นางเป็นหลานสาวของข้า ข้าหวง...เอ่อ...ห่วงหลานสาวข้า ก็เป็นเรื่องปกติ พวกเจ้าจะมาสงสัยอะไร

ตามรักจิ้งจอกน้อย - บทที่ 5 เร่งศึกษา โดย สวรรยสร @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,ดราม่า,แอคชั่น,แฟนตาซี,ชาย-หญิง,แฟนตาซี,ต่อสู้,เทพเซียน,สงคราม,ไม่ฮาเร็ม,พระเอกเทพ,ีจีนโบราณ,ทะลุมิติ,เกิดใหม่ ,นางเอกเก่ง,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ตามรักจิ้งจอกน้อย

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,ดราม่า,แอคชั่น,แฟนตาซี,ชาย-หญิง

แท็คที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,ต่อสู้,เทพเซียน,สงคราม,ไม่ฮาเร็ม,พระเอกเทพ,ีจีนโบราณ,ทะลุมิติ,เกิดใหม่ ,นางเอกเก่ง

รายละเอียด

นางเป็นหลานสาวของข้า ข้าหวง...เอ่อ...ห่วงหลานสาวข้า ก็เป็นเรื่องปกติ พวกเจ้าจะมาสงสัยอะไร

ผู้แต่ง

สวรรยสร

เรื่องย่อ

มหาเทพผู้สร้างตว๋อเทียน พระเจ้าผู้สร้างจักรวาลแห่งนี้ ได้สร้างสรรค์สัตว์เทพขึ้นมาเจ็ดเผ่า ได้แก่ มังกร กิเลน จิ้งจอกเก้าหาง หงส์แดง สิงโต เต่ามังกร และเสือขาว แต่ละเผ่าล้วนมีความสามารถและเก่งกาจแตกต่างกันไป

แดนเซียนที่มหาเทพผู้สร้างตว๋อเทียนสร้างขึ้นถูกเรียกว่า สี่ทะเลแปดดินแดน แน่นอนว่าเผ่ามังกรย่อมทรงพลังและอำนาจสูงสุด ครอบครองสี่ทะเลและสองดินแดน อีกหกเผ่าที่เหลือครอบครองกันเผ่าละหนึ่งดินแดน

เผ่ามังกรนั้น มหาเทพตว๋อเทียนได้รังสรรค์มหาเทพองค์หนึ่งที่เพียบพร้อมด้วยคุณสมบัติและรูปสมบัติขึ้นปกครองเผ่ามังกรและเป็นดั่งนายเหนือของทุกเผ่า มหาเทพองค์นี้จึงเป็นที่รับทราบกันทั่วว่าเป็นบุตรชายสุดที่รักของมหาเทพผู้สร้างตว๋อเทียน นามของเขาคือ หยางหลง (มังกรสุริยัน)

มหาเทพหยางหลงนั่งบัลลังก์ประมุขฟ้าดินได้ราว 300,000 ปี ก็สละบัลลังก์ให้หยางเจี้ยน (กระบี่สุริยัน) แม่ทัพคู่ใจของเขาขึ้นครองแทน มหาเทพหยางหลงที่ยามนี้มีเวลาว่างมากมายเพราะหาแพะรับบาปมารับภาระแทนตนเองได้สำเร็จ จึงถือโอกาสนี้ท่องเที่ยวไปทั่วสี่ทะเลแปดดินแดนและแดนมนุษย์ถึง 80,000 ปี ก่อนจะกลับสู่แดนบูรพาที่เผ่ามังกรครอบครอง และพักผ่อนอยู่เพียงผู้เดียวที่วังมังกรสวรรค์ของตนมาได้ 20,000 ปีแล้ว

แต่เมื่อไม่นานมานี้เขาได้เห็นปรากฏการณ์ประหลาดเกิดขึ้น นั่นคือ ร่างเงาของจิ้งจอกเก้าหางที่ส่องแสงสีทองปรากฏขึ้นกลางผืนฟ้า ทั้งสี่ทะเลแปดดินแดนได้เห็นเหตุการณ์นี้ต่างงุนงงสงสัยว่ามันหมายถึงสิ่งใด หากไม่มีผู้ใดไขปริศนานี้ได้กระทั่งมหาเทพหยางหลงเอง

หลังจากนั้นเพียงไม่กี่วัน มหาเทพจึงทราบว่าเหม่ยเมิ่ง ราชินีของราชาจิ้งจอกเก้าหางเสวี่ยหมิง ให้กำเนิดธิดาน้อยนางหนึ่ง นามของนางคือ เสวี่ยหลิน ทราบแล้วจึงส่งของขวัญไปแสดงความยินดีเสียหน่อย แต่ผู้ใดจะคาดได้ว่าผ่านไปอีกเพียงหนึ่งหมื่นแปดพันปี เขาจะมีโอกาสได้พบเจอจิ้งจอกน้อยนี้ ทั้งยังคบหานางเป็นกึ่งสหายต่างวัยกึ่งหลานสาว แต่เขากลับรู้สึกไม่ชอบใจอย่างยิ่งที่มีเซียนบุรุษมากหน้าหลายตาพยายามเข้ามายุ่งเกี่ยวกับนาง

