ของก็ต้องส่ง แต่ดันมาติดอยู่กับผู้รับไอ้โรคจิตคนนี้เสียได้

หนุ่มแว่นส่งของกับไอ้ลูกค้าโรคจิต - 1 หนุ่มแว่นชื่อ ‘ชีท’ โดย Sozoren @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-ชาย,เรื่องสั้น,ผู้ใหญ่,ซาดิส & มาโซฯ,หนุ่มแว่น,โดนเอา ,ลูกค้าหื่น,pwp,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

หนุ่มแว่นส่งของกับไอ้ลูกค้าโรคจิต

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-ชาย,เรื่องสั้น,ผู้ใหญ่,ซาดิส & มาโซฯ

แท็คที่เกี่ยวข้อง

หนุ่มแว่น,โดนเอา ,ลูกค้าหื่น,pwp

รายละเอียด

ของก็ต้องส่ง แต่ดันมาติดอยู่กับผู้รับไอ้โรคจิตคนนี้เสียได้

ผู้แต่ง

Sozoren

เรื่องย่อ

สามารถกดติดตามและเก็บเข้าชั้นเพื่อไม่ให้พลาดการอัปเดตใหม่ๆ ของเรน

คำเตือน!!! เรื่องนี้มีการขืนใจ และฉากร่วมรักระหว่าง ชายXชาย

🔥🔥🔥Nc ค่อนข้างดิบเถื่อน🔥🔥🔥

และ

💓เนื้อเรื่องให้ติดตามพอประมาณ💓

 

🥳แนะนำให้กดเข้าคลังไว้อ่านฟรีก่อนติดเหรียญ

‘น้องชีท’ หนุ่มแว่นหน้ามนที่ดูภายนอกเป็นคนติ๋ม แต่ร่านพอตัวทำงานเป็นพนักงานสั่งของต้องเข้ามาส่งของให้ผู้รับรายหนึ่งซึ่งสั่งเก็บเงินปลายทาง นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ของการเสียตัว

สารบัญ

หนุ่มแว่นส่งของกับไอ้ลูกค้าโรคจิต-จากใจ ข้อตกลงระหว่าเรา (จะอ่านหรือไม่ก็ได้), หนุ่มแว่นส่งของกับไอ้ลูกค้าโรคจิต-1 หนุ่มแว่นชื่อ ‘ชีท’, หนุ่มแว่นส่งของกับไอ้ลูกค้าโรคจิต-2 ความลับของชีท, หนุ่มแว่นส่งของกับไอ้ลูกค้าโรคจิต-3 ประหลาดคน , หนุ่มแว่นส่งของกับไอ้ลูกค้าโรคจิต-4 ไอ้โรคจิต!!!, หนุ่มแว่นส่งของกับไอ้ลูกค้าโรคจิต-5 โดนจัดหนัก, หนุ่มแว่นส่งของกับไอ้ลูกค้าโรคจิต-6 ยังไงผมก็ยังโดน, หนุ่มแว่นส่งของกับไอ้ลูกค้าโรคจิต-7 ก็บอกแล้วไงว่า… “มึงไม่ใช่ผัวกู”

เนื้อหา

1 หนุ่มแว่นชื่อ ‘ชีท’

ผมชื่อ ‘ชีท’ แปลว่าเอกสาร

ชื่อเล่นเหมือนคนทำงานในออฟฟิศเดินเอกสารใช่ไหม? เปล่าเลย...

ผมเป็นพนักงานส่งของของบริษัทสีส้มแห่งหนึ่งภายในประเทศ มีประสบการณ์ทำงานมานานแล้ว หน้าที่ของผมนอกจากวิ่งรถส่งของไปตามที่อยู่ในบริเวณอำเภอหรือเขตนั้นอย่างถูกต้องแล้ว ต้องขนส่งและจัดส่งพัสดุผ่านรถอย่างปลอดภัย ควบคุมพัสดุและระบบการชำระเงินไม่ให้ผิดพลาด เนื่องจากเป็นหัวหน้าคุมรุ่นน้องเข้ามาทำงานใหม่ การดูแลทุกอย่างต้องทำให้ดีที่สุด ไม่ให้มีข้อผิดพลาด

“อย่าโยนของสิวะ” ผมต้องเตือนพวกมันเป็นประจำ ไม่รู้ทำมันชอบโยนกันจริง ๆ

“มันไม่แตกหรอกพี่”

 “จะแตกหรือไม่แตกก็ห้ามโยน ยิ่งพวกที่มีสติ๊กเกอร์ระวังของแตก พวกมึงต้องรักษายิ่งชีพเข้าใจ!”

