เมื่อบังเอิญได้มีชีวิตใหม่ภารกิจหนีตายจากชีวิตบัดซบจึงได้เริ่มต้น

ชีวิตที่สองของเจ่เจ้ร้านขายของชำ - ตอนที่ 8 เรื่องมหัศจรรย์ โดย มู่จิ่น 木槿 @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

จีน,ครอบครัว,รัก,ปลูกผัก,ข้ามเวลา,เจ่เจ้ร้านชำ,นิยายรักจีนโบราณ,มิติวิเศษ,ปลูกผัก,ทำสวน,พล็อตสร้างกระแส,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย

ชีวิตที่สองของเจ่เจ้ร้านขายของชำ

หมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง

จีน,ครอบครัว,รัก,ปลูกผัก,ข้ามเวลา

แท็คที่เกี่ยวข้อง

เจ่เจ้ร้านชำ,นิยายรักจีนโบราณ,มิติวิเศษ,ปลูกผัก,ทำสวน,พล็อตสร้างกระแส

รายละเอียด

ชีวิตที่สองของเจ่เจ้ร้านขายของชำ โดย มู่จิ่น 木槿 @Plotteller | พล็อตเทลเลอร์

เมื่อบังเอิญได้มีชีวิตใหม่ภารกิจหนีตายจากชีวิตบัดซบจึงได้เริ่มต้น

ผู้แต่ง

มู่จิ่น 木槿

เรื่องย่อ

ในชีวิตก่อนต้องอยู่แบบปากกัดตีนถีบเพื่อครอบครัวจนสุดท้ายก็ต้องมาตายเพราะครอบครัวอีกเช่นกันพอมามีชีวิตใหม่แทนที่อะไรๆ จะดีขึ้นแต่วังวนชีวิตก็ยังคงตีนถีบปากกัดไม่ต่างจากเดิมและเหมือนชีวิตดีๆ จะยังไม่ลงตัวมากพอสวรรค์จึงได้ประทานน้องๆ และสามีพิการมาให้ดูแลงานนี้แทนที่จะเอาชีวิตรอดด้วยตัวคนเดียวก็ต้องมาสู้ตายเพื่อน้องร่วมสายเลือดและเพื่อผู้ชายอีกหนึ่งคน

 

หมายเหตุ นิยายเรื่องนี้ไม่อิงประวัติศาสตร์ไม่ว่าจะ สถานที่ เหตุการณ์ หรือตัวบุคคลในเรื่องล้วนเกิดจากจินตนาการของผู้เขียนทั้งสิ้นค่ะ

 

กติกาการลงนิยาย

ลงเนื้อหาให้อ่านฟรีครึ่งเรื่องหลังจากนั้นจะติดเหรียญไปจนถึงตอนจบ หลังอีบุ๊กวางจำหน่ายครึ่งถึงหนึ่งเดือนจะย้อนติดเหรียญตอนก่อนหน้าโดยจะเหลือให้อ่านฟรีเฉพาะตัวอย่างประมาณ 10 ตอนค่ะ