สารบัญ

ตามรักจิ้งจอกน้อย-บทที่ 1 ตายแล้วก็ข้ามภพมาเกิดใหม่,ตามรักจิ้งจอกน้อย-บทที่ 2 กำเนิดจิ้งจอกทองเก้าหาง,ตามรักจิ้งจอกน้อย-บทที่ 3 คทาห้วงฝันแห่งจิ้งจอก,ตามรักจิ้งจอกน้อย-บทที่ 4 จตุธาตุอัญมณี,ตามรักจิ้งจอกน้อย-บทที่ 5 เร่งศึกษา,ตามรักจิ้งจอกน้อย-บทที่ 6 เตรียมพร้อม,ตามรักจิ้งจอกน้อย-บทที่ 7 ร้านชาจิ้งจอกน้อย (ต้น),ตามรักจิ้งจอกน้อย-บทที่ 8 ร้านชาจิ้งจอกน้อย (ปลาย),ตามรักจิ้งจอกน้อย-บทที่ 9 พบหน้าครั้งแรก,ตามรักจิ้งจอกน้อย-บทที่ 10 หุบเขาบูรพานิรันดร์,ตามรักจิ้งจอกน้อย-บทที่ 11 ข้อเสนอไม่คาดหมาย,ตามรักจิ้งจอกน้อย-บทที่ 12 การตอบโต้ของเผ่าจิ้งจอกเก้าหาง,ตามรักจิ้งจอกน้อย-บทที่ 13 หยางเค่อ,ตามรักจิ้งจอกน้อย-บทที่ 14 ประลองสามต่อสาม (ต้น),ตามรักจิ้งจอกน้อย-บทที่ 15 ประลองสามต่อสาม (ปลาย),ตามรักจิ้งจอกน้อย-บทที่ 16 ชมชอบไม่รู้ตัว (ต้น),ตามรักจิ้งจอกน้อย-บทที่ 17 ชมชอบไม่รู้ตัว (กลาง),ตามรักจิ้งจอกน้อย-บทที่ 18 ชมชอบไม่รู้ตัว (ปลาย),ตามรักจิ้งจอกน้อย-บทที่ 19 ก่นด่าไม่ไว้หน้า,ตามรักจิ้งจอกน้อย-บทที่ 20 เริ่มใกล้ชิด (ต้น),ตามรักจิ้งจอกน้อย-บทที่ 21 เริ่มใกล้ชิด (ปลาย),ตามรักจิ้งจอกน้อย-บทที่ 22 สู่ขอ,ตามรักจิ้งจอกน้อย-บทที่ 23 เกือบอกหัก,ตามรักจิ้งจอกน้อย-บทที่ 24 โชว์อันน่าตื่นตา (ต้น),ตามรักจิ้งจอกน้อย-บทที่ 25 โชว์อันน่าตื่นตา (ปลาย),ตามรักจิ้งจอกน้อย-บทที่ 26 เพลงอันทรงพลัง,ตามรักจิ้งจอกน้อย-บทที่ 27 เสี่ยวหลง (ต้น),ตามรักจิ้งจอกน้อย-บทที่ 28 เสี่ยวหลง (กลาง),ตามรักจิ้งจอกน้อย-บทที่ 29 เสี่ยวหลง (ปลาย),ตามรักจิ้งจอกน้อย-บทที่ 30 สมดุลพลังที่เปลี่ยนไป,ตามรักจิ้งจอกน้อย-บทที่ 31 เตรียมพร้อม,ตามรักจิ้งจอกน้อย-บทที่ 32 ผีเสื้อขยับปีก,ตามรักจิ้งจอกน้อย-บทที่ 33 ความเป็นไปได้ของสงคราม,ตามรักจิ้งจอกน้อย-บทที่ 34 เริ่มต้นแห่งสงคราม,ตามรักจิ้งจอกน้อย-บทที่ 35 เปิดเผยและซ่อนเร้น,ตามรักจิ้งจอกน้อย-บทที่ 36 ว่าที่มหาเทวี,ตามรักจิ้งจอกน้อย-บทที่ 37 เสริมสร้างข่ายปราณ,ตามรักจิ้งจอกน้อย-บทที่ 38 ฆ่าปิดปาก,ตามรักจิ้งจอกน้อย-บทที่ 39 เปลี่ยนม้ากลางศึก,ตามรักจิ้งจอกน้อย-บทที่ 40 กุนซือผู้ร้ายกาจ,ตามรักจิ้งจอกน้อย-บทที่ 41 ความผูกพันอันห่างเหิน,ตามรักจิ้งจอกน้อย-บทที่ 42 ในวงล้อม,ตามรักจิ้งจอกน้อย-บทที่ 43 ผีหลอก,ตามรักจิ้งจอกน้อย-บทที่ 44 ไมตรีจากสิงโต

เนื้อหา

บทที่ 5 เร่งศึกษา

กร๊าซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซซ

อสูรสี่ตากรีดร้องเสียงดังยาวนานกว่าทุกครั้งก่อนจะล้มลง

เสียงไร้ที่มาดังขึ้นในใจของเสวี่ยหลินจนจำได้แล้วว่าเสียงนี้จะกล่าวสิ่งใด

 

ปราณเซียนจิ้งจอกเพิ่มขึ้น 5%

แต้มสกิลจำนวน 5 แต้ม

จตุธาตุอัญมณี

 

คำ ‘จตุธาตุอัญมณี’ ฉุดให้เสวี่ยหลินที่กำลังเบื่อหน่ายสุดขีดเบิ่งตากลมกว้าง จ้องมองภาพตรงหน้าด้วยความตื่นตะลึง

ที่ลอยอยู่ตรงหน้านางคือ อัญมณีทรงกลมสี่เม็ด แต่ละเม็ดมีขนาดราว 1 ชุ่น เม็ดหนึ่งสีน้ำเงินงดงามราวกับมีน้ำทะเลอยู่ภายใน เม็ดหนึ่งสีแดงฉานราวกับมีเปลวไฟลุกโหม เม็ดหนึ่งสีขาวพยับหมอกเหมือนมองเห็นพายุโหมกระหน่ำ และเม็ดสุดท้ายเป็นสีม่วงเข้มที่มีประกายสายฟ้า อัญมณีทั้งสี่เม็ดเปล่งประกายเรืองรองทอแสงสว่างโชติช่วง

เบื้องหน้าของนางยามนี้มีหน้าจอแสดงอยู่

 

ต้องการหลอมรวมเพื่อเป็นเจ้าแห่งธาตุทั้งสี่หรือไม่”

พร้อมกับคำสั่งให้นางเลือกว่า ‘หลอมรวม’ และ ‘ไม่หลอมรวม’

