หลังจากที่ตัวเขาสิ้นอายุขัยจากโลกเดิม ก็ถูกส่งให้ไปเกิดใหม่ในโลกแฟนตาซี แห่งดาบและเวทมนตร์ แต่ตัวเขาดันไม่มีพลังเวทเนี่ยสิ แต่พระเจ้าก็ใจดีให้ความสามารถสุดโกงกับเขามา

พระเจ้าให้เกิดใหม่เป็นเด็กที่ใช้เวทมนตร์ไม่ได้ซะงั้น - 2 บทที่ 2 โดย Patas0016 @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-ชาย,แฟนตาซี,ผจญภัย,18+,boy love ,ฮาเร็มชาย,ฮาเร็ม,ปีศาจ,เวทมนตร์,เกิดใหม่ ,ต่างโลก,ผจญภัย,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

พระเจ้าให้เกิดใหม่เป็นเด็กที่ใช้เวทมนตร์ไม่ได้ซะงั้น

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-ชาย,แฟนตาซี,ผจญภัย

แท็คที่เกี่ยวข้อง

18+,boy love ,ฮาเร็มชาย,ฮาเร็ม,ปีศาจ,เวทมนตร์,เกิดใหม่ ,ต่างโลก,ผจญภัย,แฟนตาซี

รายละเอียด

พระเจ้าให้เกิดใหม่เป็นเด็กที่ใช้เวทมนตร์ไม่ได้ซะงั้น โดย Patas0016 @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

หลังจากที่ตัวเขาสิ้นอายุขัยจากโลกเดิม ก็ถูกส่งให้ไปเกิดใหม่ในโลกแฟนตาซี แห่งดาบและเวทมนตร์ แต่ตัวเขาดันไม่มีพลังเวทเนี่ยสิ แต่พระเจ้าก็ใจดีให้ความสามารถสุดโกงกับเขามา

ผู้แต่ง

Patas0016

เรื่องย่อ

ตัวของเขาใช้ชีวิตอยู่คนเดียวจนแก่ชราและจากไปอย่างเดียวดาย ไม่มีทั้งเพื่อนและครอบครัว เขาทั้งเหนื่อยและไม่อยากใช้ชีวิตต่ออีกแล้ว แต่พระเจ้าดันส่งให้เขาไปเกิดที่อีกโลก แล้วที่สำคัญโลกนี้ก็วัดคุณค่าของผู้คนกันที่พลังเวท แต่ตัวเขาดันไม่มีพลังเวทเนี่ยสิ พระเจ้าเล่นตลกอะไรอยู่!!!! แถมยังให้เขามาเกิดเป็นเด็กกำพร้าเหมือนที่โลกก่อนเปี๊ยบ

 

✣✣✣✣

 

ธาตุของเวทมนตร์ คนแต่ละคนจะมีธาตุที่เหมาะแก่ตนเอง ซึ่งมีอยู่หลากหลายโดยพื้นฐานจะเป็น

ดิน

น้ำ

ลม

ไฟ

สายฟ้า

แสงสว่าง

ความมืด

 ✣✣✣✣

สกุลเงินที่ใช้กัน บิท

1 เหรียญเหล็กิ 1 บิท

1 เหรียญทองแดง 10 บิท

1 เหรียญเงิน 100 บิท

1 เหรียญทอง 1,000 บิท

1 เหรียญทองใหญ่ 10,000 บิท

1 เหรียญทองคำขาว 100,000 บิท

 

 

****Warning****

 

นิยายเรื่องนี้เกิดจากจินตนาการของผู้เขียน พฤติกรรมของตัวละครต่างๆ ในเรื่องถูกสร้างขึ้นมาเพื่อความบันเทิง ขอผู้อ่านโปรดใช้วิจารณญาณ

ปล.ฝากติดตาม X กับ Tiktok ของไรท์ด้วยนะครับ

X

Tiktok

สารบัญ

พระเจ้าให้เกิดใหม่เป็นเด็กที่ใช้เวทมนตร์ไม่ได้ซะงั้น-0 บทนำ,พระเจ้าให้เกิดใหม่เป็นเด็กที่ใช้เวทมนตร์ไม่ได้ซะงั้น-1 บทที่ 1,พระเจ้าให้เกิดใหม่เป็นเด็กที่ใช้เวทมนตร์ไม่ได้ซะงั้น-2 บทที่ 2,พระเจ้าให้เกิดใหม่เป็นเด็กที่ใช้เวทมนตร์ไม่ได้ซะงั้น-3 บทที่ 3,พระเจ้าให้เกิดใหม่เป็นเด็กที่ใช้เวทมนตร์ไม่ได้ซะงั้น-4 บทที่ 4,พระเจ้าให้เกิดใหม่เป็นเด็กที่ใช้เวทมนตร์ไม่ได้ซะงั้น-5 บทที่ 5,พระเจ้าให้เกิดใหม่เป็นเด็กที่ใช้เวทมนตร์ไม่ได้ซะงั้น-6 บททีี่ 6,พระเจ้าให้เกิดใหม่เป็นเด็กที่ใช้เวทมนตร์ไม่ได้ซะงั้น-7 บทที่ 7,พระเจ้าให้เกิดใหม่เป็นเด็กที่ใช้เวทมนตร์ไม่ได้ซะงั้น-8 บทที่ 8,พระเจ้าให้เกิดใหม่เป็นเด็กที่ใช้เวทมนตร์ไม่ได้ซะงั้น-9 บทที่ 9,พระเจ้าให้เกิดใหม่เป็นเด็กที่ใช้เวทมนตร์ไม่ได้ซะงั้น-10 บทที่ 10,พระเจ้าให้เกิดใหม่เป็นเด็กที่ใช้เวทมนตร์ไม่ได้ซะงั้น-11 บทที่ 11,พระเจ้าให้เกิดใหม่เป็นเด็กที่ใช้เวทมนตร์ไม่ได้ซะงั้น-12 บทที่ 12,พระเจ้าให้เกิดใหม่เป็นเด็กที่ใช้เวทมนตร์ไม่ได้ซะงั้น-13 บทที่ 13,พระเจ้าให้เกิดใหม่เป็นเด็กที่ใช้เวทมนตร์ไม่ได้ซะงั้น-... แจ้งจัดโปร E-book Fair,พระเจ้าให้เกิดใหม่เป็นเด็กที่ใช้เวทมนตร์ไม่ได้ซะงั้น-14 บทที่ 14,พระเจ้าให้เกิดใหม่เป็นเด็กที่ใช้เวทมนตร์ไม่ได้ซะงั้น-15 บทที่ 15,พระเจ้าให้เกิดใหม่เป็นเด็กที่ใช้เวทมนตร์ไม่ได้ซะงั้น-16 บทที่ 16,พระเจ้าให้เกิดใหม่เป็นเด็กที่ใช้เวทมนตร์ไม่ได้ซะงั้น-17 บทที่ 17

