อีกหนึ่งผลงาน นิยายแอบรัก ที่รักเขา แต่ เขาไม่ได้รักเรา เมื่อคนเรามีความรัก คนเรามักจะยอมทำได้ทุกอย่าง และ ไม่ว่าสิ่งนั้นจะคืออะไรก็ตาม เรียกได้ว่าเหมือนการจมปลัก ที่ยากเกินจะหลุดพ้นออกมาได้...

จมปลัก ห้วงฤทัย - ตอนที่1 : จุดเปลี่ยนของหัวใจ โดย ทอภู @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ดราม่า,รัก,ชาย-หญิง,ไทย,ผู้ใหญ่,,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

จมปลัก ห้วงฤทัย

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ดราม่า,รัก,ชาย-หญิง,ไทย,ผู้ใหญ่

แท็คที่เกี่ยวข้อง

รายละเอียด

จมปลัก ห้วงฤทัย โดย ทอภู @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

อีกหนึ่งผลงาน นิยายแอบรัก ที่รักเขา แต่ เขาไม่ได้รักเรา เมื่อคนเรามีความรัก คนเรามักจะยอมทำได้ทุกอย่าง และ ไม่ว่าสิ่งนั้นจะคืออะไรก็ตาม เรียกได้ว่าเหมือนการจมปลัก ที่ยากเกินจะหลุดพ้นออกมาได้...

ผู้แต่ง

ทอภู

เรื่องย่อ

เรื่องราวของ ภู เตชินทร์  ที่แอบชอบเพื่อนในสมัยเด็ก อย่าง มิริน พรรณสินี ยิ่งทั้งคู่มีโอกาสได้ทำงานร่วมกัน ในร้านกาแฟแห่งหนึ่งใน จังหวัด อุดรธานี 

ภู พยายาม จีบ มิริน อยู่หลายครั้ง แต่เหมือนว่า มิริน จะมองภู เป็นแค่เพื่อนคนนึงเท่านั้น…

วันหนึ่ง ที่ร้านกาแฟ มิริน ได้บังเอิญพบกับ ต้น เอกสิทธิ์  นักแสดงหนุ่มมากหน้าใหม่ ไฟแรง ที่ได้บังเอิญผ่านมาละแวกนี้ มิริน เป็นแฟนคลับของ ต้น อยู่แล้ว เมื่อเจอตัวเป็นๆ จึงดีใจเป็นพิเศษ

ความสัมพันธ์ของ มิริน และ ต้น ก่อเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วมากอย่างรวดเร็วมาก ทั้งคู่เริ่มคบกันแบบลับๆ จนวันหนึ่ง ต้น เสนอไอเดียที่จะทำให้พวกเขาทั้งคู่ได้อยู่ด้วยกัน โดยให้ มิริน ลาออกจากร้านกาแฟที่ทำร่วมกันกับ ภู แล้วไปทำงานร่วมกับเขาแทนในฐานะผู้จัดการส่วนตัวคนใหม่

 

เมื่อ ภู รู้เรื่องดังกล่าว เขาก็ไม่พอใจมาก แต่ ถึงเขาจะไม่พอใจก็ไม่อาจทำอะไรได้ เนื่องจากเป็นการตัดสินใจของตัว มิริน เอง

ถึงจะยังไม่ได้เป็นอะไรกัน แต่ถ้าฐานะคนแอบชอบการที่ได้เป็นคนที่ตัวเองชอบ ไปคบกับคนอื่น ก็เป็นอะไรที่ปวดใจไม่ใช่น้อย ยิ่งเป็นคนที่รักเดียวใจเดียวอย่าง ภู ด้วยแล้ว ความเศร้าโศกเสียใจยิ่งเพิ่มเป็นทวีคูณ

 

     เมื่อเวลาผ่านไป… ภู ได้เจอกับผู้หญิงอีกคนหนึ่งซึ่ง เธอได้เข้ามาเป็นพนักงานใหม่แทน มิริน ที่ลาออกไปก่อนหน้านี้ เธอชื่อ จินนี่ ศิริอนงค์ เธอเป็นหญิงสาว ที่รูปร่างและหน้าตา จัดได้ว่าสวยคนนึง เมื่อได้มีโอกาสได้ร่วมงานด้วยกัน เหมือนว่า จินนี่ จะเป็นฝ่ายเริ่มชอบ ภู ก่อน  

