“ที่พูดนี่คิดรึยัง?!” พอเขาพูดมาแบบนั้นฉันเลยพยักหน้าออกไปช้าๆ แล้วตอบกลับไปอย่างมั่นใจ “คิดแล้ว...ฉันว่าแย่กว่าการเป็นผู้หญิงของนาย คือเคยรักนายแต่จำมันไม่ได้มากกว่า”
รัก,ชาย-หญิง,วัยว้าวุ่น,ไทย,รั้วโรงเรียน,NightZ,รักวัยรุ่น,มหาลัย,พระเอกเย็นชา,ความจำเสื่อม,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
NightZ [I] THE LOST MEMORIES“ที่พูดนี่คิดรึยัง?!” พอเขาพูดมาแบบนั้นฉันเลยพยักหน้าออกไปช้าๆ แล้วตอบกลับไปอย่างมั่นใจ “คิดแล้ว...ฉันว่าแย่กว่าการเป็นผู้หญิงของนาย คือเคยรักนายแต่จำมันไม่ได้มากกว่า”
หลายวันต่อมา…
พรึ่บบบ!
“นี่ของพวกมึง”
ไปป์พูดขึ้นหลังโยนอะไรบางอย่างลงบนโต๊ะตรงหน้าฉัน พายุ และวาโย ลักษณะมันดู...คล้ายกับการ์ดเชิญล่ะมั้ง
“งานเลี้ยงรุ่นเซนต์ลูเซียร์”
วาโยเป็นฝ่ายหยิบการ์ดเชิญนั่นขึ้นไปดูก่อนแล้วพูดออกมา พอได้ยินแบบนั้นฉันก็เอื้อมมือไปหยิบมาดูบ้าง
‘เซนต์ลูเซียร์’ ที่วาโยพูดถึงน่ะคือโรงเรียนเก่าสมัย ม.ต้น ของพวกเราเอง ที่ที่ฉันเคยอยู่โรงเรียนประจำกับพายุ ส่วนวาโยก็ไปกลับเองนั่นแหละ
“อืม คืนวันศุกร์เจอกัน”
ไปป์พูดเสริมขึ้นมาแล้วก็เดินแยกออกไป จะว่าไปมีงานเลี้ยงรุ่นแบบนี้แปลว่าฉันจะเจอเพื่อนๆ ที่จำได้แบบเลือนรางพวกนั้นทั้งหมดเลยสินะ ก็ดีเหมือนกันแฮะถือว่าทวนความจำไปในตัว
แต่ขณะที่ฉันกำลังพลิกการ์ดเชิญในมือดูไปมาอย่างสนใจ พายุกลับมองมาด้วยสายตานิ่งๆ ก่อนจะเอื้อมมือมาดึงการ์ดเชิญนี้ออกจากมือฉันแล้วโยนกลับไปบนโต๊ะเหมือนเดิม
“ไปเหอะนะ”
ฉันพูดออกไปอย่างรู้ทัน ท่าทางแบบนี้ดูก็รู้ว่าพายไม่ไปแน่ๆ เพราะจากที่เรากลับมาคบกันได้สักพัก ฉันก็เรียนรู้ว่าสิ่งหนึ่งที่พายุไม่ชอบเอามากๆ คือการไปอยู่ในที่ที่มีคนเยอะๆ เขาบอกว่ามันวุ่นวาย น่ารำคาญ แต่นี่ก็เพื่อนกันทั้งนั้นเลยนี่คงไม่น่าจะมีปัญหาอะไรหรอกมั้ง
“……”
ฉันหันไปจ้องหน้าพายุอยู่สักพักแต่เขาก็ไม่ตอบอะไรออกมา ซึ่งฉันไม่ค่อยแปลกใจเท่าไหร่เพราะมันน่าจะเป็นคำตอบที่ชัดเจนว่าเขาจะไม่ไป ฉันเลยหันไปหาวาโยที่นั่งอยู่ถัดไปแทน
“งั้นฉันไปกับนาย”
“อืม (- -) (_ _)” วาโยพยักหน้าออกมาก่อนจะวางการ์ดในมือลงบนโต๊ะแบบชิลๆ แต่อยู่ๆ พายุก็เอื้อมมือไปหยิบการ์ดเชิญตรงหน้าเขาไปดูด้วยสีหน้านิ่งๆ
“เธอไปกับฉัน”
พอได้ยินพายุพูดแบบนั้นทั้งฉันและวาโยต่างก็หันมายิ้มให้กันแบบไม่ได้ต้องนัด ก็แค่เนี้ยชอบทำให้เป็นเรื่องยาก ฮ่ะๆ
@ งานเลี้ยงรุ่น SAINT LUCIA
อ่าฮะ.. ถึงจะบอกว่าเป็นโรงเรียนที่เคยเรียนก็เถอะ แต่เอาเข้าจริงๆ ฉันก็ไม่ค่อยจะคุ้นกับตึกใหญ่ๆ ตรงหน้าสักเท่าไหร่เลย แต่จำชื่อโรงเรียนได้ก็ถือว่าโอเคแล้วนะ ยังไงความทรงจำอันน้อยนิดนี้ก็ไม่สูญเปล่าอ่ะ ฮ่ะๆ =_=
“อ้าวนิล..จำสองคนนี้ได้แล้วหรอ? หวัดดีวาโย พายุ ดีใจที่ได้เจอนะ”
ผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาทักพวกฉันที่เพิ่งมาถึง ทั้งวาโยและพายุก็พยักหน้าตอบไปแต่ไม่ได้พูดอะไรต่อ แต่หน้าคุ้นๆ นะผู้หญิงคนนี้อ่ะ รู้สึกจะชื่อ...
