ผู้มัวหมองล่อลวงนักบุญทำสามี ถูกครหาเหยียบย่ำจนจมธรณี... “เพื่ออิสรภาพ” เขาขายวิญญาณสามีให้แก่ซาตาน ❝จงฝังร่างเขาใต้ต้นจูนิเปอร์ และเป็นของข้า❞

หลุมศพสามีใต้ต้นจูนิเปอร์ - 🪦 16 โดย Juharah @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,ชาย-ชาย,ยุคกลาง,ดาร์ค,รัก,พระเอกค่าตัวแพง,พระเอกปากหมา ,พระเอกธงแดง,พระเอกรวย,พระเอกร้าย,พระเอกคลั่งรัก,พระเอกขี้หึง,พระเอกขี้หวง,นายเอกจน,ดยุก,พีเรียดยุโรป,พีเรียดตะวันตก,ลูซิเฟอร์,ซาตาน,ดราม่า,แฟนตาซี,พล็อตสร้างกระแส,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

หลุมศพสามีใต้ต้นจูนิเปอร์

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,ชาย-ชาย,ยุคกลาง,ดาร์ค,รัก

แท็คที่เกี่ยวข้อง

พระเอกค่าตัวแพง,พระเอกปากหมา ,พระเอกธงแดง,พระเอกรวย,พระเอกร้าย,พระเอกคลั่งรัก,พระเอกขี้หึง,พระเอกขี้หวง,นายเอกจน,ดยุก,พีเรียดยุโรป,พีเรียดตะวันตก,ลูซิเฟอร์,ซาตาน,ดราม่า,แฟนตาซี,พล็อตสร้างกระแส

รายละเอียด

ผู้มัวหมองล่อลวงนักบุญทำสามี ถูกครหาเหยียบย่ำจนจมธรณี... “เพื่ออิสรภาพ” เขาขายวิญญาณสามีให้แก่ซาตาน ❝จงฝังร่างเขาใต้ต้นจูนิเปอร์ และเป็นของข้า❞

ผู้แต่ง

Juharah

เรื่องย่อ

𝕳𝖚𝖘𝖇𝖆𝖓𝖉'𝖘 𝖇𝖔𝖉𝖞 𝖚𝖓𝖉𝖊𝖗 𝖙𝖍𝖊 𝕵𝖚𝖓𝖎𝖕𝖊𝖗 𝖙𝖗𝖊𝖊

𝕵𝖚𝖍𝖆𝖗𝖆𝖍




•• <<──≪•◦⚜◦•≫──>> ••


...มันคือความผิดพลาด....


ขอเพียงแค่ 'จินดริชผู้น่ารังเกียจ' ได้หลุดพ้นจากสามีนักบุญอย่าง 'ลูเซียส คิว แมทธีโอนี' ทำไมพระผู้เป็นเจ้าจึงไม่รับฟังคำขอ ทว่าผู้มอบข้อเสนอกลับเป็นปรปักษ์ของพระเจ้า...


วิญญาณของสามีไร้รัก เขาจะมอบให้...ซาตาน


❝ จงฝังร่างเขาใต้ต้นจูนิเปอร์ ❞


แต่จินไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วที่ซาตานต้องการ...ไม่ใช่สามี


