ใครจะคิดว่าการไปเที่ยวงานวัดธีมฮาโลวีนในค่ำคืนนั้น ภพจะโดนวิญญาณปริศนาตามกลับมาถึงบ้าน! ที่น่าแปลกคือวิญญาณตนนั้นกลับช่วยชีวิตเขาไว้อีกหลายครั้งหลายคราจนน่าแปลกใจ

คั่นเพียง"ภพ" - 23 เพียงหายจาก โดย LinLiLing @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,ดราม่า,ตลก,ลึกลับ,ชาย-ชาย,BL,วาย,ฟิลกู้ด,วิญญาณ,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

คั่นเพียง"ภพ"

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,ดราม่า,ตลก,ลึกลับ,ชาย-ชาย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

BL,วาย,ฟิลกู้ด,วิญญาณ

รายละเอียด

คั่นเพียง"ภพ" โดย LinLiLing  @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ใครจะคิดว่าการไปเที่ยวงานวัดธีมฮาโลวีนในค่ำคืนนั้น ภพจะโดนวิญญาณปริศนาตามกลับมาถึงบ้าน! ที่น่าแปลกคือวิญญาณตนนั้นกลับช่วยชีวิตเขาไว้อีกหลายครั้งหลายคราจนน่าแปลกใจ

ผู้แต่ง

LinLiLing

เรื่องย่อ

“ภพ” คือชื่อเรียกที่เขาเพียรตามหา

“ภพ” คือสิ่งที่ขวางกั้นระหว่างเขากับเด็กคนนั้น

“ภพ” คือคนที่เขาต้องการอยู่เคียงข้าง แม้นว่าวันหนึ่งเขาจะกลายเป็นปีศาจร้ายก็ตาม

“ราห์” คือชื่อที่เขาพึ่งรู้จัก

“ราห์” คือชื่อบุคคลที่คอยช่วยเขาเอาไว้หลายต่อหลายครั้ง

“ราห์"คือคนที่เขาไม่อยากให้หายไปสักนิดแม้ตัวเขาจะจำอะไรไม่ได้เลยก็ตาม

Trigger Warning

blood มีเลือด/murder มีฉากฆ่าที่โหดร้าย/ghost มีผี

ขอฝากน้องภพไว้ในอ้อมอกอ้อมใจเหล่าแม่ ๆ ทุกท่านด้วยนะคะ มาเจอน้องภพพร้อมกันได้ทุกวันเวลา 18.00น.น๊า 