แต่ว่าเธอเองก็ไม่เคยมีแฟนมาก่อน และ การที่ผู้หญิงจะมาบอกชอบผู้ชายก่อนนั้น มันจะดูเป็นสิ่งที่ไม่ค่อยเหมาะสมสักเท่าไหร่

เมื่อตัวภู ก็เอาแต่เฉยชาไม่สนสิ่งใด  ส่วนจินนี่ชอบภูแต่ไม่กล้าบอก จนเรื่องนี้ต้องถึงมือของ ผิง จิรัตน์ เจ้าของร้านกาแฟ ต้องทำหน้าที่เสริมเป็นกามเทพ คอยช่วยเหลือจินนี่ในเรื่องความรักของเธอ ให้ได้ลงเอยกับภู โดยเร็ววัน…

ใจของภู ที่จมปลักรักแต่ มิริน  จะเปิดใจ ให้กับความรักครั้งใหม่ของจินนี่ ได้หรือไม่โปรดติดตาม…

สารบัญ

จมปลัก ห้วงฤทัย-ตอนที่1 : จุดเปลี่ยนของหัวใจ,จมปลัก ห้วงฤทัย-ตอนที่2 : งาน กับ ความรัก,จมปลัก ห้วงฤทัย-ตอนที่3 : หากต้องเลือก (NC+),จมปลัก ห้วงฤทัย-ตอนที่4: แตกหักความสัมพันธ์,จมปลัก ห้วงฤทัย-ตอนที่5 : การพบเจอ (NC+)

เนื้อหา

ตอนที่1 : จุดเปลี่ยนของหัวใจ


      ณ ร้านกาแฟ จิรัตน์ คอฟฟี่ ร้านกาแฟขนาดเล็ก ในตัวเมืองจังหวัดหนึ่ง ทางภาคอีสาน ร้านนี้มีพนักงานทั้งหมด 3 คน ได้แก่ ผิง หญิงวัย28ปี ลักษณะผมสั้นและหยักเล็กน้อย เป็นเจ้าของร้านกาแฟ และ มีพนักงานทั่วไปอีก 2 คนได้แก่ ภู ชายหนุ่มผิวขาว สูง180เซนติเมตร ผมสีน้ำตาลเข้ม จุดเด่นคือชอบไว้ผมด้านหน้ายาว และทำเป็นปอยลงมายาวถึงบริเวณ ริมฝีปาก  และอีกคนคือ มิริน หญิงสาววัยเดียวกับภู อายุ26ปี ส่วนสูง168เซนติเมตร ผิวพรรณขาวผ่อง ร่างกายบอบบาง ค่อนข้างผอมเส้นผมน้ำตาลประกายทอง 

 

ทั้งภู และ มิริน เรียกได้ว่า เป็นจุดเด่นของร้านกาแฟ จิรัตน์ คอฟฟี่ พอสมควร เพราะหน้าตาของทั้งคู่ หล่อสวย และ ดูดีกันมาก เรียกได้ว่าเหมือนเจ้าของร้านกาแฟอย่าง ผิง จะคัดหน้าตาพนักงานของร้านมาดีพอสมควร  แต่ความจริงแล้วทั้ง 3 รู้จักกันตั้งแต่สมัยเรียนอยู่ที่วิทยาลัย โดยที่เป็นรุ่นพี่และรุ่นน้องกัน  ซึ่งก็ชวนมาทำงานที่ร้านเพราะสนิทกัน ส่วนเรื่องหน้าตาก็ถือเป็นกำไรเสริมของร้าน

 

เนื่องจากตัวผิง เป็นคนเก่งมีความสามารถ รู้จักผู้คนอย่างกว้างขวาง แถมอัธยาศัยดี เธอไปได้ไกลกว่าจะเป็นแค่เจ้าของร้านกาแฟเล็กๆ แต่ด้วยความชอบ เธอจึงเลือกที่จะทำร้านกาแฟ กับเหล่ารุ่นน้องคนสนิททั้งสองคน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเธอไม่ได้มีรายได้แค่ร้านกาแฟทางเดียว เธอยังมีธุรกิจอีกหลายอย่างที่สร้างกำไรอย่างยั่งยืนให้กับเธอ อาทิเช่น อสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น

