ผู้มัวหมองล่อลวงนักบุญทำสามี ถูกครหาเหยียบย่ำจนจมธรณี... “เพื่ออิสรภาพ” เขาขายวิญญาณสามีให้แก่ซาตาน ❝จงฝังร่างเขาใต้ต้นจูนิเปอร์ และเป็นของข้า❞

หลุมศพสามีใต้ต้นจูนิเปอร์ - 🪦 18.2 โดย Juharah @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

แฟนตาซี,ชาย-ชาย,ยุคกลาง,ดาร์ค,รัก,พระเอกค่าตัวแพง,พระเอกปากหมา ,พระเอกธงแดง,พระเอกรวย,พระเอกร้าย,พระเอกคลั่งรัก,พระเอกขี้หึง,พระเอกขี้หวง,นายเอกจน,ดยุก,พีเรียดยุโรป,พีเรียดตะวันตก,ลูซิเฟอร์,ซาตาน,ดราม่า,แฟนตาซี,พล็อตสร้างกระแส,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

หลุมศพสามีใต้ต้นจูนิเปอร์

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

แฟนตาซี,ชาย-ชาย,ยุคกลาง,ดาร์ค,รัก

แท็คที่เกี่ยวข้อง

พระเอกค่าตัวแพง,พระเอกปากหมา ,พระเอกธงแดง,พระเอกรวย,พระเอกร้าย,พระเอกคลั่งรัก,พระเอกขี้หึง,พระเอกขี้หวง,นายเอกจน,ดยุก,พีเรียดยุโรป,พีเรียดตะวันตก,ลูซิเฟอร์,ซาตาน,ดราม่า,แฟนตาซี,พล็อตสร้างกระแส

รายละเอียด

ผู้มัวหมองล่อลวงนักบุญทำสามี ถูกครหาเหยียบย่ำจนจมธรณี... “เพื่ออิสรภาพ” เขาขายวิญญาณสามีให้แก่ซาตาน ❝จงฝังร่างเขาใต้ต้นจูนิเปอร์ และเป็นของข้า❞

ผู้แต่ง

Juharah

เรื่องย่อ

𝕳𝖚𝖘𝖇𝖆𝖓𝖉'𝖘 𝖇𝖔𝖉𝖞 𝖚𝖓𝖉𝖊𝖗 𝖙𝖍𝖊 𝕵𝖚𝖓𝖎𝖕𝖊𝖗 𝖙𝖗𝖊𝖊

𝕵𝖚𝖍𝖆𝖗𝖆𝖍




•• <<──≪•◦⚜◦•≫──>> ••


...มันคือความผิดพลาด....


ขอเพียงแค่ 'จินดริชผู้น่ารังเกียจ' ได้หลุดพ้นจากสามีนักบุญอย่าง 'ลูเซียส คิว แมทธีโอนี' ทำไมพระผู้เป็นเจ้าจึงไม่รับฟังคำขอ ทว่าผู้มอบข้อเสนอกลับเป็นปรปักษ์ของพระเจ้า...


วิญญาณของสามีไร้รัก เขาจะมอบให้...ซาตาน


❝ จงฝังร่างเขาใต้ต้นจูนิเปอร์ ❞


แต่จินไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วที่ซาตานต้องการ...ไม่ใช่สามี


