เธอมักเปล่งประกายเมื่ออยู่ต่อหน้าผู้คน...แต่เวลาใดที่ต้องอยู่ตัวคนเดียว ก็กลับทำให้เปลี่ยนเป็นคนละคน
หญิง-หญิง,ตลก,รัก,ดราม่า,ไทย,ไทย,หญิง-หญิง,ดราม่า,ตลก,รัก,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
เธอคนนั้น คือ ตัวฉันในอดีตเธอมักเปล่งประกายเมื่ออยู่ต่อหน้าผู้คน...แต่เวลาใดที่ต้องอยู่ตัวคนเดียว ก็กลับทำให้เปลี่ยนเป็นคนละคน
"ญาริน" ดาราดังที่เป็นแนวหน้าของวงการบันเทิง ในวันหนึ่งเธอได้พบกับเพื่อนในคำสัญญาอย่าง "สมายด์" สาวตัวเล็กขี้แยเอาแต่ใจ ที่เธอต้องพลัดพรากจากกันมาสิบห้าปี
แต่แล้วโชคชะตาก็ทำให้ทั้งสองคนได้กลับมาพบกันอีกครั้ง แม้ว่าพวกเธอจะจำกันได้ แต่ความสัมพันธ์ที่ห่างกันมาสิบห้าปี สำหรับ "สมายด์" แล้วเธอมองว่า "ญาริน" นั้นไม่เหมือนคนเดิมที่เธอรู้จัก...
"แปดโมงหรอ เอาเถอะ ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องรีบแล้วนี่นา..เรื่องเมื่อวานเราคงไม่ได้ฝันหรอกนะที่ได้มาเจอริน" คนตัวเล็กตื่นขึ้นแล้วนึกย้อนไปถึงเรื่องเมื่อวานที่เธอต้องประสบพบเจอมาที่ราวกับเป็นฝันร้ายและฝันดีของเธอ
แต่แล้วก็ถูกเสียงเคาะประตูขัดจังหวะ เธอได้แต่นึกว่าใครมาหาเธอในตอนเช้าแบบนี้ สมายด์รีบวิ่งไปเปิดประตูด้วยความเร่งรีบ แต่เธอก็สะดุดเข้ากับของที่เธอกองเอาไว้หน้าห้องจึงทำให้ไปชนกับคนที่ยืนหลังประตู
"เป็นอะไรหรือเปล่า ?" น้ำเสียงใส ๆ ที่คุ้นเคยดังขึ้นข้างหน้าสมายด์ คนตัวเล็กรีบมองคนที่อยู่หลังประตูเมื่อครู่ ก็ทำให้เธอตกใจว่าอีกฝ่ายมาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร
"ญาริน...มาได้ไง" สมายด์เอ่ย
"รู้จักการสะกดรอยตามหรือเปล่า ?"
"เป็นสตอล์คเกอร์หรือยังไง แล้วลืมหรือเปล่าว่าตัวเองเป็นดารานะมาอยู่ที่นี่เดี๋ยวก็มีคนเห็นเข้าหรอก"
"เห็นไปสิ เพราะยังไงก็ไม่มีใครจำเราได้นอกจากมายด์อยู่แล้ว"
"พูดอะไรของเธอจะเป็นไปได้ยังไง..หรือว่าเพราะทรงผมกับการแต่งตัวที่ดูเหมือนผู้ชายในตอนนี้น่ะหรอ"
"ถูกต้อง...ขอเราเข้าไปหน่อยได้หรือเปล่า อยู่ทรงผมแบบนี้มาตั้งแต่เช้าแล้วเราร้อนอ่ะ" คนตัวเล็กพยักหน้ารับคำให้เพื่อนเก่าสุดเท่ได้เข้ามาข้างในห้องของเธอ
ญารินเปลี่ยนทรงผมให้กลับมาอยู่ในทรงปกติ และปลดกระดุมเสื้อออกหนึ่งเม็กเพื่อคลายความร้อนออกจากร่างกาย...เธอหันไปมองคนตัวเล็กที่กำลังรีบร้อนเก็บที่นอนที่รกอยู่อย่างเร่งรีบ จึงได้เอ่ยพูดขึ้น
"นี่ ทำไมรินต้องเอาแต่หลบหน้าเราด้วยล่ะ"
"ไม่ได้หลบสักหน่อย"
"หลบอยู่เห็น ๆ ยังจะปากแข็งอยู่อีก"
