การสื่อสารไร้สายที่กว้างไกล ทำให้กระดาษและปากกาดูจะเป็นคนแปลกหน้าสำหรับการบอกความในใจ ชายผู้ใช้ชีวิตอยู่กับตัวหนังสือ จึงตัดสินใจเขียนจดหมายบอกเล่าความรู้สึกไปยังคนคนนั้น
ชาย-ชาย,รัก,ไทย,โรแมนติก,จดหมายรัก,นิยายวาย,#BL,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
Love Letters จดหมายรักการสื่อสารไร้สายที่กว้างไกล ทำให้กระดาษและปากกาดูจะเป็นคนแปลกหน้าสำหรับการบอกความในใจ ชายผู้ใช้ชีวิตอยู่กับตัวหนังสือ จึงตัดสินใจเขียนจดหมายบอกเล่าความรู้สึกไปยังคนคนนั้น
ตอนนี้มีอีบุ๊กแล้ว นิยายเรื่องนี้จะติดเหรียญถาวรตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค.นี้เป็นต้นไปนะคะ
ติด 5 เหรียญ สำหรับตอนทั่วไป และ 10 เหรียญ สำหรับตอนที่มี NC เช่นเคยค่ะ
====================================================
ปัจจุบันการสื่อสารไร้สายที่กว้างไกล ทำให้กระดาษและปากกาดูจะเป็นคนแปลกหน้าสำหรับการบอกความในใจ
ชายหนุ่มผู้ใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่กับตัวหนังสือ ผู้ซึ่งสามารถใช้การเขียนบรรยายความรู้สึกของตัวเองได้มากกว่าคำพูด ตัดสินใจบอกเล่าความรู้สึกของตน ถ่ายทอดลงบนกระดาษแผ่นเล็ก ๆ ร้อยเรียงเป็นจดหมาย ส่งไปให้ใครคนนั้น...
ราเชน คทาธร
นักเขียนชื่อดังของวงการหนังสือ หากแต่เป็นคนเก็บตัว และพูดไม่เก่งเฉกเช่นเวลาที่เขาเขียน
"ผมก็แค่อยากเขียนจดหมาย...
บอกรัก..."
ภูวนัท ฐิตตานุสรณ์
นักศึกษาธรรมดา ๆ คนหนึ่ง ที่แค่เรียนและทำงานพิเศษ ก็ไม่มีเวลาเหลือไปทำอย่างอื่นแล้ว
ชายหนุ่มชอบที่จะใช้เวลาว่างอันแสนจะน้อยนิดของเขาอยู่ในคอนโด และนอน...
"เจ้าของจดหมายพวกนี้เป็นใครกันนะ..."
====================================================
นิยายเรื่องนี้เป็นเพียงจินตนาการของผู้เขียน บุคคลและสถานที่ในเรื่องเป็นเพียงเหตุการณ์สมมติขึ้นเท่านั้น
ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องต่อบุคคลหรือสถานที่ที่ระบุถึงแต่อย่างใด
คำเตือน : นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายชายรักชาย หากไม่ใช่แนวที่คุณชอบ กดปิดหน้าได้เลยค่ะ
เนื้อหาในนิยายอาจมีถ้อยคำไม่สุภาพบ้างเป็นบางครั้งเพื่ออรรถรส โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
เนื้อหานิยายบางตอนไม่เหมาะสมสำหรับนักอ่านซึ่งมีอายุต่ำกว่า 18 ปี
