หลังจากที่ตัวเขาสิ้นอายุขัยจากโลกเดิม ก็ถูกส่งให้ไปเกิดใหม่ในโลกแฟนตาซี แห่งดาบและเวทมนตร์ แต่ตัวเขาดันไม่มีพลังเวทเนี่ยสิ แต่พระเจ้าก็ใจดีให้ความสามารถสุดโกงกับเขามา
ชาย-ชาย,แฟนตาซี,ผจญภัย,18+,boy love ,ฮาเร็มชาย,ฮาเร็ม,ปีศาจ,เวทมนตร์,เกิดใหม่ ,ต่างโลก,ผจญภัย,แฟนตาซี,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
พระเจ้าให้เกิดใหม่เป็นเด็กที่ใช้เวทมนตร์ไม่ได้ซะงั้นหลังจากที่ตัวเขาสิ้นอายุขัยจากโลกเดิม ก็ถูกส่งให้ไปเกิดใหม่ในโลกแฟนตาซี แห่งดาบและเวทมนตร์ แต่ตัวเขาดันไม่มีพลังเวทเนี่ยสิ แต่พระเจ้าก็ใจดีให้ความสามารถสุดโกงกับเขามา
ตัวของเขาใช้ชีวิตอยู่คนเดียวจนแก่ชราและจากไปอย่างเดียวดาย ไม่มีทั้งเพื่อนและครอบครัว เขาทั้งเหนื่อยและไม่อยากใช้ชีวิตต่ออีกแล้ว แต่พระเจ้าดันส่งให้เขาไปเกิดที่อีกโลก แล้วที่สำคัญโลกนี้ก็วัดคุณค่าของผู้คนกันที่พลังเวท แต่ตัวเขาดันไม่มีพลังเวทเนี่ยสิ พระเจ้าเล่นตลกอะไรอยู่!!!! แถมยังให้เขามาเกิดเป็นเด็กกำพร้าเหมือนที่โลกก่อนเปี๊ยบ
✣✣✣✣
ธาตุของเวทมนตร์ คนแต่ละคนจะมีธาตุที่เหมาะแก่ตนเอง ซึ่งมีอยู่หลากหลายโดยพื้นฐานจะเป็น
ดิน
น้ำ
ลม
ไฟ
สายฟ้า
แสงสว่าง
ความมืด
✣✣✣✣
สกุลเงินที่ใช้กัน บิท
1 เหรียญเหล็กิ 1 บิท
1 เหรียญทองแดง 10 บิท
1 เหรียญเงิน 100 บิท
1 เหรียญทอง 1,000 บิท
1 เหรียญทองใหญ่ 10,000 บิท
1 เหรียญทองคำขาว 100,000 บิท
****Warning****
นิยายเรื่องนี้เกิดจากจินตนาการของผู้เขียน พฤติกรรมของตัวละครต่างๆ ในเรื่องถูกสร้างขึ้นมาเพื่อความบันเทิง ขอผู้อ่านโปรดใช้วิจารณญาณ
ปล.ฝากติดตาม X กับ Tiktok ของไรท์ด้วยนะครับ
บทที่ 9
เมื่อตอนเช้ามาถึง เอ็ทเวิร์ดรีบแต่งตัวด้วยความรวดเร็วและลงมาด้านล่างเพื่อคุยกับเด็กหนุ่มที่ไปเห็นภาพที่ไม่ควรของเขา แต่พอลงมาก็ไม่พบอีกฝ่ายแล้ว เมื่อร่างสูงเดินเข้ามาดูในห้องครัวก็เห็นถ้วยไม้ที่มีอาหารหอมกรุ่นใส่เอาไว้และกระดาษบางอย่างถูกทับอยู่ด้านใต้ เขารีบเดินไปหยิบมันขึ้นมาอ่านในทันที
‘ผมจะไปหาภารกิจทำที่กิลด์ก่อนนะครับ ผมทำโจ๊กกับน้ำเต้าหู้ไว้ให้ด้วย อย่าลืมทานนะครับ’
“เฮ้อ” ร่างสูงถอนหายใจก่อนจะยิ้มออกมาอย่างโล่งใจ อย่างน้อยเด็กหนุ่มคงไม่ได้โกรธเขาเรื่องเมื่อคืน ก่อนจะนั่งลงทานอาหารเช้าที่ร่างเล็กทำไว้ให้ตน
พอทานอาหารจนเกลี้ยงจานร่างสูงก็รีบตรงไปที่กิลด์ในทันที
“ตอนนี้ทาเนียเขาอยู่ไหนแล้ว” เอ็ทเวิร์ดเดินตรงไปถามหาทาเนียกับพนักงานของกิลด์อย่างไม่รีรอ
“เอ่อ…” พนักงานสาวมีสีหน้างุนงงเล็กน้อยก่อนจะรีบเอ่ยตอบมาสเตอร์ของตน
“อ๋อ ตอนนี้เขารับภารกิจล่าออร์คไปทำน่ะค่ะ ออกไปได้สักพักแล้วด้วย”
เอ็ทเวิร์ดพยักหน้ารับ ก่อนจะทิ้งคำสั่งไว้กับพนักงานสาว
“ถ้าเด็กคนนั้นกลับมาเมื่อไหร่ ก็ให้มาพบฉันด้วย ฉันมีเรื่องจะคุยกับเขา”
“ค่ะ” เธอตอบรับคำสั่ง เอ็ทเวิร์ดจึงขึ้นไปที่ห้องทำงานของตนบ้าง
✣✣✣✣
ทาเนียลั่นไกปืนลูกซองเข้ากลางหน้าของเจ้าออร์คที่กำลังถือกระบองไม้ยักษ์เข้ามาหาเขา ร่างขนาดใหญ่เกือบ 20 ฟุต ที่ไร้หัวหงายหลังกองลงไปกับพื้น พวกออร์คตัวอื่นก็มีท่าทีผงะไป เมื่อเห็นเพื่อนตัวเองโดนมนุษย์ตัวเล็กจัดการลงอย่างง่ายดาย
กรร์
เจ้าอสูรหน้าหมูที่ดูจะเป็นหัวหน้า คำรามข่มขู่ร่างเล็ก ด้วยโกรธสุดขีด ก่อนจะพุ่งตัวเข้ามาด้วยความเร็วสูง หมายจะเอากระบองหินในมือฟาดร่างเด็กหนุ่มให้แหลก
ทาเนียไม่ได้มีทีท่าที่จะหลบมันเลยแม้สักนิด ร่างเล็กใช้มือเปล่ารับท่อนหินที่ขนาดใหญ่กว่าตัวเองหลายเท่าได้อย่างง่ายดายและไม่สั่นไหว
“โคลเอ้จัดการ” ร่างเล็กเอ่ยเสียงเรียบ
ง้าว!!!
