'วิลเลียม' ที่สูญเสียความทรงจำ ได้คนที่กล่าวอ้างว่าเป็นแฟนหนุ่ม 'ลูคัส' ช่วยเหลือไว้จากอุบัติเหตุ ชีวิตที่แสนสุข ความรักหวานชื่น จนกระทั่งวิลเลียมสงสัยในการกระทำของลูคัส
ชาย-ชาย,รัก,ดราม่า,ดาร์ค,เรื่องสั้น,18+,nc,sex,bl,วาย,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
Amnesia กักขังรัก'วิลเลียม' ที่สูญเสียความทรงจำ ได้คนที่กล่าวอ้างว่าเป็นแฟนหนุ่ม 'ลูคัส' ช่วยเหลือไว้จากอุบัติเหตุ ชีวิตที่แสนสุข ความรักหวานชื่น จนกระทั่งวิลเลียมสงสัยในการกระทำของลูคัส
เมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้งสภาพแวดล้อมก็เปลี่ยนไปเป็นห้องนอน วิลเลียมหันซ้ายขวามองหาคนตัวสูง แต่กลับพบเพียงความว่างเปล่า เขาจึงลุกขึ้นเพื่อจะตามหาอีกคน ยังไม่ทันก้าวขาก็พบกระดาษแผ่นหนึ่งที่ถูกทับด้วยแก้วน้ำเขียนว่า
‘ขอโทษที่ไม่ได้อยู่ด้วยตอนตื่นนะ พอดีมีเรื่องด่วนให้เข้าเมืองเลยอาจจะไม่อยู่บ้านวันสองวัน จะพยายามกลับให้เร็วที่สุด
จาก ลูค’
หลังจากอ่านจบ สิ่งแรกที่ปรากฏในสมองอย่างแรงเลยคือกรสำรวจบ้านหลังนี้! เพราะตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันกับลูคัส เขาอยู่เพียงหลักๆ คือ ห้องนอน ห้องน้ำ ห้องนั่งเล่น ห้องครัว และสวนเพียงเท่านั้น ยังมีอีกหลายๆ ห้องที่ยังไม่ได้เข้าและถูกห้าม บ้านหลังนี้คนทำความสะอาดก็มีเพียงเขากับลูคัสเท่านั้น ซึ่งในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาอีกฝ่ายอยู่กับเขาเสมอ หมายความว่าหลายๆ ห้องยังไม่ถูกทำความสะอาด ใช้โอกาสนี้ที่อีกคนไม่อยู่บ้านทำความสะอาดและเพื่อคลายความสงสัยกับการกระทำและคำพูดหลายๆ อย่างของคนรัก
ตอนนี้เป็นเวลาเช้าของวันถัดมาแล้ว เขาจึงทำอาหารง่ายๆ รับประทาน ก่อนจะเริ่มสำรวจห้องต่างๆ ที่ไม่เคยเข้า
.
.
.
.
.
น่าเสียดาย จากการสำรวจในครั้งนี้ไม่ได้มีอะไรเพิ่มเติมมากจากสิ่งที่เขารู้ แต่มีอย่างหนึ่งที่ถูกไขกระจ่างคือ คนผมทองทำงานเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์หลายแห่ง นั้นเป็นหนึ่งในเหตุผลที่อยู่กับเขาได้นาน โดยที่ยังทำงานมีรายได้อยู่บ้าน และอีกอย่างที่ได้พบคือ ลูคัสเรียนจบด้านการแพทย์ เลยไม่แปลกใจเลยที่อีกฝ่ายจะสามารถดูแลเขาในขณะที่รักษาตัวอยู่ที่นี่ โดยไม่ต้องมีแพทย์คนอื่น
เสียเวลาในการสำรวจบ้านไปพอสมควร เขาจึงจะกลับไปพักผ่อนที่ห้องนอน และระหว่างทางก็คิดอะไรไปด้วย จนฉุกคิดกับประโยคหนึ่งที่ได้คุยกันในวันนี้ ที่ว่าเขามีพวกญาติๆ หมายจะเอาชีวิต เหตุจากสมบัติของครอบครัว และจากอุบัติเหตุที่เขาประสบ แสดงว่าต้องมีข่าวหลงเหลือบ้างไม่มากก็น้อย
เมื่อคิดได้ดังนั้น พอถึงห้องนอนเขาจึงรีบค้นหาข่าวในอินเทอร์เน็ต
‘อุบัติเหตุรถชน’ เขาเลื่อนๆ หาข่าวที่มีความใกล้เคียงและเป็นไปได้มากสุด แต่เป็นการคว้าน้ำเหลวทั้งหมด
ลองนึกอีกสิ สิ่งที่เป็นเบาะแส.......