====================================================
นิยายเรื่องนี้จะอัปโหลดสัปดาห์ละสามครั้ง ทุกวัน อังคาร วันพฤหัสบดี และ วันอาทิตย์ เวลา 17:30 น. นะคะ
ขอบคุณนักอ่านทุกท่านที่สนับสนุนผลงานค่ะ
ช่องทางติดต่อนักเขียน:
Author: Jamie
Twitter : @jamie_psf
Facebook Fanpage: Jamie's BL Novels
Instagram: @jamie_novels
ความตื่นเต้นทำให้หัวใจของภูวนัทเต้นแรง ช่างน่าประหลาดใจเสียจริงที่ตัวอักษรเพียงไม่กี่ตัวในประโยคนั้น ทำให้เขารู้สึกราวกับเป็นเด็กน้อยที่รอคอยการได้ออกไปผจญภัยในโลกกว้าง โลกที่เขาไม่เคยได้สัมผัส แม้สิ่งที่กำลังอ่านมันจับต้องไม่ได้ แต่ดวงตาของหนุ่มน้อยก็เป็นประกาย เขาขยับตัวเล็กน้อยแล้วเริ่มอ่านข้อความในจดหมายต่อด้วยความอยากรู้
คุณพร้อมเดินทางไปกับเรื่องราวที่ผมจะเล่าแล้วหรือยัง…
การเขียนเป็นชีวิตของผม ผมเริ่มเขียนอะไรเป็นเรื่องเป็นราวครั้งแรกตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม คุณเชื่อหรือไม่ว่าสิ่งแรกที่ผมเขียนนั้นเป็นคอมมิค ใช่ครับ…ผมชอบวาดรูปด้วย
โรงเรียนมัธยมที่ผมเรียนนั้นอยู่ในประเทศทางแถบยุโรป ผมเป็นคนพูดน้อยมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว แต่ก็พอมีกลุ่มเพื่อนสนิท เพื่อนๆ ของผมทุกคนต่างก็มีความถนัดแตกต่างกันไป และพวกเขาทุกคนรู้ว่าผมเป็นคนช่างจินตนาการ ชอบเขียนบันทึกและวาดภาพ ผมจะมีสมุดโน้ตประจำตัวซึ่งเอาไว้ใช้จดอะไรที่น่าสนใจ พร้อมด้วยภาพประกอบ ทุกวันนี้สมุดเล่มนั้นยังอยู่กับผมเสมอ…มันอาจเป็นเพียงสมุดโน้ตเก่าๆ เล่มหนึ่ง ไม่มีค่าไม่มีราคา แต่บางสิ่งบางอย่างก็ควรค่าแก่การเก็บรักษาไว้ ไม่ว่าคุณจะอยู่ ณ แห่งหนใดในโลกใบนี้ จริงไหมครับ
คอมมิคเล่มแรกในชีวิตของผม เกิดขึ้นเพราะ แมต เพื่อนสนิทคนหนึ่งขอให้ผมเขียน เพื่อเป็นของที่ระลึกก่อนเขาจะย้ายกลับประเทศหลังจบปีการศึกษานั้น น่าแปลกที่ผมรู้ในทันทีว่าเนื้อหาในคอมมิคควรเป็นอย่างไร ผมใช้เวลาในการร่างโครงเรื่องพร้อมรวบรวมข้อมูลอยู่เกือบสองสัปดาห์จึงเริ่มเขียน เนื้อเรื่องเกี่ยวกับการผจญภัยของเด็กในวัยเดียวกันสี่คน มิตรภาพของพวกเขาเกิดจากการไปแคมป์กับโรงเรียน แล้วถูกจับให้รวมกลุ่มกันไปเดินป่าตามเส้นทางที่กำหนด