•• <<──≪•◦⚜◦•≫──>> ••




TWITTER X: @juha_rah | FACEBOOK: Juharah


แท็ก #หลุมศพสามีใต้ต้นจูนิเปอร์


Story: Juharah | Cover: WP Seazebra

สารบัญ

หลุมศพสามีใต้ต้นจูนิเปอร์-0 Prologue, หลุมศพสามีใต้ต้นจูนิเปอร์-🪦 1, หลุมศพสามีใต้ต้นจูนิเปอร์-🪦 2, หลุมศพสามีใต้ต้นจูนิเปอร์-🪦 3, หลุมศพสามีใต้ต้นจูนิเปอร์-🪦 4, หลุมศพสามีใต้ต้นจูนิเปอร์-🪦 5, หลุมศพสามีใต้ต้นจูนิเปอร์-🪦 6, หลุมศพสามีใต้ต้นจูนิเปอร์-🪦 7, หลุมศพสามีใต้ต้นจูนิเปอร์-🪦 8, หลุมศพสามีใต้ต้นจูนิเปอร์-🪦 9, หลุมศพสามีใต้ต้นจูนิเปอร์-🪦 10, หลุมศพสามีใต้ต้นจูนิเปอร์-🪦 11, หลุมศพสามีใต้ต้นจูนิเปอร์-🪦 12, หลุมศพสามีใต้ต้นจูนิเปอร์-🪦 13.1, หลุมศพสามีใต้ต้นจูนิเปอร์-🪦 13.2, หลุมศพสามีใต้ต้นจูนิเปอร์-🪦 14, หลุมศพสามีใต้ต้นจูนิเปอร์-🪦 15, หลุมศพสามีใต้ต้นจูนิเปอร์-🪦 16, หลุมศพสามีใต้ต้นจูนิเปอร์-📣 แจ้งการติดเหรียญล่วงหน้า, หลุมศพสามีใต้ต้นจูนิเปอร์-🪦 17, หลุมศพสามีใต้ต้นจูนิเปอร์-🪦 18.1, หลุมศพสามีใต้ต้นจูนิเปอร์-🪦 18.2, หลุมศพสามีใต้ต้นจูนิเปอร์-🪦 19 (ปลด 20/10), หลุมศพสามีใต้ต้นจูนิเปอร์-🪦 20 (ปลด 22/10)

เนื้อหา

🪦 16


FACEBOOK: Juharah


TWITTER X: @juha_rah


Tag: #หลุมศพสามีใต้ต้นจูนิเปอร์


Chapter 16






"In the deep dream"






เสียงผิวเนื้อเสียดสีกับของเหลวเหนียวหนืด ดังสอดแทรกรับกับเสียงกระทบคล้ายคนถูกตี ทั้งยังมีอีกหนึ่งคนที่กำลังร่ำร้อง ลูเซียสคิดในคราแรกว่าคนคนนั้นกำลังถูกทำร้ายให้เจ็บปวด หากแต่ลองฟังอย่างถี่ถ้วนแล้วคนผู้นั้นกำลังสุขสมอยู่ต่างหาก


ความกระสันไหลแล่นไปทั่วทั้งเรือนร่าง...


ปลายนิ้ว ปลายเท้าจิกเกร็ง โดยเฉพาะกลางลำตัวที่แสนจะอึดอัดทว่าสาดเสียวเกินรับไหว เขาลืมตาขึ้นอย่างช้า ๆ ภาพที่เห็นเป็นสีขาวโพลนคล้ายหมอก ก่อนจะเบาบางลงและเริ่มมืดสลัว ในตอนนั้นเขารู้ตัวแล้วว่าตนเองกำลังเคลื่อนไหวกายหนักหน่วง นัยน์ตาเลื่อนลงจับจ้องจุดที่อ่อนไหว กำลังสอดใส่ส่วนสำคัญตรงกลางกายกระแทกกระทั้นกับช่องทวารทางออกใครบางคน ร่างโปร่งนอนคว่ำหน้ากับฟูกผ้าดิบสีหม่น ร้องคร่ำครวญจากการถูกกระทำ


การเคลื่อนไหวมาจากเขา แต่เหมือนไม่ใช่ตัวของเขา...


รุนแรงมากเสียจนน่าหวาดกลัว ก้นกลมชื้นเหงื่อนั้นฉ่ำแฉะ ซ้ำยังมีคราบเลือดติดอยู่ด้วย ลูเซียสไม่ตกใจเลยสักนิดว่าตนเองกำลังร่วมรักกับผู้ชายคนหนึ่ง แรงที่ซัดใส่ยังมากขึ้น...มากขึ้น...เขาคำรามดังลั่นราวกับไม่ใช่ตนเอง มือเอื้อมไปจับไหล่ชื้น ขอดูใบหน้าสักหน่อย


ผู้ใดที่มอบความสุขให้เขาถึงเพียงนี้...


