เมื่อบังเอิญได้มีชีวิตใหม่ภารกิจหนีตายจากชีวิตบัดซบจึงได้เริ่มต้น

ชีวิตที่สองของเจ่เจ้ร้านขายของชำ - ตอนที่ 6 พายุหิมะ โดย มู่จิ่น 木槿 @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

จีน,ครอบครัว,รัก,ปลูกผัก,ข้ามเวลา,เจ่เจ้ร้านชำ,นิยายรักจีนโบราณ,มิติวิเศษ,ปลูกผัก,ทำสวน,พล็อตสร้างกระแส,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ชีวิตที่สองของเจ่เจ้ร้านขายของชำ

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

จีน,ครอบครัว,รัก,ปลูกผัก,ข้ามเวลา

แท็คที่เกี่ยวข้อง

เจ่เจ้ร้านชำ,นิยายรักจีนโบราณ,มิติวิเศษ,ปลูกผัก,ทำสวน,พล็อตสร้างกระแส

รายละเอียด

เมื่อบังเอิญได้มีชีวิตใหม่ภารกิจหนีตายจากชีวิตบัดซบจึงได้เริ่มต้น

ผู้แต่ง

มู่จิ่น 木槿

เรื่องย่อ

ในชีวิตก่อนต้องอยู่แบบปากกัดตีนถีบเพื่อครอบครัวจนสุดท้ายก็ต้องมาตายเพราะครอบครัวอีกเช่นกันพอมามีชีวิตใหม่แทนที่อะไรๆ จะดีขึ้นแต่วังวนชีวิตก็ยังคงตีนถีบปากกัดไม่ต่างจากเดิมและเหมือนชีวิตดีๆ จะยังไม่ลงตัวมากพอสวรรค์จึงได้ประทานน้องๆ และสามีพิการมาให้ดูแลงานนี้แทนที่จะเอาชีวิตรอดด้วยตัวคนเดียวก็ต้องมาสู้ตายเพื่อน้องร่วมสายเลือดและเพื่อผู้ชายอีกหนึ่งคน

 

หมายเหตุ นิยายเรื่องนี้ไม่อิงประวัติศาสตร์ไม่ว่าจะ สถานที่ เหตุการณ์ หรือตัวบุคคลในเรื่องล้วนเกิดจากจินตนาการของผู้เขียนทั้งสิ้นค่ะ

 

กติกาการลงนิยาย

ลงเนื้อหาให้อ่านฟรีครึ่งเรื่องหลังจากนั้นจะติดเหรียญไปจนถึงตอนจบ หลังอีบุ๊กวางจำหน่ายครึ่งถึงหนึ่งเดือนจะย้อนติดเหรียญตอนก่อนหน้าโดยจะเหลือให้อ่านฟรีเฉพาะตัวอย่างประมาณ 10 ตอนค่ะ