เรื่องราวในคอมมิคนั้นเป็นเพียงจินตนาการที่กลุ่มเพื่อนสนิทของผมร่วมกันสร้างขึ้นมาในวันหนึ่ง แมตคือคนเริ่มคิด เราทุกคนต่างรู้ว่ามันไม่อาจเป็นจริงขึ้นมาได้ เพราะเมื่อสิ้นสุดปีการศึกษานั้นแล้วต่างคนต่างก็ต้องแยกกันไป คอมมิคเล่มนั้นจึงเปรียบประหนึ่งการเติมเต็มความฝันของพวกเรา ซึ่งนับเป็นความทรงจำอันทรงคุณค่า เมื่อย้อนคิดไปถึงมันเมื่อใด ผมยังจำความรู้สึกขณะเขียนคอมมิคเล่มนั้นได้เสมอ แม้ว่างานเขียนเล่มแรกในชีวิตจะไม่ได้อยู่กับผมแล้ว แต่ผมไม่เคยรู้สึกเสียดายเลย ผมถือว่าได้มอบของขวัญอันประเมินค่ามิได้ให้แก่เพื่อนสนิทที่สุดในวัยเยาว์ โครงเรื่องของมันยังคงอยู่ในสมุดบันทึกของผม เนื้อหาของมันยังคงอยู่ในความทรงจำ การเก็บรักษาของบางอย่างไว้แค่เพียงในความทรงจำนั้นคงคุณค่าไม่ต่างกับการเก็บของชิ้นนั้นเอาไว้กับตัว
พอเริ่มเข้าเรียน High School ผมเองก็ต้องย้ายโรงเรียนเช่นกัน เนื่องจากต้องย้ายไปอยู่อีกเมืองหนึ่ง เมื่อกลุ่มเพื่อนเปลี่ยนไป ผมก็ไม่ได้เขียนคอมมิคเป็นเรื่องเป็นราวอีก แต่ยังคงรักการเขียนบันทึกพร้อมวาดภาพประกอบเหมือนเดิม ในช่วงวัยนั้นผมเริ่มรู้ว่าตัวเองชอบอะไร และอยากทำอะไร แม้จะยังไม่สามารถทำทุกอย่างตามที่ใจต้องการได้ แต่ผมก็รู้แล้วว่าชอบเดินทางท่องเที่ยวและเก็บเกี่ยวทุกประสบการณ์ลงในสมุดบันทึก และสิ่งที่ผมชอบมากที่สุดอีกอย่างหนึ่งก็คือการอ่านหนังสือ ผมตั้งใจไว้ว่าหากเรียนจบ High School แล้ว ผมจะออกท่องเที่ยวตามรอยหนังสือที่ผมอ่านสักระยะหนึ่ง ก่อนเริ่มเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัย
ผมชอบเดินทางคนเดียว มีเพียงสมุดโน้ตคู่ใจ ปากกา และหนังสือสักเล่มก็เพียงพอ แต่หากช่วงเวลาใดที่ผมมีคนรัก ผมก็อยากเดินทางไปกับเขาแค่สองคน ได้ดื่มด่ำกับธรรมชาติด้วยกัน ดูพระอาทิตย์ขึ้นพร้อมกันยามอรุณรุ่ง และชมพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าด้วยกันยามตะวันชิงพลบ การได้ใช้เวลาทำในสิ่งที่ชอบกับคนที่เรารัก มันเป็นความสุขเล็กๆ น้อยๆ ที่ไม่ว่าใครก็คงเฝ้าใฝ่หา จริงไหมครับ
ฤดูร้อนปีนั้นผมเดินทางเพียงผู้เดียว หลังชีวิตนักเรียน High School จบลง ผมก็ตัดสินใจเดินทางไปสกอตแลนด์ ทะเลสาบ Loch Ness เป็นจุดหมายแรกของผม ใช่ครับ ส่วนหนึ่งที่ทำให้ผมอยากไปที่นั่นเป็นเพราะการเล่าขานถึงเนสซี คุณอาจคิดว่ามันน่าขัน แต่ตอนนั้นผมก็เป็นเพียงเด็กชายวัยรุ่นคนหนึ่ง ที่อยากออกไปผจญภัยเสาะหาเนสซี แม้จะรู้อยู่แก่ใจว่าผมจะไม่มีวันได้พบพวกเขาแน่นอน แต่หากไม่ลองทำอะไรสักอย่างดู เราก็จะไม่มีวันรู้ว่าผลลัพธ์จะออกมาอย่างไร ใช่ไหมครับ
