ถ้าเขาได้ตัดสินใจไปแล้วว่าเธอคือคนนั้น...ตราบใดที่เขายังหายใจใครก็ห้ามแตะเธอ

เกียร์รักมาเฟียร้าย - 2 เงา โดย สีชาเย็น @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

วัยว้าวุ่น,รัก,ชาย-หญิง,ไทย,รักวัยรุ่น,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

เกียร์รักมาเฟียร้าย

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

วัยว้าวุ่น,รัก,ชาย-หญิง,ไทย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

รักวัยรุ่น

รายละเอียด

ถ้าเขาได้ตัดสินใจไปแล้วว่าเธอคือคนนั้น...ตราบใดที่เขายังหายใจใครก็ห้ามแตะเธอ

ผู้แต่ง

สีชาเย็น

เรื่องย่อ

นิลนนท์ ราฟ หรือ คุณคีย์

ปี 3 วิศวะไฟฟ้า ทายาทของบริษัทผลิตสายเคเบิลรายใหญ่ที่สุดในเอเซีย

และผู้สืบทอดความมืดดำของโลกอีกใบที่น้อยคนนักจะรู้จัก

.

.

.

อาญาเรศ ธิติพันธ์ หรือ ออญ่า

ปี 2 สื่อสาร ทายาทคนเดียวของนักธุรกิจสิ่งพิมพ์ผู้ล่วงลับ

แม้เธอจะมีทุกอย่างแต่ชีวิตที่เหลือตัวคนเดียวมันไม่ง่ายเอาเสียเลย

สารบัญ

เกียร์รักมาเฟียร้าย-1 กระจกเงา,เกียร์รักมาเฟียร้าย-2 เงา,เกียร์รักมาเฟียร้าย-3 ซ่อน,เกียร์รักมาเฟียร้าย-4 ซ่อนกลิ่น,เกียร์รักมาเฟียร้าย-5 พิน็อกคิโอ,เกียร์รักมาเฟียร้าย-6 ล่อหลอก,เกียร์รักมาเฟียร้าย-7. แมวหนี,เกียร์รักมาเฟียร้าย-8 ทาสแมว,เกียร์รักมาเฟียร้าย-9 เลือนราง,เกียร์รักมาเฟียร้าย-10 ภาพจำ,เกียร์รักมาเฟียร้าย-11 หลอน,เกียร์รักมาเฟียร้าย-12 ขาด,เกียร์รักมาเฟียร้าย-13 ที่ว่าง,เกียร์รักมาเฟียร้าย-14 ของหวาน,เกียร์รักมาเฟียร้าย-15 ของว่าง

เนื้อหา

2 เงา

Ep 2 เงา

 

      เมื่อเธอกำลังเงยหน้าคุยกับชายหนุ่มด้วยรอยยิ้มแบบคนทั่วไปจะพึ่งมี แต่สำหรับคนที่นั่งมองเขากลับรู้สึกว่ามันเกินงาม รอยยิ้มของเธอที่เขาไม่รู้สึกเกินงามคงมีแค่เพื่อนผู้ชายอีกสองคนเท่านั้น เหตุเพราะคนทั้งคู่เป็นคนรักกันเรื่องรอบตัวยัยขี้เซาของเขามีรึเขาจะไม่รู้ คำว่า "ของเขา" แม้แต่ตัวเขาเองยังรู้สึกกระดากปากถ้าจะพูดออกมาให้ใครได้ยิน แล้วถ้าเจ้าตัวรู้ว่ากลายเป็นคนมีเจ้าของตั้งแต่ยังไม่เคยพบหน้าละจะเป็นยังไง

"คุณคีย์" ชื่อเล่นที่ถูกเติมคำนำหน้าเข้าไปตั้งแต่จำความได้แม้แต่ไคล่ายังเรียกเขาว่าพี่คุณคีย์ เขาไม่เคยสงสัยเรื่องไม่เป็นเรื่องแบบนี้พ่อกับแม่อยากเรียกเขาแบบไหนก็ตามที่ต้องการ ยังดีที่เพื่อนสนิทอีกสองคนไม่บ้า ๆ บอ ๆ เรียกเขาว่าคุณคีย์ตามด้วย 

"มึงจะไปไหนแต่หัววันครับเพื่อน"

     อิล เพื่อนสนิททักถามเมื่อเห็นว่าเขาเดินออกมาจากห้องทำงาน ส่วนอีกคนชื่อ เผ่า ก็มองหน้าเขาจะเอาคำตอบ ทั้งสามคนคบกันมาตั้งแต่อนุบาลด้วยนิสัยใจคอที่คล้ายกัน และแม่ของทั้งสามคนก็เป็นเพื่อนกันมานาน ทำให้ไม่มีช่องว่างสำหรับบุคคลอื่นที่จะแทรกเข้ามารวมอยู่กับพวกเขา ทั้งสามเหมือนเทพล่องหนมีตัวตนเฉพาะในคาบเรียน ทั้งสามไม่เคยเหยียบเข้าไปกินข้าวที่โรงอาหาร KMTT อาจจะมีคำถามมากมายจากคนหลายคน แต่คำตอบก็ถูกพูดกันขึ้นมาเองทั้งนั้น เหตุผลง่าย ๆ คือขี้เกียจและรำคาญ ในเมื่อเพื่อนเป็นเจ้าของ KMTT อภิสิทธิ์เรื่องห้องส่วนตัวก็ไม่ได้เป็นปัญหาใหญ่ ห้องพิเศษที่ถูกป้ายติดไว้ว่า "ห้องปฏิบัติการเฉพาะทาง" ประตูเข้าออกด้านนอกแสนจะธรรมดา ที่ปิดซ่อนประตูอีกชั้นไว้หลังตู้เก็บเอกสารเก่า รวมถึงดลกับเต้ที่ใส่ชุดนักศึกษาเสมอเมื่อต้องตามผู้เป็นนายเข้ามาที่นี่