•• <<──≪•◦⚜◦•≫──>> ••




TWITTER X: @juha_rah | FACEBOOK: Juharah


แท็ก #หลุมศพสามีใต้ต้นจูนิเปอร์


Story: Juharah | Cover: WP Seazebra

สารบัญ

หลุมศพสามีใต้ต้นจูนิเปอร์-0 Prologue, หลุมศพสามีใต้ต้นจูนิเปอร์-🪦 1, หลุมศพสามีใต้ต้นจูนิเปอร์-🪦 2, หลุมศพสามีใต้ต้นจูนิเปอร์-🪦 3, หลุมศพสามีใต้ต้นจูนิเปอร์-🪦 4, หลุมศพสามีใต้ต้นจูนิเปอร์-🪦 5, หลุมศพสามีใต้ต้นจูนิเปอร์-🪦 6, หลุมศพสามีใต้ต้นจูนิเปอร์-🪦 7, หลุมศพสามีใต้ต้นจูนิเปอร์-🪦 8, หลุมศพสามีใต้ต้นจูนิเปอร์-🪦 9, หลุมศพสามีใต้ต้นจูนิเปอร์-🪦 10, หลุมศพสามีใต้ต้นจูนิเปอร์-🪦 11, หลุมศพสามีใต้ต้นจูนิเปอร์-🪦 12, หลุมศพสามีใต้ต้นจูนิเปอร์-🪦 13.1, หลุมศพสามีใต้ต้นจูนิเปอร์-🪦 13.2, หลุมศพสามีใต้ต้นจูนิเปอร์-🪦 14, หลุมศพสามีใต้ต้นจูนิเปอร์-🪦 15, หลุมศพสามีใต้ต้นจูนิเปอร์-🪦 16, หลุมศพสามีใต้ต้นจูนิเปอร์-📣 แจ้งการติดเหรียญล่วงหน้า, หลุมศพสามีใต้ต้นจูนิเปอร์-🪦 17, หลุมศพสามีใต้ต้นจูนิเปอร์-🪦 18.1, หลุมศพสามีใต้ต้นจูนิเปอร์-🪦 18.2, หลุมศพสามีใต้ต้นจูนิเปอร์-🪦 19 (ปลด 20/10), หลุมศพสามีใต้ต้นจูนิเปอร์-🪦 20 (ปลด 22/10)

เนื้อหา

🪦 18.2


สถานที่ที่จินดริชมาคือคฤหาสน์บ้านสวนของคุณแรมเบิร์ธ เขาตั้งใจที่จะมาขอโทษอีกฝ่ายเรื่องจักรยานที่ถูกนำไปทิ้งจนไม่สามารถนำกลับคืนมาได้


สภาพคฤหาสน์ทำตกใจเล็กน้อย ปกติแล้วรอบนอกจะสดใสเต็มไปด้วยพืชผักดอกไม้หลากสี แต่ตอนนี้กลับไม่มีสิ่งใดนอกจากเถาวัลย์เหี่ยวเฉา ดูไม่สะอาดตาคล้ายไร้การดูแล คนใช้ภายในบ้านก็ไม่มี จินดริชเดินเข้าไปในตัวบ้านเงียบเหงายามเย็น


“คุณแรมเบิร์ธครับ”


เงียบกริบไร้เสียงขานรับเช่นทุกที


“คุณแรมเบิร์ธ”


ร่างโปร่งวางกระเป๋าสะพายตนเองไว้ที่ขั้นบันไดก่อนจะก้าวขึ้นชั้นบน จินดริชรู้ว่าห้องนอนของแรมเบิร์ธอยู่ตรงไหนเพราะสมัยเด็กเขาเคยเข้ามานั่งเล่นอยู่บ่อย ๆ เปิดประตูเข้าไปก่อนจะนิ่วหน้าเพราะกลิ่นประหลาด เขามองร่างท้วมที่นอนหันข้างบนเตียงใหญ่


“สาวใช้หายไปไหนหมดครับ ทำไมไม่มาทำความสะอาดห้อง?”


“...”


“ด้านนอกก็สกปรก”


กำลังจะบ่นต่อแต่ประโยคก่อนหน้ายังไม่ถูกตอบโต้ ร่างบนเตียงแน่นิ่งเช่นเดิมจนจินดริชเริ่มหวั่นใจ เขาก้าวขาเข้าไปเชื่องช้า เรียกด้วยเสียงที่ดังมากกว่าเดิม “คุณแรมเบิร์ธ?”


ราวกับหัวใจของเขาหยุดเต้นเพราะร่างบนเตียงแน่นิ่ง จินดริชรีบวิ่งไปพลิกร่างนั้นให้นอนหงาย เขาเขย่าตัวอีกฝ่ายแรง


“คุณแรมเบิร์ธ!”


ไม่จริง...


แรงเขย่าเพิ่มมากขึ้น จินดริชกำลังก้มหน้าลงไปเพื่อฟังเสียงหายใจ


“อืม...จินเหรอ?”


