เขาบอกว่าคนที่ใจดีที่สุดจะเป็นคนที่น่ากลัวที่สุด...ผมไม่เคยเชื่อจนได้มาเจอกับตัว
ชาย-ชาย,ครอบครัว,รัก,fanfic,#BL,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
I Swear You Until Die // GyeongrokMinเขาบอกว่าคนที่ใจดีที่สุดจะเป็นคนที่น่ากลัวที่สุด...ผมไม่เคยเชื่อจนได้มาเจอกับตัว
Warning : OOC , Toxic Relationship
สวัสดีค่ะ เนื้อหาฟิคนี้น้องมินคนเก่งของเราเป็นลูกของจุงฮยอกกับดกจานะคะ เป็นลูกคนที่2 ของบ้านนี้ เนื้อหานี้เป็นเนื้อหาแยกมาอีกทีเป็นของน้องมินโดยเฉพาะ ความกาวเอยอะไรเอยมีมาแน่นอนแต่ไม่มากนะคะ เพราะน้องมินเขาไม่ชอบเล่าปัญหาให้พ่อแม่ฟังค่ะ
สำหรับใครที่พึ่งมาเห็นหรืออะไร สามารถอ่านแก็กขำๆได้ที่ แก็กขำๆ #จุงดกเถื่อนแหกกฏวิทย์ ได้เลยนะคะหรือถ้าหาไม่เจอก็ไปที่เฟส Bianca และหาชื่อนี้ได้เช่นกันค่ะ เป็นแก็กสั้นๆ ความกาวสมชื่อแหกกฏวิทย์ค่ะ
PS ลูกคนที่ 8จะคลอดแล้วค่ะ คงไม่ได้ใส่ในฟิคนี้5555 เพราะอันนี้เน้นน้องมินเป็นหลัก
ในรถยนต์ที่ขับมาได้สักพัก และวันนี้เป็นวันที่ฝนตกหนักมากทำให้การจราจรติดขัด ผมได้ตื่นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองอยู่ที่รถยนต์ก็พอรู้ว่าตัวเองไม่ได้อยู่ที่บริษัทคุณกยองรกแล้ว
'สุดท้าย..เขาก็ติดงานจนไม่ได้คุย’
ผมถอนหายใจแล้วบิดร่างกายนิดหน่อยก่อนที่จะทำตัวตามสบาย แล้วยกโทรศัพท์ขึ้นมาก็เจอข้อความจากน้องๆรอผมกลับบ้านเยอะมาก ผมยิ้มเอ็นดูในความทวงตามของพวกเขา
“ยิ้มคนเดียวแบบนี้ มีเรื่องอะไรเหรอ?”
“อ๋อ..น้องๆผมตามผมกลับ—”
ผมหยุดชะงักและมองไปตามเสียงที่มาจากด้านข้าง ก็พบคุณกยองรกที่เขาเอาหน้ามาใกล้ผม จนผมถอยตกใจนิดหน่อยใส่เขา
“ฮ่ะๆ ตกใจแบบนี้เห็นผมเป็นผีเหรอครับ?”
ดูคุณกยองรกถามผมแบบนี้ทำเอาผมแทบอยากจะบ้าเลย ทำไมต้องทำให้เขารู้สึกไม่ดีด้วยนะ
“ม..ไม่ครับ ผมนึกว่าผมกลับบ้านคนเดียวซะอีกน่ะครับ”
“ฉันอุ้มนายมาส่งที่รถเลยนะมิน”
“อ..อุ้มผมลงมาเหรอ?!”
ผมตกใจที่ได้ยินแบบนั้น ไม่น่าเชื่อว่าตัวผมจะพลาดช่วงเวลาที่ดีที่สุดไปซะได้
“แต่ดันโดนคนตัวเล็กตกใจเหมือนเห็นผีเลย”
“ผมไม่ได้ตั้งใจครับ ขอโทษจริงๆครับคุณกยองรก”
ผมรีบขอโทษเขา ไม่รู้เขาจะรับไหมแต่รู้สึกผิดเหลือเกินที่ดันทำตัวตกใจเหมือนที่เขาว่า คุณกยองรกคงเสียความรู้สึกมากๆ
“ไม่ต้องขอโทษขนาดนั้นก็ได้ ผมแค่หยอกเล่นเองครับ”
“จริงเหรอครับ?”