สารบัญ

ชีวิตที่สองของเจ่เจ้ร้านขายของชำ-ตอนที่ 1 แน่ใจหรือว่าเจ้าคือดาวนำโชค,ชีวิตที่สองของเจ่เจ้ร้านขายของชำ-ตอนที่ 2 เรื่องราวแต่เก่าก่อน,ชีวิตที่สองของเจ่เจ้ร้านขายของชำ-ตอนที่ 3 แต่งงานล้างซวย,ชีวิตที่สองของเจ่เจ้ร้านขายของชำ-ตอนที่ 4 การแต่งงาน,ชีวิตที่สองของเจ่เจ้ร้านขายของชำ-ตอนที่ 5 ดูท่าว่าปากก็ต้องกัดตีนก็ต้องถีบ,ชีวิตที่สองของเจ่เจ้ร้านขายของชำ-ตอนที่ 6 พายุหิมะ,ชีวิตที่สองของเจ่เจ้ร้านขายของชำ-ตอนที่ 7 การเอาชีวิตรอด,ชีวิตที่สองของเจ่เจ้ร้านขายของชำ-ตอนที่ 8 เรื่องมหัศจรรย์,ชีวิตที่สองของเจ่เจ้ร้านขายของชำ-ตอนที่ 9 มิติร้านชำ,ชีวิตที่สองของเจ่เจ้ร้านขายของชำ-ตอนที่ 10 ความวุ่นวายในเรือนสกุลต้า,ชีวิตที่สองของเจ่เจ้ร้านขายของชำ-ตอนที่ 11 ตามหาเรือนหลังใหม่,ชีวิตที่สองของเจ่เจ้ร้านขายของชำ-ตอนที่ 12 มองหาร้านค้าที่เหมาะสม,ชีวิตที่สองของเจ่เจ้ร้านขายของชำ-ตอนที่ 13 เตรียมการเพื่อร้านค้า,ชีวิตที่สองของเจ่เจ้ร้านขายของชำ-ตอนที่ 14 พี่น้องสกุลหลิว,ชีวิตที่สองของเจ่เจ้ร้านขายของชำ-ตอนที่ 15 บ้านเล็กในส่วนใหญ่,ชีวิตที่สองของเจ่เจ้ร้านขายของชำ-ตอนที่ 16 เริ่มสร้างตัวทีละเล็กทีละน้อย,ชีวิตที่สองของเจ่เจ้ร้านขายของชำ-ตอนที่ 17 ทำมาค้าขึ้น,ชีวิตที่สองของเจ่เจ้ร้านขายของชำ-ตอนที่ 18 กรรมใดใครก่อ,ชีวิตที่สองของเจ่เจ้ร้านขายของชำ-ตอนที่ 19 กลยุทธ์ทางการค้า,ชีวิตที่สองของเจ่เจ้ร้านขายของชำ-ตอนที่ 20 สกุลไป๋เกิดเรื่อง,ชีวิตที่สองของเจ่เจ้ร้านขายของชำ-ตอนที่ 21 เจ้าอยากไปเที่ยวเมืองหลวงบ้างไหม,ชีวิตที่สองของเจ่เจ้ร้านขายของชำ-ตอนที่ 22 มาเยือนเมืองหลวง,ชีวิตที่สองของเจ่เจ้ร้านขายของชำ-ตอนที่ 23 การพบเจอที่ไม่น่าประทับใจ,ชีวิตที่สองของเจ่เจ้ร้านขายของชำ-ตอนที่ 24 การเยียวยารักษา,ชีวิตที่สองของเจ่เจ้ร้านขายของชำ-ตอนที่ 25 อยู่เมืองหลวงไม่สนุกอย่างที่คิด,ชีวิตที่สองของเจ่เจ้ร้านขายของชำ-ตอนที่ 26 บ้านสวนของเราดีที่สุด,ชีวิตที่สองของเจ่เจ้ร้านขายของชำ-ตอนที่ 27 ปรับปรุงร้านชำ,ชีวิตที่สองของเจ่เจ้ร้านขายของชำ-ตอนที่ 28 สำนักศึกษาหลวง,ชีวิตที่สองของเจ่เจ้ร้านขายของชำ-ตอนที่ 29 เยือนเมืองหลวงอีกครั้ง,ชีวิตที่สองของเจ่เจ้ร้านขายของชำ-ตอนที่ 30 แต่งงานอีกครั้ง (จบ)

เนื้อหา

ตอนที่ 8 เรื่องมหัศจรรย์

“ข้าเชื่อใจเจ้าหลิวซินหวา “ ด้วยสีหน้าและน้ำเสียงที่จริงจังแตกต่างจากช่วงเวลาปกติของหญิงสาวทำให้ไป๋ป๋อชุนตกปากรับคำอย่างไม่มีลังเลเพราะขืนยังรีรออยู่ตรงนี้แทนที่ตัวชายหนุ่มจะได้จากไปเพียงคนเดียวก็อาจจะทำให้นางบาดเจ็บไปด้วยก็ได้

ในทันทีที่คุณชายไป๋ป๋อชุนเอ่ยปากว่าเชื่อใจนางแล้วรอบกายเขาก็กลับกลายเป็นสีขาวเจิดจ้าแสบตาจนตั้งปิดเปลือกตาลงในที่สุดและหลังจากนั้นเขาก็ไม่รับรู้อะไรอีกเลย

“พี่รอง” เสียงเล็กๆ ของน้องชายน้องสาวดูช่างตกใจเมื่อพี่รองของพวกเขาปรากฏตัวพร้อมกับชายหนุ่มตัวโตในอ้อมแขน