เนื้อหา

2 บทที่ 2

บทที่ 2

 

“เธอน่ะ จงต่อสู้กับทอสซะ” สิ้นเสียงของชายวัยกลางรอบข้างก็เงียบลงในทันที

“พูดอะไรน่ะลุงชาร์ล ผมจะไปสู้กับทอสเพื่ออะไร” ทาเนียขมวดคิ้วยิ่งกว่าเดิม

“ผมไม่ได้อยากสู้กับทาเนียสักหน่อยครับ!!” ทอสตะโกนตอบขึ้นมา

“ข้อเสนอไง ถ้าเธอชนะทอสคนที่แกร่งที่สุดในหมู่บ้านนี้ได้ ฉันก็จะช่วยคุยกับหลวงพ่อริโนให้อนุญาตให้เธอไปเป็นนักผจญภัยตามที่ต้องการและยังจะมอบเงินสนับสนุนให้ด้วย แต่ถ้าเธอแพ้ทอส เธอก็ต้องออกเดินทางไปที่เมืองหลวงกับเขาตามที่เจ้าตัวเขาต้องการ” หัวหน้าหมู่บ้านอธิบายให้ฟัง

“ไม่จำเป็นเลย ตอนนี้ผมก็กำลังจะไปจากที่นี่อยู่แล้ว” ร่างเล็กไม่มีท่าทีที่จะสนใจข้อเสนอเลยสักนิด ต่างจากอีกคนที่สนใจในสิ่งที่ชายวัยกลางคนพูดออกมาเป็นพิเศษ

“ได้ครับ ผมตกลง” ทอสพูดออกมาเสียงดัง

“นายบ้าไปแล้วรึไงทอส” เมื่อกี้ยังบอกว่าไม่อยากสู้กับเขาอยู่เลย อะไรของหมอนี่เนี่ย

“เอาน่าทาเนีย ไม่ว่าเธอจะชนะหรือแพ้ยังไงเธอก็จะได้ออกจากหมู่บ้านอย่างที่ต้องการนะ ฉันจะช่วยคุยกับท่านริโนให้เอง ถ้าจู่ ๆ เธอหนีออกไปเลยอาจจะมองหน้ากับท่านริโนไม่ติดก็ได้นะ” ชายวัยกลางคนพูดโน้มน้าว

“แล้วจะให้เราสองคนสู้กันที่ไหนล่ะ” ร่างเล็กเอ่ยถาม เพราะเหมือนตัวเองคงลีกเลี่ยงไม่ได้แล้ว

“ตามมาสิ” หัวหน้าหมู่บ้านเอ่ยและเดินนำไป

 

✣✣✣✣

 

และเด็กหนุ่มทั้งสองที่เติบโตมาด้วยกัน ก็ต้องมาเผชิญหน้ากันที่ลานกว้างกลางหมู่บ้าน ทอสและทาเนียยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกัน โดยที่พวกเขาถูกคนในหมู่บ้านยืนล้อมรอบ

บาทหลวงริโนเข้ามาคุยกับหัวหน้าหมู่บ้านเพราะไม่ค่อยจะเห็นด้วยกับข้อเสนอนี้

“ท่านชาร์ลครับ พ่อว่าอย่าให้ทอสและทาเนียสู้กันเลยดีกว่าครับ ยังไงทาเนียก็ไม่มีทางชนะทอสได้อยู่แล้ว เด็กคนนั้นมีแต่จะเจ็บตัวเปล่า ๆ” บาทหลวงริโนเอ่ยกับชายวัยกลางคนที่กำลังจ้องมองไปที่เด็กหนุ่มทั้งสองเช่นกัน

“ทำไมหลวงพ่อริโนถึงคิดอย่างนั้นล่ะครับ” หัวหน้าหมู่บ้านหันมาถามกับบาทหลวงประจำหมู่บ้าน

“ก็…”

“ทาเนียใช้เวทมนตร์ไม่ได้” ชาร์ลต่อประโยคที่บาทหลวงวัยกลางคนกำลังจะพูด ก่อนที่ตัวเองจะเอ่ยต่อ