พลิกกลับมาเขาก็พบว่าอีกฝ่ายเป็นคนที่รู้จักและเพิ่งพูดคุยกันหลายประโยคก่อนหน้านี้...แปลกใจ...แต่ลูเซียสก็เลือกจับสองขาแยกออกกว้างแทนผลักไสออก ยิ่งถาโถมสะโพกใส่ตามอารมณ์ดิบเถื่อน มองคนใต้ร่างเอื้อมมือขึ้นมากุมใบหน้าเขาอย่างอ่อนโยน ทำให้ใจเต้นระส่ำแต่ก็ไม่หยุดการกระทำหยาบโลน มองวงหน้าสุขสมอย่างถี่ถ้วน


มีสิ่งที่แปลกตาไปอยู่บ้างนั่นก็คือทรงผมที่ยาวประบ่าระหง ใบหน้าดูอิ่มเอิบสมบูรณ์ แต่ที่บ่งบอกว่าเป็นใครคือดวงตาสีฟ้าประกายคล้ายเพชร


ขี้แมลงวันใต้ตาข้างซ้ายน่าเอ็นดู


"...น"


คนใต้ร่างคล้ายพึมพำเรียกชื่อเขาแผ่วเบา ลูเซียสโน้มใบหน้าลงไปมากกว่าเดิม ทว่าชื่อที่ได้ยินทำเขาชะงักกายตนเอง


"...ไบรอัน"




ตึง! โครม!


"รื้อผนังตรงนั้นออกเลยครับคุณพ่อบ้าน"


ตึง!


"จับหน่อยครับ! มันจะล้ม!"


เปลือกตาขาวปรือขึ้นเชื่องช้าอย่างที่ไม่สามารถหลับต่อไปได้เนื่องจากเสียงอึกทึกครึกโครมด้านนอก และยังคงดังอย่างต่อเนื่องราวกับมีการก่อสร้าง โดยเสียงผู้คุมงานเป็นน้องชายของเขาที่เด็กกว่าสามปี


ดวงตาปรือขึ้นมองนาฬิกาตู้ไม้แล้วก็พบว่าเป็นเวลาแปดโมงเช้าซึ่งสายมากทีเดียว ลูเซียสยังคงง่วงซึมเพราะเมื่อคืนเขากลับมาถึงคฤหาสน์และเข้านอนตอนเกือบตีหนึ่ง ซึ่งโดยปกติเขาจะเข้านอนสามทุ่มเป็นประจำ ต่อให้มีงานเร่งด่วนก็จะไม่เกินเที่ยงคืน...ร่างกายอ่อนเพลียอย่างมาก


เสียงคนโยนแท่นไม้ทำให้ลูเซียสไม่อาจฝืนนอนต่อได้ เขาลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียง ปลดกระดุมเสื้อตัวโคร่งออกเผยอกขาวติดชมพูเนื่องจากรู้สึกร้อน ฝ่ามือยกเกาหลังคอเบา ๆ ก่อนจะชะงักเมื่อภาพในความฝันแว็บเข้ามาในหัว ดวงตาเขาขยายเล็กน้อยและค้างเอาไว้เมื่อรู้สึกว่าความฝันลามกนั้นช่างชัดเจน


พอก้มดูที่ช่วงล่างก็พบว่าเขามีปฏิกิริยา ความใหญ่โตดันกางเกงนอนผ้าลินินออกมาจนเป็นรูปทรงกระบอกยาวพาดไปด้านซ้าย


พระเจ้า...


แกร๊ก


นัยน์ตาคมตวัดมองประตูห้องนอนที่ถูกเปิดออก เป็นสาวใช้ที่เข้ามาทำหน้าที่ของตนเอง "ดิฉันเข้ามารอบหนึ่งแล้วแต่เห็นว่าคุณชายยังหลับอยู่ค่ะ"


"...ครับ"


ลูเซียสยันตัวลงจากเตียงไปยืนนิ่ง ๆ แล้วสาวใช้ก็เดินถือเสื้อผ้ามาวางไว้ ณ โต๊ะด้านข้างเตรียมเปลี่ยนให้เขา เธอปลดกระดุมเสื้อออกทีละเม็ดและถอดออกเผยเรือนกายกำยำแข็งแรง ลูเซียสก้มมองใบหน้าของหญิงสาวที่ขึ้นริ้วแดงเขินอายอย่างไม่ปิดบัง ดวงตากลมโต ปากเล็กสีชมพู