แน่นอนผมไม่เคยพบเนสซี ไม่เห็นแม้เงา ไม่ได้ยินแม้เสียงที่เขาเล่าลือกัน แต่ผมได้พบกับความงดงามเหนือคำบรรยาย บรรยากาศโดยรอบของทะเลสาบน้ำจืดแห่งนี้ รวมถึงปราสาท Urquhart และภูเขาไฟ Glen Coe ทำให้ผมเข้าใจคำว่าสวยจนลืมหายใจเป็นครั้งแรก ซากปรักหักพังของปราสาทก็ช่างแลดูมีมนต์ขลัง แบบที่ผมเดินชมทั้งวันก็ไม่รู้เบื่อ สมุดบันทึกของผมเต็มไปด้วยร่องรอยของการขีดเขียน ทั้งภาพร่างของปราสาทและภูเขาไฟ มุมมองของทะเลสาบจากองศาที่ผมยืน และตัวอักษรบรรยายความประทับใจ ผมเก็บเอาประสบการณ์นั้นไว้ในความทรงจำมาจนถึงทุกวันนี้
สกอตแลนด์ยังคงมีสถานที่น่าสนใจอยู่อีกหลายที่ จาก Loch Ness ผมพาตัวเองไปยัง Edinburgh ผมชอบความเป็นธรรมชาติ กลิ่นอายแห่งประวัติศาสตร์และสถาปัตยกรรม คุณรู้ไหมว่าผมใช้เวลาอยู่ที่นั่นนานกว่าที่ผมตั้งใจ ผมต้องใช้สมุดโน้ตอีกเล่มหนึ่งในการบันทึกทุกความประทับใจ หากคุณได้มีโอกาสอ่านสมุดบันทึกเล่มนั้น ผมมั่นใจว่าคุณจะรู้สึกราวกับได้ไปเยือนเมืองหลวงของสกอตแลนด์ด้วยตัวคุณเอง
เสน่ห์อีกอย่างที่ผมหลงใหลคือความงดงามของเกาะต่างๆ Isle of Skye เป็นเกาะที่พลาดไม่ได้หากมาถึงแผ่นดินสกอตแลนด์ เกาะแห่งนี้เหมือนดังดินแดนในเทพนิยาย ไม่ว่าจะเป็นสายน้ำ ภูเขา และหมู่บ้านที่ราวกับถูกโอบกอดด้วยธรรมชาติ ความงดงามที่ธรรมชาติหยิบยื่นให้กับผม นำพาให้จินตนาการไปว่า มันจะดีสักเพียงใด หากในวันหนึ่งผมได้มาเห็นมันพร้อมกับใครคนหนึ่งซึ่งผมรัก ความโรแมนติกที่ไม่ต้องเสริมแต่งนี้อาจทำให้ผมลงนั่งคุกเข่า และขอเขาแต่งงานที่นั่นก็เป็นได้…
ผมใช้เวลาท่องเที่ยวในสกอตแลนด์เป็นเวลาสามสัปดาห์ ตอนนั้นผมรู้สึกว่าเวลาผ่านไปเร็วราวกับติดปีก เมื่อรู้ตัวอีกทีผมก็ต้องเดินทางกลับแล้ว มันเป็นทริปที่สั้นเกินกว่าจะเก็บบันทึกความสวยงามของเมืองทั้งเมืองไว้ได้ ช่างน่าเสียดายที่ไม่สามารถอยู่ที่นั่นได้นานกว่านั้น อย่างไรก็ตามทุกครั้งที่นึกย้อนกลับไป ผมดีใจเสมอที่เลือกสกอตแลนด์เป็นการเดินทางโดยลำพังครั้งแรกในชีวิต
