“ที่พูดนี่คิดรึยัง?!” พอเขาพูดมาแบบนั้นฉันเลยพยักหน้าออกไปช้าๆ แล้วตอบกลับไปอย่างมั่นใจ “คิดแล้ว...ฉันว่าแย่กว่าการเป็นผู้หญิงของนาย คือเคยรักนายแต่จำมันไม่ได้มากกว่า”
รัก,ชาย-หญิง,วัยว้าวุ่น,ไทย,รั้วโรงเรียน,NightZ,รักวัยรุ่น,มหาลัย,พระเอกเย็นชา,ความจำเสื่อม,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
NightZ [I] THE LOST MEMORIES“ที่พูดนี่คิดรึยัง?!” พอเขาพูดมาแบบนั้นฉันเลยพยักหน้าออกไปช้าๆ แล้วตอบกลับไปอย่างมั่นใจ “คิดแล้ว...ฉันว่าแย่กว่าการเป็นผู้หญิงของนาย คือเคยรักนายแต่จำมันไม่ได้มากกว่า”
“พาย !!!”
เฮือก O_O
ฉันสะดุ้งตื่นจนลุกขึ้นมานั่งอยู่บนเตียงผู้ป่วยในห้องสีขาวสะอาดตา ก่อนจะหันไปเห็นวาโยและเพื่อนคนอื่นๆ จ้องมาแบบไม่สนใจอะไรเท่าไหร่นัก
“บิงโก! นี่แม่งฉากในละครไทยชัดๆ”
“ฮ่าๆๆๆ”
พอใครคนหนึ่งพูดขึ้น เพื่อนทุกคนก็ขำออกมากันเกรียวกราวอย่างน่าหนวกหู ไอ้แก๊งค์เด็กวงโยพวกนี้มาทำไรกันเยอะแยะเนี่ย บ้านช่องไม่กลับ -.-
“เงียบหน่อยได้มั้ย?!”
ฉันโพล่งออกไปอย่างหงุดหงิดเล็กๆ จนทุกคนเงียบเสียงลง..
“พายอยู่ไหน เป็นไรมากรึเปล่า?” และรีบถามออกไปอย่างเป็นห่วงอีกที เพราะกวาดสายดูทั่วทั้งห้องแล้วแต่ไม่เห็นแม้แต่เงาของเขาเลย
“สูบบุหรี่อยู่ข้างนอก คิดว่ามันจะเป็นไรล่ะ” วาโยที่นั่งอยู่หันมาตอบแล้วเป็นฝ่ายถามฉันกลับมาแทน ยังจะมีหน้ามาถามอีกเขานั่นแหละตัวดี!
“ก็พวกนายผลักพายลงน้ำทั้งที่...”
“มันก็ว่ายเป็น”
ฉันยังพูดไม่ทันจบ โยพูดขัดขึ้นมาจนฉันหยุดคิดตามไปชั่วขณะ..
“ชะ..ใช่”
พอได้ฟังแบบนั้นฉันเลยพูดออกไปอย่างสับสน ใช่..พายุว่ายน้ำเป็นนี่นา ฉันเองก็ว่ายเป็น ก็ฉันกับโยเป็นคนสอนพายเองด้วยซ้ำ นี่มัน...
“อืม สติดีขึ้นยังหรือสมองยังพังอยู่” โยพูดออกมาแล้วเดินมาผลักหัวฉันเบาๆ หลายครั้ง เดี๋ยวสิหมอนี่!
“โอ๊ย ไอ้โยเล่นหัวเลยหรอ มาใกล้ๆ ดิ๊จะตบให้!”
ฉันหลุดจากความคิดแล้วหันไปยื่นแขนสั้นๆ ของตัวเองออกไปหาวาโยทันที แต่เอื้อมไม่ถึงตัวเขาเลยคว้าได้แค่อากาศไปมาเท่านั้น
“ฝันไปเหอะ สรุปยังไง..จำได้แล้ว?”
วาโยถามออกมาพร้อมกับจ้องหน้าฉันอย่างรอคำตอบ จำได้แล้วงั้นหรอ..
“อะ..อืม น่าจะนะ” ฉันตอบออกไปแบบไม่เต็มเสียงเท่าไหร่นัก เพราะกำลังประมวลผลเรื่องราวในหัวอยู่แบบค่อนข้างตกใจพอสมควร
“เอาให้แน่นะ จำได้ทุกคน ได้ทุกอย่าง..?”
วาโยถามออกมาอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ ฉันเลยหยุดประมวลผลอยู่สักพักแล้วก็รู้สึกว่าอะไรหลายอย่างที่เคยรู้สึกคาราคาซังมันหายไป เลยพยักหน้าตอบกลับไปเบาๆ
จำได้แล้วล่ะ.. ฉันน่ะจำทุกอย่างได้หมดแล้ว ..รวมถึงเรื่องนั้นด้วย
“งั้นไอ้พวกนี้ชื่อไรบ้าง?”
วาโยพูดขัดขึ้นมาในความคิดของฉัน ก่อนจะชี้ไปที่คนอื่นๆ ที่ตอนนี้กำลังนั่งก้มหน้าสนใจมือถือกันอย่างเดียว นี่มาเยี่ยมฉันกันจริงป้ะเนี่ยดูเหมือนมาจับกลุ่มเล่นเกมส์กันมากกว่าซะอีก
“ไปป์ บาส คิว ทอย แชมป์ ต้าร์ บอม เจ”
ฉันตอบชื่อทุกคนเรียงตามตำแหน่งที่นั่ง แล้วแต่ละคนที่ฉันพูดชื่อออกไปก็จะหันมายิ้ม โบกมือ หรือยักคิ้วให้นิดหน่อยแล้วก้มหน้าเล่นเกมส์ต่อ
“อืม แล้วฉัน?”
พอฉันไล่ชื่อทุกคนจนครบ โยก็หันมาเลิกคิ้วให้ฉันอย่างตั้งคำถามอีก เล่นเอาฉันแอบขำในท่าทางนั้น ทำไม? กลัวฉันจำเขาไม่ได้รึไงกัน ตลกเป็นบ้า!
“เนี่ยน่ะหรอ ก็วาโย วิธวินท์ คู่จิ้นตลอดกาลของนิลลา~ เราเป็นเพื่อนที่รักกันมากกกกกเลยไงล่ะ ฮ่ะๆ”
ฉันพูดออกไปตามที่โฆษกสมัยเรียนชอบประกาศชื่อพวกเราแบบนั้นตอนลงแข่งว่ายน้ำพร้อมกัน ก่อนจะลากเสียงออกมายาวๆ จนวาโยหลุดขำแล้วเอื้อมมือมายีผมฉันจนยู่ยี่
“หึ จำฉันได้สักทีนะยัยหมาบ้า”
“โอ๋~ เจ็บหรอ มา..เป่าให้”
ฉันเอื้อมมือไปลูบต้นแขนของวาโยแรงๆ ก่อนจะกัดฟันพูดออกไปอย่างขำๆ จำได้ละว่ารอยกัดนั่นมายังไง ฉันเป็นคนกัดเองนั่นแหละ ก็โยเล่นเอาแขนมาล็อคคอฉันไว้ตอนจะไปมีเรื่องกับคนที่มาแกล้งพายตอน ม.2 น่ะสิ แล้วตั้งแต่ตอนนั้นไอ้หมอนี่ก็เรียกฉันว่า ‘ยัยหมาบ้า’ มาตลอดเลย
“เพื่อนที่รักกันมากห่าไร กูไม่เคยเห็นคุยกันดีๆ ได้เกินสามนาทีสักที” ไปป์ที่กดมือถือยิกๆ พูดลอยๆ ขึ้นมาทั้งที่ตายังจ้องโทรศัพท์อยู่อย่างนั้น
“งั้นก็เริ่มจับเวลาเลยเดะ แพ้เลี้ยงข้าวทุกคนนะ กล้าป้ะ?” ได้ฟังแบบนั้นฉันเลยเอ่ยปากท้าออกไปจนไปป์เงยหน้าขึ้นมามองอย่างกวนๆ
“อย่าท้าผมนะครับคุณนิลลา”
“ทำไม..มึงกล้า?” วาโยถามออกไปแล้วทิ้งตัวนั่งบนเตียงก่อนจะเอื้อมมือกอดคอฉันไว้หลวมๆ
“โธ่ไอ้โยมึงพูดอะไร?! ไม่ดิ! ใครจะไปกล้า เงียบหน่อยครับกูเล่นเกมอยู่ต้องใช้สมาธิ!” แล้วพอไปป์พูดมาแบบนั้นเพื่อนๆ ที่นั่งกันอยู่ก็โห่ออกมา แล้วขำกันยกใหญ่
“โห่~ ไอ้อ่อน แล้วไปแซวเค้า ฮ่าๆๆ”
“เฮ้ย แต่กูก็คิดเหมือนไอ้ไปป์ เพื่อนรักบ้าไร พวกมึงแม่งเหมือนคู่ดูโอ้ว่ายน้ำแอ๊กๆ ที่ชอบท้าใครเค้าแข่งไปทั่วมากกว่าว่ะ” คิวพูดขึ้นมาแล้วเงยหน้ามายักคิ้วให้พวกฉันอย่างกวนๆ อีกคนจนวาโยหันไปชี้หน้าเขาขำๆ
“มึง!”
