั่วโมงค่อยคุยกันนะมึง” ก่อนหันขวับจ้องเขม็งตัวต้นเรื่องอย่างเอาเรื่อง

“ขอโทษที่ฉันกัดจนเป็นรอยนะพอดีอดใจไม่ไหวน่ะ” ราห์เอ่ยเสียงเศร้าอย่างหงอย ๆ แต่แววตากลับฉายความต้องบางอย่างที่ถ้าภพรู้คงโดนต่อยไปหนึ่งรอบเป็นแน่

“หื่นนัก!” ภพถลึงตามองใส่ ถอนหายใจอย่างปลงตกก่อนจะตกใจอีกครั้ง” คุณพูดแบบยาว ๆ ได้แล้วงั้นเหรอ!! แถมรอยก็หายไปแล้วด้วย”

“คงใช่” เจ้าตัวเหมือนพึ่งรู้ตัวก็ตอบกลับแบบงง ๆ

“ไม่สิ น่าจะพูดได้ตั้งแต่เมื่อคืน แต่ทำมั้ยถึงพูดเป็นประโยคได้แล้วกันล่ะ” ”ภพก้มหน้าครุ่นคิด

“ไม่รู้สิ แต่เป็นเพราะที่เราทำกันเมื่อคืนหรือเปล่า” ราห์เดินเข้ามาใกล้พร้อมเอ่ยถามด้วยสายตาหยอกล้อ

“ไม่รู้!! คุณไปรอด้านล่างเลยผมจะอาบน้ำแล้ว” ภพพยายามดันตัวอีกฝ่ายให้ออกจากห้องนอนตนก่อนปิดประตูกระแทกใส่หน้าวิญญาณหนุ่มเสียงดัง

“แล้วห้ามทะลุร่างผ่านประตูมานะเฮ้ย!” ภพตะโกนบอกห้ามผีนอกด้านประตูอีกครั้ง

เมื่อเขาหันหน้ามามองในห้องก็พบกลับสภาพห้องที่ดูดีกว่าที่คาดคิดไว้เสื้อผ้าภพถูกนำไปไว้ในตะกร้าซัก เพราะจากสภาพความรุนแรงเมื่อนี้สภาพห้องก็ไม่น่าดูได้ขนาดนี้เช่นกัน

คงพยายามทำความสะอาดสินะ เสื้อที่เราใส่ก็ตัวใหม่ด้วย...

แป๊บนะ! ปกติหมอนั่นก็หยิบจับสิ่งของได้บ้างบางครั้งแต่ก็แทบจะนับด้วยสิบนิ้วได้เพราะส่วนใหญ่เขาจับต้องได้แค่กับตัวผม ครั้งนี้กลับขนย้ายเสื้อผ้าไปมาได้ แถมไปหยิบเสื้อมาเปลี่ยนให้เขาด้วยอีก

นี่มันแอบแปลกจากปกติไปเสียหน่อย

ไว้ค่อยถามละกัน

เขาเหลือบมองสังเกตเตียงของตนแต่สภาพกลับไม่ต่างจากการที่ภพนอนดิ้นไปมาคนเดียวทั้งคืนเท่านั้น ไม่มีร่องรอยของอีกคนหนึ่งที่เคยใช้เวลาด้วยกันยามค่ำคืนหลงเหลือไว้สักนิด

มันก็แอบชวนให้เขาคิดว่าบางทีสิ่งที่เขาเจอสิ่งที่เขาทำมันก็แค่เรื่องที่เขามโนไปเองรึเปล่านะ

ในระหว่างที่กำลังกวาดตามอง ความรู้สึกไม่สบายตัวก็ดึงเขากลับสู่โลกแห่งความจริงและสิ่งที่ควรทำอันดับแรกคืออาบน้ำ!

แต่เดี๋ยว!? เมื่อคืนเราทำ...กับผีเรอะ!?

ดูท่าเราคงอดอยากมานานเกินไปซินะ....

