ทุกๆ 100 ปี ดอกไม้ปีศาจของแม่มดซาฟีน่าจะเบ่งบานเพื่อแผดเผาทุกสรรพสิ่ง ถึงเวลาที่เฮนรี่ ผู้กล้าของหุบเขาเอเวอร์นอร์ทและยุทธภพ ผู้ทะลุมิติมาจากปี 2024 จะทำหน้าที่อันยิ่งใหญ่เพื่อให้โลกสงบสุขอีกครั้ง
แฟนตาซี,ย้อนยุค,ข้ามเวลา,ผจญภัย,ปลูกผัก,แฟนตาซี,ทะลุมิติ,ต่างโลก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ดอกไม้ปีศาจบนหอคอยแม่มดทุกๆ 100 ปี ดอกไม้ปีศาจของแม่มดซาฟีน่าจะเบ่งบานเพื่อแผดเผาทุกสรรพสิ่ง ถึงเวลาที่เฮนรี่ ผู้กล้าของหุบเขาเอเวอร์นอร์ทและยุทธภพ ผู้ทะลุมิติมาจากปี 2024 จะทำหน้าที่อันยิ่งใหญ่เพื่อให้โลกสงบสุขอีกครั้ง
ณ หุบเขาอันไกลโพ้นในดินแดนฝั่งตะวันตกเมื่อ 7,000 ปีก่อน เฮนรี่ เด็กหนุ่มวัย 18 ปี เขาได้รับคัดเลือกให้ปกป้องชาวโลกจากอานุภาพความชั่วร้ายของบางสิ่งบนหอคอยลึกลับ ดอกไม้ปีศาจของแม่มดซาฟีน่าในตำนานเล่าขานจากพรรพบุรุษ... ทุกๆ 100 ปีมันจะเบ่งบานเพื่อรอเผาผลาญทำลายทุกสรรพสิ่งบนโลกมนุษย์ให้ลุกเป็นไฟและมอดไหม้ลงในพริบตา คราวนี้เป็นหน้าที่ของเฮนรี่และเด็กหนุ่มอีก 3 คน หนึ่งในนั้นคือยุทธภพ เด็กหนุ่มผู้ทะลุมิติมาจากอีกซีกโลกหนึ่งในดินฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ พวกเขาจะทำภารกิจในครั้งนี้ให้สำเร็จได้หรือไม่ ติดตามได้ในนิยายแฟนตาซีเหนือจินตนาการ ‘ดอกไม้ปีศาจบนหอคอยแม่มด’
“วันนี้มีสเต๊กเนื้อกวางหนุ่ม ไก่งวงผักโขมอบชีส ซี่โครงแกะย่างเกลือ สลัดมันฝรั่งผักรวม เนยถั่วกับกล้วยหอม และพวกของว่างอื่นๆ รวมทั้งผักผลไม้สดๆ พวกนี้ด้วย แต่เจ้าไม่ต้องแปลกใจนะยุทธ ป้าตงิดๆ ว่าเจ้าจะมาที่นี่ ข้าเลยเตรียมอาหารไว้ต้อนรับ มาช่วยเจ้าเฮนรี่มันกินหน่อย รายนั้นก็กินจุพอตัว เจ้ากินได้มั้ยล่ะ ไม่รู้ว่าจะถูกปากเหมือนอาหารในโลกของเจ้าหรือเปล่า” ป้าแครอลนำเสนออาหารมื้อนี้ที่มีความหลากหลายน่ากินเป็นยิ่งนัก ทำเอาเด็กหนุ่มทั้งสองคนน้ำลายพุ่งฉีดอยู่ในกระพุ้งแก้มจนแทบจะกระฉอกออกมานอกปาก มองหน้ากันเหมือนกลัวว่าอีกฝ่ายจะแย่งกินจนหมด
“ได้สิครับป้าแครอล ข้าได้กินอาหารของพวกท่านในอีก 7,000 ปีข้างหน้า รสชาติถูกปากข้ายิ่งนัก คราวนี้ได้มากินต้นตำรับแบบนี้ข้าไม่พลาดแน่” ยุทธตอบแครอลด้วยความดีใจ อาหารยุคก่อนนี่อุดมสมบูรณ์จริงๆ