เจ้าแมวดำกระโจนออกจากร่างของเจ้านาย และวิ่งไต่ไปตามกระบองยักษ์ที่เชื่อมไปหาเจ้าออร์คนายพล ก่อนจะง้างอุ้งเท้าหน้าของตนเผยให้เห็นกรงเล็บคม ข่วนเข้าที่ใต้ตาชวาของมันอย่างจัง
กร๊าสส
เจ้าหมูที่ร่างเป็นคนร้องด้วยความเจ็บปวดและล่าถอยไป โคลเอ้ทิ้งตัวลงมายืนที่พื้น ก่อนจะพองขนและส่งเสียงขู่ พวกออร์ค แผลที่เจ้าแมวดำสร้างไว้บนหน้าของออร์คนายพลนั้นมีไอสีดำแผ่ออกมา ดูท่าว่าจะทิ้งผลลัพธ์คำสาปเอาไว้ด้วย
“นี่ แกลืมเอาไว้น่ะ” ทาเนียเอ่ยกับเจ้าออร์คนายพลที่เสียตาไปข้างหนึ่งและโยน กระบองหินกลับคืนมันไป
กร๊าส!!
กระบองท่อนนั้นโดนร่างของมันเต็ม ๆ ทำให้ตัวมันกระเด็นไปชนกับพรรคพวกของมันที่ยืนอออยู่ที่ด้านหลัง จนล้มระเนระนาด กระจายไปคนละทาง
ง้าว!!
เจ้าโคลเอ้สร้างลูกไฟสีม่วงขึ้นมารอบตัวเองนับสิบลูก ก่อนจะบังคับพวกมันให้โจมตีใส่พวกออร์ค
กร๊าสสสส!!
มอนเตอร์ร่างยักษ์กรีดร้องและวิ่งหนีอย่างไม่มีทิศทาง และถูกไฟวิญญาณของเจ้าแมวดำแผดเผาจนตายในที่สุด จะเหลือก็แต่เพียงออร์คนายพลที่เป็นหัวหน้าอีกแค่ตัวเดียว
อสูรหมูใช้มือยันพื้นลุกขึ้นยืน แม้จะสูญเสียดวงตาไปข้างหนึ่ง มันใช้ดวงตาข้างเดียวที่เหลือมองมาที่เด็กหนุ่มด้วยความแค้น
กรร์!!
ออร์คนายพลพุ่งเข้าใส่ทาเนีย ยื่นมือทั้งสองออกมาด้านหน้าหมายจะจับร่างเล็กเอาไว้ให้ได้ แต่แล้วร่างใหญ่ยักษ์ก็ต้องยื่นนิ่งและไม่สามารถขยับไปไหนได้ ถ้าสังเกตดูให้ดีจะเห็นว่าของมันนั้นมีเส้นใยเล็ก ๆ รัดไว้อยู่จำนวนมาก และยิ่งตัวมันขยับเส้นใยเหล่านั้นก็ยิ่งรัดมันแน่นมากขึ้นเรื่อย ๆ จนมันเริ่มจะหายใจไม่ออก
“อีกไม่นานเดี๋ยวแกก็จะถูกใยพวกนี้สับจนแหลกเป็นชิ้น ๆ แล้ว” ทาเนียเดินเข้าไปใกล้ออร์คนายพลอย่างไม่มีความเกรงกลัว
“แต่ว่านะ แบบนั้นเลือดแกคงเลอะไปทั่วแน่ ๆ เอาแบบนี้ดีกว่า โคลเอ้” เด็กหนุ่มตะโกนเรียกอสูรรับใช้
แง้ว!!
เจ้าเหมียวรับรู้ความต้องการของเจ้านาย รีบวิ่งเข้าไปทางเจ้าออร์ค ก่อนง้างกรงเล็บที่ห่อหุ้มไปด้วยพลังเวทโจมตีเข้าที่กลางอกของเจ้าหมูยักษ์อย่างจัง เกิดแผลขนาดใหญ่เป็นรูปรอยข่วน และทิ้งไอสีดำเอาไว้เหมือนที่เจ้าเหมียวข่วนที่ตาของเจ้าออร์ค
กร๊าส!!
ออร์คนายพลส่งเสียงอย่างเจ็บปวดเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะแน่นิ่งไป และเมื่อเด็กหนุ่มคลายสกิลใยเทวะออก ร่างของมันก็ลงไปกองกับพื้นในทันที
ตุบ!!