หลังจากนั้นการเดินทางทุกช่วงซัมเมอร์ก็เป็นสิ่งที่ผมปฏิบัติทุกปี แม้ทุกทริปจะเป็นเพียงช่วงสั้นๆ ไม่เกินหนึ่งเดือน แต่ทุกสถานที่สอนอะไรหลายอย่างให้ผม ทุกการเดินทางต่างสั่งสมเป็นประสบการณ์ที่ไม่มีอะไรมาทดแทนได้ ตอนนั้นผมไม่เคยรู้ด้วยซ้ำว่าทุกความทรงจำของผม จะถูกถ่ายทอดออกมาเป็นตัวอักษรส่งต่อให้ใครสักคนได้อ่าน ไม่เคยคิดว่าจะได้เล่าขานเรื่องราวที่เคยอยู่ในสมุดบันทึกของตัวเอง ไม่เคยคาดฝันว่าสักวันหนึ่งผมจะได้เรียงร้อยถ้อยคำลงบนแผ่นกระดาษ และไม่แม้แต่จะคิดว่าวันหนึ่งผมจะเขียนมันเป็นจดหมาย ส่งตรงมาถึงยังมือของคุณ
มาถึงตรงนี้ผมอยากขออนุญาตถาม ว่าคุณชอบในสิ่งที่เพิ่งได้อ่านไหมครับ ผมมีเรื่องราวอีกมากมายที่อยากเขียนให้คุณอ่าน ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะต้องการหรือไม่ ผมยังคงยืนยันในสิ่งที่บอกคุณไปในจดหมายฉบับแรก…
หากคุณไม่ต้องการรับรู้ถึงการมีตัวตนของผมผ่านจดหมายเหล่านี้ กรุณาพับมันเก็บใส่ซองและวางมันเอาไว้ที่เดิมที่คุณพบมัน ผมจะเลิกล้มความตั้งใจที่จะร้อยเรียงถ้อยคำลงบนแผ่นกระดาษมาสู่คุณ ผมขอโทษหากมันทำให้คุณรู้สึกอึดอัดใจ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าคุณจะให้อภัยผม แต่หากคุณไม่รังเกียจมิตรภาพที่ผมหยิบยื่นให้ ผ่านถ้อยคำเหล่านี้ ผมจะส่งจดหมายฉบับต่อไปให้คุณ มันจะถูกวางไว้ที่เดิมเสมอ รอให้คุณเก็บมันขึ้นมา และเริ่มเดินทางไปกับผมอีกครั้ง ผมหวังว่าทุกตัวอักษรในจดหมายฉบับนี้ จะมีส่วนช่วยเติมเต็มความสุขของวันให้คุณได้บ้างนะครับ
R.K.
เมื่ออ่านจดหมายฉบับที่สองจบภูวนัทก็เม้มริมฝีปาก เขายังคงมองข้อความของประโยคสุดท้าย อ่านมันซ้ำอีกครั้งแล้วค่อยๆ ระบายรอยยิ้ม จดหมายในมือไม่ได้เป็นเพียงส่วนช่วยเติมเต็มความสุขในวันนี้ของเขา
ทว่ามันคือสิ่งที่ทำให้เขามีความสุขที่สุดในค่ำคืนนี้
ไม่รู้ว่าเพราะผู้ส่งมีพรสวรรค์ในการเขียน หรือเพราะสภาพจิตใจของเขาในตอนนี้ ทำให้ภูวนัทรู้สึกราวกับว่าจดหมายฉบับนี้คือเพื่อนที่ปลอบขวัญเขา ด้วยการเล่าเรื่องราวอันน่าสนใจให้ฟัง เพื่อให้ลืมสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อครู่