ในคฤหาสน์ของเขามีคนใช้ไม่กี่คนเท่านั้น เธอไม่คุ้นตาเขาเป็นไปได้ว่าเป็นสาวใช้ที่เพิ่งเข้ามาใหม่ตามที่เคยสั่งให้เจสันจัดหามาเพิ่ม เลื่อนลงไปที่ชุดกระโปรงแม่บ้าน ช่วงหน้าอกเธอใหญ่เสียจนเสื้อตึงไปหมด เอวที่มีอยู่ยิ่งดูเล็กลงไปมาก เมื่อเธอนั่งคุกเข่าลงก็มีสีหน้าตกใจเมื่อพบว่าภายใต้กางเกงมีบางอย่างไม่ปกติ ดวงตากลมเชยขึ้นสบตากับลูเซียสอย่างเชื่องช้า เขายิ้มบาง ถามเสียงอ่อน


"ชื่ออะไรครับ"


"อะ...เอ็มม่าค่ะคุณแมทธีโอนี"


"อายุ?"


"เดือนหน้าสิบแปดปีค่ะ"


เธอยังคงช้อนตามองขณะจับขอบกางเกง ลูเซียสถึงยิ้มบางแล้วจับข้อมือเล็กสั่นเทาเบา ๆ ดึงออกห่างไปอย่างไม่กระโตกกระตาก


"ไม่ต้องครับ"


"ดิฉันสามารถทำให้...ได้นะคะ"


ไม่แน่ใจว่าหมายถึงการถอดกางเกงหรือสิ่งใดกันแน่ ลูเซียสไม่คิดหาคำตอบ "ไม่เป็นไรครับคุณเอ็มมา กลับไปทำงานของคุณเถอะ"


แม่บ้านสาวอึกอักครู่หนึ่ง เอ็มมายินยอมลุกขึ้นยืนอย่างสำรวมและโน้มตัวให้ก่อนเดินออกจากห้องนอนใหญ่ไป ลูเซียสเพียงแค่มองตามไปจนสุดสายตา เขายังคงยิ้มเล็กน้อยแล้วเริ่มถอดกางเกงของตนเองลงอย่างอ้อยอิ่ง




เจ้าของคฤหาสน์อึมครึมเดินออกมาด้านนอกพร้อมถ้วยชาร้อนหนึ่งใบสำหรับจิบแบบไม่รีบเร่ง เดินไปยังด้านข้างตัวคฤหาสน์อันมีเสียงโครมคราม มองดูน้องชายผมทองประกายในชุดทะมัดทะแมงยืนสั่งการเหล่าช่างประจำคฤหาสน์ให้รื้อไม้ที่ติดกับครัวออกทีละแผ่น เขาเอ่ยถาม


"ทำอะไรน่ะไบรอัน?"


"ลูเซียส! เมื่อวานผมเกือบทำครัวไหม้จนแผ่นไม้ด้านข้างดำเขม่าไฟไปหมด ผมเลยจะให้คนงานรื้อออก"


"มาอยู่ได้สองวันก็ทำคฤหาสน์ไหม้แล้วงั้นเหรอ?"


"มันเป็นอุบัติเหตุน่ะครับ จริงสิ ผมจะขอติดเป็นบานหน้าต่างรับแสงแดดแทน พอดีจินนี่พึมพำว่ามันมืดไปหน่อยครับ พี่ว่ายังไง?"


คนถูกขอความคิดเห็นหลุบตามองพื้น ความฝันน่าละอายรบกวนความคิดของเขาอยู่บ่อยครั้งโดยเฉพาะในช่วงสุดท้ายของความฝัน


ทำกับเขา แต่เอ่ยชื่อน้องชายของเขา...


ชาร้อนถูกยกขึ้นจิบ เขาตอบแบบไม่ใส่ใจ "ตามใจเถอะ"


"ขอบคุณครับ จริงสิ เมื่อคืนพี่ไปส่งจินมาเหรอ?"