“เออก็ไม่เห็นจะว่ายเก่งตรงไหน แค่กูแพ้ ไอ้พวกนี้แพ้ โรงเรียนอื่นแม่งก็แพ้ ก็แค่นั้น” แชมป์พูดเสริมขึ้นมาก่อนจะโดนทอยเอื้อมมือมาตบหัวอย่างแรงจนหน้าทิ่ม
ผลัวะ!
“โอ๊ย ตบเค้าไมอ่ะ” เสียงแชมป์โอดโอยขึ้นมาจนฉันถึงกับส่ายหัว
“นั่นแหละเค้าเรียกว่ายเก่งไอ้ห่า กดสิกดเพื่อนรออยู่” แล้วทอยก็ชี้ไปที่ปุ่มกดในมือถือก่อนจะเอ่ยปากสั่งออกมาจนคนอื่นขำกันออกมาอีก
ฉันมองภาพทุกคนในห้องตอนนี้แล้วรู้สึกชอบโมเม้นต์พวกนี้จัง นี่ฉันลืมพวกเขาไปชั่วขณะแบบนั้นได้ยังไงกันนะ โดยเฉพาะ...
แอ๊ดดดดดด~
ระหว่างที่พวกเรากำลังนั่งคุยเล่นกันอย่างสนุกสนาน และหัวเราะออกมากันจนท้องแข็งนั้น อยู่ๆ พายุก็เปิดประตูเข้ามาทำให้ทั้งฉันและวาโยผละออกจากกันในทันที
‘อย่าให้มันมากไป ไม่ชอบ’
เสียงของพายุที่เคยพูดไว้ดังขึ้นในหัวฉันอัตโนมัติ พร้อมกับร่างสูงตัวเป็นๆ ของเขาที่เดินเข้ามานิ่งๆ
“พาย...” ฉันมองหน้าพายุด้วยความรู้สึกหลากหลาย เช่นเดียวกับสายตาที่เขามองกลับมาในตอนนี้ก็ดูสับสนมากอย่างน่าประหลาด
“ไปเว้ยพวกมึง กลับบ้านได้ละ” วาโยที่น่าจะเข้าใจท่าทางของพวกเราพูดขึ้น แล้วดันตัวเองลุกจากเตียงของฉันท่ามกลางสายตาของพายุที่จ้องมาที่เราทั้งคู่
“พักผ่อนเยอะๆ”
“อื้ม (- -) (_ _)”
โยหันมาบอกฉันก่อนจะเดินก้าวขาออกห่างจากเตียงฉันไปเรื่อยๆ ฉันเลยพยักหน้าตอบ แล้วเขาก็ไล่พวกที่เหลือเดินตามกันออกไปจนหมด จนเหลือฉันกับพายุแค่สองคนในห้องเงียบๆ เท่านั้น
“เป็นไงบ้าง?” พายุพูดขึ้นเพื่อทำลายความเงียบ และเดินเข้ามาหาฉันช้าๆ ด้วยท่าทางที่..ดูเหมือนลังเล
“ไม่เป็นไรแล้ว” ฉันตอบออกไป และมองเห็นความกังวลใจบนหน้าเขาที่แสดงออกมาอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเพราะอะไรนั่นคงเป็นเหตุผลที่ทำให้เขากำลังทำตัวไม่ถูกอยู่ตอนนี้สินะ
“พาย นิล..จำโยได้แล้วนะ”
ฉันพูดออกไปช้าๆ เผื่อว่าเขาจะอยากรู้รายละเอียดอะไรมากกว่านั้น แต่พายุกลับพยักหน้าตอบกลับมาว่ารับรู้แล้วแค่นั้น..
“แล้วนิลก็จำพะ...”
