ผู้มัวหมองล่อลวงนักบุญทำสามี ถูกครหาเหยียบย่ำจนจมธรณี... “เพื่ออิสรภาพ” เขาขายวิญญาณสามีให้แก่ซาตาน ❝จงฝังร่างเขาใต้ต้นจูนิเปอร์ และเป็นของข้า❞

หลุมศพสามีใต้ต้นจูนิเปอร์ - 🪦 13.1 โดย Juharah @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,ชาย-ชาย,ยุคกลาง,ดาร์ค,รัก,พระเอกค่าตัวแพง,พระเอกปากหมา ,พระเอกธงแดง,พระเอกรวย,พระเอกร้าย,พระเอกคลั่งรัก,พระเอกขี้หึง,พระเอกขี้หวง,นายเอกจน,ดยุก,พีเรียดยุโรป,พีเรียดตะวันตก,ลูซิเฟอร์,ซาตาน,ดราม่า,แฟนตาซี,พล็อตสร้างกระแส,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

หลุมศพสามีใต้ต้นจูนิเปอร์

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,ชาย-ชาย,ยุคกลาง,ดาร์ค,รัก

แท็คที่เกี่ยวข้อง

พระเอกค่าตัวแพง,พระเอกปากหมา ,พระเอกธงแดง,พระเอกรวย,พระเอกร้าย,พระเอกคลั่งรัก,พระเอกขี้หึง,พระเอกขี้หวง,นายเอกจน,ดยุก,พีเรียดยุโรป,พีเรียดตะวันตก,ลูซิเฟอร์,ซาตาน,ดราม่า,แฟนตาซี,พล็อตสร้างกระแส

รายละเอียด

ผู้มัวหมองล่อลวงนักบุญทำสามี ถูกครหาเหยียบย่ำจนจมธรณี... “เพื่ออิสรภาพ” เขาขายวิญญาณสามีให้แก่ซาตาน ❝จงฝังร่างเขาใต้ต้นจูนิเปอร์ และเป็นของข้า❞

ผู้แต่ง

Juharah

เรื่องย่อ

𝕳𝖚𝖘𝖇𝖆𝖓𝖉'𝖘 𝖇𝖔𝖉𝖞 𝖚𝖓𝖉𝖊𝖗 𝖙𝖍𝖊 𝕵𝖚𝖓𝖎𝖕𝖊𝖗 𝖙𝖗𝖊𝖊

𝕵𝖚𝖍𝖆𝖗𝖆𝖍




•• <<──≪•◦⚜◦•≫──>> ••


...มันคือความผิดพลาด....


ขอเพียงแค่ 'จินดริชผู้น่ารังเกียจ' ได้หลุดพ้นจากสามีนักบุญอย่าง 'ลูเซียส คิว แมทธีโอนี' ทำไมพระผู้เป็นเจ้าจึงไม่รับฟังคำขอ ทว่าผู้มอบข้อเสนอกลับเป็นปรปักษ์ของพระเจ้า...


วิญญาณของสามีไร้รัก เขาจะมอบให้...ซาตาน


❝ จงฝังร่างเขาใต้ต้นจูนิเปอร์ ❞


แต่จินไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วที่ซาตานต้องการ...ไม่ใช่สามี