ร่างเล็กหน้านิ่วคิ้วขมวดพยายามนึกถึงเรื่องต่างๆ ที่เกิดขึ้นและได้พูดคุยตลอดเวลา 3 เดือน ที่ใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านหลังนี้
“เวลามีข่าวเกี่ยวกับคนหายเขามักจะเอาตัวบัง แล้วปิดทีวี หรือชวนคุยจนเราไม่ทันสนใจ” คนผมสีปีกกาพึมพำกับตัวเอง แต่ไม่อยากปักใจเชื่อ เพราะถ้าเป็นเรื่องคนหาย ก็จะหมายถึงว่าอีกฝ่ายลักพาตัวเขามา
ชั่งใจอยู่พักหนึ่ง เขาลองพิมพ์ชื่อของตัวเองหาในอินเทอร์เน็ต
‘วิลเลียม วอร์คเกอร์ หายตัว’
สิ่งที่ปรากฏขึ้นมาคือใบหน้าของเขาที่ไม่มีร่องรอยบาดแผล และตัวหนังสือสีแดงที่เขียนแก้ด้านล่างคำค้นหาว่า ‘วิลเลียม วินเทอร์’ แทนที่จะเป็นนามสกุลวอร์คเกอร์
เขากดเข้าไปอ่านคอลัมน์ข่าวที่ขึ้นมาอันแรก
‘ทายาทตระกูลดังสาบสูญ! วิลเลียม วินเทอร์’
‘ทายาทบริษัทยักษ์ใหญ่ท็อป 3 ของประเทศ คุณชายวินเทอร์ หายสาบสูญไปในวันที่ xx เดือน xx ปี 2xxx หลังจากการไปเจรจาธุรกิจที่ประเทศxxx จนกระทั่งตอนนี้เวลาผ่านไปแล้วเกือบ 1 ปีก็ยังไม่พบร่องรอยการหายตัวไปของเขา ทำให้ครอบครัวยังอยู่ในความโศกเศร้าและสูญเสียผู้สืบทอดเพียงหนึ่งเดียวไป’
“ฮะ ฮะ จริงเหรอเนี่ย อะ อึก” เมื่อเลื่อนลงมาเจอรูปภาพของครอบครัว เขาก็เกิดอาการปวดหัวขึ้นมา ภาพความทรงจำเริ่มผุดขึ้นมาอย่างไม่ปะติดปะต่อ แต่สิ่งที่สัมผัสได้จากภาพเหล่านั้นมีเพียงความรู้สึกเศร้าและเป็นทุกข์
พออาการคงที่เขาก็ลุกออกจากห้องแล้วตรงไปยังสวน เพื่อพิสูจน์อีกอย่างหนึ่งที่เขาสงสัยมาตลอด ‘กระท่อมกลางป่าท้ายสวน’ จากความทรงจำเมื่อสักครู่มีภาพหนึ่งที่ปรากฏออกมาคือตอนที่เขาต่อสู้ขัดขืนลูคัสอยู่ แต่สถานที่ในความทรงจำไม่ใช่ภายในบ้านหลังนี้ จึงเหลืออยู่ที่เดียวที่ใกล้สุดและไม่เคยสำรวจ
เมื่อไปถึงที่กระท่อมเขาเปิดประตูเข้าไป ก็พบกับชั้นวางของมากมาย ฝุ่นเกรอะกรัง เขาเดินสำรวจตามชั้นต่างๆ จนครบ ในตอนแรกก็คิดว่าไม่มีอะไรแล้ว แต่สายตาดันเหลือบไปเห็นประตูไปชั้นใต้ดินอยู่ตรงพื้น เขาไม่รู้ว่าที่นั่นมีอะไรซ่อนอยู่ หากเป็นเวลาปกติคงไม่คิดเปิด หากลูคัสเป็นคนที่ลักพาตัวเขามาจริงๆ ด้านหลังประตูบานนั้นอาจจะเป็นวันสุดท้ายของชีวิตเขา
เหงื่อเย็บเยียบพลันผุดบนขมับ วิลเลียมกลืนน้ำลาย ลูกกระเดือกขยับขึ้นลงอย่างไม่แน่ใจ ก่อนที่ฝ่ามือสั่นเทาจะค่อยๆ ยื่นออกไปกำรอบกลอนประตู ทว่ากลับต้องชะงัก
ไม่ใช่ว่าเขามือสั่นจนหมดแรง
ไม่ใช่เพราะเขาล้มเลิกความคิด
.
.
.
.