“จริงครับตัวเล็ก”
คุณกยองรกขยับตัวเข้ามาใกล้ผม หัวใจของผมเต้นแรงมาก บรรยากาศในรถมันเงียบถึงขนาดได้ยินเสียงแต่หัวใจของผมที่ดังอย่างเดียวเลย และผมก้มหน้าเขินหลบตาเขาที่จ้องมา
“ฮ่ะๆ น่ารักจัง”
“ข..ขอบคุณครับ”
ผมรับคำชมจากเขา แล้วเขาก็หอมหน้าผากหนึ่งครั้งให้ หน้าผมแดงมากจนเหมือนมะเขือเทศแล้วตอนนี้ แต่ก็ดีใจมากๆที่เขาจุ๊บหน้าผากผม
“จะถึงบ้านแล้วนะ เสียดายจังที่เราน่าจะได้คุยเยอะกว่านี้”
“ผม…ขอโทษครับที่หลับไปก่อน”
“เรียนหนักมากเลยสินะช่วงนี้”
“ไม่หรอกครับ ผมแค่..อา..ครับ”
ไม่รู้ทำไมผมไม่กล้าพูดว่าผมดีใจที่เขาติดต่อมาจนนอนไม่หลับกันนะ แต่ช่างมันเถอะเพราะตอนนี้ผมกับคุณกยองรกได้กลับบ้านด้วยกัน อย่างน้อยก็ได้ใช้เวลาด้วยกัน ซึ่งผมเองก็ไม่แน่ใจว่า
แบบนี้คือแฟนรึยัง
เพราะตั้งแต่รู้จักกันมา ผมไม่ได้รับคำขอให้เป็นแฟนจากเขา คิดว่าคุณกยองรกน่าจะเป็นแสดงออกการกระทำมากกว่าคำพูดแน่ๆ ซึ่งมันดีกว่าลมปากที่พูดไปเรื่อยสำหรับผม
ไม่รู้ว่าผมคิดแบบนี้ถูกไหม…สำหรับคุณกยองรกในตอนนี้
“มินครับ”
“ครับ”
“มินคิดถึงผมรึเปล่าครับ”
“คิดถึงมากๆครับ”
“แล้ว..รักผมด้วยใช่ไหมครับ?”
“ครับ ผมรักคุณกยองรกมากๆ”
ผมตอบทันทีโดยไม่ต้องคิดเลย เพราะว่าผมรักเขามากๆ แสดงว่าผมกับเขาความสัมพันธ์ในตอนนี้ชัดเจนแล้วใช่ไหม และพอเขาได้ยินคำตอบจากผม คุณกยองรกยิ้มชอบใจทันที
“น่ารักจังเลย ทำยังไงกับเด็กดีแบบมินดีนะ”
คุณกยองรกทำท่าครุ่นคิด ซึ่งตอนที่ทำแบบนี้ทีไร เขาเท่ห์ทุกทีเลยเป็นอย่างหนึ่งที่ผมชอบมากๆเช่นกัน
“งั้น…”
เขามองด้วยด้วยสายตาเหมือนคาดหวังอะไรบ้างอย่าง ก่อนที่จะเอาแขนมาคว้าเอวผมให้ไปนั่งตักเขา ผมตกใจจนทำตัวไม่ถูกไม่คิดว่าคุณกยองรกจะแรงเยอะถึงขั้นยกผมให้นั่งแบบนี้ได้
“ตกใจเลยเหรอครับมิน”
“ครับ..คุณกยองรกแรงเยอะมาก”
“ไม่หรอก เพราะมินตัวเบาต่างหาก”
“งั้นเหรอครับ ดีจัง…ปกติมีแต่คนบอกว่าผมตัวหนัก”
พอได้ยินคำชมแบบนี้แล้ว ทำให้ผมลืมคำแหย่เล่นของฮาจินไปเลย ที่เขาชอบแซวผมซึ่งเอาจริงเป็นตอนที่เขาแพ้ผมเท่านั้นแหล่ะที่ชอบพูดว่า เพราะตัวหนักไงเลยงัดข้อชนะ ทั้งทีผมแค่เล่นทั่วไปแท้ๆ
“ไม่หรอกเบาจะตาย แล้วก็ผมขออะไรได้ไหมมิน?”
“อ..อะไรเหรอครับ?”
“ถ้าผมขอจูบคุณ คุณอนุญาตรึเปล่า?”
“จ..จูบผมเหรอครับ!?”
ไม่น่าเชื่อว่าผมจะได้ยินอะไรแบบนี้จากปากของคุณกยองรก นี่เราสองคนเป็นแฟนกันแล้วสินะ ผมดีใจจนแทบอดยิ้มเขินไม่ได้
“ได้รึเปล่า ตัวเล็ก?”