“เสี่ยวอ้าย ห่าวเอ๋อร์ เจ้าสองคนไปเตรียมที่นอนให้คุณชายไป๋หน่อยเอาผ้าห่มออกมาให้มากสักนิดพี่จะไปต้มน้ำร้อนเพื่อชงชาแล้วจะนำมาเช็ดตัวคุณชายด้วย หลังคาเรือนมันพังลงมาหิมะที่กระเด็นมาทับตัวเริ่มละลายแล้วทิ้งเอาไว้นานกว่านี้ไม่ได้” เด็กทั้งสองคนชะงักขาที่กำลังวิ่งตึงตังมาหาพี่สาวเลี้ยวกลับเข้าไปยังร้านชำเพื่อทำตามคำสั่งอย่างรวดเร็วซึ่งหลังจากได้พักหายใจหายคอแล้วหญิงสาวก็รวบรวมพละกำลังของตัวเองเพื่อพยุงคุณชายไป๋ให้เข้าไปในร้านชำด้วยกันโชคดีที่ตอนนี้เขายังไม่หมดสติจึงพอที่จะขยับร่างกายของตนเองได้บ้างแม้ส่วนมากจะเป็นหลิวซินหวาที่ออกแรงลากเขาก็ตาม

 “คุณชายนอนพักอยู่ตรงนี้ก่อนนะเจ้าคะข้าจะเช็ดตัวและเปลี่ยนเสื้อผ้าให้”

“พี่รองข้าจะไปต้มน้ำให้เองเจ้าค่ะ ท่านดูแลคุณชายผู้นี้เถิด” หลิวอ้ายเยี่ยนที่เห็นสีหน้าของพี่สาวไม่สู้ดีนักวิ่งเอาเสื้อผ้าสำหรับผู้ใหญ่มาให้ก่อนจะวิ่งไปเสียบปลั๊กกาต้มน้ำร้อนตามที่พี่สาวเคยสอนรวมถึงเปิดน้ำใส่หม้อเพื่อต้มแล้วใช้เป็นน้ำอุ่นเช็ดตัวเนื่องจากร่างกายคุณชายไป๋สัมผัสหิมะมาเป็นเวลานานต้องรีบทำให้ร่างกายอบอุ่นให้รวดเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้

“ห่าวเอ๋อร์มาช่วยพี่ที” เหมือนว่าหลิวซินหวาจะใช้แรงกำลังของตนเองไปเกือบหมดแล้วนางจึงได้ขอความช่วยเหลือจากน้องชายคนเล็กซึ่งหลิวลู่ห่าวเองก็รู้ความไม่ซักถามทั้งๆ ที่ติดใจสงสัยแต่กลับเข้ามาช่วยพี่สาวเปลื้องชุดที่เปียกจนชุ่มออกจากนั้นก็ช่วยเช็ดร่างกายที่หนาวสั่นด้วยผ้าแห้งอย่างรวดเร็ว

“เสี่ยวอ้ายเอาน้ำร้อนกรอกใส่ประเป่าน้ำร้อนให้พี่หลายๆ ใบเลยดูท่าแค่เช็ดตัวด้วยผ้าแห้งก็คงพอแล้ว” หลังจากที่เช็ดตัวคุณชายไป๋จนแห้งดีร่างกายของเขายังคงมีอาการสั่นแต่น้อยลงแล้วนางจึงตัดสินใจให้ห่าวเอ๋อร์ช่วยสวมเสื้อผ้าชุดใหม่ให้คุณชายไป๋จากนั้นก็ช่วยห่มผ้าให้เขาจากนี้ก็เหลือแค่รอกระเป๋าน้ำร้อนนำมาวางรอบที่นอนกับให้คุณชายไป๋กินยาแก้ไข้สักสองเม็ด

“กลั้นใจกลืนยาเม็ดนี่สักหน่อยนะเจ้าคะมันจะช่วยลดไข้และบรรเทาอาการปวดศีรษะของท่านได้” หลิวซินหวาบอกคุณชายไป๋ที่ยังคงเหลือสติอยู่เล็กน้อยซึ่งเขาก็ทำแค่ลืมตามารับรู้และอ้าปากกลืนยาลงคอไปอย่างว่าง่ายจากนั้นก็หลับสนิทไปในที่สุด

“เฮ้อ นึกว่าจะไม่รอดเสียแล้ว” เท่าที่หลิวซินหวาจำได้นั้นภาพสุดท้ายก่อนที่นางจะพาคุณชายไป๋เข้ามาในมิติร้านชำคือหลังคาของเรือนกำลังจะพังลงมาอีกแถบหนึ่งแล้วก่อนที่กระเบื้องมุงหลังคาจะหล่นลงมาใส่หัวของทั้งคู่หิมะกองโตก็ร่วงลงมาก่อนร่างของคุณชายไป๋ป๋อชุนกับตัวเองจึงได้มีสภาพดูไม่จืดอย่างที่น้องๆ เห็นแล้วตกใจเช่นเมื่อครู่

