เขาบอกว่าคนที่ใจดีที่สุดจะเป็นคนที่น่ากลัวที่สุด...ผมไม่เคยเชื่อจนได้มาเจอกับตัว

I Swear You Until Die // GyeongrokMin - Chapter 2 โอกาส โดย laBIz @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-ชาย,ครอบครัว,รัก,fanfic,#BL,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

I Swear You Until Die // GyeongrokMin

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-ชาย,ครอบครัว,รัก

แท็คที่เกี่ยวข้อง

fanfic,#BL

รายละเอียด

เขาบอกว่าคนที่ใจดีที่สุดจะเป็นคนที่น่ากลัวที่สุด...ผมไม่เคยเชื่อจนได้มาเจอกับตัว

ผู้แต่ง

laBIz

เรื่องย่อ

Ma Gyeongrok x RyuMin

Warning : OOC , Toxic Relationship



สวัสดีค่ะ เนื้อหาฟิคนี้น้องมินคนเก่งของเราเป็นลูกของจุงฮยอกกับดกจานะคะ เป็นลูกคนที่2 ของบ้านนี้ เนื้อหานี้เป็นเนื้อหาแยกมาอีกทีเป็นของน้องมินโดยเฉพาะ ความกาวเอยอะไรเอยมีมาแน่นอนแต่ไม่มากนะคะ เพราะน้องมินเขาไม่ชอบเล่าปัญหาให้พ่อแม่ฟังค่ะ


สำหรับใครที่พึ่งมาเห็นหรืออะไร สามารถอ่านแก็กขำๆได้ที่ แก็กขำๆ #จุงดกเถื่อนแหกกฏวิทย์ ได้เลยนะคะหรือถ้าหาไม่เจอก็ไปที่เฟส Bianca และหาชื่อนี้ได้เช่นกันค่ะ เป็นแก็กสั้นๆ ความกาวสมชื่อแหกกฏวิทย์ค่ะ 


PS ลูกคนที่ 8จะคลอดแล้วค่ะ คงไม่ได้ใส่ในฟิคนี้5555 เพราะอันนี้เน้นน้องมินเป็นหลัก

สารบัญ

I Swear You Until Die // GyeongrokMin-Chapter 1 ปฐมบท,I Swear You Until Die // GyeongrokMin-Chapter 2 โอกาส,I Swear You Until Die // GyeongrokMin-Chapter 3 รอถึงเย็น

เนื้อหา

Chapter 2 โอกาส

I swear you until die

Chapter 2


หลังจากเลิกเรียนช่วงเช้าของผมได้จบลง ผมเองก็พยายามเช็คข้อความโทรศัพท์ตลอดตั้งแต่มามหาลัยเขายังไม่ตอบกลับข้อความผม แถมไม่อ่านด้วยซ้ำจนถึงตอนนี้

“คาดหวังอะไรไปนะ”

แต่ผมก็อยากให้มันเกิดขึ้นสักนิดก็ยังดี และเหมือนความคิดผมจะเป็นจริงคือข้อความเข้า


ที่รัก? : สะดวกคุยไหม :⁠-⁠)


ผมที่เห็นถึงกับเก็บความดีใจไว้ไม่อยู่ จนต้องบอกให้ตัวเองใจเย็นก่อนที่จะตอบกลับทันที


มิน : ครับ


เพียงแค่นั้นเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ผมตกใจจนเกือบทำโทรศัพท์ตกจากมือตัวเอง จากนั้นผมรับสายอย่างตื่นเต้น

'ไง คิดถึงฉันรึเปล่า?’

เสียงที่อ่อนโยนและใจดีของเขาทำให้ผมใจเต้นและยิ้มตื่นเต้น แค่ฟังเสียงนี้ผมก็ห้ามความดีใจไม่อยู่ เพราะว่าเราไม่ได้คุยกันมาจะ4 เดือนแล้วหลังจากที่เขาบอกว่ามีงานที่ทำเยอะมาก

“คิดถึงสิครับ คุณกยองรก”

'เราสองคนไม่ได้คุยแบบนี้นานเลยนะ แชทก็ไม่ได้ส่งไปเท่าไหร่เลย รู้สึกแย่จัง’

“ไม่เลยครับ คุณติดงานนี่นา..แค่ว่างคุยกับผม ผมก็ดีใจแล้วครับ”

'มาหาฉันที่บริษัทไหม?’