ใครก็บอกว่าส่งพัสดุคืองานง่ายแค่ขับรถไปตามพิกัดในละแวกบ้านลูกค้า เช็กเลขพัสดุจนถึงการชำระเงินถ้ามี คนที่ไม่ได้เคยทำถึงเอ่ยปากว่าง่าย เข้ามาเจอตัวเลขและที่อยู่ลูกค้าจนหลอนตาเก็บไปฝันก็มี ใครพูดแบบนี้ปากแตกไปหลายคนแล้ว ไม่ต้องมาบอกว่าง่ายเพราะในโลกนี้ไม่มีอาชีพไหนทำง่ายและสบาย ขนาดพวกที่ทำงานออนไลน์หลอกลวงคนโง่ไปวัน ๆ ยังต้องหากลอุบายอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน

“ก็แค่หยิบแล้ววางเบา ๆ อย่างนี้” ผมต้องทำให้พวกมันดูทุกรอบที่เตือน

การทำงานไม่ต้องพูดถึง ไม่ได้เก่งที่สุดแต่ทำให้รุ่นน้องมันดูว่ารุ่นพี่ในบริษัทขนส่ง เขาทำงานกันอย่างไรเพื่อจะสามารถคุมพวกเขาได้ ในส่วนมากละนะแต่ก็มีพวกที่คุมไม่ได้อยู่เหมือนกัน ไอ้พวกอย่างหลังทำงานนี้ไม่ได้นานหรอก มันก็ออกไปเองหรือไม่ก็โดนลูกค้ารายงานจนอยู่ไม่ได้

“ครับ พี่”

บุคลิกและหน้าของผมตาดูติ๋มไปหน่อย มันไม่เป็นอุปสรรคให้ใครมองว่าไร้อนาคต เพราะผมได้พิสูจน์ตัวจนขึ้นมาทำหน้าที่หัวหน้าในที่แห่งนี้ให้เห็นแล้วไงละ

“ทำได้ดี เลิกงานกูพาไปกินหมูกระทะ”

“โธ่พี่! ร้อนจนจะละลายใครมันจะไปกินลง”

“ตามใจ!”

ผมเป็นหนุ่มแว่น สวมแว่นทรงกลมหน้าตาขาวใสถึงแม้ว่าต้องออกแดดเป็นประจำ มาพร้อมรอยยิ้มมีเสน่ห์ หน้าตาปนหื่นกามยามเมื่อเห็นคนถูกใจ ยิ้มทีเหมือนพวกโรคจิตที่ชื่นชอบก่ออาชญากรรม แค่เห็นหน้าตาก็บ่งบอกแล้วว่าเงี่ยนออกอาการขนาดไหน พวกหื่น ๆ แค่หน้าตาก็แสดงออกและบ่งบอกได้ชัดเจนโดยไม่ต้องเอ่ยปาก

การแต่งตัวของผมบ่งบอกว่าเป็นคนสบาย ไม่เคร่งครัดมากเกินไป ไม่ชอบขึ้นเสียงหรือด่ากราดอย่างไม่มีวุฒิภาวะ ทำงานเป็นกันเอง บุคลิกผมจะดูดีก็ต้องแต่งตัวให้เรียบร้อย ไม่แน่ใจว่าคำว่าดูดีในสายตาตนเองกับการมองของคนอื่นเป็นเช่นไร แต่ความมั่นใจของผมมันบอกสุภาพสุด ๆ

เครื่องแต่งกายของผมท่อนบนเป็นเสื้อยืดสีเทาสวมทับแจ็คเก็ตสีส้มแขนยาวเป็นสีประจำบริษัทขนส่ง ส่วนท่อนล่างสวมกางเกงวอร์มสีดำพับขอบทำให้ตัวกางเกงลอยขึ้นจากข้อเท่าเล็กน้อย คิดเผื่ออนาคตมากแค่ไหน การซื้อกางเกงวอร์มสักตัวที่ถูกใจมันยากพอ ๆ กับการหารองเท้าที่ใช่นั่นแหละ และรองเท้าผ้าใบสีขาวดำคู่นี้มันเป็นคู่โปรดของผมเลยก็ว่าได้ มันพาผมไม่ทุกหนทุกแห่งแล้วมันยังเท่ตั้งแต่ออกจากร้าน

