นางเป็นหลานสาวของข้า ข้าหวง...เอ่อ...ห่วงหลานสาวข้า ก็เป็นเรื่องปกติ พวกเจ้าจะมาสงสัยอะไร

ตามรักจิ้งจอกน้อย - บทที่ 3 คทาห้วงฝันแห่งจิ้งจอก โดย สวรรยสร @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,ดราม่า,แอคชั่น,แฟนตาซี,ชาย-หญิง,แฟนตาซี,ต่อสู้,เทพเซียน,สงคราม,ไม่ฮาเร็ม,พระเอกเทพ,ีจีนโบราณ,ทะลุมิติ,เกิดใหม่ ,นางเอกเก่ง,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ตามรักจิ้งจอกน้อย

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,ดราม่า,แอคชั่น,แฟนตาซี,ชาย-หญิง

แท็คที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,ต่อสู้,เทพเซียน,สงคราม,ไม่ฮาเร็ม,พระเอกเทพ,ีจีนโบราณ,ทะลุมิติ,เกิดใหม่ ,นางเอกเก่ง

รายละเอียด

นางเป็นหลานสาวของข้า ข้าหวง...เอ่อ...ห่วงหลานสาวข้า ก็เป็นเรื่องปกติ พวกเจ้าจะมาสงสัยอะไร

ผู้แต่ง

สวรรยสร

เรื่องย่อ

มหาเทพผู้สร้างตว๋อเทียน พระเจ้าผู้สร้างจักรวาลแห่งนี้ ได้สร้างสรรค์สัตว์เทพขึ้นมาเจ็ดเผ่า ได้แก่ มังกร กิเลน จิ้งจอกเก้าหาง หงส์แดง สิงโต เต่ามังกร และเสือขาว แต่ละเผ่าล้วนมีความสามารถและเก่งกาจแตกต่างกันไป

แดนเซียนที่มหาเทพผู้สร้างตว๋อเทียนสร้างขึ้นถูกเรียกว่า สี่ทะเลแปดดินแดน แน่นอนว่าเผ่ามังกรย่อมทรงพลังและอำนาจสูงสุด ครอบครองสี่ทะเลและสองดินแดน อีกหกเผ่าที่เหลือครอบครองกันเผ่าละหนึ่งดินแดน

เผ่ามังกรนั้น มหาเทพตว๋อเทียนได้รังสรรค์มหาเทพองค์หนึ่งที่เพียบพร้อมด้วยคุณสมบัติและรูปสมบัติขึ้นปกครองเผ่ามังกรและเป็นดั่งนายเหนือของทุกเผ่า มหาเทพองค์นี้จึงเป็นที่รับทราบกันทั่วว่าเป็นบุตรชายสุดที่รักของมหาเทพผู้สร้างตว๋อเทียน นามของเขาคือ หยางหลง (มังกรสุริยัน)

มหาเทพหยางหลงนั่งบัลลังก์ประมุขฟ้าดินได้ราว 300,000 ปี ก็สละบัลลังก์ให้หยางเจี้ยน (กระบี่สุริยัน) แม่ทัพคู่ใจของเขาขึ้นครองแทน มหาเทพหยางหลงที่ยามนี้มีเวลาว่างมากมายเพราะหาแพะรับบาปมารับภาระแทนตนเองได้สำเร็จ จึงถือโอกาสนี้ท่องเที่ยวไปทั่วสี่ทะเลแปดดินแดนและแดนมนุษย์ถึง 80,000 ปี ก่อนจะกลับสู่แดนบูรพาที่เผ่ามังกรครอบครอง และพักผ่อนอยู่เพียงผู้เดียวที่วังมังกรสวรรค์ของตนมาได้ 20,000 ปีแล้ว

แต่เมื่อไม่นานมานี้เขาได้เห็นปรากฏการณ์ประหลาดเกิดขึ้น นั่นคือ ร่างเงาของจิ้งจอกเก้าหางที่ส่องแสงสีทองปรากฏขึ้นกลางผืนฟ้า ทั้งสี่ทะเลแปดดินแดนได้เห็นเหตุการณ์นี้ต่างงุนงงสงสัยว่ามันหมายถึงสิ่งใด หากไม่มีผู้ใดไขปริศนานี้ได้กระทั่งมหาเทพหยางหลงเอง

หลังจากนั้นเพียงไม่กี่วัน มหาเทพจึงทราบว่าเหม่ยเมิ่ง ราชินีของราชาจิ้งจอกเก้าหางเสวี่ยหมิง ให้กำเนิดธิดาน้อยนางหนึ่ง นามของนางคือ เสวี่ยหลิน ทราบแล้วจึงส่งของขวัญไปแสดงความยินดีเสียหน่อย แต่ผู้ใดจะคาดได้ว่าผ่านไปอีกเพียงหนึ่งหมื่นแปดพันปี เขาจะมีโอกาสได้พบเจอจิ้งจอกน้อยนี้ ทั้งยังคบหานางเป็นกึ่งสหายต่างวัยกึ่งหลานสาว แต่เขากลับรู้สึกไม่ชอบใจอย่างยิ่งที่มีเซียนบุรุษมากหน้าหลายตาพยายามเข้ามายุ่งเกี่ยวกับนาง