"แล้วเพราะใครที่หาแต่เช้าแบบนี้กันล่ะ" คนร่างสูงนั่งเงียบไปชั่วขณะ ก่อนจะลุกขึ้นแล้วรีบเดินปรี่ไปกอดคนตัวเล็กที่กำลังทำความสะอาดเตียงอยู่โดยไม่ทันตั้งตัว
"ว้าย !...ทำอะไรอีกเนี่ย !?" น้ำเสียงที่ดุราวกับลูกแมวที่ไม่ยอมให้จับตัวได้เปล่งออกมา
"มายด์ลืมไปแล้วหรอ ว่าสมัยเรียนพวกเรา..กอดกันแบบนี้ออกจะบ่อยนะ"
"แล้วมันทำไม...รู้สึกผิดที่ตัวเองหายไปแล้ว จู่ ๆ ก็กลับมาทำแบบนี้หรือยังไง"
"ใช่ แต่ไม่ใช่ทั้งหมด"
"งั้นก็ปล่อยสิ ! เราบอกรินแล้วไงว่าเราไม่มีทางยกโทษให้แน่นอน เพราะความสัมพันธ์แบบนั้นเทียบกับตอนนี้ไม่ได้หรอกนะ" สมายด์สลัดจากคนร่างสูงออกมาได้ และรีบเดินถอยห่างออกทันที แต่ทว่า...
มือเรียวบางคู่หนึ่งได้มาจับมือของคนตัวเล็กเอาไว้ด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยมที่จะบอกเรื่องบางอย่าง
"ริน เราบอกให้ปล่อยไง..."
"ฟังเราก่อน ถ้าความสัมพันธ์ที่มายด์พูดกับเราเมื่อกี้ ว่ามันเทียบกันไม่ได้ ทำไมเราไม่ลองมาเริ่มใหม่ด้วยกันล่ะ"
"...รินพูดอะไรน่ะ ลืมฐานะตัวเองในตอนนี้ไปแล้วหรอ"
"ฐานะอะไรนั่นมันไม่สำคัญ อีกอย่างที่เรามาเป็นอย่างทุกวันนี้ ไม่ใช่เพราะว่าเราอยากจะมาเป็นด้วยซ้ำ....แล้วถ้ามายด์ตกลง เราจะทำให้มันชัดเจนยิ่งกว่าครั้งก่อน ว่าเราชอบมายด์มากแค่ไหน...."
สิ้นเสียงคำพูดของญารินที่มีสีหน้าและท่าทางที่จริงจัง สมายด์ที่อยากจะอยู่กับอีกคนอยู่กับเธอตลอดเวลาอยู่แล้วจึงไม่คิดที่จะปฏิเสธ แต่จะช่วยให้เธอหลุดพ้นออกจากในสิ่งที่ตัวเองไม่ชอบแม้จะไม่รู้เหตุผลก็ตาม
"ถ้ารินคิดว่าตัวเองทำได้...เราก็จะไม่ปฏิเสธ แต่ที่ว่าชอบเนี่ยตั้งแต่ตอนไหนหรอ"
"ตั้งแต่เจอกันครั้งแรกเลยน่ะ..."
"ยี่สิบกว่าปีเลยนะ !? ทำไมเราถึงได้ไม่รู้สึกตัวเลยล่ะ"
"ก็สมัยก่อนมายด์เป็นเด็กขี้แยนี่นา เหมือนกับตอนนี้ แต่ที่ต่างกันออกไปคือ ออกแนวซึน ๆ นะเนี่ย" คนร่างสูงโน้มตัวลงเอาหน้าไปใกล้กับอีกฝ่ายที่เริ่มยอมให้กับเธอ
"มากไปนะ ถึงเราบอกว่าจะไม่ปฏิเสธ แต่ไม่ได้จะให้ทำมากขนาดนี้ซะหน่อย อีกอย่างถ้าไม่มีธุระ ก็ไปทำงานซะไป"
"เสียใจด้วยนะ ถ้าไล่ยังไงก็ไม่ไปหรอกเพราะวันนี้คือวันหยุด"
"งานในวงการมีวันหยุดด้วยหรอ"
"ถ้าไม่มีคนทำจะเหลือแต่ร่างที่ลอยได้น่ะสิ ! แต่ก็นะ เป็นเหตุผลที่มาหาด้วยนั่นล่ะ" คนตัวเล็กเบิกตากว้างก่อนจะพยักหน้าเข้าใจอีกครั้ง
ญารินที่รู้อยู่แล้วว่าเพื่อนสาวของเธอกำลังว่างงานอยู่จึงได้ถามเรื่องของหลังจากนี้
"มายด์ ขอถามอะไรหน่อย"
"ว่า ?"