•• <<──≪•◦⚜◦•≫──>> ••




TWITTER X: @juha_rah | FACEBOOK: Juharah


แท็ก #หลุมศพสามีใต้ต้นจูนิเปอร์


Story: Juharah | Cover: WP Seazebra

สารบัญ

หลุมศพสามีใต้ต้นจูนิเปอร์-0 Prologue, หลุมศพสามีใต้ต้นจูนิเปอร์-🪦 1, หลุมศพสามีใต้ต้นจูนิเปอร์-🪦 2, หลุมศพสามีใต้ต้นจูนิเปอร์-🪦 3, หลุมศพสามีใต้ต้นจูนิเปอร์-🪦 4, หลุมศพสามีใต้ต้นจูนิเปอร์-🪦 5, หลุมศพสามีใต้ต้นจูนิเปอร์-🪦 6, หลุมศพสามีใต้ต้นจูนิเปอร์-🪦 7, หลุมศพสามีใต้ต้นจูนิเปอร์-🪦 8, หลุมศพสามีใต้ต้นจูนิเปอร์-🪦 9, หลุมศพสามีใต้ต้นจูนิเปอร์-🪦 10, หลุมศพสามีใต้ต้นจูนิเปอร์-🪦 11, หลุมศพสามีใต้ต้นจูนิเปอร์-🪦 12, หลุมศพสามีใต้ต้นจูนิเปอร์-🪦 13.1, หลุมศพสามีใต้ต้นจูนิเปอร์-🪦 13.2, หลุมศพสามีใต้ต้นจูนิเปอร์-🪦 14, หลุมศพสามีใต้ต้นจูนิเปอร์-🪦 15, หลุมศพสามีใต้ต้นจูนิเปอร์-🪦 16, หลุมศพสามีใต้ต้นจูนิเปอร์-📣 แจ้งการติดเหรียญล่วงหน้า, หลุมศพสามีใต้ต้นจูนิเปอร์-🪦 17, หลุมศพสามีใต้ต้นจูนิเปอร์-🪦 18.1, หลุมศพสามีใต้ต้นจูนิเปอร์-🪦 18.2, หลุมศพสามีใต้ต้นจูนิเปอร์-🪦 19 (ปลด 20/10), หลุมศพสามีใต้ต้นจูนิเปอร์-🪦 20 (ปลด 22/10)

เนื้อหา

🪦 13.1


FACEBOOK: Juharah


TWITTER X: @juha_rah


Tag: #หลุมศพสามีใต้ต้นจูนิเปอร์


Chapter 13






"Mr. Bryan Matteony"








วันอาทิตย์จินดริชรีบออกจากบาร์อย่างรีบร้อน เจ้าของใบหน้าประดับตำหนิใต้ตาซ้ายดูจะสดใสกว่าทุกครา แม้จะไม่ยิ้มแต่ก็ออกทางสีหน้าแววตาชัดเจน เขาปั่นจักรยานกลับไปที่หอนาฬิกาเร็วกว่าทุกครั้ง เพื่อที่จะผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดที่ใหม่ที่สุดเพราะใส่น้อยครั้ง ชุดที่มารดาเคยซื้อให้ตอนเธอเมา


'แม่ซื้อเสื้อมาให้จินดริชลูกรัก มันดูดีใช่ไหม? อาจจะใหญ่ไปสักหน่อยแต่แกจะใส่ได้จนโต ฮะฮะ...'


ตอนนั้นจินดริชดีใจจนร้องไห้ออกมาเพราะไม่เคยได้รับสิ่งใดจากบิดามารดา เมื่อแม่มอบเสื้อดำและเอี๊ยมครีมให้ เขาในตอนนั้นก็ลองใส่ทันที จินดริชวัยสิบขวบไม่สามารถใส่ได้เพราะมันเป็นเสื้อผ้าขนาดของผู้ใหญ่ แขนขากองกับพื้นถึงกระนั้นเขาก็ยิ้มหน้าบานหน้ากระจกบานใหญ่ในซ่องโสเภณี ก่อนจะพับเก็บใส่หีบแอบเอาไว้แน่นหนาไม่ให้มารดายึดคืนยามฟื้นจากอาการเมาสุรา


ในตอนนี้จินดริชสวมใส่ได้อย่างพอดีตัว หมวกเบเรต์ใบเก่าสีครีมเข้ากับเอี๊ยมกางเกงถูกนำมาสวมทับเส้นผมสีดำตัดกัน ขัดเขินตนเองเพราะรูปลักษณ์ที่แปลกตาแต่มันก็เรียบร้อยกว่ายามปกติ เขาอยากดูดีในสายตาของพี่ชายวัยเด็กที่นับถือ วันนี้เป็นวันดีที่อีกฝ่ายจะกลับมาชนบทอาร์คาเนีย...ไบรอัน แมทธีโอนี


ที่โบสถ์คึกคักกว่าทุกวันอย่างผิดหูผิดตา แต่ใช่ว่าเขาไม่เคยเห็นเหตุการณ์นี้มาก่อน เหล่าหญิงสาวมารวมกลุ่มกันเพื่อเข้าพิธีมิสซาโดยไม่ได้นัดหมาย กลิ่นน้ำหอมดอกไม้ฟุ้งไปทั่วอาณาเขตกว้างขวาง แต่งองค์ทรงเครื่องเต็มยศระยิบระยับ พวกเธอเฝ้ารอบุตรชายคนกลางของตระกูลแมทธีโอนี เขาจะมายังโบสถ์ตามประกาศในหน้าหนังสือพิมพ์ จินดริชก็เฝ้ารออย่างตื่นเต้นเช่นกัน


"มาแล้ว!"