มือหนาของคุณกยองรกไล่ระดับจากเอวมากลางหลังผมซึ่งมือเขาไปอยู่ใต้เสื้อผมแล้ว เขาทำอย่างเบามือแต่ผมหัวใจมันเต้นรัวกว่าเดิม จนผมหลับตาแน่นเก็บเสียงตัวเองไว้ไม่ให้ร้องอะไรแปลกๆออกมา
“คือว่า..”
ไม่ใช่อะไรหรอก เรื่องจูบผมโดนพ่อจุงสอนมาตลอดว่าต้องให้คนที่แต่งงานเท่านั้น
“ไม่ได้เหรอ มินไม่รักผมเหรอครับ?”
น้ำเสียงเขาตอนพูดออกมา คุณกยองรกดูไม่พอใจเป็นอย่างมาก ไม่เอาไม่อยากให้เขาโกรธเลย อุตส่าห์ได้ทำเหมือนแฟนสักที
“ม…ไม่ใช่นะครับ!”
“ถ้างั้น จูบหน่อยได้ไหม?”
“ครับ..ได้ครับ”
พอผมตอบรับไปคุณกยองรกยิ้มแล้วเขาก็เข้ามาจูบปากผม ผมยอมรับตรงๆว่าไม่เคยโดนจูบมาก่อน ไม่รู้ว่าต้องทำยังไงกับการทำแบบนี้ เพราะผมรู้สึกหายใจออกเลยพอโดนคุณกยองรกจูบ
ผมเลยอ้าปากตัวเองเรียกลมหายใจแต่เขาเอาลิ้นเข้ามาในปากผมและสัมผัสข้างในปากผมโดยที่ผมนั้นก็ยอมให้เขาทำทุกอย่างเลย
จูบมันเป็นแบบนี้เองเหรอ…
ผมพอเข้าใจแล้วว่าทำไมแม่จาถึงชอบที่พ่อจุงจูบมากๆ เพราะแบบนี้เองสินะ มันทั้งรู้สึกดีและท้องน้อยผมเหมือนได้มีผีเสื้อบินรอบท้องไปด้วย
จนผมได้ยินเสียงโทรศัพท์ดัง ซึ่งนั่นมันเป็นของผมเองและชื่อที่แสดงขึ้นมาไม่ใช่ใครแต่เป็น พ่อจุงเอง
“อื้อ..อ้ะ!”
ผมพยายามพูดแต่ก็โดนคุณกยองรกประกบปากโดยไม่ให้ผมพูดเลย แถมแขนเขายังกอดเอวผมไม่ปล่อยด้วย
“คุณ…อื้อ”
พ่อผมโทรมา…ซึ่งผมพูดออกมาไม่หมดเพราะปากผมโดนคุณกยองรกจูบจนออกเสียงเป็นอย่างอื่นไม่ได้ ที่สำคัญคือถ้าผมไม่รับสายจะเป็นอีกสายหนึ่งโทรมาแทนนั่นคือ แม่ขา
สายพ่อจุงโดนตัดไปและสายต่อไปคือแม่จา
แย่แล้ว! ผมต้องรับสายนี้ให้ได้ทำให้ผมรีบสลัดจูบของคุณกยองรกออก และเรียกลมหายใจทันทีหลังจากที่โดนจูบเหมือนไม่อยากให้ผมหายใจ มือของผมก็คว้าโทรศัพท์รับสายแม่
“ฮ..ฮัลโหลครับ”
(มิน เป็นอะไรรึเปล่าลูก)
“แม่..”
(ช่วยงานชมรมดึกไปไหมครับ ตอนนี้จะ2ทุ่มแล้วนะ)
“ข..ขอโทษครับแม่จา ผมออกจากมหาลัยนานแล้วแต่รถติดครับ”
(ลูกอยู่ไหน ลงจากรถมันมาเลย พ่อไปรับเอง)
เสียงพ่อแทรกขึ้นมา รู้เลยว่าพ่อจุงแย่งสายจากมือแม่ ผมมองคุณกยองรกที่เขายังกอดผมไม่ปล่อยก็ส่งสายตาให้เขาเป็นคำตอบให้ เพราะคิดว่าเขาน่าจะได้ยินสายของพ่อ
แต่…มือเขามาลูบต้นขาผมจนผมตกใจ นี่มันแกล้งกันชัดๆ
(มิน ได้ยินพ่อไหม)
“ค..ครับพ่อ ได้ยินครับ”
(ตอนนี้ลูกอยู่ไหน พ่อไปรับเอง)
“คือ..แปปนะครับ”
ผมปิดเสียงในโทรศัพท์และมองไปยังรอบๆเท่าที่จะจำได้ แต่โดนคุณกยองรกกดร่างผมนอนที่นั่ง
“ค..คุณกยองรก!”