“ทีนี้ท่านพี่ก็ต้องไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าบ้างนะขอรับ ข้าจะดูแลคุณชายไป๋ให้เองแล้วจะให้พี่สามต้มบะหมี่อุ่นๆ ไว้รอท่านด้วย วันนี้นางทำบะหมี่หมูตุ๋นให้ข้ากินมันอร่อยมากๆ เลย” น้องเล็กที่มีอายุเพียงสิบสามขวบปีบอกพี่สาวอย่างรู้ความทำให้คนเป็นพี่อดที่จะลูบศีรษะเล็กๆ นั้นด้วยความเอ็นดูไม่ได้

“พี่รองจะรีบไปอาบน้ำแล้วมากินบะหมี่ของเสี่ยวอ้ายส่วนห่าวเอ๋อร์ก็ฝากคุณชายไป๋ด้วยนะ”

ในมิติร้านชำนี้มีทั้งระบบไฟฟ้าและระบบน้ำก็ยังใช้ได้เช่นปกติที่สำคัญคือบริเวณหลังร้านยังมีห้องน้ำ ห้องนอนและห้องเก็บสต๊อกสินค้าเหมือนกับในครั้งที่นางใช้ชีวิตเป็นหว่าหวาไม่มีผิดการได้กลับมาอยู่ที่นี่หลิวซินหวาจึงค่อนข้างที่จะสบายใจคล้ายกับได้กลับมาที่บ้านของตนเอง

อันที่จริงจะเรียกสถานที่แห่งนี้ว่าร้านชำก็ไม่ถูกนักเพราะก่อนที่จะตายนางได้พัฒนาจากร้านชำเล็กๆ ประจำหมู่บ้านเป็นร้านกึ่งสะดวกซื้อที่ขายสินค้าครบวงจรทั้งของกิน ของใช้ แถมยังมีบริการโอนเงินจ่ายค่าสินค้าและบริการเทียบเท่ากับร้านสะดวกซื้อใหญ่ในเมืองอีกด้วย

หลังจากใช้เวลาอาบน้ำสระผมไปราวๆ สิบห้านาทีหลิวซินหวาก็เข้ามาในห้องนอนที่คล้ายจะมีขนาดใหญ่ขึ้นตามจำนวนคนที่อาศัยอยู่ในมิติแห่งนี้และเมื่อแวะไปดูคุณชายไป๋แล้วเห็นว่าเขายังคงนอนหลับอยู่เธอจึงเลี่ยงออกมากินบะหมี่หมูตุ๋นที่น้องสาวทำเตรียมเอาไว้ให้ก่อน

“ข้างนอกมีพายุหิมะน่ะพี่ก็ไม่ได้ตั้งใจจะพาเขาเข้ามาแต่เพราะหลังคาเรือนมันพังลงมาดูท่าแล้วคงจะรับน้ำหนักของหิมะที่ทับถมทั้งวันทั้งคืนเอาไว้ไม่ไหว เรือนหลังนั้นดูท่าจะถูกทิ้งร้างมาแล้วหลายสิบปีถ้าจะออกไปอาศัยอยู่ก็น่าจะต้องซ่อมแซมกันยกใหญ่แต่เรื่องนั้นช่างมันเถอะเรามาคุยเรื่องของคุณชายไป๋ก่อนดีกว่าหากเขาตื่นมาแล้วจะอธิบายเรื่องมิติร้านชำนี้อย่างไรดี” ระหว่างที่นั่งกินบะหมี่หมูตุ๋นฝีมือน้องสาวหลิวซินหวาก็ไม่ลืมที่จะเล่าเหตุการณ์ด้านนอกให้น้องๆ ฟังไปด้วยพร้อมทั้งปรึกษาเรื่องหาวิธีการอธิบายให้คุณชายไป๋ป๋อชุนได้ฟังโดยที่ไม่ทำให้เขาตกใจมากเกินไปนัก

“พี่รองก็เล่าให้คุณชายไป๋ฟังอย่างที่เล่าให้พวกข้าฟังก็ได้นะเจ้าคะ พูดง่ายๆ ก็เข้าใจได้ดีแล้ว” น้องสาวเสนอความคิดเห็นเพราะตอนที่นางอธิบายให้น้องๆ ฟังก็ไม่ได้ใช้คำพูดที่ยุ่งยากซับซ้อนแค่เพียงสาธิตให้เห็นว่านางทำอะไรได้บ้างจากนั้นก็พาน้องๆ เข้ามาที่มิติร้านชำเลย