เด็กหนุ่มเดินเข้าไปใช้ปลายเท้า แตะร่างเจ้าออร์คนายพลเบา ๆ ที่จริงเขาก็รู้ว่ามันตายแล้วจากแจ้งเตือนค่าประสบการณ์และไอเทมดรอปจากระบบนั่นแหละ แต่อยากทำเฉย ๆ
Purrrr
เจ้าแมวดำส่งเสียงเพอร์และเอาหัวถูกกับขาของเจ้านาย จนร่างเล็กทนไม่ไหวต้องอุ้มมันจขึ้นมาแนบอกและลูบหัวให้เจ้าเหมียว
“รอฉันกำจัดร่างพวกออร์คให้เสร็จก่อน แล้วจะทำมื้อเที่ยงให้นะ” เด็กหนุ่มเอ่ยกับเจ้าแมวดำอย่างอ่อนโยน โคลเอ้อ้าปากหาวอย่างเกียจคร้านและกลายเป็นลูกไฟกลับเข้าไปอยู่ในร่างของทาเนีย
เด็กหนุ่มใช้ปืนลูกซองแตะไปที่ร่างของนายพล ก่อนจะเริ่มใช้สกิลผู้ย่อยสลาย
ผู้ย่อยสลาย:ย่อยสลายซากที่ไม่ต้องการใช้แล้ว และแลกเปลี่ยนเป็นค่าประสบการณ์ เงินตรา ไอเทม ฯลฯ
ร่างขนาดใหญ่ก็ค่อย ๆ กลายเป็นอณูสีดำเล็ก ๆ ในไม่กี่วินาที แล้วเสียงแจ้งเตือนของระบบก็ดังขึ้น
/ได้รับค่าประสบการณ์ 5500 แต้ม/
เพราะแบบนี้นอกร่างเล็กจะได้ ค่าประสบการณ์กับไอเทมจากการสังหารสัตว์อสูรแล้ว ยังสามารถได้เพิ่มจากการใช้สกิลผู้ย่อยสลายอีกต่อหนึ่ง ทำให้ในช่วงแรก ๆ ที่ได้เข้ามาใช้งานระบบนั้นสามารถเลื่อนเลเวลได้หลายระดับอย่างง่าย ๆ นับว่าคิดถูกใช้สกิลพ้อยแลกมาตั้งแต่แรก
หลังจากนั้นทาเนียก็จัดการกับซากของพวกมอนเตอร์หมูเสร็จในเวลาไม่นาน และก็เดินทางกลับไปที่เมืองลูซเพื่อ เอาภารกิจไปรายงานและรับรางวัล แต่ก่อนหน้านั้นร่างเล็กต้องแวะเตรียมอาหารให้เจ้าเหมียวก่อน จึงได้ไปที่โบสถ์และฝากเจ้าแมวดำไว้กับโรส เด็กหญิงที่เขาช่วยเอาไว้ ส่วนตัวเขาก็ไปส่งภารกิจที่กิลด์ โดยที่ก่อนจะจากมาไม่ลืมเทอาหารชามใหญ่ไว้ให้เจ้าโคลเอ้
เมื่อถึงกิลด์นักผจญภัย ร่างเล็กก็ตรงไปที่โต๊ะประสัมพันธ์ ก่อนจะส่งใบภารกิจกับถุงที่เต็มไปด้วยเขี้ยวของออร์คที่ใช้เป็นหลักฐานว่าทำเควสสำเร็จ
พนักงานของกิลด์รับถุงเขี้ยวออร์คไปตรวจเช็กอยู่สักพัก ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาเอ่ยกับทาเนีย
“เรียบร้อยดีค่ะ เขี้ยวออร์คธรรมดา 40 ชิ้น ชิ้นละ 50 บิท เขี้ยวออร์คนายพล 1 ชิ้น ชิ้นละ 500 บิท รวมเป็นเงินทั้งหมด 2500 บิทค่ะ คะแนนที่จะได้จากการทำภารกิจสำเร็จในครั้งนี้ก็คือ 96 แต้มและคะแนนพิเศษจากการกำจัดออร์คนายพลอีก 25 แต้มค่ะ” หลังจากกล่าวจบพนักงานสาวก็หันไปเพื่อที่จะเตรียมเงินรางวัลให้เขา
ในกิลด์นักผจญภัยจะเลื่อนแรงค์ขึ้นได้ ด้วยการเก็บคะแนน ถ้าทำภารกิจจนคะแนนถึงเกณฑ์แรงค์ก็จะอัพ และจะสามารถรับภารกิจที่ยากและเงินรางวัลสูงขึ้นได้ ตอนนี้ทาเนียอยู่แรงค์เงิน ต้องสะสมคะแนนทั้งหมด 10000 แต้ม ถึงจะเลื่อนไปเป็นแรงค์ทองคำ วันนี้เขารับงานกำจัดออร์คมาทำ ซึ่งได้คะแนนเยอะที่สุดในแรงค์เงิน กำจัด ออร์ค 5 ตัว ได้12 คะแนน เขากำจัดไปมากกว่าที่ภารกิจกำหนดไว้ จึงต้องคูณเข้าไปด้วยและยังได้คะแนนเพิ่มจากออร์คนายพลอีก แต่ยังต้องเก็บอีกนานอยู่ดีกว่าจะอัพแรงค์ได้
