เมื่อบังเอิญได้มีชีวิตใหม่ภารกิจหนีตายจากชีวิตบัดซบจึงได้เริ่มต้น
จีน,ครอบครัว,รัก,ปลูกผัก,ข้ามเวลา,เจ่เจ้ร้านชำ,นิยายรักจีนโบราณ,มิติวิเศษ,ปลูกผัก,ทำสวน,พล็อตสร้างกระแส,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ชีวิตที่สองของเจ่เจ้ร้านขายของชำเมื่อบังเอิญได้มีชีวิตใหม่ภารกิจหนีตายจากชีวิตบัดซบจึงได้เริ่มต้น
ในชีวิตก่อนต้องอยู่แบบปากกัดตีนถีบเพื่อครอบครัวจนสุดท้ายก็ต้องมาตายเพราะครอบครัวอีกเช่นกันพอมามีชีวิตใหม่แทนที่อะไรๆ จะดีขึ้นแต่วังวนชีวิตก็ยังคงตีนถีบปากกัดไม่ต่างจากเดิมและเหมือนชีวิตดีๆ จะยังไม่ลงตัวมากพอสวรรค์จึงได้ประทานน้องๆ และสามีพิการมาให้ดูแลงานนี้แทนที่จะเอาชีวิตรอดด้วยตัวคนเดียวก็ต้องมาสู้ตายเพื่อน้องร่วมสายเลือดและเพื่อผู้ชายอีกหนึ่งคน
หมายเหตุ นิยายเรื่องนี้ไม่อิงประวัติศาสตร์ไม่ว่าจะ สถานที่ เหตุการณ์ หรือตัวบุคคลในเรื่องล้วนเกิดจากจินตนาการของผู้เขียนทั้งสิ้นค่ะ
กติกาการลงนิยาย
ลงเนื้อหาให้อ่านฟรีครึ่งเรื่องหลังจากนั้นจะติดเหรียญไปจนถึงตอนจบ หลังอีบุ๊กวางจำหน่ายครึ่งถึงหนึ่งเดือนจะย้อนติดเหรียญตอนก่อนหน้าโดยจะเหลือให้อ่านฟรีเฉพาะตัวอย่างประมาณ 10 ตอนค่ะ
ในคืนแรกของการนอนในเรือนหลังใหม่หลิวซินหวาหลับๆ ตื่นๆ แทบทั้งคืนแต่เมื่อคิดได้ว่าวันนี้มีน้องๆ มานอนด้วยกันอยู่ตรงนี้นางก็สบายใจและสามารถนอนหลับสนิทได้ในที่สุดเมื่อตื่นมาในตอนเช้าจึงสดชื่นพร้อมที่จะทำงานเก็บกวาดบ้านโดยมีผู้ช่วยตัวเล็กที่ขยันขันแข็งไม่ต่างกัน
“ห่าวเอ๋อร์ เสี่ยวอ้ายพวกเจ้าเข้าไปทำความสะอาดห้องน้ำให้พี่รองหน่อยนะตักน้ำมาเติมไว้ในถังให้เต็มพี่จะไปเตรียมอาหารเช้าไว้ให้แล้วหลังจากนี้พวกเจ้าต้องเข้าไปเล่นในมิติร้านชำกันก่อนเพราะพี่ต้องเข้าไปในเมืองเพื่อซื้อยาของคุณชายไป๋” เช้ามาก็จัดการจัดแจงงานให้น้องๆ ซึ่งทั้งเสี่ยวอ้ายและห่าวเอ๋อร์ก็ทำตามอย่างว่าง่ายเพราะต้องการแบ่งเบาภาระของพี่สาว
เมื่อเช้าหลิวซินหวาแวะเข้าไปดูคุณชายไป๋มาแล้วแต่เพราะเห็นเขายังนอนหลับอยู่นางจึงไม่รีบปลุกแต่เลี่ยงมาจัดการอาหารเช้าง่ายๆ ให้ทั้งเขาและตัวเองรวมถึงน้องๆ ก่อน เช้านี้คงไม่พ้นข้าวต้มและกับข้าวง่ายๆ อย่างมะเขือเทศผัดไข่ ผัดผักบุ้งสำหรับคุณชายไป๋ส่วนตัวนางกับน้องๆ จะมียำผักกาดดองอีกหนึ่งอย่างเพราะนางไม่แน่ใจว่าของหมักดองจะเป็นของแสลงกับยาที่คุณชายไป๋รับประทานอยู่หรือไม่จึงอยากจะงดเว้นสิ่งเหล่านี้ไปก่อน