“สเต๊กเนื้อกวางของโปรดข้าเลยป้าแครอล ไก่งวงก็น่ากิน สลัดยิ่งอร่อย งั้นข้าไม่เกรงใจแล้วนะ” เฮนรี่กระดี๊กระด๊าตอบผู้เป็นป้าด้วยความหิวโหย รีบคีบสเต๊กเนื้อกวางเข้าปากจนแทบสำลักออกมา
“ใจเย็นๆ เฮนรี่ ดูสิเจ้านี่ กินจนล้นปากออกมาแบบนั้น ไม่อายยุทธมันบ้างหรือไงน่ะ” ปู่อาเธอร์กล่าวพลางหันหน้ามองป้าแครอลแล้วประสานเสียงหัวเราะกันอย่างมีความสุข มิน่าถึงได้ตัวโตและแข็งแรงเกินวัย ไม่ต่างจากเพื่อนใหม่ที่กินเยอะไม่แพ้กัน ทั้งสองคนมองเด็กหนุ่มสองคนกินอาหารอย่างเอร็ดอร่อย เด็กกำลังเจริญเติบโตแบบนี้ช่างน่าเอ็นดูเหลือเกิน
“กินให้เยอะๆ สิยุทธ เอ้านี่ขาไก่งวงใหญ่ๆ แบบนี้เจ้าไม่ชอบหรือไง” แครอลดึงขาไก่งวงจากตัวไก่หนึ่งในสี่ตัวบนโต๊ะยื่นให้เด็กหนุ่มต่างถิ่น ถึงแม้จะกำลังขำอยู่กับแก้มตุ่ยของเขาที่เคี้ยวอาหารอยู่เต็มปาก
“อ้าว...ป้าแครอลครับ ใครกันแน่ที่เป็นหลานรัก เจ้านี่ตะกละตะกลามมาจากไหนก็ไม่รู้ เอาใจมันใหญ่เลยนะ” เฮนรี่พูดออกมาทั้งที่เคี้ยวเนื้อกวางในปากอย่างเอร็ดอร่อย
ป้าแครอลมองค้อนเฮนรี่อย่างเอ็นดู เด็กดื้อที่ถูกเอาใจตั้งแต่เด็ก พอเห็นคนอื่นเข้ามาอยู่ด้วยอาจจะน้อยใจหรือเปล่า แต่ลึกๆ แล้วนางคิดว่าเฮนรี่ไม่ได้มีนิสัยแบบนั้นไปเสียเลยทีเดียว อาจจะเป็นการเรียกร้องความสนใจเวลาที่เห็นคนที่ตัวเองรักให้ความสำคัญกับคนอื่น ยิ่งเป็นเด็กหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกันด้วยแล้ว ในความคิดของนางเด็กหนุ่มทั่วไปจะมองว่าเป็นการเสียศักดิ์ศรีหรือเปล่านะ
“เจ้าได้กินฝีมือป้าจนจะอายุ 18 ปีแล้วนะเฮนรี่ ให้เพื่อนเจ้าได้ลิ้มรสอาหารเมืองเราบ้างจะเป็นไรไป จะได้รู้ที่บอกว่าฝีมือป้าอร่อยจนหยุดกินไม่ได้น่ะจริงหรือเปล่า หรือแค่จะหลอกคนแก่ให้ดีใจเท่านั้นเอง” ป้าแครอลว่าหยอกหลานชายตัวแสบให้หายงอน แต่จะงอนยิ่งกว่าเดิมหรือเปล่านางไม่อาจคาดเดาได้
“เห็นพวกเจ้ากินอร่อยแบบนี้ปู่ก็มีความสุขแล้ว ไว้เดี๋ยวปู่จะให้ป้าแครอลทำอาหารอร่อยๆ ให้พวกเจ้ากินทุกวันเลย เฮนรี่มีเพื่อนกินด้วยแบบนี้คงสนุกล่ะ พืชผักข้างบ้านเรามีให้กินไม่ได้ขาด มากพอที่จะนำไปแลกเนื้อสัตว์ของเพื่อนบ้านได้มากโขอยู่” ชายแก่อาเธอร์เอ่ยกับคนทั้งสามบนโต๊ะอาหารอย่างมีความสุข