 

     ทั้งสามกำลังทำงานตามหน้าที่ของตนเองอย่างสุดความสามารถ โดยแต่ละวันจะสลับหน้าที่ในการดูแลร้านกัน 

 

ซึ่งวันนี้ตัวของผิงทำหน้าที่อยู่หน้าแคชเชียร์เพื่อรับออเดอร์จากลูกค้า ภูทำหน้าที่ชงกาแฟ  มิรินทำหน้าที่จัดการเรื่องขนมและของหวานต่างๆภายในร้าน ลักษณะงานไม่ได้มีอะไรที่ตายตัว ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ และความสะดวกของแต่ละบุคคล

 

ที่ร้าน จิรัตน์ คอฟฟี่ มีลูกค้าเฉลี่ยต่อวัน วันละประมาณ 30 คน หยุดทุกวันอาทิตย์ รายได้ต่อเดือนของร้าน หักค่าต้นทุนแล้วเหลือกำไรอยู่ที่ 40,000 กว่าบาท เรียกได้ว่าทุกคนก็มีส่วนช่วยเหลือ ให้ร้านมีกำไร

 

นั่นเป็นการใช้ชีวิตตามปกติทุกวันของ 3คนนี้ ซึ่งมันเป็นความสุขเล็กๆ ภายในสถานที่ทำงานร่วม การมีเพื่อนร่วมงาน หัวหน้างาน หรือ ลูกน้อง ที่ดี ถือว่าเป็นเรื่องที่โชคดีเป็นอย่างมาก…

 

 

เวลา 20:00 น. ร้านปิด

 

 

ไฟที่ร้านแต่ละดวงค่อยๆถูกปิด ทีละดวง ทีละดวง เหลือไว้เพียงบางจุดที่พวกเขาทำกำทำงาน มิริน กับ ภู ช่วยกันเก็บข้าวของและทำความสะอาดที่ร้าน โดยที่ผิง กำลังสรุปยอดขาย

 

    " พี่…ผมจะปิดไฟ ปิดร้านแล้วนะ เคลียร์บัญชีเสร็จหรือยัง? " 

 

ภู ส่งเสียงเรียก ผิง ที่เป็นเจ้าของร้าน ที่ตอนนี้กำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะ และสายตากำลังจ้องตรวจเช็คบัญชี รายรับ รายจ่าย ของร้านอยู่

 

    " เออ…จะเสร็จแล้ว รอก่อน "

 

ผิง ยังคงก้มหน้าคำนวณบัญชี พร้อมนับเงินไปพลางๆ ภู วางไม้กวาดในมือไว้ข้างๆเสา ก่อนจะเดินเข้าไปใกล้ๆผิง พร้อมโน้มตัวลงมือสองข้างเท้าคางตัวเอง แล้วมองผิง ด้วยสายตาแบบเหนื่อยหน่าย ก่อนที่ภูจะพูดขึ้นว่า...

 

    " ทั้งวันขายได้กี่แก้วอ่ะวันนี้? "

 

    " ขายได้ 32แก้ว บราวนี่ อีก 40 ก้อน "

ผิง ตอบกลับโดยที่ไม่ได้เงยหน้ามอง

    " รวมเป็นยอดเงินเท่าไหร่? "

 

    " 3,520 บาท "

 

    " ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะ "

ภู ยิ้มแบบพอใจ ก่อนจะเดินจากไป.. 

 

ซึ่งสาเหตุที่ภูทำแบบนี้ มันไม่มีอะไรเลย นอกจากคำว่า จงใจกลั่นแกล้ง และ หยอกล้อ ตามประสารุ่นพี่ รุ่นน้อง 

 

    "เดี๋ยวนะ!! ไอ้ภู ตกลงฉันหรือแกเป็นเจ้านายกันแน่? "

 

ภูหัวเราะ ที่ได้แกล้งผิง ที่เป็นทั้งเจ้าของร้านและรุ่นพี่ ได้สำเร็จ...

