"ผมขอเป็นคนรักษาแผลนั้นของคุณได้ไหม....เพราะคุณก็แค่ไม่รู้ว่าตัวเองกำลังบาดเจ็บ"

Chain Love | คุณหมอร้ายล่ามรัก - EP.3 เริ่มการรักษา โดย Forlorn_Me @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,ชาย-หญิง,สะท้อนปัญหาสังคม,ไทย,เล่าประสบการณ์,หมอ ,nc,รักเดียวใจเดียว,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

Chain Love | คุณหมอร้ายล่ามรัก

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,ชาย-หญิง,สะท้อนปัญหาสังคม,ไทย,เล่าประสบการณ์

แท็คที่เกี่ยวข้อง

หมอ ,nc,รักเดียวใจเดียว

รายละเอียด

"ผมขอเป็นคนรักษาแผลนั้นของคุณได้ไหม....เพราะคุณก็แค่ไม่รู้ว่าตัวเองกำลังบาดเจ็บ"

ผู้แต่ง

Forlorn_Me

เรื่องย่อ

เธอจำเป็นต้องย้ายหมอตามที่หมอคนเก่าแนะนำเพื่อรักษาอาการป่วย ‘ซึมเศร้า’ ในตอนแรกเธอก็คิดจะหนีและเลิกรักษา

เพราะยังไงซะมันก็คงไม่มีอะไรดีขึ้น

แต่พอมารักษาจริง ๆ เขากลับทำให้เธอแปลกใจได้ทุกครั้ง ไหนจะความปากปีจอของเขาที่ชอบหาเรื่องหลอกด่าเธออ้อม ๆ นั่นอีก

แล้วคนอย่างณัฐลดามีหรือจะยอม เธอย่อมโต้กลับคืนอย่างเจ็บแสบอยู่แล้ว

แต่ยิ่งได้เจอ ยิ่งได้รับการรักษามากขึ้น อาการป่วยของเธอก็ค่อย ๆ หาย ทว่ามีสิ่งหนึ่งกลับก่อตัวขึ้นมาช้า ๆ

นั่นคือความรู้สึกและความสัมพันธ์ของเธอกับชาญวิทย์ หมอที่รักษาเธออยู่ในตอนนี้

แต่ถึงแม้จะรู้สึกดีและเริ่มรู้ตัวว่าหลงเสน่ห์ ทว่าปมในที่ติดค้างในอดีตก็อยากเกินกว่าจะก้าวผ่าน แต่ครั้นจะหยุดเข้าใกล้เขาก็ทำไม่ได้เช่นกัน...

หรือว่า...เธอจะหลงเสน่ห์หมอปากแซ่บคนนี้เข้าแล้วจริง ๆ ??

สารบัญ

Chain Love | คุณหมอร้ายล่ามรัก-ตอนที่ 0 ⚠⚠trigger warning⚠⚠ & INTRO,Chain Love | คุณหมอร้ายล่ามรัก-EP.1 LADA | ฝันร้าย,Chain Love | คุณหมอร้ายล่ามรัก-EP.2 LADA | หมอคนใหม่?,Chain Love | คุณหมอร้ายล่ามรัก-EP.3 เริ่มการรักษา

เนื้อหา

EP.3 เริ่มการรักษา

EP.3

เริ่มการรักษา

 

“ผอ.ครับ ผมมีเรื่องจะปรึกษา”

หมอพัฒน์เรียกผอ.หนุ่มไว้ ก่อนที่เขาจะเดินเข้าห้อง คนที่ถูกเรียกชะงักมือที่กำลังจะผลักประตูแล้วหันไปยืนฟังสิ่งที่อีกฝ่ายกำลังจะพูด

“ว่าไงครับ หมอพัฒน์”

“คือ เอ่อ ระ เรื่องเคสคุณณัฐลดา....”

“เคสนั้นผมจะดูแลเอง คุณมีปัญหาอะไรหรือเปล่า”

“เอ่อ ผมขอดูแลเธอต่อไม่ได้เหรอครับ ผมรักษาเธอมานานแล้วนะครับ เกรงว่าถ้าเปลี่ยนหมอตอนนี้จะไม่เป็นผลดีต่อคนไข้นะครับ”

เขาไม่ตอบแต่เลิกคิ้วเป็นเชิงถามแทน อีกฝ่ายเลยรีบอธิบายต่อ

“คุณคงเห็นแล้วว่าอาการเธอหนักแค่ไหน คือผม...”

“ครับ ผมเห็นแล้ว และแปลกใจเช่นกัน”

“ครับ?”