 #ผมเก็บผีได้ในวันฮาโลวีนแหละครับ
 


ผู้แต่ง:LinLiLing
ภาพปก:ณหญิง
ภาพปกจิบิ:Senh Mee
 

สารบัญ

คั่นเพียง"ภพ"-1 เพียงเฝ้าฝัน,คั่นเพียง"ภพ"-2 เพียงเริ่มต้น,คั่นเพียง"ภพ"-3 เพียงวันธรรมดา,คั่นเพียง"ภพ"-4 เพียงพบเจอ,คั่นเพียง"ภพ"-5 เพียงเที่ยววันฮาโลวีน,คั่นเพียง"ภพ"-6 เพียงจูบแรก,คั่นเพียง"ภพ"-7 เพียงเริ่มต้นอยู่ด้วยกัน,คั่นเพียง"ภพ"-8 เพียงวิ่งสับตีนแตก,คั่นเพียง"ภพ"-9 เพียงหนีตาย,คั่นเพียง"ภพ"-10 เพียงเห็นตุงแดง,คั่นเพียง"ภพ"-11 เพียงเจอครอบครัว,คั่นเพียง"ภพ"-12 เพียงพาผีเข้าบ้าน,คั่นเพียง"ภพ"-13 เพียงแหวนเงิน,คั่นเพียง"ภพ"-14 เพียงฝันตื่นหนึ่งในอดีต,คั่นเพียง"ภพ"-15 เพียงลางร้ายคืบคลาน,คั่นเพียง"ภพ"-16 เพียงไม่ยอมใกล้แต่กลับไม่ยอมห่าง,คั่นเพียง"ภพ"-17 เพียงชั่ววูบ,คั่นเพียง"ภพ"-18 เพียงการกระทำอันไม่คาดคิด,คั่นเพียง"ภพ"-19 เพียงปรับความเข้าใจ,คั่นเพียง"ภพ"-20 เพียงมอบความอบอุ่น(แซ่บ),คั่นเพียง"ภพ"-21 เพียงเจอคู่อริเดิมหมายเอาชีวิต,คั่นเพียง"ภพ"-22 เพียงตัวตายตัวแทน,คั่นเพียง"ภพ"-23 เพียงหายจาก,คั่นเพียง"ภพ"-24 เพียงไม่อาจพบเจอกันได้อีก,คั่นเพียง"ภพ"-25 เพียงใช้ชีวิตหลังบางสิ่งหายไป,คั่นเพียง"ภพ"-26 เพียงพบเจอหลวงตา,คั่นเพียง"ภพ"-27 เพียงพบเจอเบาะแส,คั่นเพียง"ภพ"-28 เพียงรูปถ่ายใบหนึ่ง,คั่นเพียง"ภพ"-29 เพียงหวนคืนอดีต,คั่นเพียง"ภพ"-30 เพียงหวนคืนสู่ความจริง,คั่นเพียง"ภพ"-31 เพียงไม่อาจให้อภัย,คั่นเพียง"ภพ"-32 เพียงก่อนจากลา,คั่นเพียง"ภพ"-33 เพียงเพียรพากลับ,คั่นเพียง"ภพ"-34 เพียงอีกด้านของเหรียญ,คั่นเพียง"ภพ"-35 เพียงกลับบ้าน จบ,คั่นเพียง"ภพ"-36 ตอนพิเศษ มอบแหวนสัญญา,คั่นเพียง"ภพ"-37 ตอนพิเศษย้ายกลับเข้าบ้าน,คั่นเพียง"ภพ"-38 ตอนพิเศษ ช่วงฝนโปรยปราย

เนื้อหา

23 เพียงหายจาก

!!?

!!?

ทั้งหนึ่งคนหนึ่งวิญญาณต่างตกใจกับภาพที่ตัวเองมองเห็นเมื่อกี้กันทั้งคู่ เร็วกว่าความคิดภพรีบเอื้อมมือไปคว้าใบหน้าที่มีรอยแผลอีกฝ่ายเพื่อทดลองดูว่าเขาสามารถจับต้องตัววิญญาณหนุ่มได้หรือไม่ ซึ่งภพไม่รู้เหมือนกันว่าคิดไปเองหรือเปล่าที่ร่างกายของราห์ดูอ่อนจางลงกว่าอย่างเคย

ปรากฏว่า

เขายังจับต้องใบหน้าอันหล่อเหลาได้...

“อ่า คุณคงเหนื่อยที่สู้กับผีตัวเมื่อกี้สินะ ทำเอาตกอกตกใจหมด” ชายหนุ่มจ้องมองอีกฝ่ายที่ตัวแข็งทื่อไปแล้วอยู่ครู่หนึ่ง รอยยิ้มจึงค่อย ๆ ผุดออกมาอย่างโล่งใจ

“ไม่เป็นไรน่าคุณ เดี๋ยวหลังจากนี้ผมจะไปทำบุญให้อีกเยอะ ๆ เลย ไม่ก็คืนนี้ภพจะแผ่เมตตาให้เผื่อช่วย” ภพตบปุ ๆ ไปที่ท่อนแขนอีกฝ่ายเพื่อปลอบใจ

“อืม” ราห์ที่นั่งนิ่งเหม่อมองฝ่ามือตนเองเอ่ยรับคำ แววตาเขาในตอนนี้ดูสับสนไม่น้อย

“ปะ กลับร้านกันดูท่าผมต้องขอพี่ไปส่งโรงบาลก่อน โดนถามจนตัวพรุนแน่บอกเลย” ภพอดรู้สึกขนลุกขึ้นมาไม่ได้เมื่อนึกถึงว่าพี่สาวตนจะบ่นเขาจนหูชาขนาดไหน

ราห์เช็ดเลือดที่เปื้อนมือตนกับกางเกงจนตนแน่ใจว่าพอสะอาดแล้ว ก่อนยื่นมือมาประคองภพเดินกลับจนถึงร้าน

ไม่ได้ต่างจากที่เขาคิดนัก ภพโดนเทศนาและถามจนตัวเขาล่องลอยกันเลยทีเดียวเชียว

แสงไฟหน้ารถยนต์ยี่ห้อต่างประเทศคันหนึ่งฉายสาดส่องประตูรั้วบ้านของภพสะท้อนแสงในยามค่ำคืน จนชายหนุ่มที่ถูกผ้าสีขาวพันไว้รอบศีรษะหรี่ตาลงและต้องนำมือมาบังแสงสะท้อน เมื่อก้าวขาลงออกจากรถของพี่สาว