“ผมรู้ว่าท่านริโนเป็นห่วงทาเนียมากเพราะเขาแตกต่างจากคนอื่น แต่ท่านก็เห็นแล้วเขาไม่ได้อ่อนแอเลย เขาหายไปในป่าทั้งคืนและกลับมาพร้อมแบล็กบอ สัตว์อสูรที่ต้องใช้นักผจญภัยหลายคนในการล่า แต่เด็กคนนั้นกลับล่ามันมาได้ด้วยตัวคนเดียว แถมไม่มีบาดแผลเลยสักนิด ความสามารถของทาเนียใหญ่เกินกว่าจะอยู่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ ชายคอบแห่งนี้นะ อย่างรั้งเขาด้วยความกังวลของคนแก่แบบเรา ๆ เลย” หัวหน้าหมู่บ้านเอ่ยเตือนสติกับผู้ที่เลี้ยงเด็กทั้งมา

บาทหลวงริโนได้ฟังก็พูดไม่ออก นั่นสินะ ตัวเขาคงจะกังวลมากไปจริง ๆ ทั้ง ๆ ที่เด็กคนนั้นก็คอยพิสูจน์ตัวเองให้เขาเห็นอยู่ตลอดแท้ ๆ แต่เป็นตัวเขาเองที่ใจมืดบอดและมองข้ามไป เอาแต่คิดว่าตัวทาเนียที่ไม่มีพลังเวท อย่างไรก็ไม่มีทางเอาชีวิตรอดในโลกภายนอกได้ สุดท้ายเขาก็ไม่ได้ต่างจากพวกคนในหมู่บ้านที่ดูถูกทาเนียเลย คงถึงเวลาที่ตัวเขาต้องว่าทิฐิลงได้แล้ว

บาทหลวงวัยกลางคนเดินกลับมาหาพวกซิสเตอร์และเด็ก ๆ ของโบสถ์

“คุยกับหัวหน้าหมู่บ้านว่าไงบ้างจ้ะ” ซิสเตอร์เนวาเอ่ยถามกับเขา หลวงพ่อริโนทำได้เพียงส่ายหน้าเบา ๆ

ทุกคนในโบสถ์จึงทำได้เพียงมองดูคนในครอบครัวทั้งสองต่อสู้กันอยู่กลางลาน ใจก็ภาวนาอย่าให้ทั้งคู่บาดเจ็บกันมากนัก

กลับมาที่ทอสและทาเนียทั้งสองเอาแต่จ้องหน้ากันอยู่หลายนาที ตั้งแต่ถูกพามาที่ลานหมู่บ้าน ยังไม่มีฝ่ายไหนลงมือทำอะไร ได้แต่คอยดูเชิงกันไปมา จนเป็นทาเนียที่วิ่งเข้าใส่ทอสด้วยความรวดเร็วและชักมีดสั้นที่เหน็บไว้ข้างหลังออกมา แต่ร่างสูงก็ตั้งสติได้ทัน รีบสร้างโซ่แสงมาที่ด้านหน้าของตนและบังคับให้มันพุ่งไปจับคนตัวเล็กเอาไว้

 

ปัง!!!

 

โซ่แสงของทอสพุ่งชนเข้ากับพื้น เพราะว่าทาเนียหลบได้ทันและร่างเล็กก็กำลังเข้าใกล้ทอสเรื่อย ๆ ร่างเล็กกระโดดเข้าใส่คนที่ยังยื่นอยู่กับที่ไม่ไปไหน ก่อนจะชูมีดในมือขึ้นหมายจะสร้างบาดแผลให้คู่ต่อสู้เพียงเล็กน้อย เพราะถ้าจะเอาจริงคงใช้ปืนไปล่ะ

เด็กหนุ่มร่างสูงรีบสร้างโล่เวทมนตร์ขึ้นมาป้องกันตัวเอง ทำให้มีดของคนตัวเล็กแทงไม่ถึงตัวของเขา แต่ไม่นานจากนั้นโล่เวทมนตร์ของเขาก็สลายไปเหมือนเวทมนตร์ก่อนหน้านี้ ทำให้ทาเนียพุ่งตัวเขามาหาร่างสูงได้อีกครั้ง ทอสเสริมพลังเวทลงไปที่ขาและถอยห่างออกจากจุดนั้นอย่างรวดเร็ว ในหัวก็คิดไปด้วยว่าทำเวทมนตร์ของตัวเองถึงได้สลายไปตั้งสามครั้ง และเขาก็ยังสร้างลูกบอลแสงขึ้นมาปั่นป่วนไม่ให้คนตัวเล็กตามเขามาได้ทันอีกชั้นหนึ่ง

“น่ารำคาญจริง!!” ร่างเล็กไม่มีทางเลือกต้องใช้มีดสั้นไล่ฟันลูกบอลสีขาวหลายสิบที่พุ่งมาใส่ตัวเองจนหมดก่อน จึงจะตามไปโจมตีทอสได้อีกครั้ง

ทอสเมื่อมาอยู่ในจุดที่ปลอดภัยก็รู้ว่าลูกบอลแสงคงรั้งคนตัวเล็กไว้ไม่ได้นาน ก็รีบสร้างดาบแสงสว่างขึ้นมาบนมือ และใช้มันตั้งรับมีดสั้นของทาเนียที่ฟันเข้ามาได้อย่างเฉียดฉิว

“ยอมแพ้เถอะทาเนีย ฉันสัญญาว่าจะดูแลเธอให้ดีที่สุดตอนเราไปที่เมืองหลวง” เด็กหนุ่มใช้คำพูดเกลี้ยกล่อมคนที่ตัวเองชอบ

“พูดบ้า ๆ อีกแล้วตั้งใจสู้ไปเหอะน่า” ร่างเล็กต่อว่าคนที่เอาแต่พูดจาไร้สาระ และแตะมือลงบนดาบแสงของอีกฝ่าย ไม่นานมันก็สลายไป ทำให้เด็กหนุ่มสามารถเข้าไปทิ้งรอยแผลเล็ก ๆ ลงที่แก้มของหนุ่มหล่อประจำหมู่บ้านได้สำเร็จ คนที่ดูอยู่รอบ ๆ ก็ร้องตะโกนออกมาอ่างตื่นเต้น