เหล่าหญิงสาวกระซิบกระซาบกันจนดังระงม นัยน์ตาฟ้าของร่างโปร่งที่ยืนหลบมุมข้างต้นไม้เป็นประกายมองดูรถยนต์คันดำเงาวิ่งมาจอดเทียบด้านหน้า พ่อบ้านเจสันลงมาเปิดประตูท่าทีสำรวม กระทั่งชายหนุ่มร่างสูงโปร่งไม่ต่างจากพี่ชายเดินลงมา


ในตอนนั้นโลกของจินดริชเหมือนกับหยุดนิ่ง เขามองดูใบหน้าได้รูปที่แตกต่างจากในความทรงจำเล็กน้อย เส้นผมสีทองประกายรับกับนัยน์ตาสีเปลือกไม้แก่ ริมฝีปากบางยกยิ้มเต็มคำอย่างคนอารมณ์ดีกล่าวโต้ตอบคำทักทายจากเหล่าหญิงสาว เขาสวมสูทสีอ่อนขับผิว


ร่างสูงเดินเข้าไปในโบสถ์ไม่สังเกตเห็นคนหลังต้นไม้ ตอนนั้นเองจินดริชถึงเบนความสนใจไปยังคนที่ตัวสูงกว่าไบรอัน คนนั้นแน่นอนว่าเป็นลูเซียสพี่ชายของเขา ยืนนิ่งไม่ก้าวเดินต่อ ใบหน้าเรียบเฉยนั้นกำลังจดจ้องจินดริช สติที่ถูกความยินดีครอบงำถึงได้กลับมา เกิดอาการอึกอักทำตัวไม่ถูก แต่พิธีมิสซากำลังเริ่มแล้วเขาจึงต้องเข้าโบสถ์ที่มีลูเซียสยืนขวางเอาไว้


เศรษฐีนักบุญจ้องคนที่เดินมาอย่างประหม่าเพื่อเข้าไปด้านในวิหารศาสนา สำรวจภาพลักษณ์ที่แปลกตาไปไม่น้อยโดยเฉพาะหมวกเบเรต์สีครีมบดบังครึ่งศีรษะดำดั่งขนอีกา ดูเผิน ๆ เหมือนเด็กหนุ่มวัยรุ่นอายุยี่สิบปีขึ้นมาบ้างแล้ว ‘แต่ทำไมจินดริชถึงได้แต่งตัวแบบนี้?’ กระทั่งร่างโปร่งผ่านหน้าไปลูเซียสถึงรู้อีกว่าจินดริชอาบน้ำมาเสียตัวหอมฟุ้ง


จินดริชที่อยู่ด้านหลังสุดของโบสถ์ได้แต่แอบมองบุคคลมาใหม่ด้วยสายตาชื่นชม ชายผมทองดูร่าเริงสดใสแม้จะอายุยี่สิบหกปีแล้ว คล้ายวัยรุ่นที่ไม่เหลวแหลก ดูเหมือนว่าไบรอันจะประสบความสำเร็จในหลาย ๆ ด้าน ไปได้ดีจนมีชื่อเสียง ช่างน่านับถือ...จินดริชตื้นตันใจเป็นอย่างมากจนเผลอยิ้มอยู่บ่อยครั้ง


กระทั่งจบพิธีมิสซาเขายังรีบปั่นจักรยานเข้าไปที่เมืองตามติดขบวนรถของตระกูลแมทธีโอนี เพื่อดูว่าวันนี้ไบรอันจะไปเที่ยวชมหรือเยี่ยมเยือนใครบ้าง


"ฮ่า ๆ ไม่เจอกันสิบปีได้หรือเปล่า? ธุรกิจไปได้สวยใช่ไหมครับ?"


"ครับคุณไบรอัน ดีใจจริง ๆ ที่คุณกลับมา"


"เอ แถวนี้มีร้านขนมปังหรือเปล่า?"


"ขนมเหรอครับ?"