หลังจากผ่านอาหารมื้อเย็นเรียบร้อยแล้ว ปู่อาเธอร์ก็นั่งมองเด็กหนุ่มต่างเวลาอยู่เป็นนาน ร่างกายกำยำของเขาดุจดังชายชาตรีในโลกเวทมนตร์ ช่างเหมาะสมกับชุดนักรบหนุ่มแห่งหุบเขาเอเวอร์นอร์ทเป็นยิ่งนัก หรือพระเจ้าจะส่งเขามาเพื่อสิ่งนี้ ถ้าได้เขามาเคียงบ่าเคียงไหล่กับเฮนรี่แล้ว มันจะต้องต้านทานสิ่งที่จะเกิดขึ้นในเร็ววันนี้ได้อย่างแน่นอน
แต่ก่อนอื่นจะต้องทำให้เขาเป็นชาวเมืองเอเวอร์นอร์ทให้กลมกลืนเสียก่อน เริ่มจากเครื่องแต่งกายของเขา เสื้อผ้าที่แครอลตัดเย็บให้สองปู่หลานสวมใส่จะทำให้เขาดูดีขึ้นมาอีกเป็นกอง
“จริงสิเฮนรี่ เจ้านำเสื้อผ้าของเจ้าให้ยุทธเปลี่ยนก่อน เดี๋ยวปู่จะให้ป้าแครอลตัดเย็บชุดใหม่ให้พวกเจ้าอีกหลายๆ ชุด ฝีมือตัดเย็บของป้าเจ้าใช่ย่อยเสียเมื่อไหร่ สวมแล้วจะสง่างามราวเทพบุตรเลยทีเดียวเชียว รูปร่างพวกเจ้าราวกับถอดแบบกันมาก็ไม่ผิด สวมใส่แทนกันก็คงได้อยู่หรอก ถึงแม้เจ้ายุทธดูจะมีกล้ามเนื้อที่หนาแน่นกว่าเฮนรี่ก็ตามที” อาเธอร์กล่าวกับหลานชายและเพื่อนก่อนจะหันไปพยักหน้าให้กับแครอล นางก็พยักหน้าตอบรับอย่างยินดี
“อะไรกันปู่ ข้าไม่ใช้เสื้อผ้าร่วมกับใครหรอกนะ ให้ยุทธสวมเสื้อผ้าชุดเดิมไปก่อนจนกว่าป้าแครอลจะตัดเย็บเสร็จเถอะ เพราะข้าไม่รู้ว่าพอเอามาใส่ต่อเชื้อโรคจะติดเนื้อหนังข้าหรือเปล่า” เฮนรี่ยอกย้อนปู่ตามประสาเด็กดื้อ แต่ก็ไม่ได้จริงจังอะไรนัก เด็กหนุ่มอยากจะแกล้งหยอกเจ้าเด็กต่างโลกคนนี้เสียมากกว่า ยุทธทำหน้าถมึงทึงใส่กลับคนว่า เจ้าเฮนรี่นี่จะกวนตีนเขาไปตลอดหรือไงนะ ไม่น่าเชื่อว่าเด็กชาวตะวันตกยุคเมื่อ 7,000 ปีก่อนก็เกเรไม่เบาทีเดียว
“เจ้าหลานชายนี่เรื่องมากจริง งั้นก็ยกชุดของเจ้าให้ยุทธชุดหนึ่ง จะได้ไม่ต้องใส่ซ้ำอันเดิมที่เจ้าเคยใส่ เดี๋ยวรอชุดใหม่จากป้าแครอลอีกที ข้าล่ะเบื่อเจ้าเด็กนี่จริงๆ” ปู่อาเธอร์ว่าบ่นไปตามประสาคนแก่ที่ปากไม่ตรงกับใจ ใครจะพูดว่าไม่รักหลานชายตัวเองได้เต็มปาก ยิ่งเด็กวัยนี้ด้วยแล้วอาเธอร์จะยิ่งหลงเขามากขึ้นด้วยซ้ำไป
ป้าแครอลเดินเข้าไปในห้องของเฮนรี่เพื่อไปหยิบชุดที่ซักสะอาดแล้วบนชั้นวางมาให้ยุทธสวมใส่ นางเพิ่งเอาไปเก็บไว้ตรงนั้นหลังจากเก็บมาจากราวผ้าก่อนตะวันตกดินแล้ว มันจึงมีกลิ่นหอมของแดดอ่อนๆ โชยออกมาไม่ขาด ยุทธรีบยื่นมือรับเสื้อผ้าจากมือป้าแครอลมากางออกดู เสื้อและกางเกงทำด้วยหนังสัตว์ที่ถูกตัดเย็บอย่างประณีตทำให้เขาจับขึ้นมาสัมผัสสูดดมทันที