“นั่นเป็นเพราะว่าพวกเจ้าทั้งสองคนคุ้นเคยกับพี่มาทั้งชีวิตแต่กับคุณชายไป๋นั้นเขายังไม่ไว้ใจพี่เต็มสิบส่วนเลยกระมังทุกวันนี้เราต่างยังเป็นคนแปลกหน้าที่มาอาศัยพึ่งพากันเท่านั้นเอง” จริงอยู่ที่หลิวซินหวากับคุณชายไป๋ป๋อชุนอยู่ร่วมชายคากันมาเป็นเวลาเกือบจะสามเดือนแล้วแต่กระนั้นก็ยังมิสามารถจะเรียกได้ว่าสนิทชิดเชื้อกันตัวชายหนุ่มยังคงไว้ตัวอยู่มากและเป็นฝั่งของหญิงสาวเองที่แสดงออกอย่างชัดเจนว่าตนเองนั้นเป็นคนที่ไม่มีนอกไม่มีในอะไรกับใครเขา

หลิวซินหวาใช้ชีวิตเหมือนเมื่อตอนที่อยู่บ้านคือดูแลความเรียบร้อยทุกๆ อย่างเท่าที่พอจะทำได้แต่เรื่องที่ตัวนางเองมั่นใจว่าไม่เคยบกพร่องก็คงจะเป็นเรื่องอาหารการกินของคุณชายไป๋ผู้ที่มีร่างกายไม่ค่อยแข็งแรงจึงต้องได้รับการดูแลเอาใจใส่เป็นพิเศษสักหน่อย

“พูดไปตามตรงเถอะขอรับพี่รองแล้วข้ากับพี่สามจะเป็นคนช่วยสนับสนุนหากคุณชายไป๋ผู้นั้นมีเรื่องที่ติดใจสงสัย” เมื่อน้องๆ ว่ามาเช่นนั้นหลิวซินหวาก็ตามใจเอาไว้เขามีปัญหานางค่อยจับโยนออกไปนอกมิติร้านชำก็แล้วกัน

แต่ถึงจะเตรียมการและเตรียมคำอธิบายเอาไว้บ้างแต่เจ้าของมิติร้านชำกลับไม่มีโอกาสที่จะได้อธิบายอะไรเพราะคุณชายไป๋ป๋อชุนจับไข้ตัวร้อนไม่ได้สติอยู่ถึงสามวันสามคืนทั้งตัวหลิวซินหวา หลิวอ้ายเยี่ยนและหลิวลู่ห่าวต่างก็ต้องผลัดเวรกันเช็ดตัวป้อนโจ๊กและป้อนยาคุณชายคอยดูแลอย่างใกล้ชิดเพราะการที่มีไข้สูงนั้นมันเสี่ยงกับการชักได้ทุกเมื่อและถึงตัวหลิวซินหวาจะเคยดูแลผู้ป่วยมาบ้างแต่ก็ใช่ว่าจะสามารถรับมือได้ทุกอย่าง

วันที่สี่คุณชายสามมีอาการดีขึ้นมากรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาเป็นระยะๆ แต่สุดท้ายก็หลับไปเพราะพิษไข้ที่ยังคงหลงเหลืออยู่และที่เขาเริ่มรู้สึกตัวน่าจะเกิดจากร่างกายได้รับการพักผ่อนที่เพียงพอบวกกับได้ยารักษาบรรเทาอาการที่มีประสิทธิภาพซึ่งเรื่องนี้นับว่าดีมากทำให้คนดูแลเริ่มหายใจหายคอทั่วท้องกันบ้างแล้ว

“พี่รองขอรับเราลองนำน้ำในบ่อของมิติให้คุณชายไป๋ดื่มดีหรือไม่มันอาจจะเป็นเหมือนในนิทานที่มิติวิเศษของเทพเซียนจะมีบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่ช่วยรักษาโรคให้ได้ขนาดเราเอามารดน้ำต้นไม้ผักยังเติบโตได้รวดเร็วเลยนะขอรับ” จู่ๆ น้องชายคนเล็กก็พูดเรื่องนี้ออกมาระหว่างที่สามคนพี่น้องต่างก็นั่งทำกิจกรรมของตัวเองอยู่เงียบๆ ใกล้ๆ กับคนป่วยที่นอนหลับพักผ่อนอยู่