“อิ้งค์..ใช่ป้ะ?”
ฉันถามออกไปอย่างไม่ชัวร์ แต่ก็น่าจะใช่นะเพราะตอนนั้นฉันเพิ่งออกจากโรงพยาบาลใหม่ๆ แล้วไปซื้อของเข้าบ้านกับแม่ ก็คนตรงหน้าฉันนี่แหละที่เดินเข้ามาทัก แถมยังถามหาพายกับโย ซึ่งก็เพิ่งปะติดปะต่อเรื่องได้ตอนนี้นี่แหละว่าคือสองคนนี้ ว่าแต่..ทำไมไม่สังหรณ์ใจตั้งแต่ตอนนั้นก็ไม่รู้ ไม่เข้าใจตัวเอง -_-
“ใช่ๆ นิลจำเราได้ด้วย ดีใจจัง >.<” อิ้งค์พยักหน้าแล้วยิ้มออกมาอย่างเป็นมิตร ก่อนที่เดินแยกออกไปทักเพื่อนคนอื่นต่อ
“โย่ววว ลูกพี่สบายดีป่าววว~”
พอฉันละสายตาจากอิ้งค์ที่เดินออกไป ก็มีผู้ชายตัวอ้วนผิวพรรณดีคนหนึ่งเดินเข้ามาทักพร้อมกับเพื่อนผู้ชายอีกสองสามคนที่เดินตามหลังมาด้วย
“เฮ้ย..บิ๊กบอสสส~”
“อย่าโดนตัว”
ฉันทักบิ๊กบอสกลับไปแล้วกำลังจะเอื้อมมือไปกอดคอแต่กลับโดนพายุเบรคไว้เลยได้แต่ส่งยิ้มแห้งๆ ออกไปแทน แหะๆ นี่เพื่อนนะ อะไรของเขากันเล่า -.-
อ้อ..บอกเลยว่าเพื่อนคนนี้ฉันจำได้ดีเลยแหละ เพราะบิ๊กบอสเป็นคนแรกๆ ที่มาเยี่ยมฉันเลย ไอ้มาบ่อยน่ะไม่เท่าไหร่นะ แต่ชอบมาเล่าวีรกรรมฮาๆ ให้ฟังแบบละเอียดยิบจนฉันจำมันได้ขึ้นใจเพราะตลกตัวเองตอนนั้นเหมือนกัน ส่วนที่เรียกว่า ‘ลูกพี่’ แบบเมื่อกี๊ หมอนี่บอกว่าที่ยอมมาเป็นลูกน้องฉันเพราะกลัวโดนดึงหู น่าตลกชะมัด :D
“Yes! จ่ายมาเลยพวกมึง ลูกพี่จำกูได้ คนละพันให้ไวเลย”
พอฉันทักหมอนั่นกลับไป บิ๊กบอสก็หันไปทำท่าทวงตังค์กับเพื่อนคนอื่นๆ ที่เดินตามกันมา เดี๋ยวเหอะ! นี่หมอนี่เอาความจำฉันมาล้อเล่นเนี่ยนะ
“เลิกไถเงินคนอื่นซะทีไอ้อ้วน!”
พลั่กกก!