"อืม"


"ไม่เห็นต้องลำบากเลยครับ ความจริงผมไปส่งเองก็ได้ อีกอย่างเขาเป็นแขกของผมด้วยครับ"


ลูเซียสจิบชาพลางยิ้มเล็ก ๆ แซวกลับไป


"แขกน้องชายก็เป็นแขกของฉัน และเห็นว่าห้องครัวกำลังจะไหม้พอดี"


"โดนล้ออีกแล้วเหรอเนี่ย เอาเถอะ สงสัยวันนี้ผมต้องไปพบจินนี่บ้างแล้วล่ะ" ไบรอันคิดว่าเขาจะต้องพูดคุยเรื่องเมื่อวานให้ชัดเจน


เจ้าของบ้านไม่กล่าวอะไรต่ออีก เขาเดินเล่นที่สวนหน้าบ้านอย่างผ่อนคลาย อากาศช่วงเช้าถึงสายในฤดูร้อนนั้นเหมาะแก่การพักผ่อนและออกกำลังกายอย่างมาก รวมถึงการเดินคิดทบทวนสิ่งต่าง ๆ อย่างมีสติ


ความฝัน...


นานแล้วที่ไม่ได้ฝันเป็นเรื่องเป็นราวเช่นนี้ ชีวิตของเขานอกจากงานแล้วก็มีเพียงเรื่องการสร้างชื่อเสียงและสั่งสมความน่านับถือ เขาใช้พลังงานแทบทั้งหมดให้กับสองสิ่งนี้ พอได้นอนก็หลับสนิทอย่างเหนื่อยอ่อน ฝันเมื่อคืนทำเขารู้สึกเหนื่อยล้าคล้ายไม่ได้นอน ปฏิเสธไม่ได้ว่ารู้สึกดีจนไม่น่าเชื่อและเสียดายที่ถูกปลุกให้ตื่น ทั้ง ๆ ที่เขาไม่ได้ชื่นชอบบุรุษแต่ในนิมิตกลับไม่รังเกียจสักนิด


ในความฝันออกจะตะกละเสียด้วยซ้ำ


พอรู้ว่าอีกคนที่อยู่ในห้วงภาพลวงตาเป็นใครเขาก็ละอายแก่ใจ


ช่างผิดบาป...


จะว่าไปแล้วปีนี้เขายังไม่ได้ไปสารภาพบาปเลยสักครั้ง อาจจะต้องหาเวลาให้กับเรื่องนั้นบ้างเสียแล้ว ร่างสูงเดินเหม่อลอยมาหยุดอยู่ใกล้ ๆ ต้นพีช คนสวนกำลังยืนถกเถียงชี้นิ้วไปที่บางสิ่งทำเขาหลุดจากห้วงความคิดหนักหน่วง


"นี่มันจักรยานจริง ๆ เหรอ?"


"ใครเอาเศษเหล็กมาพิงต้นไม้ไว้เนี่ย โยนใส่รถขยะเลยบ็อบ"


จักรยานสีสนิมถูกชาวสวนร่างกำยำจับด้วยมือข้างเดียว ลูเซียสมองตามไร้คำพูดจา ยกชาขึ้นจิบและยิ้มมุมปากเล็กน้อย


โครม!


จักรยานถูกโยนใส่ท้ายรถบรรทุกขยะเพื่อเตรียมเอาไปขายเป็นเศษเหล็ก นัยน์ตาคมมองตามรถที่เคลื่อนตัวออกไปเชื่องช้า พึมพำนึกขำขัน


"ดูเหมือนจะมีเด็กลืมจักรยาน"






เด็กวัยยี่สิบปีกำลังยืนจับไม้กวาดอยู่ลานกว้างหน้าโบสถ์ ใบหน้าที่ยามปกติเรียบเฉยอยู่แล้วตอนนี้ยิ่งหม่นหมองคร่ำเครียด วงหน้าขาวชะโงกไปทางถนนหน้าโบสถ์บ่อยครั้งอย่างรอคอย คาดหวังเจอรถม้าหรือรถยนต์สีดำขัดเงา


ปกติลูเซียสมักจะมาถวายทรัพย์หรือคุยกับคุณพ่อช่วงเช้าอยู่บ่อย ๆ ไม่ใช่หรือ? ทำไมวันนี้ยังไม่มาจนเวลาผ่านไปเกือบเที่ยงวัน เขาเม้มปากกังวลใจ นั่นเพราะจินดริชเผลอทำพลาดครั้งใหญ่เข้าให้แล้ว


เขาลืมจักรยานไว้ที่คฤหาสน์ของนักบุญแมทธีโอนี!


"หรือจะต้องเดินไป..."