เพราะสิ่งที่เขากลัวมันไม่ได้อยู่หลังประตูอีกต่อไป
“ละ ลูค”
แต่เป็นเงาสูงใหญ่ที่ทาบทับลงมาจากด้านหลังต่างหาก
“วิล มาทำอะไรที่นี่น่ะ” ชายร่างสูงพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นเยียบ สายตาที่ส่งมาเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว
“ผะ- ผมน่ะ เริ่มจำได้แล้ว ผมโดนลูคลักพาตัวมา! และชื่อก็ไม่ใช่ ‘วิลเลียม วอร์คเกอร์’ แต่เป็น ‘วิลเลียม วินเทอร์’!” ร่างเล็กพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ แต่ก็ทำใจกล้าตะเบ็งเสียงออกมา ประชันหน้ากับตัวโต
“ไม่ได้การแล้วสิ อย่างนี้วิลต้องหนีไปจากผมอีกครั้งแน่” ลูคัสพึมพำออกมาเสียงเบา สายตาจับจ้องมายังวิลเลียม แต่ก็ดูเลื่อนลอย
หลังจากพูดจบอีกคนก็พุ่งตัวเข้ามาหาเขา ใช้แขนเพียงข้างเดียวโอบตัวเขาลอยขึ้นมา ก่อนจะกระชากประตูชั้นใต้ดินออกแล้วลงไป
เมื่อไปถึงห้องใต้ดิน ภายในประกอบด้วยเตียงเหมือนกับเตียงในห้องผ่าตัดมีที่รัดแขนและขา รอบๆ ห้องเป็นโต๊ะที่มีอุปกรณ์การทดลอง ตู้ใส่สารเคมีและยาต่างๆ ร่างสูงพยายามนำเขาไปวางไว้ที่เตียง แต่ร่างบางดิ้นขัดขืน จึงโดนอีกฝ่ายต่อยท้องอย่างแรงไปครั้งหนึ่ง วิลเลียมงอตัวกุมท้องอย่างเจ็บปวด ลูคัสไม่รอช้าหยิบเข็มฉีดยาแล้วนำมาฉีดที่แขนของเขา
“อึก! นายฉีดอะไรให้ผมน่ะ!?”
เมื่อผ่านไปสักพักหนึ่งร่างกายก็เริ่มชาจนขยับตัวไม่ได้ ร่างบางล้มตัวลงไปนอนกับพื้น ลูคัสเห็นดังนั้นจึงอุ้มเขาขึ้นมาวางไว้ที่เตียง
“ก็แค่ยาคลายกล้ามเนื้อน่ะ” สิ้นเสียงนั้นสายตาของเขาก็เลื่อนขึ้นมาจดจ้องผู้พูดที่ตอนนี้ย้ายมาคร่อมร่างของตนไว้
“ผมน่ะ หลงใหลในตัววิลมาโดยตลอด แค่เจอครั้งแรกก็ตกหลุมรักเลย” ชายผมทองพูดขณะเดียวกันก็ลากนิ้วมือไปบนผิวกายของเขา
“ยิ่งได้มีโอกาสคุย ได้ทำความรู้จักก็ยิ่งรักมากขึ้นเรื่อยๆ หลังจากนั้นผมก็คอยเฝ้ามอง ตามสืบทุกอย่างที่เกี่ยวกับวิล จนได้รู้ว่าวิลน่ะเป็นทุกข์มากแค่ไหนกับการต้องอยู่กับครอบครัว” อีกฝ่ายยกมือของร่างเล็กขึ้นมาถูไถกับใบหน้าคม แต่เมื่อถึงประโยคหลังสายตาพลันเศร้าลง
“พวกเขาต้องการให้วิลสมบูรณ์แบบ ไม่มีข้อบกพร่อง เลยบังคับทำทุกอย่างที่วิลไม่มีความสุข รวมถึงการหาคู่ชีวิต” เจ้าของดวงตาสีฟ้ามองมาที่ใบหน้าเล็ก
“วิลน่ะ เป็นคนดีจนเกินไป เลยยอมรับเรื่องพวกนี้อย่างง่ายดาย แต่ผมน่ะรับไม่ได้หรอก ที่เห็นวิลต้องไปอยู่กับคนอื่นน่ะ!”
“จนกระทั่งผมได้พบกับวิลอีกครั้งหนึ่งที่ห้องน้ำตอนงานเลี้ยงเมื่อปีที่แล้ว”
“วิลที่อยู่ตัวคนเดียวไม่มีผู้ติดตาม ผมเลยคิดว่านี่เป็นโอกาสของผมแล้ว”
“ผมลักพาตัววิลมาไว้ที่บ้านหลังนี้” ร่างเล็กเบิกตากว้างกับประโยคของอีกฝ่าย
“เราอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข ถึงแม้วิลจะไม่ได้รักผม แต่แค่นี้ผมก็มีความสุขแล้ว จนกระทั่งครอบครัวของคุณก็ส่งคนมาเอาคุณกลับไป” สายตาของอีกคนเหี้ยมเกรียมขึ้น
“แต่ว่าผมจัดการไปหมดแล้วล่ะ น่าเสียดายเพราะจากเหตุการณ์นั้นทำให้คุณได้รับบาดเจ็บ” ลูคัสเอื้อมมือมาสัมผัสใบหน้า แล้วใช้นิ้วโป้งเกลี่ยที่รอยแผล สายตาเต็มไปด้วยความเจ็บปวด
ความทรงจำที่ไม่ปะติดปะต่อกัน เริ่มเป็นภาพที่ชัดเจนมากขึ้น ยิ่งได้ฟังสิ่งที่ออกมาจากปากของลูคัส ทุกอย่างก็กระจ่างในทันที