สารบัญ

ชีวิตที่สองของเจ่เจ้ร้านขายของชำ-ตอนที่ 1 แน่ใจหรือว่าเจ้าคือดาวนำโชค,ชีวิตที่สองของเจ่เจ้ร้านขายของชำ-ตอนที่ 2 เรื่องราวแต่เก่าก่อน,ชีวิตที่สองของเจ่เจ้ร้านขายของชำ-ตอนที่ 3 แต่งงานล้างซวย,ชีวิตที่สองของเจ่เจ้ร้านขายของชำ-ตอนที่ 4 การแต่งงาน,ชีวิตที่สองของเจ่เจ้ร้านขายของชำ-ตอนที่ 5 ดูท่าว่าปากก็ต้องกัดตีนก็ต้องถีบ,ชีวิตที่สองของเจ่เจ้ร้านขายของชำ-ตอนที่ 6 พายุหิมะ,ชีวิตที่สองของเจ่เจ้ร้านขายของชำ-ตอนที่ 7 การเอาชีวิตรอด,ชีวิตที่สองของเจ่เจ้ร้านขายของชำ-ตอนที่ 8 เรื่องมหัศจรรย์,ชีวิตที่สองของเจ่เจ้ร้านขายของชำ-ตอนที่ 9 มิติร้านชำ,ชีวิตที่สองของเจ่เจ้ร้านขายของชำ-ตอนที่ 10 ความวุ่นวายในเรือนสกุลต้า,ชีวิตที่สองของเจ่เจ้ร้านขายของชำ-ตอนที่ 11 ตามหาเรือนหลังใหม่,ชีวิตที่สองของเจ่เจ้ร้านขายของชำ-ตอนที่ 12 มองหาร้านค้าที่เหมาะสม,ชีวิตที่สองของเจ่เจ้ร้านขายของชำ-ตอนที่ 13 เตรียมการเพื่อร้านค้า,ชีวิตที่สองของเจ่เจ้ร้านขายของชำ-ตอนที่ 14 พี่น้องสกุลหลิว,ชีวิตที่สองของเจ่เจ้ร้านขายของชำ-ตอนที่ 15 บ้านเล็กในส่วนใหญ่,ชีวิตที่สองของเจ่เจ้ร้านขายของชำ-ตอนที่ 16 เริ่มสร้างตัวทีละเล็กทีละน้อย,ชีวิตที่สองของเจ่เจ้ร้านขายของชำ-ตอนที่ 17 ทำมาค้าขึ้น,ชีวิตที่สองของเจ่เจ้ร้านขายของชำ-ตอนที่ 18 กรรมใดใครก่อ,ชีวิตที่สองของเจ่เจ้ร้านขายของชำ-ตอนที่ 19 กลยุทธ์ทางการค้า,ชีวิตที่สองของเจ่เจ้ร้านขายของชำ-ตอนที่ 20 สกุลไป๋เกิดเรื่อง,ชีวิตที่สองของเจ่เจ้ร้านขายของชำ-ตอนที่ 21 เจ้าอยากไปเที่ยวเมืองหลวงบ้างไหม,ชีวิตที่สองของเจ่เจ้ร้านขายของชำ-ตอนที่ 22 มาเยือนเมืองหลวง

เนื้อหา

ตอนที่ 6 พายุหิมะ

เวลาผ่านไปเพียงสามสัปดาห์หลังจากที่ได้เข้าไปในอำเภอครั้งแรกก็เริ่มมีหิมะโปรยปรายลงมาบางๆ ช่วงนี้หลิวซินหวาจึงงดการทำงานกลางแจ้งแล้วหันมาใส่ใจดูแลภายในบ้านให้มากขึ้นโดยเฉพาะห้องนอนของคุณชายไป๋ที่ต้องแน่ใจว่าอบอุ่นอยู่เสมอโดยหลังจากที่หญิงสาวนำเรื่องของเทียบยาไปปรึกษาก็ดูเหมือนว่าคุณชายไป๋จะวางใจนางขึ้นมากอีกทั้งยังบอกว่าเทียบยานี้มีส่วนที่ปรับแล้วทุกๆ หนึ่งปีเตรียมเอาไว้แล้วเรียบร้อยเพราะท่านหมอที่รักษานั้นเตรียมการมาให้หมดเป็นอย่างดีโดยเทียบยาที่มีอยู่ในมือทั้งหมดคุณชายไป๋สามารถกินติดต่อไปได้ถึงสิบปีโดยไม่มีปัญหา

“คุณชายกินโจ๊กสักนิดเถอะเจ้าค่ะหลายวันมานี้ท่านกินน้อยจนข้าไม่สบายใจเลย” หลิวซินหวาไม่มีปัญหากับการดูแลคนป่วยเพราะนางผ่านเหตุการณ์ที่ต้องดูแลบิดาที่เจ็บหนักมาแล้ว เมื่อมาเห็นคุณชายไป๋มีอาการเบื่ออาหารนางจึงไม่สบายใจเพราะมันคล้ายกับอาการของบิดาก่อนที่ท่านจะสิ้นลม