สารบัญ

ตามรักจิ้งจอกน้อย-บทที่ 1 ตายแล้วก็ข้ามภพมาเกิดใหม่,ตามรักจิ้งจอกน้อย-บทที่ 2 กำเนิดจิ้งจอกทองเก้าหาง,ตามรักจิ้งจอกน้อย-บทที่ 3 คทาห้วงฝันแห่งจิ้งจอก,ตามรักจิ้งจอกน้อย-บทที่ 4 จตุธาตุอัญมณี,ตามรักจิ้งจอกน้อย-บทที่ 5 เร่งศึกษา,ตามรักจิ้งจอกน้อย-บทที่ 6 เตรียมพร้อม,ตามรักจิ้งจอกน้อย-บทที่ 7 ร้านชาจิ้งจอกน้อย (ต้น),ตามรักจิ้งจอกน้อย-บทที่ 8 ร้านชาจิ้งจอกน้อย (ปลาย),ตามรักจิ้งจอกน้อย-บทที่ 9 พบหน้าครั้งแรก,ตามรักจิ้งจอกน้อย-บทที่ 10 หุบเขาบูรพานิรันดร์,ตามรักจิ้งจอกน้อย-บทที่ 11 ข้อเสนอไม่คาดหมาย,ตามรักจิ้งจอกน้อย-บทที่ 12 การตอบโต้ของเผ่าจิ้งจอกเก้าหาง,ตามรักจิ้งจอกน้อย-บทที่ 13 หยางเค่อ,ตามรักจิ้งจอกน้อย-บทที่ 14 ประลองสามต่อสาม (ต้น),ตามรักจิ้งจอกน้อย-บทที่ 15 ประลองสามต่อสาม (ปลาย),ตามรักจิ้งจอกน้อย-บทที่ 16 ชมชอบไม่รู้ตัว (ต้น),ตามรักจิ้งจอกน้อย-บทที่ 17 ชมชอบไม่รู้ตัว (กลาง),ตามรักจิ้งจอกน้อย-บทที่ 18 ชมชอบไม่รู้ตัว (ปลาย),ตามรักจิ้งจอกน้อย-บทที่ 19 ก่นด่าไม่ไว้หน้า,ตามรักจิ้งจอกน้อย-บทที่ 20 เริ่มใกล้ชิด (ต้น),ตามรักจิ้งจอกน้อย-บทที่ 21 เริ่มใกล้ชิด (ปลาย),ตามรักจิ้งจอกน้อย-บทที่ 22 สู่ขอ,ตามรักจิ้งจอกน้อย-บทที่ 23 เกือบอกหัก,ตามรักจิ้งจอกน้อย-บทที่ 24 โชว์อันน่าตื่นตา (ต้น),ตามรักจิ้งจอกน้อย-บทที่ 25 โชว์อันน่าตื่นตา (ปลาย),ตามรักจิ้งจอกน้อย-บทที่ 26 เพลงอันทรงพลัง,ตามรักจิ้งจอกน้อย-บทที่ 27 เสี่ยวหลง (ต้น),ตามรักจิ้งจอกน้อย-บทที่ 28 เสี่ยวหลง (กลาง),ตามรักจิ้งจอกน้อย-บทที่ 29 เสี่ยวหลง (ปลาย),ตามรักจิ้งจอกน้อย-บทที่ 30 สมดุลพลังที่เปลี่ยนไป,ตามรักจิ้งจอกน้อย-บทที่ 31 เตรียมพร้อม,ตามรักจิ้งจอกน้อย-บทที่ 32 ผีเสื้อขยับปีก,ตามรักจิ้งจอกน้อย-บทที่ 33 ความเป็นไปได้ของสงคราม,ตามรักจิ้งจอกน้อย-บทที่ 34 เริ่มต้นแห่งสงคราม,ตามรักจิ้งจอกน้อย-บทที่ 35 เปิดเผยและซ่อนเร้น,ตามรักจิ้งจอกน้อย-บทที่ 36 ว่าที่มหาเทวี,ตามรักจิ้งจอกน้อย-บทที่ 37 เสริมสร้างข่ายปราณ,ตามรักจิ้งจอกน้อย-บทที่ 38 ฆ่าปิดปาก,ตามรักจิ้งจอกน้อย-บทที่ 39 เปลี่ยนม้ากลางศึก,ตามรักจิ้งจอกน้อย-บทที่ 40 กุนซือผู้ร้ายกาจ,ตามรักจิ้งจอกน้อย-บทที่ 41 ความผูกพันอันห่างเหิน,ตามรักจิ้งจอกน้อย-บทที่ 42 ในวงล้อม,ตามรักจิ้งจอกน้อย-บทที่ 43 ผีหลอก,ตามรักจิ้งจอกน้อย-บทที่ 44 ไมตรีจากสิงโต

เนื้อหา

บทที่ 3 คทาห้วงฝันแห่งจิ้งจอก

ยามนี้เป็นเวลาดึกมากแล้ว ทุกคนในวังพายัพหลับสนิท เบื้องหน้าของเสวี่ยหลินตอนนี้คือ Platform ที่เป็นหน้าต่างสกิลต่างๆ ที่นางสามารถใช้ได้ นัยน์ตาเล็กๆ กำลังอ่านรายละเอียดของแต่ละสกิลอย่างตั้งอกตั้งใจ นางมีแต้มเพียง 75 แต้ม ยังถือว่าน้อย ดังนั้น การเลือกสกิลมาใช้จึงต้องเลือกอย่างระมัดระวังและให้เกิดประโยชน์สูงสุดแม้นางจะสามารถปรับเปลี่ยนได้ตลอดก็ตาม เพราะนางคร้านที่จะเปลี่ยนบ่อยๆ สกิลที่ใช้บ่อยเท่าใด นางก็จะคุ้นเคยและมีความชำนาญมากขึ้น

สกิลที่นางสามารถใช้ได้เวลานี้สามารถอัพเกรดได้สูงสุดถึงเลเวลสิบ หากจะอัพเกรดมากกว่านั้น นางก็ต้องเพิ่มระดับลมปราณให้ได้ แต่บางสกิลตอนนี้ก็สามารถอัพได้ถึงเลเวลสิบห้า

เสวี่ยหลินกำลังจดชื่อสกิลที่นางต้องการออกมาก่อน เพื่อที่จะคัดเลือกอีกครั้ง บิดามารดาของนางยังไม่ทราบด้วยซ้ำว่านางอ่านออกเขียนได้แล้วอย่างคล่องแคล่วด้วยความทรงจำเมื่อครั้งที่ยังเป็นฮุ่ยหลัน

มือเล็กๆ ขีดฆ่าชื่อสกิลที่ไม่ต้องการ จนกระทั่งเหลือเพียงแปดสกิลที่น่าสนใจที่สุด

ทลายเกราะ เลเวล 15 – ลดการป้องกันของเป้าหมาย PDEF-15%, MDEF-15%, CC Resistance-15% นาน 15 วินาที CD= 3 วินาที ผลการลดเกราะสามารถซ้อนทับได้

สกิลทลายเกราะนี้ แรกที่เห็น เสวี่ยหลินต้องยิ้มกว้าง ลดเกราะได้แถมซ้อนทับได้แบบไร้ขีดจำกัด เท่ากับฝ่ายตรงข้ามจะไม่เหลือเกราะป้องกันใดๆ เลย เรียกได้ว่าเดินตัวเปล่าล่อนจ้อนมาให้นางเชือดเสียด้วยซ้ำ แถม CD แค่ 3 วินาที เรียกได้ว่าเป็นสกิลที่โกงสุดๆ แล้วนางจะไม่ใช้ได้อย่างไร

แหลมคม เลเวล 10 – ลด HIT ของเป้าหมาย -70% นาน 5 วินาที และเพิ่ม HIT ของตนเอง +35% นาน 10 วินาที ไม่มีผลซ้อนทับ CD=10 วินาที

สกิลแหลมคมบอกชัดเจนในตัวอยู่แล้วว่าต่อให้ฝ่ายตรงข้ามมีฝีมืออย่างไร แต่หากโจมตีไม่โดนก็ไม่มีความหมายเช่นกัน และนางได้ความแม่นยำเพิ่มขึ้น แม้จะเป็นจำนวนที่น้อยกว่าแต่ก็ใช้ได้นานกว่า คิดอย่างไรก็คุ้ม

ห้วงนิทรา เลเวล 10 – ทำให้เป้าหมายและศัตรูที่อยู่ใกล้ๆ หลับ โดนศัตรูสูงสุด 8 ตัว หลับเป็นเวลา 10 วินาที ไม่มีผลซ้อนทับCT=5วินาที, CD=1วินาที

เคลิ้มฝัน เลเวล 10 - ทำดาเมจ 5 ครั้งใส่ศัตรูและกระทบไปโดนตัวรอบๆ สูงสุด 10 ตัว ทำให้ศัตรูมึนงงนาน 3 วินาที CT=4.2วินาที ไม่มีผลซ้อนทับ CD=1.5วินาที

คลี่คลาย เลเวล 10 - ลบ Debuff ทั้งหมดที่ตนเองได้รับ จากนั้นจะป้องกัน Debuff จากศัตรูนาน 10 วินาที ถ้าใช้ใส่กับศัตรู จะลบ Buff ทั้งหมดของศัตรู และจะทำให้ศัตรูไม่ได้รับ Buff ของฝ่ายศัตรูนาน 10 วินาที CT=5วินาที, CD=7 วินาที

เกราะทองคำ เลเวล 10 - สร้างเกราะคุ้มกันป้องกันการโจมตีทั้งหมด นาน 50 วิ หรือโดนตีจำนวน 15 ครั้ง เกราะก็จะหายไป CT=0.5วินาที