เสียงแหบพร่าดังขึ้นก่อนทำจินดริชเข่าทรุดนั่งลงที่ขอบเตียง ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก เขามองดูชายวัยห้าสิบลืมตาขึ้นอย่างยากลำบาก อีกฝ่ายหันมองเขาแล้วส่งยิ้มให้ เอ่ยถามติดตลก


“มาทำอะไรแต่เช้ากันล่ะ...”


“ตอนนี้ห้าโมงเย็นแล้วต่างหาก คุณหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่กันแน่ครับคุณแรมเบิร์ธ”


“จริงเหรอ ก่อนหลับไปยังมืดอยู่เลยนี่นา”


ใบหน้าของเด็กหนุ่มซีดเซียวเมื่อเห็นสภาพชายใจดีของเขา จินรีบลุกขึ้นยืนแล้วเปิดผ้าห่มออก และเขาพบที่มาของกลิ่นแปลกประหลาด


ขาสองข้างช้ำแดงน่ากลัวอย่างมาก มันเริ่มส่งกลิ่นเหม็น


“คุณป่วย”


“อืม ตั้งนานแล้วล่ะนะ”


“ไม่ คุณต้องตัดขา มันเน่าแล้วและต้องตัดเดี๋ยวนี้!” จินดริชพยายามยกร่างท้วมใหญ่ขึ้น แต่เขาไม่อาจทำได้เพราะอีกฝ่ายหนักเกินร้อยกิโลกรัม มือของเขาเริ่มสั่นเทา “พยายามลุกขึ้นได้ไหมครับ”


“อย่าเลยจิน ฉันไม่ไหว...”


“คุณลิลลี่ล่ะ ภรรยาของคุณไปไหน?”


จินดริชไม่พบเจอเธอเลยไม่ว่าจะมากี่ครั้งต่อกี่ครั้ง


“เธอออกไปเที่ยวน่ะ ได้ยินว่าจะกลับสัปดาห์หน้า”


“งั้นผมจะพาคุณไปหาหมอเอง”


“จิน มันไม่มีประโยชน์แล้ว...ไม่ทัน”


“ไม่ครับ มันยังทันสิ พระเจ้าไม่มีทางทอดทิ้งคุณแน่”


มือเหี่ยวเลิกผ้าห่มปิดสองขาตามเดิมเพราะทนกลิ่นต่อไปไม่ไหว เขาขำแผ่วเอ่ยยิ้ม ๆ ไม่ทุกข์ร้อน


“หากเทน้ำเปล่าให้สักแก้ว เธอจะกลายเป็นพระเจ้าของฉัน”


ไม่รีรอที่จะทำตามคำขอนั้น จินดริชรีบรินน้ำจากเหยือกแล้วประคองให้แรมเบิร์ธดื่ม สภาพช่างน่าเวทนา ทั้ง ๆ ที่มีเงินแต่ทำไมถึงปล่อยให้ตนเองเป็นเช่นนี้ “คนใช้ล่ะครับ ไปไหนกันหมด?”


“หือ เขาคงออกไปซื้อของหรือไม่ก็ทำธุระน่ะ อีกไม่นานคงกลับ”


“คุณมีคนดูแลใช่ไหมครับ หากไม่มีผมจะมาเอง”


“ไม่ต้องห่วง นั่นไง...เสียงรถม้า”


จินดริชรีบเดินไปเปิดผ้าม่าน เขาจ้องมองสาวใช้เดินลงจากรถม้าถือของพะรุงพะรัง ร่างโปร่งวางใจและกลับมานั่งข้าง ๆ เตียง จับตามตัวคนป่วยที่ค่อนข้างร้อนระอุ ก่อนที่แรมเบิร์ธจะผลักไส


“อย่าแตะต้องฉันเยอะนัก และอย่าลืมล้างมือ”


“ผมไม่ได้รังเกียจ!”


“จิน ฉันอยากนอนพัก”


“คุณ ไปหาหมอเถอะนะครับ...”