“แน่ใจนะ ว่าแกจะไม่ไปนอนบ้านฉันก่อน?” หญิงสาววัยสามสิบสามปีเอ่ยถามน้องชายตนที่อายุห่างกันเกือบเก้าปีด้วยสีหน้าเป็นห่วง

“ไม่เป็นอะไรจริง ๆ พี่ภา หมอก็ตรวจแล้ว ผมเอกซเรย์มาครบแล้วด้วย สมองไม่กระทบกระเทือนตรงไหนนี่ นอกนั้นก็แค่รอยถลอกรอยช้ำเอง ที่หน้าผากก็แค่รอยบาดไม่ได้หัวแตกซะหน่อย”

“แต่หัวแกก็ฟาดลงพื้นไม่ใช่เรอะ ฉันว่าแกควรอยู่ดูอาการที่โรงบาลต่ออีกสักคืนยังดีนะ อย่างที่หมอบอกว่า แกอาจจะเลือดคั่งในสมองก็ได้” ภากล่าวอย่างอดห่วงเสียไม่ได้

“โห้พี่ ถ้าผมมีความเสี่ยงขนาดนั้นหมอคงไม่ให้ผมออกโรงบาลหรอก ถ้าผมรู้สึกไม่ดีจะโทรบอกพี่คนแรกเลย ดีป้ะ” ภพตบอกตัวเองปุ ๆ เป็นเชิงบอกให้มั่นใจได้เลย

“เออ ๆ แล้วแต่แกเลย แต่ว่าถ้าแกพร้อมบอกฉันเรื่องจริงของรอยที่ข้อเท้าแกเมื่อไหร่ก็โทรมาละกัน” หญิงสาววัยทำงานกุมขมับด้วยความปวดหัวกับน้องชายตัวดื้อ

“ผมก็บอกแล้วไงว่าอุบัติเหตุน่ะ อุบัติเหตุ ไม่ได้มีเรื่องอะไรกับใครเสียหน่อย”

“เชื่อก็โง่แล้วค่ะคุณน้อง” ภาปรายตามองอย่าคาดโทษ

“พี่ก็ขับรถกลับบ้านระวัง ๆละกัน” ชายหนุ่มโบกมือปอย ๆ เป็นเชิงลาก่อนรีบไขประตูรั้วเพื่อเข้าบ้านอย่างรวดเร็ว

หลังได้ยินเสียงรถขับออกไปไกลแล้ว ภพที่เดินเข้ามาในบ้านก็เดินเปิดสวิตช์ไฟทั่วบ้านแล้วหย่อนก้นเอนหลังลงบนโซฟาตัวโปรด แหงนหน้าขึ้นมองเพดานจากนั้นหลับตาลง

เขายังรู้สึกปวดหัวตุบ ๆ อยู่เลย

“เฮ้ออ เสร็จสักทีขี้เกียจอาบน้ำจัง”

“คุณไหวแน่นะผมว่าจะทำบุญให้คุณวันพรุ่งนี้ แต่คืนนี้คุณจะโอเครหรือเปล่ามั้ยนี่สิ” ภพเหล่มองสภาพผู้ประสบภัยเหนือธรรมชาติกับเขาเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา ก็พบว่าสภาพของเจ้าตัวดีขึ้นไม่น้อย เลือดก็ไม่ได้ไหลเหมือนเปิดก๊อกน้ำอย่างตอนแรก แถมปากแผลก็ปิดสนิททิ้งไว้แค่ร่องรอยบาดแผลจากเล็บมืออสุรกายตัวผอมแห้งติดกระดูก และชุดที่เคยสะอาดสะอ้านกลับเละเทะเต็มไปด้วยเลือดสีแดงเข้มที่เริ่มแห้งกรัง

อย่างน้อยเขาก็เบาใจไปได้เปลาะหนึ่ง

พรุ่งนี้คงต้องเผาชุดไปให้ใหม่แล้วล่ะ....