หลังจากทำอาหารเช้าเสร็จสิ้นและส่งน้องๆ กลับเข้าไปในมิติร้านชำเรียบร้อยแล้วหลิวซินหวาจึงเข้าไปดูคุณชายไป๋อีกครั้งก็พบว่าเขาลุกขึ้นมานั่งอยู่บนเตียงเรียบร้อยแล้ว
“เช้านี้ข้ารู้สึกว่าอากาศเย็นมากกว่าทุกวันดูท่าแล้วฤดูหนาวน่าจะมาเยือนไวกว่าปกติตามที่ชาวบ้านพูดกันแน่ๆ เจ้ามีเสื้อผ้ากันหนาวหรือยังหากไม่มีวันไหนที่จะเข้าเมืองมาเอาเงินจากข้าไปซื้อหามาให้พร้อม” เรื่องเงินเรื่องทองต้องยกความดีความชอบให้ตนเองที่รู้จักซุกซ่อนตั๋วแลกเงินเอาไว้ไม่เช่นนั้นไป๋ป๋อชุนคงได้กลายเป็นยาจกสมใจคนที่ประสงค์ร้ายต่อเขาแล้วจริงๆ
“ข้ามีเพียงเสื้อผ้าติดตัวมาไม่กี่ชุดเจ้าค่ะอันที่จริงหลังจากที่ช่วยคุณชายทำธุระส่วนตัวเสร็จข้าก็จะเข้าเมืองไปซื้อยาและของใช้จำเป็นต่างๆ ที่ในเรือนยังขาดเล็กน้อยพอดีว่าท่านพ่อบ้านฉางให้เงินข้าติดตัวไว้จำนวนหนึ่งเจ้าค่ะ” เงินที่พ่อบ้านชรามอบให้แม้ไม่ได้มากมายแต่ก็สามารถใช้ซื้อข้าวของที่จำเป็นและใช้จ่ายอย่างประหยัดได้ถึงสองสามปีสำหรับคนที่อาศัยอยู่ในชนบทเช่นนี้
“นับว่าพ่อบ้านฉางยังคงรอบคอบอยู่ เอาเถอะรีบไปอาบน้ำกันแล้วเจ้าจะได้เข้าไปในเมืองเดินเท้าเข้าไปน่าจะใช้เวลาสักสองเค่อเจ้าจะเดินไหวหรือไม่ซินหวา” เพราะอาหารที่นางทำให้เมื่อวานรวมถึงการดูแลที่ค่อนข้างเอาใจใส่ไป๋ป๋อชุนจึงตื่นมาด้วยความรู้สึกสดใสแตกต่างจากวันอื่นๆ มากนักในวันนี้เขาเลยต้องการทำธุระส่วนตัวของตนเองให้รวดเร็วเพื่อที่นางจะได้มีเวลาไปทำอย่างอื่น
ข้าวของในห้องน้ำห้องเดิมกับความสะอาดที่ผิดปกติทำให้รู้ว่าหลิวซินหวาน่าจะตระเตรียมเอาไว้ให้เรียบร้อยแล้วโดยหลังจากที่นางส่งเขาลงอ่างน้ำอุ่นแล้วนางก็ช่วยสางและสระผมยาวที่เริ่มเหนียวพันกันด้วยความอ่อนโยนอีกทั้งสิ่งที่นางใช้สระผมให้เขาก็มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ต่างจากน้ำข้าวที่เคยใช้ๆ กันอยู่
แม้จะสงสัยแต่ไป๋ป๋อชุนก็ไม่ได้เอ่ยปากถามเพราะน้ำที่อุ่นกำลังพอดีนั้นทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายเป็นอย่างมากการที่อาบน้ำพร้อมมีคนนวดศีรษะให้นั้นเป็นสิ่งที่ไม่ได้สัมผัสมานานแสนนานแล้ว