“จิน”


“ที่เกรซมีหมอเก่ง ๆ คุณอดทนเดินทางสักสามวันเท่านั้น”


“ขอให้ฉันได้นอน ได้โปรด”


แรมเบิร์ธดูง่วงซึมมากจนไม่รับฟังจินดริชต่อไปอีก เขาปิดเปลือกตาและเริ่มหายใจเข้าออกอย่างเชื่องช้า เด็กหนุ่มเห็นท่าไม่ดีและเขาคงไม่มีเสียงมากพอที่จะบังคับให้แรมเบิร์ธเข้าเมืองใหญ่ไปรักษาตัว


“คุณจะต้องถูกรักษา”






“ขอบคุณจริง ๆ ที่ออกมาดินเนอร์ด้วยกันกับเราในวันนี้ ทั้ง ๆ ที่เหนื่อยจากการพาโอลิเวียเที่ยวชมสวนทั้งวัน”


ลอร์ดจาเร็ตกล่าวด้วยสีหน้าแช่มชื่น เขายิ้มให้เหล่าคนที่มาทักทายอย่างแปลกใจ น้อยครั้งจะเป็นคนมีชื่อเสียงมานั่งร้านอาหารที่หรูหราที่สุดกลางเมืองอาร์คาเนีย ยิ่งน่าจับตามองเพราะมีนักบุญลูเซียสร่วมโต๊ะด้วย


“ด้วยความยินดีครับ” ลูเซียสเอ่ยเสียงอ่อน


“โอลิเวียชื่นชอบเค้กร้านนี้มากค่ะ ไว้มีโอกาสก็มาด้วยกันอีกนะคะคุณแมทธีโอนี” ฝ่ายมารดากลัวยิ้มหน้าบาน


“ครับคุณผู้หญิง” ลูเซียสยกชาขึ้นจิบเชื่องช้าท่าทางสำรวม


“ร้านนี้ลูกค้าเยอะจริง ๆ เหมือนเห็นคุณผู้หญิงลิลลี่ภรรยาคุณแรมเบิร์ธที่โต๊ะมุมกับบรรดาเพื่อนของเธอ”


บารอนจาเร็ตกวาดตามอง “มีชนชั้นสูงมาดินเนอร์เยอะพอควร”


“เอ๊ะ นั่นจินดริชหรือเปล่าคะ? ทำไมเขาถึงเข้ามาในร้านได้ล่ะ!”


นัยน์ตาสีเข้มไม่ได้แตกตื่น เขาเพียงวางแก้วชากับจานรองและหันหน้าไปมองตามสายตาของคนทั้งร้าน เด็กหนุ่มเสื้อฝ้ายสีดำมอมแมมขัดกับความหรูหราของร้านอย่างมาก เจ้าตัวกวาดตาหาบางสิ่งก่อนจะมุ่งตรงสู่หัวมุมร้าน สีหน้าร้อนรนทุกข์ใจ


จุดหมายของจินดริชคือหญิงสาวในชุดกระโปรงสีเขียว เธอนั่งยิ้มแย้มร่าเริงกับเพื่อนสาวในร้านอาหารหรูจนจินดริชรู้สึกไม่พอใจเพราะสามีของเธอนอนป่วยซมลุกไม่ได้ เดินไปหยุดข้าง ๆ เธอจนกระทั่งรู้ตัวและหันมอง ใบหน้าแต่งแต้มเครื่องสำอางไร้รอยยิ้มอีกต่อไป เธอตกใจที่เห็นเขา


“แก...ทำไมถึงเข้ามาที่-”


“คุณแรมเบิร์ธป่วยหนักลุกขึ้นจากเตียงไม่ได้ ขาของเขาที่เป็นแผลเริ่มเน่าใกล้มีน้ำหนอง มันม่วงและส่งกลิ่นเหม็น”


ผู้คนในร้านที่ได้ยินเริ่มมีสีหน้าไม่สู้ดี พะอืดพะอมอยากจะอาเจียนกับประโยคบอกเล่าที่ทำเอาเห็นภาพชัดเจน ลิลลี่อับอายได้แต่เค้นเสียง


“มาพูดจาเลอะเทอะอะไรที่นี่ หุบปากของแกซะ”


“คุณควรพาเขาไปหาหมอนะครับ หากช้ากว่านี้มันไม่ทันการแน่”


“แล้วแกมายุ่งอะไรกับสามีของฉันจินดริช กลับไปเดี๋ยวนี้”


“นั่นเพราะคุณไม่ดูแลเขา ได้โปรดพาเขาไปหาหมอที่เกรซ ผมได้ยินว่าแพทย์ที่นั่นเก่งและมีเครื่องมือทันสมัย”


“อย่ามาทำเป็นรู้ดี โง่ ๆ อย่างแกจะรู้เรื่องแบบนี้ได้ยังไง”


“เพราะผมอ่านหนังสือ”


“กะ แกจะหาว่าเป็นฉันต่างหากที่โง่งั้นเหรอ!”