“ไหว ภพไปอาบน้ำนอนเถอะ” ว่าพรางขยับกายเข้ามาใกล้หมายดึงภพให้ลุกขึ้น

“อืออ แป๊บหนึ่ง แล้วคุณพอรู้มั้ยว่าพวกเราสองคนเดินกันไปไม่ได้ถึงจุดเดิมกับที่เคยเจอแท้ ๆ ห่างไกลตั้งไกลทำไมผีบ้านั้นถึงมาดักอยู่หน้าผมได้ละ”

ราห์ทำหน้าตาครุ่นคิดครู่หนึ่ง

“เลือด”

“เลือด?” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงสงสัย ภพจึงลุกขึ้นมานั่งหลังตรงแน่วหันตัวรอฟังอีกฝ่ายอย่างสนอกสนใจ

“ตอนเจอครั้งแรกตอนวิ่งหนี นายเลือดออก” ราห์เลื่อนสายตามองบริเวณมือข้างที่เคยบาดเจ็บก่อนหน้านี้ของภพ ชายหนุ่มจึงมองตามไปและนึกออกได้ทันที

“ก็แค่น่าจะไปโดนอะไรแถวข้างกำแพงบาดเองนะ หรือว่า?! อสุรกายทำเหรอ” ภพครุ่นคิดถึงช่วงที่นิ้วตัวเองเลือดออกตอนวิ่งหนีออกมาครั้งแรก ในตอนนั้นเขาตกใจเกินกว่าจะมาสนใจบาดแผลเล็ก น้อย ๆ นี่

“เมื่อวิญญาณอาฆาต ทำนายเลือกตกยางออกได้แล้ว มันก็จะตามไปเอาชีวิตนายได้ทุกที่ แต่ว่าคงมีเรื่องบางอย่างที่ทำให้มันออกมาที่ถนนใหญ่ไม่ได้”

“ดังนั้นที่พวกเราทั้งคู่เดินเข้าไป คือการเอาตัวเองเข้าไปในถิ่นของมันซินะ?”

“ทำนองนั้น”

ดูท่าผมคงต้องหาวันว่าง ๆ ไปชวนพี่ ไปหาหลวงตาชูให้รดน้ำมนต์ให้

“เออชีวิต แต่ผมด่ามันไปขนาดนั้นมันยังไม่กลัวเลย ไหนพวกเด็ก ๆ เคยคุยกันว่าผีไม่กลัวบทสวด แต่กลัวคำด่า คำแช่งไง? แหงไม่ได้ผลอะ”

“ไม่ค่อยรู้หรอก สภาพอเนจอนาถแบบนั้น ยังมีสติพอคุยได้ที่ไหน แต่ถ้าเป็นวิญญาณเร่ร่อนทั่วไปคงกลัวคำด่านายแน่นอน เพราะคงอยากไปเกิดใหม่หรือสู่สุคติกัน”

“งั้นแสดงว่ารวมถึงคุณด้วยซินะที่อยากไปเกิดใหม่”

“......ไม่อยาก” ราห์เงียบไปพักหนึ่ง น้ำเสียงของเขามีร่องรอยสะกดกลั้นอารมณ์บางอย่าง บวกกับท่าทีก้มศีรษะลงเล็กน้อยพร้อมเสมองไปทางอื่นแล้ว ทำเอาภพฉงนในใจ

“ไหนบอกว่าวิญญาณทั่วไปเขาอยากไปเกิดใหม่กัน แบบนั้นก็ต้องรวมคุณด้วยซิ หรือมีอะไรติดค้างในใจจนไปเกิดใหม่ไม่ได้!? อยากให้ผมช่วยก็บอกมาได้เลยนะ อยู่กันมาก็ตั้งนานไม่ได้ถามดี ๆ เลยสักครั้ง ขอโทษจริง ๆ นะคุณ” ชายหนุ่มลนลานถามพร้อมเอ่ยขอโทษด้วยท่าทีหงอย ๆ

นั้นสินะ ทำไมผมไม่เคยคิด ไม่เคยถามเขามาก่อนเลยว่าเขาจะมีห่วงอะไรในใจบ้างหรือเปล่า ที่ราห์เคยพูดว่าถึงเวลาจะไปเอง ไม่ยอมสู่สุคติเพราะรอแก้ห่วงหรือเปล่านะ?

ราห์เขาช่วยผมมาตั้งหลายครั้งถ้ามีอะไรที่ผมพอช่วยได้ก็อยากจะช่วยให้เต็มที่

“....”