สำหรับผมแล้วทำงานก็ต้องเนี้ยบที่สุด จนได้ชื่อเล่นมาอีกหนึ่ง คือ ‘เป๊ะจัง’ จุดเด่นนอกจากงานและหน้าตาแล้ว มีส่วนหนึ่งที่เด่นไม่แพ้กัน นั่นก็คือ…

‘ชุดตัวเก่ง’ ชุดที่ทุกคนเอาจนชินตา

ตั้งแต่ใส่ชุดตัวเก่งออกจากบ้านมาทำงานเหมือนว่าทั้งบ้านมีชุดนี้ชุดเดียว ผมถือดวงชะตาและการมูเตลูเป็นสำคัญ เขาบอกว่าแต่งแบบนี้จะรุ่งในหน้าที่การงาน เพราะเชื่อแม่หมอไง ทุกวันนี้ทำงานดีไม่มีผิดพลาด แต่ก็มีบ้างบางครั้งที่ผิดพลาดก็เราเป็นมนุษย์ไม่ใช่หุ่นยนต์นิ อย่างน้อย ๆ ก็ให้มันผิดน้อยถึงน้องที่สุด ไม่งั้นจะเป็นรุ่นพี่ตัวอย่างที่ดีให้เด็กมันดูได้หรือไง แต่ว่าสิ่งที่ทำให้เป็นจุดเด่นจริง ๆ ของผมนั้นไม่ใช่ความสามารถจากแรงกายมหาศาล แต่เป็น...

‘เจ้าน้องชายชีท’

น้องชายที่ผมหมายถึงคือสิ่งที่มนุษย์เพศผู้ชายทุกคนมีติดตัวระหว่างลำตัวไปถึงจุดทางแยกแบ่งขาสองข้าง ตรงกลางของผู้ชายมีเจ้าน้องท่อนโตในกางเกงแกว่งไปมา เวลาเดินผ่านใคร

‘มันคือเจ้านั้นละ!’

กางเกงผมค่อนข้างจะแนบเนื้อทำให้เกิดการเสียดสีระหว่างชีทน้อยกับกางเกงวอร์มตัวเก่ง ปกติคนส่วนใหญ่เวลาเดินใส่กางเกงตัวนี้ ไม่เตะตาเพราะใส่เครื่องป้องกันความอุจาดตา

‘กางเกงในนั่นเอง!’

ของแบบนั้นผมไม่เคยใส่มาตั้งแต่เด็ก เวลาไปโรงเรียนแต่งชุดนักเรียนหรือชุดพละเดินแกว่ง K ล่อตาเพื่อนให้เห็นว่าความเป็นชายก่อตัวขึ้นแล้วนะ ผมออกกำลังกายตั้งแต่เด็ก เวลาเบ่งกล้ามแล้วเนื้อแน่นแข็งโป๊ก เห็นผมเป็นหนุ่มแว่นรูปร่างผอมบางแบบนี้ แต่ซ่อนรูปเอาเรื่อง ถ้าถอดเสื้อผ้าออกมาเหมือนนักเพาะกาย แขนขาเป็นมัด ก้มโค้งแหกรูลับดั่งประตูมิติ เข้ามามองใกล้ ๆ จะเห็นประตูถ้ำแน่นเหมือนเนื้อสัตว์

ไม่ว่าจะออกไปทำงานหรือเล่นกีฬาจะใส่กางเกงวอร์มตัวนี้เป็นประจำใส่ไปทำทุกที่ทุกกิจกรรม เป็นเวลาเนิ่นนานมาแล้วจนถึงวันนี้ไม่เคยใส่กางเกงใน ปล่อยโล่งให้ตอร์ปิโดยักษ์แกว่งหายใจโล่ง ไม่เคยคันหรืออับมาก่อน ชุดภายนอกดูรัดกุมไม่เปลือยให้คนเห็นแล้วกล่าวหาว่าเป็นโรคจิต

แต่ผมก็มีปัญหาอยู่บ้าง นั่นคือ...