“อากาศมันเย็นเข้าไปถึงกระดูกข้าจึงไม่ค่อยอยากอาหารเท่าไรนักดูท่าแล้วหิมะคงจะไม่หยุดตกง่ายๆ เป็นแน่เจ้าก็อย่าเพิ่งทำอะไรนักเลยมาอยู่ในห้องอุ่นๆ เอาไว้จะดีกว่า” เพราะความเจ็บปวดในกระดูกที่ยากจะบรรยายจึงทำให้ไป๋ป๋อชุนไม่มีอาการอยากอาหารแม้เขาจะรู้ว่าทำให้หญิงสาวที่อยู่ร่วมเรือนเป็นกังวลแต่ก็ไม่สามารถจะทำอะไรได้ดีไปกว่านี้แล้วจริงๆ

“ถ้าหากยังกินโจ๊กไม่ไหวคุณชายก็จิบน้ำชาในกานี้บ่อยๆ นะเจ้าคะร่างกายจะได้ไม่ขาดน้ำข้าจะไปดูฟืนมาเพิ่มในห้องนี้จะได้อุ่นพอ ข้าวางทุกอย่างไว้ที่โต๊ะเล็กนี้นะเจ้าคะคุณชายจะได้หยิบได้สะดวกหน่อย” แม้ภายในห้องนอนจะไม่มีเตียงเตาแต่ก็ยังมีเตาผิงเล็กๆ ที่สามารถให้ความร้อนได้ดีอีกทั้งจุดเตาผิงในห้องของคุณชายไป๋ความร้อนก็จะแผ่กระจายไปในห้องของหลิวซินหวาด้วย

“ขอบใจเจ้ามากนะซินหวาอย่าเอาแต่ดูแลข้าจนตัวเองไม่ได้มีเวลาพักผ่อนเสียล่ะ”

เมื่อออกมาจากห้องของคุณชายไป๋มาได้หลิวซินหวาก็มุ่งหน้าไปยังครัวโดยที่ตรงนั้นนางเก็บฟืนเอาไว้มากพอสมควรซึ่งมันน่าจะพอใช้ไปได้หลายสัปดาห์ส่วนที่มาของฟืนเหล่านั้นก็มาจากการที่นางได้ว่าจ้างท่านน้าต้วนจวินสามีของท่านน้าต้วนฮุยหนิงแห่งร้านขายผ้าให้ช่วยผ่าท่อนไม้ให้เพราะภายในเรือนหลังนี้มีต้นไม่ใหญ่ที่ยืนต้นตายอยู่มากพอสมควรซึ่งมันบ่งบอกว่าที่นี่ไม่เคยได้รับการเอาใจใส่ดูแลมาเป็นเวลาหลายปีแล้ว

หลิวซินหวาใช้รถลากที่นางซื้อมาจากอำเภอเป็นตัวช่วยในการขนฟืนเข้าไปไว้ในห้องของคุณชายไป๋ป๋อชุนโดยพยายามที่จะทำทุกอย่างด้วยความระมัดระวังเพื่อให้รบกวนคนป่วยน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้

“หิมะเริ่มตกหนักแล้วเจ้าค่ะคุณชายข้าคิดว่าจะไปขนข้าวสารอาหารแห้งและเครื่องครัวมาไว้ในห้องนอนของข้าก่อนหากมีอะไรไม่คาดฝันเกิดขึ้นเรายังพอจะทำครัวได้ในห้องนั้นจะได้ไม่ต้องเดินไปเดินมาฝ่าหิมะ ในครัวมีเตาไฟขนาดเล็กที่มีปล่องไฟต่อไปด้านนอกด้วยเจ้าค่ะข้าคิดว่าจะสามารถปรับให้มันมีขนาดพอดีกับหน้าต่างห้องได้แต่อาจจะต้องเจาะหน้าต่างให้เสียหาย” สิ่งที่พูดออกมานั้นหญิงสาวไม่ได้ขออนุญาตแต่นางเพียงบอกกล่าวเพราะว่ากำลังจะเอาห้องนอนห้องหนึ่งในเรือนมาทำเป็นห้องครัวเพราะถ้าไม่ทำแล้วหิมะตกหนักกว่านี้คงได้เดือดร้อนกันทั้งคู่

