ดราม่า,อาชญากรรม,ลึกลับ,ชาย-หญิง,ชาย-ชาย,ระทึกขวัญ,น่ากลัว,นัวร์,ปริศนา,แอ็กชัน,ขบวนการอาถรรพ์,ผู้ชายท้องได้,พืชสัตว์ประหลาด,พระ-นางหลายคู่,ทาสบำเรอกาม,ทารุณ,ข่มขืน,ปีศาจ,แฟนตาซี,สืบสวนสอบสวน,สยองขวัญ,ดราม่า,ฆาตกรรม,อาชญากรรม,อาชญาอาถรรพ์,plotteller, ploteller, plotteler,พล็อตเทลเลอร์, แอพแพนด้าแดง, แพนด้าแดง, พล็อตเทลเลอร์, รี้ดอะไร้ต์,รีดอะไรท์,รี้ดอะไรท์,รี้ดอะไร, tunwalai , ธัญวลัย, dek-d, เด็กดี, นิยายเด็กดี ,นิยายออนไลน์,อ่านนิยาย,นิยาย,อ่านนิยายออนไลน์,นักเขียน,นักอ่าน,งานเขียน,บทความ,เรื่องสั้น,ฟิค,แต่งฟิค,แต่งนิยาย
ดลวิภาคกับพวกคนอื่นๆกำลังออกมากดตู้น้ำซื้อน้ำอัดลมข้างร้านขายของในโรงพยาบาลนั้น ดลวิภาคซื้อเครื่องดื่มอัดลมสีน้ำตาล(โฆษณามาแล้วหละตอนเนี้ย)ยกกระดกคอดื่มแก้กระหาย เมฆา ปรินซ์ พีชและจีจี้กำลังออกมาจากในร้านซื้อข้าวกล่องซื้อเสบียงรองท้องไว้ให้พวกตน เปียโนเห็นพวกเขากำลังอยู่หน้าร้านเธอจึงวิ่งไปบอกคนเป็นพ่อ
"พ่อดลค่ะ"
ผู้กำกับดลวิภาคหันไปหาคนเป็นลูกสาว
"อ้าว มีอะไรละลูก"
เปียโนจึงตอบว่า
"ท่านผอ.กาญจ์เรียกพ่อไปพบกับท่านพร้อมจีจี้ค่ะ"
" เอ..... ท่านผอ.กาญจ์มีอะไรรึเปล่าหละลูกเปีย"
ผกก.ดลวิภาคถามด้วยความสงสัย แต่เปียโนได้แต่ตอบว่า
"ไม่รู้หรอกค่ะพ่อ เห็นท่านผอ.กาญจ์บอกว่าให้พ่อไปหาท่านผอ.เขา"
ท่านผกก.พยักหน้าแล้วทำความรู้สึกเห็นดีเห็นงามไปกับความคิดของผอ.กาญจ์จึงพูดกับลูกว่า
" อืม ดีเหมือนกัน หากลูกมีอะไรหรือท่านผอ.กาญจ์มีอะไรติดต่อพ่อจะได้ทันท่วงที"
ดังนั้นแล้ว ทั้งสามคนจึงเข้าไปคุยกับกาญจ์ที่ห้องตรวจนั้น กาญจ์นั้นเมื่อเห็นพวกเขาจึงได้พูดขึ้นว่า
"ขอเรียนถึงท่านผู้กำกับโดยตรง ผมมีสิ่งหนึ่งที่อยากให้ท่านช่วยรับรองหน่อย"
ท่านผกก.ดลวิภาคได้พยักหน้า ดูเหมือนว่าคุณกาญจ์ต้องการให้อะไรบางอย่าง เพราะว่าท่านผอ.กาญจ์ได้หยิบถุงห่อประมานคืบหนึ่งชูอยู่ตรงข้างหูท่าน แล้วท่านได้พูดว่า