“นี่ค่ะ เงินรางวัลใน ครั้งนี้” พนักงานกิลด์นำถุงเงินรางวัลมาวางให้กับเขา ร่างเล็กทำทีเก็บมันลงในกระเป๋าสะพาย ก่อนจะนำมันเข้าไปในไอเทมบล็อกอย่างแนบเนียน
แต่ก่อนที่เขาจะออกไปจากกิลด์ พนักงานสาวที่เขาได้เจอตั้งแต่วันแรกเข้ามาทัก
“เดี๋ยวก่อนทาเนีย”
“มีอะไรหรือครับ” ทาเนียหันไปตามเสียงเรียก
“พอดี มาสเตอร์บอกว่าถ้าเธอกลับมาจากทำภารกิจแล้ว ให้เรียกไปพบที่ห้องน่ะจ้ะ” เธอกล่าวสิ่งที่มาสเตอร์ได้ฝากเอาไว้ ก่อนจะกลับไปทำงานของตัวเองต่อ
ทาเนียแสดงสีหน้าสงสัย หรือว่าอีกฝ่ายยังโกรธเขาที่ไปเห็นภาพที่ไม่สมควรของเจ้าตัวเมื่อคืน แต่เขาทำอาหารเช้าขอโทษไปแล้วนะ
เด็กหนุ่มเดินขึ้นมาห้องทำงานของร่างสูงที่อยู่ชั้นสองและ เคาะประตูเพื่อขออนุญาตคนด้านใน
ก๊อก ก๊อก
“เข้ามา” พอได้ยินเสียงตะโกนตอบ เด็กหนุ่มจึงได้เป็นเข้าไป
เอ็ทเวิร์ดเมื่อเห็นว่าเป็นร่างเล็กก็นั่งตัวตรงขึ้นมาทันที ก่อนรีบเอ่ยทักอะไรสักอย่างออกมา
“กลับมาเร็วจังเลย นึกว่าเธอจะกลับมาตอนเย็นเลยซะอีก” ออร์คเป็นสัตว์อสูรที่มีความยากในการกำจัดระดับกลาง และมันมักจะอยู่รวมกันเยอะ ทำให้ต้องใช้เวลาในการล่าพอสมควร แต่นี่พึ่งจะเที่ยงเด็กหนุ่มก็กลับมาแล้ว แต่ภาพตอนที่เขาเห็นอีกฝ่ายตอบสังหารก็อบลินด้วยระเบิดเพลิงแวบเข้ามา ก็เลิกสงสัย
“ครับ” เด็กหนุ่มตอบรับ ยังยืนนิ่งอยู่ตรงประตูเพราะร่างสูงยังไม่ได้เชิญเข้านั่ง
ชายวัยกลางคนรับรู้ได้จึงได้รีบ ผายมืออนุญาตเด็กหนุ่ม
“อ เอ่อ นั่งก่อนสิ โทษทีนะ”
พอเด็กหนุ่มนั่งที่ตรงข้ามกับเขาเรียบร้อยแล้ว เอ็ทเวิร์ดก็ได้เอ่ยขึ้น
“เมื่อเช้าขอบคุณมากเลยนะที่ทำอาหารไว้ให้”
ทาเนียพยักหน้ารับโดยที่ไม่พูดอะไร
“เรื่องเมื่อคืน เอ่อ คือว่า ฉันน่ะ จริง ๆ แล้ว” ร่างสูงอยากจะอธิบายเรื่องเมื่อคืน แต่ไม่รู้จะเริ่มยังไงดี แต่ร่างตรงน่าก็ชิงขอโทษเขาขึ้นมาซะก่อน
“ขอโทษครับ เมื่อคืนผมได้ยินคุณร้องตะโกนเสียงดัง คิดว่ามาสเตอร์อาจจะล้มก็เลยพังประตูเข้าไป แต่ไม่คิดว่าจะกำลัง….” เสียงของร่างเล็กเงียบลงไปและหน้าขึ้นสีแดงระเรื่อ
“เธอจะมาขอโทษฉันทำไม ต้องเป็นฉันต่างหากที่ขอโทษน่ะ เธอคงตกใจน่าดูเลยขอโทษจริง ๆ นะ” กิลด์มาสเตอร์รีบยกมือห้าม ก่อนจะรีบพูดขอโทษออกไปบ้าง
“มาสเตอร์ไม่ต้องห่วงหรอกนะครับ เดี๋ยววันนี้ผมจะไปหาค้างแทนแล้ว ขอบคุณนะครับทีเมื่อคืนให้ผมนอนที่บ้าน” เด็กหนุ่มเอ่ยกับร่างสูงด้วยความรู้สึกเกรงใจ
“ไม่ได้!!” เอ็ทเวิร์ดเผลอพูดออกมาเสียงดัง ก่อนจะรีบปรับท่าทีลง
“เธอจะย้ายไปที่อื่นทำไมล่ะ ระหว่างอยู่ที่เมืองนี้ ก็พักที่บ้านพักที่บ้านฉันไปนั่นแหละ หรือว่าเธอรังเกียจอย่างนั้นเหรอ” ชายสูงวัยแสร้งพูดเสียงเบาเหมือนรู้สึกไม่ดี
“เปล่านะครับ ผมเข้าใจว่าเรื่องพวกนี้มันเป็นเรื่องธรรมชาติ” ร่างเล็กรีบเอ่ยปฏิเสธ เขาก็ผู้ชายเหมือนกันจะไปรังเกียจอะไรล่ะ เมื่อก่อนเขายังเคยเปิดประตูไปเจอทอสช่วยตัวเองกับปลอกหมอนเขาเหมือนกัน แล้วหมอนั้นก็หลบหน้าเขาอยู่สักพักเลย แต่พอบอกไปว่าเขาไม่ได้โกรธอะไรก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม
“ก็เอาเป็นว่า เธอมาพักอยู่ที่บ้านฉันเหมือนเดิมนั่นแหละ “กิลด์มาสเตอร์ของนักผจญภัยพูดอย่างมัดมือชก
“แล้ว....เธอส่งภารกิจเรียบร้อยแล้ว วันนี้จะไปทำอะไรต่อเหรอ” ร่างสูงเอ่ยถามต่อเพื่อให้เบี่ยงประเด็นออกจากเรื่องนี้
“อ๋อ เอ่อ ผมจะไปช่วยงานที่โบสถ์ต่อครับ พวกซิสเตอร์เนวาค่อนข้างจะยุ่งมาก ๆ เลยขอให้ผมไปช่วยสอนหนังสือเด็ก ๆ น่ะ” พวกเด็กกำพร้ามีจำนวนเยอะกว่า พวกซิสเตอร์ผู้ดูแล ทำให้บางที่ก็ดูแลได้ไม่ทั่วถึง เพราะงั้นในระหว่างที่เขาอยู่ที่ลูซก็อยากจะช่วยเท่าที่ช่วยได้
“สอนหนังสือ?” ชายวัยกลางคนเลิกคิ้วด้วยความแปลกใจ
“ไม่ใช่สอนเวทมนตร์หรอกครับ แค่สอนอ่านเขียนทั่วไปนั่นแหละ” ทาเนียอธิบาย
“งั้นฉันไปด้วยก็แล้วกัน” เอ็ทเวิร์ดเอ่ย ก่อนจะเก็บเอกสารทั้งหมดบนโต๊ะลงและลุกขึ้นยืน
“เอ๊ะ! แล้วงานที่กิลด์ล่ะครับมาสเตอร์” ร่างเล็กทำหน้าตกใจที่ร่างสูงจู่ ๆ ก็ทิ้งงานเสียดื้อ ๆ
“ฉันจัดการเอกสารทั้งหมดของวันนี้เสร็จแล้ว จะเลิกงานเร็วหน่อยก็ไม่เป็นไรหรอก ไปกันเถอะ” ร่างสูงเดินเข้ามาดันหลังของเด็ก และพากันออกไปจากกิลด์นักผจญภัย
✣✣✣✣
ทาเนียสอนให้เด็ก ๆ อ่านและเขียนตัวอักษรของโลกนี้ ก่อนจะเริ่มให้เขียนเป็นประโยคและนำอ่านให้เพื่อน ฟังหน้าชั้นเรียน ซึ่งเด็ก ๆ ทุกคนก็ทำได้อย่างไม่มีปัญหาอะไร แม้จะมีเด็กบางคนที่ยังติดขัดอยู่บ้างแต่ถ้าฝึกอ่านเขียนต่อไปเรื่อย ๆก็จะทำได้ดีขึ้นเอง และหลังจากจบชั่วโมงของเด็กหนุ่มแล้ว เอ็ทเวิร์ดจึงอาสามาสอนใช้เวทมนตร์เบื้องต้นต่อ จึงได้ขออนุญาตซิสเตอร์เนวา พาพวกเด็กกำพร้าออกไปที่ป่านอกเมือง ด้วยความที่มีกิลด์มาสเตอร์ของกิลด์นักผจญภัยไปด้วย จึงสามารถมั่นใจในความปลอดภัยได้ในระดับหนึ่ง เธอจึงอนุญาตอย่างไม่มีปัญหา
พอถึงที่ป่าใกล้ ๆ กับเมืองลูซนักผจญภัยทั้งสองก็เช็กให้แน่ใจว่าไม่มีมอนเตอร์ที่อันตรายอยู่แถวนี้ เอ็ทเวิร์ดขอให้ร่างเล็กเอาพวกเป้าซ้อมยิงไปผูกไว้กับต้นไม้ ก่อนจะหันมาพูดกับเหล่าเด็ก ๆ
“เอาล่ะ ๆ แม้พวกเธอหลาย ๆ คนจะรู้อยู่แล้ว แต่ฉันจะขอทบทวนอีกที การที่เราจะปลดปล่อยเวทมนตร์ออกมาได้นั้น ก็ต้องเริ่มจากโคจรพลังเวทให้ไหลไปทั่วทั้งร่าง นึกถึงรูปลักษณ์ที่เป็นรูปธรรมของเวทที่จะใช้แล้วก็ปล่อยออกมา ถ้าฝืนปล่อยเวทออกมาเลยโดยไร้ซึ่งการโคจรพลังมานาภายในร่างล่ะก็ จะทำให้เวทนั้นขาดความเสถียรและผลลัพธ์ที่แล้วร้ายก็จะตามมา ฉะนั้นจะต้องจดจำเรื่องนี้เอาไว้ให้ขึ้นใจ วันนี้เราจะฝึกยิ่งพลังเวทกัน ฉันจะทำให้ดูก่อน พวกเธอทุกคนก็ดูและจดจำเอาไว้ล่ะ” ว่าจบร่างสูงก็เดินไปตรงหน้าเป้ายิง ที่อยู่ห่างหลายเมตร
กิลด์มาสเตอร์มากประสบการณ์ เริ่มทำตามสิ่งที่เขาเพิ่งจะสอนพวกเด็กกำพร้าไป ร่างสูงยกมือขึ้นข้างและแบออกไปทางเป้าซ้อม มวลน้ำเริ่มมารวมตัวกันบนฝ่ามือของเขาเป็นลูกกลม ๆ และมีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ และในชั่วพริบตามันก็พุ่งออกจากมือของเอ็ดเวิร์ด ตรงไปทางเป้ายิง
ตู้ม!!!!!