ฝ่ามือเล็กๆ ทาบลงไปบนคำว่า ‘หลอมรวม’ ทันที

พริบตาอัญมณีทั้งสี่เม็ดก็พุ่งเข้าสู่ร่างของนาง เสวี่ยหลินรู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าอัญมณีทั้งสี่วิ่งขึ้นไปที่ศีรษะก่อนจะแปรสภาพเป็นสายน้ำหนึ่งสาย เปลวไฟลุกโชน พายุลูกใหญ่ และสายฟ้าแล่นไปมา ทั้งสี่อย่างวิ่งเข้าหากันที่กลางศีรษะของนาง ทำให้ปวดศีรษะจนต้องนั่งลง ร่างกายของนางบอกว่าให้นางโคจรปราณจิ้งจอกชักนำให้พลังจากจตุธาตุอัญมณีมารวมกัน

เสวี่ยหลินโคจรปราณจิ้งจอกตามที่นางสัมผัสได้ ไม่นานกระแสพลังสี่สายนั้นค่อยรวมกันก่อนจะกลายเป็นปราณธาตุสีน้ำเงิน สีแดง สีขาวหม่น และสีม่วง อันเป็นสีประจำธาตุ ปราณธาตุสี่สายนั้นกระจายทั่วร่างของนาง ไหลผ่านทุกอวัยวะ ทุกเส้นชีพจร และทุกจุดชีพจร โลกหล้าภายในร่างและดวงจิตของนางเต็มไปด้วยแสงปราณทั้งสี่ที่ผสมกลมกลืนกันอย่างงดงาม

ผ่านไปราวหนึ่งเค่อปราณธาตุทั้งหมดจึงไปรวมตัวสงบนิ่งอยู่ภายในแก่นเซียนจิ้งจอกของนางที่อยู่บริเวณท้องน้อย เสวี่ยหลินจึงค่อยลืมตาขึ้น ริมฝีปากจิ้มลิ้มน่ารักผุดรอยยิ้มกว้างอย่างดีใจ

“ในที่สุดก็สำเร็จ” นางตะโกนออกมาด้วยความดีใจ

ยามนี้นางรู้สึกว่าคุ้มค่าอย่างยิ่งที่มาล่าอสูรสี่ตาตัวนี้ หลังจากล่าบอสตัวนี้มาถึงสิบวัน เมื่อล่วงเข้าวันที่สิบเอ็ด มันจึงยอมดรอปจตุธาตุอัญมณีมาให้เสียที

“ได้กลับเสียที” เสวี่ยหลินกล่าวออกมาอย่างโล่งใจ

“แต่...ไม่สิ ยังไม่ควรกลับ เราควรล่าอสูรสี่ตาต่อ หาจตุธาตุอัญมณีให้ได้อีกสิบสองเม็ด จะได้ให้เสด็จพ่อ เสด็จแม่ และพี่ใหญ่ด้วย” นางพลันนึกขึ้นได้กะทันหัน

“ส่วนท่านน้าเสวี่ยปิง ไว้เจอของอื่นที่เหมาะกับท่านน้าแล้วค่อยเอาไปฝากดีกว่า”

เสวี่ยหลินต้องใช้เวลาอีกสองเดือนจึงจะได้จตุธาตุอัญมณีครบตามต้องการ และผลพลอยได้จากการล่าสัตว์อสูรคือลมปราณของนางที่เพิ่มขึ้นจากการสังหารสัตว์อสูร ยามนี้ลมปราณของนางอยู่ที่แปลงเซียนขั้นสองแล้ว เทียบเป็นเลเวลที่ 92

ก่อนจะออกจากเทือกเขาครองพายัพ นางจึงไปไล่เก็บสมุนไพรวิเศษที่นางพบเจอ ผัก ผลไม้ และดอกไม้ต่างๆ มาจนเต็มไปหมด เรียกได้ว่ามิติส่วนตัวของนางยามนี้ อัดแน่นจนไม่มีที่ว่าง

 

 

ยามนี้เสวี่ยหลินมาถึงวังพายัพแล้วและยังมาถึงต้นยามอิ๋น (03.00 น.) นางไม่สนว่าเวลามันดึกมากและบิดามารดาเข้านอนไปนานแล้ว เพราะของที่นางนำมาให้พวกท่านล้ำค่าเกินไป นางไม่ต้องการให้มีความเสี่ยงใดๆ ว่าจะมีผู้อื่นล่วงรู้และแย่งชิงไป ดังนั้น หนทางที่ปลอดภัยที่สุดคือ ให้พวกท่านหลอมรวมกับพวกมันเสียก่อน

“เสด็จพ่อ เสด็จแม่ ตื่นบรรทมก่อนเพคะ ลูกมีเรื่องอยากเข้าเฝ้า” นางร้องบอกออกไปก่อนจะเคาะประตูอย่างเร่งรีบ

ไม่นานนักประตูห้องบรรทมก็เปิดออก มองเห็นท่านแม่เหม่ยเมิ่งของนาง ผมเผ้ายุ่งเล็กน้อย ไม่รอให้มารดาออกปาก นางก็รีบบอกกล่าวทันที

“เสด็จแม่ ปลุกเสด็จพ่อด่วนเลยเพคะ ลูกจะรออยู่ที่นี่”

เหม่ยเมิ่งต้องประหลาดใจหากก็ไม่กล่าวสิ่งใด คาดเดาได้ทันทีว่าบุตรสาวต้องมีเรื่องด่วน นางเดินกลับเข้าไปปลุกราชาเสวี่ยหมิง ครู่หนึ่งประตูห้องจึงเปิดออกอีกครั้ง

“หลินเอ๋อร์ เจ้ามีเรื่องด่วนอะไร จึงมาปลุกพ่อกับแม่กลางดึก แล้วนี่เจ้าแอบหนีออกมารึ?” ราชาเสวี่ยหมิงถามขึ้นทันทีที่พบหน้าบุตรสาว

“เรื่องอื่นเดี๋ยวลูกเล่าให้ฟังเพคะ แต่ยามนี้เสด็จพ่อช่วยเปิดคลังสมบัติให้ลูกด้วย พวกเราทั้งหมดจะเข้าไปในนั้นกันเพคะ”

ราชาเสวี่ยหมิงและราชินีเหม่ยเมิ่งประหลาดใจกับคำขอของบุตรสาว หากก็ยอมกระทำตามที่นางบอก