ฉันพูดออกไปอย่างติดตลกแล้วผลักแขนบิ๊กบอสเบาๆ อย่างลืมตัว จนพายุส่งสายตาคมกริบมาให้ ฉันเลยต้องคว้าแขนพายุไว้มากอดไว้แบบอ้อนๆ แทน เกือบไปแล้ว =_=! ส่วนบิ๊กบอสก็หน้างอจนคนอื่นๆ ก็พากันขำกันใหญ่ รวมถึงวาโยที่ยืนกระดกเหล้าเข้าปากอยู่ข้างฉันด้วย
ไปเอามาตอนไหนล่ะนั่นน่ะเพิ่งเข้างานมาเองไม่ใช่หรอ -_-?
พอเดินพ้นจากพวกบิ๊กบอสไป เพื่อนคนอื่นๆ ก็แวะเวียนมาทักทายฉันอย่างต่อเนื่องเหมือนว่าจะรู้กันหมดว่าฉันมีปัญหาเรื่องความทรงจำ เพื่อนสมัยเรียนของฉันเนี่ยนิสัยดีๆ ทั้งนั้นเลยแฮะ ไม่ค่อยถือตัวเลยด้วย พูดจาก็ดี แถมยังจำวีรกรรมฮาของฉันได้กันหมด น่าอายจัง ฮ่ะๆ
“เฮ้ยพวกมึงทางนี้!”
ทั้งฉัน พายุ และวาโยหันไปตามเสียงเรียกของใครบางคน ก็เจอไปป์นั่งอยู่กับเพื่อนกลุ่มหนึ่งกำลังโบกมือมาทางเรา ซึ่งถ้าจำไม่ผิดทั้งโต๊ะนั้นน่าจะเป็นเด็กวงโยที่เคยไปเยี่ยมฉันอีกนั่นแหละ
“ไงนิล ควงสองตลอดเลย”
ผู้ชายคนหนึ่งในโต๊ะทักฉันอย่างเป็นกันเอง เขาชื่อบาสฉันจำได้ เพราะฉันชอบจำบาสสลับไปป์แต่ช่วงหลังเจอไปป์บ่อย
“ไอ้นี่ชื่อบาสนะ” ไปป์พูดขัดขึ้นมาอย่างกับรู้ว่าฉันกำลังคิดอะไร
“รู้แล้วน่า นี่บาส นั่นคิว ส่วนคนอื่น..โทษทียังจำได้ไม่หมด” ฉันพูดออกไปแล้วทำหน้าแหยๆ แต่พวกเขาก็พยักหน้าเข้าใจ
“แล้วก็เหลือไอ้สองคนนี้ด้วยที่เธอจำไม่ได้ หมาหัวเน่าจริงๆ เลยพวกมึงเนี่ย ฮ่ะๆ” บาสพูดขึ้นมาแล้วหันไปล้อวาโย ส่วนพายุก็ทำหน้าเฉยๆ แล้วยกแก้วขึ้นมากระดกสองสามที
“ไปที่ประจำดีกว่าว่ะ กลับมาแล้วคิดถึงวันเก่าๆ ฉิบหายเลย”
คิวพูดจบก็ลุกจากโต๊ะ ตามมาด้วยบาสและคนอื่นๆ ที่เดินเรียงกันไปเป็นแก๊งค์ ส่วนพวกฉันที่ยังไม่ทันได้นั่งก็เลยเดินตามพวกนั้นมา แต่พอเดินมาได้สักพักก็เหมือนว่าพวกเราจะเดินแยกออกมาจากกลุ่มเพื่อนคนอื่นๆ ที่อยู่ในโรงยิมกันพอสมควร แถมทางตรงนี้ก็ไม่ได้เปิดไฟไว้ด้วย แอบน่ากลัวนะเนี่ยจะมีผีโผล่มาตอนไหนก็ไม่รู้ -_- แล้วไอ้ที่ประจำที่ว่านั่นมันที่ไหนกันนะ ดูลึกลับชอบกล..
หมับ!