“เจ้าคิดว่ามันเป็นบ่อน้ำวิเศษเช่นนั้นเหรอห่าวเอ๋อร์” เรื่องนี้หลิวซินหวาก็เคยคิดๆ อยู่บ้างเพราะในเรื่องเหนือจริงนั้นอะไรก็มีสิทธิ์ที่จะเกิดขึ้นได้ทั้งนั้นและตัวนางก็เคยได้ยินมาจากทั้งนิทานและนิยายประโลมโลกหรือว่านิยายกำลังภายในที่เคยอ่านมาในชีวิตก่อน

“ข้าทดลองกับผักที่กำลังปลูกมาแล้วขอรับหากใช้น้ำในบ่อรดเพียงอย่างเดียวผักกาดจะสามารถเก็บได้ภายในเจ็ดวันแต่ถ้าหากใช้น้ำในบ่อผสมกับน้ำในลำธารหลังร้านชำผสมในอัตราส่วนครึ่งต่อครึ่งผักกาดจะโตพร้อมเก็บภายในสิบห้าวันขอรับ ข้าทดลองมาตลอดระยะเวลาที่มาอยู่ที่นี่เลยค่อนข้างที่จะมั่นใจและมีครั้งหนึ่งที่ข้าเผลอโดนมีดบาดเมื่อนำน้ำในบ่อมาล้างมือบาดแผลก็หายไปแทบจะทันที” อาจเป็นเพราะหลิวซินหวาไม่ได้มีเวลามาใช้ชีวิตอยู่ในมิติร้านชำเช่นน้องๆ นางจึงไม่รู้เลยว่ารอบกายนางนั้นล้วนแต่มีของวิเศษซุกซ่อนอยู่

“เรื่องน้ำบ่อรักษาบาดแผลเล็กๆ หายได้ในเวลาชั่วข้ามคืนเสี่ยวอ้ายยืนยันได้อีกเสียงเจ้าค่ะพี่รอง ข้าเคยบังเอิญแตะโดนหม้อหุงข้าวตอนที่มันร้อนๆ จนได้แผลเมื่อเอาน้ำบ่อล้างมือตามคำแนะนำของน้องเล็กรอยแดงและแผลพุพองก็ค่อยๆ จางหายไปเจ้าค่ะ” หลิวอ้ายเยี่ยนก็เป็นอีกคนที่ทดลองมากับตัวดังนั้นนางจึงค่อนข้างมั่นใจว่าน้ำบ่อนั้นจะช่วยรักษาอาการป่วยของคุณชายไป๋ได้อย่างแน่นอน

“ถ้าเช่นนั้นมื้อกลางวันเราจะเปลี่ยนน้ำดื่มของคุณชายไป๋เป็นน้ำในบ่อและน้ำที่ใช้เช็ดตัวก็ด้วยเหมือนกัน เสี่ยวอ้าย ห่าวเอ๋อร์เจ้าสองคนช่วยไปตักน้ำมาใส่ถังไว้ให้พี่หน่อยนะเลือกถังใบกลางๆ ก็พอไม่ต้องใหญ่มาก” ในร้านชำมีถังพลาสติกอยู่มากมายหลายขนาดนางเคยสอนน้องแล้วว่าถังสีไหนเหมาะสำหรับใช้ใส่ของกินได้จึงวางใจว่าเรื่องนี้ไม่ต้องถึงมือนางเด็กๆ ก็สามารถทำได้เรียบร้อย

ร่างกายของคุณชายไป๋คล้ายจะตอบสนองต่อน้ำจากบ่อในมิติเพราะแทบจะทันทีที่เขาดื่มมันเข้าไปหลังจากตื่นมาให้หลิวซินหวาป้อนโจ๊กก็เริ่มมีสิ่งผิดปกติให้เห็นคือร่างกายเริ่มจะขับเหงื่อสีดำที่มีกลิ่นเหม็นอย่างรุนแรงออกมาทางรูขุมขนทีละนิดจนนางและน้องๆ ต้องย้ายคุณชายไป๋ให้ไปนอนในห้องน้ำเพราะว่ามันมีอ่างอาบน้ำอยู่และก็ไม่ลืมที่จะเติมน้ำจากบ่อในมิติลงในอ่างให้เต็มเผื่อมันจะช่วยเร่งปฏิกิริยาเพราะอาการเช่นนี้หญิงสาวคิดว่าเกิดจากการที่คุณชายไป๋ป๋อชุนถูกพิษมาอย่างแน่นอนเพราะว่านางเคยอ่านเจอมาในนิยาย