“ผมเปล่า แต่อย่าสนใจเรื่องนั้นเลยครับ”


หญิงสาวลุกขึ้นจากเก้าอี้ เธอเงยหน้ามองจินดริชที่สูงกว่าเล็กน้อย ก่อนจะตะเบ็งเสียงด่าลั่นร้าน


“แล้วเรื่องอะไรที่ฉันต้องฟังคนน่ารังเกียจอย่างแก สามีก็สามีฉัน!”


“หากคุณยังรับรู้ว่าตนเองเป็นภรรยา ได้โปรดกลับไปดูแลเขาเถอะนะครับคุณผู้หญิงลิลลี่ เขาไม่ไหว เขาไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่านอนหลับไปนานขนาดไหน”


เพียะ!


ฮือฮา! คนในร้านตกใจป้องปากกระซิบกระซาบ


นักบุญแห่งอาร์คาเนียจ้องจับจ้องเหตุการณ์นั้นไม่วางตา ใบหน้าของเขาเรียบเฉยไม่ได้ลุกขึ้นไปช่วยเหลือแต่อย่างใด


นัยน์ตาฟ้าขยายเบิกกว้างตกใจ จินดริชไม่ทันตั้งตัวรับฝ่ามือที่ตบลงซีกแก้มซ้าย แรงของเธอทำให้เขารู้สึกชาวาบไร้ความรู้สึก ก่อนที่ศีรษะจะโยกแรงเมื่อปลายนิ้วของเธอจิ้มหัวเขาหลายที ตะโกนเสียงดังให้คนทั้งร้านรับรู้และได้ยิน


“หน้าไม่อาย! เป็นชู้หลอกลวงสามีของฉันแล้วยังมีหน้ามาพูดจาเยาะเย้ยว่าเข้าไปหาสามีฉันถึงห้องนอน ไม่ต้องมาอ้างพูดจามากความอะไรหรอกนะไอ้ตัวน่ารังเกียจ เพราะฉันน่ะจะหย่ากับเขาแล้ว ไม่มีใครรับได้ที่สามีตนเองทำผิดบาปร่วมรักกับผู้ชายโดยเฉพาะเป็นแก! จินดริชน่ารังเกียจ!”


คนถูกกล่าวหาได้แต่อึ้งที่โดนใส่ความมากมาย แต่หากต้องเลือกระหว่างแก้ตัวกับช่วยเหลือผู้มีพระคุณ จินดริชเลือกอย่างหลัง


“ได้โปรดครับคุณลิลลี่ พาคุณแรมเบิร์ธไปหาหมอได้ไหม”


เพราะชายคนนั้นดีกับเขามาตลอด


“ออกไปเจ้าโง่!”


“ได้โปรดล่ะครับ เขาต้องการคุณนะครับ!”


เพราะแรมเบิร์ธเป็นเพื่อนของจินดริช


“ใครก็ได้ลากมันออกไปที!”


“ขอร้องล่ะครับ! คุณลิลลี่!”


แล้วจินดริชก็ถูกคนงานร่างยักษ์สองคนหิ้วแขนโยนออกไปนอกร้าน ตัวเขาล้มคลุกฝุ่นจนชนจักรยานที่จอดอยู่ล้มโครม จินดริชรีบรุดไปยกขึ้น แล้วก็ตามมาด้วยน้ำถังใหญ่ที่สาดใส่เปียกปอน


“ไปซะไอ้ตัวน่ารังเกียจ!”