“เธอเป็นผู้ป่วยระดับรุนแรงที่ควรได้รับยาต้านเศร้า แต่ในประวัติการจ่ายยากลับไม่พบ”

อีกฝ่ายหน้าซีดเผือด หลบสายตาคมกริบนั่นและเงียบไป

“แปลกใช่ไหมล่ะครับ”

“คือ...ผมมองว่าเธอยังไม่ควรรับยาเพิ่มครับ การใช้ยา     นาน ๆ จะมีแต่ผลเสียมากกว่าผลดีนะครับ”

หมอพัฒน์ยังคงพยายามโต้แย้ง ทว่าท่าทีของเขากลับทำให้อีกฝ่ายสงสัยหนักขึ้นไปอีก

“งั้นเหรอครับ แล้วถ้าไม่รับยาแล้วจะหายได้ยังไง การที่เธอไม่ได้รับยา มันเหมือนคุณจงใจมากกว่านะครับ”

อีกฝ่ายถึงสะอึก เมื่อโดนหมอที่เด็กกว่าตัวเองย้อนเข้าให้

“ผอ.จะบอกว่าผมจงใจงั้นหรอครับ?”

“คำถามนั้น คุณก็มีคำตอบแล้วนี่ครับ ต้องถามผมด้วยเหรอ”

เขาพูดพร้อมเปิดประตูเข้าไปในห้องทันทีโดยไม่ลืมพูดยั่วยุอีกฝ่ายไปด้วย

“ไม่ต้องห่วงครับ ผมจะดูแลเคสนี้อย่างดีเลยล่ะ”

หมอพัฒน์กัดฟันกรอด ก่อนจะพูดเสียงลอดไรฟันออกมาด้วยความโมโห

“ไอ้เด็กเมื่อวานซืน!”

»»»»««««

หลังจากโดนหมอปาดหน้าเอากาแฟไปกินเองแถมได้รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นผู้อำนวยการของโรงพยาบาลที่เธอกำลังรักษาตัวอยู่และยังเป็นคนที่รักษาแขนให้เพื่อนของเธอ ลดาก็อดแปลกใจไม่ได้ว่าทำไมคนระดับเขาถึงได้ลงมาเป็นเจ้าของไข้เธอได้

แต่เธอยังโมโหคำที่เขาบอกไม่หาย พูดมาได้ยังไงว่าเธอไม่อยากหาย ใครมันจะอยากป่วยกัน

ยิ่งคิดยิ่งหงุดหงิด ดีที่ทิชาพาเธอไปกินชาบูของโปรดเลยพอสงบใจได้บ้าง กลับมาห้องเจ้าเซชิลก็เหมือนจะรับรู้ได้ถึงความขุ่นใจของเธอ มันเข้ามาคลอเคลียไม่ห่างจนลดาผ่อนคลายลงโดยไม่รู้ตัว

เมี๊ยวววว

“อ้อนเก่งนะแก”

เธอเล่นกับมันจนเหนื่อยเลยเผลอหลับที่ข้างเตียง นานมากแล้วที่ไม่ได้นอนไวแบบนี้ ทว่าก่อนจะได้หลับลึกเธอก็สะดุ้งตื่นซะก่อน

กริ๊งงงงงง

เสียงโทรศัพท์แผดเสียงดังลั่น ลดางัวเงียมองชื่อบนหน้าจอก่อนจะถอนหายใจเสียงดังจนเจ้าเซชิลหันมองแล้วกดรับสาย

“ฮัลโหลค่ะแม่” ลดารับสายด้วยน้ำเสียงไร้อารมณ์

(ลดา เมื่อไหร่แกจะกลับบ้าน?)

คำถามเดิมที่ถามทุกครั้งที่โทรมา เธอแสยะยิ้มออกมาก่อนจะแค่นเสียงตอบไป

“หนูไม่ว่างค่ะ ไว้ว่างจะกลับไปนะคะ

(แกตอบแบบนี้ทุกรอบเลยนะ ครอบครัวมันไม่ได้สำคัญกับแกเลยเหรอ)

ครอบครัว? เหอะ น่าขยะแขยง

“แม่คะ หนูมีเรียนเช้า ขอวางก่อนนะคะ”

(ลดา พ่อเค้าคิดถึงแกนะ กลับบ้านบ้างเถอะ)

“.....”