 

 

“เสด็จพ่อ ท่านปิดประตูคลังให้แน่นหนาก่อนเพคะ”

เมื่อเห็นบิดาปิดประตูเรียบร้อย นางก็แผ่ปราณจิ้งจอกคลุมทั้งคลังสมบัติทันทีเพื่อตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีผู้ใดแอบซ่อนอยู่ เมื่อแน่ใจแล้วจึงค่อยหยิบของออกมา

ราชาเสวี่ยหมิงและราชินีเหม่ยเมิ่งตกตะลึงตาค้างทันทีเมื่อได้เห็นของที่บุตรสาวนำออกมา ครู่หนึ่งจึงตั้งสติได้

“หลินเอ๋อร์ ลูกไปเอามาจากไหน ของสิ่งนี้หายากยิ่งนัก แต่นี่เจ้ามีถึงสอง” เหม่ยเมิ่งถามอย่างไม่หายตื่นตะลึง เข้าใจได้ทันทีว่าเพราะเหตุใดบุตรสาวตัวน้อยจึงต้องมาปลุกกลางดึกและเร่งรัดให้มายังที่นี้

“เดี๋ยวลูกเล่าให้ฟังเพคะ รับรองได้ว่าลูกไม่ได้ไปขโมยใครเขามา แต่ตอนนี้ เสด็จพ่อกับเสด็จแม่หลอมรวมกับจตุธาตุอัญมณีให้เสร็จสิ้นก่อนเพคะ”

เสวี่ยหมิงและเหม่ยเมิ่งใช้เวลาราวสองเค่อจึงหลอมรวมกับจตุธาตุอัญมณีเสร็จสิ้น

“เอาล่ะ ทีนี้เจ้าบอกมา เจ้าไปได้จตุธาตุอัญมณีมาได้อย่างไร” เสวี่ยหมิงหันมาถามเจ้าตัวดีที่นั่งดูบิดามารดาด้วยความปลาบปลื้มดีใจ

เรื่องราวทั้งหมดถูกเล่าให้ฟังอย่างละเอียด สิ่งที่เสวี่ยหลินไม่เล่าคือระบบเกมที่นางมี นางบอกเล่าว่าจากการศึกษาค้นคว้าของนาง พอคาดเดาได้ว่าเทือกเขาครองพายัพเป็นเทือกเขาที่น่าจะมีจตุธาตุอัญมณี เพราะเทือกเขาแห่งนี้มีสมุนไพรวิเศษเป็นจำนวนมากที่เติบโตด้วยธาตุที่แตกต่างกัน ก็เป็นไปได้ว่าจตุธาตุอัญมณีสมควรมีโอกาสเกิดขึ้นที่นี่ และเผอิญนางโชคดีที่พบสัตว์อสูรที่ภายในร่างของมันก่อเกิดจตุธาตุอัญมณี นางจึงล่าสัตว์อสูรเหล่านั้นเพื่อหามัน

“จตุธาตุอัญมณีนี้ ลูกตั้งใจจะให้พี่ใหญ่ แต่ยามนี้พี่ใหญ่อยู่ไกลอย่างยิ่ง ลูกจึงอยากฝากมันไว้ในคลังนี้ก่อน เมื่อใดที่ลูกไปศึกษาที่บูรพานิรันดร์ ลูกค่อยเอาไปให้พี่ใหญ่เพคะ” นางยื่นจตุธาตุอัญมณีอีกชุดหนึ่งให้บิดาของนาง

เขาหยิบอัญมณีทั้งสี่เม็ดใส่ไว้ในกล่องหยกใบหนึ่งก่อนจะร่ายเวทเพื่อผนึกมันไว้ และนำไปวางไว้ยังที่ที่เคยเก็บรักษาคทาห้วงฝันแห่งจิ้งจอก

“พ่อเก็บไว้ที่นี่ รับรองมันจะไม่หายไปไหน และเมื่อถึงเวลานั้นพ่อจะไปส่งเจ้าที่บูรพานิรันดร์ด้วย ของสิ่งนี้มีค่ามากเกินไป ให้เจ้าเอาไปเอง ย่อมไม่ปลอดภัยกับตัวเจ้า”

“เพคะ”

ร่างเล็กบอบบางถูกเหม่ยเมิ่งดึงเข้าไปกอดไว้ “ขอบใจนะลูกแม่ เจ้าทำอะไรก็นึกถึงพ่อกับแม่เสมอ”

เสวี่ยหมิงเข้ามาโอบกอดพวกนางสองแม่ลูกไว้ “ขอบใจนะหลินเอ๋อร์ที่ทำเพื่อพ่อกับแม่ถึงเพียงนี้ แต่ต่อไปอย่าเสี่ยงอันตรายเช่นนี้อีกนะลูก หากครั้งนี้เจ้าพลาดพลั้งเป็นอะไรไป พ่อกับแม่คงไม่รู้จะทำอย่างไร”

“เพคะ ต่อไปลูกจะไม่เสี่ยงอันตรายเช่นนี้อีก”

“เดี๋ยวพ่อกับแม่ไปส่งเจ้าที่สถานศึกษา เจ้าแอบหนีออกมาเช่นนี้ หากอาจารย์ที่นั่นพบเข้า เจ้าจะถูกทำโทษได้”

เสวี่ยหมิงและเหม่ยเมิ่งพาเสวี่ยหลินกลับมาที่เรือนพักของนางในสถานศึกษาอย่างเรียบร้อย

“หากเจ้าคิดจะไปที่ใดอีก ให้บอกพ่อกับแม่ ไม่ใช่แอบหนีไปคนเดียว รู้หรือไม่”

“เพคะ ลูกไม่ทำอีกแล้ว”

“ดี เจ้าไปพักผ่อนได้แล้ว นี่ใกล้จะเช้าแล้ว”

“เพคะ”

 

 