“บริษัทเหรอครับ?”

ผมถามอย่างแปลกใจตั้งแต่ผมรู้จักกับเขามา ผมไม่เคยได้ไปเที่ยวกับเขาเลย มีแต่เจอกันที่มหาลัยหรือไม่ก็คาเฟ่ใกล้ๆบ้านผม นี่เป็นครั้งแรกที่จะได้ไปที่ของเขา ผมอดตื่นเต้นไม่ได้

‘ใช่ สะดวกมารึเปล่า?’

“ครับ แต่ที่ไหนเหรอครับ”

'ฉันจะส่งโลเคชั่นไปนะ มาถูกไหม?’

“ไม่แน่ใจเลยครับ ผมไม่เคยได้ออกไปไหนน่ะครับ”

‘เหรอ งั้นฉันส่งคนไปรับที่มหาลัยนะ’

“เออ ….”

'มีอะไรเหรอ?’

ผมอยากให้เขามารับผมเองมากกว่า แต่น่าแปลกที่ไม่กล้าพูดออกไปเลย

“เปล่าครับ คือผมตื่นเต้นเฉยๆ”

'ฮ่าๆ ไม่ต้องเกร็งนะ รออยู่ตรงนั้นนะมิน’

เสียงของเขาเวลาเรียกชื่อผม จะเป็นน้ำเสียงที่อ่อนโยนและใจดี ผมชอบเวลาเขาเรียกชื่อผมมากๆ


วันนี้เป็นวันที่ดีกว่าที่คิด


ผมคิดแบบนั้นจนกระทั่งได้มาถึงบริษัทเขา ก็พบว่าเขาติดประชุมด่วนพอดีทำให้ผมรอในห้องรับรองชั้น30 ที่เป็นชั้นที่สูงที่สุดที่นี่ ภายในห้องที่ตกแต่งแบบที่เขาชอบสีทองขาวไปดำ เป็นสีที่ร้อนแรงและเหมาะกับเขาเหลือเกิน

“กี่โมงแล้วนะ”

ผมมองนาฬิกามือถือ ซึ่งเวลาคือ 2PM 

“แม่จาไม่ให้กลับบ้านดึกเกิน 6โมงเย็น”

ที่แม่จาเข้มงวดเรื่องเวลากลับบ้านเพราะความเป็นห่วงล้วนๆเกี่ยวกับตัวผม ทุกคนในบ้านชอบทำตัวให้ผมเหมือนคนไม่โตเลย เพราะแบบนี้ถ้าเกิดคุณกยองรกเสร็จประชุมเย็น

ผมกับเขาก็คุยได้แค่แปปเดียว…

ความรู้สึกผมมันโลภมากเสียเหลือเกิน สถานะเขากับผมไม่มีอะไรชัดเจนเลยสักนิด เราเป็นคนรู้จักที่สนิทกันเฉยๆ มีแต่ผมคาดหวังที่อยากให้เป็นมากกว่านั้น

ไม่แน่ผมอาจจะใช้โอกาสนี่พัฒนาความสัมพันธ์ที่คลุมเครือนี้ดี?

