เงินเท่านั้นที่สำคัญที่สุด!

ร้านอาหารลับ ๆ อันเลื่องชื่อหลังคฤหาสน์มาเฟีย - บทที่ 1 เงินเท่านั้นที่ครองโลก โดย Pam18 @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

ชาย-ชาย,รัก,ดราม่า,คลั่งรัก,น่ารัก,ร้านอาหาร,มาเฟียโหด,มาเฟีย,โรแมนติก,รักมาเฟีย,รัก,ชายรักชาย,ชาย-ชาย,วาย,Yaoi,BL,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ร้านอาหารลับ ๆ อันเลื่องชื่อหลังคฤหาสน์มาเฟีย

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

ชาย-ชาย,รัก,ดราม่า

แท็คที่เกี่ยวข้อง

คลั่งรัก,น่ารัก,ร้านอาหาร,มาเฟียโหด,มาเฟีย,โรแมนติก,รักมาเฟีย,รัก,ชายรักชาย,ชาย-ชาย,วาย,Yaoi,BL

รายละเอียด

เงินเท่านั้นที่สำคัญที่สุด!

ผู้แต่ง

Pam18

เรื่องย่อ

สารบัญ

ร้านอาหารลับ ๆ อันเลื่องชื่อหลังคฤหาสน์มาเฟีย-บทนำ บทนำ,ร้านอาหารลับ ๆ อันเลื่องชื่อหลังคฤหาสน์มาเฟีย-บทที่ 1 เงินเท่านั้นที่ครองโลก

เนื้อหา

บทที่ 1 เงินเท่านั้นที่ครองโลก


คลังทอง นามสกุลนี้ทั่วทั้งประเทศไม่มีใครไม่รู้จัก ตระกูลมาเฟียที่ร่ำรวยอันดับต้น ๆ ของเอเชีย มหาอำนาจแห่งการเงินและเศรษฐกิจ 


ผู้นำคนปัจจุบันคือ คีรี คลังทอง 



ชีวิตไม่สิ้นก็ต้องดิ้นต่อไป คำคมประจำใจของเหล่านักสู้ชีวิต

แม้จะเป็นถึงลูกชายคนเล็กของตระกูลมหาเศรษฐีแต่ก็ไม่ได้เป็นที่ยอมรับเท่าไรนัก เพราะเกิดมาจากหญิงรับใช้อันต่ำต้อย ลูกนอกสมรสที่ผู้เป็นพ่อไม่ได้ต้องการ

"ที่นี่หรือเปล่านะ"

เมฆาหรือเมฆค้นพบว่าความรักที่เคยโหยหาไม่ได้สำคัญไปกว่าเงินทอง เขาไม่มีทรัพย์สมบัติมากมายเหมือนอย่างทายาทคนอื่น ๆ เป็นเพียงสิ่งของที่ถูกโยนไปโยนมา จนสุดท้ายมาตกอยู่ในกำมือของคีรี กระนั้นในสายตาของสามีเขาก็เป็นเพียงสิ่งของไร้ค่าอยู่ดี

หากจะเอาชีวิตรอดและยืนด้วยลำแข้งของตัวเองการทำธุรกิจอะไรสักอย่างจึงเป็นทางเลือกที่ดี เห็นแบบนี้เมฆาเรียนจบทางด้านบริหารมาเชียวแต่เอาเข้าจริงเขาชอบทางด้านอาหารมากกว่า

อาคารพาณิชย์สามชั้นเก่า ๆ เบื้องหน้าทำให้เขาชั่งใจที่จะก้าวเท้าเข้าไป มันดูน่ากลัวและไม่น่าไว้ใจอย่างไรก็ไม่รู้

"มาทำอะไร"

เฮือก!

"เสือ!!"

ร่างสมส่วนสะดุ้งโหยงเมื่ออยู่ ๆ เจ้าของตึกก็โผล่มาจากทางด้านหลัง ใบหน้าบึ้งตึงที่ดูพร้อมมีเรื่องตลอดเวลามองจ้องมา อีกฝ่ายคือเพื่อนสมัยเรียนมัธยมที่ปัจจุบันก็ยังคงติดต่อกันอยู่บ้าง

"ว่ายังไง มาทำอะไร"

"กู้เงิน"

เมฆาถอนหายใจเอ่ยบอกอีกฝ่ายไปตามตรง ปัจจัยที่จะช่วยให้เขาเปิดร้านอาหารได้ก็คือเงินทุน

ฉะนั้นอาคารเบื้องหน้าที่ดูซอมซ่อแห่งนี้จึงคือบริษัทปล่อยเงินกู้นั่นเอง ถึงจะไม่ถูกกฎหมายและมีดอกเบี้ยมหาโหดแต่คนเงินเดือนน้อยก็มักนิยมมากัน