เมื่อเสวี่ยหลินได้ครอบครองจตุธาตุอัญมณี ความสามารถด้านธาตุของนางจึงสูงล้ำยิ่งกว่าเทพเซียนรุ่นราวคราวเดียวกันไปไกลลิบ เช่นเดียวกับราชาเสวี่ยหมิงและราชินีเหม่ยเมิ่งที่ความสามารถด้านธาตุเพิ่มพูนขึ้น และทั่วทั้งสี่ทะเลแปดดินแดนนี้ย่อมยังไม่มีผู้ใดทราบถึงความเปลี่ยนแปลงของราชาและราชินีเผ่าจิ้งจอกเก้าหาง

ด้วยผลจากคทาห้วงฝันแห่งจิ้งจอก เลเวลของนางที่เพิ่มเป็น 92 จากเดิม 85 รวมทั้งจตุธาตุอัญมณี สกิลที่เสวี่ยหลินใช้จึงได้รับการอัพเกรด

ทลายเกราะ เลเวล 15 (10) – ลดการป้องกันของเป้าหมาย PDEF-20% (-15%), MDEF-20% (-15%), CC Resistance-20% (-15%) นาน 15 วินาที CD= 3 วินาที ผลการลดเกราะสามารถซ้อนทับได้

แหลมคม เลเวล 15 (10) – ลด HIT ของเป้าหมาย -80% (-70%) นาน 5 วินาที และเพิ่ม HIT ของตนเอง +40% (+35%) นาน 10 วินาที ไม่มีผลซ้อนทับ CD=10 วินาที

ห้วงนิทรา เลเวล 15 (10) – ทำให้เป้าหมายและศัตรูที่อยู่ใกล้ๆ หลับ โดนศัตรูสูงสุด 10 (8) ตัว หลับเป็นเวลา 10 วินาที ไม่มีผลซ้อนทับ CT=5วินาที, CD=1วินาที

เคลิ้มฝัน เลเวล 15 (10) - ทำดาเมจ 8 (5) ครั้งใส่ศัตรูและกระทบไปโดนตัวรอบๆ สูงสุด 10 ตัว ทำให้ศัตรูมึนงงนาน 3 วินาที CT=4.2วินาที ไม่มีผลซ้อนทับ CD=1.5วินาที

คลี่คลาย เลเวล 15 (10) - ลบ Debuff ทั้งหมดที่ตนเองได้รับ จากนั้นจะป้องกัน Debuff จากศัตรูนาน 15 (10) วินาที ถ้าใช้ใส่กับศัตรู จะลบ Buff ทั้งหมดของศัตรู และจะทำให้ศัตรูไม่ได้รับ Buff ของฝ่ายศัตรูนาน 15 (10) วินาที CT=5วินาที, CD=7 วินาที

เกราะทองคำ เลเวล 15 (10) - สร้างเกราะคุ้มกันป้องกันการโจมตีทั้งหมด นาน 60 (50) วินาที หรือโดนตีจำนวน 20 (15) ครั้ง เกราะก็จะหายไป CT=0.5วินาที

โจมตีสัมฤทธิ์ผล เลเวล 15 [10] (Passive Skill) – เพิ่ม MATK ของตัวเอง 25% (20%), มีโอกาส 25% (20%) โจมตีติดคริติคอล และทำดาเมจคริติคอล 250% (220%) ทุกครั้งที่โจมตีจะทำดาเมจธาตุน้ำ ธาตุไฟ ธาตุลม และธาตุสายฟ้ารวมกัน 150% หรือจะเลือกดาเมจด้วยธาตุที่กำหนดเองก็ได้ หากเลือกธาตุใดธาตุหนึ่งจะทำดาเมจจากธาตุนั้น 200%

การเพิ่มดาเมจธาตุเข้ามานี้ทำให้เสวี่ยหลินชอบใจมาก เพราะไม่ว่านางจะโจมตีด้วยสกิลใด จะเกิดดาเมจครบทุกธาตุเสมอ แต่นางเลือกให้เกิดดาเมจธาตุสายฟ้า เพราะธาตุสายฟ้าเป็นธาตุที่ไม่มีธาตุใดชนะได้

อาณาจักรแห่งฝัน (AOE) เลเวล 15 (10) สกิลประจำเผ่าพันธุ์จิ้งจอกทองเก้าหาง - มีระยะสกิลกว้าง 15 (10) จั้ง ทำให้ฝ่ายตรงข้ามที่อยู่ในระยะสกิลได้รับ CC effect สามประการ ได้แก่ ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้นาน 8 (5) วินาที จากนั้นจะหลับนาน 8 (5) วินาที สุดท้ายจะมึนงงนาน 8 (5) วินาที ผลของอาณาจักรแห่งฝันไม่สามารถแก้ไขได้นอกจากเจ้าของสกิลจะยกเลิกเอง CD=3 นาที

**ตัวเลขในวงเล็บคือก่อนการอัพเกรด**

 

 

เสวี่ยหลินกลับมาอ่านตำราที่หออักษรเช่นเดิมนางตั้งใจศึกษาตำราเวททั้งหมดเพื่อให้แตกฉานที่สุด ใช้เวลาอีกราวหกเดือนนางจึงศึกษาตำราเวทได้ครบถ้วน เมื่อมาสอบข้อเขียน แน่นอนว่าผลการสอบข้อเขียน นางทำได้คะแนนเต็มอีกเช่นเคย

เพราะข้อได้เปรียบที่นางมองเห็นค่าสถานะของสัตว์อสูรที่สถานศึกษาเอามาทดสอบกับนางในการสอบวิชาเวทภาคปฏิบัติ และนางใช้ได้สี่ธาตุ ผลจากสกิลที่นางเลือกใช้ และประสบการณ์ในการล่าบอสทั้งจากในเกมและการล่าอสูรสี่ตาทำให้การสังหารสัตว์อสูรที่มีเลเวล 90 ต่ำกว่านาง 2 เลเวล จำนวน 10 ตัว ที่นางเข้าไปรับการทดสอบนั้นตกตายอย่างรวดเร็ว สร้างความตื่นตะลึงไปทั้งสถานศึกษาพายัพ