พอคิดได้ผมก็เข้าไปที่แชทครอบครัว ที่อิลเลียนอวดสติ๊กเกอร์ล้นแชทที่แม่จาซื้อให้จนข้อความขึ้น 999+


มิน: ทุกคน ผมถูกเพื่อนลากไปช่วยงานชมรม กลับดึกหน่อยนะ พ่อจุงไม่ต้องทำอาหารเผื่อผมนะครับ

วอน: ชมรมอะไรเหรอครับพี่มิน


คำถามที่คิดไว้แล้วต้องถามมา ซึ่งผมเองกำลังคิดอยู่ว่าจะตอบแบบไหนให้น่าเชื่อถือดี โดยเฉพาะแม่จากับพ่อจุงนี่แหล่ะ


มิน: ชมรมบรรณารักษ์น่ะ พี่โดนลากไปช่วยจัดหมวดหมู่หนังสือ

อิลเลียน: ทำไมต้องเป็นพี่มิน ทำไม่ใช่พี่ฮาจิน (⁠。⁠•́⁠︿⁠•̀⁠。⁠)

ฮาจิน: นั่นสิ ทำไมไม่ใช่อิลเลียน ทำได้ทั้งวันแท้ๆ

อิลเลียน: แงงง หนูโดนแกล้งอีกแล้ว แม่จาคะช่วยหนูด้วย (⁠ᗒ⁠ᗩ⁠ᗕ⁠)

แม่จา: ครับมิน ให้แม่ไปรับไหม?

มิน: ผมกลับเองได้ครับ โตแล้ว

แม่จา: ครับ กลับบ้านแล้วบอกแม่ด้วยนะ

มิน: ได้ครับ


ผมออกจากแชทครอบครัวที่ไม่สนว่าต่อจากนี้เป็นไงต่อ เพราะต่อจากนี้คงวุ่นวายตามประสาบ้านคนมีลูกเยอะ

“หาว ง่วงจัง”

เมื่อคืนผมดีใจที่คุณกยองรกส่งข้อความมาจนนอนไม่หลับ ทำให้นอนดึกจนได้

“นอนไปแค่4 ชั่วโมงเอง”

ผมมองไปยังรอบๆโดยที่มั่นใจว่าไม่มีแล้ว ก่อนที่ถอนหายใจว่าจะมีใครเห็นตอนที่เขาหาวไหม

“งีบสักหน่อยแล้วกัน คุณกยองรกน่าจะประชุมอยู่อีกนาน”



มากยองรก ที่ประชุมเสร็จเขาก็กล่าวขอบคุณผู้ถือหุ้นทั้งหลายที่มาลงทุนกับเขาและกยองรกก็จะไปหาอะไรทานด้วย

“นายท่านครับ ตอนนี้คุณมินมาแล้วนะครับ”

อันซังซอล มือขวาคนสนิทได้พูดขึ้นมา

“มาแล้วเหรอ เร็วจัง”

“ไม่หรอกครับ มันก็ไม่ได้ไกลเท่าไหร่ถ้ามา”

“ให้เขารอไปก่อน ตอนนี้ฉันยังไม่มีอารมณ์เจอเขาน่ะ”

“อย่างนั้นเหรอครับ ให้ผมไปบอกเขาก่อนไหมครับว่าท่านประธานน่าจะยุ่ง—”

“ไม่ต้องพูดอะไร ให้เด็กน้อยคนนั้นรอจนกว่าฉันอยากจะเจอเอง”

“ได้ครับ”

อังซังซอลรับคำแล้วในหัวเขานึกสงสารเด็กคนนั้นที่ถูกเรียกมาเสียเหลือเกิน เพราะท่านประธานเขาเป็นคนที่นิสัยเอาแน่เอานอนไม่ได้ในเรื่องพวกนี้ และการเรียกให้มาเองแล้วไม่คิดจะไปหาหรือต้อนรับอะไรนั้น

เพราะเขาไม่ได้คิดอะไรกับมินแต่อย่างใด

เป็นแค่คนหน้าตาสวยถูกใจและเก็บไว้โดยที่ไม่ทำอะไรให้ชัดเจน พูดให้ถูกคือเด็กคนนั้นเป็นของเล่นคลายเบื่อให้ตัวเองตามที่เขาสามารถเรียกให้มาหรืออยู่ตรงไหนก็ได้

'สงสัยเด็กคนนั้นคงรอถึงเย็นแน่ๆ’


To be continued