กระสุนน้ำของกิลด์มาสเตอร์เข้าตรงกลางเป้าซ้อมยิงอย่างจัง ทำให้ทั่วบริเวณนั้นเปียกปอนไปทั้งหมด
“ปรบมือให้คุณเอ็ทหน่อยเร็วเด็ก ๆ” ทาเนียเอ่ยกับพวกเด็กที่โบสถ์ เพียงเท่านั้นทุกคนก็ปรบมือชื่นชมร่างสูงกันเสียงดัง และเด็กผู้ชายหลาย ๆ คนก็แสดงท่าทางตื่นเต้นอย่างชัดเจนที่จะได้ฝึกใช้เวทมนตร์แบบจริงจังครั้งแรก ทำเอาชายร่างยักษ์แอบหน้าแดงไปนิดหน่อย
“ฮะแฮม มาเริ่มฝึกกันได้แล้ว ลุกขึ้นมาเข้าแถว” เอ็ทเวิร์ดกระแอมแก้เขิน ก่อนสั่งให้พวกเด็ก ๆ มาเข้าแถว
เป้ายิงมีทั้งหมดสามเป้า พวกทาเนียจึงให้พวกเด็ก ๆ เข้าแถวตอนลึกสามแถวและผลัดกันยิงพลังเวทให้เข้าเป้า ในครั้งแรก ๆ เด็กทุกคนก็ยังไม่มีใคร ยิ่งเวทมนตร์ให้ไปถึงเป้าซ้อมได้เลย กระสุนเวทเหล่านั้นมักจะสลายไปก่อน ด้วยความที่พวกเด็ก ๆ ยังใส่พลังเวทลงไปไม่มากพอและยังควบคุมให้เสถียรไม่ได้ แต่ก็ยังไม่มีใครคิดถอดใจ จดจำเอาข้อผิดพลาดของตัวเองมาแก้ไข และพยายามทำให้ดียิ่งขึ้น ทำให้รอบต่อ ๆ มาเริ่มมีเด็กบางคนยิ่งถูกเป้าได้บ้างแล้ว แม้ว่าจะไม่เข้ากลางเป้าอย่างจังเหมือนกิลด์มาสเตอร์ร่างใหญ่ แต่สำหรับเด็กวัยเท่านี้ก็นับว่าเก่งมากแล้ว จากนั้นเด็กคนอื่น ๆ เองก็สามารถยิงเวทมนตร์โดนเป้าได้มากขึ้นเรื่อย ๆ จนสนุกกันใหญ่ แล้วเริ่มแข่งกันยิ่งให้เหมือนที่เอ็ทเวิร์ดทำ
“อ๊า เวทของหนูแตกไปอีกแล้ว” โรส เด็กหญิงที่ทาเนียเคยช่วยเอาไว้บ่นออกมาเสียงดัง และทำหน้าพร้อมจะร้องไห้ออกมาได้ทุกเมื่อ เพราะลูกบอลพลังเวทที่เธอสร้างนั่นสลายไปต่อหน้า
“ไม่เป็นไรหรอกโรส เดี๋ยวลองไหมก็ได้” ทาเนียเดินเข้าไปปลอบใจเด็กหญิง และพาไปต่อแถวด้านหลัง
“เพราะหนูมีพลังเวทอยู่น้อย เลยมีพลังไม่พอที่จะคุมให้เวทมนตร์คงที่ได้ ตอนที่ถูกจับตัวไปถึง…” โรสเอ่ยอย่างเศร้าใจ พลางนึกไปนึกคำพูดของโจรลักพาตัวที่บอกว่า คนที่พลังเวทน้อยอย่างเธอมันไร้ค่า จึงได้ถูกพ่อแม่ทอดทิ้ง
“พลังเวทน้อยหรือมาก มันไม่ได้สำคัญหรอกน่า ขนาดพี่ที่ไม่มีพลังเวทเลย ยังสามารถต่อสู้กับผู้ที่มีพลังเวทสูง ๆ ได้เลย” ทาเนียเอ่ยปลอบใจเด็กหญิง พลางลูบหัวเธอไปด้วย เจ้าโคลเอ้ก็ออกมาเอาหัวถูไถกับขาของเด็กหญิงเพื่อให้เธอรู้สึกดีขึ้น
“เอ๋ พี่ทาเนียไม่พลังเวทอยู่เลยเหรอคะ” โรสเบิกตากว้างด้วยความตกใจ ถ้าพี่ทาเนียไม่มีพลังเวทเลย แต่ยังสามารถช่วยเธอออกมาจากพวกโจรได้ก็แปลว่าต้องแข็งแกร่งมาก ๆ เลยน่ะสิ
ร่างเล็กพยักหน้ายืนยัน
“ใช่แล้วล่ะ ถ้าควบคุมเวทให้เสถียรโดยตรงมันยาก งั้นก็แค่ใช้สื่อกลางมาช่วยเรื่องนั้นก็พอแล้ว” เด็กหนุ่มเอ่ยกับโรส
ก่อนจะนำบางอย่างออกมาจากไอเทมบล็อก
สร้อยคอโลหะ ที่ตรงกลางมีจี้ไม้แกะสลักเป็นลวดลายดอกไม้ห้อยเอาไว้อยู่
“สร้อยเส้นนี้มีความสามารถทำให้ผู้สวมใส่ควบคุมพลังเวทให้คงที่ได้ง่ายขึ้น และยังทำให้เวทมนตร์รุนแรงขึ้นเล็กน้อยด้วย มาสิเดี๋ยวพี่ใส่ให้” ทาเนียเอาสร้อยคอสวมใส่ให้กับเด็กหญิง เธอยกมือขึ้นลูบสร้อยเส้นนั้นด้วยความดีใจ
ภาพเหล่านั้นมีเอ็ทเวิร์ดยืนมองอยู่เงียบ ๆ สายตาของเขามองไปที่ทาเนียและโรสอย่างอ่อนโยน ถ้าเขากับร่างเล็กได้สร้างครอบครัวด้วยกันมันจะต้องดีมากแน่นอน
เมื่อมาถึงคิวของโรสอีกครั้ง เด็กหญิงก็เริ่มสร้างลูกบอลพลังเวทด้วยความที่ครั้งนี้มีเครื่องรางที่ได้รับมาจากทาเนีย ทำให้เด็กหญิงมีความมั่นใจมากขึ้นกว่าครั้งก่อน ๆ เยอะบวกกับผลลัพธ์ของเครื่องรางที่ช่วยส่งเสริม ทำให้ในรอบนี้โรสสามารถยิงกระสุนพลังเวทออกไปได้เป็นครั้งแรก ถึงมันจะสลายไปก่อนถึงเป้าซ้อม แต่เธอก็ดีใจที่ตัวเองก้าวหน้าขึ้นแล้ว ถ้าได้ลองรอบต่อ ๆ ไปก็ต้องยิงโดนแน่