“ไม่อยากอยู่กับผมแล้วเหรอ?”
“คือว่าผมต้องกลับบ้านน่ะครับ”
พอผมตอบแบบนี้ไปสักพักเหมือนเขาจะนิ่งไปหน่อยแต่ก็ยิ้มให้เหมือนทุกที และคุณกยองรกเขาก็มาหอมแก้มผม
“ตอนนี้ใกล้ถึงบ้านนายแล้ว อีก500เมตรเองมั้ง ไม่อยากให้ไปส่งหน้าบ้านเหรอ?”
“เออ..ก็”
ใจจริงอยากให้ทำอยู่แต่ว่าผมไม่เคยบอกพ่อจุงกับแม่จาเรื่องเขาเลย ถ้าเกิดมาเห็นเขามาส่งผมแบบนี้ คนที่ตั้งคำถามหนักๆจะเป็นแม่แทนซึ่งผมก็ไม่อยากตอบคำถามที่กดดันบางอันของแม่
แต่เหมือนคุณกยองรกหลุดขำออกมาหลังจากที่เห็นผมนิ่งไปเมื่อครู่
“หยอกเล่นน่า~ เดี๋ยวจอดลงข้างทางแล้วรอในนี้ให้พ่อมารับนะ ข้างนอกฝนตกอยู่”
“ครับ ขอบคุณนะครับ”
ผมยิ้มให้เขาและเปิดเสียงโทรศัพท์ โดยที่คุณกยองรกลุกขึ้นให้ผมดูรอบนอกหน้าต่าง ซึ่งผมขอให้รถยนต์จอดตรงหน้าบ้านคุณป้าซูยอนพอดี ซึ่งผมเองก็ไม่อยากรบกวนอยู่ในรถคุณกยองรกนานด้วย
“พ่อครับ..ผมอยู่ที่หน้าบ้านคุณป้าซูยอนครับ”
(งั้นเหรอ รออยู่ตรงนั้นนะมิน พ่อจะไปรับ)
พอพูดเสร็จก็ปิดสายเลย ผมก็หันไปมองคุณกยองรกและเรื่องต่างๆเมื่อกี้ทำเอาผมใจเต้นไม่หยุดเลย พึ่งรู้ว่าการเป็นแฟนมันเป็นแบบนี้นี่เอง
“คือผมไปก่อนนะครับคุณกยองรก”
“เสียดายจัง ไม่รอในรถเหรอ?”
“ไม่เป็นไรครับ ผมเกรงใจน่ะแค่คุณกยองรกมาส่งผม ผมก็ดีใจแล้วครับ”
“งั้นเเหรอ ขอจูบลาอีกรอบได้ไหมครับมิน?”
“จูบลาเหรอครับ เดี๋ยวพ่อผมก็–อุ๊บ!”
ผมโดนอีกฝ่ายคว้าเอวผมมากอดและจูบโดยที่ผมไม่ทันตั้งตัว ปากของผมโดนอีกฝ่ายบดจูบจนมีเสียงครางผมเล็ดออกมา แต่มันก็หายไปเมื่อคุณกยองรกเอาลิ้นเข้ามาในปากผมรวมไปถึงบดจูบอีกรอบ ก่อนที่จะปล่อยช่วงเวลานี้พร้อมกับรอยยิ้มทั้งหน้าให้ผม ซึ่งผมกำลังหายใจหอบใหญ่ให้ตัวเอง
แน่นอนว่าคุณกยองรกก็ยกตัวผมให้มานั่งตักตัวเองโดยที่หันหน้าให้กันและกัน
“ทุกครั้งที่เราสองคนเจอกัน ต้องมีจูบทักทายกับจูบลานะครับมิน”
เขามือนิ้วมือมาบี้ริมฝีปากผม และหัวใจผมมันก็เต้นรัวเหมือนโดนตีกลองไม่หยุดเลย เริ่มเข้าใจแล้วว่าทำไมแม่จาถึงชอบขนาดนั้นเวลาพ่อจูบตัวเอง
“ครับ คุณกยองรก”
ผมตอบรับคำไป แล้วเขาก็ปล่อยผมให้ลงจากรถยนต์ จากนั้นคุณกยองรกโบกมือลาให้และรถยนต์ก็จากลาไป ไม่รู้คิดถูกไหมที่ให้รอตรงหน้าบ้านป้าซูยอน โดยที่ฝนตกชุกแบบนี้
“ลืมขอร่มเขาเลยแหะ..”