"เข้าไปคุยข้างใน" ร่างสูงใหญ่ของเพื่อนสมัยมัธยมเดินนำเข้าไป 

ด้านในเต็มไปด้วยเหล่าชายฉกรรจ์หน้าตาโหดร้าย สายตาไม่เป็นมิตรจับจ้องทำเอารู้สึกกลัวจนเผลอจับชายเสื้อของเพื่อนเอาไว้แน่น

เสือปรายตาเห็นแล้วแต่ไม่ได้ว่าอะไร พาเดินตรงขึ้นไปยังชั้นสามซึ่งเป็นห้องทำงานของตน 

...บรรยากาศเงียบเชียบให้ความรู้สึกไม่น่าไว้วางใจ เหมือนจะเกิดอะไรขึ้นได้ตลอด

"นั่งสิ"

เมฆานั่งลงบนโซฟาขณะที่อีกฝ่ายเดินไปนั่งอีกฝั่งพร้อมจับจ้องไม่วางตา แรงกดดันส่งผ่านออกมาชวนให้กระอักกระอ่วนปั่นป่วนมวนท้อง

"ได้ข่าวว่าแต่งงานกับมหาเศรษฐีใหญ่ เงินทองก็น่าจะมีให้ใช้ไม่ขาดมือหนิ"

"ถ้าสบายเราคงไม่บากหน้ามาหานาย"

"....."

"ปกติก่อนแต่งงานก็ใช่ว่าจะได้อยู่อย่างสุขสบายอะไร นายเองก็รู้หนิเสือ"

"นั่นสิ ฉันเองก็ลืมไป คิดว่าแต่งงานแล้วจะสบายซะอีก"

"ไม่เลย สามีก็ไม่ต่างอะไรกับคนพวกนั้นหรอก ค่าเลี้ยงดูที่ให้ทุกเดือนถูกลดลงเรื่อย ๆ เราเลยคิดว่าจะหาเงินใช้เอง"

"เลยมาขอกู้ฉัน?"

"อืม เราจะเปิดร้านอาหารน่ะ"

เสือครุ่นคิดก่อนตัดสินใจ เดิมสมัยเรียนตอนที่แม่ของหมอนี่ยังไม่เสียก็มีความสุขดีอยู่หรอก พอพ่อเข้ามามีบทบาทชีวิตก็ดูจะแย่ลงเพราะความไม่ชอบใจของภรรยาแล้วก็ลูก ๆ ของฝั่งนั้น

พอแต่งงานกับมาเฟียตระกูลใหญ่คิดว่าสบายแล้วแท้ ๆ แต่กลับไม่ใช่อย่างที่คิด...

"จะเอาเท่าไร"

"สองล้านพอไหวไหม"

"ไหว จะเอาตอนนี้เลยหรือเปล่า"

"อื้ม รบกวนด้วยนะ"

หนังสือสัญญาถูกเขียนขึ้นมา กู้เงินน่ะง่ายนิดเดียว มันไปยากตรงที่มีดอกเบี้ยมหาโหดรออยู่ บางคนจอดตั้งแต่เห็นตัวเลข บางคนตะบี้ตะบันจะเอาให้ได้ ปากก็บอกว่าหามาใช้คืนได้สุดท้ายก็จอดทุกราย

เมฆาอ่านรายละเอียดครบถ้วนก็จรดปากกาเซ็นชื่ออย่างไม่ลังเล เสือเห็นแบบนั้นก็ลุกไปเปิดตู้เซฟหยิบเอาเงินสดก้อนใหญ่ออกมาวางไว้ตรงหน้าสองก้อน

ระยะเวลาในการหามาคืนคือหนึ่งปี ไม่มีสิทธิพิเศษใด ๆ ทั้งสิ้น ธุรกิจก็คือธุรกิจ

"ขอบคุณมากนะเสือ"

เขาเก็บเงินใส่กระเป๋าผ้าที่พกมาแล้วกอดไว้แนบอก แววตาเต็มไปด้วยความดีใจ

"อืม หวังว่าจะประสบความสำเร็จ"

"ภาวนาให้เป็นแบบนั้นเหมือนกัน"



ประเทศแห่งนี้ปกครองด้วยมาเฟียหลายตระกูล อำนาจขึ้นอยู่กับขนาดและความสำเร็จของธุรกิจ

คลังทองคือชนชั้นนำที่ทุกคนต้องก้มหัวให้

"ประชุมของวันนี้หมดแล้วครับท่าน และนี่คือรายงานที่เกิดขึ้นจากทุกส่วนของเดือนนี้ หมายเหตุที่พิมพ์เป็นตัวสีแดงคือเรื่องเร่งด่วนน่ะครับ"