"ผมมีตัวยาทดลองตัวนี้มาเสนอให้กับคุณหนูสองคน เป็นยาคุมแบบฝังในกายรูปนาโนมีประสิทธิผลที่ได้ทดลองทั้งหนูและคนทดลองแล้วมีผลทดลองอันน่าพึงพอใจ เหลือแค่ทดลองคนภายนอกและจำหน่าย เพราะตอนที่ผมทดลอง ผมทดลองกับนักเรียนหมอ-พยาบาลของผมเท่านั้น ยังไม่ได้ออกทดลองกับบุคคลภายนอกเลย ผมจึงอยากจะขอทดลองกับคุณหนูนาคสุรีย์และคุณหนูจีรวรรณด้วยเงินสินจ้างจากผม ผมจึงอยากจะขอร่วมมือจากผู้ปกครองทั้งสองฝ่าย ถ้ายินยอม ผมจะจ่ายเป็นเงินสดทันที"
ผกก.ดลวิภาคพยักหน้าแล้วขมวดคิ้วด้วยความสงสัยว่าหวยครั้งนี้ทำไมมันถึงตกสู่ลูกสาวและเพื่อนของตน เพราท่านผกก.ได้ยินข่าวมาจากพวกน้องมาบ้างว่าผอ.กาญจ์เนี่ยเขาชอบทดลองกับคนไข้และคนใช้บริการของเขา เพราะผอ.กาญจ์เขามักจะสรรหาทดลองยาต่างๆ ที่ดังๆจากผลการทดลองของผอ.ฮิปปี้นี้ก็คือยาฉีดฆ่าเนื้อร้ายที่พึ่งไปรักษาคนที่เป็นมะเร็งหัวใจไปจากส่วนผสมของสารสกัดจากสมุนไพรไทยที่เป็นข่าวเมื่อหลายเดือนก่อน แต่ถึงแม้ว่าผกก.ดลวิภาคจะมีสีหน้าวิตกเช่นไร แต่สาวน้อยทั้งสองคนกลับสนอกสนใจทำตาโตแล้วพูดกับคนเป็นหมอว่า
"ท่านผอ.ค่ะ ท่านผอ.ทำยาคุมตัวนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ค่ะ"
ผอ.กาญจ์ทำเคลิ้มเลยตอบไปอย่างไมตรีว่า
" อ้อ ยาตัวนี้ผมทดลองทำมาเกือบหกเดือนเห็นจะได้ เห็นพวกสาวๆวัยรุ่นที่มาใช้บริการเห็นเขากลัวยาฝังแบบเก่าที่ต้องใช้ยาจำนวนมากและมีความยาวเกินไป เวลาเห็นแผลสอดยาใส่จึงดูได้ง่ายเพราะมีแผลใหญ่พอควร ฉะนั้นผมจึงทำยาฝังคุมกำเนิดที่มีขนาดเล็กพอที่จะแปะเทปพลาสเตอร์ได้มิด แถมประสิทธิภาพยังดีกว่ายาฝังคุมกำเนิดทั่วไปด้วย....."
" งั้นแสดงว่ามันปลอดภัยใช่มั้ยค่ะท่าน"
เปียโนถามเพื่อความแน่ใจ
"ครับคุณนาคสุรีย์"
เมื่อได้ยินคำตอบเช่นนั้น เปียโนจึงหันไปหาพ่อของเธอแล้วจับแขนดลวิภาคอย่างอ้อนๆ
" พ่อขาาาาาา หนูไม่กลัวหรอกฝังยา หนูอยากทดลองยานี่ อีกอย่างเงินค่าขนมมันไม่พอหรอกน้าาาา นะค่ะพ่อขา....."