ทั้งไกลและยังผ่านป่าช้าใหญ่ แข้งขาอ่อนหน้าซีดอยากจะนอนร้องไห้กับพื้น หากไม่เกิดเรื่องเมื่อคืนเข้าเสียก่อนจินดริชคงขอความช่วยเหลือจากคุณไบรอัน แต่ตอนนี้เขารู้สึกอับอายและกลัวอีกฝ่ายผิดหวังในตัวเขา


แต่จักรยานคันนั้นเป็นเหมือนสมบัติที่ได้จากคุณแรมเบิร์ธ เขาไม่อาจทิ้งได้เช่นกัน หากสุดท้ายจะต้องเดินเท้ากลับไปเอาเขาคงต้องทำ


เหมือนว่าจินดริชจะโชคดีอยู่บ้าง รถยนต์คันดำขยับมาจอดเทียบหน้าโบสถ์ แต่พอไบรอันเดินลงมาด้วยท่าทีเป็นสง่าจินดริชก็ตัวแข็งค้างไป มีก้อนจุกลำคอให้พูดไม่ออก ใจอยากเดินหนีแต่เท้าไม่ขยับเพราะถูกรอยยิ้มใจดีของไบรอันตรึงเอาไว้ พี่ชายวัยเด็กไม่ได้มีท่าทีรังเกียจเขาอย่างที่คิดลบ


“จินนี่”


“...อรุณสวัสดิ์ครับคุณไบรอัน”


“เมื่อวานไม่ได้ไปส่งด้วยตนเอง ขอโทษจากใจนะจิน”


“ไม่เป็นไรครับ ไม่เป็นอะไรเลย...”


ชายผมทองมองเห็นความกังวลจากสีหน้าชายหนุ่มตรงหน้า และมีเก้าอี้ม้านั่งอยู่ใกล้ ๆ กัน “นั่งคุยกันก่อนสิจินนี่”


เกิดความลังเลเล็กน้อยแต่จินก็เดินไปนั่งข้าง ๆ เขาชะงักมองร่างสูงใหญ่ของลูเซียสกำลังเดินคุยบางอย่างกับบาทหลวงข้าง ๆ โบสถ์ ใจบีบรัดหันไปหาไบรอันเพื่อแก้ไขความเข้าใจผิด


“เรื่องที่คุณแมทธีโอนีพูดเมื่อคืนนี้...ผมทำงานอยู่ที่ร้านเบียร์ของคุณจูเลียจริง ๆ ครับ ร้านที่เบียร์หมักรสชาติดีที่สุดในย่านอาร์คาเนีย และเป็นร้านที่มีชายหนุ่มคอยให้บริการ...เรื่องอย่างว่า”


ไบรอันมีสีหน้าตกใจอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ยังไม่พบเจอร่องรอยความรังเกียจ เหมือนว่าเป็นเรื่องไม่คาดคิดและเขาพูดไม่ออก


“อ่า...สงสัยคงต้องไปลองดื่มเบียร์บ้างแล้วล่ะ”


“แต่คุณไบรอันครับ ผมเป็นเพียงเด็กเสิร์ฟภายในร้าน ผมเข้างานเที่ยงคืนและเสร็จงานตอนตีห้า ผมทำเพียงแค่นั้นจริง ๆ ซึ่งมันอาจขัดแย้งกับสิ่งที่คนอื่นในเมืองลือกัน ผมไม่คาดหวังให้คุณไบรอันเชื่อ แต่ผมไม่สบายใจหากคุณเข้าใจผิดครับ”


“พูดอะไรน่ะจินนี่”


คนที่แก้ตัวด้วยความสัตย์จริงเป็นวรรคเป็นเวรได้แต่หันไปสบตาสีน้ำตาลแก่ ไบรอันส่งยิ้มเจิดจ้าและส่งมือมาขยี้หัวของจินจนยุ่งเหยิง จู่ ๆ น้ำตาก็คลอเบ้าของเขา เม้มปากรออีกคนพูดต่อ


“ฉันไม่ใส่ใจคำพูดคนอื่นหรอกนะ”


แม้จะรู้จักกันเพียงสั้น ๆ ในวัยเด็ก ไบรอันก็พอรู้ว่าจินดริชเป็นคนที่ซื่อตรงเกินกว่าจะโกหกหน้าตาย ยามที่อธิบายมือก็กำกันแน่นสั่นไหว ทุกถ้อยคำมีจุดประสงค์เพื่ออธิบาย ไม่ใช่ขอให้เชื่อใจ


“คุณไบรอัน...เชื่อผม?”