“คึก!!” ทอสรู้สึกเจ็บเล็กน้อยและรีบถอยห่างออกมาจากคนตัวเล็ก และเร่งห่อหุ้มร่างด้วยพลังเวทก่อนจะเคลื่อนที่หนีไปอีกมุมด้วยความเร็วแสง

“เลิกหนีสักทีได้ไหมห้ะ!” ร่างเล็กตะโกนลั่นอย่างหงุดหงิดที่คู่ต่อสู้เอาแต่หนี

ทอสยกมือขึ้นเช็ดเลือดที่ไหลออกมาจากแผลทิ้ง ตัวเขาก็รู้ว่าคนตัวเล็กก็พยายามไม่ทำให้เขาเจ็บมากเหมือนกัน ถ้าไม่มีเดิมพันที่หัวหน้าหมู่บ้านเสนอขึ้นมา เขาก็คงยอมแพ้คนตัวเล็กไปแล้ว ทาเนียได้พิสูจน์ให้คนที่นี่เห็นกับตาแล้วว่าตัวเองไม่ได้อ่อนแอเลยแม้แต่น้อย เพราะทำให้เขาถึงกับหอบได้ขนาดนี้ แต่ร่างเล็กยังเคลื่อนไหว้ได้สบาย ๆ ไม่แสดงความเหนื่อยออกมาให้เห็นเลยสักนิด

แล้วยังมีวิธีที่เจ้าตัวใช้สลายเวทมนตร์ของเขาให้หายไปอีก ถ้าไม่รู้ว่าคืออะไรก็เอาชนะอย่าตรง ๆ ไม่ได้ คงงัดเล่ห์เหลี่ยมมาใช้กันสักหน่อย

“เข้ามาสิ” ร่างสูงกวักมือเรียกคนที่ยืนอยู่อีกฝั่งของลานกว้างอย่างท้าทาย

“ได้อยู่แล้ว!!” ทาเนียก็ไม่คิดปฏิเสธ ใช้สกิลเร่งความเร็วและซอยเท้าพุ่งเข้าไปหาร่างสูงที่ยืนรออย่างนิ่ง ๆ

ทอสรอจังหวะที่คนตัวเล็กวิ่งเข้ามาใกล้พอ หุ้มร่างกายด้วยแสงสว่างและเปล่งแสงสว่างจ้าออกมา แสงทำลายการมองเห็นของคนที่อยู่โดยรอบชั่วขณะ

“อ๊าก!!ตาฉัน” ทาเนียที่อยู่ใกล้ที่สุดก็ไม่คิดว่าอีกคนจะใช้วิธีนี้จึงโดนแสงเข้าตาเข้าไปเต็ม ๆ ดวงตาของร่างเล็กใช้การไม่ได้แล้วตอนนี้ เจ้าตัวก็รีบกระโดดถอยออกไปเพื่อตั้งหลักทันที

แต่ร่างสูงไม่ปล่อยให้มีโอกาสนั้น ทอสสร้างเสากางเขน ขึ้นมา ตรึงคนตัวเล็กไว้ในทันที พอคนที่ถูกจับมีท่าทีจะขัดขืนเขานำดาบแสงไปที่คอของร่างเล็กและเอ่ยขึ้น

“เธอแพ้แล้วทาเนีย”

“นายเล่นวิธีสกปรกนี่” เด็กหนุ่มแพ้แล้วพาลพูดต่อว่าผู้ชนะ ทั้งที่ก็รู้อยู่แก่ใจว่ามันก็ไม่ได้ผิดอะไร

“เฮ!! ทอสชนะแล้ว”

“ไชโย!!”

“ผลลัพธ์มันก็แน่นอนอยู่แล้วนี่”

พวกชาวบ้านเริ่มกลับมามองเห็นแล้ว และเมื่อผลการต่อสู้เป็นที่ประจักษ์ ทุกคนก็ร้องด้วยความดีใจ พวกซิสเตอร์และน้อง ๆ ก็รีบวิ่งมาดูพวกเขาด้วยความเป็นห่วง ทอสก็ปลดกางเขนลงและเข้าไปช่วยพยุงคนตัวเล็ก เนื่องจากทาเนียอยู่ใกล้ที่สุด ตอนนี้จึงยังไม่สามารถกลับมามองเห็นได้

“ทั้งสองคนเป็นอะไรรึเปล่าจ้ะ” ซิสเตอร์เฮเลนเอ่ยถามอ่างเป็นห่วงสุดหัวใจ

หลวงพ่อริโนก็เดินมาทางทาเนียอย่างช้า ๆ และเข้ามาช่วยพยุงไว้แทนทอส

ร่างเล็กไม่กล้าที่จะเงยหน้าไปหาผู้ที่เป็นเหมือนพ่อ เพราะคิดว่าหลวงพ่อคงยังโกรธตัวเองอยู่ แต่สิ่งที่ออกมาจากปากของบาทหลวงวัยกลางคนกลับผิดคาด

“เก่งมากเลยเจ้าทาเนีย เจ้าน่ะต่อสู้ได้ดีมาก” บาทหลวงริโนเอ่ยชมเด็กหนุ่ม ตัวเขาเฝ้าดูการต่อสู้ของลูก ๆ ทั้งสองอยู่ตลอด เด็กทั้งสองคนทำให้เขารู้สึกภูมิใจและยิ่งรู้สึกผิดกับทาเนียมากขึ้นไปอีก ทอสกับทาเนียแข็งแกร่งมาก ๆ และไม่เหมาะจะอุดอู้อยู่ที่หมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งนี้จริงอย่างที่ชาร์ลพูดนั่นแหละ