“ไหนสัญญากับผมแล้วไงว่าถ้าผมถามอะไร คุณต้องตอบตามความจริงน่ะ”

“เรื่องนี้นายไม่จำเป็นต้องรู้” เขาส่ายหน้า

“สักนิดก็บอกกันหน่อยไม่ได้เหรอ ผมจะได้ช่วยไง แบบให้ไปตามหาครอบครัวคุณ ฝากบอกบางอย่างให้คนรักงี้ ไม่มีเลยเหรอ”

“ถ้ามีฉันจะฝากนายบอกเอง” ดวงตาวิญญาณหนุ่มฉาบยิ้มเอาไว้บางเบา

“โอเคร! ผมสัญญาว่าจะเอาคำพูดของคุณไปฝากถึงคนที่คุณต้องการได้แน่นอน ไว้ใจได้เลย” นัยน์ตาสีดำสนิทคู่นั้นเปล่งประกายวิบวับเอ่ยด้วยความตั้งใจแน่วแน่

“อืม”

หลังต่างคนต่างเงียบสักพัก จนภพสะลึมสะลือเกือบนอนหลับคาโซฟาก็โดนนิ้วมือเย็น ๆ นิ้วหนึ่งเอาแต่จิ้มแก้มเขาไม่หยุดมาตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว

“โห้คุณ รู้แล้วน่า ๆ ให้ไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าใช่มั้ยล่ะ”

“ใช่ กินยาด้วย” วิญญาณข้างกายกำชับ

“โอเค โอเค ผมลุกแล้ว ลุกแล้ว เลิกจิ้มแก้มผมสักที!” ภพบ่นอุบอิบไปตามทาง ค่อย ๆ ลากสังขารตัวเองขึ้นห้องอย่างช้า ๆ

ราห์จ้องมองร่างกายอันปวกเปียกเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำของเจ้าบ้าน เดินขึ้นห้องจนลับตาก่อนเขาจะเดินออกไปนอกบริเวณบ้าน เหม่อมองมือของตนที่เริ่มซีดจางแบบนั้นด้วยแววตานิ่งเฉยทั้งคืน

ตึก ตึก

“ฮ้าวว” ภพในสภาพเสื้อยืดตัวโคร่งมีรูขาด ๆ อยู่สองสามรูกับกางเกงขาสั้นยับยู่ยี่โชว์เรียวขี่มีแต่รอยถลอก เดินลงจากบันไดชั้นบนด้วยท่าทางงัวเงียไม่ตื่นดี

ซ่า ภพเปิดก๊อกน้ำในห้องครัวเตรียมวักน้ำมาล้างหน้าแบบลวก ๆ เพื่อให้ตื่น

“โทษที ผมตื่นสายไปหน่อย ว่าแค่ปกติคุณจะปลุกผมแต่เช้านี่ ทำไมวันนี้ไม่ปลุกละปล่อยให้ผมตื่นเองจนตอนนี้มันจะเที่ยงอยู่แล้ว วันนี้เดี๋ยวจะได้เผาชุดใหม่ให้คุณด้วย อุตส่าห์จะซื้อของไปตักบาตรตอนเช้าซะหน่อ-!”

หมับ วงแขนอันเย็นชืดกว่ามนุษย์ปกติคว้ากอดภพมาจากทางด้านหลังโดยเขาไม่ทันได้ตั้งตัว

“เฮ้ย อะไรฟะ” ชายหนุ่มสะดุ้งตกใจรับหันขวับมองผู้ที่เข้ามากอด

ราห์?

“ทำไมถึงจำฉันไม่ได้ล่ะ?”

“หา? พูดอะไรของคุณอยู่เนี่ย” ภพพยายามขยับตัวถอยหนีจากวงแขนคู่นั้น แต่ก็ไม่ได้ออกแรงมากนัก

ฟึ่บ

“อย่าหนีสิ นายบอกเองไม่ใช่เหรอว่าจะมีแค่ฉันน่ะ” วิญญาณหนุ่มปล่อยอ้อมกอดที่กอดรอบเอวภพไว้แล้วใช้แรงบีบไหล่ภพบังคับให้หันมาเผชิญหน้ากันตรง ๆ