“ทำตามที่เจ้าเห็นสมควรได้เลยข้าคิดว่าอีกไม่นานต้องมีพายุหิมะแน่ๆ ปีนี้อากาศเลวร้ายยิ่งนักตรงตามคำทำนายของโหรหลวงไม่มีผิดเพี้ยนแต่ก็ช่างเถอะตอนนี้จะช่วยตัวเองข้ายังทำไม่ได้แล้วจะไปช่วยใครเขาได้เล่าต่อให้รู้ล่วงหน้าก็เถิด” ไป๋ป๋อชุนรำพึงกับตัวเองก่อนที่จะหลับตานอนเพื่อหนีความเจ็บปวดที่เริ่มจะโจมตีขึ้นมาอีกครั้งและยิ่งหิมะตกลงมามากขึ้นเท่าไหร่ร่างกายของเขาก็จะไวต่อความเย็นเพราะมันจะหนาวจนสั่นกระดูกที่เดิมปวดอยู่แล้วยิ่งเหมือนจะแทงออกมานอกผิวหนัง

“ซินหวาทราบแล้วเจ้าค่ะคุณชาย” ในเมื่อคุณชายไป๋อยากจะทำตัวหมดอาลัยตายอยากนอนหายใจทิ้งรอวันตายนางก็จะไม่ห้ามแต่ถ้าหากเขาอยากจะตายก็คงต้องบอกว่าเชิญตายไปคนเดียวเพราะหลิวซินหวาคนนี้มีโอกาสใช้ชีวิตอีกครั้งนอกการควบคุมของแม่เลี้ยงนางย่อมต้องการอยู่ไปจนแก่เฒ่าไม่ใช่มาตายตกไปก่อนวัยอันควรเหมือนชาติที่แล้ว

ฟืนกองใหญ่และเครื่องครัวสองสามชิ้นถูกขนมาไว้ในห้องนอนของตนเองโดยหลิวซินหวาจัดพื้นที่บริเวณหน้าต่างเอาไว้เป็นมุมปรุงอาหารโดยเฉพาะทั้งเตาและเครื่องครัวต่างๆ นางค่อยๆ ขนย้ายเข้ามาด้วยรถลากคันเล็กทีละชิ้นสองชิ้นและสิ่งที่ลำบากที่สุดก็น่าจะเป็นเตาที่ต้องต่อปล่องไฟระบายควันออกไปนอกเรือนไม่เช่นนั้นห้องนี้คงจะเต็มไปด้วยคราบเขม่าสกปรกไม่น่ามอง

สิ่วอันเล็กถูกเคาะไปตามรอยที่ร่างเอาไว้แม้จะออกมาไม่สวยงามนักแต่ผลงานก็นับว่าเป็นที่น่าพอใจเพราะในที่สุดหญิงสาวก็สามารถติดตั้งเตาไฟสำหรับทำกับข้าวในห้องนอนของตนเองได้สำเร็จแม้จะต้องหาดินเหนียวมาอุดช่องว่างรูโหว่อยู่บ้างแต่นางก็ไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องใหญ่และที่ต้องมาลำบากลำบนทำอะไรแบบนี้ก็เพื่อที่จะรักษาความลับของตัวเองเอาไว้ให้นานที่สุดเพราะไม่ใช่ว่าทุกคนจะทำใจยอมรับได้กับเรื่องราวที่เหนือธรรมชาติ