“พักเถอะเหนื่อยมากแล้ว”
ยังไม่ทันที่ฉันจะพูดจบ อยู่ๆ พายุก็ตัดบทด้วยการเอื้อมแขนสองข้างมาจับไหล่ฉันกดลงไปนอนแนบกับเตียง แล้วดึงผ้าห่มขึ้นมาห่มให้ช้าๆ ก่อนจะเอามือมาปัดไรผมที่ปรกหน้าฉันออกเบาๆ
“อยู่เป็นเพื่อนกันก่อนได้มั้ย…”
ฉันถามออกไปพอเห็นว่าหลังจากดันตัวฉันลงนอน พายกำลังกลับหลังหันจะเดินออกห่างจากเตียงซึ่งมันชวนให้ใจหายขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก แล้วฝีเท้าของเขาก็หยุดชะงัก
กึก!
“อยู่เป็นอะไรก็ได้ทั้งนั้น..แค่บอกมา”
พายุพูดออกมาทั้งที่ยังหันหลังให้ฉันอยู่แบบนั้น ฉันฟังแค่น้ำเสียงของเขาก็รู้ทันทีว่าตอนนี้กำลังมีบางอย่างที่มากั้นเราสองคนเอาไว้
“นิล..จำพายได้แล้วนะ”
ฉันตัดสินใจพูดมันออกไปเพื่อดูปฏิกิริยาของเขา แต่พายกลับยืนนิ่งเงียบไม่ยอมพูดอะไรออกมาเลย
“ขอโทษนะพายที่นิลเผลอลืมไป”
ฉันพูดออกไปอีกครั้งส่วนเขาก็ยังยืนนิ่งเงียบอยู่อย่างเดิม ก่อนที่เสี้ยวนาทีหลังจากนั้นร่างสูงตรงหน้าจะค่อยๆ หันกลับมามองฉันด้วยแววตาที่ดูเหมือนตัดพ้อจนฉันต้องเป็นฝ่ายหลบตา
สายตาแบบนั้น ท่าทางแบบนั้น ความนิ่งเงียบจนดูเย็นชาในแบบที่ฉันไม่คุ้นเคยอย่างนั้น ฉันคิดว่าฉันรู้นะ.. รู้ว่าพายุกำลังคิดอะไร เพราะมันมีบางอย่างที่ฉันก็รู้ดีแก่ใจว่าเคยทำผิดกับเขาเอาไว้
“ขอโทษนะที่วันนั้นนิลไม่ได้รอพาย ขอโทษ..ขอโทษจริงๆ”
สองสามวันต่อมา..
“มึง วันนี้มีเรียนชดเชยคาบสุดท้ายว่ะ แต่กูเข้าไม่ได้นะพอดีมีธุระด่วน” ฉันฟังเจด้าพูดออกมาแต่ไม่ได้ตอบอะไร เพราะในหัวมันมีแต่เรื่องเรื่องเดียวให้คิดจนฟุ้งซ่านไปหมด
“ไอ้นิลฟังกูอยู่มั้ย ฮัลโหลลล” ไอ้ด้าโบกมือเรียกสติฉัน ฉันเลยหันไปพยักหน้าเบาๆ แล้วฟุบลงกับโต๊ะอย่างหมดอาลัยตายอยาก
“อือออ”
“เป็นไรวะ ก็ไหนว่าจำใครได้หมดแล้วก็น่าจะแฮปปี้ดิ”
เหอะๆ พอได้ฟังแบบนั้นฉันก็ยกแขนขึ้นโบกมือปฏิเสธสิ่งที่เจด้าพูดอย่างเหนื่อยใจ แฮปปี้หรอ? แฮปปี้ผีบ้าผีบออ่ะดิ -_-
ใช่..มันจำได้ แต่จำได้ว่าตัวเองทำผิดขนาดนั้นมันก็ไม่โอเคเลยไง เฮ่อ.. แถมดูท่าทางพายุตอนนั้น ไม่บอกก็รู้ว่าเขาโกรธฉันแน่ๆอ่ะ ถึงเรื่องนั้นมันจะผ่านมานานแล้วก็เถอะ
และที่มันละอายใจที่สุด คือก่อนหน้านี้เขาแบกรับเรื่องนี้เอาไว้คนเดียว และต้องมองหน้าฉันด้วยความรู้สึกแบบนั้นอยู่ทุกวัน ทั้งที่ฉันจำอะไรไม่ได้เลย แถมตอนนั้นฉันยังพยายามหาคำตอบเรื่องนี้อยู่ได้จนเหมือนไปตอกย้ำเขา ทั้งที่ตัวเองนั่นแหละที่ทำผิด
มันเป็นฉันเองที่ไม่ได้รอเขา..