ตอนนี้ภพสามารถมองเห็นใบหน้าของราห์ได้เต็มชัดสองตาแล้ว กลับต้องรู้สึกตกใจเพราะแววตาของวิญญาณผิวขาวซีดตนนี้ คล้ายกำลังเหม่อลอยแต่ก็ให้ความรู้สึกที่สับสนเพราะแววตาที่เขาเห็นแปรเปลี่ยนไปมาตลอดเวลา บ้างดูโกรธ บ้างดูเศร้า บ้างดูดีใจ บ้างดูบ้าคลั่ง

เขาไม่อาจจับความรู้สึกที่แท้จริงของราห์ในช่วงเวลานี้ได้เลย

“นี่ ภพนายลองมองฉันดี ๆ สิ จำฉันให้ได้สิ มองฉันแค่คนเดียวนะ” น้ำเสียงทุ้มต่ำติดแหบพร่าเต็มไปด้วยความเว้าวอน การขอร้องสุดหัวใจแต่ก็ปนความแข็งกร้าวแกมบังคับอยู่ในที

นิ้วมือเรียวยาวสีขาวซีดติดเทาได้รูปเหมือนคนไม่เคยทำงานหนักมาก่อน ทว่ามีร่องรอยบาดแผลบางอย่างประปรายอยู่ทั่วบริเวณ ค่อย ๆ ลูบไล้แก้มภพด้วยความอ่อนโยน ก่อนเลื่อนลงมาปัดผ่านบริเวณริมฝีปากของภพด้วยแรงที่มากขึ้นกว่าเดิม

ใบหน้าวิญญาณอันหล่อเหลาที่ถ้าหากเป็นมนุษย์มีลมหายใจ คงดูคล้ายท่านหนึ่งไม่ปานกำลังเคลื่อนเข้ามาใกล้ใบหน้าเขา

เมื่อจมูกโด่งเป็นสันเข้าใกล้จนแตะบริเวณหน้าผากของภพ ก็.....

ตุบ พลัก!

“ฟเมยอว!”

“ให้ตายสิคุณ โดนผีตัวเมื่อวานเล่นงานมาจนสติหลุดไปแล้วหรือไง” ภพเสยผมที่ยังไม่ได้หวีขึ้นอย่างหงุดหงิดเล็กน้อยพร้อมเท้าเอวมอง ราห์ที่กำลังตัวสั่นงันงกหงอตัวกุมเป้าตัวเองอยู่ไม่พูดไม่จา

ใช่ เขาทำเองแหละ เอาเข่าใส่เข้าเต็มแรงเชียวล่ะ

ก็ใครใช้ให้เขามาทำตัวเป็นผีตุ้งแช่แบบนี้กันเล่า....

ดู ๆ ไปก็ท่าจะเจ็บแหะ

“ไม่รู้เหมือนกัน ฉันเจ็บจนนึกอะไรไม่ออกแล้ว” วิญญาณหนุ่มเอ่ยเสียงสั่นเครือจากความเจ็บปวดจากการโดนกระทำจุดสำคัญ

“เฮ้อ โทษทีนะแต่ผมว่าผมออมแรงไว้แล้วก็เถอะ” ภพย่อตัวนั่งยอง ๆ ข้างกายราห์ลูบหลังปลอบปอย ๆ พร้อมกลั้นหัวเราะไว้แทบตาย

พรูด ฮ่า ฮ่า ฮ่า ตลกชะมัด

ทว่าหลังจากนั้นไม่ถึงสัปดาห์ ภพก็มองไม่เห็นราห์อีกเลย....

 

นี่มันกี่วันแล้วนะ ที่ผมสัมผัสถึงราห์ไม่ได้เลย ไม่ว่าจะเสียง การมองเห็น กลิ่น ผมสัมผัสถึงตัวเขาไม่ได้อีกเลยแม้แต่นิดเดียว

จู่ ๆ ก็หายไปแบบไม่บอกไม่กล่าวเนี่ยนะ!?

ตามเวลาปกติ ภพไม่จำเป็นต้องเรียกหาด้วยซ้ำเขาก็จะอยู่ในระยะการมองเห็นของผมอยู่เสมอไม่เคยหายไปไหน ถ้าหายจากการมองเห็นของผมมันก็แค่ระยะเวลาไม่นานนัก ชั่วโมง สองชั่วโมงไม่เกินนี้ นอกซะจากตอนกลางคืนที่ผมนอนหลับ

มันแปลก...