ราชาเสวี่ยหมิงและราชินีเหม่ยเมิ่งที่มาดูการทดสอบนี้ก็พูดไม่ออก คาดไม่ถึงว่าบุตรสาวตัวน้อยที่อายุเพียงหมื่นสี่พันกว่าปีจะร้ายกาจถึงเพียงนี้ และเขาก็ได้เห็นวิธีการใช้คทาห้วงฝันแห่งจิ้งจอกแล้ว ต้องยอมรับว่านี่เป็นอาวุธที่เหมาะกับบุตรสาวของเขาจริงๆ

อาจารย์ในสถานศึกษาที่ได้เห็นคทานี้ของนางได้แต่ประหลาดใจ ล้วนเอ่ยปากชมว่าเป็นอาวุธที่งดงามแปลกตาอย่างยิ่ง และคาดไม่ถึงว่ามันจะวิเศษถึงเพียงนี้

เสวี่ยหลินสอบผ่านวิชาเวทไปด้วยคะแนนเต็มทั้งข้อเขียนและปฏิบัติ เป็นครั้งแรกของสถานศึกษาพายัพที่มีนักเรียนที่สามารถกระทำได้เช่นนี้

ยามนี้เสวี่ยหลินเหลือเพียงวิชาปรุงโอสถ วิชาทำครัว วิชาค้นหาและขุดแร่ วิชาแร่ และการต่อสู้ นางเลือกฝึกฝนวิชาปรุงโอสถและวิชาทำครัวไปพร้อมกัน นั่นเพราะยามนี้นางสามารถปลูกสมุนไพรและผักผลไม้ต่างๆ และเร่งให้มันเติบโตได้ดีเพราะนางมีธาตุที่พวกมันต้องการ

อีกทั้งการปรุงโอสถและการทำครัวยังเป็นสองทักษะดำรงชีวิตที่หากนางไปได้ถึงระดับสูงสุดของระบบ จะทำให้โอสถที่นางปรุงมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิมถึง 3 เท่า และอาหารต่างๆ ที่นางทำและกินมันลงไปจนครบจำนวนที่ระบบกำหนด จะสามารถเพิ่มพูนค่าสถานะให้นางได้อีก 5%

แม้นางจะได้พรจากผู้เฒ่าตว๋อเทียนมาแล้วว่าให้ทักษะการทำครัวของนางอยู่ในระดับสูงสุด แต่ในระบบเกมตอนนี้ มันกลับบอกนางว่านางต้องผ่านการฝึกฝนและทำให้ได้ครบตามระบบกำหนดเสียก่อน ทักษะการทำครัวในระดับสูงสุดที่นางได้มาจึงจะเปิดใช้ได้

เสวี่ยหลินใช้เวลาสองปีในการฝึกปรุงโอสถและทำครัวจนไปถึงระดับสูงสุดที่นางต้องการ แน่นอนว่าเมื่อนางไปสอบ นางจึงได้คะแนนเต็มทั้งข้อเขียนและปฏิบัติ

ยามนี้นางเหลือเพียงสามวิชาคือ วิชาค้นหาและขุดแร่ วิชาแร่ และการต่อสู้ นางเลือกศึกษาแร่ก่อน นางจึงได้พบว่ามีแร่วิเศษและวัตถุดิบวิเศษมากมายที่สามารถใช้ในการสร้างของวิเศษและอุปกรณ์สวมที่มีคุณสมบัติยอดเยี่ยม และเมื่อนางดูในระบบเกมเกี่ยวกับแหล่งที่มาของแร่และวัตถุดิบวิเศษต่างๆ จึงได้พบว่าหลายสิ่งนั้นสามารถหาได้จากการสังหารสัตว์อสูรทั่วไป ชิ้นที่พิเศษย่อมต้องเป็นการล่าบอส ส่วนการขุดแร่นั้น เสวี่ยหลินเห็นแล้วต้องถอนหายใจ เพราะยามที่ยังเป็นฮุ่ยหลัน นางสร้างตัวละครอีกหลายตัวขึ้นมาแล้วใช้ตัวละครเหล่านั้นทำหน้าที่ขุดหาแร่ คอยผลิตของให้ตัวละครหลักของนาง ยามนี้นางสมควรแก้ปัญหาอย่างไรดี

ถ้าจะหาแร่และวัตถุดิบจากการล่าสังหารสัตว์อสูรและบอส เรื่องนี้นางเต็มใจทำ เพราะนางจะได้ของที่ดรอปหลายอย่าง แต่แร่และวัตถุดิบบางอย่างที่ต้องไปขุดหานั้น ต้องใช้เป็นจำนวนมากในการสร้างอุปกรณ์หรือของวิเศษ นางควรทำอย่างไร จะให้นางไปนั่งขุดแร่เอง นี่ไม่ไหวแน่ เสวี่ยหลินคิดไม่ออกจริงๆ

นางศึกษาวิชาแร่จนจบภายในหกเดือนก่อนจะเดินไปสอบข้อเขียนทั้งหมด จะได้ตัดความกังวลที่จะต้องศึกษาวิชานี้ออกไป ซึ่งแน่นอนว่านางได้คะแนนเต็ม ยามนี้ปัญหาจึงอยู่ที่วิชาค้นหาและขุดแร่ เสวี่ยหลินใช้เวลาสามเดือนนั่งศึกษาตำราทั้งหมดของวิชานี้ในหออักษร ยามนี้นางนั่งอ่านรายละเอียดของระบบเกี่ยวกับการค้นหาและขุดแร่ หากก็ไม่พบว่าเมื่อระดับความชำนาญในการขุดแร่ไปถึงระดับสูงสุด นางจะได้อะไรเป็นพิเศษเพิ่มเติมเหมือนวิชาปรุงโอสถและการทำครัว

“ท่านอาจารย์ การสอบวิชาค้นหาและขุดแร่นั้น ท่านจะสอบอย่างไรบ้างเจ้าคะ” เสวี่ยหลินเอ่ยถามอาจารย์ผู้สอนวิชานี้หลังจากนั่งคิดอยู่หลายวันก็ยังแก้ปัญหาไม่ได้

อาจารย์ต้องมองหน้านางอย่างประหลาดใจก่อนจะเอ่ยออกมา “องค์หญิงน้อยถามถึงข้อสอบของวิชานี้รึ”