เจอฤทธิ์ลูกอ้อนของลูกสาวตัวเองเข้าให้ ดลวิภาคจึงได้แต่ตอบไปด้วยความหนักใจว่า
"ถ้าอย่างงั้น ฉันจะต้องไปโทรหาแม่แกก่อน เพราะขืนไปฝังยาคุมแล้วไม่บอกแม่แกละก้อ มีหวังฉันโดนสาวๆรุมทึ้งฉันแน่ๆ"
ใช่แล้ว ท่านผกก.นะเขาพูดถูกที่สุด เดี๋ยวนี้นะเขาไม่ได้เป็นคู่ผัวตัวเมียกับสมายด์เหมือนอย่างเมื่อก่อนแล้ว ขืนเขาทำอะไรไม่ดีกับลูกเธอแล้วละก็ มีหวังโดนสมายด์ด่าอุบรวมถึงโดนรินนภาเมียคนปัจจุบันถองกระหม่อมเอาด้วย โทษฐานที่ไปทำให้ลูกเพื่อนเขาไปมีแผลโดยไม่บอกแม่เขาสักคำ ด้วยเหตุนี้เองเปียโนจึงต้องหยิบมือถือของตัวกดเบอร์แม่เธอส่งให้พ่อของตัวด้วยสีหน้าหงอยๆ รอเพียงไม่ถึงยี่สิบวินาทีสมายด์ก็ได้เข้ามารับสาย ด้วยความที่ไม่รู้ว่าปลายสายนั้นเป็นผกก.จึงเรียกสายว่า
"ไงเปียโน ตอนนี้แม่กำลังอยู่ร้านอาหารจะทานข้าวเช้า มีอะไรเหรอถึงโทรมาหาแม่"
ดลวิภาคจึงตอบไปด้วยน้ำเสียงอ้อนปนทะเล้นว่า
"อ้อ ก็ไม่มีอะไรมากหรอกค่ะคุณแม่ขา"
เมื่อเยาวมาลย์ได้ยินเสียงปลายสายก็ตกใจหน่อยแล้วจึงทำเสียงติดเศร้าแล้วถามว่า
" อะ เออ ดล นั้นตัวเหรอ"
ดลวิภาคจึงตอบว่า
"ใช่ครับตัวเอง ตัวเองจำเราไม่ได้แล้วเหรอ"
เยาวมาลย์ทำเสียงตะกุกตะกักใส่ดลวิภาคว่า
" จะ จำ เออ...จำได้ เราจำเสียงนายได้ แล้วนายมีเรื่องอะไรถึงโทรมาถามเรากับเครื่องของเปียหละ"
ดลวิภาคจึงขอไปตามจริงว่า
"ไม่มีอะไรมากนักหรอก เราอยากจะขอให้เปียฝังยาคุมกำเนิดของคุณกาญจ์ บ้านกลเขา เขาอยากจะทดลองยาคุมกำเนิดตัวใหม่กับลูกเรา เธอจะว่าอะไรมั้ย"
เยาวมาลย์ที่ได้ฟังก็สงสัยในตัวดลวิภาคเป็นอย่างมากว่าเหตุใดทำไมถึงต้องให้ลูกเธอไปเป็นหนูทดลองให้กาญจ์ด้วย เธอจึงถามด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า
"แล้วคุณไปตกลองอะไรไว้กับคุณกาญจ์หละดล ถ้าฉีดแล้วมันมีผลข้างเคียงคุณจะต้องรับผิดชอบนะ"
" ครับ สัญญาด้วยเกียรตินักเรียนนายร้อย!!"
แล้วต้นสายปลายสายก็หัวเราะออกมาด้วยความระลึกถึงอดีตอันหอมหวาน
เมื่อเป็นเช่นนั้นเปียโนและจีจี้ก็ได้เข้าไปในห้องตรวจแล้วเปียโนก็เดินมาที่โต๊ะของกาญจ์ กาญจ์จึงหยิบซองยาสอดในกล่องลิ้นชักใต้โต๊ะมา รูปลักษณ์ของยาสอดนั้นเป็นเม็ดคริสตัลสีน้ำเงินเล็กๆ ขนาดหนาประมาณหนึ่งมิลลิเมตร กาญจ์จึงอธิบายสรรพคุณของยาคุมตัวนี้ว่า