น้ำเย็นจัดและมีกลิ่นคาว มันเป็นน้ำล้างเนื้อสัตว์สำหรับประกอบอาหาร จินดริชมองเข้าไปในร้านอีกครั้ง ลิลลี่เริ่มกลับมาอารมณ์ดีและตักชิ้นเนื้อเข้าปาก อาหารที่เธอกินมีสีแดงสดคล้ายกับขาของคุณแรมเบิร์ธที่ใกล้เน่า จินดริชนึกอยากให้เธอลิ้มลองหรือได้กลิ่นเหม็นจากบาดแผลของสามีเธอบ้าง


ทำเพียงคิดในใจและเข็นจักรยานออกไป


หวังมากเกินไปว่าคนเป็นภรรยาจะรักและห่วงใยสามีอยู่บ้างเพราะมันเป็นหน้าที่ แต่จากที่เห็นแล้วลิลลี่ไม่มีความคิดเหล่านั้นต่อสามีที่น่าสงสารสักนิดเดียว ซ้ำยังประกาศหย่าร้างท่ามกลางสายตาหลายสิบคู่ เชื่อว่าพรุ่งนี้เช้าคงได้มีหนังสือพิมพ์ประกาศเรื่องการเลิกราของพวกเขา


ต้องการเพียงแค่ให้เธอพาคุณแรมเบิร์ธไปรักษา หรืออย่างน้อยดูแลให้เขามีกำลังใจที่ดีขึ้น จินดริชรู้ดี...คุณแรมเบิร์ธรักภรรยาของเขามาก จำวันที่อีกฝ่ายโม้ว่าภรรยาคนใหม่อย่างลิลลี่เป็นหญิงสาวที่สวยขนาดไหน เธอหุ่นดี ผิวขาว และพูดจาไพเราะ เธอดูแลเอาใจแรมเบิร์ธอย่างดี และแรมเบิร์ธมอบทุกอย่างให้ลิลลี่ตามที่ใจเธอต้องการ


ทำไมถึงได้ทอดทิ้งในตอนสุดท้าย...


เจ้าของเรือนผมสีขาวจับจ้องร่างโปร่งเดินไหล่ตกตัวเปียกปอนไปตามทางเดินมืดสลัว กระทั่งสุดเสาไฟต้นสุดท้ายเขาก็ไม่เห็นจินดริชอีก


ทำไมถึงมาพูดคุยกับหญิงสาวในหัวข้อสามีของเธอ...


“ช่างหน้าไม่อายเกินรับไหว”


“อย่าได้ไปเข้าใกล้คนแบบนั้นจะดีกว่า”


เสียงกระซิบนินทาไม่หยุดลงเลยสักวินาทีเดียว


“ได้ข่าวว่าคุณไบรอันเองก็กำลังคลุกคลีกับจินดริชในช่วงนี้ เป็นเรื่องจริงหรือเปล่าครับนักบุญลูเซียส หากเป็นเช่นนั้นผมเกรงว่าคุณจะต้องบอกกล่าวน้องชายสักหน่อย”


เสียงซุบซิบยังคงดังเข้ามาในหูจนลูเซียสคร้านจะฟังจนอยากลุกออกไป เขาหันไปยิ้มบางให้กับลอร์ดจาเร็ตและตอบคำถามโดยเริ่มตัดชิ้นเนื้อเล็ก ๆ จิ้มซอสไวน์แดง


“เป็นแค่ข่าวลือน่ะครับ”


“โอ้ ถ้าอย่างนั้นค่อยน่าสบายใจหน่อย”


“ตระกูลแมทธีโอนีจะไปสนิทกับจินดริชได้ยังไง จริงไหมคะคุณแม่”


“จ้ะ โอลิเวีย”


นัยน์ตามืดทึบแฝงสีทับทิมเลื่อนลอย ลูเซียสนึกทวนประโยคสนทนาของคุณออสวาล์ดและภรรยาคุณแรมเบิร์ธที่พอได้ยินในหัวซ้ำไปซ้ำมา โดยเฉพาะสีหน้าทุรนทุรายของจินดริชแทบจะร่ำร้อง


ชายแก่คนนั้นสำคัญขนาดไหนกัน


ถึงขั้นยอมยืนหยัดพูดต่อหลังจากถูกทำร้ายจนหน้าช้ำแดง


โง่เขลาอะไรเพียงนี้ คุณออสวาล์ด...