“เจ้าค่ะ คือข้าหมายถึงว่าข้าต้องขุดแร่ให้ท่านดูหรืออย่างไรเจ้าคะ”

อาจารย์ผู้นั้นยิ้มอย่างขบขันทันที “ข้าเข้าใจแล้วว่าองค์หญิงน้อยสงสัยว่าจะสอบวิชานี้อย่างไร”

“ใช่เจ้าค่ะ”

“ในด้านข้อเขียน ก็ย่อมเหมือนวิชาที่องค์หญิงน้อยสอบผ่านมาแล้ว อย่างเช่น แร่ชนิดนี้ เวลาจะขุดต้องทำอย่างไร ขุดมาแล้วต้องเก็บรักษาอย่างไร อะไรทำนองนี้ องค์หญิงน้อยสมควรจะสอบผ่านได้ไม่ยาก”

“เข้าใจแล้วเจ้าค่ะ แล้วตอนสอบปฏิบัติล่ะเจ้าคะ ข้าต้องไปขุดแร่ให้ท่านดู”

“ไม่ใช่เช่นนั้นดอก ข้าจะกำหนดว่าข้าต้องการแร่อะไรบ้าง จำนวนเท่าใด องค์หญิงน้อยต้องนำมาส่งภายในสามเดือนนับจากวันที่ได้รับคำสั่ง”

“แล้วถ้าจะสอบให้ผ่านทีเดียว ต้องทำอย่างไรเจ้าคะ”

“องค์หญิงน้อยก็ต้องส่งแร่และวัตถุดิบระดับสูง”

“เช่นนั้น ท่านอาจารย์กำหนดมาเลยตอนนี้ได้หรือไม่เจ้าคะ ข้าจะได้ไปขุดหาไว้ก่อน เพราะกว่าจะหาได้ครบคงนานไม่น้อย เพราะเมื่อครู่ท่านอาจารย์บอกว่าข้าต้องนำมาส่งท่านภายในสามเดือน”

“องค์หญิงจะสอบภาคปฏิบัติก่อนสินะ”

“เจ้าค่ะ”

“ได้ เช่นนั้นท่านจงจดไปว่าท่านต้องนำของ 15 อย่างๆ ละ 100 ชิ้น มาส่งให้ข้าภายในหกเดือน ท่านจะส่งของทั้งหมดพร้อมกันเมื่อครบหกเดือนก็ได้ หรือจะทยอยส่งในระหว่างหกเดือนก็ได้เช่นกัน หากของที่ท่านส่งมาอยู่ในสภาพสมบูรณ์พร้อม นั่นจึงจะได้คะแนนเต็มสำหรับของชิ้นนั้น”

แล้วท่านอาจารย์ก็บอกกล่าวถึงแร่และวัตถุดิบระดับสูง 15 ชนิดที่เสวี่ยหลินต้องนำมาส่งภายในหกเดือน

เสวี่ยหลินกลับมาถึงเรือนพักแล้ว ยามนี้นางกำลังนั่งจดออกมาว่าของสิบห้าอย่างนั้น ได้จากที่ไหนบ้าง โชคดีว่าทั้งหมดได้จากบอส ดังนั้น ตัดปัญหาเรื่องการไปขุดแร่ได้ นางนั่งดูต่อว่าของสิบห้าอย่างนี้ใช้สร้างอุปกรณ์อะไรได้บ้าง และมีอุปกรณ์อะไรบ้างที่นางต้องการ

ผ่านไปสองชั่วยามนางจึงคัดเลือกได้ว่าของที่นางควรสร้างขึ้นคือ แหวนจิ้งจอก สร้อยจิ้งจอก ต่างหูจิ้งจอก และปิ่นจิ้งจอก เครื่องประดับแต่ละชิ้นจะให้คุณสมบัติเหมือนกันคือ INT+10%, Skill Effect+5%, CC Effect+5%, CC resistance+5%

เครื่องประดับสี่ชิ้นนี้เป็นชุดเดียวกันและเป็นชุดที่ดีที่สุดในเครื่องประดับทั้งหมด และเมื่อมองเห็นผลดีจากการใส่เครื่องประดับทั้งสี่ชิ้นก็แทบทำให้เสวี่ยหลินกรีดร้องอย่างบ้าคลั่ง นั่นเพราะ

All status+10%, Skill Effect+10%

CC Effect+10%, CC Resistance+10%

Damage Reflection+10%

นี่คือสิ่งที่ระบบแสดงให้นางเห็นถึงผลดีของการใส่เครื่องประดับครบชุด และที่สำคัญคือเครื่องประดับสี่ชิ้นนี้เข้าชุดกับคทาห้วงฝันแห่งจิ้งจอก ซึ่งในระบบยังบอกว่าหากนางได้ใส่เครื่องประดับชุดนี้ควบคู่กับคทาห้วงฝันแห่งจิ้งจอกแล้วล่ะก็

All status+10%

Perfect Hit+10%, Perfect Dodge+10%, ASPD+10%

All Skill Effect+10%

ดีเลิศขนาดนี้ นางไม่สร้างเครื่องประดับสี่ชิ้นนี้มาใส่ก็บ้าแล้ว

วัตถุดิบที่ใช้สร้างเครื่องประดับสี่ชิ้นนี้อยู่ในรายการของที่นางต้องใช้สอบในวิชาค้นหาและขุดแร่อยู่แล้ว เพียงแต่นางต้องเพิ่มจำนวนเข้าไป จากเดิมอย่างละ 100 ชิ้น จะมีของห้าอย่างที่นางต้องเพิ่มขึ้นอย่างละ 100 ชิ้นเพื่อนำมาสร้างเครื่องประดับให้ตนเอง และเมื่อได้วัตถุดิบครบแล้ว เพียงนางใช้บทเวทที่ระบบกำหนดก็สามารถสร้างเครื่องประดับนี้ได้ทันที