“เจ้าบ้านี่ แปลกคนนัก... เจ้าสูดดมเสื้อผ้าข้าเพื่ออะไรกัน มันมีกลิ่นเหม็นจากตัวข้าอย่างงั้นหรือ ก็ป้าแครอลเพิ่งทำความสะอาดมันไปช่วงกลางวันนี้เอง และแดดก็แรงพอที่จะทำให้มันแห้งจนไม่เหลือกลิ่นอับแล้ว” เฮนรี่ใช้มือขวาฟาดไปที่ไหล่ของเพื่อนอย่างแรงจนเจ้าตัวสะดุ้งโหยง
“ก็ข้ามีความสุขนี่ที่ได้แต่งกายด้วยเสื้อผ้าของพวกเจ้าในยุคอดีต เคยเห็นแต่ในภาพยนตร์ไม่นึกว่าจะได้ใส่มันจริงๆ แต่ว่าป้าแครอลครับ ชุดปีเตอร์แฟนนี่ก็สวยงามอยู่หรอกนะ แต่ข้าอยากได้ชุดอื่นด้วย เอาชุดเฮอร์คิวลิสผู้พิชิต ชุดแจ็คผู้ฆ่ายักษ์ หรือชุดอื่นๆ แบบนี้ด้วย เดี๋ยวว่างๆ ข้าจะสเก๊ตช์ภาพให้ดูนะ” ปากว่าแต่มือก็หยิบขึ้นมาสูดดมอีกรอบ แล้วหันไปทางป้าแครอลที่ยืนทำหน้าไม่เข้าใจรออยู่แล้ว
“เจ้าชอบพูดภาษาเมืองเจ้าโดยที่ข้าฟังไม่รู้เรื่องอีกแล้วนะ เอาไว้ว่างๆ เจ้าบอกกล่าวให้ข้าฟังด้วยสิว่าเมืองข้าอีก 7,000 ข้างหน้ามันมีสิ่งใดที่น่าตื่นเต้นบ้าง แต่ตอนนี้เจ้ารีบสวมใส่มันเถอะ ข้าอยากรู้ว่าสารรูปอย่างเจ้าพออยู่ในชุดสวยงามแบบนี้จะดูสง่างามสู้ข้าได้หรือไม่ ฮ่า...ฮ่า...” เฮนรี่ว่าพลางหัวเราะเยาะใส่เพื่อนใหม่อย่างสนุกสนาน
“จะให้ข้าเปลี่ยนชุดตรงนี้หรืออย่างไรกัน มีที่ลับตาให้ข้าเข้าไปหรือเปล่าล่ะ” ยุทธเอ่ยถามเฮนรี่ ก่อนจะมองหน้าคนทั้งสามสลับกันไปมา จะให้เขาแก้ผ้าต่อหน้าพวกเขาก็คงไม่ไหวหรอกมั้ง โดยเฉพาะป้าแครอล เขาไม่เคยถอดกางเกงต่อหน้าผู้หญิงเลยสักครั้ง มีแต่ผู้หญิงมาถอดให้ในตอนที่เขาไปเที่ยวแล้วเมาจนเพื่อนจัดสาวมาให้โดยที่ไม่รู้ตัว
“งั้นก็เข้าไปเปลี่ยนในห้องเฮนรี่แล้วก็แล้วกัน เพราะเดี๋ยวเจ้าก็ต้องได้นอนกับเฮนรี่อยู่แล้ว” ปู่อาเธอร์พยักหน้าไล่ให้เขาเข้าไปในห้องเฮนรี่ทันที
“อะไรนะปู่!!! ปู่จะให้มันนอนเตียงเดียวกับข้าไม่ได้นะ มันอึดอัดถ้าต้องมีใครมานอนอยู่ข้างๆ ขนาดตอนที่คาร์ลอสเพื่อนข้ามาเยี่ยม ยังให้มันตอนที่ม้านั่งยาวตรงนี้เลยนะครับปู่ แต่เจ้านี่เป็นใครก็ไม่รู้ เกิดมันแอบเอาเข็มเย็บผ้าของป้าแครอลมาจิ้มคอข้า มิต้องดับดิ้นก่อนอายุขัยหรอกหรือไง ข้าไม่เอาด้วยหรอก!!!”
