อยู่คนเดียวมาทั้งชีวิต ไม่เคยคิดเลยว่าการมีใครสักคนมันดีขนาดนี้

Thirty | 30 แล้วมีแฟนได้ยัง - Thirty แมวเด็กตาเมล็ดลำไย โดย สิงโตกินผัก @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

รัก,ชาย-ชาย,ไทย,เรื่องสั้น,เรื่องสั้น,นิยายวาย,นิยายรัก,พล็อตสร้างกระแส,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

Thirty | 30 แล้วมีแฟนได้ยัง

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

รัก,ชาย-ชาย,ไทย,เรื่องสั้น

แท็คที่เกี่ยวข้อง

เรื่องสั้น,นิยายวาย,นิยายรัก,พล็อตสร้างกระแส

รายละเอียด

อยู่คนเดียวมาทั้งชีวิต ไม่เคยคิดเลยว่าการมีใครสักคนมันดีขนาดนี้

ผู้แต่ง

สิงโตกินผัก

เรื่องย่อ

สารบัญ

Thirty | 30 แล้วมีแฟนได้ยัง-Thirty ช่อดอกไม้,Thirty | 30 แล้วมีแฟนได้ยัง-Thirty แมวเด็กตาเมล็ดลำไย,Thirty | 30 แล้วมีแฟนได้ยัง-Thirty เหงา,Thirty | 30 แล้วมีแฟนได้ยัง-Thirty รู้ใจ,Thirty | 30 แล้วมีแฟนได้ยัง-Thirty จบ