ฉันผิดสัญญาในวันที่พายุต้องย้ายไปเรียนต่อที่อเมริกาทั้งที่เขาก็ไม่ได้อยากไป ทุกอย่างเกิดขึ้นกะทันหัน แม่พายุเสียในช่วงเวลานั้น เขาเลยต้องย้ายไปอยู่กับคนที่เรียกได้ว่าแทบจะเกลียดที่สุด ด้วยสิทธิ์การเลี้ยงดูของบุคคลที่ขึ้นชื่อว่าเป็นพ่อที่ปฏิเสธไม่ได้ และเพราะพายไม่ได้สนิทกับพ่อเขาเท่าไหร่นัก มันเลยเหมือนเขาต้องกลับไปใช้ชีวิตคนเดียวอีกครั้ง เหมือนอย่างที่เคยฝังใจตอนย้ายมาอยู่โรงเรียนประจำใหม่ๆ
ฉันไม่อยากให้พายุกลับไปอยู่จุดนั้นอีกแล้ว เขามีแต่ความเศร้าแม้ตอนนั้นจะยังเด็กมากก็ตาม ทุกคนควรได้รับรอยยิ้มสิแม้ชีวิตมันจะแย่ขนาดไหน วันนั้นพายควรได้กำลังใจจากฉันสิ แต่ฉันกลับเลือกที่จะไม่รอเขา...ทั้งที่ตอนนั้นก็รู้ดีว่าพายุต้องกำลังกลับมาบอกลาฉันเป็นครั้งสุดท้ายตามสัญญาที่เคยให้กันไว้แน่นอน
ย้อนกลับไป 4 ปีก่อน..
‘นิลนิล..พายต้องไปอเมริกา’
เสียงของพายุดังขึ้นในหัวฉัน ทำให้ตอนนั้นฉันชะงักมือที่กำลังเลือกชุดไปงานพรอมให้เขาอย่างมีความสุข
‘หมายความว่าไง?’
ฉันมองหน้าพายุอย่างอึ้งๆ และต้องอึ้งหนักกว่าเดิมพอได้ฟังเรื่องราวที่เขาเล่าออกมาทำให้นึกสงสารเขาจับใจ
‘ลุงกับป้าบอกว่าเรื่องมันวุ่นวาย เพราะงั้นงานพรอมคืนพรุ่งนี้พายคง..’
พายุเงียบไปซึ่งฉันเองก็รู้ทันทีว่าเขาคงมาไม่ได้
‘มะ..ไม่เป็นไร ไม่เป็นไรอย่าคิดมากนะ’
ฉันเอื้อมไปจับมือพายอย่างให้กำลังใจ เพราะตอนนั้นเขาดูนิ่งไปอย่างเห็นได้ชัด และดูเครียดเกินกว่าที่ฉันเคยเห็นเด็กมัธยมคนหนึ่งจะเครียดได้มากขนาดนั้น
‘ทนายของแม่บอกว่าต้องจัดการบางอย่างให้เรียบร้อยก่อนพายจะไป ไฟล์ทด่วนจะบินคืนพรุ่งนี้ แต่..รอฉันนะนิลลา’
พายุอธิบายเหตุผลให้ฉันฟัง พร้อมกับร้องขอออกมาด้วยแววตาที่คาดหวังในคำตอบของฉัน
‘นาย..จะกลับมาใช่ไหม’
ฉันเองก็ถามออกไปอย่างต้องการความแน่ใจ เพราะลึกๆ ตอนนั้นฉันเองก็กลัว กลัวว่าเขาจะไม่กลับมา…
‘ไม่ว่ายังไงก็จะกลับมาให้ได้ สัญญา’
พายุในวันนั้นจ้องมาที่ฉันด้วยความแน่วแน่ สายตาและท่าทางที่บ่งบอกว่าเขาจะรักษาคำพูดนั้นมัน... เฮ่ออออออ นี่ฉันทำพลาดไปอย่างมหันต์เลยไง แล้วถึงตอนนี้..ต้องทำยังไงใครก็ได้ช่วยบอกที TT_TT?