นักศึกษาหนุ่มมองไปยังกองจดหมายอีกสามฉบับบนโต๊ะเขียนหนังสือ เกิดอยากรู้ว่าข้อความในจดหมายที่ยังไม่ถูกอ่านจะเป็นอย่างไรขึ้นมาทันที คุณ R.K. จะพาเขาไปเที่ยวอีกไหมนะ หรือจะเล่าเรื่องราวอื่นๆ แทน แต่ไม่ว่าเนื้อความจะเป็นเช่นไร เขาก็รู้สึกอยากอ่านจดหมายฉบับต่อไปแล้ว แต่ก่อนอื่นเขาอยากรู้ว่าสถานที่ในจดหมายหน้าตาเป็นอย่างไร โดยเฉพาะ Isle of Skye ที่ผู้เขียนบรรยายถึงความโรแมนติกจนเขาต้องการพิสูจน์ด้วยตาตัวเอง จึงลุกไปเปิดแล็ปท็อป แล้วหาข้อมูลรูปภาพจากอินเทอร์เน็ต รูปสถานที่ท่องเที่ยวหลายรูปปรากฏขึ้นบนหน้าจอ ภูวนัทสูดลมหายใจเข้าลึก สิ่งที่อีกฝ่ายบรรยายนั้นไม่เกินจริงเลย หากได้ไปยืนอยู่ตรงนั้นกับคนที่เขารัก ตัวเขาเองก็คงไม่แคล้วนั่งลงคุกเข่าและขออีกฝ่ายแต่งงานเช่นกัน
หรือเขาอาจอยากให้ใครคนนั้นเป็นฝ่ายขอเขาแต่งงานก็เป็นได้
นักศึกษาหนุ่มหัวเราะเบาๆ กับความคิดของตัวเอง พลางนั่งดูรูปภาพของสถานที่ซึ่งถูกระบุอยู่ในจดหมายต่อด้วยหัวใจพองโต สักวันหนึ่งเขาจะมีโอกาสได้ไปเห็นมันด้วยตาตัวเองไหมนะ เขาจะได้ไปเดินเลียบทะเลสาบแล้วคอยดักดูว่าจะมีเนสซีโผล่ออกมาให้เห็นหรือเปล่า มันคงตื่นเต้นดีพิลึก ภูวนัทอมยิ้มเมื่อนึกไปถึงตรงนั้น เขามองทิวทัศน์ของปราสาท Urquhart บนหน้าจอแล้ววาดภาพตัวเองกำลังยืนดูพระอาทิตย์ตก มันคงสวยมากเสียจนเขาไม่อยากจะขยับไปไหน แปลกดีนะที่เจ้าของจดหมายทำให้เขารู้สึกแบบนี้ รู้สึกอบอุ่น ปลอดภัย รู้สึกราวกับมีเพื่อนผู้รู้ใจคอยอยู่เคียงข้าง ทั้งที่เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคนส่งหน้าตาเป็นอย่างไร และจะอบอุ่นใจดีเหมือนตัวอักษรบนหน้ากระดาษเหล่านั้นหรือเปล่า…
หนุ่มน้อยละสายตาจากหน้าจอแล้วมองไปยังจดหมายฉบับที่สาม เขาเม้มริมฝีปากแล้วสูดลมหายใจเข้าจนเต็มปอด ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบมัน เดินตรงไปนั่งพิงหัวเตียงเหมือนเดิม แล้วเริ่มอ่านจดหมายของคุณ R.K. อีกครั้ง
================================
ได้อ่านจดหมายฉบับแรกกันแล้ววว ชอบจดหมายของคุณ R.K. กันไหมคะ คุณเขาเขียนเก่งอ่า อ่านแล้วอยากเป็นน้องนัทขึ้นมาทันทีเลยเนอะ งื้อออ ทำไมถึงเป็นคนโรแมนติกขนาดนี้คะพ่อคุณ!
คุณ R.K.เขาส่งจดหมายให้น้องนัทไปห้าฉบับแล้ว น้องเพิ่งอ่านฉบับแรกไปฉบับเดียวเอง มาอ่านฉบับต่อไปพร้อมน้องนัทกันน้าา
ปล.ต้นเรื่องมีบอกว่าพี่เขาไม่เขียนบันทึกการเดินทางธรรมดาแต่แต่งเป็นนิยาย นั่นคือช่วงหลังเรียนจบหมาวิทยาลัยนะคะ ในจดหมายฉบับที่สองนี้พูดถึงตอนช่วงจบมัธยมค่ะ
น้องนัทต้องกูเกิลสถานที่ท่องเที่ยวเอง แต่สำหรับนักอ่านเจมี่เอารูปมาให้ดูถึงที่เลยจ้า
สถานที่ในจดหมายที่ราเชนพูดถึงนะคะ