เฮือก O_O
แล้วอยู่ๆ พายุก็เลื่อนมือเขามาจับมือฉันเอาไว้ตอนกำลังคิดอะไรเพลินๆ จนฉันสะดุ้งนิดหน่อย
“ทีหลังกลัวก็บอก”
เขาพูดออกมาอย่างรู้ทันว่าฉันไม่ชอบที่มืดๆ แบบนี้เท่าไหร่ ฉันเลยส่งยิ้มแห้งๆ ออกไป ก็ดีนะ..มีพายอยู่ด้วยก็อุ่นใจ ถึงเวลาอยู่ต่อหน้าคนอื่นจะพูดน้อยมากก็เถอะ แต่เวลาอยู่กันสองคนเขาก็ขี้บ่นใช้ได้เลย
“ขอบคุณนะพาย ^_^” ฉันส่งยิ้มออกไป ส่วนพายุก็พยักหน้าตอบกลับมาแล้วเลื่อนมือที่จับอยู่มากอดคอฉันไว้ก่อนจะยีหัวเบาๆ จนผมฉันยุ่งแทน
มุมน่ารักก็มีมัวแต่เก๊กอยู่ได้นะเนี่ย..
ฉันเดินตามคนอื่นๆ มาหยุดอยู่หน้าโดมแห่งหนึ่งที่มีประตูกั้นและคล้องโซ่ใส่กุญแจล็อคเอาไว้ จากนั้นหนึ่งในเพื่อนที่มากับเราก็ใช้กุญแจไขประตูแล้วเปิดไฟข้างในจนสว่างโล่ง ก่อนจะเผยให้เห็นสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ใจกลางโดม ซึ่งแอบเห็นว่าทุกคนก็มองมันอย่างพอใจ ยกเว้นฉัน TT_TT
“ดีจ้า แหล่งมั่วสุมของพวกข้า”
ผลัวะ!
“ไอ้ห่า เรียกซะเสียเลย” เสียงเพื่อนวงโยที่เดินมาด้วยกันกับเราคุยเล่นกันอย่างเฮฮา ก่อนมีการใช้กำลังกันบ้างประปรายแล้วพวกเขาก็ขำกันคิกคัก
“ฮ่ะๆ ไม่เสียแรงที่ไอ้โยจ่ายค่าบำรุงทุกเทอมเว้ย”
ใครคนหนึ่งพูดขึ้นแล้วเดินนำเข้าไปในโดมอย่างคุ้นเคย แล้วเราทุกคนก็พากันเดินอ้อมมาหยุดอยู่อีกฝั่งของสระ ฉันที่ไม่ค่อยถูกกับน้ำก็เดินห่างจากขอบสระออกมาเป็นเมตรเห็นจะได้ มันเป็นการเซฟตัวเอง ไม่ได้เว่อร์วังหรืออะไร เพราะเกิดไอ้บ้าวาโยนึกคึกจับฉันโยนลงไปขึ้นมาอีกก็ซวยน่ะสิ -_-
“กลัวไรขนาดนั้น”
วาโยพูดลอยๆ ขึ้นมาอย่างรู้ทันจนฉันหันไปถลึงตาใส่ แล้วเขาก็ขำออกมา ส่วนคนอื่นๆ ก็ทิ้งตัวนั่งลงบนอัฒจันทร์ข้างสระ บางคนก็ลงไปนอนราบอยู่กับพื้นอัฒจันทร์แล้วควักมือถือออกมาเล่นเกมส์กันอย่างไม่ถือตัวตามประสาผู้ชาย
แล้วคนที่ขนเครื่องดื่ม เครื่องเสียงแบบพกพา และของจำเป็นต่างๆ นานามาด้วย ก็จัดการชงเหล้าแจกเพื่อนๆ และจัดเรียงของพวกนั้นกันอย่างคล่องแคล่ว
“อ่ะ นิล”
ใครบางคนยื่นแก้วเหล้ามาให้ ฉันรับมาแต่ไม่ได้ดื่มเพราะยังเข็ดจากงานวันเกิดไอ้ด้าอยู่ อีกอย่างแอบเห็นพายุมองมาก็รู้แล้วล่ะว่าฉันไม่ควรแตะมัน แค่คืนนั้นที่โดนลงโทษก็เล่นเอาฉันลุกจากเตียงไม่ได้จนต้องลาป่วยวันถัดไปเลย -///- เขานี่มัน..รุนแรง เจ้าอารมณ์ สมชื่อพายุจริงๆ เลย
“นิล โดดก่อนป้ะ? ปกติตัวเปิดเลยนะเราอ่ะ”
คิวตะโกนถามฉันที่ได้แต่ยิ้มแล้วส่ายหัวหงึกๆ ตัวเปิดบ้าบออะไร แค่เห็นก็กลัวแล้วมั้ย นี่ฉันเคยลงไปในนี้แบบไม่กลัวด้วยหรอ ทั้งลึก ทั้งกว้างแบบนั้น ให้ใส่น้ำนั่งเล่นในกะละมังยังแฮปปี้กว่า =_=!