โจมตีสัมฤทธิ์ผล เลเวล 10 (Passive Skill) – เพิ่ม MATK ของตัวเอง 20%, มีโอกาส 20% โจมตีติดคริติคอล และทำดาเมจคริติคอล 220%

อาณาจักรแห่งฝัน (AOE) เลเวล 10 สกิลประจำเผ่าพันธุ์จิ้งจอกทองเก้าหาง - มีระยะสกิลกว้าง 10 จั้ง (1 จั้ง = 2.5 เมตร) ทำให้ฝ่ายตรงข้ามที่อยู่ในระยะสกิลได้รับ CC effect สามประการ ได้แก่ ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้นาน 5 วินาที จากนั้นจะหลับนาน 5 วินาที สุดท้ายจะมึนงงนาน 5 วินาที ผลของอาณาจักรแห่งฝันไม่สามารถแก้ไขได้นอกจากเจ้าของสกิลจะยกเลิกเอง CD=3 นาที

สกิลที่เลือกมาทั้งหมดนี้ เสวี่ยหลินยิ้มแล้วยิ้มอีก เพราะทุกสกิลที่นางเลือกมี CC หมดทุกอัน นั่นหมายความว่า ผู้ที่เผชิญหน้ากับนาง แทบไม่มีโอกาสต่อสู้ เพราะนางก็ไม่คิดเปิดโอกาสต่อสู้ให้ผู้ใดเช่นกัน

ในระยะแรกนี้สกิลที่เสวี่ยหลินมั่นใจว่าจะได้ใช้บ่อยที่สุดต้องเป็นทลายเกราะ แหลมคม ห้วงนิทรา เคลิ้มฝัน ส่วนคลี่คลาย เกราะทองคำ อาณาจักรแห่งฝัน สามสกิลนี้น่าจะยังไม่ค่อยได้ใช้

เมื่อเลือกสกิลที่ต้องการได้แล้ว เสวี่ยหลินก็อัพสกิลด้วยแต้มทั้งหมดที่มีคือ 75 แต้ม เพียงอัพเสร็จสรรพ นางก็รู้สึกได้ทันทีว่านางสามารถใช้งานมันได้แล้ว นางสามารถใช้บทเวทได้แล้ว แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้

เสวี่ยหลินหันมามองหาอาวุธและอุปกรณ์สวมใส่อย่างอื่น นั่งอ่านอย่างละเอียดอีกหนึ่งชั่วยาม นางก็ต้องถอนหายใจ นางต้องหาวัตถุดิบมาจากการล่าสัตว์อสูรระดับสูงทั้งสิ้นเพื่อสร้างพวกมันขึ้นมา แต่อาวุธที่เหมาะสมกับนางที่สุดคือ คทาห้วงฝันแห่งจิ้งจอก

คุณสมบัติของคทาห้วงฝันแห่งจิ้งจอกก็คือ

ค่าสถานะทุกค่า +20% แต่ INT+40%

Perfect Hit+25%, Perfect Dodge+25%, ASPD+25%

All Skill Effect+10%

เพียงเห็นคุณสมบัติของคทานี้ เสวี่ยหลินก็แทบกรีดร้องด้วยความอยากได้ขั้นสุด ความสามารถของมันเรียกได้ว่าโกงขั้นเทพไปเลย

แต่ที่ทำให้เสวี่ยหลินตาลุกคือ คทาห้วงฝันแห่งจิ้งจอก กลับอยู่ที่คลังสมบัติของวังพายัพของเผ่าจิ้งจอกเก้าหางนี่เอง มันอยู่ในคลังมาหลายแสนปีแล้ว ไม่มีจิ้งจอกเก้าหางตนใดใช้มันได้ นั่นเพราะมันจะตอบรับเฉพาะจิ้งจอกทองเก้าหางเท่านั้น

เสวี่ยหลินแทบจะอดทนรอให้ถึงตอนเช้าไม่ไหว นางอยากได้มันเดี๋ยวนี้เลยด้วยซ้ำ

คืนนี้ทั้งคืนนางแทบนอนไม่หลับ เพราะใจนึกถึงแต่คทาห้วงฝันแห่งจิ้งจอก แม้ในระบบจะไม่ได้แสดงรูปร่างหน้าตาของคทานี้ไว้ แต่นางก็เชื่อว่าต้องเป็นคทาที่สวยมากแน่ๆ

เมื่อถึงตอนเช้าก่อนจะถึงเวลารับประทานอาหารเช้าร่วมกับบิดาและมารดา โดยไม่มีพี่ใหญ่เสวี่ยซานของนางเพราะพี่ใหญ่เสวี่ยซาน ยามนี้เขาอายุ 44,000 ปี ได้กลับไปร่ำเรียนที่หุบเขาบูรพานิรันดร์แล้ว

หุบเขาบูรพานิรันดร์เป็นสถานที่ที่เหล่าเทพเซียนทุกเผ่าต่างพากันส่งบุตรหลานมาร่ำเรียนที่นี่ หุบเขาบูรพานิรันดร์จะสั่งสอนทั้งศาสตร์การต่อสู้ การปรุงยา การสร้างอุปกรณ์ต่างๆ เรียกได้ว่าเป็นตั้งแต่โรงเรียนกระทั่งมหาวิทยาลัยของเหล่าเทพเซียนได้เลย แต่จะเริ่มรับเข้าศึกษาเมื่ออายุ 25,000 ปี ดังนั้น เสวี่ยหลินจึงต้องร่ำเรียนที่แดนพายัพของเผ่าจิ้งจอกไปอีก 11,000 ปี จึงจะถึงเกณฑ์ไปศึกษาที่บูรพานิรันดร์

หลังจากรีบแต่งตัวเสร็จเรียบร้อย เสวี่ยหลินจึงวิ่งออกจากห้องนอนของตนเองมาที่หน้าห้องบรรทมของราชาและราชินีแห่งเผ่าจิ้งจอกทันที แม้จะทราบดีว่านางมาถึงเช้ามาก บิดามารดาของนางยังไม่ตื่นแน่นอน แต่ทำอย่างไรได้ล่ะ นางอยากได้คทาห้วงฝันแห่งจิ้งจอกจะแย่แล้ว

มือเล็กยกมือเคาะประตูห้องครู่หนึ่ง

“เสด็จพ่อ เสด็จแม่ ตื่นบรรทมหรือยังเพคะ ลูกอยากพบเพคะ” เสียงหวานใสเล็กๆ ร้องเรียกออกไป

เสวี่ยหลินยืนรออยู่ไม่กี่อึดใจ ประตูห้องก็เปิดออก เป็นเหม่ยเมิ่ง ท่านแม่คนงามของนางนั่นเองที่มาเปิดประตู เห็นท่านแม่มีสีหน้าสงสัย

“เอ่อ...ลูกอยากพบเสด็จพ่อเพคะ” เสวี่ยหลินยิ้มแห้ง

เหม่ยเมิ่งมีสีหน้าแปลกใจหากก็เปิดประตูกว้างกว่าเดิมให้บุตรสาวเข้าไป “พ่อเจ้า เขายังไม่ตื่นเลย”

เสวี่ยหลินมีสีหน้ารู้ทัน “เมื่อคืนเสด็จพ่อจุ๊กจิ๊กกับเสด็จแม่ไปกี่รอบล่ะเพคะ”