ในวันที่ผมรู้สึกตัวว่าราห์หายไป ไม่ได้อยู่ใกล้ ๆ ผมอย่างเคย คือหลังจากที่ผมไม่ได้เห็นเขามาหกวันเต็ม เพราะเขาเป็นผีเขาสามารถล่องลอยไปไหนมาไหนแบบอิสระได้เขาจะไหนก้ไหนมันก็เรื่องของราห์

ผมคิดแบบนั้น..

ซึ่งในวันแรกผมคิดเพียงว่าเขาคงไปรักษาตัวเอง ไม่ก็มีธุระบางอย่างไปทำ

วันที่สี่ภพก็คิดแค่ว่าเดี๋ยวพรุ่งนี้เขาก็กลับมาเองแหละ จะหายไปโดยไม่บอกกันหน่อยก็ดูไม่ใช่วิสัยปกติของเขา

ส่วนวันที่หกผมมัวแต่วุ่น ๆ อยู่กับการไปโรงพยาบาลตามที่แพทย์ได้นัดไว้ แต่ว่าเมื่อกลับถึงบ้านผมก็เรียกชื่อของเขาออกมาอย่างลืมตัว ด้วยนึกว่าวิญญาณตนนั้นจะกลับมาบ้านแล้ว

“ราห์! ผมกลับมาแล้วนะพึ่งกลับมาจากตรวจเช็คอาการน่ะ วันนี้อย่างหนาวเลย” ภพเอ่ยปากพูดคุยเล่าเรื่องตนกับบ้านที่ว่างเปล่า อย่างที่เคยทำมาตลอดเกือบสองเดือน

ปกติแล้วถ้าเขาไปทำธุระแล้วราห์ไม่ได้ไปด้วย เมื่อเขากลับมาผีตนนั้นจะคอยออกมายืนต้อนรับเขาอยู่เสมอ

แต่ วันนี้ไม่ใช่...

“...” ไร้เสียงตอบรับหรือคำถามจากใครผู้ใดที่เขาต้องการได้ยิน

“ราห์! คุณได้ยินผมรึเปล่า” ชายหนุ่มตะโกนเรียกเสียงดังก้องทั้งบ้าน

เขาไม่รู้เลย ไม่รู้เลยจริง ๆ ว่าตัวเขามองไม่เห็น ไม่ได้ยินเสียงของราห์เพราะราห์ไม่ได้อยู่ข้างกายภพแล้ว หรือเป็นเพราะว่าเขาสูญเสียประสาทสัมผัสที่หกไปแล้วกันแน่ ถึงได้สัมผัสอะไรถึงวิญญาณตัวที่เคยป้วนเปี้ยนรอบกายเขาเสมอมาไม่ได้

“นี่คุณ!! ถ้าคุณยังอยู่ข้างผมมาตลอดก็ช่วยทำให้ผมรู้สึกถึงหน่อยสิ จะลม หรือจะทำหลอดไฟแตกแบบคราวที่แล้วก็ได้ ผมจะไม่บ่นคุณหรอกนะ”

“ขอเถอะ ช่วยทำให้ผมรู้ที!”

“.....”

ภพรอแล้วรอเล่าก็ได้ความเงียบสงัดของบ้านเป็นคำตอบ ไม่มีแม้แต่ลม หรือกลิ่นใด ๆ เขาเริ่มรู้สึกกระวนกระวายใจอย่างแปลก ๆ

จะหายไปแบบนี้เลยเนี่ยนะ? แบบไม่บอกลากันสักคำเลยเหรอ

ภพจ้องมองเขาไปในตัวบ้านอันเงียบสงัดด้วยแววตาเลื่อนลอย

บ้านหลังนี้ในตอนที่ราห์ยังไม่เข้ามามันก็สงบสุขดีอยู่หรอก แต่ว่า พอหมอนั่นหายไปแล้วเหลือแค่เราตามเดิม

ทำไมกันนะ

ทำไมบ้านถึงดูใหญ่โตขึ้นกว่าเคย...


ช่วงTalk
ภพ:ทำไมถึงทิ้งผมไว้คนเดียวล่ะ//เศร้า
 

น้องภพมีebookแล้วนะคะแม่ ๆ (ใครอยากสนับสนุนไรท์กดซื้อผ่านทางลิงค์นี้ได้เลยนะคะ)
https://www.mebmarket.com/web/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTY2OTE5OSI7czo3OiJib29rX2lkIjtzOjY6IjI5OTMwNCI7fQ