“เอาก่อนเลยคิว แหะๆ” ฉันตอบออกไป ส่วนวาโยก็ทำท่าสำลักเหล้าในแก้วออกมาอย่างขำๆ จนฉันหันไปทำหน้ายักษ์ใส่เขาอีกที
“แค่กๆ ๆ”
เหอะ! หมอนี่นี่มันกวนโอ๊ยชะมัด!
“เฮ้ยชุดมี เตรียมไว้ให้แล้วเนี่ย รับนะ” พอพูดจบคิวก็โยนกระเป๋าใบหนึ่งมาให้ฉันทันทีแบบไม่ทันให้ตั้งตัว
“คิวเดี๋ยว!”
พรึ่บบบ!
ฉันหลับตาปี๋เพราะรู้ว่ากระเป๋านั่นต้องถูกโยนมากระแทกหัวฉันแน่ๆ ก็คิวเล่นโยนมาแบบไม่รอจังหวะเลยนี่นา แต่ผิดคาดพอลืมตามาก็เห็นพายุรับมันไว้ได้ทัน ก่อนจะส่งสายตาหงุดหงิดเล็กๆ ไปให้คิวที่หมุนตัวหันหน้าหนีไปทันทีเหมือนกัน แต่ก็ยังตะโกนตามหลังมาพูดกับฉันแบบลอยๆ
“โทษนะนิล แต่งานเลี้ยงรุ่นแฟนนิลคงไม่พกปืนมาเน่อะ~”
“ฮ่าๆๆๆ”
แล้วคำพูดของคิวก็ทำให้เพื่อนคนอื่นๆ พากันขำลั่น ฉันเองก็ขำออกมาในท่าทางกวนๆ ของเขาที่ตั้งใจกวนประสาทคนข้างๆ ฉันเหมือนกัน จะมีก็แค่พายุที่เหลือบมองคิวซึ่งตอนนี้หันหน้ากลับมาส่งยิ้มกว้างให้ฉันอยู่ด้วยสายตาเฉยๆ
“กวนตีน”
พายุตอบกลับคิวไปเสียงเข้ม แต่แววตาเขาก็ดูจะแอบขำกับสิ่งที่คิวพูดอยู่นั่นแหละ แค่ไม่ได้แสดงออกทางสีหน้าก็เท่านั้น
“นั่นไง โดนเข้าไปหนึ่งดอก ฮ่าๆๆ”
บาสพูดขึ้นมาแล้วเพื่อนๆ ก็ยังขำกันต่อไปไม่หยุด พวกเขานี่ตั้งใจก่อกวนพายุกันชัดๆ เลยอ่ะ โดยเฉพาะไอ้บ้าวาโยที่ดูจะถูกใจกว่าใครเลยเวลาเห็นพายโดนแกล้งอ่ะนะ
“ยิ้มหน่อยสิมาเจอเพื่อนทั้งทีเลยนะ” ฉันเอามือไปจับหน้าพายุแล้วทำเป็นฉีกยิ้มแกล้งเขา พอเห็นเขาทำท่า Keep Look ตลอดเวลาอยู่แบบนั้น
“อย่าแกล้ง” พายพูดออกมาแล้วพยายามปัดมือฉันออก แต่ฉันก็ยังบีบแก้มเขาไปมาไม่ยอมปล่อย
“ยิ้มบ้างไม่มีใครว่าหรอกน่า ยิ้มแบบเนี้ย ยิ้ม ยิ้ม~ :D”
ฉันทำท่าฉีกยิ้มกว้างให้เขาดูหลายๆ แบบ จนสุดท้ายพายก็หลุดยิ้มมุมปากและส่งเสียงดุออกมาอย่างเลี่ยงไม่ได้
“พูดมาก”
“หรอ พูดมาก..แล้วรักป้ะ?”
ฉันแกล้งถามออกไป แต่คำตอบที่ได้กลับเป็นความเงียบ
“.....”
“เค ไม่ตอบก็อย่าตอบ” แล้วฉันก็ทำท่าจะลุกหนีไปหาเพื่อนคนอื่นๆ แต่พายกลับคว้าแขนฉันเอาไว้แล้วกระชากกลับไปอย่างแรงจนตัวเซ
หมับ! พรึ่บ!
“รัก...
...มาก ♥”