  

  " เร็วพี่!! อยากกลับบ้านแล้ว " 

ภู ยังคงไม่หยุดต่อล้อต่อเถียงกับผิง จนผิงเริ่มรู้สึกเบื่อหน่ายชนิดที่ว่าแสดงออกทางสีหน้าอย่างชัดเจนว่าจะหยุดได้เมื่อไหร่

 

   "เออ… รู้แล้ว รอก่อน!!"

 

ภูเดินกลับไปหยิบไม้กวาดแล้วกวาดพื้นต่อ แต่ปากยังคงพูดไม่หยุด

 

    " พี่รู้อะไรไหม? ให้ลูกน้องเลิกงานดึกๆ เนี่ย มันอันตรายนะ มิริน เป็นผู้หญิงด้วย กลับบ้านดึกๆ ดื่นๆ รู้ไหมอันตรายแค่ไหน? "

 

" มิรินไม่เป็นอะไรหรอก เพราะมีแก ตามรับ ตามส่งอยู่นี่ไง ถ้าน้องจะมีอันตราย จริงๆ ก็มีเพราะไปกับแกนั้นแหละ แกมันอันตรายกว่าโจรอีก "

 

ผิงและภู พูดจากระแนะกระแหนตอบโต้กันไปมา มีเพียงมิรินที่ไม่ได้ร่วมวงสนทนาด้วย เธอเพียงทำหน้าที่ในการเก็บกวาดร้านของเธอไป แต่ เธอก็มีรอยยิ้มให้กับประโยคการคุยของภูและผิง เพราะเธอรู้สึกว่าภูและผิง ต่างมีนิสัยคล้ายๆกัน เวลาคุยพวกเขาก็เหมือนจ้องจะเอาชนะกันไปข้าง ซึ่งส่วนตัวเธอมองว่า ตลกดี 

 

" ที่ว่าผมอันตรายกว่าโจรนี่คือยังไง? "

 

" แกมันพวกแสร้งทำดีหวังผล มารับ มาส่ง มิริน ทุกวัน ฉันรู้นะแกคิดอะไร "

 

" เป็นคนอัธยาศัยดี ต่อเพือนร่วมงาน แปลกตรงไหน? "

 

" เหรอ? แต่ฉัน ไม่เห็นแกจะอัธยาศัยดี กับฉันเลยนะ "

 

" ออ… พอดีเป็นคนเลือกคบคนไง? "

 

ผิงได้ยินก็แสยะยิ้มเล็กน้อย เพราะคำที่ ภู พูดว่า เลือกคบคน ทำให้ผิงนึกถึงตั้งแต่สมัยเรียน เพราะ ภูไม่เขาหาใครเลย นั้นเลยทำให้เขาแทบจะไม่มีเพือน คนที่เป็นเพือนเขาได้คือคนที่เป็นฝ่ายเข้าหาเขาก่อน แต่ก็ถือว่าเขาเป็นคนจิตใจดีคนหนึ่ง 

 

เมื่อผิงเคลียบัญชีร้านเรียบร้อย พวกเขาก็เก็บสัมภาระของตัวเอง ปิดประตูร้าน ล็อกกุญแจ แล้วแยกย้ายกลับบ้าน 

 

ผิงกลับบ้านด้วยรถยนต์ส่วนตัวคันสีขาว 

ส่วนภู และมิริน กลับบ้านพร้อมกัน ด้วยรถมอเตอร์ไซค์ของภู

 

ขับรถออกมาไม่นานก็มาถึงหน้าบ้านของ มิริน…

 

 " ขอบใจนะ ภู ที่มาส่ง " 

มิรินพูด ในขณะที่ค่อยๆก้าวเท้าลงจากรถ

   

 " ไม่เป็นไร ภูเต็มใจ "

ทันใดนั้นก็มีคนเปิดประตูออกจากในบ้าน เป็นผู้หญิงอายุราวๆ 42-46 ปี คนคนนั้นคือแม่ของมิริน นั้นเอง!!