"หืม!? อาวุธจำนวนมากที่คลังหายไปเหรอ ได้ยังไง..ตรวจเช็คมาหรือยัง"

"กล้องวงจรปิดถูกทำลายหมดเลยครับ แต่เรารู้ตัวแล้วว่าใครเป็นคนขโมยไป นี้คือข้อมูลที่ได้มา"

คลังเก็บอาวุธไม่ใช่สถานที่ที่ใครจะเข้าไปได้ง่าย ๆ ต้องเป็นคนที่ถูกตรวจสอบอย่างละเอียดแล้วเท่านั้น นั่นหมายความว่าคนในองค์กรเกิดการทรยศ

ซึ่งไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ปล่อยไปไม่ได้เด็ดขาด ต้องกำจัดทิ้งเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายไปมากกว่านี้

"เพราะทำงานกันเป็นทีมตั้งแต่ระดับหัวหน้าถึงขนออกไปได้เยอะขนาดนี้ รู้ที่กบดานของพวกมันหรือยัง"

"อยู่ในเขตพื้นที่ของอาชาชาญครับ"

"เฮ้อ! ไม่ใช่ว่าฝ่ายนั้นอยู่เบื้องหลังหรอกเหรอ"

"ไม่ครับ พวกทรยศตั้งใจจะขนอาวุธของเราไปขายยังชายแดนให้กับกองกำลังไม่ทราบชื่อ"

"ก็นะ ประเทศข้างเคียงกำลังมีสงครามภายใน อาวุธเลยเป็นสิ่งจำเป็น เรื่องราคาคงไม่เกี่ยงเลยสิ"

"ใช่ครับ ให้ราคาที่สูงมาก"

"เพราะฉันไม่ขายให้เลยเข้าทางพวกระดับล่างแทน คนพวกนั้นมันเห็นแก่เงินอยู่แล้วเลยไม่ลังเลที่จะทำ"

"เอาอย่างไรดีครับท่าน"

"กลับเลยแล้วกัน ถึงแล้วนายไปตามหน่วยสองมาให้ทีนะ"

"รับทราบครับท่าน"

มีเรื่องให้เครียดทุกวันแล้วแบบนี้จะเอาเวลาว่างที่ไหนไปพักผ่อนสมอง ไล่สายตาอ่านรายงานจนมาหยุดที่เรื่องสุดท้าย...

เรื่องที่ทำให้คิ้วเข้มได้รูปขมวดยุ่งอย่างหงุดหงิด

"พวกเหลือบไร"

"เดือนนี้สองครั้งแล้วครับ"

"ปฏิเสธ แล้วส่งคนของเราเข้าไปควบคุม"

"จะรีบจัดการทันทีเลยครับ"

คีรี ชื่อนี้การันตีเรื่องความโหดเหี้ยม รู้หรือไม่...ที่เขาขึ้นมาอยู่ตำแหน่งนี้ได้นั้นง่ายนิดเดียว แค่รวบรวมกำลังพลและคนไว้ใจได้เข้ายึดอำนาจพ่อที่ป่วยใกล้ตาย ฆ่าล้างบางทุกคนในคฤหาสน์ทิ้งอย่างไม่ใยดี เพราะคนพวกนั้นไม่ใช่ญาติพี่น้องของเขาแต่เป็นญาติพี่น้องของแม่เลี้ยง 

หากจะมีใครรอดก็คงเป็นลูกชายกับลูกสาวของหล่อนที่ตอนนี้เรียนอยู่ที่อเมริกา แน่นอนว่าเมื่อไม่นานมานี้เขาสั่งให้คนไปตามเก็บเรียบร้อย ทั้งคฤหาสน์จึงเหลือเพียงแค่เขาคนเดียว



ภายในรั้วของตระกูลคลังทองไม่อนุญาตให้คนนอกเข้าออกโดยไม่ได้รับอนุญาต บอดี้การ์ดหรือคนงานต้องเขียนรายงานส่งเวลาจะออกไปไหนมาไหน ความเป็นไปทุกอย่างเจ้าตระกูลต้องรู้เรื่องทั้งหมด

แต่มันมีจุดบอดให้ใช้เลี่ยงกันได้ คือพื้นด้านหลังสุดตรงจุดที่บ้านพักของเมฆาตั้งอยู่นั้นติดกับประตูรั้วที่เหมือนจะถูกปิดตายเอาไว้ แต่จริง ๆ แล้วทุกคนใช้สัญจรเข้าออกโดยที่คนจากทางคฤหาสน์ไม่รู้

ฉะนั้นสบายมากหากจะแอบเปิดร้านอาหารลับ ๆ ขายให้กับพวกคนงานแล้วก็บอดี้การ์ด แม้กระทั่งขายส่งผ่านแอพพลิเคชั่นก็ย่อมทำได้