“ข้าจะรีบกลับมานะเจ้าคะอาหารกลางวันพร้อมน้ำดื่มอยู่บนโต๊ะนั้นแล้วหากคุณชายหิวก็รับประทานได้เลยมีทั้งข้าวและซาลาเปาเผื่อว่าจะกินได้ง่ายขึ้น” ก่อนจะเข้าไปในเมืองหรือก็คือในตัวอำเภอหญิงสาวยังไม่ลืมที่จะตระเตรียมข้าวของที่จำเป็นไว้ให้คุณชายไป๋เสียก่อนเนื่องจากนางไม่อยากให้เขาแขวนท้องรอหากว่าบังเอิญนางกลับมาช้า
“เดินไปอาจจะใช้เวลาสองเค่อแต่ถ้าหากเจ้าเจอเกวียนโดยสารก็ถามหาเกวียนที่จะผ่านมาทางหมู่บ้านเขาเขียวก็แล้วกัน เดินทางปลอดภัยระวังตัวให้มากด้วยแล้วนี่ตั๋วแลกเงินพร้อมพู่หยกประจำตัวข้าเจ้านำไปแลกเงินมาไว้จับจ่ายซื้อของได้เลย” ไป๋ป๋อชุนส่งตั๋วแลกเงินมูลค่าห้าสิบตำลึงทองให้หลิวซินหวาอย่างไม่มีลังเลแม้นางจะแย้งอยู่เล็กน้อยแต่เพียงแค่เขาบอกว่าให้เก็บไว้เป็นค่าใช้จ่ายในเรือนนางจึงยินยอม
การเดินทางเข้าไปยังอำเภอนั้นไม่ยุ่งยากซับซ้อนแค่เดินไปตามทางเกวียนแคบๆ ใช้ระยะเวลาราวๆ สองเค่อก็ถึงดังที่คุณชายไป๋ว่าเอาไว้ไม่มีผิดและสิ่งแรกที่หลิวซินหวาต้องทำคือการเข้าแลกเงินในร้านรับแลกเงินขนาดใหญ่แม้คุณชายจะให้เงินมาเป็นจำนวนมากแต่นางก็ไม่คิดที่จะใช้หมดในคราวเดียวนางจะค่อยๆ ทยอยแลกไปตามจำนวนที่คาดว่าจะใช้จริงเช่นครั้งนี้นางก็แลกมาเพียงสามตำลึงทองเพราะคาดว่าจะต้องซื้อข้าวของเยอะพอสมควรเพราะมีหลายสิ่งหลายอย่างในเรือนที่ต้องซื้อใหม่
ลำดับต่อไปคือการหาร้านขายยาสมุนไพรเพื่อให้จัดยาตามเทียบยาของคุณชายไป๋และจากการที่ได้พูดคุยกับหลงจู๊ชราก็ทำให้ทราบว่ายาตัวนี้ไม่ควรกินติดต่อกันเกินหนึ่งปีหลังจากนี้ให้พาคุณชายมาตรวจจะได้ทำการปรับเทียบยาให้เหมาะสมต่อไป
“ท่านตาเจ้าคะข้าขอถามเรื่องตลาดสักนิดได้หรือไม่ถ้าหากข้าจะนำของมาขายต้องติดต่อที่ใดหรือเจ้าคะ” หลังจากรับห่อยาสองห่อมาไว้ในมือแล้วหลิวซินหวาก็เอ่ยถามเรื่องการค้าขายที่นางแอบสังเกตดูมาตลอดทางและคิดว่าการค้าในเมืองนี้ก็ดูจะคึกคักอยู่ไม่ใช่น้อย
“ตลาดแห่งนี้เป็นของทางการเจ้าไปติดต่อหาเช่าพื้นที่ได้ตรงที่ทำการของตลาดข้างๆ ร้านรับแลกเงินนั่นแหละแต่หากที่ว่างไม่เหลือแล้วเจ้าก็มาหาข้าก็ได้พื้นที่ว่างหน้าร้านนั่นพอให้เจ้าตั้งแผงขายของหรือไม่แม่หนู ว่าแต่เจ้าจะขายอะไรเล่า” หลงจู๊ชราตอบด้วยน้ำเสียงน่าฟังเพราะถูกชะตากับหญิงสาวอยู่มาก