เนื้อหา

Thirty แมวเด็กตาเมล็ดลำไย

อา ปวดหัวชะมัด
กี่โมงแล้วเนี่ย
ผมลุกขึ้นนั่งบนเตียงโดยที่ยังไม่ทันลืมตา ส่วนมือนั้นกุมขมับตัวเอง ไม่เคยแฮงค์ขนาดนี้มาก่อนเลยในชีวิต แน่ล่ะ เกิดมา 30 ปีไม่เคยดื่มหนักขนาดนี้มาก่อน ส่วนมากที่ดื่มก็จะเป็นค็อกเทลเสียมากกว่า ไม่เคยยกวิสกี้เพียว ๆ เลย ไม่แปลกหรอกที่เช้านี้จะตื่นมาเหมือนโดนสูบพลังขนาดนี้
“พี่ตื่นแล้วหรอครับ”
“ครับ ตื่นแล้ว”
เดี๋ยวนะ
ใคร ใครอยู่ในห้องของผม
ผมรีบหันหาที่มาของเสียง ด้านหน้าของผมมีเด็กหนุ่มยืนมองผมตาแป๋ว เหมือนแมวน้อยอยากถามเจ้าของว่าตื่นยังนุ้ด
ผมตกใจจนตาแทบจะถลนออกมาด้านนอก นี่เมื่อคืนผมเมาจนหิ้วเด็กหน้าตาดีกลับห้องเลยหรอเนี่ย เด็กตรงหน้าของผมจะบอกว่าหล่อก็ไม่เชิง จะน่ารักก็ไม่ใช่ จัดอยู่ในหมวดกลาง ๆ แต่โดยรวมแล้วมีเสน่ห์ดูดีเหลือเกิน ยกเว้นแว่นหน้าเตอะที่อยู่บนกรอบหน้านั่นน่ะ บอกตามตรงว่าผมไม่ชอบคนใส่แว่นเลย ง่าย ๆ ก็แค่ไม่ชอบเด็กเนิร์ด
“พี่อย่ามองผมอย่างนั้นสิครับ ผมเขินนะ”
เจ้าเด็กแมวน้อยยกแขนขึ้นปิดหน้าอกเปลือยเปล่าไว้เหมือนสาวน้อยในการ์ตูนตาหวาน ให้ตายเถอะ ผมไม่ได้อยากมองเสียหน่อย ก็เจ้าเด็กนี่ใส่แค่เพียงบ๊อกเซอร์ตัวเดียว จะให้วางสายตาไว้ที่ไหนล่ะถ้าไม่ใช่...กล้ามหน้าอก
“แล้ว.....เป็นใคร”
“พี่ครามจำผมไม่ได้หรอ”
เจ้าเด็กแมวน้อยใส่แว่นหน้าหงอยลงทันทีที่ได้ยินคำถามจากปากผม เขาก้มหน้าลงนิด ๆ จนผมสีดำที่ไม่เซตปรกหน้านิดหน่อย
แอบดูดีแฮะ
“จำไม่ได้หรอก”
ผมพยายามใจดีสู้เสือ ถึงแม้จะมีคนแปลกหน้าอยู่ในห้องของตัวเองแต่ยังไงก็ไม่ควรกระโตกกระตาก หากมีอาวุธขึ้นมาผมเองนี่แหละที่จะแย่เอา
“ผมเทมส์ครับ น้องชายพี่ไทม์”
เทมส์น้องชายไทม์?
“จำไม่เห็นได้ว่าไอ้ไทม์มีน้องชาย”
“โหพี่คราม ผมน้อยใจนะเนี่ย”
ผมเค้นเอาความทรงจำเมื่อ 11 ปีที่แล้วออกมา พยายามนึกว่าตั้งแต่ที่ได้รู้จักกับไทม์ตอนปีหนึ่ง จนถึงตอนนี้ผมเคยเจอน้องชายของไทม์มั้ย แต่ปรากฏว่านึกยังไงก็นึกไม่ออก
วันรับปริญญาก็เจอแค่พ่อกับแม่ของไอ้ไทม์นี่ ไม่เห็นมีน้องชายอย่างที่ไอ้เด็กแมวน้อยนี่ว่าเลย
“ว่าแต่เรามาเข้ามาห้องพี่ได้ไง”
“พี่คราม~ ก็เมื่อคืนพี่เมามาก พี่ไทม์เลยให้ผมมาส่งพี่ไง”
“จำไม่เห็นได้”
ดูท่าว่าคำตอบของผมจะไม่เข้าหูของเจ้าแมวเด็กถึงได้หน้าหงึ แต่จะโทษผมอย่างเดียวก็ไม่ได้ เป็นเพื่อนกับไทม์มาตั้งหลายปีไม่เคยรู้ว่ามันมีน้องชายแล้วจู่ ๆ เด็กตรงหน้าของผมก็กล่าวอ้างเหมือนเรารู้จักกัน
“ถ้าพี่ครามไม่เชื่อโทรถามพี่ไทม์ก็ได้นะ”
ผมมองหน้าเจ้าเด็กนิ่งค้นหาคำตอบในดวงตาสีดำภายใต้แว่นตาหนาเตอะหวังว่าจะค้นพบความจริงหรืออะไรก็ได้ที่บ่งบอกว่ามันคือเรื่องโกหก
แต่สุดท้ายก็พบเพียงความจริงใจที่ส่งผ่านดวงตาเมล็ดลำไยนั่น
“โทรสิครับ”
เด็กที่ชื่อเทมส์ส่งสายตากดดันมาที่ผม ทั้ง ๆ คนที่ควรทำแบบนั้นน่าจะเป็นผมมากกว่า ให้ตายเถอะ เข้าห้องคนอื่นแล้วยังไม่รู้จักเกรงใจเจ้าของห้องเลย
ผมหยิบโทรศัพท์มือถือที่วางไว้ข้างหัวเตียงขึ้นมากดค้นหารายชื่อก่อนจะโทรออก
“เปิดลำโพงด้วยสิครับ”
ผมทำตามที่เด็กนั่นสั่งอย่างว่าง่ายราวกับโดนกรอกข้อมูลคำสั่ง เสียงรอสายดังไม่นานก่อนจะมีคนกดรับ