ทุกคนยิ้มกับสิ่งที่ได้เห็น ร่างเล็กเงยหน้าขึ้นไปมองหลวงพ่อริโนอย่างไม่อยากอยากจะเชื่อ โดยที่ตาทั้งสองข้างยังปิดอยู่

“กลับไปที่โบสถ์กันเถอะ” ซิสเตอร์เนวาผู้อาวุโสสุดเอ่ยขึ้น ทุกคนก็เห็นด้วยและพากันเดินกลับไปที่โบส์ถของหมู่บ้าน

หลังจากที่กลับมาถึงโบสถ์ทอสและทาเนียก็โดนซิสเตอร์เฮเลนพาไปรักษาในทันที เพราะถึงไม่มากแต่ทั้งสองคนก็บาดเจ็บในการต่อสู้ เสร็จจากนั้นพวกเขาก็ปล่อยให้ทาเนียได้นอนพัก ร่างเล็กครุ่นคิดถึงเรื่องต่าง ๆ มากมายในหัว ว่าจากนี้จะเอาอย่างไรกับชีวิตต่อไปดี

 

✣✣✣✣

 

และก็ถึงวันที่ต้องออกเดินทาง นอกจากทอสและทาเนียแล้ว ก็ยังมีลอเรนโซลูกชายของหัวหน้าหมู่บ้านอีกคนที่จะไปคัดเลือกอัศวินเวทมนตร์ที่เมืองหลวง อีกฝ่ายเหมือนจะใช้เวทธาตุลมได้และเหมือนจะตั้งตัวเป็นคู่แข่งกับทอสด้วย แต่ทาเนียไม่สนใจหรอก คนที่โบสถ์และหัวหน้าหมู่บ้านกับภรรยาก็ออกมาส่งพวกเขาสามคนที่หน้าทางเข้าหมู่บ้าน

“นี่เป็นของเล็กน้อย ที่คนในหมูบ้านอยากจะมอบให้พวกเธอพกติดตัวไป” หัวหน้าหมู่บ้านมอบถุงเงินให้ทั้งสามไปคนละใบ

“นั่นคือเงินที่ชาวบ้านลงขันกันมาและแบ่งมาจากเงินทุนของหมู่บ้าน เพื่อให้เป็นทุนไว้ให้ผู้จะไปสอบคัดเลือกอัศวินเวทมนตร์ แต่ละถุงมีเงินอยู่ 200 บิท น่าจะพอค่ากินค่าอยู่กับค่าเดินทางในครั้งนี้” ชายวัยกลางคนอธิบายให้เด็กหนุ่มทั้งสามฟัง

“แต่ผมไม่ได้ไปคัดเลือกเหมือนสองคนนี้สักหน่อย ที่ไปเมืองหลวงด้วยก็เพราะแพ้เดิมพันลุงแค่นั้นแหละ พอไปส่งสองคนนี้ที่เมืองหลวงเมื่อไหร่ ผมก็จะไปตามทางของผมแล้ว” ทาเนียโยนถุงเงินคืนให้หัวหน้าหมู่บ้าน

“เธอแพ้แล้วนะทาเนีย เธอจะไปไหนได้ยังไง” ท้ายประโยคของคนตัวเล็กทำเอาทอสอยู่ไม่สุข รีบแย้งขึ้นในทันที

“ใช่ ฉันก็กำลังจะไปเมืองหลวงกับนายนี่ไง แต่ในเดิมพันไม่ได้บอกสักหน่อยว่าฉันต้องอยู่เมืองหลวงต่อกับนาย” เด็กหนุ่มทำท่าหน้าไม่รู้ไม่ชี้ เล่นเอาทอสหายฟึดฟัดขึ้นมาในทันที

“หึ เธอเนี่ยเจ้าเล่ห์ใช้ได้เลยนะทาเนีย” ลูกชายหัวหน้าหมู่บ้านยิ้มอย่างถูกใจ

“งั้นก็รับไว้เถอะ จะได้มีเงินใช้จ่ายในการเดินทาง” ชายวัยกลางคนส่งถุงเงินกลับไปให้เด็กหนุ่มแต่เจ้าตัวกลับไม่ยอมรับไว้

“เอาไปแบ่งให้สองคนนี้เถอะ พวกเขาเป็นความหวังของหมู่บ้านนี่” เด็กหนุ่มหันหน้าชี้ที่ร่างสูงทั้งสองที่ยืนอยู่ข้างตนก่อนจะเอ่ยต่อ

“ถ้าจะต้องใช้เงินจริง ๆ ผมพอมีวิธีของผมอยู่”

“วิธีอะไรของเธอ” ทีโอเจ้าเด็กปากเสียถามอย่างสงสัย

“ก็เอาร่างกายนี้แลกมาน่ะสิ” ร่างเล็กตอบด้วยใบหน้าอีโรติกและเอามือแตะที่ร่างกายเหมือนพยายามปกปิด ทำให้ทุกคนรอบ ๆ ใบหน้าแดงก่ำ โดยเฉพาะเด็กหนุ่มวัยเจริญพันธุ์ตัวสูงทั้งสามคน

 

โป๊ก!!