“ลูกคนนี้นี่ อายุแค่หมื่นกว่าปี ทำเป็นรู้ดี เสวี่ยปิงบอกเจ้าหรือไร” เหม่ยเมิ่งเอ็ดออกมาหากก็แก้มแดงซ่าน ตั้งแต่เสวี่ยหลินรู้ความเมื่อราวที่นางอายุได้เพียง 12,000 ปี เหม่ยเมิ่งก็รู้สึกได้ว่าบุตรสาวตัวน้อยดูจะรู้อะไรมากมายนัก นางได้แต่สงสัยว่าบุตรสาวไปรู้มาได้อย่างไร เหม่ยเมิ่งย่อมไม่คาดว่าเสวี่ยหลินยังมีความทรงจำเมื่อยามที่นางเป็นฮุ่ยหลัน ทั้งโลกมนุษย์ที่นางตายจากมาก็มีหลายสิ่งหลายอย่างที่ทันสมัยกว่าโลกแห่งเซียนนี้

“แหม เสด็จแม่ ลูกก็ต้องเห็นบ้าง อะไรบ้างสิเพคะ” เสวี่ยหลินตอบกลับยิ้มๆ

“ไป รีบไปหาพ่อเจ้าเลย เข้าไปปลุกเขาเอง เจ้าตัวยุ่ง” มารดาตอบกลับด้วยความหมั่นไส้ปนเอ็นดู

“ขอบพระทัยเพคะ เสด็จแม่คนสวยของลูก”

ได้ยินวาจารื่นหูของบุตรสาวแล้ว เหม่ยเมิ่งได้แต่ยิ้มอย่างอ่อนใจ เสวี่ยหลินช่างออดอ้อน ประจบเอาใจ ทุกคนรอบข้างนัก คล้ายทราบดีว่าผู้คนรอบข้างล้วนแต่รักใคร่เอ็นดูนาง ตั้งแต่แบเบาะจนเติบโตมาถึงตอนนี้ ไม่เคยต้องหนักใจเพราะบุตรสาวคนนี้เลยแม้แต่นิดเดียว เสวี่ยหลินเฉลียวฉลาด รู้ความ และเข้าใจทุกสิ่งได้อย่างง่ายดายนัก ซ้ำยังมีน้ำใจกับทุกคนอย่างยิ่ง

นิ้วเล็กๆ สะกิดปลุกท่านพ่อของนางที่ยังคงหลับสนิท

“เสด็จพ่อ เสด็จพ่อ ตื่นก่อนนะเพคะ ลูกอยากขออะไรบางอย่างเพคะ” เสียงเล็กๆ บอกออกมาค่อนข้างดังเพื่อปลุกบิดาให้ตื่นขึ้น

นิ้วเล็กๆ ยังคงสะกิดปลุก ครู่หนึ่งเสวี่ยหมิงจึงค่อยลืมตาตื่น

“เสด็จพ่อตื่นแล้ว” เสวี่ยหลินกล่าวอย่างดีใจ หากเสวี่ยหมิงต้องรีบเหลือบตามองว่าตนเองห่มผ้าเรียบร้อยดีหรือไม่เพราะเขาเปลือยอยู่ก่อนจะเหลือบไปมองเหม่ยเมิ่งที่ยืนมองเขาอย่างขันๆ

“หลินเอ๋อร์มาหาพ่อแต่เช้า มีอะไรหรือลูก”

“ลูกอยากขอเข้าไปในคลังของวังพายัพเพคะ”

เสวี่ยหมิงขมวดคิ้วทันที “เจ้าอยากได้อะไร เดี๋ยวพ่อเข้าไปหยิบให้”

“เสด็จพ่อไม่รู้จักของที่ลูกอยากได้หรอกเพคะ ลูกต้องเข้าไปเอาเอง”

“เจ้าอยากได้อะไร”

“คทาเพคะ คทาห้วงฝันแห่งจิ้งจอก”

คำตอบของบุตรสาวทำให้เสวี่ยหมิงงุนงง คทาห้วงฝันแห่งจิ้งจอกคืออะไร เขาไม่รู้จัก

“เจ้ารู้จักมันได้อย่างไร”

“เอ่อ...” เสวี่ยหลินอึ้งไปทันที กรอกตาอย่างรวดเร็ว

“เมื่อคืนลูกฝันเพคะ ฝันว่ามีคทานี้อยู่ในคลังของเสด็จพ่อ เป็นคทาสำหรับจิ้งจอกอย่างลูก” เสวี่ยหลินแก้ตัวสำเร็จ

“จิ้งจอกอย่างเจ้า? หมายความว่าอย่างไร”

เวรล่ะสิ เสด็จพ่อ เสด็จแม่ ยังไม่ได้บอกเรื่องจิ้งจอกทองเก้าหาง เอาไงดีล่ะ เสวี่ยหลินนิ่งอึ้ง

“ก็...เอ่อ...ลูกทราบว่าลูกเป็นจิ้งจอกทองเก้าหางเพคะ มีอยู่หนหนึ่งลูกแอบได้ยินเสด็จพ่อกับเสด็จแม่คุยกัน” เสวี่ยหลินแก้ตัวน้ำขุ่นๆ

เสวี่ยหมิงต้องถอนหายใจ ความลับเรื่องนี้ไม่คาดเลยว่าเจ้าตัวน้อยของเขาจะทราบก่อนเวลาอันควร

“เจ้าออกไปรอพ่อข้างนอกสักครู่ ให้พ่อแต่งตัวก่อนแล้วจะพาเจ้าเข้าไปในคลัง”

“ขอบพระทัยเพคะ เสด็จพ่อน่ารักที่สุดเลย” เอ่ยชมแล้วก็ก้มลงหอมแก้มบิดาเสียหนึ่งฟอดก่อนจะรีบวิ่งไปรอนอกห้องอย่างรวดเร็ว เหม่ยเมิ่งมองตามบุตรสาวอย่างอ่อนใจกับความกระโดกกระเดกของนาง ได้แต่คิดว่าต้องรีบหาเวลาอบรมกิริยามารยาทของเจ้าตัวดีให้มากกว่านี้เสียแล้ว

 

 

ยามนี้เสวี่ยหลินเบิ่งตากว้างอย่างตกตะลึงกับคลังสมบัติของวังพายัพ นางคาดไม่ถึงเลยว่าจะมีสมบัติมากมายขนาดนี้ แผ่ปราณเซียนจิ้งจอกออกก็ได้พบว่ามีของน่าสนใจหลายสิ่งนัก แต่ตอนนี้นางต้องเอาคทาห้วงฝันแห่งจิ้งจอกมาเสียก่อน ปราณเซียนจิ้งจอกถูกปลดปล่อยมากขึ้นเพื่อค้นหาของที่นางต้องการ

เสวี่ยหมิงนึกทึ่งยิ่งนักเมื่อสัมผัสได้ถึงปราณเซียนของบุตรสาว แม้จะทราบดีอยู่แล้ว แต่เมื่อนางใช้ออกครั้งใด เขาก็ต้องนึกภูมิใจในตัวบุตรสาวคนนี้ยิ่งนัก เพราะปราณเซียนจิ้งจอกของนางกล้าแข็งและทรงพลังอย่างยิ่งเกินกว่าเซียนจิ้งจอกในวัยเดียวกันไปมากมาย