“แน่นอนอยู่แล้วสิ ก็นะ...งานในบาร์ดึก ๆ ดื่น ๆ คงได้เงินดีใช่ไหมล่ะ? แถมลูกค้าก็คงไม่เยอะและไม่เหนื่อยมาก เป็นฉันก็คงเลือกทำงานแบบนั้น”


นัยน์ตาจินดริชสั่นไหวพร่าเบลอจนต้องยกมือขยี้แรง


ไบรอันเชื่อเขา...


“ครับ เยอะกว่าค่าแรงจากหอสมุดตั้งสองเท่า”


“ขี้งกจริง ๆ เลย”


เมื่อเรื่องที่กังวลถูกคลี่คลาย จินดริชนึกบางอย่างขึ้นได้


“อะ จริงสิครับ จักรยานของผมอยู่ที่คฤหาสน์แมทธีโอนี”


“นายปั่นจักรยานมางั้นเหรอ?”


“ครับ ผมไม่สามารถเดินไปได้”


“ไกลขนาดนั้นทำไมไม่จ้างรถม้าล่ะ”


“มันสิ้นเปลืองเกินไปสำหรับผมน่ะครับ”


ไบรอันเลิกคิ้วทำหน้านึก “อืม...ฉันไม่มั่นใจว่าเห็นนะจิน งั้นเดี๋ยวลองถามลูเซียสดู เขาอาจจะตอบได้”


“เอ่อ-”


“ลูเซียส!”


ไม่ทันปฏิเสธความหวังดีอันท่วมท้นของไบรอัน จินดริชได้แต่ยิ้มฝืดค้างราวกับถูกแช่แข็ง เสียงฝีเท้าหนักเดินมาหยุดด้านหลัง น้ำหอมคุ้นจมูกบางเบาทว่ากระจายกว้างให้ได้กลิ่น จินดริชใช้เวลาอยู่ครู่หนึ่งเพื่อที่จะหันไปทักทายโดยไม่เงยหน้ามอง


“อรุณสวัสดิ์ครับคุณแมทธีโอนี”


จู่ ๆ ก็รู้สึกทำตัวไม่ถูก จินเม้มปากเล็กน้อย ไม่นานเสียงทุ้มก็ทักทายกลับมา “อรุณสวัสดิ์ครับคุณออสวาล์ด”


“เห็นจักรยานของจินนี่ไหมครับ”


ลูเซียสหันมองหัวทุยที่เอาแต่หลบเลี่ยงไม่จ้องตอบ


“จักรยานแบบไหนงั้นเหรอครับคุณออสวาล์ด?”


เมื่อถูกถามตรง ๆ เช่นนั้น จินดริชก็ไม่อาจหลบหน้าได้อีก เขาลุกขึ้นและสบตากับอีกฝ่าย เหมือนเห็นนัยน์ตาคมนั้นสั่นเล็กน้อยจนคิดว่าตาฝาด


“จักรยานคันเก่าขึ้นสนิมครับ คันเดียวกันกับวันนั้น” ที่เขาตัดหน้ารถม้าของลูเซียส...


เสียงทุ้มตอบรับในลำคอเล็กน้อย ลูเซียสตอบเขาใบหน้ายังคงเรียบเฉย ยังดีที่ไร้ความรู้สึกด้านลบ


“คนสวนนำไปทิ้งแล้วครับ”


จินดริชตัวแข็งปากเผยอค้าง ประโยคนั้นก้องในหัวกระทั่งหูดับไป


“เขาเข้าใจว่าเป็นเศษเหล็ก ผมรั้งเอาไว้ไม่ทันครับ”


ทิ้ง...ไปแล้ว


“จินนี่ ได้ยินไหม? จิน...” ไบรอันโบกมือผ่านใบหน้าไปมา


ทิ้ง...