  

" อ้าว.. กลับมากันแล้วหรอ? มิริน เลิกงานซะดึกเลยนะ " 

แม่ของมิรินกล่าว เมื่อเห็นลูกสาวคนเดียว พึงกับถึงบ้าน

 

" สวัสดีครับแม่ " 

ภู ทักทายแม่ของมิริน พร้อมยกมือไหว้ อย่างนอบน้อม 

 

" สวัสดีจ้ะภู เลิกงานดึกกันหรอวันนี้? "

 

" ครับ วันนี้ที่ร้านค่อนข้างยุ่งนะครับ งั้นผมขอตัวกลับเลยนะครับ สวัสดีครับแม่ เจอกันพรุ่งนี้นะมิริน "

ภู บอกลา มิริน และแม่ของเธอ ก่อนจะขึ้นรถมอเตอร์ไซค์ของตัวเองแล้วขับออกไป…

 

     เมื่อภูขับรถออกไปแล้ว 2แม่ลูกก็เดินกลับเข้าไปในบ้าน ระหว่างทางก็เดินจับมือคุยกันไปด้วย…

 

" ลูก กับ ภู ถึงขั้นไหนกันแล้ว "

 

" ขั้นไหน อะไรกันค่ะ หนูกับภูเป็นแค่เพือนกันค่ะ "

 

" ภู ก็เป็นเด็กดีนะ หน้าตาก็หล่อ หนูไม่ชอบจริงๆเหรอ? "

 

"หนูคิดกับ ภู แค่เพือนจริงๆค่ะ"

มิรินกอดแม่ และ ทั้งคู่เดินเข้าบ้านด้วยกัน…

 

 

**วันถัดมา ณ ร้านกาแฟจิรัตน์คอฟฟี่**

 

" ทำไมวันนี้ลูกค้ามันน้อยจังว่ะ "

ผิงยืนกอดอกพูดพรึมพรำ พร้อมย่ำเท้าซ้ายอย่างร้อนรน เพราะหากลูกค้าเข้าร้านน้อย การที่วันนี้จะทำกำไรคงเป็นเรื่องยาก 

    

 " สงสัยลูกค้าเขาเบื่อขี้หน้าเจ้าของร้านมั้ง?"

ภูที่กำลังชงกาแฟอยู่ด้านข้าง ยังไม่วายหันมาตอบแบบกวนๆ

     

" ไอ้ภู ถ้าแกไม่โดนฉันด่าสักวันแกจะตายหรือไง? "

เธอด่าภูกลับ แต่ภูก็ไม่ได้สลดแม้แต่น้อย กับรู้สึกภูมิใจที่ได้แกล้งซะมากกว่า

 

     ในขณะที่ ภู และ ผิง ยังคงพูดเล่น แกล้ง และหยอกล้อกัน เหมือนมิรินจะรู้สึกคุ้นๆหน้าลูกค้าคนหนึ่ง ที่นั้งทานกาแฟอยู่ ซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ3โต๊ะ  ลูกค้าเป็นผู้ชายอายุวัย 24 ปี ผมสั้น คิวหนา สวมแว่นตากันแดดสีดำ จมูกโด่ง ผิวขาว แต่งตัวสุภาพเรียบร้อย ด้วยความที่มิริน รู้สึกคุ้นหน้าคุ้นตาชายคนดังกล่าวมาก จึงเดินเข้าไปหา และเอ่ยปากถาม…

 

" ขอโทษนะคะ คุณลูกค้า!! คุณลูกค้าใช่คุณ ต้น เอกสิทธิ์ ที่เป็นนักแสดงไหมค่ะ? "

 

ผู้ชายคนนั้นมองไปตามเสียง ปลายเสียงคือผู้หญิงเอวบางร่างเล็กใส่ชุดพนักงานร้านกาแฟ พอเงยหน้ามองก็เจอใบหน้าของหญิงสาวหน้าตาสะสวยผมยาว ปากแดง ตาโต เขา ถึงกับตกตะลึงเมื่อได้เห็นหน้าของมิริน ที่สวยงามยิ่ง

เขาค่อยๆ ถอดแว่นตากันแดดออกช้าๆ ก่อนจะพูดว่า…

  

  " ใช่ครับ!! ผม ต้น เอกสิทธิ์ ครับ"