“ในช่วงแรกๆ ข้าคิดว่าจะขายผักก่อนเจ้าค่ะเพราะว่าที่บ้านของข้าปลูกผักเอาไว้มากพอสมควรช่วงไหนที่ไม่มีผักข้าก็คิดว่าจะทำขนมมาขาย พอดีว่าซินหวาเพิ่งมาจากต่างเมืองอีกทั้งสามียังเจ็บป่วยเรื้อรังหากไม่ทำงานทำการอะไรเราสองคนคงจะอดตายแน่นอนเลยเจ้าค่ะ”
“ถ้าเช่นนั้นก็มาขายที่หน้าร้านข้านี่แหละแม่หนูถ้ามีอะไรติดขัดก็มาหาที่ร้านถ้าข้าช่วยได้ข้าก็จะช่วยเจ้าเอง” หลิวซินหวาลาจากชายชรามาด้วยรอยยิ้มจากนั้นนางก็มุ่งหน้าไปยังร้านขายเสื้อผ้าในลำดับต่อไปโดยตั้งใจเลือกร้านขนาดกลางๆ ไม่ใหญ่ไม่เล็กจะได้สามารถเลือกสิ่งของได้ตามความต้องการเพราะจากประสบการณ์แล้วร้านใหญ่ๆ มักจะเลือกลูกค้านางไม่อยากเข้าไปเจอสายตาหยามเหยียดเพราะเข้าใจในสภาพของตนเองดี
ในร้านขายผ้าหลิวซินหวาหมดเงินไปค่อนข้างมากเพราะนอกจากเสื้อผ้าที่จะใช้สวมใส่ประจำวันของคุณชาย ตัวเองและน้องๆ แล้วยังมีชุดสวมใส่กันหนาวสำหรับทุกคนอีกด้วยและที่ลืมไม่ได้คือผ้าห่มนวมอย่างดีที่นางจะเอาไปให้คุณชายเปลี่ยนเหตุเพราะผ้าห่มที่คุณชายนั้นใช้อยู่มันบางแสนบางเหลือเกินดูท่าไม่น่าจะกันความหนาวได้แต่อย่างใด
“เกวียนของเจ้าอยู่ที่ใดกันเล่าแม่นางข้าจะให้สามีขนไปให้” เพราะลูกค้าเป็นสตรีที่มาซื้อของตามลำพังดังนั้นเจ้าของร้านผ้าจึงสอบถามเพื่ออำนวยความสะดวกให้
“ตายจริงข้าก็ลืมถามหาเกวียนรับจ้างในเวลานี้ยังพอมีเกวียนอยู่หรือไม่เจ้าคะท่านน้าข้าเหมาเกวียนจะเดินทางไปหมู่บ้านเขาเขียวที่อยู่ห่างจากอำเภอไปสองเค่อเจ้าค่ะ” มัวแต่คิดถึงรายการข้าวของที่ต้องจับจ่ายจนลืมไปเลยว่าตัวเองยังไม่ได้ไปติดต่อหาเกวียนรับจ้าง
“ถ้าเช่นนั้นข้าจะให้สามีของข้าไปส่งเจ้าเองปกติเขาก็ขับเกวียนรับจ้างอยู่เหมือนกันแต่เพราะช่วงนี้งานที่ร้านยุ่งเขาจึงหยุดมาช่วยเหลือข้า”
“ถ้าเช่นนั้นข้าขอจ้างสามีท่านน้าดีกว่าเจ้าค่ะเพราะยังมีข้าวของอีกมากที่ข้าต้องซื้อกลับไปที่เรือน” เป็นอันว่าหลิวซินหวาหาเกวียนรับจ้างได้โดยบังเอิญแม้ว่านางจะสามารถเก็บทุกอย่างเข้าไปในมิติร้านชำได้แต่ครั้งนี้ขอใช้วิธีการธรรมดาดีกว่าเนื่องจากไม่ต้องการให้คุณชายไป๋ต้องติดใจสงสัย
จากร้านขายผ้าหลิวซินหวาก็เดินหาร้านขายของแห้งเพื่อซื้อผักดองและหมูเค็มมาตุนไว้ในบ้านเนื่องจากในมิติของนางจะมีอาหารกระป๋องและอาหารแช่แข็งที่มีรสชาติผิดแปลกจากอาหารสมัยนี้ขืนเอาไปทำให้คุณชายไป๋กินก็จะเกิดพิรุธเอาได้เอาไว้วันข้างหน้าค่อยจับอาหารกระป๋องเปลี่ยนถ่ายใส่ไหยุคปัจจุบันมันจะได้พอถูๆ ไถๆ ไปได้บ้าง
เมื่อได้ของครบตามต้องการแล้วก็ได้เวลาที่จะต้องเดินทางกลับเรือนในหมู่บ้านเขาเขียวซึ่งตลอดทางหลิวซินหวาก็ซักถามท่านน้าคนขับเกวียนไปเรื่อยถึงเรื่องการค้าขายในตลาดแล้วก็เรื่องทั่วไปของผู้คนในอำเภอจึงทำให้ทราบว่าระยะนี้ชาวบ้านเริ่มออกมากักตุนสินค้าแล้วเพราะข่าวความหนาวเย็นจะมาถึงก่อนเวลานั้นไม่ใช่เรื่องเล็กๆ
“หากเจ้าสังเกตดีๆ จะเห็นว่าอำเภอของเราโอบล้อมด้วยภูเขาหลายลูกซึ่งนั่นก็เป็นเรื่องดีเพราะเหมือนเรามีปราการธรรมชาติช่วยกันลมแต่ในทางกลับกันมันก็เก็บกับความหนาวเย็นไว้ในพื้นที่เช่นเดียวกันที่นี่จึงมีฤดูหนาวค่อนข้างยาวนานกว่าที่อื่นสักหน่อยโดยเฉพาะหมู่บ้านเขาเขียวที่นี่มีคนหนาวตายทุกปีเลยนะเท่าที่ข้ารู้มา แต่ดีแล้วที่เจ้ามาซื้อผ้าห่มและเสื้อกันหนาวตั้งแต่ตอนนี้เพราะอีกไม่นานข้าคิดว่าพวกมันจะหายากและต้องราคาแพงกว่านี้เป็นแน่”
“ที่ว่าหนาวกว่าที่อื่นนั้นเป็นระยะเวลากี่เดือนเจ้าคะท่านน้า” ได้ยินเช่นนั้นแล้วหลิวซินหวาก็เริ่มจะรู้สึกขนลุกแล้วนี่คนสกุลไป๋คิดอย่างไรจึงได้ส่งคุณชายที่เจ็บป่วยมาอาศัยอยู่ในพื้นที่หนาวเย็นถึงขนาดนี้ถ้าหากไม่มีนางมาอยู่ด้วยเขาจะไม่ลำบากแย่เลยหรือ
“ไม่มากจนเกินอดทนหรอกแม่หนูแค่สามเดือนกว่าๆ ไม่เกินสี่เดือนเท่านั้นแหละ เอาเป็นว่าหากที่บ้านเจ้าขาดเหลืออะไรก็รีบเข้าไปในอำเภอนะระยะเวลาภายในหนึ่งเดือนนี้เจ้าคงยังจะซื้อของที่ต้องการได้ในราคาปกติแต่หลังจากนี้ก็ต้องจ่ายเงินมากหน่อยล่ะนะ” เป็นเรื่องปกติในยามที่สินค้าขาดแคลนก็จะมีคนกักตุนสินค้าเพื่อโก่งราคาแม้ที่ร้านของภรรยาอยากจะตรึงราคาเดิมเอาไว้ก็ยากที่จะทำได้เหตุเพราะราคาทุนก็ถูกปรับขึ้นมาจากต้นทางแล้ว
“ข้าจะรีบสำรวจดูภายในเรือนเจ้าคะและอาจจะต้องใช้บริการเกวียนของท่านน้าอีกครั้งอย่างแน่นอน”