"ครับ พอดีผมชอบทานขนมน่ะ"


ท่าทางเป็นกันเองของไบรอันไม่เปลี่ยนไปเลย สดใสเปล่งประกายท่ามกลางกลุ่มคน เป็นที่สนใจไม่น้อยหน้าพี่ชายผมขาวเพียงแต่เข้าถึงง่ายกว่า จินดริชไม่คิดเข้าไปทักทาย แค่ยืนมองจากไกล ๆ เพื่อรับรู้ว่าอีกฝ่ายนั้นสบายดี เขาทำท่าปั่นจักรยานกลับไปทางเดิม


"เดี๋ยว...จิน! นั่นจินหรือเปล่า!?"


ชื่อของเขาถูกตะโกนเรียกเสียงดังฟังชัด ตกใจจนเผลอทำจักรยานเซแทบล้มโครม ดีที่เขาทรงตัวเอาไว้ได้ทัน จินดริชใจเต้นแรงจนได้ยินเสียงตึกตัก เขาค่อย ๆ หันกลับไปหาคนเรียก สบตาสีเปลือกไม้ประกายจ้า รอยยิ้มกว้างส่งมาให้พร้อมมือที่โบกทักทาย เข้าถึงง่ายแม้อีกฝ่ายจะเป็นผู้ดีตระกูลใหญ่


สายตาผู้คนในเมืองที่รายล้อมพากันจ้องจินดริชสลับกับไบรอันด้วยความตกตะลึง พวกเขาคิดไม่ออกว่าทั้งคู่จะรู้จักกันเป็นการส่วนตัวหรือมีธุระอะไรให้พูดคุยกัน สายตาเหล่านั้นย่อมมีของลูเซียส คิว แมทธีโอนี เขาจับจ้องเสี้ยวหน้าน้องชายที่เด็กกว่าเพียงสามปี ก่อนจะลากสายตาไปยังเด็กหนุ่มชุดเอี๊ยมที่นั่งบนจักรยานทำอะไรไม่ถูก สีหน้ายามปกติจะดูอึดอัดใจหม่นหมอง...


ยามนี้ฉายแววตื่นเต้นและดีใจออกแววตา ลูเซียสไม่เคยเห็นมาก่อน


หรือความจริงแล้วอีกคนไม่เคยมอบมันให้กับเขา...


“ทำไมถึงรู้จักกัน? จินดริชต้องหลอกลวงอะไรคุณไบรอันแน่ ๆ”


“น่ารังเกียจจริง ๆ”


คนน่ารังเกียจที่ว่าอ้าปากค้างเล็กน้อย อึกอักเลิ่กลั่ก ใจหนึ่งบอกให้ตนเองปั่นจักรยานหนี แต่นั่นจะเป็นการเสียมารยาทหรือเปล่านะ...


แต่จะให้เขาเดินเข้าไปหางั้นเหรอ? ไม่ดี...ไม่ดี!


“ทำไมเอาแต่ยืนนิ่งล่ะ มานี่สิจิน!”


ไบรอัน แมทธีโอนี จดจำจินดริชได้...


นั่นทำให้ใจที่มักเหี่ยวเฉามาตลอดชุ่มฉ่ำราวกับถูกรดน้ำ เขาลงจักรยานและเข็นไปหาช้า ๆ ผู้คนแหวกทางให้เหมือนไม่อยากเข้าใกล้ จินดริชอึดอัดแต่เขาก็มาหยุดอยู่ตรงหน้าคนตัวสูง เงยหน้ามองอีกฝ่ายอย่างพินิจ ก่อนจะยิ้มบางเมื่อพบว่าความจริงแล้วไบรอันยังคงใจดีเหมือนเมื่อก่อน


“สวัสดีครับคุณไบรอัน”


คุณชายสองของตระกูลแมทธีโอนียิ้มบางอย่างอ่อนโยน เขาวางมือบนหมวกเบเรต์สีครีม “สวัสดี...จินนี่”


บ่งบอกว่าสนิทสนมกันอย่างชัดเจน นัยน์ตาสีทับทิมลอบมองหน้าแก้มของจินดริชที่ขึ้นสีชมพูอ่อนก่อนจะเดินกลับไปขึ้นรถที่จอดรออยู่ เขานั่งไขว่ห้างไม่อาจยิ้มออกมาได้อีกเช่นเดิมอย่างไม่รู้สาเหตุ ระหว่างนั้นก็แอบมองน้องชายและร่างสูงโปร่งที่ยืนคุยกันอยู่ด้านนอก กระทั่งไบรอันเดินมาหา เขาหมุนบานกระจกลง น้องชายเอ่ยความประสงค์เสียงเรียบพร้อมรอยยิ้ม