ไม่นานนักเสวี่ยหลินก็จูงมือเสวี่ยหมิงเดินตรงไปเบื้องหน้า เดินไปได้ราวสิบจั้ง (1 จั้ง = 2.5 เมตร) เบื้องหน้าของนางและบิดาคือกล่องไม้แกะสลักเรียบๆ ใบหนึ่ง กว้างราวห้าชุ่น (1 ชุ่น = 1 นิ้ว) และยาวสองฉื่อ (1 ฉื่อ = 10 นิ้ว) กับอีกสี่ชุ่น เสวี่ยหมิงจดจำได้ทันทีว่านี่เป็นกล่องที่ปรากฏอยู่ในคลังแห่งนี้มาแต่แรก เขาเคยลองเปิดอยู่หลายครั้ง หากพยายามเท่าใดก็ไม่สามารถเปิดได้

มือเล็กๆ ของบุตรสาวยื่นไปแตะที่ฝากล่องนั้น

 

กริ๊ก

 

เสียงคล้ายกลไกบางอย่างคลายออกก่อนกล่องไม้นั้นจะทอประกายสีทองวาบขึ้น บุตรสาวของเขาชักมือกลับอย่างตกใจและสงสัย แสงสีทองนั้นทอประกายอยู่ชั่วครู่ก็ดับวูบ นางยื่นมือแตะอีกครั้งก่อนจะยกเปิดฝากล่องออกท่ามกลางสายตาตื่นตะลึงของผู้เป็นบิดา

หลินเอ๋อร์เปิดได้อย่างไร นางแค่สัมผัสมันเองนะ ไม่ได้ใช้ปราณจิ้งจอกหรือพลังใดทั้งสิ้น เสวี่ยหมิงคิดในใจอย่างตื่นตะลึง

ภายในกล่องนั้น มีวัตถุอย่างหนึ่งวางอยู่ เสวี่ยหมิงไม่ทราบว่ามันคือสิ่งใด มันมีรูปทรงเพรียวยาว ดูแล้วสร้างขึ้นจากทองคำ มันถูกขัดมันจนเป็นประกายแวววาว ด้านบนถูกขึ้นรูปให้รองรับเพชรไร้สีขนาดราวกำปั้น เพชรเม็ดนี้ถูกเจียระไนจนได้เหลี่ยมคมไร้ตำหนิ สะท้อนประกายรุ้งอย่างงดงามอร่ามตา ด้านบนของเพชรเม็ดนี้ ทองคำยังถูกขึ้นรูปให้รองรับเพชรสีม่วงเข้มขนาดราวครึ่งกำปั้น ที่ได้รับการเจียระไนมาอย่างงดงามเช่นเดียวกับเพชรด้านล่าง เหนือเพชรสีม่วงเป็นสัญลักษณ์สี่แฉกที่ประดับด้วยเพชรเม็ดเล็ก ตรงกลางของสัญลักษณ์ฝังไว้ด้วยมรกตสีเขียวเข้มเจิดจรัส

ด้านล่างของเจ้าสิ่งนี้ประดับตกแต่งไว้ด้วยทองคำแกะสลักอย่างอ่อนช้อยและฝังด้วยเพชรสีขาวเม็ดเล็กอย่างงดงาม

เสวี่ยหลินรับรู้ได้ทันทีว่านี่คือ คทาห้วงฝันแห่งจิ้งจอก คทาที่มีแต่นางเท่านั้นที่ใช้ได้

มือเล็กยื่นไปหยิบคทานี้ไว้ทันที เพียงคทาอยู่ในมือนาง มันก็ทอประกายแสงสีทองเจิดจ้าไปทั้งคลัง แสงสีทองเจิดจ้าเสียจนต้องหลับตาลง คล้ายดั่งคทานี้มีชีวิต มันรับรู้แล้วว่ามันพบเจอเจ้าของที่แท้จริงแล้ว ครู่ใหญ่กว่าที่แสงสีทองนั้นจะมอดดับลง

เบื้องหน้าของเสวี่ยหลินปรากฏหน้าต่างขึ้นมาบานหนึ่ง มีคำว่า ‘ติดตั้ง’ ขึ้นมาให้เห็น

นางเหลือบตามองบิดานิดหนึ่งก็พบว่าดูเหมือนเสวี่ยหมิง บิดาของนางจะไม่เห็นหน้าต่างนี้

ยามนี้เสวี่ยหมิงจึงได้เห็นบุตรทาบฝ่ามือเล็กลงไปกลางอากาศ พริบตาคทาในมือนางก็กลายเป็นกลุ่มละอองดาวพุ่งเข้าสู่ร่างของนาง

 

ติดตั้งเรียบร้อย

 

เสียงไร้ที่มาดังขึ้นในหูของเสวี่ยหลิน นางพลันรู้สึกได้ทันทีว่าร่างของนางทรงพลังขึ้น แน่นอนว่านี่เป็นผลจากคทาห้วงฝันแห่งจิ้งจอกที่มอบค่าสถานะให้นางมากมาย

“หลินเอ๋อร์ เจ้าทราบหรือไม่ กล่องใบนี้ พ่อพยายามเปิดมาหลายครั้ง แต่เปิดไม่ได้เลย แต่เจ้าแค่สัมผัสมันก็เปิดได้แล้ว แสดงว่าของในกล่องนี้เป็นของเจ้าจริงๆ”

“เพคะ มันคือคทาห้วงฝันแห่งจิ้งจอก เป็นคทาที่ลูกใช้ได้เพียงคนเดียว”

“เอามันออกมาให้พ่อดูหน่อย”

มือเล็กแบออกก็ปรากฏคทาทองคำขึ้นอีกครั้ง เสวี่ยหมิงยื่นมือไปหยิบมา หากเพียงคทาอยู่ในมือของเขา ร่างสูงสง่าล้มลงไปนั่งแปะกับพื้นทันที น้ำหนักของคทาพลันเพิ่มขึ้นราวบรรพตหมื่นจั้งทับลงบนมือของเขา

“เสด็จพ่อ ! !”

เสวี่ยหลินอุทานเรียกอย่างตกใจ นางรีบยื่นมือไปหยิบคทามาถือไว้ นั่นจึงทำให้บิดาของนางค่อยยืดตัวตรงนั่งได้

“เสด็จพ่อเป็นอย่างไรบ้างเพคะ”

“พ่อไม่เป็นไรแล้วลูก คทานั่นเป็นของเจ้าคนเดียวจริงๆ กระทั่งถือ มันยังไม่ยอมให้พ่อถือเลย” เขาบ่นออกมา

“หลินเอ๋อร์ เจ้าถือคทาไว้ ขอพ่อดูให้ชัดๆ หน่อย”

“เพคะ”

เสวี่ยหมิงจับจ้องมองคทานั้นอย่างพินิจพิจารณาก่อนจะแผ่ปราณจิ้งจอกออกตรวจสอบ หากก็ไม่พบถึงความมหัศจรรย์ของมัน

“หลินเอ๋อร์ คทานี้มีคุณวิเศษอย่างไรรึ”

เสวี่ยหลินอ้าปากเพื่อบอกถึงคุณสมบัติของคทา หากก็นึกขึ้นได้ทันทีว่าถ้านางกล่าวคำ INT DEX VIT อะไรพวกนี้ไป บิดาของนางไม่รู้เรื่องแน่ และยังยากจะอธิบายด้วย

“คทานี้ทำให้พลังเวทของลูกเพิ่มขึ้นเพคะ และเวทมนตร์ทุกบทก็จะรุนแรงขึ้นอีกด้วย” นางเลือกอธิบายอย่างง่ายที่สุด

คำตอบนี้ของนางทำให้เสวี่ยหมิงตกตะลึง

“มันดีถึงเพียงนี้?”