เมื่อเตาพร้อมหลิวซินหวาก็คิดว่าน่าจะทำกับข้าวมื้อเย็นได้แล้วกลิ่นของอาหารปรุงเสร็จใหม่ๆ อาจจะทำให้คุณชายอยากอาหารขึ้นมาบ้างในตอนนี้นางคิดหาอาหารมาบำรุงกำลังคุณชายแต่คิดอย่างไรก็คิดไม่ออกเนื่องจากกลัวว่าจะเป็นของแสลงกับยาแล้วจู่ๆ ในหัวก็คิดถึงเครื่องดื่มซุปไก่สกัดที่มีอยู่เต็มตู้แช่ในมิติร้านชำนางจึงไม่รีรอเลยที่จะเข้าไปหยิบมาอุ่นให้เขารับประทานโดยเลือกสูตรที่รสชาติรับประทานง่ายสักหน่อย

“คุณชายในเมื่อท่านไม่อยากข้าวก็ดื่มซุปไก่สักหน่อยนะเจ้าคะข้าตุ๋นไก่ทั้งวันเพื่อเอาน้ำซุปเข้มข้นมาให้ท่านดื่มแข็งใจสักนิดเถอะเจ้าค่ะ” ครั้งนี้สตรีที่อาศัยอยู่ร่วมชายคาเข้ามาในห้องพร้อมชามซุปขนาดเท่าชามใส่ยาที่ดื่มประจำแต่กลิ่นของซุปไก่ที่นางบอกนั้นแต่ก็แตกต่างจากซุปที่ไป๋ป๋อชุนเคยกินมาทั้งชีวิตยิ่งนัก

“เป็นซุปไก่สกัดสูตรทางบ้านมารดาของข้าเจ้าค่ะท่านอาจจะไม่เคยเห็นแต่กินแล้วจะช่วยฟื้นฟูกำลังดีนักเหมาะกับคนป่วย คนชราหรือแม้แต่คนปกติที่ต้องการบำรุงร่างกายให้แข็งแรง” หญิงสาวค่อยๆ ตักซุปไก่สกัดอุ่นๆ จ่อไปที่ปากของคุณชายเจ้าของบ้านซึ่งนับว่าดีอยู่ที่เขายอมอ้าปากรับประทานอย่างว่าง่ายและแม้ว่ากลิ่นและรสชาติจะประหลาดไม่ค่อยคุ้นเคยแต่คุณชายไป๋ก็ยังฝืนกินมันเข้าไปได้จนหมดชาม

“ถ้าจะให้ดีท่านต้องดื่มวันละสองครั้งนะเจ้าคะร่างกายจะได้ฟื้นตัว ข้าจะเก็บของอยู่ในห้องนะเจ้าคะมีอะไรก็ตะโกนเรียกได้เลยไม่ต้องเกรงใจ” เมื่อทำภารกิจของตัวเองลุล่วงแล้วหลิวซินหวาก็กลับไปจัดข้าวของต่างๆ ให้เข้าที่รวมถึงกินข้าวเย็นที่ตั้งใจทำอยู่เมื่อครู่โดยก่อนหน้านี้นางแวะเอาอาหารเข้าไปให้น้องๆ ทั้งสองคนเรียบร้อยแล้วและในระยะนี้เสี่ยวอ้าย ห่าวเอ๋อร์ยังต้องอาศัยอยู่ในมิติร้านชำไปก่อนเพราะสภาพอากาศข้างนอกยังไม่น่าไว้วางใจเท่าไหร่นัก

กลางดึกลมพัดอื้ออึงตึงตังจนหลิวซินหวาสะดุ้งตื่นและสิ่งที่นางคิดถึงเป็นอันดับแรกเลยก็คือคุณชายไป๋จึงรีบห่อตัวด้วยชุดกันหนาวแล้วเดินออกมาดูแลเขาในห้องและก็เป็นอย่างที่คิดว่าคุณชายกำลังหนาวจนตัวสั่นฟันกระทบกันดังกึกๆ เมื่อจัดการเอาผ้าห่มมาเพิ่มให้บนเตียงแล้วจึงไปเติมฟืนเพิ่มสักนัดเพื่อเพิ่มความอบอุ่นให้คนในห้อง