 

แล้วเจ้าทาเนียจอมทะลึ่งก็โดนหลวงพ่อเอามือทุบหัวเข้าเต็มแรง

“ใครสอนเจ้าพูดจ่าสองแง่สองง่ามแบบนี้ห้ะ!!?? เจ้าทาเนีย” บาทหลวงริโนทำหน้าโกรธสุดขีด

“ผมก็แค่แกล้งทีโอเล่นเท่านั้นเอง หลวงพ่อก็อย่าคิดมากขนาดนั้นสิ” ว่าจบก็เกาหัวไม่สนใจ

“ยังไม่สำนึก เจ้าเด็กนี่” บาทหลวงวัยกลางคนกำลังจะทุบซ้ำอีกสักที ร่างจึงเล็กรีบวิ่งไปหลบหลังซิสเตอร์เนวาอย่างรวดเร็ว

“เฮ้ออ” หลวงพ่อริโนถอนหายใจ

“แม่ทำอาหารมาให้ลูกทานระหว่างเดินทางด้วย มีของทอสกับทาเนียด้วยนะจ๊ะ” ลอลาร์ส่งกล่องข้าวไม้ให้ลูกชาย ก่อนจะส่งให้เด็กจากโบสถ์คนละกล่อง

“ขอบคุณครับป้าลอลาร์” ทอสและทาเนียก้มหัวขอบคุณเธอ

“ผมไปก่อนนะครับแม่ รอฟังข่าวดีได้เลยนะครับพ่อ” ลอเรนโซเข้าไปกอดมารดา และหันไปเอ่ยกับบิดาที่พยักหน้ารับแบบนิ่ง ๆ

“เขียนจดหมายมาหาพวกเราบ้างนะ ทาเนีย ทอส” ซิสเตอร์เนวาเอ่ยกับทั้งสองคน

“โชคดีนะคะพี่ทอส พี่ทาเนีย พี่ลอเรนโซ” มารีกล่าวอวยพร

“พวกเรารออ่านจดหมายของพวกเธออยู่นะจ๊ะ” ซิสเตอร์เฮเลนโบกมือลา

“พี่ทอสกับพี่ลอเรนโซสอบผ่านให้ได้นะครับ ส่วนทาเนียก็อย่าเป็นภาระของพี่เขาล่ะ” ทีโอก็ยังเสมอต้นเสมอปลายเช่นเดิม

หลวงพ่อริโนทำเพียงมองเด็กทั้งสองที่ตัวเขาเลี้ยงมาเดินจากไปอย่างเงียบ ๆ ตัวเขาเห็นภาพของทั้งสองคนตอนนี้ซ้อนกับภาพในวัยห้าขวบอยู่เลย เด็ก ๆ นี่โตไวกันจังนะ

 

✣✣✣✣

 

หลังจากใช้เวลาเดินทางมาหลายวันในที่สุดพวกเขาทั้งสามคนก็มาถึงที่เมืองหลวงจนได้ และพรุ่งนี้ก็เป็นวันที่จัดการคัดเลือกเลือกแล้ว ก่อนที่พวกเขาจะเข้าไปในเมืองหลวงได้ ก็ต้องให้ทหารที่เฝ้าประตูตรวจสอบข้อมูลซะก่อน แต่ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร เพราะเมื่อใกล้ถึงวันคัดเลือกอัศวินเวทมนตร์ทีไร คนก็จะแห่เข้ามาที่เมืองหลวงเป็นจำนวนมากตลอด พวกทหารจึงปล่อยให้ทั้งสามเข้าไปโดยไม่ตรวจอะไรมาก และหลังจากที่เข้ามาพวกเขาทั้งสามก็พบกับปัญหาใหญ่อีกหนึ่งปัญหา

“เหมือนโรงแรมจะเต็มหมดแล้วนะ” ลอเรนโซเอ่ยขึ้นขณะที่พวกเขากำลังเดินหาโรงแรมที่จะเข้าพักกันอยู่ แต่โรงแรมส่วนใหญ่ที่พวกเขาพอจะจ่ายไหวนั้นมีคนเข้าพักจนเต็มหมดแล้ว เหลือแต่พวกโรงแรมหรูที่พวกเขาไม่ทางจ่ายได้

“งั้นไปที่โรงแรมนั้นกัน” ร่างเล็กชี้ไปที่โรงแรมขนาดใหญ่ที่ตั้งห่างออกไปไม่ไกล

“จะบ้ารึไงทาเนีย เธอก็รู้ว่าพวกเราไม่เงินขนาดนั้นหรอก” ทอสหันมาดุทาเนีย

“โรงแรมระดับนั้นถ้าพวกเราเข้าไปคงโดนไล่ออกมาทันทีนั่นแหละ” ลูกชายหัวหน้าหมู่บ้านพูดขึ้นด้วยใบหน้าปลงตก

“ไม่เป็นไรหรอก ฉันพอมีของมีค่าอยู่ น่าจะพักได้สักคืนแหละ” ว่าจบคนตัวเล็กก็เดินนำไป

ร่างสูงทั้งสองมองหน้ากัน ได้แต่สงสัยว่าคนตัวเล็กไปหาของมีค่ามาจากไหน แต่ก็ยอมเดินตามไปโดยดี

หลังจากที่เดินเข้ามาในโรงแรมแล้ว ก็มีพนักงานรับออกมาหาทั้งสามคน แม้พวกเขาจะแต่งกายไม่ค่อยเหมาะกับสถานที่ แต่พนักงานสาวก็ใช้คำพูดกับทั้งสามอย่างสุภาพและบริการด้วยความเต็มใจ สมกับที่เป็นมืออาชีพเลย

“ยินดีต้อนรับทั้งสามท่านค่ะ มิทราบพวกท่านต้องการที่จะเข้าพักที่โรงแรมของเราใช่ไหมคะ” พนักงานต้อนรับเอ่ยเสียงหวาน