“เฮนรี่หลานป้า เจ้านี่ก็ลนลานจนเสียการเสียงานไปเสียได้ พระเจ้าส่งยุทธมายังโลกของเรานะ ไม่มีทางที่เพื่อนเจ้าจะทำเช่นนั้นแน่” ป้าแครอลถอนหายใจให้กับเด็กดื้อของนาง ชอบโวยวายตั้งแต่เล็กยันโต ต้องให้ได้เตือนสติก่อนถึงจะสงบลงได้
“ก็ได้ครับป้า แต่เจ้าต้องหันหลังให้ข้า อย่านอนหงายหรือหันหน้ามาทางข้าเป็นอันขาด ไม่เช่นนั้นจะโดนเท้าข้าถีบลงไปกองบนพื้น เฮอะ!!!” ตกลงยินยอมกับป้าแครอลแต่โดยดี ก่อนจะหันไปแยกเขี้ยวใส่ยุทธที่จะเป็นเพื่อนร่วมเตียงนอนคืนนี้
“เข้าไปสิเจ้ายุทธ ยื่นบื้ออะไรอยู่ล่ะ” เฮนรี่ตะโกนบอกอย่างรำคาญเมื่อเห็นท่าทางเก้ๆ กังๆ ของเจ้าตัว
“ชุดนี้ใส่ยังไงข้ายังไม่รู้เลย เฮนรี่...เจ้าช่วยข้าเปลี่ยนชุดหน่อยสิ” ยกเสื้อผ้าขึ้นมาดูอีกรอบ ดูเหมือนจะใส่ยากอยู่ไม่เบา
“งั้นก็รีบเดินเข้าไปในห้องสิเจ้าโง่ ลำบากข้าตลอดเลยให้ตายสิ รู้แบบนี้ไม่น่าช่วยเจ้าขึ้นมาจากน้ำเสียก็ดี” ว่าพลางดันร่างเพื่อนให้เดินเข้าไปในห้อง เดี๋ยวจะแกล้งเสียให้เข็ด...คอยดูเถอะ
“ถอดเสื้อผ้าออกสิ ชุดจากโลกของเจ้านี่ดูขัดหูขัดตาข้ายิ่งนัก” เฮนรี่มองดูเสื้อยืดคอกลมสีน้ำเงินกับกางเกงยีนส์ขายาวสีดำที่ยุทธสวมใส่อยู่
“จะให้ข้าถอดต่อหน้าเจ้าตรงนี้เลยหรือไง เจ้าหันหน้าไปก่อนสิเฮนรี่ เดี๋ยวค่อยมาช่วยข้าใส่ชุดของเจ้าตอนที่ข้าพร้อมแล้ว” ยุทธสั่งให้เฮนรี่หันหน้าไปทางอื่น ถึงจะเป็นผู้ชายเหมือนกัน เขาก็ยังไม่ชินกับเจ้าเฮนรี่นี่เท่าไหร่
“เจ้านี่เรื่องมากนัก เป็นชายเหมือนกันเหตุใดต้องเขินอาย ถอดมันต่อหน้าข้านี่แหละ หรือจะให้ข้าถอดให้ มานี่เลย!!!” ไม่พูดเปล่า มือไม้คว้าตัวเพื่อนมากอดรัดฟัดเหวี่ยงจนได้ยินเสียงคนข้างนอกห้ามปราม ยุทธขัดขืนสะบัดสุดฤทธิ์จนไปติดที่มุมห้องในที่สุด
(จบตอนที่ 3)