(ตั้งแต่แกอออกไปจากบ้าน มันก็นานแล้วนะ มาเยี่ยมแม่ เยี่ยมพ่อบ้างสิ)

“พ่อหนูตายไปแล้วค่ะ ถ้ามีเรื่องแค่นี้ขอวางนะคะ”

เธอกดตัดสายทิ้งทันที จากตอนแรกที่เริ่มสงบ ตอนนี้แววตาคู่นั้นกำลังหม่นลง เธอกำลังคิดถึงเรื่องในอดีต เรื่องอันเลวร้ายที่ทำให้เธอต้องระเห็จออกจากบ้าน ด้วยฝีมือของคนที่ได้ขึ้นชื่อว่า ‘พ่อเลี้ยง’

ชีวิตของเธอไม่ได้สวยหรู กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้เธอต้องผ่านอะไรมาบ้างคนที่ได้ชื่อว่าแม่ไม่เคยรับรู้ถึงข้อนั้น ลดาไม่เคยได้รับการปกป้องจากคนที่เป็นแม่แม้แต่ครั้งเดียว เหตุการณ์ร้าย ๆ เหล่านั้นมันเริ่มตั้งแต่ที่เธอยังเด็กมาก เด็กจนไม่รู้ว่าสิ่งที่ตัวเองกำลังพบเจอมันเลวร้ายแค่ไหน

ลดาสะบัดหน้าไล่ความคิดฟุ้งซ่านออกไป เธอถอดเสื้อผ้าแล้วเข้าไปอาบน้ำขับไล่ความคิดและความเหนื่อยล้า ก่อนจะออกมานอนมองเพดานไปเรื่อย ๆ

เซชิลกระโดดขึ้นมานอนข้างตัวเธอไม่ห่างไปไหน เจ้านี่ดูท่าจะฉลาดมากเลยทีเดียว มันทำให้เธอลืมเรื่องแย่ ๆ ไปได้แม้เพียงชั่วขณะเดียวก็ตาม

“เซชิล แกนี่ฉลาดมากเลยนะ”

‘เมี๊ยวววว’

“ขอบใจนะ”

เธอกอดเจ้าลูกแมวไว้ก่อนจะข่มตานอน พรุ่งนี้ยังต้องไปเรียนอยู่ เธอจะปล่อยให้เรื่องพวกนั้นมาฉุดรั้งเธอไว้มาได้เด็ดขาด

หลังจากที่ไปเจอหมอคนใหม่ ก็ผ่านมาอีกหนึ่งอาทิตย์ อาการเธอยังไม่ดีขึ้น ยังคงนอนหลับไม่สนิทและสะดุ้งตื่นเหมือนเคย

วันนี้เธอต้องไปพบหมอตามนัดแม้จะไม่อยากเจอแต่ก็เลี่ยงไม่ได้อยู่ดี เธอมาถึงโรงพยาบาลก่อนเวลานัดเล็กน้อย เลขาพาเธอเข้าไปรอคุณหมอหนุ่มที่ห้อง ระหว่างนั้นเธอก็สำรวจห้องเขาไปพลาง ๆ

เขาเป็นคนที่รสนิยมดีมาก แถมเรียนเก่งด้วย มีปริญญาโทสาขาจิตวิทยาจากมหาลัยชื่อดังจากต่างประเทศ รวมทั้งยังทำธุรกิจอื่น ๆ อีก

“สำรวจพอหรือยังครับ”

เขาเป็นผีหรือไงถึงได้ชอบโผล่มาเงียบๆ แบบนี้ ตกอกตกใจหมด!

“คุณโผล่มาจากไหนเนี่ย”

“มีห้องส่วนตัวผมอยู่อีกด้าน จะไปดูไหม”

“บ้า ใครจะอยากไปกัน”

“ไปนั่งได้แล้ว เราต้องคุยกันหลายเรื่องเลย”

ลดาเดินไปนั่งอย่างว่าง่าย เพราะรู้ว่าเถียงไปก็ไม่ชนะ

“อย่างแรกที่เราต้องตกลงกันคือ ผมจะรักษาคุณอย่างเต็มที่ แต่คุณเองก็ต้องให้ความร่วมมือผม ตกลงไหม”

“จะพยายามค่ะ”

“แค่คุณบอกว่าจะพยายามก็ดีแล้ว เอาล่ะคุณช่วยเล่าเรื่องช่วงหนึ่งเดือนมานี้ให้ผมฟังหน่อยได้ไหม ไม่ต้องเป็นเรื่อง    สำคัญ ๆ ก็ได้แค่เรื่องทั่วไปก็พอ”

ลดาแปลกใจเล็กน้อยแต่ก็ยอมทำตาม เธอเล่าชีวิตช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมาให้ชาญวิทย์ฟังเรื่อย ๆ มีหยุดคิดบ้างเป็นบางครั้ง