“พี่กลับไปก่อนได้เลยนะครับ ผมจะตามกลับไปทีหลังน่ะ”


ลูเซียสนั่งเงียบไปอึดใจหนึ่ง เขามองน้องชายถอดสูทตัวนอกและเนกไทออกส่งให้พ่อบ้านเจสัน เขาเอ่ยถาม


“มีธุระอะไรงั้นเหรอ”


ไบรอันส่งยิ้มให้ ว่าพลางชี้ปลายนิ้วโป้งไปด้านหลังอันมีจินดริชยืนรออยู่ “พอดีผมจะไปคุยกับจินนี่น่ะ”


จินนี่...


“คุยเถอะ ฉันรอได้”


“อาจจะนานอยู่เหมือนกัน พี่กลับไปก่อนเถอะครับ”


ไบรอันเดินกลับไปหาจินดริช ทั้งคู่เหมือนถกเถียงบางอย่างเล็กน้อย ก่อนที่ไบรอันจะขึ้นควบจักรยานตามด้วยจินดริชที่ซ้อนท้าย แล้วทั้งคู่ก็มุ่งหน้าออกจากกลางเมืองไป ใบหน้าเจ้าของจักรยานนั้นแสนจะตื้นตัน


“กลับเลยไหมครับคุณลูเซียส”


ลูเซียสมองตามจนสุดสายตา มือของเขาเกร็งเหมือนฝืนไม่ให้บีบเข้าหากัน เขาตอบคำถามเจสัน “ครับ กลับเลย”






ครอบครัวออสวาล์ดอาศัยอยู่หมู่บ้านข้าง ๆ ชนบทอาร์คาเนีย มารดาของจินดริชเป็นแม่บ้านและทำงานรับจ้างตั้งแต่เช้ามืดยันค่ำ ทุก ๆ วันจะต้องติดรถเกวียนส่งผักเข้าอาร์คาเนียมาทำงาน เพราะว่ายากจนงานปกติจึงไม่เพียงพอเลี้ยงสามีและลูกสาวสองคน ช่วงกลางคืนเธอเป็นหญิงขายบริการในเมืองอาร์คาเนีย งานยอดนิยมและได้เงินดี จนกระทั่งเธอท้องลูกคนที่สาม


เด็กหนุ่มผมดำตาฟ้า...จินดริช ออสวาล์ด


‘นังแพศยา! เด็กนี่มันมีดวงตาสีฟ้าทั้ง ๆ ที่แกกับฉันเป็นสีดำ แปลว่าที่ชาวบ้านลือว่าแกไปขายตัวเป็นเรื่องจริงสินะ!’


‘ใช่! แล้วมันจะทำไมล่ะ ก็ไอ้งานปัดกวาดงก ๆ ให้พวกคนรวยมันไม่พอหาค่าเหล้าให้คุณน่ะสิ!’


‘อีเลวเอ๊ย!’


ตั้งแต่นั้นเธอถูกสามีตบตีเพราะจับได้ว่าเธอขายตัวและให้กำเนิดเด็กชายที่ไม่มีเค้าโครงทั้งแม่และพ่อ จินดริชเป็นลูกของลูกค้าที่มารดาขายตัวให้ ถึงอย่างนั้นมารดาของจินดริชก็ยังคงทำงานแบบเดิมเพราะมันให้เงินดี


เมื่อลูกชายเริ่มเดินได้ จินดริชตัวผอมกะหร่องก็ติดตามเธอเป็นเงาเพื่อเข้าเมืองอาร์คาเนีย มารดาทำงานและปล่อยให้จินดริชไปวิ่งเที่ยวเล่น สั่งสอนให้ลักเล็กขโมยน้อยอย่างเช่นอาหาร กลางดึกก็มาขลุกอยู่ในซ่องค้าประเวณีคอยดูแลแม่ที่เมามายทุกคืน และพาเธอขึ้นรถเกวียนกลับบ้านตอนเที่ยงคืน