“พายุหิมะกำลังมาเจ้าไม่น่าออกมานอกห้องเลยซินหวา” แม้จะดีใจที่พบหน้าสตรีร่วมชายคาในยามวิกาลแต่ไป๋ป๋อชุนก็อดไม่ได้เลยที่จะตำหนินางที่ไม่ค่อยระมัดระวังตัวถึงแม้จะอยู่ในบ้านแต่ความหนาวเย็นก็ยังคงรุนแรงอยู่ไม่น้อยเวลานี้นางจึงควรจะอยู่บนเตียงมากกว่าออกมาดูเขา

“ถ้าไม่ออกมาจะรู้เหรอเจ้าคะว่าคุณชายกำลังหนาวจนตัวสั่นท่านอยากได้เตาอุ่นมือไหมเจ้าคะ ข้าคิดว่าเอามาเพิ่มข้างๆ เตียงคงจะดีอย่างน้อยมันก็อุ่นท่านยังใส่ถุงเท้าอยู่ใช่หรือไม่เจ้าคะ”

เหมือนจะถามแต่หลิวซินหวากลับไม่รอคำตอบเดินไปหยิบเตาอุ่นมือขนาดเล็กมาใส่ฟืนที่กำลังลุกไหม้ลงไปแล้วเอาไปวางไว้บริเวณพื้นข้างเตียงจากนั้นก็ถือวิสาสะเปิดผ้าห่มของคุณชายไป๋เพื่อสำรวจดูว่าเท้าของเขายังคงอุ่นอยู่หรือไม่

“ข้าไม่สามารถหาถุงเท้าที่หนากว่านี้ได้แต่ถ้าเท้าท่านเย็นข้าจะใส่ถุงเท้าเพิ่มให้ท่านอีกคู่หนึ่งดีหรือไม่เจ้าคะ ตอนนี้ท่านน่าจะอุ่นดีแล้วแต่ข้าจะเอาผ้าห่มสำรองมาวางไว้ให้ที่ข้างเตียงท่านสามารถขยับไปหยิบเองได้หรือไม่เจ้าคะ” แม้ตอนนี้คุณชายไป๋ดูจะอุ่นพอแล้วแต่หลิวซินหวากลับไม่ไว้ใจในสภาพอากาศนางจึงยกผ้าห่มสำรองที่มีอยู่มาไว้ให้บนเตียงเพื่อให้เขาสามารถหยิบใช้งานได้ด้วยตนเอง

“ขอบใจเจ้ามากซินหวา ไปพักผ่อนเถอะคืนนี้ข้ามั่นใจว่าหิมะยังจะตกหนักเช่นนี้ต่อไปเผลอๆ ก็อาจจะตกหนักไปอีกหลายวันเจ้าจะเดินไปไหนมาไหนก็จงระวังตัวให้มากด้วยไม่ต้องเป็นห่วงข้าจนเกินไปนัก”

“ข้าทราบแล้วเจ้าค่ะคุณชายไป๋” เวลานี้หญิงสาวไม่อยากจะตีฝีปากอะไรทั้งนั้นนางจึงรับคำแล้วรีบเดินกลับห้องมาซุกตัวอยู่บนเตียงของตัวเองแม้ว่าในมิติร้านชำจะอบอุ่นกว่านี้มากแต่นางก็เลือกที่จะอยู่ตรงนี้เพื่อคอยดูแลเพื่อนร่วมชายคาเพราะอย่างน้อยๆ ที่หลิวซินหวายังคงมีที่ซุกหัวนอนอยู่ในทุกวันนี้ก็เพราะคุณชายไป๋ดังนั้นนางจึงไม่อาจเพิกเฉยกับเขาได้เลย