“เอ่อ คือ” ทอสกับลอเรนโซได้แต่อ้ำอึ้ง

“ใช่ครับ พี่สาว ผมขอห้องพักธรรมดาสามห้องสำหรับหนึ่งคืนครับ” ทาเนียเป็นคนตอบเธอไป

“เช่นนั้นเชิญตามดิฉันมาได้เลยค่ะ” แล้วพี่สาวพนักงานก็เดินนำทั้งสามคนไปที่เคาน์เตอร์โรงแรม

“ห้องพักธรรมดาห้องละ 300 บิท ต่อคืนค่ะ จองทั้งหมดสามห้องก็900 บิท ค่ะ” พนักงานเลื่อนกุญแจห้องมาตรงหน้าร่างเล็ก

“ผมขอจ่ายด้วยสิ่งนี้แทนเงินได้รึเปล่า” เด็กหนุ่มทำท่าหยิบบางอย่างออกจากกระเป๋า แต่จริง ๆ เอาออกมาจากไอเทมบล็อก และยื่นมันให้พนักงานโรงแรมดู

พนักงานสาวมองสิ่งที่อยู่ในมือของหนุ่ม ก่อนเบิกตากว้างแต่ก็รีบเก็บท่าทีอยากรวดเร็ว สิ่งที่อยู่บนมือของทาเนียนั้นคือเพชรสีใสบริสุทธิ์ขนาดเท่าเหรียญเล็ก ๆ หนึ่งเม็ด

“ฉันขอดูมันหน่อยได้ไหมคะ” พนักงานสาวเอ่ยขออนุญาตเพื่อนำเพชรเม็ดนั้นมาตรวจสอบ

“ได้สิครับ”

เมื่อเจ้าของ อนุญาตพนักงานสาวก็นำเพชรน้ำงามขึ้นมาดู จับมันหมุนไปมาอยู่ชั่วครู่ก็ยิ้มหวานออกมา

“สรุปใช้มันจ่ายแทนเงินได้ไหมครับ” ทาเนียถามกับเธออีกครั้ง

“ได้แน่นอนค่ะ” พนักงานสาวตอบเสียงหวาน

“เดี๋ยวจะให้คนงานมาช่วยยกสัมภาระของพวกท่านไปที่ห้องนะคะ” เธอเอ่ยตามหน้าที่

“ไม่ต้องหรอก ของพวกเรามีไม่เยอะ” เด็กหนุ่มปฏิเสธและหยิบกุญแจที่อยู่บนโต๊ะ ก่อนจะหันไปส่งให้ร่างสูงทั้งคนด้านหลังคนล่ะดอก

ทอสและลอเรนโซมองกุญแจที่ได้มาอย่างอึ้ง ๆ พวกเขาไม่คิดว่าคนตัวเล็กจะจ่ายค่าโรงแรมนี้ไหวและคงต้องไปหาที่พักอื่น แต่สุดท้ายกลับง่ายกว่าที่คิด

“แยกย้ายกันไปพักได้แล้ว” ทาเนียเอ่ยและเดินนำไปห้องของตัวเอง

พอได้โรงแรมที่จะพักเรียบร้อยแล้ว ทั้งทอสและลอเรนโซก็ต้องไปลงทะเบียนเข้าคัดเลือกอัศวินเวทมนตร์ พวกเขาต้องกรอกข้อมูลลงในใบสมัคร เกี่ยวกับที่มาและเวทที่ใช้ได้ พอผู้รับสมัครเห็นว่าทอสเป็นผู้ใช้เวทธาตุแสงก็ตกใจ และร่างสูงก็ตกเป็นที่สนใจขึ้นมาในทันที

“เสร็จแล้วเหรอ” ทาเนียเดินเข้ามาหาทั้งสองคนที่พึ่งออกมาจากจุดที่ให้ลงทะเบียน และยื่นเนื้อย่างเสียบไม้ให้ทั้งสอง

“ฉันจะพูดอีกครั้งนะทาเนีย เธอห้ามไปไหนเด็ดขาด ถ้าฉันได้เข้าเป็นอัศวินเวทแล้ว ฉันจะพาเธอไปอยู่ด้วยเอง” ตั้งแต่ที่ออกเดินทางมา ทอสก็เอาแต่พูดเรื่องนี้อยู่ตลอด

“นายสอบให้ผ่านก่อนเถอะค่อยว่ากัน” ทาเนียก็พูดตัดรำคาญ แล้วก็เดินจากไป

“ทำไมนายไม่สารภาพรักกับทาเนียเขาไปสักทีล่ะ” ลอเรนโซเดินเข้ามาถามคู่แข่งของตนเอง

“ฉันจะทำหลังจากที่ได้เป็นอัศวินเวทมนตร์แล้ว นายก็เหมือนกันไม่ใช่เหรอ” ทอสเอ่ยตอบและมองคนที่เป็นเหมือนคู่แข่งตาขวาง หมอนี่เองก็ชอบทาเนียเหมือนเขา ร่างสูงเลยรู้สึกไม่ค่อยชอบหน้าอีกฝ่ายเท่าไหร่

“จะบอกไว้ก่อนนะ ว่าทาเนียน่ะเป็นของฉัน” ทอสพูดเสียงนิ่งและแผ่รังสีน่ากลัวออกมา

“เรื่องนี้ต้องให้เจ้าตัวเขาตัดสินหรือเปล่า นายไม่มีสิทธิ์บังคับทาเนียสักหน่อย” ลอเรนโซพูดโต้กลับและจ้องตาอย่างไม่ยอมแพ้

สุดท้ายทั้งสองก็ต้องเดินกลับโรงแรมด้วยกัน เพราะตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาที่ต้องลงไม้ลงมือ