“เพคะ ลูกถึงอยากได้มันมากๆ”

เสวี่ยหมิงต้องถอนหายใจออกมา “เจ้าเก็บคทาไปเถิด ช่างเป็นอาวุธที่แปลกประหลาดนัก ไม่มีเทพเซียนคนใดใช้อาวุธเช่นนี้เลย แล้วมันจะสู้กระบี่ได้รึ”

เสวี่ยหลินยิ้มกว้างทันที “ได้สิเพคะ เสด็จพ่อไม่ต้องห่วง”

“เสด็จพ่อ ในคลังมีของอีกหลายอย่างที่ลูกสนใจ เสด็จพ่ออนุญาตให้ลูกเลือกของไปได้หรือไม่เพคะ” นางรีบขอทันที ย่อมไม่บ่อยนักหรอกที่นางจะได้เข้ามาในคลังแห่งนี้

“ตามใจเจ้าสิ เจ้าเลือกมา แล้วพ่อจะช่วยดูให้ ของบางอย่างแม้เหมาะกับเจ้า แต่มันอาจจะยังไม่เหมาะสมที่เจ้าจะใช้ในเวลานี้ก็ได้”

“งั้นพวกเราไปรับประทานอาหารเช้ากันก่อน เสร็จแล้วค่อยมาเลือกของในคลังนะเพคะ”

“ตามใจเจ้าสิ”

“เสด็จพ่อรักลูกที่สุดเลย” นางกอดบิดาไว้ก่อนจะหอมแก้มเขาอีกหนึ่งฟอดเพื่อขอบคุณ

เสวี่ยหมิงยิ้มอย่างอารมณ์ดี “ไม่ต้องทำมาประจบพ่อ รู้หรอกว่าเจ้าอยากได้ของมากมายนัก”

เสวี่ยหลินยิ้มแหยที่บิดารู้ทัน

สองพ่อลูกออกจากคลังสมบัติกลับมารับประทานอาหารเช้าจนเรียบร้อย จึงพากันกลับมาเลือกของในคลังสมบัติอีกครั้งหนึ่ง

ในสายตาของเสวี่ยหลินยามนี้ มีหน้าจอหนึ่งผุดขึ้น หน้าจอบอกนางว่าของที่อยู่ในมือนางคือสิ่งใด มีคุณสมบัติอย่างไร นางตวัดสายตาอ่านอย่างรวดเร็ว อันไหนรู้สึกว่าน่าสนใจก็เอามาเก็บไว้ในมิติส่วนตัวของตนเองก่อน

“หลินเอ๋อร์ เจ้าจะเอาของไปมากมายขนาดนั้นเลยรึ” เสวี่ยหมิงถามออกมาเมื่อเห็นบุตรสาวเดินเลือกของอย่างพิถีพิถันไปหลายชิ้นนัก

“ไม่ใช่หรอกเพคะ อันไหนน่าสนใจ ลูกแค่เลือกเอาไว้ก่อน เดี๋ยวพอเลือกครบหมดแล้ว ลูกจะมาคัดเลือกอีกครั้งว่าอันไหนที่น่าสนใจและจำเป็นกับลูกจริงๆ จึงค่อยเอาไว้เพคะ”

เสวี่ยหมิงต้องนึกทึ่ง

หลินเอ๋อร์รอบคอบดีเหลือเกิน ว่าแต่เด็กน้อยอายุแค่หมื่นกว่าปี เลือกของเก่งขนาดนี้เลยรึ

เขาคิดในใจหากก็ปล่อยให้บุตรสาวได้เลือกของตามใจชอบ ตัวเขาเองเพียงนั่งอ่านตำรารอนางเท่านั้น

ผ่านไปราวหนึ่งชั่วยาม เสวี่ยหลินจึงเลือกของเสร็จสิ้น ยามนี้นางจึงมานั่งข้างบิดาก่อนจะหยิบของที่เลือกไว้ออกมาจากมิติส่วนตัวของตนเองออกมาวางเรียงรายจนครบ เห็นของที่นางหยิบออกมาแล้ว เสวี่ยหมิงยิ่งนึกทึ่งกว่าเดิม บุตรสาวของเขาเลือกของเก่งยิ่ง แต่ละชิ้นล้วนมีคุณวิเศษแตกต่างกันไปและยังเหมาะสมกับตัวนางไม่น้อย

เห็นบุตรสาวนั่งจ้องของแต่ละชิ้นอย่างพินิจพิจารณา เหมือนนางหลงลืมไปว่ามีบิดานั่งอยู่ด้วย จิตสมาธิของนางจดจ่อกับการคัดเลือกของอย่างยิ่ง

ผ่านไปอีกครึ่งชั่วยาม นางจึงเลือกของแล้วเสร็จ มือเล็กๆ วาดออกก่อนจะแผ่ปราณจิ้งจอกเพื่อส่งคืนของที่นางไม่ต้องการกลับไปยังที่ของมัน เมื่อมองดูของที่นางเลือกแล้ว เสวี่ยหมิงต้องนิ่งอึ้ง

มีโอสถวิเศษเพิ่มพูนลมปราณหนึ่งขวดหยก ในนั้นย่อมมีโอสถอยู่สิบเม็ด หากที่สะดุดตาเขากลับเป็นเครื่องประดับสามชิ้นที่เขาไม่เคยคาดมาก่อนว่าจะมีอยู่ในคลัง

ชิ้นแรกเป็นแหวน แต่ก็เหมือนแหวนแบบเป็นปลอกเสียมากกว่า แหวนนี้สร้างจากโลหะบางอย่างสลักเสลาอย่างงดงาม ดูเผินๆ ก็เหมือนเครื่องประดับทั่วไป แต่บุตรสาวของเขาเลือกเอาไว้ ต้องไม่ธรรมดาแน่นอน มองเห็นเสวี่ยหลินสวมใส่แหวนนี้ลงบนนิ้วกลางของนาง ตัวแหวนทอประกายขึ้นวูบหนึ่งก่อนจะพอดีกับนิ้วของนางราวกับจับวาง

ชิ้นที่สองเป็นต่างหูที่สร้างด้วยโลหะชนิดเดียวกันกับแหวน เป็นต่างหูที่เพียงใส่มันที่หลังใบหูก็ใส่ได้โดยไม่ต้องเจาะหู ซ้ำยังดูแน่นหนาเสียด้วย มันถูกสลักด้วยลวดลายแบบเดียวกัน เสวี่ยหลินใส่ต่างหูนี้ลงบนหูทั้งสองข้างทันที

ชิ้นที่สามเป็นปิ่นโลหะที่สลักลวดลายแบบเดียวกับแหวนและต่างหู บุตรสาวของเขาเสียบปิ่นปักผมนี้ลงไปอีกอัน

เสวี่ยหมิงเองก็ทราบดีถึงคุณวิเศษของเครื่องประดับสามชิ้นนี้ หากแต่เขาดูแล้วก็คิดว่ามันไม่น่าสนใจแต่บุตรสาวของเขากลับมีท่าทางดีอกดีใจมากมายที่ได้ใช้มัน เขาได้แต่ประหลาดใจ เพราะของวิเศษที่เหล่าเทพเซียนมักใช้กันจะเป็นของวิเศษที่มีพลังทำลายสูง ของวิเศษที่เสริมสร้างร่างเซียนเช่นนี้แทบไม่มีผู้ใดสนใจใช้เลย

เครื่องประดับสามชิ้นนี้ สวยงามอย่างเรียบง่ายแต่เมื่อเสวี่ยหลินสวมใส่ มันกลับทำให้นางดูดีอย่างไม่น่าเชื่อ เขาต้องมองบุตรสาวของตนเองอย่างชื่นชม