"ยานี้ชื่อว่าบลูอิมพลาโน ยานี้เมื่อฝังยาบนต้นแขนจะมีฤทธิ์คุมกำเนิดสูงสุดถึงสิบปี ยาตัวนี้เมื่อฉีดแล้วจะมีผลข้างเคียงแรกคือจะเป็นไข้หลังสอดยาเวลาสิบสองชั่วโมงให้หลัง ผลข้างเคียงอย่างที่สองนี่จะอาเจียนเป็นบ้างครั้ง สองอาการนี้จะเกิดขึ้นเป็นเวลาสองถึงสามวันนะ"
ด.ญ.นาคสุรีย์ถาม ดร.กาญจ์ว่า
"แล้วพอมีวิธีทุเลาอาการผลข้างเคียงมั้ยค่ะ"
กาญจ์ตอบยิ้มๆ
"ก็นอนพักผ่อนสักสองสามวัน ตอนที่พักผ่อนที่ไหนฮะ"
" ที่ตรังค่ะ "
" ครับที่ตรัง ถ้ามีทะเลก็เดินสูดกลิ่นทะเลบ้างนะครับ แล้วช่วงนี้ก็อย่าทานของรสจัดสักสามวัน ให้กินพวกข้าวต้มผักรสอ่อนๆกับไข่ต้ม พักผ่อนอย่างนี้สักสามวัน อาการก็น่าจะค่อยยังชั่ว และช่วงที่ฝังยาคุมนี้ก็อย่าหักโหมมาก นอนที่พักสักสองสามวันก็ค่อยยังชั่วครับ"
กาญจ์ถามนาคสุรีย์ว่า
"คุณนาคสุรีย์จะฝังยามั้ยครับ"
" ฝังค่ะ เผลอหนูโดนฉุดแล้วท้องจะยุ่งเอา"
ดังนั้น กาญจ์จึงพานาคสุรีย์มาที่เตียงนอน จากนั้นเขาจึงหยิบอุปกรณ์ในตู้มาสองสามอย่าง แล้วนำสำลีจุ่มยาไอโอดีนสีเลือดในถาดเล็กสีเงินวาวแล้วเดินมาเช็ดแขนข้างซ้าย
" เอ่อ... เนื่องจากเป็นการฝังยาแบบเย็บสด ดังนั้นผมจะ...ไม่ฉีดยาชานะครับ เป็นไงบ้างครับ"
เมื่อกาญจ์ถามเช่นนั้น นาคสุรีย์จึงตอบแบบหน้านิ่วคิ้วขมวด
".อะ...อึก...เจ็บค่ะ...เจ็บ..."
กาญจ์ที่ไม่อยากให้บรรยากาศภายในห้องเงียบเหงาไปเขาจึงถามเธอว่า
"คุณนาคสุรีย์อายุเท่าไหร่ครับ"
" สิบห้าปีค่ะ "
" สิบห้าปี...อืม อายุสิบห้าแต่หน้าสวยมากเลยนะครับ ไม่ใช่สาวหมวยแบบจ๋าๆ ดูไปออกทางสาวไทยแนวโก๊ะๆ..."
เปียโนยิ้มอย่างเขินๆ แต่ต้องสะดุ้งเมื่อกาญจ์พูดในประโยคต่อมา อย่าว่าแต่เปียโนเลยที่สะดุ้ง คนในห้องยกเว้นกาญจ์ที่ตกใจกับคำพูดของกาญจ์ โดยเฉพาะพชรวาทีที่ดูจะตื่นตระหนกพอสมควร
"คุณนาคสุรีย์เคยช่วยตัวเองมั้ยครับ"
" อุ๊ย!! "
นาคสุรีย์สะดุ้ง กาญจ์ที่เห็นว่านาคสุรีย์สะดุ้งเหมือนเส้นกล้ามเนื้อกระตุกจึงถามเธอว่า
"เจ็บรึเปล่าครับ"
" ไม่ค่ะ หนูไม่เคยช่วยตัวเองค่ะ"
กาญจ์จึงพูดอย่างหน้าตาเฉยว่า
"อย่าไปกังวลเลยครับ เรื่องช่วยตัวเองเป็นเรื่องธรรมชาติ เคยมีคนมาปรึกษาเรื่องการช่วยตัวเองว่าดีรึเปล่า ผมก็เลยตอบเขาไปว่า การช่วยตัวเองเป็นเป็นการปลดปล่อยอย่างหนึ่ง ถ้าเราทำมันเพราะเครียดมากก็ทำอย่าให้ใครเห็น..."
"หมอครับ"
ดลวิภาคขัดคอขึ้น
"อย่าชวนเด็กไปทำเรื่องพรรณนั้นเลยครับ ให้เด็กมันอายุมากขึ้นอีกนิดหนึ่งก่อน..."
" แหม่...ท่านผู้กำกับก็ เอาหละ..."