"มีธุระ...คืนนี้ไปเจอกันที่คลับ"

"เออ/ได้"

      ช่วงขาที่ยาวก้าวเพียงไม่กี่ก้าวก็ออกพ้นตัวตึก เขาเดินตรงไปที่ห้องสมุดเพื่อบางอย่าง หน้ากากสีดำที่เขาใช้เป็นข้ออ้างในการปิดบังใบหน้าด้วยเหตุผลคือกันโรคภูมิแพ้กำเริบ บวกกับผิวขาวซีดคล้ายคนไม่เคยออกปะทะแดดประเทศไทย ทำให้ทุกคนที่พบเห็นเชื่อว่าเขาเป็นแบบนั้นจริง ๆ รุ่นพี่นิลนนท์ที่ไม่ค่อยเดินไปไหนในมหาลัยเพราะเขาเป็นหนุ่มหล่อแสนบอบบาง ผู้หญิงที่แอบชื่นชอบเขามีไม่น้อยแต่ไม่เคยมีใครที่เขาหยุดมองหรือเสวนาด้วยสักคำ การปรากฏตัวที่ห้องสมุดเป็นเรื่องแปลกประหลาดสำหรับคนที่พบเห็นร่างสูงวันนี้ 

      อาจารย์แก้วพยักหน้ารับไหว้จากนักศึกษาหนุ่มเพื่อไม่ให้ใครรู้เรื่องระหว่างเธอกับเขา เขายังคงทำตัวเป็นเด็กที่รู้จักสัมมาคารวะเสมอซึ่งเป็นสิ่งที่ได้รับการสอนสั่งอบรมมาอย่างดีจากผู้เป็นแม่ นิ้วเรียวเลือกที่จะสะกิดหนังสือหนึ่งเล่มออกมาจากชั้นวางอย่างไม่ใส่ใจว่ามันคือหนังสืออะไร หนังสือน้อยเล่มนั้นถูกจับตีกับช่วงขาของเขาระหว่างที่เดินตรงไปยังเก้าอี้นั่งที่ว่างอยู่ เขานั่งลงวางหนังสือปกแข็งเล็กไว้ตรงหน้าโดยไม่ได้เปิดมัน สายตาคู่สวยเกินผู้หญิงบางคนจะมีได้จ้องไปที่โต๊ะหลังห้องสมุด ใช่...เขาต้องการมองจนกว่าใครบางคนจะรู้สึกตัวถึงการมาของเขา 

      และมันก็ได้ผลเธอรู้สึกตัวไวกว่าที่เขาคิดไว้เยอะ ชายหนุ่มผู้ผ่านทางมาเหมือนจะได้ในสิ่งที่ตัวเองต้องการแล้วเลยยกมือลาก่อนจะจากไปด้วยยิ้มอย่างผู้มีชัย แต่ชายหนุ่มไม่รู้เลยว่านั่นอาจจะเป็นยิ้มสุดท้ายที่สามารถส่งมาถึงผู้หญิงตรงหน้า ชายหนุ่มผิดอะไรเล่าในเมื่อเขาไม่เคยเห็นว่าสาวสวยออญ่ามีเจ้าของรวมทั้งตัวเธอเองด้วย

      สายตาของเธอหันมาสบตากับเขาอย่างไม่ตั้งใจ แต่นั่นเพราะเธอรู้สึกเหมือนมีคนมองมาที่เธอสักพักใหญ่ เธอไม่รู้ว่าเขาเป็นใครรู้เพียงว่าเป็นเด็กวิศวะเนื่องจากเขาสวมช็อป เธอใช้เวลาเพียงนิดสำรวจได้ว่าเขาไม่เปิดหนังสือและไม่มีอุปกรณ์การเรียนแม้แต่ชิ้นเดียว แถมเก้าอี้ว่างตั้งมากมายแต่เขากลับมานั่งตัวที่ตรงกับเธอถึงจะห่างกับถึงสามช่วงโต๊ะยาวก็เถอะ

"จ้องทำไม?"

       ปากเล็ก ๆ บ่นมุบมิบหลังจากเมินหน้าหลบสายตาของคนที่นั่งตรงข้าม ภายใต้หน้ากากมีรอยยิ้มยกขึ้นอย่างยินดีเขาเก่งนักเรื่องอ่านปากคน โดยเฉพาะเรื่องของเธอที่เขานั่งอ่านมาเกือบทั้งปี ช่วงปิดเทอมที่เธอชอบไปทำกิจกรรมกับเพื่อน ๆ ก็ไม่เว้น ถ้าว่างเขาจะคอยไปตามดูด้วยตัวเอง แล้วถ้าไม่ว่างเขาจะสั่งให้คนไปตามดูแลเธอห่าง ๆ ถ้าเธอแค่สะดุดล้มก็อย่าเพิ่งเข้าไปช่วย เขาอยากมองดูเธอใช้ชีวิตแบบที่เคยเป็นมาเท่านั้น ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่ใช้ชีวิตเพียงลำพังมีเป็นพันเป็นหมื่นคนแต่มีแค่เธอที่เขาสนใจและใส่ใจโดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่ามันกลายเป็น "หวง" ไปตั้งแต่เมื่อไหร่