ช่วงชีวิตตอนนั้นของจินดริชมีหลายอย่างผ่านเข้ามา รู้จักคุณจูเลียเจ้าของร้านเบียร์ คุณแรมเบิร์ธเศรษฐีชาวไร่ รวมถึงการได้พบเจอกับพี่ชายเจ้าของคฤหาสน์หลังโต เขามีเส้นผมสีทองดวงตาสีน้ำตาล หน้าตาใจดีและยิ้มสวย สวมใส่ชุดเอี๊ยมดำผูกเนกไทเหมือนกับคนมีเงิน


‘ฉันชื่อไบรอัน’


‘ผมชื่อจิน’


‘เหมือนยักษ์จินนี่ในตะเกียงวิเศษหรือเปล่า?’


‘ยักษ์อะไรเหรอ?’


‘มานี่สิ เดี๋ยวจะเล่านิทานให้ฟัง’


พี่ชายตัวสูงจูงมือจินดริชไปนั่งใต้ต้นพีชข้างคฤหาสน์หลังโต เขาหาขนมและนมให้จินได้กินจนอิ่มท้อง เล่าเรื่องน่าตื่นเต้นเหนือจินตนาการที่จินดริชมารู้ในทีหลังว่ามันเป็นเพียงนิทานปรัมปรา จากนั้นจินดริชก็มักจะมารออีกฝ่ายที่ใต้ต้นพีชทุกวัน พี่ชายจะเรียนหนังสืออยู่ที่ระเบียงถึงบ่ายโมง จากนั้นเขาจะลงมาหาจินดริชพร้อมขนมและหนังสือนิทาน พี่ชายใจดีจะพาเขาเที่ยวเล่นไปทั่วอาร์คาเนีย หาของเล่นมาให้ พาไปหอสมุดและเข้าโบสถ์


บุตรชายตระกูลนักบุญสอนให้เขารู้จักกับพระเจ้าผู้น่าศรัทธา...


วงจรชีวิตของจินดริชเป็นเช่นนั้นตลอดหนึ่งปี จนกระทั่งอายุสิบขวบ จินดริชพบพานพายุใหญ่ในชีวิต หายไปหลายเดือน พอกลับมาที่อาร์คาเนีย คฤหาสน์ของพี่ชายไบรอัน แมทธีโอนี...ก็ว่างเปล่าเงียบเหงาเสียแล้ว




“จิน?”


ชะงักหลุดจากภวังค์ จินดริชเงยหน้ามองคนด้านข้าง และเพิ่งรู้ตัวว่าตอนนี้เขานั่งอยู่เก้าอี้ไม้หน้าโบสถ์ ลมหน้าร้อนพัดผ่านค่อนข้างจะอุ่นทำแสบผิว เขาคลำหาเสียงตนเอง “ขอโทษครับ”


“คิดอะไรอยู่งั้นเหรอ?”


“เอ่อ...คิดถึงเมื่อก่อนน่ะครับ”


ไบรอันตอบรับเห็นด้วยในลำคอ เขาแกะกระดาษห่อแซนด์วิชแล้วยื่นให้จินดริช ยิ้มบางพลางขยี้ศีรษะทุยดำสนิท


“ไม่เจอกันนานมากเลย ตอนนั้นฉันสิบหกได้หรือเปล่านะ?”


“ครับ น่าจะสิบปี”


“สบายดีใช่ไหมจินนี่ นายดูผอมเหมือนเดิมเลย ตอนนั้นฉันอุตส่าห์ขุนจนอวบแล้วแท้ ๆ”


ปากแคบอ้าเล็กน้อยเพื่อกัดแซนด์วิชอย่างเต็มใจ เขาตอบอู้อี้


“ก็...สบายดีครับ” ต้องบอกว่าเขาเพิ่งรู้สึกสบายใจก็ตอนนี้ “เอ่อ คุณไบรอันสบายดีไหมครับ”


“อืม ก็นะ...ที่เกรซน่ะค่อนข้างเจริญ มีรถไฟ ร้านค้า แถมคนใช้เยอะกว่าที่นี่ จินนี่เคยไปเกรซไหม?”


“เมืองหลวงเหรอครับ?”