“ว่าไงคราม แฮงค์มากป้ะ”
เสียงปลายสายเอ่ยถามผมด้วยคำถามที่ไม่ได้ผิดคาดนักเพราะว่าเมื่อคืนนี้คนที่ร่วมด้วยช่วยกันมอมเหล้าผมก็เจ้าบ่าวคนนี้นี่แหละ
“เออ แฮงค์”
“กินน้ำเยอะ ๆ แล้วนี่โทรมามีไร”
“มึงมีน้องชายหรอ”
ผมไม่รอช้าถามในสิ่งที่อยากรู้ทันที จะได้รู้คำตอบว่าที่เด็กนี่พูดมันเรื่องจริงหรือโกหก แต่มันก็ยังบ้าอยู่ดีที่ผมยังปล่อยให้เด็กคนนี้อยู่ในห้อง ทำไมไม่ไล่ออกไปนะ เกิดเป็นโจรขึ้นมาจะทำยังไง
“มีดิ ทำไม”
เจ้าแมวเด็กยักคิ้วใส่ผมหนึ่งทีเป็นการบอกว่า เห็นมั้ยไม่ได้โกหก ไม่เชื่อเอง
“น้องมึงมาอยู่กับกูได้ไง”
“อ๋อ เมื่อคืนกูให้มันไปส่งมึงอ่ะ แล้วนี่มันยังไม่กลับอีกหรอ”
“ยังไม่กลับครับพี่ไทม์”
เทมส์ย่นหน้าเข้ามาใกล้กับโทรศัพท์ของผมในขณะที่เจ้าตัวก้มตอบพี่ชายก็ช้อนสายตามองหน้าผม ภาพที่ผมเห็นนั้นมันไม่ใช่เจ้าแมวเด็กแล้วล่ะ
นี่มันเสือชัด ๆ
“ถามจริง ว่างหรอ”
นับตั้งแต่วันที่ได้รู้จักกับเทมส์น้องชายของเพื่อนสนิท เจ้าเด็กนี่ก็เอาแต่ตามติดผมไม่ห่างอ้างว่าเหงาบ้าง ไม่มีเพื่อนบ้าง ทำตัวน่าสงสารเพื่อเรียกร้องให้ผมสนใจ
แมวเด็กชอบชวนผมทำนั่นทำนี่ บางครั้งก็ชวนออกไปดูหนัง บางครั้งก็ชวนออกไปเที่ยว บางครั้งก็ชวนออกไปหาอร่อย ๆ กิน
“ก็...จริง ๆ ไม่ได้ว่างหรอกครับ”
สรุปแล้วผมกับเทมส์น่ะเคยเจอกันก่อนหน้างานแต่งงานของไทม์กับต้นรักแล้วล่ะ เจอกันตอนผมเรียนปีสองส่วนเจ้าเด็กนี่อายุ 13
บอกตามตรงว่าผมจำไม่ได้เลยด้วยซ้ำว่าเคยเจอกัน ก็ตอนนั้นเทมส์ยังเป็นไอ้เปี๊ยกเพิ่งแตกเนื้อหนุ่ม ส่วนผมก็อายุเข้าเลขสองไปแล้วแถมยังวุ่นวายกับการเรียนอีกต่างหาก
ไทม์เคยเอาเด็กนี่มาฝากให้ผมเลี้ยงหนึ่งวันเพราะเจ้าตัวไปเที่ยวกับสาว
“ไม่ว่างแล้วมาตามติดพี่ทำไม”
“ผมไม่ได้ตามติดพี่ตลอดเวลาสักหน่อย”
เวลาที่ผมเริ่มรู้สึกรำคาญหรืออารมณ์เสียแสดงอาการหงุดหงิดใส่ สิ่งที่เทมส์ทำคือใช้หน้าตาที่เหมือนแมวน้อยนั่นมาคลอเคลียแขนผมพร้อมกับทำหน้า หงึ
แล้วผมก็ใจอ่อนทุกครั้ง
ให้ตายสิ
“ไม่ได้ตามติด?”
“ครับ ผมก็มาหาพี่แค่ตอนไม่มีสอนแล้วก็เสาร์อาทิตย์เองนะ”
เจ้าเด็กแมวน้อยยังคงทำหน้าหงึออดอ้อน ใช้หน้าตาในทางที่ถูกที่ชอบมากเลยไอ้เด็กนี่
“…”
“แล้วเมื่อไหร่พี่จะไปเรียนยิงธนูกับผมล่ะ”
เทมส์เป็นครูฝึกสอนยิงธนู ผมเองก็เพิ่งรู้ไม่นานว่าเจ้าเด็กนี่ทำอาชีพอะไร พอรู้แล้วก็ค่อนข้างเซอร์ไพรส์เลยนะที่อายุเท่านี้สามารถเป็นเจ้าของธุรกิจแถมยังมีสนามยิงธนูเป็นของตัวเองอีกต่างหาก
เด็กอายุ 23 คนนี้ทำไมมันเก่งจังวะ
“ไว้ว่างเมื่อไหร่จะไปละกัน”
“คร้าบบบ”
เทมส์ลากเสียงยาวล้อเลียนผม จริง ๆ ก็เคยรับปากไว้นานแล้วล่ะว่าจะไปแต่ก็ยังไม่มีเวลาสักที งานผมค่อนข้างยุ่งน่ะ
“เออพี่คราม อาทิตย์หน้าผมมีบินไปดูงานที่จีนนะ” เทมส์ผละออกจากแขนของผมแล้วพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “พี่อย่าลืมผมนะ ไว้ผมจะโทรหาเรื่อย ๆ”
“อือ”
ผมไม่ได้ตอบอะไรออกไป ทำเพียงแค่ส่งเสียงตอบรับให้เจ้าตัวว่ารู้ว่าผมได้ยิน เทมส์เองก็ไม่ได้ตอบอะไรกลับมา ผมเหลือบมองเจ้าแมวเด็กที่ลุกออกจากโซฟาพร้อมกับหยิบกระเป๋าสะพายออกจากห้องไปเงียบ ๆ
ทั้งสัปดาห์เป็นของผมสินะ ไชโย