นึกถึงความจริงข้อนี้ภพก็พลันตกใจ แต่ด้วยความที่ช่วงนี้เขาเจอเรื่องที่ไม่สามารถอธิบายได้ในหลาย ๆ เรื่องเขาจึงต้องทำใจและไม่ต้องไปคิดถึงข้อเท็จจริงให้มันมากนัก

เพราะคิดไปก็รกหัวสมองเฉย ๆ ไม่ได้อะไรขึ้นมาหรอก

หลังภพอาบน้ำเสร็จก็สดชื่นขึ้นมาก เขาตระเตรียมไม้กวาดและที่ตักผงไว้พร้อมก่อนเริ่มลงมือจัดการเศษแก้วจากหลอดไฟที่แตกกระจายเป็นเศษเล็กเศษน้อยตามพื้นอย่างระมัดระวัง

ลองเหยียบโดนเศษเล็กๆ นี่ดูสิเจ็บจะตายชัก เอาออกยากอีกต่างหาก

“นี่ราห์ คุณมีพลังเยอะขึ้นหรือเปล่า” ในระหว่างเก็บเศษซากภพนึกฉุกคิดถึงคำถามก่อนอาบน้ำขึ้นมาได้

“น่าจะใช่”

“ว่าแล้วเชียว เพราะถ้าไม่เป็นแบบนั้นไม่ก็อธิบายเรื่องที่คุณพูดได้แบบปกติ แถมหยิบโทรศัพท์ให้ผมได้ด้วย แล้วทำไมถึงมีพลังขึ้นมาละ เพราะทำบุญให้เหรอ?”

“คงใช่มั้ง” วิญญาณหนุ่มผงกศีรษะรับคำริมฝีปากบางเฉียบหยักยิ้มน้อย ๆ ตามวิสัย แต่เขาคิดว่ายิ้มนี่มันออกจะมีเล่ห์นัยแบบแปลก ๆ

“ถ้าใช่ก็มาช่วยกันหน่อยดิคุณ จะได้เสร็จเร็วๆ”

“ไม่ใช่ว่าฉันไม่อยากช่วย แต่ฉันจับเศษแก้วไม่ได้” ว่าแล้วราห์ย่อเข่าลงพยายามก้มหยิบเศษแก้วชิ้นหนึ่งขึ้นมา แต่นิ้วมือของเขานั้นกลับปัดผ่านไปโดยแตะต้องเศษแก้วชิ้นนั้นไม่ได้

“แสดงว่าคุณจับอะไรบางอย่างไม่ได้ซินะ” เขาถอนหายใจอย่างนึกขี้เกียจที่ต้องมานั่งทำความสะอาดเองคนเดียว

ไอ้สีหน้าสำนึกผิด หงอย ๆ นั้นน่ะไม่จำเป็น! มันช่วยอะไรฉันไม่ได้เหอะ

ภพปาดเหงื่อมองห้องนั่งเล่นอย่างพอใจเมื่อจัดการทำความสะอาดเศษแก้วและคราบหยดเลือดของซันเรียบร้อยแล้ว เหลือก็เพียงแต่ต้องจัดการซื้อหลอดไฟมาเปลี่ยนใหม่เป็นอันเสร็จ

เฮ้อ เสียเงินอีกแล้วสิเรา ค่าหลอดไฟไม่ได้อยู่ในแพลนงบค่าใช้จ่ายเดือนนี้ด้วยซ้ำ เขาคิดอย่างถอดถอนใจ

“ราห์ เราไปแวะดูร้านก่อนแล้วค่อยซื้อหลอดไฟกันเถอะ” เขาเท้าสะเอวเรียกชื่อวิญญาณหนุ่มที่เอาแต่ลอยไปลอยมา วนมองภพทำงานอย่างเงียบ ๆ มานาน

“อืม” ราห์งกหัวรับคำอย่างว่าง่าย

ภพถือกล่องกระดาษใส่เศษแก้วที่ถูกปิดทับไว้อย่างดีพร้อมเขียนโน้ตติดด้วยท่าทางครุ่นคิดเหมือนมีเรื่องหนักใจบางอย่าง ตอนออกจากบ้านตนก็แทบจะก้าวบันไดพลาดเสียแล้ว โชคดีที่ราห์มาพยุงเขาไว้ได้ทันเวลา

“เดินก็ดูทางบ้างสิ! คิดอะไรอยู่” วิญญาณผิวขาวซีดดุเบา ๆ

พอเดินทางมาถึงร้านเวลาบ่ายคล้อย ภพกะไว้แค่ว่ามาเพื่อดูความเรียบร้อยนิด ๆ หน่อย ๆ เพียงเท่านั้นกลับกลายเป็นว่าวันนี้ลูกค้าเข้าร้านมามากกว่าปกติถึงสี่เท่า แถมพนักงานคิดเงินลากะทันหันกันตั้งสองคนทำให้ในช่วงเวลาที่ภพไปถึงร้านจึงชลมุนวุ่นวาย