ลูเซียสยิ้มมุมปากมองดูคนที่เหมือนวิญญาณหลุดลอยออกจากร่างไปแล้ว ตัวสั่นตามแรงเขย่าของไบรอัน ลูเซียสนึกขำในใจก่อนจะล้วงถุงเงินออกมาจากด้านในเสื้อสูทหนา เป็นเงินที่เจ้าตัวคืนเขามาเมื่อคืนนี้และเขาสอดธนบัตรเพิ่มให้สามใบ รวมแล้วหลายปอนด์ทีเดียว ทำไปเพราะรู้สึกถูกหยามเกียรติจากการโดนปฏิเสธหลายต่อหลายครั้ง ยื่นไปให้แบบไม่เร่งรัดให้รับไป


“เป็นความผิดของผมที่ไม่ห้ามคนของตนเอง นี่น่าจะเพียงพอสำหรับค่าจักรยานคันใหม่นะครับ คุณออสวาล์ด”


สติที่หลุดลอยกลับมาอีกครั้ง นัยน์ฟ้าประกายหลุบมองถุงเงินคุ้นตาเฉยเมยไม่ยอมรับ “ไม่เป็นไรครับคุณแมทธีโอนี ยังไงเมื่อก่อนผมก็เดินเป็นปกติอยู่แล้ว ขาดจักรยานไปไม่เป็นปัญหาเลยสักนิดครับ”


นัยน์ตาสีเข้มราวกับมีประกายแดง เขาจับจ้องขี้แมลงวันใต้ตาซ้ายแล้วนึกอย่างจะใช้ปลายนิ้วขยี้ลงไป “รับไปครับ”


จินดริชยังคงยืนกรานไม่รับเพราะเกรงใจ จนไบรอันที่มองทั้งคู่สลับกันเป็นฝ่ายรับมาแทน จินดริชถึงได้ตกใจหน้าเหวอ


“ไม่ต้องกังวลไปหรอกจินนี่ เงินเพียงเท่านี้ไม่ทำให้ขนหน้าแข้งของลูเซียสร่วงสักเส้นเดียว ฉันจะพาไปเลือกจักรยานคันใหม่ดีไหม?”


“แต่ว่า-”


“ผมคงไม่ได้ไปพบมาร์ควิสวัตสันกับพี่นะครับ อยากจะไปเที่ยวเล่นกับจินนี่น่ะ” ไม่พูดเปล่า เขาทำการยึดข้อมือของจินดริชไม่ให้หนี


ลูเซียสหลุบตามองตามนิ่ง ๆ กล่าวกับน้องชายเสียงเข้ม


“อายุยี่สิบหกไม่ควรจะเที่ยวเล่นแล้วนะครับคุณไบรอัน อีกอย่าง...คุณออสวาล์ดก็โตพอจะไปทำธุระได้ด้วยตนเอง” นัยน์ตาคมปลาบหันจ้องจินดริชติดกดดัน ถึงอย่างนั้นเป็นน้องชายเขาเองที่เอาแต่ใจ


“คงต้องขัดใจครับคุณลูเซียส เพราะผมพักร้อนจากงานอยู่ครับ”


คนกลางหนักใจเพราะลูเซียสมองจินดริชอย่างทิ่มแทง


“ผมไปเองได้ครับคุณไบรอัน อีกอย่างผมต้องไปเฝ้าสุสานบ่ายวันนี้”


“น่าสนใจดีนี่จิน เราจะไปซื้อจักรยานและปั่นไปสุสานด้วยกัน แวะซื้อผ้าปูและชุดอาการปิกนิกด้วยดีกว่า” ไบรอันตาวาว


“ปะ ปิกนิกเหรอครับ? ข้างสุสานเนี่ยนะครับ!?”


ไบรอันขำแผ่ว “ขอตัวก่อนนะครับพี่ชาย ทำงานให้สนุกล่ะ”


สองร่างเดินเร็วผ่านร่างของลูเซียสไปจนเส้นผมปัดผ่านใบหน้า ลูเซียสยังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิมและจับจ้องเศษใบไม้แห้งที่พื้น


ปิกนิก...


มองตามสองคนที่เดินเคียงข้างมุ่งหน้าเข้าเมือง พวกเขาพูดคุยกัน เสียงไบรอันหัวเราะลั่นไร้ความเรียบร้อย และอีกคนที่ใบหน้าแช่มชื่นผิดวิสัย


ลูเซียสไม่อาจอธิบายความรู้สึกที่สะกิดใจเขาในตอนนี้...