ฝั่งชาญวิทย์เองก็ตั้งใจฟัง มือที่ว่างก็จดสิ่งที่เธอพูดไปด้วย ตั้งใจฟัง   เขาอยากเห็นทัศนคติเธอ อยากรู้ว่าเธอเป็นคนยังไงและมันสามารถรู้ได้จากสิ่งที่เธอเล่าทั้งท่าทางและน้ำเสียง

เขาถามแทรกเป็นระยะ ๆ แต่ก็ไม่บ่อยจนทำให้อีกฝ่ายต้องอึดอัด ลดาเลยสามารถเล่าได้เรื่อย ๆ เธอทำให้เขาเห็นอีกตัวตนของเธอและได้รู้ว่าเธอเป็นคนแบบไหน

เท่าที่ฟังและสังเกต เขาจับได้ว่าเธอเมินเฉยต่อทุกอย่างรอบตัว มองทุกอย่างแบบเป็นกลางไปหมด ไม่ยินดียินร้ายกับสิ่งใดรอบตัวเลย มันเป็นกลไกป้องกันตัวชนิดหนึ่งที่คนเราจะใช้เพื่อปกป้องตัวเองจากบางสิ่งบางอย่าง

“ผมอยากจะถามเรื่องบางเรื่องจากคุณ”

“คะ?”

“ถ้าเล่าให้ฟังได้ก็เล่า.....แต่ถ้าไม่พร้อมคุณก็ไม่ต้องเล่า ตกลงไหม?”

“ได้ค่ะ”

“คุณช่วยเล่าเรื่องวัยเด็กให้ผมฟังได้ไหม อะไรเป็นสิ่งที่คุณเจอตอนนั้น”

สาเหตุที่เขาถามเรื่องวัยเด็ก เพราะจากประวัติเธอไม่เคยเล่าเรื่องวัยเด็กเลยแม้แต่ครั้งเดียว แสดงว่ามันต้องมีเรื่องบางเรื่องเกิดขึ้น

และเขาสังหรณ์ใจว่ามันคือปมที่สำคัญสุด

ลดานิ่งเงียบไป เธอชั่งใจเล็กน้อยที่จะเล่าเรื่องพวกนั้น เพราะมันไม่ใช่เรื่องที่น่าเล่าเท่าไหร่นัก

ทว่า แววตาของชาญวิทย์ที่มองมามันแฝงไปด้วยความห่วงใยไม่ได้มีความสงสัยอยู่ในนั้น มันเป็นแววตาที่เธอไม่ได้รับมานานมากแล้ว คนส่วนใหญ่ที่รู้ว่าเธอมารักษามักจะมองด้วยสายตาแปลก ๆ และถามในสิ่งที่ไม่ควรถาม มันทำให้เธอไม่เคยเปิดใจให้ใครเลย

“ไม่ต้องฝืนนะ ถ้าไม่พร้อมก็ยังไม่ต้องเล่า ผมจะไม่กดดันคุณ”

น้ำเสียงทุ้มหูนั่นทำให้เธอผ่อนคลาย ท่าทางของเขาที่ไม่ได้กดดันเธอ ทำให้เธอค่อย ๆ ลดเกราะป้องกันตัวเองลงช้า ๆ และยอมเล่าเรื่องที่น้อยคนจะรู้ออกมา

“มันเริ่มตอนที่ฉันอายุแค่ 5 ขวบ....”

 

 

ลดา 5ขวบ

‘ลดา มาหาพี่สิ’

เด็กน้อยวัย 5 ขวบที่ยังไม่รู้ภาษา เข้าไปในห้องของพี่ชายข้างบ้านที่เป็นญาติแท้ ๆ ด้วยความไว้ใจ แต่เขากลับให้เธอทำบางสิ่งที่จะเป็นแผลในใจเธอไปตลอดกาล

‘เดี๋ยวพี่ให้ค่าขนมนะ’

‘จับแบบนี้ รูดขึ้นรูดลง แบบนั้นล่ะ อ่าาาาา’

พี่เปรม เป็นอะไรหรือเปล่าคะ’

เธอถามด้วยความไร้เดียงสา เมื่อได้ยินอีกฝ่ายครวญครางออกมาไม่หยุด

‘เปล่าค่ะ พี่ชอบนะ อ้าปากสิ พี่จะได้ชอบมากกว่านี้’

นั่นเป็นครั้งแรกที่ลดาโดนคุกคามทางเพศ แต่ตอนนั้นเธอเด็กเกินกว่าจะเข้าใจ ทว่านั้นไม่ใช่แค่นั้นเพราะมันคือจุดเริ่มต้นของทุก ๆ สิ่งต่างหาก....