ภพจึงโดนพี่สาวตนที่กำลังหัวหมุนลากให้ไปช่วยคิดเงินหน้าเคาน์เตอร์แทนพนักงานที่ลากะทันหันกัน ช่วยไปช่วยมาตะวันก็เริ่มลับขอบฟ้าไปเสียแล้ว

เป้าหมายที่ตั้งไว้ว่าจะมาซื้อหลอดไฟแล้วกลับบ้านเป็นอันต้องเลื่อนไป

ภพตอนนี้กำลังชั่งใจอยู่ว่าจะไปซื้อหลอดไฟเลยดีหรือไม่หรือหาอะไรทานแล้วกลับบ้านเลย เนื่องด้วยตอนนี้เป็นฤดูหนาวทำให้ท้องฟ้าค่อนข้างมืดเร็วกว่าปกติมากทั้ง ๆ ที่เวลายามนี้แค่เพียงห้าโมงเย็นแต่กลับเริ่มมืดแล้ว

ถ้าเป็นหน้าร้อนเวลานี้ท้องฟ้าคงยังสว่างโร่แน่

อืม...ตอนนี้ร้านคงปิดไปแล้วด้วยสิ ถ้าไม่ไปซื้อทำให้เสร็จคงค้างคาจนรู้สึกนอนไม่หลับชัวร์ ร้านแถวนี้จะมีเปิดบ้างมั้ยนะ

“พี่ มีร้านขายพวกหลอดไฟแท่งยาวแถวนี้ที่ยังเปิดบ้างมั้ย” ภพหันไปถามพี่สาวแท้ ๆ ของตน

เพื่อไม่ให้รู้สึกค้างคาใจเขาจึงตัดสินใจซ่อมวันนี้ให้มันเสร็จ ๆ ไป เป็นนิสัยที่แก้ไม่อ่ะนะ

“โค๊ะ ตอนนี้มีร้านไหนที่เปิดอยู่อีก อืม แป๊บนะ” ภาเงียบไปครุ่นคิดสักพักก่อนตอบมาว่า

“เดินตรงไปอีกนิดหน่อยแล้วเลี้ยวเข้าซอยข้างซ้ายนั้นอ่ะ พอเจอซอยก็เข้าไปเลย เดินไปอีกนิดเดียวถึง ร้านหาง่ายอยู่นะเป็นร้านลูกค้าที่มาประจำน่ะ”

“เอ๋พี่ ต้องเข้าซอยนั้นจริงดิ” หลังฟังคำบอกทางไปร้านจบ เขาพลันนึกไปถึงเหตุการณ์อันลุ้นระทึกวิ่งหนีผีอย่างอดไม่ได้จนขนลุกเกรียว

“ก็จริงน่ะสิ ใกล้แค่นี้เองแค่สองซอย ไปไปไปรีบไปก่อนเขาจะปิดร้าน” พี่สาวเอ่ยเร่งพร้อมโบกมือไล่เพราะกลัวจะค่ำมืดไปมากกว่านี้

ภพได้แต่ทำหน้าเหวอเดินออกจากร้านมาแบบงง ๆ ก่อนหยุดยืนชั่งใจว่าจะไปดีไม่ไปดี

ถ้าแค่สองซอยคงเดินไปไม่ถึงจุดเดิมที่เคยเจอแน่ เพราะงั้นคงไม่เป็นอะไรหรอกมั้ง? อีกอย่างราห์ก็ไปด้วย อุ่นใจไปได้เปลาะหนึ่ง

ตัดสินใจได้แล้ว เขาจึงรีบก้าวออกเดินทางตรงดิ่งไปร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างรวดเร็ว พร้อมกันนั้นวิญญาณผิวขาวซีดได้หันเดินมาเทียบเคียงชายหนุ่ม จังหวะการย้ำเท้าสอดประสานพร้อมกันอย่างคนเคยชิน

ภพคิดแค่ว่ารีบไปซื้อรีบกลับก่อนมืดตามที่พี่ภาบอกจะดีกว่า เดินจากนี่ถึงร้านคงไม่เกินห้านาทีหรอก