“หลินเอ๋อร์ของพ่อน่ารักมาก” เขากล่าวชมออกมาทันที

“เสด็จพ่อของลูกหล่อเหลา เสด็จแม่ก็งดงาม ลูกย่อมต้องเหมือนพวกท่านสิเจ้าคะ” นางกล่าวอย่างไม่ถ่อมตนสักนิด

“หลงตัวเอง” บิดาของนางค่อนว่าอย่างเอ็นดู

“ถึงจะหลงตัวเอง แต่เสด็จพ่อก็รักข้ามากอยู่ดี” นางกล่าวต่ออย่างโอ้อวด แย้มยิ้มกว้างพร้อมด้วยลักยิ้มสองข้างแก้ม เรียกให้บิดาของนางต้องคว้านางมากอดไว้ก่อนจะหอมแก้มบุตรสาวทั้งสองข้าง

“เฮ้อ ข้ามีบุตรสาวที่หลงตัวเองขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อใดกันนะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า” ท่านพ่อของนางหัวเราะอย่างชอบอกชอบใจ

“ได้ของที่ต้องการครบแล้วใช่หรือไม่ หรืออยากได้อะไรอีก” ท่านพ่อของนางถามอย่างเอาอกเอาใจ

“ครบแล้วเพคะ จริงๆ ยังมีของที่ลูกอยากได้อยู่ แต่มันยังไม่เหมาะกับลูกในตอนนี้เพคะ เลยต้องฝากไว้ในคลังก่อน”

“ได้ ไว้ถึงเวลาเหมาะสม เจ้าก็มาบอกพ่อก็แล้วกัน พ่อจะพาเข้ามา”

 

 

เสวี่ยหลินกลับเข้ามาในห้องของตนเองแล้ว นางกำลังนั่งชื่นชมของที่นางได้มาจากคลังของวังพายัพ เพราะเครื่องประดับแต่ละชิ้นเพิ่มค่าสถานะให้นางชิ้นละ 5% และแต่ละชิ้นยังสามารถป้องกันสถานะผิดปกติที่เกิดจาก CC ได้ชิ้นละ 5% และเพราะมันเป็นของเข้าชุดกัน ทำให้ค่าสถานะเพิ่มขึ้นอีก 5%

นางเข้าใจดีว่าเหล่าเทพเซียนทั้งหลายมักไม่เห็นคุณค่าของของพวกนี้ เพราะพวกเขาไม่เห็นค่าสถานะเช่นนาง จึงเน้นเพียงการทำให้ตนเองสามารถโจมตีได้รุนแรงเป็นหลัก

“ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อะไรกัน ลูกแม่” เหม่ยเมิ่งที่เดินเข้ามาในตำหนักพยับหมอกของเสวี่ยหลินถามขึ้น

“ได้ของถูกใจมาจากคลังเพคะ เสด็จแม่มาหาลูก มีอะไรเพคะ”

“เห็นพ่อเจ้ามาเล่าให้ฟังว่าเจ้าเลือกเครื่องประดับวิเศษไปสามชิ้น แม่เลยนึกขึ้นได้ถึงของชิ้นหนึ่ง เลยเอามาให้เจ้า” เหม่ยเมิ่งยื่นกล่องไม้แกะสลักใบเล็กไปให้บุตรสาว

เสวี่ยหลินรับมาก่อนจะเปิดดู ยามนี้ปรากฏหน้าต่างแสดงคุณสมบัติของกำไลหยกนี้ออกมาแล้ว นางต้องตาโตทันที

 

PDEF+20%, MDEF+20%

Max HP+10%, Max SP+10%, Perfect Dodge+10%

CC Resistance +10%, Damage Reflection+10%

 

“เสด็จแม่ ของดีมากเลยเพคะ ไปได้มาจากไหนเพคะ” เสวี่ยหลินละล่ำละลักถามอย่างดีใจสุดๆ นางรีบสวมกำไลนี้ที่ข้อมือซ้ายทันที และนี่เป็นครั้งแรกที่นางได้เห็นคุณสมบัติสะท้อนดาเมจ แม้ตอนนี้จะมีเพียง 10% แต่ก็ถือว่ามากแล้ว ในเกมที่นางเคยเล่นครั้งที่ยังเป็นฮุ่ยหลัน คุณสมบัติสะท้อนดาเมจในของชิ้นหนึ่งได้อย่างมากก็เพียง 5% เท่านั้น

 

 

***PDEF=Physical Defense (การป้องกันกายภาพ), MDEF=Magic DEF (การป้องกันเวท)

HIT คือ ค่าความแม่นยำ

อ้างอิงจากข้อมูลเกม Ragnarok M Eternal Love สำหรับคำอธิบายเรื่อง STR, AGI, VIT, INT, DEX, LUK

STR (Strength) มีผลต่อพลังโจมตีทางกายภาพ (Physical Attack: PATK) แบบ “ระยะประชิด” ของตัวละคร ทำให้สามารถสร้างความเสียหายได้ แม้จะไม่มีอาวุธใดๆ ติดตั้ง หากมีการอัพค่า STR จำนวนมาก ค่า STR จะถูกคูณกับค่าอาวุธ ATK เพื่อเพิ่มความเสียหายได้มากยิ่งขึ้นกับอาวุธประเภท “ระยะประชิด”

AGI (Agility) มีผลต่อความเร็วของตัวละครในหลายๆ ด้าน ทำให้สามารถโจมตีได้เร็วขึ้น (ASPD ย่อมาจาก Speed Attack เป็นค่าความเร็วในการโจมตี ยิ่งมีค่านี้สูงเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำให้การโจมตีรวดเร็วเท่านั้น) และยังสามารถหลบการโจมตีจากศัตรูได้บ่อยยิ่งขึ้น (FLEE) แต่ค่านี้ ไม่ส่งผลต่อความเร็วในการเคลื่อนที่ และยิ่งอัพค่านี้มาก จะถูกลดค่าป้องกัน (Defense: DEF) ลงไปเรื่อยๆ

VIT (Vitality) มีผลต่อการเพิ่มพลังชีวิต (Health Point: HP) ให้สูงมากยิ่งขึ้น (Max HP) อีกทั้งยังเพิ่มพลังฟื้นฟูของตัวละคร ทำให้สามารถทนต่อมอนสเตอร์ได้นานขึ้นและฟื้นชีวิตด้วยไอเทมรักษาได้ดีมากยิ่งขึ้นอีกด้วย การอัพค่านี้มากๆ ยังทำให้ช่วยต้านสถานะผิดปกติ และยิ่งอัพค่านี้มาก จะถูกลด DEF ลงไปเรื่อยๆ

INT (Intelligence) มีผลต่อพลังอำนาจทางจิตของตัวละครทำให้สามารถสร้างความเสียหายเวทได้ แม้จะไม่มีอาวุธใดก็ตาม โดยค่านี้จะขยาย SP (Spell Point หรือเรียกว่า มานา ซึ่งจะเป็นค่าที่แสดงให้เห็นถึงพลังเวทที่สามารถใช้งานได้ และจะลดลงทุกครั้งที่มีการใช้สกิลใดๆ ที่ต้องอาศัย SP) ให้สามารถใช้งานได้มากขึ้น เพิ่มพลังโจมตีทางเวท (Magical ATK: MATK) และป้องกันเวทย์ (Magical DEF: MDEF) ค่านี้ยังมีความสามารถในการช่วยฟื้น SP ได้เร็วยิ่งขึ้น การอัพค่านี้เป็นจำนวนมาก จะทำให้ระยะเวลาในการร่ายเวทเร็วขึ้น