คนจากคฤหาสน์หลักไม่ค่อยมายุ่งวุ่นวายกับพื้นที่ด้านหลังเพราะรู้ ๆ กันอยู่ว่าแถวนี้เป็นบ้านพักและโรงฝึก แบ่งเป็นสัดส่วนอย่างชัดเจนและมีคนดูแลแยกอีกที

พื้นที่ตรงส่วนนี้ทุกคนสามารถใช้ชีวิตได้ตามสะดวก เมฆามองว่าที่นี่คือหมู่บ้านขนาดย่อม ที่ทุกคนสามารถพาคนในครอบครัวมาอยู่อาศัยร่วมด้วยได้ อีกทั้งพวกเด็ก ๆ ที่เกิดที่นี่ยังได้รับเงินสนับสนุนการศึกษาจนจบชั้น.มัธยมปลาย ใครมีแววหน่อยก็ส่งเรียนจนจบมหาวิทยาลัยแล้วทำงานให้กับองค์กรเป็นการตอบแทน

"พรุ่งนี้จ้างช่างมาดู ส่วนเราก็ไปหาซื้ออุปกรณ์" ได้เงินมาถือไว้ในมือเมฆารู้สึกสบายใจขึ้น

"แล้วเราไม่ต้องแจ้งไปที่คุณผู้ดูแลก่อนหรือคะ"

"อุ๊ย! นั่นไงลืมไปเลย" ว่าแล้วก็ออกจากบ้านตรงไปยังสำนักงานฝั่งโรงฝึก 


ยามร่างสมส่วนย่างกายผ่านใครก็ตามมักจะได้รับสายตาสงสัยปนใคร่รู้ส่งกลับมา คนไร้อำนาจแม้แต่สามีก็ทอดทิ้งมาทำอะไรแถวนี้

เมฆาหาได้สนใจก้าวเดินตรงไปอย่างมุ่งมั่นกระทั่งถึงที่หมาย เปิดประตูเข้าไปพบสายตาของคนในนั้นมองมาอย่างไม่เป็นมิตร

"โอ้... ดูนั่นสิใครมา" เสียงของคุณผู้ดูแลเอ่ย ซึ่งในสำนักงานยังมีคนอื่น ๆ อยู่อีก บ้างก็ยิ้มเย้ยหยันอย่างไม่ปิดบัง

"ผมจะมาขออนุญาตปรับปรุงบ้านน่ะครับ" เขาบอกจุดประสงค์โดยไม่ต้องรอให้อีกฝ่ายถาม

"จ้างช่างจากข้างนอกเหรอครับ"

"ครับ ผมจะเปิดร้านอาหารในบ้าน"

"ปรับปรุงบ้านน่ะได้ แต่ประกอบอาชีพในนี้ไม่ได้ครับ ผมคิดว่าคุณรู้กฎดีอยู่แล้วซะอีก"

คุณผู้แลนั่งอยู่หลังโต๊ะทำงานพลางเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ ใช้สายตาดุ ๆ นั่นกดดัน วางท่าใส่อย่างไม่เกรงใจ

เมฆาผ่อนลมหายใจขยับก้าวเข้าไปใกล้แล้ววางซองเงินลงบนโต๊ะ บรรยากาศภายในสำนักงานเงียบกริบ ทุกสายตาจับจ้องไปที่ซองเงินนั้น แววตาเปลี่ยนกันทันที

เพราะเขารู้กฎดีอย่างไรล่ะ ถึงได้เตรียมมันมาด้วย 

คุณผู้ดูแลหยิบเอาซองเงินไปเปิดดู พอเห็นจำนวนก็ถึงกับตาโต 

"ไว้ผมจะไปอุดหนุนแล้วกัน"

แลกกับใบอนุญาตก็ถือว่าคุ้ม 

หมู่บ้านคนงานขนาดย่อมนี้น่ะเขารู้กันว่าถ้าจะประกอบอาชีพเพิ่มเติมต้องจ่ายส่วย แล้วต้องเป็นส่วยที่ทำให้คุณผู้ดูแลพึ่งพอใจ แม้กฎจะเขียนไว้ว่าไม่อนุญาตก็ตาม

สุดท้ายเมฆากลับบ้านมาพร้อมใบอนุญาต ให้หญิงรับใช้คนสนิทโทรจองคิวช่างให้เข้ามาวันพรุ่งนี้ ส่วนตัวเองหยิบแล็ปท็อปมานั่งวางแผ่นงาน ทุกอย่างเสร็จเร็วเท่าไรยิ่งดีเพราะเงินที่กู้มาไหลออกจากกระเป๋าทุกวัน รายจ่ายมากกว่ารายรับแต่ก็เข้าใจว่ามันคือการลงทุน




>>>>>>โปรดติดตามตอนต่อไป