“มิน”
เสียงที่ผมรู้จักดีดังขึ้น นั่นคือพ่อจุงที่เดินมาพร้อมกับร่มอีกคันที่เป็นตัวโปรดของผม ผมยิ้มดีใจที่พ่อมาได้จังหวะพอดี
“พ่อครับ พ่อมาถึงพอดีเลย”
ผมวิ่งไปและรับร่มจากพ่อด้วยรอยยิ้มก่อนกางมันออกมา ซึ่งพ่อก้มตัวมองหน้าผมและขมวดคิ้วให้เหมือนทุกที
“ปากลูกไปโดนอะไรมา?”
“ปากผมเหรอครับ?”
“ใช่ เหมือนโดนจูบเลยนะ ใครจูบลูกเหรอ”
“ไม่มีของแบบนั้นหรอครับพ่อจุง กลับบ้านกันเถอะ”
ผมรีบเปลี่ยนเรื่องทันทีแล้วเดินนำพ่อไป ซึ่งไม่รู้ว่าทำไมแทนที่ผมจะพูดไปว่าเป็นจูบของแฟนหนุ่มอย่างคุณกยองรกแท้ๆ แต่เหมือนกับว่าไม่ควรพูดออกไปเลย ไม่เข้าใจตัวเองจริงๆ
ส่วนพ่อจุงก็ไม่พูดอะไรและเดินมาประกบผมจนถึงบ้าน
มากยองรก ที่ตอนนี้เขาอยู่ในรถก็รู้สึกหัวเสียหน่อยๆเพราะเขาไม่ได้ทำอะไรแบบที่หวังมากกว่านั้น เพราะเด็กน้อยที่ชื่อมินเป็นคนที่สวยและน่ารัก จัดอยู่ในเกณฑ์หนัาตาดีเลยก็ว่าได้ ทีแรกจะทำมากกว่าจูบปากคือพรมจูบที่คอให้เป็นรอยแดง แต่เหมือนจะมีพ่อแม่ตามสอดส่องทุกเวลาทำให้เขาพลาดโอกาสนี้ไป
“หัวหน้าฝ่ายอันครับ”
เขาเรียกอันซองซอชายหนุ่มที่กำลังขับรถอยู่ เขาเป็นลูกน้องที่ดีมากคนหนึ่ง ซึ่งเวลาที่เขาใช้กับมิน อันซองซอมักจะทำตัวเป็นกลีบเมฆไม่รับรู้อะไร
“ครับท่านประธาน”
“ไปหาคนที่ว่างและมาทำหน้าที่ให้ผมที่ห้องด่วนเลยนะครับ พอดีอารมณ์ค้างน่ะ”
“ได้ครับ”
“ขอบคุณนะครับหัวหน้าฝ่ายอัน”
“ท่านประธานครับ ผมอยากถามอะไรหน่อยครับ”
“เชิญเลยครับ”
“ท่านประธานจะเอายังไงกับเด็กคนนั้นต่อเหรอครับ”
“อืม…ไม่รู้สิ”
กยองรกเอนหลังพิงเบาะรถและยิ้มอย่างเหนื่อยใจ
“รู้สึกไม่สนุกเลย ดูก่อนว่าบนเตียงเขาทำได้ดีแค่ไหน ถ้าถูกใจอาจจะนานหน่อย”
“เข้าใจแล้วครับ ให้ผมไปส่งที่บ้านเลยนะครับ”
“ครับ รบกวนด้วยนะครับ”
อันซองซอรู้จักท่านประธานมากยองรกมานาน เขาเป็นคนชายหนุ่มที่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานและตำแหน่งของธุรกิจ แม้เขาจะเป็นคนที่คบผู้คนมากหน้าหลายตาเพราะตัวเขาเป็นคนขี้เบื่อและอยากหาอะไรสนุกๆมาทำให้ชีวิตมีสีสัน มีไม่น้อยที่เจอแบบนี้และจบด้วยไม่ดีเท่าไหร่ ซึ่งเป็นความตั้งใจของท่านประธานทั้งสิ้น
ด้วยเหตุผลคือ เขาเบื่อ
และเด็กที่หน้าตาสวยถูกใจอย่างมิน ก็คงไม่พ้นเรื่องแบบนี้อีกเช่นกัน และยังเป็นเด็กที่อยู่ในโอวาทผู้ปกครอง เรียกได้ว่าเป็นของแปลกสำหรับมากยองรก
อันซองซอรู้สึกได้ถึงในอนาคตที่เด็กหน้าสวยและใสซื่อคนนั้นต้องมีหลั่งน้ำตาลแน่นอนเหมือนกับคนอื่นๆ
ย้ากกก เบื่อเร็วไปไหมมกยองรก!