DEX (Dexterity) มีผลต่อความแม่นยำในการโจมตี (HIT) ของตัวละคร เพราะมีโอกาสที่จะโจมตีโดนเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ยังเพิ่ม PATK ให้กับสายโจมตีระยะไกล DEX ยังไปเพิ่มในส่วนของการลดเวลาในการร่ายสกิล เพิ่มอัตราความสำเร็จในการขโมย ตีบวก สร้างสิ่งของ และอาหาร เป็นต้น

LUK (Luck) มีผลต่อการโจมตีของตัวละครบางสายอาชีพที่หวังการโจมตีแบบติดคริติคอล (Critical Hit) ให้เกิดขึ้นได้บ่อยๆ และยังเพิ่มค่าอื่นๆอีกมากมาย อย่างละเล็กๆน้อยๆ ไม่ว่าจะเป็น เพิ่มอัตราความสำเร็จในการขโมย ตีบวก สร้างสิ่งของ และอาหาร ต้านทานสถานะผิดปกติ และยังเพิ่มอัตราการหลบหลีก

Cooldown (CD) หมายถึงกลไกอย่างหนึ่งของระบบการเล่นเกม ในรูปแบบของช่วงเวลาที่ผู้เล่นจะต้องรอ ก่อนที่จะสามารถเรียกใช้การกระทำเดิมได้อีกครั้ง

AoE (Area of Effect) คือ ขอบเขตที่แสดงผล คำว่า AoE จะใช้เรียกกับสกิลที่เป็นวงกว้าง สกิลรูปแบบนี้โดยส่วนมากจะเป็นสกิลที่มีผลต่อการต่อสู้เป็นอย่างมาก มักจะพ่วงมาด้วย ความสามารถ CC ที่เป็นวงกว้าง ข้อดีของทีมที่มี AoE คือสามารถสร้างความเสียหาย (Damage) ได้ดีกว่า และมี CC เป็นวงกว้างทั้งการเปิดการต่อสู้หรือการช่วยเหลือเพื่อน ส่วนข้อเสียคือ เรื่องของ CD ที่นาน ส่วนใหญ่แล้วสกิลที่มี AoE กว้าง ๆ จะมี CD นาน ดังนั้นการใช้แต่ละครั้งจะมีผลต่อทีมหรือการต่อสู้มาก หากใช้พลาดไม่เกิดประโยชน์ไป 1 ครั้ง อาจทำให้อีกทีมเอาชนะฝ่ายเราได้

Crowd Control (CC) เป็นความสามารถในการลดประสิทธิภาพในการต่อสู้ของคู่แข่ง ไม่ว่าจะเป็นการทำให้เคลื่อนได้ช้าลง ใช้สกิลไม่ได้ ติดมึน ติดหยุดนิ่ง ติดตาบอดจนโจมตีไม่โดน ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะทำให้ทีมของเราสามารถต่อสู้กับคู่แข่งได้ง่ายขึ้น CC แฝงอยู่แทบทุกที่ภายในเกม ไม่ว่าจะเป็นการแฝงอยู่ในสกิลต่างๆ ทั้ง Passive Skill และ Active รวมถึงอาจแฝงอยู่ในไอเทมต่างๆ ในรูปแบบของการใช้งานแบบมีเงื่อนไข เช่น ใส่ให้ครบเซ็ต หรือถ้าตัวละครโดนโจมตี คู่แข่งที่โจมตีจะมีความเร็วในการโจมตีลดลง เป็นต้น โดยสรุป CC คือความสามารถในการก่อกวนคู่แข่งให้เล่นยากขึ้น CC มี 3 ประเภทคือ

1) Movement CC เป็น CC ที่เน้นก่อกวนการเคลื่อนที่ของคู่แข่งเป็นหลัก เช่น ทำให้คู่แข่งเคลื่อนที่ช้าลง (Slow), ทำให้คู่แข่งเคลื่อนไหวไม่ได้ (Root และ Stun) และทำให้คู่แข่งเคลื่อนที่หรือลอยไปในทิศทางที่เรากำหนด (Knockback)

2) Action CC เป็น CC ที่เน้นก่อกวนการออกท่าโจมตีหรือการใช้สกิลต่างๆ ของคู่แข่ง ทำให้การโจมตีครั้งนั้นไม่สำเร็จ เช่น การติดใบ้ทำให้ไม่สามารถใช้สกิลได้ (Silence), การปลดอาวุธทำให้ไม่สามารถโจมตีแบบปกติได้ (Disarm) และการขัดขวางไม่ให้คู่แข่งใช้สกิลได้สำเร็จ (Interrupt และ Stun) CC ประเภทนี้ถือว่าร้ายแรงและส่งผลต่อรูปเกมมากที่สุด จริงอยู่ที่ CC เหล่านี้มีผลไม่กี่วินาที แต่เวลาไม่กี่วินาทีนี้ทำให้เราสามารถพลิกเกมจากแพ้เป็นชนะหรือชนะเป็นแพ้ได้เลย

3) Forced CC เป็น CC ที่จะบังคับตัวละครของคู่แข่งให้เคลื่อนที่ โจมตี หรือใช้สกิลบางอย่างออกมาเองโดยที่คู่แข่งไม่สามารถยกเลิกการกระทำนั้นได้ เช่น การบังคับให้ตัวละครของคู่แข่งเข้ามาโจมตีตัวละครของเราทั้งๆ ที่เป้าหมายคือตัวละครอื่น (Taunt) การบังคับให้คู่แข่งเดินเข้ามาหาเราอย่างช้าๆ (Charm) และการบังคับให้คู่แข่งเคลื่อนที่หนีออกไปจากตัวเรา (Fear) CC ประเภทนี้จะทำให้คู่แข่งไม่สามารถบังคับตนเอง ฝ่ายตรงข้ามจะเคลื่อนที่หรือกระทำตามที่เราต้องการจนกว่าผลของ CC จะหมดไป

Active Skill เป็นสกิลประเภทกดใช้งาน การใช้งานแต่ละครั้งก็จะมี CD ในการใช้งาน และใช้ค่า SP ในการใช้งานด้วย แน่นอนว่าส่วนใหญ่จะเป็นสกิลประเภทโจมตีและบัฟเพิ่มความสามารถให้กับตัวเราและเพื่อนร่วมทีม

Passive Skill คือ สกิลติดตัว เมื่ออัพแล้วจะได้ผลของสกิลนั้นๆ ทันที ส่วนใหญ่ Passive Skill จะเป็นสกิลเพิ่มความสามารถในการป้องกันและคุณสมบัติพิเศษประจำสายอาชีพนั้นๆ Passive Skill ของแต่ละสายอาชีพจะมีทั้งที่เหมือนกับสายอาชีพอื่นและมีเฉพาะสายอาชีพตัวเอง

Perfect Hit (PH) คือ โอกาสที่เป้าหมายจะมีค่าหลบหลีก (Flee) = 0 หรือก็คือโอกาสที่จะโจมตีโดน 100% โดยไม่สน Flee ถ้า PH 100% ก็จะตีปกติและสกิลโดนแน่นอน โดยไม่ต้องมี Hit เลยก็ได้

Perfect Dodge (PD) คือ โอกาสที่จะหลบการโจมตีปกติ 100% ถ้า PD 100% ก็จะหลบการโจมตีปกติได้แน่นอน โดยไม่ต้องมี Flee