เมื่อภพเดินเลี้ยวเข้าซอยเล็กตามคำบอกของพี่สาวตน บรรยากาศอันครึกครื้นมีชีวิตชีวาเต็มไปด้วยเสียงรถราและเสียงจอแจพูดคุยของผู้คนสัญจรไปมา บนถนนเส้นใหญ่ย่านธุรกิจที่เขาพึ่งเดินผ่านมาสักครู่นี้กลับคล้ายเป็นดั่งควันลวง เพราะนับตั้งแต่ภพได้ก้าวขาเข้าซอยนี่ เสียงและบรรยากาศครึกครื้นด้านนอกกลับเริ่มเงียบลง และเส้นถนนไม่มีคนสัญจรเดินเลยแม้แต่คนเดียวมีเพียงเขาที่เดินเข้ามา ทว่ายังคงได้ยินเสียงรถราอยู่รางๆ พอให้ภพได้ชื่นใจ

เสาไฟฟ้าตามซอยเล็กยังคงมืดสนิท เพราะยังไม่ถึงเวลาเปิดตามปกติ ถึงแม้ในตอนนี้แสงอัสดงสุดท้ายยังไม่ลาลับขอบฟ้า แต่เงาพาดผ่านจากตึกสูงระฟ้าใบบริเวณย่านธุรกิจนั้นกลับบดบังแสงไปจนเกือบหมด ส่งผลให้พื้นถนนที่ชายหนุ่มกำลังเดินอยู่ไม่สว่างเท่าที่ควรเป็น

“นี่มันมืดไปหน่อยป้ะ มันยังไม่หกโมงเลยนะเว้ย” ภพบ่นอุบอิบระหว่างเดินก็ควานหาโทรศัพท์ตนมาเปิดไฟฉายส่องทาง

“เพราะไฟกิ่งยังไม่เปิดเดินให้ระวังหน่อย” วิญญาณหนุ่มที่เดินเคียงบ่ามาตลอดทางปรายตามอง เอ่ยเตือนเบา ๆ เพราะบริเวณซอยก็ไม่ได้สะอาดนักเขากลัวมีเศษแก้วเศษอะไรที่ถ้าสะดุดล้มขึ้นมาจะทำให้บาดเจ็บเอาได้ ยิ่งคนข้างกายที่มีเลือดมีเนื้ออุ่น ๆ มักซุ่มซ่ามแตะโน่น โดนนี่อยู่บ่อย ๆ

“รู้แล้วน่า แค่นี้ไปนี่ไม่ไกลซะหน่อย นั้นไงเลี้ยวตรงนั้นก็ถึงแล้ว” ว่าพลางชี้ให้เพื่อนร่วมทางดู ภพตบแขนเขาเป็นสัญญาณให้รีบตามเขามา

ครั้นเห็นแสงสว่างโร่จากหน้าร้านขายของภพก็ใจชื้นรีบตรงดิ่งเดินเข้าไป ทว่าต้องมีอันชะงักกึก

กลิ่นเหม็นเน่าน่าชวนขย้อนอาหารที่ทานมาทั้งวัน โชยออกมาจากเงาร่างหลังค่อมร่างหนึ่ง ผมเผ้ายุ่งเหยิงที่ไม่รู้ว่าใช่หญิงหรือชายปรากฏตัวขวางทางเขาไว้ สะท้อนเต็มสองนัยน์ตาภพที่กำลังเบิกกว้าง ภาพพื้นหลังคือแสงสว่างจ้าจากร้านค้าจุดหมายที่เขาต้องการไป

ณ วินาทีนั้น ภาพซ้อนของเหตุการณ์เดิมหลั่งไหลเข้าสู่ความทรงจำ เหงื่อเย็นเริ่มผุดพรายจากความหวาดกลัว ถึงแม้เขาจะไม่อยากจำได้ แต่เพราะผ่านไปไม่นานเขาจึงจำได้อย่างแม่นยำ หัวใจเริ่มเต้นรัวแรง ความคิดอันน่ากลัวผุดขึ้นในใจ

เชี่ย! ตัวเดิมกับที่วิ่งไล่ผมด้วยท่าทางเหมือนหมาตอนนั้นใช่มั้ย!!

แต่มันไม่ควรมาอยู่ที่นี่!!

ช่วงTalK
ภพ:กูหนีแทบตายแหงโผล่มาอีกแล้วว่ะ//โมโห
ราห์:วิ่ง!!
 

น้องภพมีebookแล้วนะคะแม่ ๆ (ใครอยากสนับสนุนไรท์กดซื้อผ่านทางลิงค์นี้ได้เลยนะคะ)
https://www.mebmarket.com/web/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTY2OTE5OSI7czo3OiJib29rX2lkIjtzOjY6IjI5OTMwNCI7fQ