ทาเนียและเอ็ทเวิร์ดสอนพวกเด็ก ๆ ใช้เวทมนตร์จนเริ่มจะเย็น ก็ถึงเวลาที่พวกเขาทั้งคู่ต้องพาเด็ก ๆ กลับเข้าเมืองได้แล้ว เด็ก ๆ หลายคนทำหน้าเสียดายออกมาเพราะยังอยากฝึกใช้เวทมนตร์ต่อ แต่ทุกคนก็เข้าใจว่าในป่าตอนกลางคืนนั้นอันตรายมาก จึงได้ยอมกลับแต่โดยดี
หลังจากที่พวกเขาพาเด็กทุกคนกลับไปส่งคืนที่โบสถ์เรียบร้อยแล้ว ก็กำลังเดินกลับไปที่บ้านของร่างสูง
“แวะทานอาหารที่ร้านอาหารกันก่อนดีไหมครับ” ทาเนียหันไปถามร่างสูงที่เดินอยู่ข้าง ๆ เพราะวันนี้เขาขี้เกียจจะทำอาหารด้วย
“ได้สิ” ร่างสูงตกลง เพราะที่บ้านเขาก็ไม่มีวัตถุดิบที่ใช้ทำอาหารได้แล้วด้วย
“แล้วที่เมืองลูซนี่มีร้านไหน อร่อยบ้างครับ” เด็กหนุ่มถามต่อ
“ตามมาสิ เดี๋ยวฉันพาไป” ว่าจบเอ็ทเวิร์ดก็เดินนำไป
เขาพาร่างเล็กมาที่ร้านอาหารขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่ร้านหนึ่ง ที่อยู่ไม่ไกลจากบ้านของเขามากนัก ภายในร้านตกแต่งในโทนอบอุ่นและรสชาติอาหารอร่อย ในราคาจับต้องได้
ร่างสูงพาทาเนียมานั่งที่มุมหนึ่งของร้าน ทาเนียนั่งลงที่ฝั่งตรงข้ามของเขา ไม่นานพนักงานเสิร์ฟก็กระดาษเมนูมาให้พวกเขาสั่งอาหาร
“ไม่ต้องอ่านหรอกเดี๋ยวฉันสั่งให้” เอ็ทเวิร์ดเอากระดาษเมนูที่ทาเนียถืออยู่ออก และหันไปสั่งอาหารกับสาวเสิร์ฟที่ยืนรออยู่
“ขอชุดเนื้อกับขนมปัง แล้วก็เบียร์แก้วใหญ่ อย่างล่ะ 2”
“เธอดื่มได้ใช่ไหม” เอ็ทเวิร์ดหันไปหาร่างเล็ก เขาก็ลืมถามอีกฝ่ายไปเลย ถ้าร่างเล็กไม่ดื่มจะได้สั่งน้ำผลไม้ให้
“ดื่มได้ครับ” เด็กหนุ่มพยักหน้า
“งั้นก็เอาตามนี้เลย” ร่างสูงหันไปหาพนักงานเสิร์ฟอีกครั้ง
“รับทราบค่ะ รอสักครู่นะคะ” เธอรับคำสั่งก่อนจะนำรายการอาหารที่จดไว้ไปให้เชฟในห้องครัว
ไม่ถึง 10 นาทีต่อมาหารของพวกเขาก็มาเสิร์ฟ เอ็ทเวิร์ดยกเบียร์แก้วใหญ่ขึ้นมาดื่มก่อนเป็นอย่างแรก
“อ่าห์” ร่างสูงร้องออกมาอยากผ่อนคลาย
“กินเลยสิ อาหารร้านนี้อร่อยทุกอย่างเลยนะ” เอ็ทเวิร์ดเอ่ยกับทาเนีย พร้อมสเต๊กในจานเข้าปาก
“ครับ” เด็กหนุ่มตอบรับ พลางใช้มีดกับส้อมหันเนื้อและจิ้มเอาเข้าปาก
รสชาติอร่อยอย่างที่ร่างสูงบอกไว้จริง ๆ ด้วย ไว้วันหลังจะอีกแน่
ทั้งคู่นั่งทานอาหารและดื่มกันไป จนทานอาหารหมด ทาเนียจึงเรียกพนักงานให้มาคิดเงิน มื้อนี้ทาเนียเป็นเลี้ยงเอง ตอนแรกร่างสูงจะไม่ยอม แต่ทาเนียบอกไปว่าอยากจะตอบแทนเรื่องที่ให้พักที่บ้านด้วย บวกกับเอ็ทเวิร์ดเริ่มจะเมามากแล้วเพราะดื่มเบียร์ไปหลายแก้ว จึงไม่เถียงสู้ไม่ไหวและยอมแต่โดยดี
เด็กหนุ่มกำลังช่วยประคองกิลด์มาสเตอร์ที่เดินซวนเซกลับบ้าน เพราะถ้าปล่อยให้เดินเองคงได้มีล้มจนได้แผลเป็นแน่
“เธอนี่ คอแข็งจังเลยนะ ดื่มไปเท่ากันแท้ ๆ แต่ทำไมมีแต่ฉันที่เมาล่ะ โกหกหรือเปล่าเนี่ยว่าเพิ่งดื่มครั้งแรก” เอ็ทเวิร์ดบ่นอุบอิบใส่เด็กหนุ่มที่กำลังช่วยพยุงตัวเองอยู่
“โชคดีของมือใหม่มั้งครับ” ในชาตินี้ เขาเพิ่งดื่มพวกแอลกอฮอล์เป็นครั้งแรกเลย แต่ที่ไม่อาการเมาเหมือนคนตัวใหญ่ คงจะป็นเพราะความสามารถต้านทานความผิดปกติบวกที่เขามีเลเวลตั้งหนึ่งร้อย ผิดของแอลกอฮอล์จึงไม่แสดงผลกับเขาเท่าไหร่ ถ้าไม่ได้ดื่มเป็นถัง ๆ