“ใช่น่ะสิ เอ เด็ก ๆ ควรถูกส่งไปเรียนหนังสือที่นั่นสิ”


จินดริชสะอึกเล็กน้อย “ผม...ไม่ได้เรียนน่ะครับ อ่า แต่ผมอ่านหนังสือออก คิดเลขได้นะครับ!”


ไบรอันอึ้งไปเล็กน้อย แต่ก็ยิ้มบางบีบไหล่ของจินเบา ๆ


“เก่งจังนะ แล้วที่ผ่านมาทำอะไรงั้นเหรอ”


“เอ่อ...” จินดริชไม่มั่นใจว่าเขาจะบอกอีกฝ่ายดีไหม ไม่ใช่ว่ายิ่งพูดจะยิ่งดูแย่หรือเปล่า “ทำสวนทำไร่ในเมืองน่ะครับ ทำความสะอาด บางครั้งก็ช่วยเฝ้าสุสาน”


“อ๋อ งานผู้ชายทั่วไปสินะ”


แน่นอนว่าจินไม่พูดถึงงานที่เขาทำอยู่ในบาร์เกย์


“แล้วคุณไบรอันทำอะไรงั้นเหรอครับ!”


“หลังเรียนจบก็ไปช่วยงานครอบครัวที่เกรซล่ะนะ งานโรงแรม งานบริการลูกค้าให้พึงพอใจน่ะ”


จินดริชตาวาวมองอีกฝ่ายอย่างชื่นชม จนไบรอันขำออกมา


“ทำหน้าอะไรแบบนั้นเล่า”


“คุณไบรอันเก่งจังเลยครับ”


คนถูกชมกะพริบตาปริบ ๆ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นยิ้มบาง เงยหน้ามองยอดไม้และท้องฟ้าสดใส “ฝืนใจทำน่ะ...”


ร่างโปร่งมองอีกคนนิ่ง ๆ เขาไม่กล้ากินแซนด์วิชในมือ รออีกคนพูดต่อ


“ฉันไม่ชอบทำงานที่บ้านสักอย่างเลยน่ะจินนี่ ไม่ว่าจะงานเกษตร งานบริการหรืออะไรก็ตามที่ต้องทำตามพ่อแม่”


“...”


“เบื่อ ๆ ก็เลยหนีมาพักอยู่ที่อาร์คาเนียนี่แหละ” ไบรอันหันไปยิ้มให้กับจินดริช “โชคดีจริง ๆ ที่กลับมา”


ความเงียบปกคลุม เรื่องราวที่ถ่ายทอดให้ฟังช่างน่าหนักใจชวนเครียด จินดริชพยายามอย่างมากที่จะเปลี่ยนหัวข้อเรื่อง


“แล้วคุณไบรอันชอบทำอะไรเหรอครับ?”


คราวนี้คนถูกถามนิ่งไปเพราะหาคำตอบไม่ได้ ยามปกติไม่มีใครถามเขาเช่นนั้น ถึงต้องคิดนานอยู่หลายนาที แต่จินดริชก็ไม่เร่งรัดเอาคำตอบ กระทั่งไบรอันมองแซนด์วิชในมือของจิน


“ฉันอาจจะชอบทำขนมน่ะจิน รู้ไหมว่าฉันทำได้นะ”


จินดริชตาวาว “หรือว่าอยากเปิดร้านเบเกอรี่งั้นเหรอครับ?”


ไบรอันชอบรับประทานของหวาน เขาจึงชอบทำในตอนที่ว่างจากงาน


แต่ร้านเบเกอรี่ก็ไม่เคยอยู่ในหัวมาก่อน...


“หืม ถ้าทำได้ดีก็น่าสนใจนะ อืม...ร้านเบเกอรี่งั้นเหรอ” ไบรอันเห็นด้วย ก่อนจะคิดบางอย่างได้ “ไว้ไปบ้านฉันสิจิน เดี๋ยวจะลองอบคุกกี้ให้ทาน ช่วยแนะนำทีว่ามันดีหรือเปล่า”


“บะ บ้านเหรอครับ!?”


หมายถึงคฤหาสน์แมทธีโอนีงั้นเหรอ!


“ไม่สะดวกงั้นเหรอ?”


จินดริชเม้มปากมองสีหน้าผิดหวังของไบรอัน


“เป็นพรุ่งนี้ได้หรือเปล่าครับ พอดีวันนี้ผมต้องไปทำงาน...”