กาญจ์ที่ใช้มีดกรีดกล้ามเนื้อฝังยาก็ได้ทำการเย็บแผลโดยนับเลขเพื่อสิ้นสุดการฝังยาคุมแล้วหยิบพลาสเตอร์ปิดแผลปิดที่กาญจ์ผ่าฝังยาไว้
" หนึ่ง! สอง! สาม!!! เรียบร้อย นี่ครับเสร็จแล้ว เป็นไงบ้างครับคุณนาคสุรีย์ ยังเจ็บๆตรงแผลอยู่รึเปล่าครับ"
" ค่ะ...ยังหน่วงๆแต่ไม่ค่อยเจ็บมากค่ะ"
เมื่อได้ฟังคำตอบ กาญจ์จึงหยิบเงินใต้โต๊ะมาหมอบให้เธอเป็นธนบัตรหนึ่งพันบาทสามสิบฉบับ เขามอบเงินสามหมื่นบาทให้เธอแล้วกล่าวว่า
"นี่คือเงินค่าที่ผมจ้างคุณเป็นหนูทดลองให้ผม สามหมื่นบาทเป็นค่าทำขวัญเล็กน้อยสำหรับคุณครับ"
นาคสุรีย์ทำตาโตกับเงินจำนวนมากเช่นนั้น
" สะ สะ สาม...สามหมื่น นี่เงินจริงรึว่าเงินเก๊ค่ะ"
กาญจ์ที่ได้ยินจึงได้กล่าวอย่างไม่สบอารมณ์ว่า
"คุณพูดอย่างนี้ก็เท่ากับหักหน้าผมนะคุณนาคสุรีย์ ผมนายกาญจ์ บ้านกล นักธุรกิจหมื่นล้านให้เงินเก๊กับบุตรผู้กำกับตำรวจเหรอ! อย่าพูดกับผมอย่างงั้นเลย เงินหมื่นล้านเป็นเงินบริสุทธิ์ที่ผมหามาได้ด้วยมือสองสมองมีของผม คุณเอาไปเถอะ"
เปียโนที่ไม่อย่าจะกล่าวให้อีกฝ่ายเสียอารมณ์ก็ได้ปิดปากเงียบลง กาญจ์ที่มองคนในห้องตรวจเห็นจีรวรรณยืนอยู่ก็เลยถามว่า
"คุณจีรวรรณใช่มั้ยครับ"
จีรวรรณที่พูดไม่ได้จึงได้แต่ยิ้มแล้วส่ายหน้าไปอย่างปฏิเสธแบบสุภาพ นาคสุรีย์จึงพูดกับเธอว่า
"จีจี้มาฝังยาคุมก็ได้นะ มากับเราทั้งทีก็มีเงินไปเที่ยวเยอะๆหน่อยสิ แม่จีเขาไม่ให้เงินเลยไม่ใช่เหรอ..."
จีรวรรณจะตอบปฏิเสธอีกก็ถูกกาญจ์ให้ข้อเสนอว่า
"ถ้าคุณจีรวรรณฝังยาคุมกับเรา ผมจะให้เงินอีกสามหมื่นบาทครับ"
ดลวิภาคที่เห็นว่าสาวน้อยสองคนได้ลาภก้อนใหญ่จึงได้ก้มตัวลงแล้วบอกกับนาคสุรีย์ว่า
"หนูสองคนรวยกว่าพ่อเสียอีก"
ทั้งหมดหนุ่มสาวจึงได้หัวเราะกัน แม้แต่ตัวของกาญจ์ก็ยังยิ้มไปกับเขาด้วย
¤□¤□¤□¤□¤
___/\___/\___/\___/\___
¤□¤□¤□¤□¤
ปลนย. คงจะมีเพื่อนๆที่อ่านตอนนี้แล้วสงสัยว่าทำไมถึงไม่เรียกกาญจ์บ้านกลว่าหมอ นั้นเป็นเพราะว่าเขาเป็นนักวิทยาศาสตร์ ไม่ใช่แพทย์โดยตรง ที่เขามาตรวจคนไข้เพราะเขาต้องการตรวจและสำรวจถึงปัญหาของลูกค้าที่มารักษาพยาบาลกับเขาแล้วจะนำมาเข้าที่ประชุมเพื่อวิจัยต่อไป