ด้านทาเนีย เจ้าตัวยังเดินอยู่ในเมืองหลวง ไปตามร้านแผงลอยที่ขายอาหารอย่างสนอกสนใจ แต่เดินไปได้สักพักกมีคนเข้ามาหาเรื่องจนได้

“นี่ คนสวยสนใจไปเที่ยวกับพวกพี่ไหมจ๊ะ” กลุ่มชายไม่น่าไว้ใจสามคนเดินเข้าคุกคามร่างเล็ก

“ไม่ล่ะ ขอตัว” เด็กหนุ่มปฏิเสธอย่างไร้เยื่อใยและจะเดินหนี แต่โดนดักหน้าเอาไว้

“เถอะน่า ได้ไปเดทกับว่าที่อัศวินเวทมนตร์เลยนะ” ทั้งสามคนพูดออกมาอย่างมั่นใจ และเริ่มฉุดแขน ร่างเล็กให้เดินตามไป ไม่มีใครคิดเข้ามาช่วยเพราะไม่อยากจะมีเรื่อง ทาเนียเตรียมจะเตะพวกมันให้กระเจิง แต่เขาก็ถูกใครบางคนดึงเข้าไปหลบด้านหลังซะก่อน

“น้ำหน้าอย่างพวกแกน่ะเหรอจะไปเป็นอัศวินเวท อย่าให้ฉันเห็นหน้าพวกแกตอนคัดเลือกพรุ่งนี้ ไม่งั้นพวกแกไม่รอดแน่” ขายที่มายืนบังทาเนียเอ่ยกับพวกกุ๊ยพวกนั้น

พวกมันสามคนที่เห็นว่าคนที่เข้ามาช่วยเด็กหนุ่มเป็นใครก็ตกใจกลัวจนหน้าซีด รีบกล่าวขอโทษและวิ่งหนีไปทันที

“ข ขอโทษคร้าบบบบ” ว่าจบสามกุ๊ยก็โกยแบบไม่คิดชีวิต ชายคนนั้นก็หันกลับมาหาร่างเล็ก

“ไม่เป็นไรใช่ไหม” ชายร่างสูงโปร่งหันมาถามเด็กหนุ่ม

ทาเนียพิจารณาว่าคนตรงหน้าคือใคร อีกฝ่ายใส่หน้ากากสีขาวล้วนปิดบังใบหน้า สวมใส่เสื้อเนื้อดี และใส่ผ้าคลุมสีทองบนไหล่และมีเข็มกลัดรูปดาวแปดแฉกติดอยู่ที่อกด้านซ้าย

“คุณคือหัวหน้าสังกัดหน่วยอัศวินกลุ่มดาวนำทางงั้นเหรอ” ทาเนียเอ่ยถามชายหนุ่มไปตามตรง

แม้อีกคนจะใส่หน้ากากปิดบังใบหน้าอยู่ แต่ร่างเล็กก็สังเกตได้ว่าเขาชะงักไปชั่วครู่หนึ่ง แล้วอีกฝ่ายก็เอ่ยตอบกลับมา

“ใช่ เธอก็มาคัดเลือกเหมือนกันงั้นเหรอ” ชายหนุ่มตัวสูงถามกลับ

“เปล่า เพื่อนผมต่างหากมีคนหนึ่งใช้เวทธาตุแสงด้วยนะ ส่วนอีกคนก็เป็นผู้ใช้ลมที่เก่งกาจ” ร่างเล็กกล่าวถึงร่างสูงทั้งสองคนที่ไม่ได้อยู่ตรงนี้ด้วย

“อืม…ได้ยินมาจากผู้ที่รับสมัครว่าปีนี้มีผู้ที่ใช้เวทแสงสว่างมาสอบคัดเลือกด้วย เป็นเพื่อนของเธอเองสินะ” ชายหนุ่มเอามือกุมใต้คางครุ่นคิด

“ขอบคุณมากนะครับที่เข้ามาช่วย งั้นผมขอกลับโรงแรมก่อนดีกว่า” ตอนนี้ร่างเล็กหมดอารมณ์เดินเที่ยวต่อแล้ว จึงกล่าวขอบคุณร่างสูง เดินกลับไปที่โรงแรม

หัวหน้าสังกัดกลุ่มดาวนำทางก็มองตามหลังเด็กหนุ่มไป เพราะตัวเขารู้สึกได้ว่าเด็กคนนี้มีบางอย่างที่ซ่อนไว้อยู่ และรู้สึกสนใจขึ้นมาเล็กน้อย

“การคัดเลือกพรุ่งนี้คงต้องสนุกแน่ ๆ” ชายหนุ่มพูดออกมาเบา ๆ และมุ่งไปยังจุดหมายของตนบ้าง

 

✣✣✣✣

 

วันต่อมาการคัดเลือกก็ได้จัดขึ้น ที่โคลอสเซียมใจกลางเมือง ผู้เข้าสมัครหลายร้อยคนกำลังทยอยเข้าไปที่ด้านใน ด้านนอกโคลอสเซียม ก็มีร้านค้ามากมายมาเปิดแผงขายของกัน และในงานคัดเลือกก็อนุญาตให้คนภายนอกเข้าไปดูได้ด้วย ร่างเล็กจึงได้มานั่งดูที่อัฒจันทร์ด้านบน รอไม่นานพวกหัวหน้าสังกัดทั้งเจ็ดก็เข้ามาที่อัฒจันทร์อีกฝั่งหนึ่งที่จัดไว้เฉพาะ เป็นสัญญาณว่าการคัดเลือกอัศวินเวทมนตร์กำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว