นครเปสเปรอส อดีตเมืองปีศาจที่ถูกทอดทิ้งสู่แดนมนุษย์ ทว่า กลับมีบางสิ่งได้ตกทอดมาสู่นครแห่งนี้เช่นเดียวกัน ( ขยายเนื้อหาจากเรื่องสั้น ’นิรันดร์’ )

ขลุ่ยสาปแห่งเปสเปรอส - นิทานขลุ่ยสาป : รักนิรันดร์ โดย MEIIJIN13 @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

พารานอมอล,ลึกลับ,,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ขลุ่ยสาปแห่งเปสเปรอส

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

พารานอมอล,ลึกลับ

แท็คที่เกี่ยวข้อง

รายละเอียด

 ขลุ่ยสาปแห่งเปสเปรอส โดย MEIIJIN13 @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

นครเปสเปรอส อดีตเมืองปีศาจที่ถูกทอดทิ้งสู่แดนมนุษย์ ทว่า กลับมีบางสิ่งได้ตกทอดมาสู่นครแห่งนี้เช่นเดียวกัน ( ขยายเนื้อหาจากเรื่องสั้น ’นิรันดร์’ )

ผู้แต่ง

MEIIJIN13

เรื่องย่อ

สารบัญ

ขลุ่ยสาปแห่งเปสเปรอส- นิทานขลุ่ยสาป : รักนิรันดร์, ขลุ่ยสาปแห่งเปสเปรอส- นิทานขลุ่ยสาป : โดดเด่นเป็นสง่า, ขลุ่ยสาปแห่งเปสเปรอส- นิทานขลุ่ยสาป : มั่งคั่ง พลังอำนาจ, ขลุ่ยสาปแห่งเปสเปรอส- นิทานขลุ่ยสาป : เยาว์วัยไร้ราคี, ขลุ่ยสาปแห่งเปสเปรอส- นิทานขลุ่ยสาป (จบ) : อมตะนิรันดร์กาล

เนื้อหา

นิทานขลุ่ยสาป : รักนิรันดร์

​​​นายคนที่ 1 : มิเกล


ปรารถนา : รักนิรันดร์


.


.


'มิเกล' เป็นชายหนุ่มธรรมดาคนหนึ่ง หน้าตารึก็บ้านๆ แต่เขามองเห็นชีวิตรักมามากมาย ทั้งจากท้องถนน จากเจ้านายและแวดวงชั้นสูงที่เพื่อนๆคนใช้จากแต่ละตระกูลมารวมหัวซุบซิบนินทากัน 


' ตระกูลเบอร์นาร์ดนั่นน่ะ เห็นว่าแอบเลี้ยงโสเภณีลับหลังท่านดัชเชสถึงเก้าคนเชียว '


' บ้าน่า! ทั้งที่ท่านดยุคต้องเกาะตระกูลท่านดัชเชสแท้ๆนะนั่น '


' อย่าเอ็ดไปนักสิ เดี๋ยวคนอื่นก็ไปฟ้องตระกูลนั้นเอาหรอก! '


.


.


' แล้วตระกูลเฟอร์นันเดซนั่นล่ะ เห็นว่าหย่ากับท่านหญิงด้วยนา ' 


' เอ...ท่านหญิงนี่สูงศักดิ์เทียมราชวงศ์เลยนี่นา ทำไมถึงเกิดเรื่องนี้ได้เล่า '


' ก็เขาว่ากันว่าตระกูลเฟอร์นันเดซสืบเขื้อสายจากราชวงศ์แท้ๆไม่ใช่แต่งตั้งแบบท่านหญิงจึงมีอำนาจมากกว่าอย่างไรเล่า ' 


' เช่นนั้นทำไมการหย่าจึงเกิดขึ้น ข้าน่ะได้ยินแว่วว่าเพราะท่านหญิงไม่มีบุตรชาย แต่ถ้าแบบนั้นน่าจะไว้หน้าราชวงศ์เสียหน่อย '


' รู้แล้วเหยียบไว้เลยนะ! เค้าว่าดยุคเฟอร์นันเดซหลงรักองค์หญิงสิบห้าเลยไล่ภรรยาเอกตัวเองเพื่อนางน่ะสิ! '


' ว้าย! องค์หญิงสิบห้านี่อายุคราวลูกท่านดยุคเลยนะ! '


.


.


....


ก็นั่นหล่ะ ความรักช่างมอดดับไวเสียยิ่งกว่าเปลวเทียนยามต้องลมเหมันต์ ยิ่งหมดความงามก็ถูกผลักไสโดยง่าย เปลือกนอกถูกมองมากกว่าจะทะลุผ่านเข้ามาที่จิตใจ นับประสาอะไรกับคนหน้าตาธรรมดาเช่นมิเกลเล่า


_________________________


วันนี้ก็เป็นวันธรรมดาอีกวันหนึ่ง ซึ่งเป็นวันหยุดงานของมิเกลพอดี เขาตั้งใจว่าจะซื้อของเข้ากระท่อมทำอะไรง่ายๆกินเสียหน่อย สตูเนื้อก็เป็นความคิดที่ดีไม่หยอก 


ระหว่างทางไปตลาดกับกระท่อมของมิเกล มีป่าแห่งหนึ่ง ป่านี้มีอยู่ติดกับเขตแดนของเหล่าอมุษย์ทั้งหลาย มันดูน่ากลัวทว่ากลับมีบางสิ่งดึงดูดสายตาของมิเกลเข้าเสียก่อน


...มันเป็นขลุ่ยสีใสประกายระยับสีรุ้งเลาหนึ่ง...


ขลุ่ยเลานั้นช่างน่าดึงดูดให้ครอบครองเสียเหลือเกิน ในตอนแรกเขาคิดเพียงจะนำมันไปขายให้พออยู่ได้อย่างสบายไม่อัตคัดมากนักก็เท่านั้น


...จนกระทั่งเห็นรอยสลักข้างขลุ่ยนั้นเอง...


' สิ่งใดที่ท่านเพรียกหา จงร่ำร้องผ่านบทเพลง แนบริมฝีปากบรรเลง เพียงหนึ่งปรารถนา ข้าจักติดตามท่านจนชีวาวาย '


.


" ชีวาวายงั้นหรือ..? "


เอาเถอะ...แค่เพียงบรรเลง คงไม่เสียหายนักหรอกมั้ง


พลันมิเกลก็ได้แนบริมฝีปาก ผิวผ่านร่ำร้องบทเพลงแห่งปรารถนา


.


' ข้านั้นใบหน้าสุดแสนธรรมดา ยากจะหา คู่คิดมาแนบชิด ขอใช้สิทธิ์รักนิรันดร์จนวันตาย '


.


.


มิเกลไม่ได้คิดจริงจังเรื่องขลุ่ยนั้นหรอก เขาเพียงระบายความในใจก็เท่านั้น 


เขาค้นพบว่าขลุ่ยเลานี้เสียงไพเราะมากทีเดียว น่าจะขายได้หลายเหรียญเชียวล่ะ  มิเกลคิดในใจก่อนเก็บขลุ่ยใส่ย่ามพกคู่ใจ 


.


.


เมื่อเดินทางมายังตลาด ผู้คนมากมายต่างจับจ่ายซื้อของกันอย่างขวักไขว่ วันนี้ถือได้ว่าครึกครื้นเลยทีเดียว 


มิเกลซื้อข้าวของสำหรับสตูเนื้อในวันพรุ่งนี้ ร้านข้างกันนั้นเป็นร้านขนมปัง เขาคิดว่าอาจจะปิ้งทาแยมกินเป็นมื้อเช้าด้วยเสียหน่อย 


ก่อนจะเดินทางกลับกระท่อม มิเกลเลือกจะเดินผ่านร้านรับจำนำเพื่อขายขลุ่ยที่ตนพบเจอ 


...ทว่าพอล้วงมือไปในย่ามกลับไม่พบแม้สัมผัสของขลุ่ยนั้น...


' อะไรกัน? ย่ามก็ไม่ได้ขาดนี่นา ซวยชะมัด... '


มิเกลคอตก ย่างเท้าไปยังทิศทางของกระท่อมตนด้วยความเศร้า เขาต้องเดินทางผ่านป่าเดิมที่พบเจอขลุ่ยอีกครั้ง ทว่าครั้งนี้เขาก็พบเจอสิ่งแปลกประหลาดอีกครา


เขาพบชายหนุ่มที่ล้มสลบอยู่ คราบเลือดแห้งกรังประปรายบนเสื้อผ้า ไม่รอช้ามิเกลรีบแบกคนผู้นั้นกลับกระท่อมทันที 


ทันทีที่ถึงบ้านของตน มิเกลก็ทิ้งย่ามใบโตลงบนโต๊ะ ขลุ่ยเลาสวยก็กลิ้งออกมาจากย่าม แม้จะน่าแปลก แต่ตอนนี้คนเจ็บสำคัญกว่า เขาจะคิดเสียว่าขลุ่ยมันชอบเขาจนไม่อยากโดนขายแล้วกัน


มิเกลพันแผลพร้อมเช็ดตัวให้ชายหนุ่มปริศนา เพราะอยู่ใกล้ป่ามิเกลจึงมีความสามารถของพรานและความรู้ด้านสมุนไพรอยู่ไม่น้อยเลย


ชายหนุ่มที่บาดเจ็บได้ลืมตาตื่นขึ้นมาในเวลาย่ำค่ำ เขาหันมองไปมาด้วยความสับสน


ชายหนุ่มดูระแวงอยู่บ้าง ซึ่งมิเกลก็เข้าใจ เลือดเปรอะเสียขนาดนั้น


' ข้าชื่อมิเกล นี่เป็นกระท่อมของข้าเอง แผลของท่านข้าก็รักษาเองไม่ได้ตามใครมา ท่านไม่ต้องห่วง ' 


ชายหนุ่มพลันถูกสะกดด้วยรอยยิ้มของมิเกล เวลาผ่านไปเขาก็อยู่กับผู้มีพระคุณของตนเอง เฝ้าติดตามไม่ห่าง ไม่สนใจใครหน้าไหน นั่นทำให้มิเกลพอใจอย่างมาก 


จนกระทั่งเขาเริ่มคอยกีดกันทุกคนจากชีวิตของมิเกลให้ข้างกายมิเกลมีเขาเพียงผู้เดียว


ตัวมิเกลเอง จากที่แรกเริ่มมีใจให้ชายหนุ่มอยู่บ้าง แต่พฤติกรรมที่เริ่มน่ากลัวทำให้มิเกลเริ่มถอยห่าง วางแผนตะล่อมชายหนุ่มให้กลับถิ่นเดิมของตน


น่าแปลกที่เขายอมมิเกลอย่างไร้เงื่อนไข


.


.


ชายหนุ่มนั้นรักมิเกลสุดหัวใจ รักจนอยากเก็บไว้แต่ผู้เดียว รักจนอยากกักขัง รักนิรันดร์ที่มิเกลปรารถนานั้น เต็มเปี่ยมไปด้วยความคลุ้มคลั่ง 


ชายหนุ่มพามิเกลนั่งรถม้า ให้เหตุผลว่าอยากตอบแทนผู้มีพระคุณ มิเกลไม่ทันระวังตัวดื่มชาชมทิวทัศน์บนรถม้าแล้วหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย


เมื่อตื่นมาอีกครั้งมิเกลถูกขังไว้ที่ห้องใต้ดินในปราสาท เขาถูกมัดมือเท้าและปาก ชายหนุ่มปริศนาในวันนั้นกอดรัดพันธนาการ มือขวาหยิบอาวุธคมปลาบแนบผ่านลำคอมิเกลแสนงาม คล้ายหยอกล้อ


' เจ้าเองก็คิดจะทอดทิ้งข้าหรือ...มิเกลน้อย? '


มิเกลสั่นหัวไปมาทั้งน้ำตา ส่งเสียงขอชีวิตอู้อี้ในลำคอ


' ด้วยสิ่งนี้ เราจะได้อยู่ด้วยกันชั่วนิรันดร์ '


คมดาบยาวถูกเงื้อขึ้นสูง ทิ่มแทงผ่านทะลุหัวใจคนทั้งสอง ความเจ็บปวดพลันถาโถม มิเกลกรีดร้องทรมานก่อนสิ้นใจไป...


..นี่หรือรักที่ข้าเฝ้าฝัน...


รักนิรันดร์จนวันตาย