"หลังจากนี้จะเอายังไงต่อล่ะ ว่างงานอยู่ไม่ใช่หรอ"
"กะว่าจะเปิดร้านขนมที่ชั้นหนึ่งน่ะ รินน่าจะรู้นะว่าเราอยากมีร้านขนมเป็นของตัวเองมากขนาดไหน"
"รู้สิ มายด์พูดกรอกหูเราตลอด แต่ทำคนเดียวจะไหวหรอ ไหนจะเรื่องงบในการทำการซื้ออุปกรณ์อีก"
"เห็นงี้ตังค์เก็บก็มีเหลือเฟือนะ...ไหน ๆ ก็ว่างแล้ว มาช่วยงานกันหน่อยได้หรือเปล่าล่ะ"
"ก็ได้อยู่หรอก จะให้ทำอะไรล่ะ..." คนตัวเล็กได้เรียกให้ญารินไปช่วยเธอเคลียชั้นหนึ่งซึ่งเป็นพื้นที่สำหรับที่จะตั้งร้านขายขนม และไม่ลืมที่จะทำให้ทรงผมของญารินเป็นเหมือนตอนที่ครั้งแรกเพื่อปิดบังไม่ให้คนอื่นเห็นว่าเธอคือใคร
"เห้อ ~ กว่าจะเสร็จขอนั่งพักแปปนึงนะ"
"ขอบใจที่ช่วยนะริน"
"ไม่ต้องเกรงใจหรอกน่า ถ้าจะให้ช่วยอะไรก็เรียกอีกแล้วกัน"
"ไม่ต้องหรอกน่า...ตายแล้ว ! เสียเวลามากขนาดนี้เลยหรอเนี่ย"
"มีอะไร"
"พี่หมิวฝากให้ไปรับลูกที่รร.เขาเพราะงานที่ร้านวันนี้ยุ่งน่ะสิ งั้นขอเราเตรียมไปรับก่อนนะ รินจะกลับไปก่อนก็ได้เหมือนกันนะ" คนตัวเล็กรีบเปลี่ยนเสื้อผ้าที่เลอะฝุ่นออกแล้วรีบแต่งตัวชุดใหม่เพื่อที่จะเตรียมไปรับลูกของหมิวที่รร. แต่เมื่อออกมาเธอกลับเห็นรถสปอร์ตสีดำเทาจอดอยู่ใกล้ตัวบ้านเธอ ซึ่งนั่นก็คือรถของญารินที่ขับมาหาเธอในวันนี้
"ขึ้นมาสิ"
"จะให้เราไปไหน ?"
"เมื่อกี้มายด์บอกเองไม่ใช่หรอว่าต้องรีบไปลูกของคนที่ชื่อหมิวน่ะ รีบขึ้นมาสิเราจะพาไป" ในชั่วโมงเร่งด่วนแบบนี้สิ่งสำคัญที่เธอต้องทำคือไปรับลูกของหมิวให้ตรงเวลา เธอจึงไม่มีทางเลือกอื่นที่จะต้องตามไปอย่างโดยดี
สี่ล้อเคลื่อนที่ไปถึงโรงเรียนมัธยมปลายแห่งหนึ่ง สมายด์ยังคงตามหาตัวลูกสาวของหมิว เมื่อเธอพบก็สั่งให้ญารินจอดรถแล้วนั่งรอเธออยู่บนรถจนกว่าเธอและลูกสาวของหมิวจะมา
คนตัวเล็กเปิดประตูรถ แล้ววิ่งลงไปหาเด็กสาวที่กำลังรอคอยให้เธอไปรับอยู่ที่หน้าประตูรั้วของโรงเรียน
"มีน ! พี่มารับแทนแม่ของมีนแล้วนะ"
"พี่มายด์...แล้วคุณแม่ไปไหนหรอคะ ?"
"เห็นเขาว่างานที่ร้านยุ่งอยู่น่ะ เลยให้พี่มารับแทน ไปเถอะ กลับบ้านกันนะ"
"อือ"