“ถึงบ้านแล้วครับคุณเอ็ท ขอกุญแจหน่อยครับ” ทาเนียเอ่ยขอกุญแจบ้านจากกิลด์มาสเตอร์ของตนเมื่อมาถึงหน้าบ้าน เพื่อเปิดประตู
ร่างสูงล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงข้าง เพื่อจะหยิบกุญแจออกมาแต่ไม่ได้สักที จนเต้าตัวเริ่มทำหน้าหงุดหงิด ทาเนียจึงได้เอามือล้วงไปหยิบกุญแจในกระเป๋ากางเกงของร่างสูงแทน ทำให้ร่างใหญ่ที่เขาพยุงอยู่โน้มเข้ามาหาเข้าเขามากยิ่งขึ้น
เอ็ทเวิร์ดฉวยโอกาส เอาจมูกของตนซุกลงที่ซอกคอของคนตัวเล็ก ก่อนจะสูดดมกลิ่นกายหอมกรุ่นเข้าเต็มปอด
“หอมจัง” ร่างสูงเพ้อ และเผลอใช้ริมฝีปากขมเม้มทิ้งร่องรอยเอาไว้ เพื่อบ่งบอกคนที่เห็นว่าร่างเล็กนี้มีเจ้าของแล้ว
“คุณทำอะไรครับเนี่ย” ทาเนียรู้สึกจั๊กจี้และย่นคอหนี แต่ก็ไม่พ้นอยู่ดีเพราะเขาต้องพยุงอีกฝ่ายไม่ให้ล้มไป
เด็กหนุ่มใช้กุญแจที่หยิบออกมาได้ ไขประตูและเปิดเข้าไปในบ้าน พอเข้ามาแล้วเจ้าโคลเอ้ก็มาจากตัวเขาและเดินไปนอนที่โซฟาต่อ
“ถ้าออกมาแล้วจะนอนต่อ แก้หลับอยู่ในตัวฉันเลยก็ได้ไหมโคลเอ้” ทาเนียเอ่ยบ่นเจ้าแมวดำจอมขี้เซา
เมี้ยวววว
เจ้าโคลเอ้ร้องเสียงหวาน พลางหงายท้องอวดเจ้านาย
ทาเนียระบายลมหายใจออกมาก่อนจะช่วยพยุงพากิลด์มาสเตอร์ไปที่ห้องของอีกฝ่าย ทาเนียเปิดประตูห้องนอนของร่างสูงเข้าไป และไปนอนลงบนเตียง
“อื้อ.....” เอ็ทเวิร์ดดิ้นไปมาอยู่บนเตียงอย่างไม่สบายตัว
ทาเนียถอดรองเท้าให้ร่างสูงและนำไปวางให้ที่ข้างเตียง ก่อนจะมาถอดเสื้อตัวนอกออกให้และปลดกระดุมเสื้อตัวในออกบางเม็ดกับถอดเข็มขัดที่กาง เพื่อไม่ให้อึดอัด
“เดี๋ยวผมจะไปเอาน้ำกับผ้ามาเช็ดตัวให้นะครับ” เด็กหนุ่มบอกกับคนที่หลับตาละร้องครางอยู่บนเตียง
แต่พอร่างเล็กจะหันหลังเดินออกไปจากห้อง คนที่ควรจะนอนอยู่ก็คว้ามือเด็กหนุ่มออกแรงดึงจนตัวเขาล้มไปนอนทับอีกฝ่าย
“ปล่อยครับ ผมจะได้ไปหาผ้ากับน้ำมาเช็ดตัวให้” ร่างเล็กเอ่ยกับคนแก่ที่กำลังเมาเสียงดุ
“ถ้าอยากได้น้ำเดี๋ยวฉันสร้างให้ก็ได้” ว่าจบเอ็ทเวิร์ด ก็หันมือมาหาเด็กหนุ่มและใช้เวทสร้างน้ำทำให้มันพุ่งใส่หน้าของทาเนียจนชุ่ม
“คุณเอ็ท!!!!” เด็กหนุ่มตะคอกใส่คนเมา พลางใส่มือข้างที่ไม่ได้ถูกจับอยู่ ปาดน้ำที่เปียกออกจากใบหน้า
“สวยจังเลย” เอ็ทเวิร์ดมองใบหน้าที่เปียกชื้นจากเวทของเขา พลางใช้ปลายนิ้วมือไล่ไปตามเสียวหน้า งดงามอย่างแผ่วเบา
“ฉันชอบเธอนะ ตั้งแต่ที่เห็นเธอครั้งแรกก็ละสายตาไม่ได้เลย และยิ่งมองก็ยิ่งหลงใหล” แม้ตัวเองจะค่อนข้างเมา แต่เอ็ทก็รู้ตัวดีว่าเพิ่งพูดอะไรออกไป คงเป็นเพราะเหล้าที่ทำให้เขากล้าและบ้าแบบนี้ รู้ทั้งรู้ว่ามีโอกาสโดนปฏิเสธสูงแค่ไหน แต่ก็ยังจะพูด
“ห้ะ!!?? คุณล้อเล่นอะไรอยู่เนี่ยครับ” เด็กหนุ่มขมวดคิ้ว และแสดงสีหน้าไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่ได้ยิน
เอ็ทเวิร์ดจึงดึงศีรษะของร่างเล็กเข้ามาหาตัวเอง และประกบปากเข้ากับปากเล็กนั้นเพื่อจะยืนยันว่าคำสารภาพรักทที่เขาเพิ่งบอกไปนั้นเป็นความสัตย์จริง
ลิ้นร้อนของกิลด์มาสเตอร์แทรกเข้าไปในริมฝีปากสีหวาน และไล่พันเกี่ยวกับลิ้นเล็กจนเกิดเสียงดังน่าอายขึ้น
จ๊วบ
ทาเนียแม้จะตกใจในตอนแรกที่ถูกดึงเข้าไปจูบ แต่ต่อมาก็จูบตอบกลับไปโดยสัญชาตญาณ และรู้ตัวอีกทีเสื้อผ้าที่อยู่บนตัวของร่างเล็กก็ถูกถอดออกและทิ้งไปไว้ข้างเตียงตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้