แต่แล้วพายุหิมะที่โหมกระหน่ำก็ทำให้ทั้งไป๋ป๋อชุนและหลิวซินหวานอนหลับๆ ตื่นๆ ทั้งคืนและเหมือนจะทันทีที่เสียงลมที่กระทบหน้าต่างดังตึงๆ เงียบลงหญิงสาวก็รีบผุดลุกจากที่นอนเพื่อไปดูความเรียบร้อยของคนข้างห้องอย่างน้อยๆ ก็ต้องเข้าไปเติมฟืนในเตาผิงให้เขาสักหน่อยจะได้รู้สึกอบอุ่น

เช้านี้คุณชายไป๋ยังนอนหลับอยู่บนเตียงโดยมีสีหน้าไม่สู้ดีนักหญิงสาวจึงทำการเติมฟืนอย่างเงียบเชียบและไม่ลืมที่จะแวะไปดูว่าคนบนเตียงดื่มน้ำชาไปมากน้อยแค่ไหนเพราะการที่เขาไม่กินอาหารนั้นแม้จะอันตรายแต่ก็ยังน้อยกว่าการที่ปล่อยให้ร่างกายขาดน้ำ

น้ำชาในกาพร่องไปกว่าครึ่งเห็นเช่นนี้แล้วนางก็สบายใจรีบนำกาไปรินน้ำชาเก่าออกก่อนจะแวบเข้ามิติร้านชำไปต้มชากาใหม่พร้อมทั้งอุ่นซุปไก่สกัดอีกขวดเพื่อเตรียมไว้ให้เขากินยามเช้าวันนี้

“พี่รองหน้าตาไม่สดใสเลยเจ้าค่ะ คุณชายไป๋อาการไม่ดีหรือเจ้าคะ” หลิวอ้ายเยี่ยนถามพี่สาวที่วันนี้หน้าตาไม่สดชื่นอีกทั้งขอบตายังลึกโหลคล้ายกับคนไม่ได้นอนมาทั้งคืน

"คุณชายไม่เป็นอะไรแต่เมื่อคืนมีพายุหิมะอากาศหนาวเป็นอย่างมากเลยล่ะพี่เป็นห่วงคุณชายจึงหมั่นไปดูอาการเหมือนว่าเขาปวดกระดูกจนไม่อยากอาหาร” น้องๆ ของนางรู้จักคุณชายไป๋เป็นอย่างดีแล้วเข้าใจว่าที่พี่สาวต้องดูแลเพราะว่าคุณชายผู้นั้นกำลังป่วยหนักอีกทั้งยังเป็นสามีที่แต่งงานกันถูกต้องตามประเพณีแล้วด้วยแม้มันออกจะรวบรัดไปไม่น้อยเลยก็ตาม

“ถ้าเช่นนั้นเช้านี้พี่รองพักสักหน่อยเถอะเจ้าค่ะเสี่ยวอ้ายจะทำอาหารให้ท่านเองอย่างน้อยๆ ได้พักสายตาสักครึ่งชั่วยามก็น่าจะสดชื่นขึ้นนะเจ้าคะ”

“พี่ก็ว่าอย่างนั้นเจ้าช่วยต้มข้าวให้เละสักหน่อยให้พี่ด้วยก็แล้วกันส่วนกับข้าวพี่จะทำหมูสับผัดซีอิ๊วให้คุณชายเพราะครั้งก่อนเขาก็กินได้เยอะพอสมควร” หากฝืนร่างกายตอนนี้หลิวซินหวาคิดว่าจะพากันแย่ไปหมดนางจึงคิดจะพักสายตาสบายๆ สักหนึ่งชั่วยามแล้วจากนั้นค่อยออกไปใช้ชีวิตด้านนอกตามปกติเช่นที่เคย