เสวี่ยหลิน นั่งจดรายชื่อบอสที่นางต้องไปล่าหาวัตถุดิบและสถานที่ที่พวกมันอยู่ ยามนี้นางเหมือนได้กลับไปเล่นเกมที่นางชอบอีกครั้งไม่มีผิด แถมยังเป็นการล่าบอสที่ไม่มีใครมาแย่งเสียด้วย

เมื่อได้รายชื่อและสถานที่ที่บอสอยู่ครบแล้ว เสวี่ยหลินจึงมาเปิดแผนที่ก่อนจะทำเครื่องหมายกากบาทลงในแผนที่เพื่อวางแผนการเดินทาง และสามารถวนลูปมาตีบอสได้อย่างต่อเนื่อง บอสแต่ละตัวที่นางต้องการล้วนเกิดใหม่ทุกสามชั่วยาม ดังนั้น ในหนึ่งวัน พวกมันจะเกิดวันละสี่ครั้ง ที่สำคัญคือ บอสทั้งหมดที่นางต้องไปล่าอยู่ในแดนพายัพทั้งสิ้น

แต่ปัญหาคือนางจำต้องบอกเรื่องการไปล่าบอสให้บิดามารดาของนางทราบด้วย หากนางไม่บอก พวกท่านต้องโกรธนางมาก ที่สำคัญคือนางสัญญากับพวกท่านไว้แล้วว่านางจะบอก เสวี่ยหลินคิดหนักทันทีว่านางจะบอกอย่างไรไม่ให้พวกท่านทราบว่านางมีระบบเกมจึงทำให้นางสามารถทำบางสิ่งบางอย่างได้มากกว่าผู้อื่น นางเห็นว่าเรื่องนี้ไม่สมควรบอกออกไปเพราะเป็นเรื่องที่อยู่นอกเหนือโลกแห่งเซียน

“เจ้าก็บอกไปสิว่าเจ้าได้รับพรจากข้า” เสียงของผู้เฒ่าตว๋อเทียนดังแทรกขึ้นมาในห้วงจิตของนาง

“คุณตา ! แหม มาตอนหนูกำลังคิดถึงพอดีเลย” เสวี่ยหลินประจบ

“ไม่ต้องทำมาประจบ” ผู้เฒ่าตว๋อเทียนรู้ทัน

“แต่หนูสงสัยคุณตาแล้วสิ”

“สงสัยอะไร” ผู้เฒ่าตว๋อเทียนถามอย่างหวาดระแวง

“ก็เหมือนคุณตาติดตามดูหนูทุกฝีก้าวเลย อย่างกับ Reality Show นี่มาแอบดูหนูตอนอาบน้ำรึเปล่าเนี่ย”

“เฮ้ย ! ข้าจะไปแอบดูเด็กอย่างเจ้าทำไม” ผู้เฒ่าตว๋อเทียนปฏิเสธทันที

“อ้าว พูดแบบนี้ แปลว่าถ้าไม่เด็ก ก็แอบดูใช่มั้ยคะ” เสวี่ยหลินแหย่

“นังหนู เดี๋ยวเถอะ ข้าเป็นพระเจ้าผู้สร้าง ไม่มีทางทำผิดเช่นนั้น” ผู้เฒ่าตว๋อเทียนปฏิเสธเสียงหลง

“ก็แล้วไป ว่าแต่ คุณตามาพบหนูเนี่ย มีอะไรคะ”

“เปล๊า แค่แวะมาดูเจ้าว่าเป็นอย่างไรบ้าง” ผู้เฒ่าตว๋อเทียนตอบเสียงสูง หากคำตอบกลับเป็นแบบขอไปที

“ข้าไปล่ะ คุยกับเจ้านานๆ แล้วปวดหัว”

 

 

วันรุ่งขึ้นเสวี่ยหลินจึงขออนุญาตอาจารย์กลับมาที่วังพายัพ

“เรื่องก็เป็นแบบนี้เพคะ ลูกเลยจะมาขออนุญาตไปล่าสัตว์อสูร”

“เจ้าจะไปคนเดียว?” เหม่ยเมิ่งผู้เป็นมารดาถามด้วยน้ำเสียงเข้มงวด

“ไม่ใช่เพคะ ก็จะมาชวนเสด็จพ่อหรือเสด็จแม่ไปด้วยเพคะ แหะ แหะ” เสวี่ยหลินยิ้มแหย

“แล้วทำไมเจ้าจึงจะไปล่าสัตว์อสูร สัตว์อสูรพวกนี้มีระดับลมปราณสูงกว่าเจ้าถึงหนึ่งช่วงชั้นใหญ่ เจ้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมันแน่นอน”

“ลูกมีวิธีเอาชนะมันได้เพคะ แล้วพอลูกสังหารสัตว์อสูรได้ ลูกก็...เอ่อ...จะได้แร่หรือวัตถุดิบมาสร้างของวิเศษเพคะ”

“พ่อจำได้ว่าสัตว์อสูรพวกนี้ ชิ้นส่วนบางอย่างของมันเอามาปรุงโอสถ เพิ่งได้ยินจากเจ้านี่แหละว่ามันมีแร่หรือวัตถุดิบในการสร้างของวิเศษ” ราชาเสวี่ยหมิงถามขึ้น

“มันจะมีเฉพาะลูกเพคะ ถ้าลูกเป็นผู้สังหารมันเอง”

“เพราะเหตุใดจึงมีเฉพาะเจ้า”

“เพราะท่านตาตว๋อเทียนให้พรลูกมาเพคะ”

คำตอบนี้สร้างความตกตะลึงให้กับเสวี่ยหมิงและเหม่ยเมิ่ง พวกเขาจ้องหน้าบุตรสาวอย่างตกใจจริงๆ

“เจ้าหมายความว่าท่านเทพผู้สร้างมอบพรนี้ให้เจ้า”

“เพคะ ท่านมาพบลูกมาเมื่อไม่นานมานี้และมอบพรนี้ให้ลูกเพคะ” เสวี่ยหลินตัดสินใจบอกความจริงเพียงบางส่วน นางจะบอกได้อย่างไรว่านางได้มาตั้งแต่ก่อนมาเกิดเป็นบุตรสาวของพวกเขา